เมื่อ ป้อนข้อมูล ข้อมูลจะแสดง ผล ที่ ใด

เมื่อต้องการเปลี่ยนการจัดแนวใหม่ภายหลัง ให้เลือกเซลล์หรือช่วงของเซลล์ที่คุณต้องการเปลี่ยนแปลง แล้วคลิก ล้าง > ล้างรูปแบบ

หมายเหตุ: ใน Excel สำหรับเว็บ คุณไม่สามารถหมุนมุมของข้อความในเซลล์ได้

มีวิธีเพิ่มเติมในการปรับปรุงวิธีการแสดงข้อความเช่นการใช้ฟอนต์ที่แตกต่างกันหรือการเพิ่มสีพื้นหลังลงในเซลล์

การป้อนข้อมูลของโปรแกรม excel จะป้อนข้อมูลลงในเวิร์คชีทที่เราต้องการทำงาน ซึ่งการป้อนข้อมูลเราสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยนำเมาส์ไปคลิกในเซลล์ที่เราต้องการจะป้อนข้อมูล จากนั้นเราก็พิมพ์ข้อมูลมูลที่เราต้องการป้อนลงไป เมื่อเราป้อนข้อมูลในเซลล์นั้นเสร็จแล้วเราก็กดปุ่ม Enter หรือกดปุ่มลูกศร 4 ทิศ เมื่อเราต้องการจะป้อนข้อมูลลงในเซลล์อื่น ๆ

ข้อมูลที่เราป้อนลงในเซลล์

  • เมื่อพิมพ์ข้อมูลประเภทข้อความลงใน Excel โดยปกติแล้วข้อมูลประเภทนี้จะชิดขอบซ้ายของเซลล์เสมอ
  • เมื่อเราป้อนข้อมูลประเภทตัวเลข ข้อมูลจะชิดขอบขวาอของเซลล์โดยอัติโนมัติ
  • คอลัมน์ในโปรแกรม Excel มีความกว้าง 72 พิกเซล ซึ่งบางครั้งจำนวนข้อความที่เราป้อนเข้าไปในเซลล์อาจจะยาวกว่าขนาดของคอลัมน์เราก็สามารถขยายคอลัมน์ให้มีขนาดพอดีกับข้อความของเราได้
  • ข้อมูลประเภทวันที่ซึ่งโปรแกรมจะตั้งค่าการป้อนวันที่ให้อยู่ในรูปแบบ วัน/เดือน/ปี เป็นปี ค.ศ  เช่น 12/06/2019 คือ วันที่ 12 มิถุนายน 2019 หรือถ้าเราป้อนเป็น 12-6-2019 เมื่อเรากด Enter ข้อมูลจะเปลี่ยนเป็น 12/06/2019 โดยอัตโนมัติ ซึ่งข้อมูลประเภทวันที่นี้เราสามารถเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบอื่น ๆ ได้เช่นกัน
  • ข้อมูลประเภทเวลา โดยจะมีเครื่องหมาย : คั่นระหว่า ชั่วโมง : นาที : วินาที เช่น 16:52:12
  • ถ้าเราต้องการให้แสดงวันที่และเวลาปัจจุบันจากเครื่องเราสามารถใช้ฟังก์ชัน Now ได้ โดยการพิมพ์สูตรลงในเซลล์ที่เราต้องการป้อนข้อมูล เช่น =Now() เพียงเท่านี้เซลล์นั้นก็จะแสดงวันที่และเวลาที่เป็นปัจจุบัน

ชนิดของข้อมูลที่ใช้ใน Excel

เมื่อเราต้องการขยายเซลล์เราสามารถทำได้ดังนี้

นำเมาส์ไปว่างที่เส้นแบ่งคอลัมน์ด้านบน แล้วลากเมาส์ขยายคอลัมน์ให้มีขนาดพอดีกับความต้องการของเราได้เลย

วิธีแปลงไฟล์ Word / Excel เป็น PDF

วิธีแก้ไฟล์ CSV อ่านไม่ออกใน Excel เป็นภาษาต่างด้าว

วิธีแก้ไข Excel not enough available memory or disk space.

