Thai Eng การจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในศตวรรษที่ 21VDO.
เรื่องที่เกี่ยวข้องRelated Images Research Information and Data Center
เกณฑ์การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เกณฑ์การ ระดบั คุณภาพ / คะแนน ประเมิน ดเี ยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) เกณฑ์การประเมิน 11. เกณฑ์การให้คะแนนตดั สินระดับคุณภาพชน้ิ งาน/ภาระงาน ระดบั 4 หมายถงึ ดีเยย่ี ม = 9 - 10 คะแนน ระดับ 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ = การประเมินสมรรถนะสำคญั คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์และทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ประเดน็ ประเมิน
แหลง่ วธิ ีวดั เครอื่ งมือวดั เกณฑ์การให้ บันทกึ ผลหลงั การสอน 1. นกั เรียนจำนวน........................คน 2. นกั เรยี นมคี วามรคู้
วามเข้าใจ 3. นกั เรียนมีความรเู้ กดิ ทกั ษะ 4. นกั เรียนเจตคต/ิ คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ ลงช่ือ…………………….……………………………… แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 13 วิชาคณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ระดบั ชน้ั .ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 ชื่อหน่วยจำนวนนับไม่เกิน 100,000 จำนวน 14 คาบ เร่อื ง แบบรปู ของจำนวนท่เี พ่ิมขน้ึ หรือลดลงทลี ะเท่าๆกัน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 เวลา 1 คาบ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.2 : เขา้ ใจและวเิ คราะห์แบบรูป ความสมั พนั ธ์ ฟงั กช์ ัน ลำดบั และอนุกรม และนำไปใช้ 2. ตวั ชี้วดั ชั้นปี ค 1.2 ป.3/1 : ระบจุ ำนวนท่ีหายไปในแบบรูปของจำนวนท่เี พม่ิ ข้นึ หรอื ลดลงทีละ เทา่ ๆ กนั 3. สาระสำคัญ แบบรูปของจำนวนท่ีเพ่ิมข้ึนหรือลดลงเป็นการเรียงลำดับจำนวนจากน้อยไปมาก หรือมากไปหา น้อย จำนวนที่อยตู่ ดิ กนั อาจจะเพมิ่ ขนึ้ หรือลดลงตามท่กี ำหนด อาจจะเริม่ ตน้ ดว้ ยจำนวนนบั จำนวนใดกไ็ ด้ 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายแบบรปู ของจำนวนทเี พิม่ ขึน้ หรือลดลงทีละเท่า ๆ กันได้ (K) 2. ระบุจำนวนทหี่ ายไปในรูปของจำนวนทเี่ พม่ิ ข้ึนหรอื ลดลงทลี ะเท่า ๆ กนั ได้ (P) 3. รบั ผดิ ชอบต่อหน้าทท่ี ่ีได้รบั มอบหมาย (A) 5. พฤตกิ รรมการเรียนรู้ Knowledge Practice Attitude ( K P A ) ดา้ นความรู้ ( Knowledge : K) 1.อธิบายแบบรปู ของจำนวนทีเพ่ิมขนึ้ หรอื ลดลงทีละเทา่ ๆ กนั ได้ (K) ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P)9 1.มคี วามสามารถในการแก้ปัญหา 2.มคี วามสามารถในการส่ือสาร สือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3.มคี วามสามารถการเช่ือมโยง ดา้ นเจตคติ/คณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ (Attitude: A) 1. รกั ชาติ 2. ซือ่ สัตย์สุจริต 3. มวี นิ ัย 4. ใฝ่ความรู้ 5. อยู่อยา่ งพอเพียง 6. มุ่งม่นั ในการทำงาน 7. รกั ความเปน็ ไทย 8. มีจิตสาธารณะ 6. สมรรถนะสำคญั
ของผเู้ รยี นหลกั สตู รการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 7. ทักษะของผู้เรยี นในศตวรรษท่ี 21 (3R 8C ) 8. การบรู ณาการ 9. สาระการเรียนรู้ 10.
การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครกู ระตนุ้ ความสนใจของนักเรียนโดยการให้นกั เรียนดบู ตั รจำนวน 5 ใบ 4,542 4,539 4,536 4,533 4,530 อย่างไร” ครูคอยกระตุ้นใหน้ ักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล โดยให้คำแนะนำได้บ้างว่าบัตรจำนวนแต่ 3. ครอู ธิบายในหนังสอื เรยี นหนา้ 30-31 โดยให้นกั เรียนสังเกตเก่ยี วกบั ความสมั พนั ธข์ องแบบรปู 4. จากนน้ั ใหน้ กั เรียนชว่ ยกันตอบคำถามแบบฝึกหัดในหนงั สอื เรยี นหนา้ 32 เกีย่ วกับแบบรูปของ 5. ครูจดั กจิ กรรมไมข้ ีดเสริมปัญญา โดยแบง่ นกั เรยี นเปน็ กลุ่ม กลุ่มละเทา่ ๆกัน 8. ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มนำเสนอผลงาน 14. ไม้ขีด 55 กา้ นและ//.กระดาษ 4 แผ่น 13.
