การตลาดออนไลน์ ทําอะไรบ้าง

การตลาดออนไลน์ ใครๆ ก็บอกว่ายุคนี้ถ้าอยากขายดีก็ต้องทำการตลาดออนไลน์ซิ แต่จะมีสักกี่คนจริงๆที่จะเก็ทว่า ไอที่บอกให้ต้องทำการตลาดออนไลน์เนี่ย มันต้องทำอะไรมั่ง เพราะจริงๆแล้วคำว่าการตลาดออนไลน์มันกว้างมากๆ ไม่ว่าจะเป็น โฆษณาบน Facebook, Google, Instagram, Liveสดขายเสื้อผ้าผ่าน หรือ แม้แต่โฆษณาที่มาขัดจังหวะบ่อยตอนที่กำลังดู Youtube อยู่ก็ตาม ซึ่งมันเยอะแยะไปหมด

วันนี้ MakeWebEasy ก็นำเคล็ดไม่ลับมาฝากเจ้าของกิจการทุกท่าน กับ 4 เทคนิคการทำการตลาดออนไลน์ในยุคปัจจุบัน เพื่อเป็นแนวทางในการทำการตลาดออนไลน์ ทำให้แบรนด์เป็นเป็นที่รู้จักมากขึ้น และมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไปดูกันเลยจ้า

1. Influencer Marketing

การตลาดออนไลน์ ทําอะไรบ้าง
การตลาดออนไลน์ ทําอะไรบ้าง

Influencer คือ ผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ ที่มีผู้ติดตามตั้งแต่หลักหมื่น ไปจนถึงหลังล้านเลยก็ว่าได้

ซึ่งการนำสินค้าไปให้ Influencer ช่วยในการทำการตลาดนั้น ก็ถือว่า Effective สุดๆในยุคนี้เลย แต่การที่แบรนด์จะเลือกใช้ Influencer คนไหนนั้น ก็ต้องคำนึงถึงสินค้าด้วยว่า มันตรง Target ของ Influencer นั้นหรือไม่

ยกตัวอย่างเช่น มีร้านกาแฟเปิดใหม่ ตกแต่งร้านได้สวยงาม ดูมีกิมมิค น่าถ่ายรูป แต่ดันอยู่ในทำเลที่คนเข้าถึงยาก จึงเลือกใช้ Influencer สายตระเวนชิม หรือสายท่องเที่ยว มาช่วยแนะนำร้านเพื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า Influencer หรือ Blogger นั้น ย่อมมีอิทธิพลต่อผู้ที่ติดตาม และทำให้ผู้ติดตามเกิดความสนใจแบรนด์ ไปจนถึงการซื้อสิ้นค้าได้ไม่ยากเลย

2. Review

การตลาดออนไลน์ ทําอะไรบ้าง
การตลาดออนไลน์ ทําอะไรบ้าง

นอกจาก Influencer Marketing ที่จะทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้นแล้ว การตลาดผ่านการรีวิวจากผู้ใช้จริง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะมันจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าได้เป็นอย่างดี

ยกตัวอย่างเช่น มีลูกค้ารู้จักและเกิดความสนใจในสินค้าของคุณผ่านทาง Influencer แล้ว แน่นอนว่าพวกเขาจะต้อง Search หาข้อมูลสินค้าของคุณ ว่าสินค้านี้เป็นอย่างไร ใช้แล้วดีไหม มีคนพูดถึงสินค้าไปในทางที่ดีหรือไม่ ซึ่งจุดนี้แหละเป็นจุดตัดสินใจสำคัญของลูกค้าที่จะตัดสินใจไปต่อหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับสินค้าของคุณสามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้่มากน้อยเพียงใด

3. Promotion

การตลาดออนไลน์ ทําอะไรบ้าง
การตลาดออนไลน์ ทําอะไรบ้าง

แน่นอนว่าถ้าอยากกระตุ้นยอดขาย ก็ต้องมี Promotion ลด แลก แจก แถม กันหน่อย ไม่ว่าจะเป็นการร่วมสนุกกิจกรรมในเพจแล้วได้รางวัล, ซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์แล้วได้คูปองส่วนลด หรือ ส่งสินค้าฟรีตั้งแต่ชิ้นแรก ก็ขึ้นอยู่กับสินค้าว่าจะทำ Promotion แบบไหนได้บ้าง