วิธีพิมพ์หัวตารางให้ติดทุกหน้า Excel

 ชนิดของข้อมูล

1.  ข้อมูลประเภทข้อความ (Text) หมายถึง ข้อมูลที่ไม่นำมาคำนวณ อาจเป็นตัวอักษร  ตัวเลข เครื่องหมาย การใส่ข้อมูลที่มีความยากมากกว่าความกว้างของเซลล์ข้อความนั้นจะถูกแสดงต่อไปในเซลล์ที่อยู่ทางขวามือ ตราบใดที่เซลล์ทางขวามือนั้นยังไม่มีข้อมูล ข้อมูลชนิดนี้จะถูกจัดให้ยอู่ชิดซ้ายของเซลล์เสมอ
2.  ข้อมูลประเภทตัวเลข (Numeric) ข้อมูลที่นำมาคำนวณได้ ข้อมูลจะอยู่ชิดขวา  และไม่สามารถแสดงผลเกินความกว้างของเซลล์ได้ ถ้าความกว้างของเซลล์ไม่พอจะปรากฎเครื่องหมาย ####### การแก้ไขโดยขยายความกว้างของเซลล์ออกไป
3.  ข้อมูลประเภทวันที่ (Date) หมายถึงข้อมูลที่ประกอบด้วยวันที่ และเดือน เดือนและปี หรือวันที่ เดือนและปี โดยเดือนสามมารถกำหนดได้ทั้งแบบตัวเลข หรือตัวอักษร ข้อมูลชนิดนี้นำไปคำนวรได้
 3.  ข้อมูลประเภทเวลา (Time) หมายถึงข้อมูลที่ประกอบด้วยชั่วโมงและนาที โดยมีเครื่องหมาย : ข้อมูลชนิดนี้สามารถนำไปคำนวณได้
4.  ข้อมูลประเภทสูตร (Formular) ข้อมูลประเภทนี้คือสมการคณิตศาสตร์ จะต้องใช้เครื่องหมายเท่ากับนำหน้า

ข้อมูลในข้อใดจะถูกจัดอยู่ชิดทางซ้ายของเซลล์

1. ข้อมูลประเภทข้อความ (Text) หมายถึง ข้อมูลที่ไม่นำมาคำนวณ อาจเป็นตัวอักษร ตัวเลข เครื่องหมาย การใส่ข้อมูลที่มีความยาวมากกว่าความกว้างของเซลล์ข้อความนั้นจะถูกแสดงต่อไปในเซลล์ที่อยู่ทางขวามือ ตราบใดที่เซลล์ทางขวามือนั้นยังไม่มีข้อมูล ข้อมูลชนิดนี้จะถูกจัดให้อยู่ชิดซ้ายของเซลล์เสมอ

การป้อนข้อมูลประเภทใดจะอยู่ชิดทางด้านขวาของเซลล์

ข้อมูลในเซลล์มีทั้งตัวเลขและตัวอักษร ตัวเลขสามารถน าไปค านวณค่าต่างๆ ได้โดยการ ระบุต าแหน่งของตัวเลข โดยปกติตัวเลขจะจัดชิดขวาของเซลล์ ส าหรับข้อความหรือตัวอักษร จะจัด ชิดซ้าย ในกรณีที่มีทั้งข้อความและตัวเลขภายในเซลล์เดียวกัน โปรแกรม Microsoft Excel ถือว่าเป็น ข้อความ ไม่สามารถนาไปคานวณได้การป้อนข้อมูลลงบนเซลล์มีขั้นตอน ...

ข้อมูลประเภทตัวเลขปกติจะอยู่ในส่วนใดของเซลล์ที่ป้อน

ข้อมูลในเซลล์ มีทั้งตัวเลขและตัวอักษร ตัวเลขสามารถน าไปค านวณค่าต่าง ๆ ได้โดยการระบุต าแหน่ง ของตัวเลข โดยปกติตัวเลขจะจัดชิดขวาของเซลล์ ส าหรับข้อความหรือตัวอักษร จะจัดชิดซ้าย ในกรณีที่มีทั้ง ข้อความและตัวเลขภายในเซลล์เดียวกัน Excel จะถือว่าเป็นข้อความ ไม่สามารถนาไปคานวณได้ การป้อนข้อมูลลงในเซลล์ทาได้ดังนี้