การประเมินผลการเรยี นรู้ วธิ ีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบฝึกหดั และใบงาน แบบฝึกหัดและใบงาน ร้อยละ60ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงาน ระดบั คณุ ภาพ2ผา่ นเกณฑ์ 2.ประเมินผล ประเด็นการ 4 ระดับคุณภาพ 1 1. เกณฑ์การ ทำแบบฝึกได้อย่าง ทำแบบฝึกได้อย่าง ทำแบบฝกึ ไดอ้ ย่าง ทำแบบฝึกไดอ้ ย่าง ประเมินการทำ ถกู ต้องรอ้ ยละ 90 ถกู ต้องร้อยละ 80 - ถูกต้องรอ้ ยละ 60 - ถกู ต้องต่ำกวา่ ร้อย แบบฝกึ หดั และ ขน้ึ ไป 89 79 ละ 60 ใบงาน 2. เกณฑ์การ ทำความเข้าใจ ทำความเข้าใจ ทำความเข้าใจ ทำความเข้าใจ ประเมนิ ความ ปัญหา คิด ปญั หา คิดวเิ คราะห์ ปญั หา คิดวิเคราะห์ ปัญหา คดิ วเิ คราะห์ สามารถในการ วเิ คราะห์ วางแผนแก้ปญั หา วางแผนแก้ปญั หา มีร่องรอยของการ แกป้ ญั หา วางแผนแกป้ ัญหา และเลอื กใช้วิธีการ และเลือกใช้วธิ กี าร วางแผนแก้ปญั หา และเลอื กใช้วธิ ีการ ที่เหมาะสม แต่ ได้บางส่วน คำตอบ แต่ไม่สำเร็จ ที่เหมาะสม โดย ความสมเหตสุ มผล ทไ่ี ด้ยังไมม่ ีความ คำนึงถึงความ ของคำตอบยงั ไม่ดี สมเหตุสมผล และ สมเหตุสมผลของ พอ และตรวจสอบ ไม่มีการตรวจสอบ คำตอบพร้อมทั้ง ความถกู ต้องไม่ได้ ความถูกต้อง ตรวจสอบความ ถูกต้องได้ 3. เกณฑ์การ ใช้รูป ภาษา และ ใช้รปู ภาษา และ ใช้รปู ภาษา และ ใช้รูป ภาษา และ ประเมนิ ความ สญั ลกั ษณท์ าง สัญลกั ษณท์ าง สัญลักษณ์ทาง สัญลักษณท์ าง สามารถในการ คณติ ศาสตร์ในการ คณิตศาสตร์ในการ คณิตศาสตร์ในการ คณิตศาสตร์ในการ สอ่ื สาร สอ่ื สอ่ื สาร ส่อื สาร ส่ือสาร สอ่ื สาร ความหมายทาง สอื่ ความหมาย ส่อื ความหมาย สอ่ื ความหมาย สื่อความหมาย คณติ ศาสตร์ สรปุ ผล และ สรปุ ผล และ สรปุ ผล และ สรุปผล และ นำเสนอได้อยา่ ง นำเสนอได้ถกู ต้อง นำเสนอได้ถูกต้อง นำเสนอไม่ได้ ถูกต้อง ชดั เจน แตข่ าดรายละเอียด บางส่วน ทส่ี มบรู ณ์ 4. เกณฑ์การ มีความต้ังใจและ มคี วามต้งั ใจและ มีความตัง้ ใจและ ไม่มีความต้ังใจและ ประเมินความมุ พยายามในการทำ พยายามในการทำ พยายามในการทำ พยายามในการทำ มานะในการทำ ความเข้าใจปัญหา ความเข้าใจปัญหา ความเขา้ ใจปัญหา ความเข้าใจปัญหา ความเข้าใจ และแก้ปัญหาทาง และแกป้ ัญหาทาง และแก้ปัญหาทาง และแกป้ ัญหาทาง ปัญหาและ คณิตศาสตร์ มี คณิตศาสตร์ แต่ไม่ คณิตศาสตร์ แต่ไม่ คณติ ศาสตร์ ไม่มี แก้ปัญหาทาง ความอดทนและไม่ มีความอดทนและ มีความอดทนและ ความอดทนและ คณติ ศาสตร์ ท้อแท้ต่ออปุ สรรค ท้อแทต้ ่ออุปสรรค ทอ้ แท้ตอ่ อปุ สรรค ท้อแทต้ อ่ อุปสรรค จนทำให้แกป้ ัญหา จนทำใหแ้ กป้ ัญหา จนทำใหแ้ ก้ปัญหา จนทำใหแ้ ก้ปัญหา ทางคณิตศาสตร์ได้ ทางคณิตศาสตร์ได้ ทางคณิตศาสตร์ได้ ทางคณิตศาสตร์ได้ ประเดน็ การ 4 ระดับคุณภาพ 1 รอบคอบ จนงาน รอบคอบ จนงาน รอบคอบ สง่ ผลให้ ประสบผลสำเรจ็ ประสบผลสำเร็จ งานไม่ประสบ เรียบรอ้ ยสว่ นใหญ่ เรียบร้อยส่วนนอ้ ย ผลสำเร็จอย่างท่ี ควร เกณฑ์การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) เกณฑ์การ ระดบั คณุ ภาพ / คะแนน ประเมิน ดเี ยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) เกณฑ์การประเมิน 12. เกณฑ์การให้คะแนนตดั สินระดับคุณภาพชิ้นงาน/ภาระงาน ระดบั 4 หมายถงึ ดเี ย่ยี ม = 9 - 10 คะแนน ระดับ 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ = การประเมนิ สมรรถนะสำคญั คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์และทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ประเดน็ ประเมิน แหลง่ วธิ ีวดั เครอื่ งมือวดั เกณฑ์การให้ บันทึกผลหลงั การสอน 1. นักเรยี นจำนวน........................