แต่การทำ Promotion ก็ไม่ควรทำบ่อยจนเกินไป เพราะมันจะทำให้ลูกค้าติด โปรฯ ซึ่งลูกค้าจะรู้สึกไม่อยากซื้อสินค้าตอนที่ไม่มี Promotion แต่จะรอจนกว่าแบรนด์จัด Promotion ถึงจะซื้อ นั่นถือว่าเป็นผลเสียร้ายแรงต่อแบรนด์ในระยะยาวได้เลย

4. Website

การตลาดออนไลน์ ทําอะไรบ้าง
การตลาดออนไลน์ ทําอะไรบ้าง

ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า เว็บไซต์เป็นพื้นฐานในการทำการตลาดออนไลน์ไปเสียแล้ว เพราะยุคนี้ ใครๆก็เข้าไปหาสินค้าหรือบริการผ่าน Google กันทั้งนั้น ซึ่งร้านค้าไหนที่ไม่ได้ทำเว็บไซต์ ก็ไม่สามารถทำโฆษณาผ่าน Google AdWords ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นเท่ากับว่าร้านค้านั้นเสียโอกาสทำเงินไปอย่างมากมายมหาศาล

ที่สำคัญไปกว่านั้น เว็บไซต์ยังเป็นตัวบ่งบอกถึง Brand Identity ให้กับลูกค้า ที่เข้ามายังหน้าเว็บไซต์แล้วเกิดความรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของเขา ซึ่งเว็บไซต์ที่สามารถ Serve ความเป็น Unique ตรงนี้ให้กับลูกค้าได้ ก็มีโอกาสที่จะสามารถปิดการขายผ่านหน้าเว็บไซต์ได้เองโดยที่ไม่ต้องทำอะไรให้เหนื่อยเลย เพราะระบบเว็บไซต์สมัยนี้ก็มีระบบชำระเงินผ่านหน้าเว็บไซต์ ซึ่งอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเป็นอย่างมาก และในส่วนของธุรกิจเอง ก็สามารถบริหารจัดการสินค้าได้อย่างเป็นระบบมากขึ้นอีกด้วย

การแข่งขันอย่างรุนแรงของการตลาดดิจิทัลทำให้เราตระหนักได้ว่า แท้จริงแล้วการแข่งขันไม่ใช่การแข่งกับคู่แข่งทางธุรกิจคนอื่นไกล แต่เป็นการแข่งกับตัวเอง และ ความสนใจของลูกค้ามากกว่า เพราะ บนโลกออนไลน์มีสื่ออยู่เป็นจำนวนมาก และจะมากขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม การทำการตลาดดิจิทัลยังคล้ายการทำตลาดแบบดั้งเดิมอยู่ แต่สิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือ ลักษณะทางกายภาพ ขั้นตอนการทำ และกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้นเราขอนำเสนอ 6 ขั้นตอนการเปลี่ยนจากคนแปลกหน้า เป็นลูกค้าตลอดกาล ที่จะช่วยให้การทำการตลาดดิจิทัลของคุณชัดเจนมากขึ้น และมุมมองการทำการตลาดดิจิทัลของคุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

การตลาดออนไลน์ ทําอะไรบ้าง

 

หัวข้อในบทความ

  1. ขั้นตอนที่ 1 Awareness สร้างการรับรู้
  2. ขั้นตอนที่ 2 Discovery การค้นพบ
  3. ขั้นตอนที่ 3 Consideration การพิจารณา
  4. ขั้นตอนที่ 4 Conversion การเปลี่ยนเป็นลูกค้า
  5. ขั้นตอนที่ 5 Customer Relationship การสานสัมพันธ์กับลูกค้า
  6. ขั้นตอนที่ 6 Retention การรักษาฐานลูกค้าเดิม
  7. Learning More

