นักเรียนคิดว่าสาเหตุใดเป็นสาเหตุสำคัญในการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน

ปัญหาที่เรียกว่าอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด มาดูกันว่าจะมาจากอะไร กับ 5 สาเหตุ ที่ก่อให้เกิดปัญหา "ท้องก่อนวัย" ของวัยรุ่นยุคนี้

นักเรียนคิดว่าสาเหตุใดเป็นสาเหตุสำคัญในการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน

คงจะพูดได้เต็มปากเลยว่า ท้องก่อนวัย เป็นปัญหาอันดับต้นๆ สำหรับวัยรุ่นไทยและดูเหมือนกับว่าปัญหานี้จะมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ อีกต่างหาก ซึ่งปัญหาท้องก่อนวัยนั้นเป็นแค่จุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่ผลเสียอื่นๆ ที่ตามมา เช่นการทอดทิ้งลูก หรือละเลยไม่ดูแลจนเสียคนอีกต่างหาก

จากผลวิจัยของศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านเพศภาวะและสุขภาพสตรีมหาวิทยาลัยขอนแก่นระบุว่า คุณแม่วัยใสส่วนใหญ่มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกอายุ 15 ปีมากที่สุด และตั้งครรภ์ที่อายุน้อยที่สุด คือ 12 ปี โดยส่วนใหญ่ คือ 62.9% มีแฟนอายุมากกว่าตนเอง อายุเฉลี่ยของผู้ชายที่ 20-30 ปี โดยคุณแม่วัยใสส่วนใหญ่เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นมากที่สุด 12.5% มัธยมศึกษาตอนปลาย 7.7% ประถมศึกษา 3.1%

นอกจากนั้นผลวิจัยยังบ่งชี้ว่าคุณแม่วัยใสส่วนใหญ่ไม่คุมกำเนิดในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกและเกือบสองในสามไม่ตั้งใจตั้งครรภ์ ซึ่งการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดซึ่งเป็นเพศหญิงร้อยละ 50.92 เพศชายร้อยละ 49.08 อายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถสรุปผลได้ดังนี้

สาเหตุสำคัญ 5 อันดับสูงสุดที่นำไปสู่การเป็นคุณแม่วัยใสตามความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่

  • ความคึกคะนอง/อยากลองคิดเป็นร้อยละ 86.79
  • มีเจตนา/ตั้งใจไม่ป้องกันคิดเป็นร้อยละ 84.87
  • การเข้าถึงสื่อลามกอนาจารได้ง่ายคิดเป็นร้อยละ 82.69
  • ถูกเพื่อนฝูงชักจูง/ทำตามเพื่อนคิดเป็นร้อยละ 80.77
  • สภาพความเป็นอยู่ภายในชุมชนที่พักอาศัยมีความเสี่ยงคิดเป็นร้อยละ 78.34

ด้านแนวทางการลดปัญหาคุณแม่วัยใสในสังคมไทยนั้น กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 72.66 มีความคิดเห็นว่าการกำหนดให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ห้ามออกนอกเคหสถานตอนกลางคืนจะไม่มีส่วนช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาคุณแม่วัยใสในสังคมไทยได้จริง

ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างประมาณสามในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 75.08 มีความคิดเห็นว่าการตำหนิ/ต่อว่า/ดูถูก/ไม่ให้โอกาสในสังคมกับกลุ่มคุณแม่วัยใสจะไม่มีส่วนช่วยกดดันให้กลุ่มคุณแม่วัยใสในสังคมไทยลดจำนวนลงไปในอนาคตได้จริง

อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างมากกว่าสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 68.73 มีความคิดเห็นว่าหากกระทรวงศึกษาธิการเพิ่มเนื้อหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษารวมถึงวิธีการป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรลงไปในบทเรียนให้มากขึ้นกว่าในปัจจุบัน จะมีส่วนช่วยลดปัญหาคุณแม่วัยใสในสังคมไทยลงได้ นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 60.28 มีความคิดเห็นว่าการนำเสนอละคร/ภาพยนตร์/สารคดีสะท้อนปัญหาการเป็นคุณแม่วัยใสผ่านสื่อสาธารณะอย่างต่อเนื่องจะมีส่วนช่วยลดปัญหาคุณแม่วัยใสในสังคมไทยลงได้

บทที่ 1 เข้าใจวัยรุ่น

      

วัยรุ่นจะเริ่มเมื่ออายุ 10 -12 ขวบขึ้นไป ปัจจุบันจะเร็วกว่าสมัยก่อนทั้งจากอาหาร, สิ่งแวดล้อม, กระแสสังคม ซึ่งจะมีการ เปลี่ยนแปลงทั้งทางอารมณ์ร่างกายสังคมพฤติกรรม เมื่อถึงเวลาเริ่มเปลี่ยนเป็นวัยรุ่นจะมีข้อที่พ่อแม่ผู้ปกครอง ครู มีความกังวลมาก ๆ ก็คือ
      1. การเชื่อฟังผู้ใหญ่จะน้อยลง แต่จะเชื่อเพื่อนหรือคนวัยเดียวกันมากขึ้นเพราะฉะนั้นการจะปลูกฝังค่านิยม คุณธรรม ความรักความอบอุ่น คำสั่งสอนต่าง ๆ ที่จะให้เขาทำตามพ่อแม่ต้องสอนตั้งแต่เล็ก ๆ จนถึงก่อนวัยรุ่น ที่สำคัญคือ ความรักที่ผู้ใหญ่ให้เด็ก โดยต้องไม่ลำเอียง มีความยุติธรรม ไม่ว่าลูก(ศิษย์)จะเก่งสวยหล่อหน้าตาดี หรือมีความสามารถมากหรือไม่ก็ตาม และมีความรัก การเอาใจใส่ ดูแลพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ อย่ามุ่งแต่ทำงานหาเงินมากมาย(หรือไม่มากก็ตาม) แต่ต้องมีเวลาถามความรู้สึก ความในใจที่เขาอยากจะคุยและบอกพ่อแม่ก่อนที่ลูกจะทำอะไรจนสายเกินแก้
      บางครั้งเงินมาก ๆ ก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเด็กได้ อย่าจู้จี้หรือพูด (บ่น)ในเรื่องที่เคยพูดไปแล้วบ่อยเกิน ไป อย่าเป็นคนดุมากเกินไป แต่ควรพูดให้เขาคิดว่าเขาสามารถจะรับผิดชอบเรื่องใดได้และต้องทำตามที่ตกลงกันให้แน่นอน แม่จะได้ไม่บ่นมาก เป็นเพื่อนเล่น ทำกิจกรรมกับเขา พร้อมพูดคุยซักถามปัญหา ความรู้สึก ความต้องการของเขาโดยอ้อม วัยรุ่นจะเชื่อฟังผู้ใหญ่น้อยลง ยังขาดวิจารณญาณ เด็กจะเอาตัวอย่างที่ได้พบเห็นมาประกอบเป็นพฤติกรรม เพราะฉะนั้นต้องระวังสื่อต่างๆ แม้แต่เพื่อน/คนใกล้ชิด
       2.อารมณ์จะขึ้น ๆ ลง ๆ เดี๋ยวชอบเดี๋ยวไม่ชอบพฤติกรรมบางอย่างและการกระทำฉุนเฉียว ขี้หงุดหงิดได้ง่าย ( เพราะมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ) จะไม่ชอบให้พ่อแม่กอด,หอม (แต่กับเพื่อนเพศเดียวกันกอดคอแตะตัวไม่เป็นไร)
      3. ชอบลอง ชอบเด่น ชอบโชว์ ชอบสิ่งท้าทาย อาจต่อต้านพ่อแม่
      4. ยังขาดวิจารณญาณ พบเห็นสิ่งใดจะรับข้อมูลไว้หมด แต่ไม่รู้ว่าถูกหรือผิด เชื่อถือไม่ได้ เป็นจริงแค่ไหน
      5. การเปลี่ยนแปลงของวัยรุ่นในด้านพฤติกรรม จะขึ้นกับสภาพแวดล้อม สังคม กลุ่มเพื่อนๆ ที่เขาสัมผัสอยู่ เช่นในสังคมโรงเรียนนานาชาติจะโตวัย (อาจจะถึงแก่แดด?) แต่ในสังคมโรงเรียนไทยจะช้ากว่า และเด็กจะเอา ตัวอย่างที่ได้พบเห็นสัมผัสมาประกอบเป็นพฤติกรรมของตนเอง เพราะฉะนั้นเราต้องรู้นิสัย และพื้นเพ เพื่อนๆ ของลูกด้วย ที่สำคัญความผูกพันใกล้ชิด การเปิดใจของพ่อแม่ที่มีให้เด็กเป็นเกราะสำคัญต่อเขา ที่จะทำให้เด็กไม่ทำ อะไรผิดพลาดได้ระดับหนึ่ง
      6. พฤติกรรมชอบแยกตัว ชอบเป็นส่วนตัว ชอบอิสระ แต่ยังต้องการความรักความอบอุ่น ไม่ชอบให้กอด หอม รู้สึกรำคาญ ตรงข้ามกับวัยเด็กเขาต้องการ การกอด หอม เมื่อรู้การเปลี่ยนแปลงของวัยรุ่น ผู้ใหญ่ก็ต้อง ปรับตัว และคอยดูแลห่างๆ อย่าปล่อยปละละเลย หรือเข้มงวดเกินไป มีเวลาให้เขาเสมอเมื่อเขาต้องการ คอย ถามความรู้สึก ละความต้องการของเด็ก และคอยสังเกตพฤติกรรมสม่ำเสมอ จะเป็นเกราะป้องกันเด็กๆ จาก อันตรายได้ระดับหนึ่ง

บทที่ 2 ปัญหาทางเพศในวัยรุ่น

      

ปัจจุบันเด็กชิงสุกก่อนห่ามมากขึ้นโดยบางคนคิดว่า ถ้าใครไม่มีแฟนก็จะเชยและหลายคนมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันสมควรรวมทั้งมีปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น โรคเอดส์ ท้องในวัยเรียน เรียนหนังสือไม่จบ เป็นทุกข์กันทั้งครอบครัว ซึ่งมักเป็นในครอบครัวแตกแยกหรือพ่อแม่ไม่รู้วิธีเลี้ยงลูก

สาเหตุของปัญหาทางเพศในวัยรุ่น
      • วัยรุ่นเป็นวัยอยากลอง อยากเรียนรู้ มีพลังงานเหลือเฟือประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศทั้งหญิงชายทำให้เกิดอารมณ์เพศขึ้นมา
      • รวมทั้งพื้นฐานครอบครัว การขาดการเอาใจใส่ใกล้ชิด หรือขาดการอบรมดูแลจากพ่อแม่อย่างใกล้ชิด หรือความไม่เข้าใจพัฒนาการของวัยรุ่น ความรู้ของพ่อแม่ผู้ปกครองทำให้ขาดคนคอยชี้แนะ ซึ่งรวมถึงครูที่ ร.ร.ที่มีงานล้นตัวทำให้ลืมคิดถึงปัญหานี้ไป
      • กระแสสื่อ สังคม ค่านิยมตะวันตกInternet ละครทีวีหลังข่าว ทำให้วัยรุ่นมีการปลูกฝังค่านิยมที่ผิด ๆ ทำให้วัยรุ่นได้รับสารหรือค่านิยมที่ผิดๆ
      • เพื่อนเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะวัยรุ่นจะเชื่อเพื่อนมากกว่าพ่อแม่
      • เด็กขาดความรักความอบอุ่นจะโหยหาความรักจะทำตามทุกคนเพื่อให้ตัวเองได้รับความรัก
      • ความเครียดของเด็กและความไม่เข้าใจของพ่อแม่ ทำให้วัยรุ่นหันเข้าหาเพื่อน ซึ่งอาจนำพาไปสู่ยาเสพติด ซึ่งเป็นตัวการทำให้มีเพศสัมพันธ์มากขึ้นเพราะปล่อยไปตามอารมณ์ขณะนั้น ซึ่งจะเกิดปัญหาตามมามากมาย เช่น มีท้องต้องออกจากโรงเรียน มีโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เอดส์ กามโรค ไวรัสตับอักเสบ
      ความเครียดของเด็กก็มีหลายอย่าง ทั้งจากระบบการศึกษาไทยที่สร้างกดดันให้เด็ก ทั้งหลักสูตรและระบบการสอบเข้าระดับต่าง ๆ ที่มีการแข่งขันกันสูง รวมทั้งค่านิยมในการเรียนระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยมีไม่เพียงพอ และเด็กขาดทางออก เช่น การเล่นกีฬา มีสนามกีฬาไม่เพียงพอ

แนวทางแก้ไข
ทำความเข้าใจผู้ปกครอง พ่อ แม่ ครู ในเรื่องพัฒนาการของวัยรุ่น เพื่อให้ผู้ใกล้ชิดได้เข้าใจความเป็นไปของวัยรุ่นและดูแลเอาใจใส่ และให้คอยชี้แนะในทางที่ถูกต้องรวมทั้งให้คำปรึกษาต่าง ๆ พยายามปลูกฝังค่านิยมที่ดีงามของไทย ตั้งแต่สมัยโบราณลูกผู้หญิงก็ต้องปลูกฝังให้รักนวลสงวนตัวตั้งแต่ยังไม่ทันวัยรุ่น(แปด เก้าขวบ)ส่วนเพศชายก็สอนเรื่องความรับผิดชอบต่อการกระทำ ถ้าไม่พร้อมหรือช่วยตัวเองไม่ได้ก็อย่าสร้างภาระให้พ่อแม่ และถ้าไม่รักใครจริงก็อย่าทำลายผู้หญิง
      พยายามควบคุมสื่อต่าง ๆ ที่มีผลต่อเด็กทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ ทีวี Internet และอื่น ๆ
      ให้เด็กมีทางออก เช่น ออกกำลังกาย มีสนามกีฬาที่เพียงพอ สอนให้เด็กทำกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ช่วยงานบ้าน
      ให้ความรู้เรื่องเพศศึกษา เรื่องสรีระการเปลี่ยนแปลงภายใน คือ ฮอร์โมนและภายนอกคือ ร่างกายสรีระต่าง ๆ รวมทั้งโรคติดต่อ และผลของการกระทำต่าง ๆ เช่น ท้อง ติดโรค โดนไล่ออกจากโรงเรียน
      สอนให้เด็กรู้จักคบเพื่อนที่ดี และศึกษาอุปนิสัยของเพื่อนลูก
      สอนให้เด็กต้องรู้จักควบคุมอารมณ์ เมื่อมีอารมณ์ทางเพศมีสติสัมปชัญญะตลอดเวลา มีหลักการที่มั่นคง และจิตใจที่แน่วแน่ ไม่ปล่อยให้เป็นไปตามอารมณ์ที่ต้องการชั่วขณะ ซึ่งเหตุการณ์อย่างนี้จะเกิดขึ้นได้ในขณะที่เด็กเสพสุรายาเสพติด เพราะขาดสติสัมปชัญญะฉะนั้นต้องสอนให้ห่างไกลยาเสพติด
      มีเวลาให้ลูกเมื่อเด็กต้องการ
      การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกของวัยรุ่นหญิง(จากสื่ออินเตอร์เน็ท ขออภัยที่จำไม่ได้ว่าของใครเขียน ขออภัยที่นำมาลงโดยไม่ได้บอดเจ้าของ แต่เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครอง คงไม่ว่ากัน แต่ถ้าใครเจอเจ้าของก็ยินดีรับผิดชอบค่ะ)
      ข้อมูลความสัมพันธ์ระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ของวัยรุ่นหญิงกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ว่ามีงานวิจัยระดับปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยมหิดล โดยนางนิรมล เมืองโสม ได้เก็บข้อมูลในเรื่องวัฒนธรรมทางเพศของวัยรุ่นหญิง และพฤติกรรมการขายบริการทางเพศของนักศึกษาระดับอาชีวะ ที่อาศัยอยู่ในหอพักของจังหวัดแห่งหนึ่งในภาคอีสาน พบว่า นอกจากความสับสนในเรื่องคุณค่าของตนเอง หรือที่เรียกว่าอัตลักษณ์ทางเพศที่นำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรของวัยรุ่นแล้ว ยังพบว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะไวน์ที่มีรสหวานซ่า หรือที่เรียกว่าคูลเลอร์นั้น มีส่วนสำคัญในการทำให้วัยรุ่นสาวบางคนมีเพศสัมพันธ์เพราะความเมามากกว่าการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยทั่วไป
      เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะมี 2 ประเภท คือ เครื่องดื่มที่ควรจะมีแอลกอฮอล์ต่ำแต่กลับพบว่ามีแอลกอฮอล์สูง เช่น เบียร์ที่อยู่ในต่างประเทศจะมีแอลกอฮอล์เพียง 5 เปอร์เซ็นต์ แต่เบียร์ที่อยู่ในเมืองไทยส่วนใหญ่มีแอลกอฮอล์ประมาณ 12 -15 เปอร์เซ็นต์ เรียกว่าถ้าผู้หญิงไทยกินเบียร์ 1 ขวด จะเท่ากับฝรั่งกินเบียร์ถึง 3 ขวดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทไวน์คูลเลอร์ หรือไวน์สี ประเภทต่าง ๆ ที่กำลังออกมาเจาะตลาดวัยรุ่นและผู้หญิงมากขึ้น มักจะอ้างว่ามีแอลกอฮอล์มากกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ และมีรสหวาน หากรับประทานแล้วจะไม่เมา ซึ่งไม่จริง ส่วนเหตุของการเสียตัวนั้น อาจเป็นเพราะการดื่มในปริมาณที่มากเพราะคิดว่าจะไม่เมา โดยทั่วไปแล้วแอลกอฮอล์จะเมาหรือไม่เมาเมื่อดื่มเข้าไปจะมีผลต่อจิตใจ และความสามารถในการควบคุมตนเอง รวมถึงการกระตุ้นอารมณ์เพศด้วย ทางที่ดีจะให้เป็นเครื่องดื่มของวัยรุ่นไม่ควรที่จะมีแอลกอฮอล์เลยด้วยซ้ำ
      ด้านนางนิรมล เมืองโสม เจ้าของผลงานวิจัยดังกล่าวเปิดเผยว่า งานวิจัยชิ้นนี้เก็บข้อมูลโดยการเข้าไปฝังตัวอยู่กับกลุ่มนักศึกษาระดับอาชีวะใน จ.ขอนแก่น ที่อายุระหว่าง16-25 ปี จำนวนประมาณ 20 คน ทั้งหมดเคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว โดยแบ่งออกเป็น2 กลุ่ม คือ มีเพศสัมพันธ์กับแฟน หรือคู่รัก ด้วยความสมัครใจ และมีเพศสัมพันธ์แบบแลกเปลี่ยน หรือขายบริการทางเพศ จากการวิจัยพบว่า วัยรุ่นหญิงเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่แตกแยก ไม่อบอุ่น มีแนวคิดในการเสียตัว โดยเริ่มต้นจากความรักในเพศสัมพันธ์ครั้งแรก แต่เพศสัมพันธ์ในครั้งต่อๆ ไป มักจะเป็นการปล่อยตัวทางเพศหรือตัดสินใจในการมีเพศสัมพันธ์ได้ง่ายขึ้น ส่วนกลุ่มที่ขายบริการทางเพศนั้น มักเริ่มมาจากพฤติกรรมบริโภคนิยมที่ต้องการเงินมาใช้จ่าย ส่วนความสัมพันธ์ของการมีเพศสัมพันธ์กับการดื่มแอลกอฮล์นั้นพบว่า มีหลายรายที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทไวน์คูลเลอร์ก่อน เช่น ดื่มในการสังสรรค์กันระหว่างเพื่อนจนเกิดอาการเคลิบเคลิ้ม และถูกเพื่อนชายด้วยกันพาเข้าหอพักเพื่อมีเพศสัมพันธ์ด้วย บางรายให้ข้อมูลว่ารู้สึกมึน ๆ เคลิบเคลิ้มและมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายที่ไม่ต้องการจะมีด้วย ที่น่าตกใจอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ มักไม่ได้ป้องกัน เพราะคิดว่าการมีเพศสัมพันธ์ในกลุ่มเพื่อนนั้นปลอดภัย ไม่จำเป็นต้องใช้ถุงยางอนามัยให้เสียอารมณ์ ทำให้อัตราการติดโรคเอดส์ในวัยรุ่นเพิ่มขึ้น
*********************************
ที่มา บทความ จาก พันโทแพทย์หญิงกมลพรรณ ชีวพันธุ์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์บริการสาธารณสุข34 โพธิ์ศรี สำนักอนามัย กทม.