หมายเหตุ: นี่คือหัวข้อขั้นสูงเกี่ยวกับการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล สำหรับบทนำสู่การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และวิธีตรวจสอบความถูกต้องของเซลล์หรือช่วง ให้ดู เพิ่มการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลลงในเซลล์หรือช่วง

คุณสามารถใช้การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเพื่อจำกัดชนิดข้อมูลหรือค่าที่ผู้ใช้ใส่ลงในเซลล์ได้ ตัวอย่างเช่น คุณอาจใช้การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเพื่อคำนวณค่าสูงสุดที่อนุญาตในเซลล์ตามค่าจากที่อื่นในเวิร์กบุ๊ก ในตัวอย่างต่อไปนี้ ผู้ใช้พิมพ์ abc ซึ่งไม่ใช่ค่าที่ยอมรับได้ในเซลล์นั้น

เมื่อ ป้อนข้อมูล ข้อมูลจะแสดง ผล ที่ ใด

เมื่อ ป้อนข้อมูล ข้อมูลจะแสดง ผล ที่ ใด

การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลจะมีประโยชน์เมื่อใด

การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลมีค่ามากเมื่อคุณต้องการแชร์เวิร์กบุ๊กกับผู้อื่น และคุณต้องการให้ข้อมูลที่ใส่มีความแม่นยำและสอดคล้องกัน นอกเหนือจากสิ่งอื่นๆ แล้ว คุณยังสามารถใช้การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลสำหรับสิ่งต่อไปนี้ได้:

  • จำกัดการใส่ข้อมูลเป็นรายการที่กำหนดไว้ล่วงหน้าในรายการ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถจำกัดการเลือกแผนกของผู้ใช้เป็น บัญชี บัญชีเงินเดือน ทรัพยากรบุคคล เป็นต้น

  • จำกัดจำนวนที่นอกเหนือจากช่วงที่ระบุ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถระบุการป้อนค่าเปอร์เซ็นต์สูงสุดสำหรับการขึ้นเงินเดือนตามประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน อาจจะ 3% หรือเฉพาะจำนวนระหว่าง 1 ถึง 100

  • จำกัดวันที่ที่นอกเหนือจากกรอบเวลาที่กำหนด ตัวอย่างเช่น ในคำขอลางานของพนักงาน คุณสามารถป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเลือกวันที่ก่อนวันนี้ได้

  • จำกัดเวลาที่นอกเหนือจากกรอบเวลาที่กำหนด ตัวอย่างเช่น คุณสามารถระบุการจัดกำหนดการประชุมระหว่าง 8:00 น. และ 17:00 น. ได้

  • จำกัดจำนวนของอักขระข้อความ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถจำกัดข้อความที่อนุญาตในเซลล์เป็น 10 อักขระหรือน้อยกว่าได้

  • ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดยอ้างอิงจากสูตรหรือค่าในเซลล์อื่น ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเพื่อตั้งค่าขีดจำกัดสูงสุดสำหรับค่าคอมมิชชั่นและโบนัสตามค่าค่าจ้างที่คาดการณ์โดยรวม ถ้าผู้ใช้ใส่ค่ามากเกินกว่าจำนวนที่กำหนดจะเห็นข้อความแสดงข้อผิดพลาด

ข้อความป้อนค่าการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและข้อความแสดงข้อผิดพลาด

คุณสามารถเลือกแสดงข้อความแนะนำการป้อนข้อมูลเมื่อผู้ใช้เลือกเซลล์ได้ โดยทั่วไปข้อความแนะนำการป้อนข้อมูลจะใช้เพื่อเสนอคำแนะนำให้ผู้ใช้เกี่ยวกับชนิดของข้อมูลที่คุณต้องการให้ใส่ลงในเซลล์ ข้อความชนิดนี้จะปรากฏใกล้กับเซลล์ คุณสามารถย้ายข้อความนี้หากคุณต้องการ และข้อความจะยังคงมองเห็นได้จนกว่าคุณจะย้ายไปยังเซลล์อื่นหรือกด Esc