ขั้นตอนที่ 1 Awareness สร้างการรับรู้

การตลาดออนไลน์ ทําอะไรบ้าง

ข้อดีของการใช้การตลาดออนไลน์คือความสามารถในการ ‘สร้างการรับรู้’ โดยใช้งบประมาณในการเริ่มต้นที่ต่ำ และสามารถวัดผลได้เร็วและสะดวกกว่าสื่อ Traditional media  ส่วนข้อเสียคือ บนโลกออนไลน์มีสื่ออยู่เป็นจำนวนมากกว่า และต่างแข่งขันกันอย่างรุนแรงเพื่อให้เสียงของตนเข้าถึงการรับรู้ของผู้มุ่งหวัง

กรณีที่แบรนด์ของคุณยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง หากเราไม่ทำการตลาดออนไลน์เพื่อสร้างการรับรู้อย่างมีประสิทธภาพและถูกทาง ก็เปรียบเสมือนธุรกิจของคุณไม่มีตัวตนบนโลกออนไลน์เลย ดังนั้น! สิ่งที่จำเป็นต้องทำในขั้นตอนนี้คือ การสื่อสารให้กลุ่มเป้าหมายของคุณเข้าใจว่าทำไมพวกเขาเหล่านั้น จึงเหมาะสมกับสินค้าหรือบริการของแบรนด์

คุณสามารถสร้างการรับรู้ผ่านการตลาดออนไลน์ได้ 2 รูปแบบดังนี้

แบบที่ 1 – การใช้ Inbound Marketing

การใช้การตลาดแบบดึงดูดให้คนเข้ามาหาคุณผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ Inbound Marketing ซึ่งเริ่มถูกพูดถึงในประเทศไทยมากขึ้น

สื่อสารด้วย Content Marketing

  • การทำ Search Engine Optimization (SEO) ให้ถูกหาเจอบน Google
  • การใช้สื่อ Social Media ต่าง ๆ เช่น Facebook, LINE, Youtube หรือ Instagram เป็นต้น
  • การใช้ Email Marketing
  • การตลาดแบบปากต่อปาก
  • การสื่อสารผ่านเว็บบอร์ด

การทำ Inbound Marketing นี้จะเน้นไปที่การใช้ช่องทางที่ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จากบทความ 6 ช่องทางการเพิ่ม Traffic สำหรับ E-commerce แบบฟรี ๆ แต่ได้ผลชะงัด

แบบที่ 2 – การใช้ Outbound Marketing

คือการใช้การตลาดแบบผลัก โดยหลักแล้วจะใช้การโฆษณาผ่าน Social Media ต่าง ๆ ซึ่งข้อดีของการลงโฆษณาบนสื่อออนไลน์ก็คือ สามารถลงโฆษณาโดยใช้งบประมาณเริ่มต้นที่ต่ำได้อย่างแม่นยำและตรงกลุ่มกว่าสื่อแบบ Traditional ประเภท โทรทัศน์, วิทยุ หรือสื่อสิ่งพิมพ์ และนอกจากนั้นยังสามารถวัดผลได้อย่างเร็วและสะดวก

  • Facebook Ads
  • LINE Broadcast
  • Google Text/Image Ads
  • Youtube Video Ads
  • Instagram Ads

 

ขั้นตอนที่ 2 Discovery การค้นพบ

การตลาดออนไลน์ ทําอะไรบ้าง

วัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ และมีโอกาสที่จะกลายมาเป็นลูกค้าในภายหลัง โดยวิธีให้ความรู้ผ่าน Content และก่อเกิดการบอกต่อ โดยในขั้นตอนนี้ผู้คนจะเริ่มได้ข้อมูลผ่านหูผ่านตาเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของแบรนด์เราหรือมีการรับรู้ว่า มีสินค้าหรือบริการที่น่าจะตอบสนองความต้องการของตนเองได้

