Show เมื่อร่างกายได้รับคีโมรักษามะเร็งก็จะมีการตอบสนองที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่จะช่วยบำรุงร่างกายให้ฟื้นตัวไว หรือต่อสู่กับเคมีที่ได้รับได้ดีขึ้น นั่นก็คือการกินอาหารที่เหมาะสม การรักษาโรคมะเร็งส่วนใหญ่มักต้องใช้เคมีบำบัดร่วมดวย หรือที่เราคุ้นหูกับคำว่า “การทำคีโม” ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการปรามโรคไม่ให้เกิดซ้ำ เมื่อได้รับคีโมร่างกายของคนเราจะมีการตอบสนองที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่จะช่วยบำรุงร่างกายให้ฟื้นตัวไว หรือต่อสู่กับเคมีที่ได้รับได้ดีขึ้น นั่นก็คือการกินอาหารที่เหมาะสม กินอย่างไรช่วยลดเสี่ยงมะเร็งกลับมาปัจจัยหนึ่งของการเกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม มักมาจากการมีน้ำหนักมากเกินไป การกินหลังจากรักษามะเร็งเต้านมและมะเร็งทั้งหลายแล้วจึงต้องพิถีพิถันมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารหวาน ของหวาน หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมาก และอาหารที่มีไขมันสูง เพราะเป็นสาเหตุหลักของการมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน ถ้าจะให้กะง่ายๆ การบริโภคน้ำตาลควรอยู่ในช่วง 4-6 ช้อนชา อย่าให้เกินกว่านี้ ที่สำคัญอย่าลืมเผื่อไปถึงน้ำตาลที่ปะปนมาอยู่ในอาหารปกติซึ่งมีมากอยู่แล้วเข้าไปด้วย ทั้งน้ำตาลและอาหารไขมันสูง ย่อมไปเพิ่มไตรกลีเซอไรด์ในเส้นเลือดให้สูงขึ้น และทำให้คอเลสเตอรอลชนิดเลว หรือ LDL cholesterol ในร่างกายสูงขึ้น แถมยังไปลดคอเลสเตอรอลชนิดดี หรือ HDL cholesterol ให้ลดน้อยลงด้วยไขมันแบบไหนที่กินได้บ้างไขมันที่กินได้หรือควรกิน คือไขมันที่เป็นกรดไขมันดี หรือเป็นไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันเมล็ดทานตะวัน หรือกินอาหารประเภทถั่วที่มีไขมันดี อย่าง อัลมอนด์ อะโวคาโด เม็ดมะม่วงหิมพานต์ หรือแม้แต่เมล็ดดอกทานตะวันก็กินได้ การซื้ออาหารถุง แกงถุง อาหารปรุงสำเร็จ มักหลีกเลี่ยงไขมันเลวได้ยาก แถมอาหารทอดก็มักใช้น้ำมันซ้ำๆ ซึ่งเป็นไขมันเลวอย่างไม่ต้องสงสัย ไขมันประเภทนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านมและมะเร็งแทบทุกชนิดถ้าอย่างนั้นไม่กินไขมันเลย จะได้ไหม?การกินไขมันไม่ใช่สิ่งเลวร้าย เพียงแต่ต้องเลือกประเภทของไขมัน และคนเราก็ยังจำเป็นต้องกินไขมัน เพราะมีวิตามินหลายชนิดที่ต้องอาศัยไขมันในการแตกตัวและใช้ในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เพียงแต่ว่าควรบริโภคไขมันให้น้อยกว่าคนทั่วไปอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง หรือน้อยกว่านั้นคือกินสัก 30% ของคนปกติได้ยิ่งดีคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนต้องเลือกแบบไหนคาร์โบไฮเดรต เลือกเป็นข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ดีกว่าข้าวขาวที่ผ่านการขัดสี ส่วนโปรตีน แน่นอนว่าร่างกายยังต้องการอย่างมาก แต่ควรเลือกกินโปรตีนที่มีไขมันแทรกอยู่น้อยๆ อย่างไข่ขาว เนื้อปลา อกไก่ ส่วนโปรตีนจากไข่แดงไม่ควรกินมากกว่า 3 ฟองต่อสัปดาห์กินผลไม้หลายสี ก็ดีนะการกินผักและผลไม้หลากสี เขียว ม่วง แดง ขาว เหลือง สลับกันไป ให้ได้วันละ 