เมื่อ ป้อนข้อมูล ข้อมูลจะแสดง ผล ที่ ใด

คุณตั้งค่าข้อความป้อนค่าในแท็บการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่สอง

เมื่อ ป้อนข้อมูล ข้อมูลจะแสดง ผล ที่ ใด

เมื่อผู้ใช้คุ้นเคยกับข้อความป้อนค่าแล้ว คุณสามารถยกเลิกการกาตัวเลือก แสดงข้อความป้อนค่าเมื่อเซลล์ถูกเลือก

คุณยังสามารถแสดง การแจ้งเตือนข้อผิดพลาด ที่ปรากฏหลังจากผู้ใช้ใส่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องได้เช่นกัน

เมื่อ ป้อนข้อมูล ข้อมูลจะแสดง ผล ที่ ใด

คุณสามารถเลือกจากการแจ้งเตือนข้อผิดพลาดสามชนิดต่อไปนี้:

ไอคอน

ชนิด

ใช้เพื่อ

เมื่อ ป้อนข้อมูล ข้อมูลจะแสดง ผล ที่ ใด

หยุด

ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ใส่ข้อมูลไม่ถูกต้องในเซลล์

ข้อความแจ้งเตือน หยุด มีสองตัวเลือก: ลองใหม่ หรือ ยกเลิก

เมื่อ ป้อนข้อมูล ข้อมูลจะแสดง ผล ที่ ใด

คำเตือน

แจ้งเตือนผู้ใช้ว่าข้อมูลที่พวกเขาใส่ไม่ถูกต้อง โดยไม่ขัดขวางไม่ให้พวกเขาใส่ข้อมูลนั้น

เมื่อข้อความแจ้งเตือน คำเตือน ปรากฏขึ้น ผู้ใช้สามารถคลิก ใช่ เพื่อยอมรับการใส่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ไม่ เพื่อแก้ไขการใส่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือ ยกเลิก เพื่อเอาการใส่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องออก

เมื่อ ป้อนข้อมูล ข้อมูลจะแสดง ผล ที่ ใด

ข้อมูล

แจ้งผู้ใช้ว่าข้อมูลที่พวกเขาใส่ไม่ถูกต้อง โดยไม่ขัดขวางไม่ให้พวกเขาใส่ข้อมูลนั้น การแจ้งเตือนข้อผิดพลาดชนิดนี้มีความยืดหยุ่นสูง

เมื่อข้อความแจ้งเตือน ข้อมูล ปรากฏขึ้น ผู้ใช้สามารถคลิก ตกลง เพื่อยอมรับค่าที่ไม่ถูกต้อง หรือ ยกเลิก เพื่อปฏิเสธ

เคล็ดลับสำหรับการทำงานกับการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล

ใช้เคล็ดลับและลูกเล่นเหล่านี้สำหรับการทำงานกับการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลใน Excel

หมายเหตุ: ถ้าคุณต้องการใช้การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลกับเวิร์กบุ๊กใน Excel Services หรือ Excel Web App คุณจะต้องสร้างการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลใน Excel เวอร์ชันเดสก์ท็อปก่อน

  • ความกว้างของรายการดรอปดาวน์ถูกกำหนดโดยความกว้างของเซลล์ที่มีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล คุณอาจต้องปรับความกว้างของเซลล์เพื่อป้องกันไม่ให้ตัดทอนความกว้างของรายการที่ถูกต้องซึ่งมีความกว้างมากกว่าความกว้างของรายการดรอปดาวน์

  • ถ้าคุณวางแผนที่จะป้องกันเวิร์กชีตหรือเวิร์กบุ๊ก ให้ทำการป้องกันหลังจากที่คุณเสร็จสิ้นการระบุการตั้งค่าการตรวจสอบความถูกต้องแล้ว ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ปลดล็อกเซลล์ที่ตรวจสอบแล้วก่อนที่คุณจะป้องกันเวิร์กชีต มิฉะนั้นผู้ใช้จะไม่สามารถพิมพ์ข้อมูลใดๆ ในเซลล์นั้นได้ ดู ป้องกันเวิร์กชีต