โดยผู้คนจะเริ่มค้นหาข้อมูลบนโลกออนไลน์เพื่อเรียนรู้ศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งวิธีแรกที่มักนึกถึงคือ การพิมพ์คำค้นหาบน Google แล้วเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และในขั้นตอนนี้นี่เองที่ผู้คนจะเริ่มค้นพบแบรนด์ของเรา ในกรณีที่เว็บไซต์ของเรา ติดอันดับหน้าแรกบนผลการค้นหาของ Google ซึ่งคุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในบทความ SME ต้องรู้! พื้นฐานทำแบรนด์ให้ติด Google

และในขั้นตอนนี้ Content ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ คุณจำเป็นต้องวางกลยุทธ์และทำการตลาดให้กับ Content โดยจุดประสงค์ในขั้นตอนนี้ไม่ใช่เพื่อการขายหรือการนำเสนอสิทธิพิเศษใด ๆ แต่ให้โฟกัสไปที่การให้ข้อมูลที่จำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน

 

ขั้นตอนที่ 3 Consideration การพิจารณา

การตลาดออนไลน์ ทําอะไรบ้าง

วัตถุประสงค์เพื่อให้ได้มาซึ่งลูกค้าที่จ่ายเงินซื้อสินค้าหรือบริการของแบรนด์ ผ่านวิธีการให้ข้อมูลที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหา ตอบสนองความต้องการ หรือการอธิบายว่า สินค้าหรือบริการของเราช่วยให้ชีวิตของพวกเขาเหล่านั้นดีขึ้นได้อย่างไร

ในขั้นตอนนี้ คุณสามารถสื่อสารและนำเสนอแก่ผู้บริโภคได้โดยตรงว่า สินค้าหรือบริการของเรานั้น สามารถช่วยแก้ไขปัญหาของพวกเขาได้อย่างไร และทำไมพวกเขาเหล่านั้นจึงเหมาะสมกับสินค้าหรือบริการของแบรนด์เรา ข้อควรระวังคือ ในขั้นตอนนี้ผู้คนยังไม่ปักใจเชื่อคุณซะทีเดียว เพราะอย่าลืมว่ายังมีข้อมูลจากเว็บไซต์ของคุณมีข้อมูล เว็บไซต์ของคู่แข่งอีกมากมาย ก็มีข้อมูลที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน

และในขั้นตอนนี้เอง หากคุณสามารถเผยแพร่ Content ที่ตอบโจทย์พวกเขาได้ ผู้บริโภคก็เริ่มเห็นความแตกต่างและเริ่มเปรียบเทียบข้อมูลของแต่ละแบรนด์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น สิ่งที่คุณสามารถนำเสนอรูปแบบของ Content ในขั้นตอนนี้ ควรจะเป็นกรณีศึกษาเกี่ยวกับสินค้า หรือบริการของแบรนด์คุณ

Content ประเภท How-to ให้ความรู้ในการนำสินค้าหรือบริการของคุณไปใช้แก้ไขปัญหาหรือตอบโจทย์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในใจของผู้บริโภครายละเอียดและข้อมูลเชิงลึกของสินค้าหรือบริการของคุณ

 

ขั้นตอนที่ 4 Conversion การเปลี่ยนเป็นลูกค้า

การตลาดออนไลน์ ทําอะไรบ้าง

วัตถุประสงค์เพื่อปิดการขายกับลูกค้า โดยการแสดงรายละเอียดและข้อมูลของสินค้าโดยนำเสนอจุดเด่นและนำเสนอคุณค่าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์คุณ

ในขั้นตอนนี้ผู้บริโภคมีความสนใจอย่างยิ่งที่ต้องการจะทำการซื้อขายกับแบรนด์ของคุณ โดยอาจต้องการการโน้มน้าวและเพิ่มความมั่นใจอีกเล็กน้อยจากคุณ เพียงให้คุณกระตุ้นให้ถูกจุด ผู้บริโภคก็พร้อมที่จะจ่ายเงินให้คุณในทันที ดังนั้น ในขั้นตอนนี้ คุณสามารถนำเสนอการขายอย่างตรงไปตรงมา (และถ้าหากคุณพบว่าการขายแบบ Hard Sell ของแบรนด์คุณมันเวิร์ค ก็จงใช้ในการปิดการขายให้จงได้)