300 กรัม รวมถึงการเลือกกินธัญพืชไม่ขัดสี อย่างน้อยวันละ 1 มื้อ จะทำให้ร่างกายได้รับทั้งโปรตีน วิตามินบี ไฟเบอร์ เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระ หรือหากต้องการกินผลไม้ก็ควรกินทั้งผล แนะนำเป็นกล้วย แตงโม มะละกอ มะม่วง ส้ม เพราะมีวิตามินเอสูง ไม่ควรกินน้ำผลไม้แยกกากเพราะจะได้รับน้ำตาลมากเกินไปอาหารแบบไหนที่ควรเลี่ยงสิ่งที่ไม่ควรกิน ก็คืออาหารที่ผ่านการแปรรูปประเภท หมัก ดอง อาหารปิ้ง ย่าง เนื้อสัตว์ที่มีการรมควัน เครื่องในสัตว์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำหวาน น้ำอัดลม หากต้องการดื่มนมควรเลือกชนิดพร่องมันเนย และไม่ควรดื่มมากกว่าวันละ 1 แก้ว ส่วนคำถามที่ว่าดื่มน้ำเต้าหู้ หรืออาหารประเภทถั่วเหลืองได้ไหมนั้น ขอแนะนำว่าสำหรับผู้ที่เป็นมะเร็งเต้านมควรหลีกเลี่ยง เพราะในถั่วเหลืองจะมีสาร "ไอโซฟลาโวน" หรือที่เราเรียกว่าเป็น "เอสโตรเจนธรรมชาติ” จะมีฤทธิ์ต้านยารักษามะเร็งเต้านม และอาจจะกระตุ้นทำให้เกิดเป็นซ้ำได้ด้วย”อาหารเป็นสิ่งสำคัญส่วนหนึ่งในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง การรับประทานอาหารให้ได้สารอาหารเพียงพอเหมาะสมก่อน ระหว่าง และหลังการรักษาจะช่วยให้ผู้ป่วยแข็งแรงขึ้นและมีความรู้สึกดีขึ้น มีกำลังใจที่จะต่อสู้กับโรค เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับโภชนาการที่เหมาะสม ผู้ป่วยจะต้องรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีสารอาหารที่ร่างกายต้องการ เช่น วิตามิน แร่ธาตุ โปรตีน คาร์โบไอเดรต ไขมันและน้ำ อย่างเพียงพอ สำหรับผู้ป่วยมะเร็งผลข้างเคียงของอาการรักษาอาจจะทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อาการเหล่านั้นคือ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ท้องผูกแสบปาก กลืนลำบาก และเจ็บปากเมื่อกลืนอาหาร ยารักษามะเร็งอาจมีผลลดความอยากอาหารลง สิ่งเหล่านำไปสู่ปัญหาทางโภชนาการ (ขาดสารอาหาร) ทำให้ผู้ป่วยอ่อนแอ เหนื่อยง่าย ภุมิต้านทานลดลงและติดเชื้อง่าย ไม่สามารถทนต่อการบำบัดได้ ท่านทราบหรือไม่ว่าผู้ป่วยมะเร็งจำนวนมากเสียชีวิตจากการขาดอาหาร มากกว่าการลุกลามของโรค ทำไมผู้ป่วยมะเร็งจึงขาดสารอาหาร
ผู้ป่วยที่รักษาโดยการให้ยาเคมีบำบัดมักมีปัญหาเม็ดเลือดขาวต่ำเป็นบางช่วง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ ควรระวังความสะอาดของอาหาร ได้แก่ ล้างมือให้สะอาดบ่อยๆ ก่อนรับประทานอาหาร และการหยิบอาหารสดบางประเภท เช่น เนื้อสัตว์ ปลาดิบ ไข่สด ต้องล้างมือ ทำความสะอาดอุปกรณ์ เครื่องใช้ในการปรุงประกอบอาหาร ล้างผัก ผลไม้ให้สะอาด อาหารที่ปรุงสุกแล้วเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ การรับประทานอาหารนอกบ้านควรดูแลความสะอาดเป็นพิเศษ เช่น สลัดผัก อาหารยำ น้ำแข็ง น้ำดื่มไม่สะอาด อาหารที่ปรุงสุกๆ ดิบๆ อาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัดผู้ป่วยมะเร็งที่สามารถกินอาหารได้พอสมควร ควรกินตามแนวทางการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพดีของคนไทย ดังนี้
**ในผู้ป่วยมะเร็งมีปัญหาเฉพาะด้านที่ไม่สามารถรับประทานอาหารได้ปกติ ควรปรับการรับประทานอาหารตามอาการที่ปรากฎ |