  • ถ้าคุณวางแผนที่จะแชร์เวิร์กบุ๊ก ให้แชร์หลังจากคุณระบุการตั้งค่าการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและการป้องกันแล้วเท่านั้น หลังจากคุณแชร์เวิร์กบุ๊ก คุณจะไม่สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าการตรวจสอบความถูกต้องได้ ยกเว้นคุณจะหยุดการแชร์

  • คุณสามารถนำการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลไปใช้ได้กับเซลล์ที่มีการใส่ข้อมูลแล้ว อย่างไรก็ตาม Excel จะไม่แจ้งเตือนคุณโดยอัตโนมัติว่าเซลล์ที่มีอยู่แล้วมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ในสถานการณ์นี้ คุณสามารถไฮไลต์ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องโดยแนะนำให้ Excel วงกลมข้อมูลดังกล่าวในเวิร์กชีต เมื่อคุณระบุข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแล้ว คุณสามารถซ่อนวงกลมได้อีกครั้ง ถ้าคุณแก้ไขการใส่ข้อมูล วงกลมจะหายไปโดยอัตโนมัติ

    เมื่อ ป้อนข้อมูล ข้อมูลจะแสดง ผล ที่ ใด

    เมื่อต้องการใช้วงกลม ให้เลือกเซลล์ที่คุณต้องการประเมินแล้วไปที่ ข้อมูล > เครื่องมือข้อมูล > การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล > วงกลมรอบข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

    เมื่อ ป้อนข้อมูล ข้อมูลจะแสดง ผล ที่ ใด
  • เมื่อต้องการเอาการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลออกจากเซลล์อย่างรวดเร็ว ให้เลือกเซลล์ จากนั้นไปที่ ข้อมูล > เครื่องมือข้อมูล > การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล > การตั้งค่า > ล้างทั้งหมด

  • เมื่อต้องการหาเซลล์ในเวิร์กชีตที่มีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล บนแท็บ หน้าหลัก ในกลุ่ม การแก้ไข ให้คลิก ค้นหาและเลือก จากนั้นคลิก การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล หลังจากที่คุณพบเซลล์ที่มีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลแล้ว คุณสามารถเปลี่ยน คัดลอก หรือเอาการตั้งค่าการตรวจสอบความถูกต้องออกได้

  • ในขณะที่สร้างการรายการดรอปดาวน์ คุณสามารถใช้คำสั่ง กำหนดชื่อ (แท็บ สูตร กลุ่ม ชื่อที่กำหนด) เพื่อกำหนดชื่อสำหรับช่วงที่มีรายการ หลังจากที่คุณสร้างรายการดังกล่าวบนเวิร์กชีตอื่น คุณสามารถซ่อนเวิร์กชีตที่มีรายการนั้นแล้วป้องกันเวิร์กบุ๊กเพื่อทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงรายการดังกล่าวได้

  • ถ้าคุณเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าการตรวจสอบความถูกต้องของเซลล์ คุณสามารถนำการเปลี่ยนแปลงของคุณไปใช้กับเซลล์อื่นทั้งหมดที่มีการตั้งค่าไว้เหมือนกันได้ เมื่อต้องการทำเช่นนี้ บนแท็บ การตั้งค่า ให้เลือกกล่องกาเครื่องหมาย นำการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไปใช้กับเซลล์อื่นทั้งหมดที่มีการตั้งค่าเหมือนกัน

  • ถ้าการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลไม่ทำงาน ตรวจสอบให้แน่ใจว่า:

    • ผู้ใช้ไมได้คัดลอกหรือเติมข้อมูล - การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลถูกออกแบบมาให้แสดงข้อความและป้องกันการใส่ข้อมุลที่ไม่ถูกต้องเมื่อผู้ใช้ใส่ค่าลงในเซลล์โดยตรงเท่านั้น เมื่อข้อความถูกคัดลอกหรือเติม จะไม่ปรากฏข้อความ เมื่อต้องการป้องกันการคัดลอกหรือเติมข้อความโดยการลากและวางเซลล์ ให้ไปที่ ไฟล์ > ตัวเลือก > ขั้นสูง > ตัวเลือกการแก้ไข > ล้างกล่องการเครื่องหมายเปิดใช้งานจุดจับเติมและการลากและวางเซลล์ จากนั้นให้ป้องกันเวิร์กชีต