สิ่งที่คุณต้องทำในขั้นตอนนี้ก็คือ Social Proof หรือ Testimonials ที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ รีวิวจากลูกค้าที่เคยอุดหนุนไปก่อนหน้านี้ และใช้ระบบการรับชำระเงินที่น่าเชื่อถือและมีระบบป้องกันสูงเพื่อปกป้องข้อมูลของลูกค้า

 

ขั้นตอนที่ 5 Customer Relationship การสานสัมพันธ์กับลูกค้า

การตลาดออนไลน์ ทําอะไรบ้าง

วัตถุประสงค์เพื่อการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า เพื่อนำไปสู่การเป็นลูกค้าในระยะยาว ผ่านวิธีการออกแบบและสร้าง Content สำหรับลูกค้าที่เคยอุดหนุนมาแล้วโดยเฉพาะ

ในขั้นตอนนี้ลูกค้าได้ซื้อสินค้าหรือบริการของเราไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่งานของเรายังไม่จบเพียงเท่านั้น ยังต้องมีการส่งสินค้า ขอรีวิวจากลูกค้า รับประกันสินค้า และให้ความรู้เพิ่มเติม เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่น ๆ ของบริษัท เพื่อปูทางไปสู่การซื้อซ้ำ หรือใช้สินค้าหลาย ๆ อย่างร่วมกัน

ในขั้นตอนนี้ จำเป็นต้องออกแบบคำสื่อสารที่แตกต่างออกไป จากขั้นตอนแรก ๆ ที่พวกเขาเหล่านี้ ยังไม่ได้เป็นลูกค้าของเรา ขั้นแรก ให้คุณคำนวณมูลค่าทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นตลอดช่วงชีวิตของลูกค้าแต่ละราย มีสูตรคำนวณดังนี้

Customer Lifetime Value (CLV) = ระยะเวลาที่ลูกค้าใช้บริการ (ปี) x (จำนวนสัปดาห์ใน 1 ปี x มูลค่าเฉลี่ยของลูกค้า x กำไรเฉลี่ยของลูกค้า)

ยกตัวอย่าง…

หากสินค้าของคุณคือ สบู่สมุนไพร ราคา 100 บาท โดยคาดว่าลูกค้าจะยังคงเลือกใช้สินค้าของเราเป็นเวลา 10 ปี โดยมูลค่าเฉลี่ยของลูกค้าที่จับจ่ายใช้สอยในแต่ละสัปดาห์ คือ 100 บาท โดยกำไรเฉลี่ยของลูกค้าอยู่ที่ 20% — ดังนั้น

Customer Lifetime Value (CLV) = 10 x (52 x 100 x 0.20) = 10,400 บาท

เมื่อรู้ตัวเลขของ Customer Lifetime Value แล้ว นั่นคือตัวเลขที่ลูกค้าคนหนึ่ง ๆ จะสร้างกำไรให้กับเราได้ ดังนั้น งบประมาณที่ใช้ในการรักษาฐานลูกค้า ก็ไม่ควรจะเกินตัวเลขนี้ เพราะหากมีค่าการตลาดที่สูงกว่าที่คำนวณเอาไว้อาจมีโอกาสขาดทุน

 

ขั้นตอนที่ 6 Retention การรักษาฐานลูกค้าเดิม

การตลาดออนไลน์ ทําอะไรบ้าง

วัตถุประสงค์การรักษาฐานลูกค้าเดิมเอาไว้ และเกิดการซื้อซ้ำ ผ่านกระบวนการบริการหลังการขาย ให้ความช่วยเหลือกับลูกค้าในด้านต่าง ๆ โดยในขั้นตอนนี้ต้องออกแบบ Content Marketing ที่แตกต่างออกไป เพราะในขั้นตอนนี้ จะเน้นที่การเพิ่มยอดขายจากฐานลูกค้าเดิมเป็นหลัก ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณในการทำการตลาดได้อย่างมาก