คน 2. นกั เรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจ 3. นกั เรียนมคี วามรูเ้ กิดทกั ษะ 4. นักเรียนเจตคต/ิ
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ลงชื่อ…………………….……………………………… แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 14 วิชาคณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ระดบั ชน้ั .ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ชื่อหน่วยจำนวนนับไมเ่ กิน 100,000 จำนวน 14 คาบ เร่ือง ร่วมคดิ ร่วมทำ ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 เวลา 1 คาบ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ จำนวน ผลทเี่ กิดข้นึ จากการดำเนนิ การสมบตั ิของการดำเนินการและนำไปใช้ 2. ตวั ช้ีวัดชน้ั ปี ค 1.1 ป.3/1 อ่านและเขยี นตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 ค 1.1 ป.3/2 เปรียบเทยี บและเรยี งลำดับจำนวนนับไม่เกิน 100,000 จากสถานการณ์ต่างๆ 3. สาระสำคัญ จำนวนนับที่ไม่เกิน 100,000 และ 0 เป็นจำนวนที่ประกอบด้วยหลักหน่วย หลักสิบ หลักร้อย หลักพัน หลักหมื่น และหลักแสน สามารถอ่านและเขียนแทนด้วยตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และ ตวั หนังสือ ซ่ึงต้องใสเ่ ครอ่ื งหมายจุลภาค (,) ทุกช่วงสามตำแหน่งของจำนวนโดยนับจากหลักหน่วยไปทาง ซ้ายมอื การเรียงลำดับจำนวนหลาย ๆ จำนวน ทำได้โดยการเปรียบเทียบจำนวนทุก ๆ จำนวน แล้ว เรยี งลำดบั จำนวนจากนอ้ ยไปมาก หรอื จากมากไปนอ้ ย 4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) อธิบายหลักการอา่ นและการเขยี นจำนวนนบั ไม่เกนิ 100,000 ได้ (K) 2) เขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 ได้ถกู ตอ้ ง (P) 3) อ่านตัวเลขฮนิ ดอู ารบิกและตัวเลขไทย แสดงจำนวนนับไมเ่ กนิ 100,000 และ 0 ไดถ้ กู ตอ้ ง (P) 4) เขียนแสดงการเรยี งลำดบั จำนวนจากน้อยไปมากและจากมากไปน้อยได้ถกู ต้อง (P) 5) รบั ผิดชอบตอ่ หน้าที่ท่ีไดร้ ับมอบหมาย (A) 5. พฤติกรรมการเรยี นรู้ Knowledge Practice Attitude ( K P A ) ดา้ นความรู้ ( Knowledge : K) 1.อธิบายหลกั การอ่านและการเขียนจำนวนนบั ไม่เกิน 100,000 ได้ (K) ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (Process : P) 1.มีความสามารถในการแกป้ ัญหา 2.มคี วามสามารถในการส่ือสาร สือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3.มีความสามารถการเช่ือมโยง ดา้ นเจตคติ/คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ (Attitude: A) 1. รักชาติ 2. ซ่อื สัตยส์ ุจริต 3. มีวนิ ยั 6. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี นหลกั สตู รการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 7.
ทักษะของผ้เู รียนในศตวรรษที่ 21 (3R 8C ) 8. การบูรณาการ 9. สาระการเรยี นรู้ 10. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ กิจกรรมสนามกีฬานา่ รู้ วิธีจัดกจิ กรรม 1. ครแู บง่ นักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละเทา่ ๆกนั แจกบัตรกิจกรรมให้กลุ่มละ 4 บัตร 2. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มศกึ ษาข้อมูลความจุของสนามกีฬาแล้วเตมิ ขอ้ มลู ในบตั รกิจกรรม 3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มเรียงลำดบั ความจขุ องสนามกฬี าจากมากไปนอ้ ยหรือจากน้อยไปมาก 4. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มบอกช่อื สนามกีฬาท่มี ีความจุมากกวา่ 80,000 คน 5.จากนั้นทำแบบฝึกหัดทา้ ทายในหนังสือแบบฝึกหัด หนา้ 25 6.ครูใหน้ ักเรียนสอบวัดความรู้ทา้ ยบท 11. ชิน้ งาน/ภาระงาน 1.แบบฝึกหดั 2.แบบทดสอบวัดความร้ทู ้ายบท 12. ส่ือการเรียนรู้ / แหลง่ เรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียนคณติ ศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 สสวท. 2. แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.3 เล่ม 1 สสวท. 13. การประเมินผลการเรียนรู้ 1.วธิ ีการวัด วิธกี าร เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจแบบฝึกหดั และแบบทดสอบวัด แบบฝกึ หดั และใบงาน รอ้ ยละ60ผ่านเกณฑ์ ความรู้ท้ายบท สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงาน ระดบั คุณภาพ2ผา่ นเกณฑ์ รายบคุ คล 2.ประเมนิ ผล 4 ระดบั คณุ ภาพ 1 ประเด็นการ ระดบั คุณภาพ สือ่ สาร สอื่ สาร สอ่ื สาร ส่ือความหมาย สือ่ ความหมาย ส่อื ความหมาย สรุปผล และ สรุปผล และ สรุปผล และ นำเสนอได้อยา่ ง นำเสนอได้ถกู ต้อง นำเสนอได้ถูกต้อง ถูกต้อง ชัดเจน แต่ขาดรายละเอยี ด บางสว่ น ที่สมบรู ณ์ มคี วามตั้งใจและ มคี วามต้งั ใจและ มคี วามต้ังใจและ พยายามในการทำ พยายามในการทำ พยายามในการทำ ความเข้าใจปัญหา ความเข้าใจปัญหา ความเขา้ ใจปัญหา และแก้ปัญหาทาง และแกป้ ัญหาทาง และแกป้ ัญหาทาง คณติ ศาสตร์ มี คณติ ศาสตร์ แต่ไม่ คณติ ศาสตร์ แต่ไม่ ความอดทนและไม่ มคี วามอดทนและ มีความอดทนและ ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรค ทอ้ แท้ต่ออปุ สรรค ทอ้ แท้ตอ่ อปุ สรรค จนทำใหแ้ กป้ ัญหา จนทำใหแ้ กป้ ัญหา จนทำใหแ้ ก้ปัญหา ทางคณิตศาสตร์ได้ ทางคณิตศาสตร์ได้ ทางคณิตศาสตร์ได้ สำเร็จ ไม่สำเรจ็ เล็กน้อย ไม่สำเรจ็ เป็นสว่ น ใหญ่ 5. เกณฑ์การ มคี วามมุ่งม่นั ใน
มีความมุง่ มน่ั ในการ มีความมงุ่ มัน่ ในการ มีความมุ่งมนั่ ในการ เรยี บรอ้ ยส่วนใหญ่ เรยี บร้อยส่วนน้อย ผลสำเรจ็ อยา่ งท่ี ควร เกณฑ์การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics) เกณฑก์ าร ระดบั คุณภาพ / คะแนน ประเมนิ ดีเยี่ยม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) เกณฑก์ ารประเมนิ 1. เกณฑ์การให้คะแนนตัดสินระดับคุณภาพชน้ิ งาน/ภาระงาน ระดับ 4 หมายถงึ ดีเยย่ี ม = 9 - 10 คะแนน ระดบั 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ = การประเมินสมรรถนะสำคญั คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์และทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ประเดน็ ประเมิน แหลง่ วิธีวัด เครอื่ งมือวัด เกณฑ์การให้ บนั
ทึกผลหลังการสอน 1. นักเรยี นจำนวน........................คน 2. นักเรยี นมีความรคู้ วามเข้าใจ 3. นักเรียนมีความรเู้ กดิ
ทักษะ 4. นกั เรยี นเจตคติ/คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ ลงชื่อ…………………….……………………………… |