    • การคำนวนใหม่ด้วยตัวเองถูกปิด - ถ้าการคำนวนใหม่ด้วยตัวเองถูกเปิด เซลล์ที่ไม่มีการคำนวนสามารถป้องกันข้อมูลจากจากการถูกตรวจสอบความถูกต้องได้อย่างถูกต้อง เมื่อต้องการปิดการคำนวนใหม่ด้วยตัวเอง ให้ไปที่แท็บ สูตร > กลุ่ม การคำนวน > ตัวเลือกการคำนวน > คลิก อัตโนมัติ

    • สูตรไม่มีข้อผิดพลาด - ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสูตรในเซลล์ที่มีการตรวจสอบความถูกต้องไม่ได้ทำให้เกิดข้อผิดพลาด เช่น #REF! หรือ #DIV/0! Excel จะละเว้นการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลจนกว่าคุณจะแก้ไขให้ถูกต้อง

    • เซลล์ที่อ้างอิงในสูตรถูกต้อง - ถ้าเซลล์ที่อ้างอิงเปลี่ยนจนทำให้สูตรในเซลล์ที่ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องคำนวณผลลัพธ์ผิด ข้อความการตรวจสอบความถูกต้องสำหรับเซลล์นั้นจะไม่ปรากฏขึ้นมา

    • ตาราง Excel อาจเชื่อมโยงกับไซต์ SharePoint - คุณไม่สามารถเพิ่มการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลไปยังตาราง Excel ที่เชื่อมโยงกับไซต์ SharePoint ได้ เมื่อต้องการเพิ่มการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล คุณต้องยกเลิกการเชื่อมโยงตาราง Excel หรือแปลงตาราง Excel เป็นช่วง

    • คุณอาจกำลังใส่ข้อมูลอยู่ - คำสั่งการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลจะไม่พร้อมใช้งานในขณะที่คุณกำลังใส่ข้อมูลลงในเซลล์ เมื่อต้องการเสร็จสิ้นการใส่ข้อมูล ให้กด Enter หรือ ESC เพื่อออก

    • เวิร์กชีตอาจถูกป้องกันหรือถูกแชร์ - คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ ถ้าเวิร์กบุ๊กของคุณถูกแชร์หรือถูกป้องกัน คุณจำเป็นต้องยกเลิกการแชร์หรือยกเลิกการป้องกันเวิร์กบุ๊กของคุณก่อน

วิธีอัปเดตหรือเอาการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลออกจากเวิร์กบุ๊กที่สืบทอดมา

ถ้าคุณสืบทอดเวิร์กบุ๊กที่มีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล คุณสามารถปรับเปลี่ยนหรือเอาการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลออกได้ ยกเว้นเวิร์กชีตจะได้รับการป้องกันอยู่ ถ้าเวิร์กชีตได้รับการป้องกันด้วยรหัสผ่านที่คุณไม่รู้จัก คุณควรลองติดต่อเจ้าของเดิมให้ช่วยคุณยกเลิกการป้องกันเวิร์กชีต เนื่องจาก Excel ไม่มีวิธีกู้คืนรหัสผ่านที่ไม่รู้จักหรือสูญหาย คุณยังสามารถคัดลอกข้อมูลไปยังเวิร์กชีตอื่น จากนั้นเอาการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลออก

ถ้าคุณเห็นการแจ้งเตือนการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเมื่อคุณพยายามใส่หรือเปลี่ยนข้อมูลในเซลล์และคุณไม่แน่ใจว่าข้อมูลใดที่คุณสามารถใส่ได้ ให้ติดต่อเจ้าของเวิร์กบุ๊ก

คุณมีคำถามที่เกี่ยวกับฟังก์ชันโดยเฉพาะหรือไม่

โพสต์คำถามในฟอรั่มชุมชน Excel

ช่วยเราปรับปรุง Excel

คุณมีคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีที่เราสามารถปรับปรุง Excel เวอร์ชันถัดไปหรือไม่ ถ้ามี โปรดดูหัวข้อต่างๆ ที่ Excel User Voice