เนื่องจากเป็นลูกค้าที่คุ้นเคย และรู้จักกับสินค้าเป็นอย่างดี และหากสินค้าหรือบริการของแบรนด์สามารถตอบโจทย์และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีแล้วด้วยนั้น ก็ใช้การโน้มน้าวหรือยื่นข้อเสนอเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้เกิดการซื้อซ้ำได้อย่างไม่ยากเย็นเท่ากับคนที่ยังไม่เคยเป็นลูกค้าของเรามาก่อน

ลักษณะ Content Marketing ที่ต้องทำ อาทิ การให้ข้อมูลความรู้เชิงลึกที่ลูกค้าสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสินค้าและบริการของคุณได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น โดยคุณอาจทำในรูปแบบของเอกสารดิจตอลแจก หรือวีดีโอคลิปดี ๆ ให้รับชม รวมไปถึงการส่งข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ ในรูปแบบของ Voucher และ Coupon เป็นต้น

 

ทั้งหมดนี้คือ 6 ขั้นตอนในการเปลี่ยนจากคนแปลกหน้าให้กลายมาเป็นลูกค้าตลอดกาล โดยหากดูจากสถิติของการใช้งบประมาณในการทำการตลาดแล้วจะพบว่า ต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่นั้น สูงกว่าลูกค้าเดิมถึง 6 เท่า เป็นอย่างน้อย ดังนั้น หากธุรกิจของคุณ มีการจัดทำวางแผนกลยุทธ์ด้าน Content Marketing ที่เหมาะสมกับทุกขั้นตอน ก็จะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคง

การทําการตลาดออนไลน์ มีอะไรบ้าง

การทำการตลาดหรือธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ เช่น โฆษณา Facebook, โฆษณา Google, โฆษณา Youtube, โฆษณา Instagram โดยอาจมีการจ้างยิงแอดโฆษณากับทางเอเจนซี ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อทำให้สินค้าของเราเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น โดยใช้วิธีต่างๆ ในการ โฆษณาเว็บไซต์ หรือ โฆษณาขายสินค้าที่จะนำสินค้าของเราไปเผยแพร่ตามสื่อออนไลน์ ...

การตลาดออนไลน์มีประโยชน์อย่างไร

7 ข้อดีของการทำ Digital Marketing ที่นักการตลาดควรรู้.
1. การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด ... .
2. เป็นเจ้าของช่องทางบนแพลตฟอร์มออนไลน์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ... .
3. สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลายและมากขึ้น ... .
4. รู้เท่าทันเทรนด์ผู้บริโภคได้เร็ว ... .
5. เพิ่มยอดขาย ... .
6. สามารถวัดผลได้ตลอดเวลา ... .
7. ข้อมูลออนไลน์ที่เป็นประโยชน์ต่อนักการตลาด.

ทำไมถึงต้องทำการตลาดออนไลน์

ช่องทางออนไลน์สามารถนำเสนอสินค้าและบริการได้ด้วยค่าโฆษณาที่คุ้มค่า แต่สามารถได้ผลตอบกลับที่คุ้มค่า เพราะเราสามารถจำกัดงบประมาณในการซื้อโฆษณาแต่ละครั้ง ในการทุ่มเงินไปกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการจริง ๆ สามารถปรับเปลี่ยนจำนวนเงิน หรือปิดแคมเปญที่ไม่มีผลตอบรับได้เองทันที ทำให้ช่วยประหยัดค่าโฆษณาได้มากทีเดียว

ตลาดออนไลน์เรียกว่าอะไร

Digital Marketing คือ การทำการตลาดรูปแบบหนึ่งโดยการโปรโมทสินค้าหรือบริการผ่านทางสื่อดิจิทัล และสามารถสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค เพื่อเพิ่มยอดขายโดยใช้กลยุทธ์ต่างๆ ทางสื่อดิจิทัล ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เนื่องจากผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสื่อเหล่านี้ได้ง่าย และสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ...