We’ve updated our privacy policy so that we are compliant with changing global privacy regulations and to provide you with insight into the limited ways in which we use your data. You can read the details below. By accepting, you agree to the updated privacy policy. Thank you! View updated privacy policy We've encountered a problem, please try again. พระพุทธศาสนา หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๒ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๓ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๔ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒ กลุ่มสาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๕ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๖ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๗ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๘ ๑_หลักสูตรวิชาพระพุทธศาสนา สอนโดย คณุ ครูพรรณดิ า สานารินทร์ ๒หน่วยการเรยี นรู้ท่ี พุทธประวตั ิ พระสาวก ศาสนกิ ชนตวั อยา่ ง และชาดก จุดประสงค์การเรยี นรู้ พทุ ธประวตั ิ การผจญมาร พระแม่ธรณีบบี มวยผม บนั ดาลให้เปน็ กระแสนาหลากมาทว่ มกองทพั พญามาร พทุ ธประวตั ิ การผจญมาร เหตกุ ารณ์ • ขณะท่ีพระสิทธัตถะกาลงั นัง่ สมาธิ เพ่ือแสวงหาหนทางดับทุกข์ พญามารนามว่า วสวัตดี มาปรากฏตัวพร้อมเสนามาร • ทันใดนัน พระแม่ธรณไี ดผ้ ดุ ขึนจากพนื ดนิ และบีบมวยผม บนั ดาลให้มกี ระแสนามาทว่ มกองทพั พญามารจนแตกพ่าย พระพทุ ธรปู ปางมารวิชัย สรา้ งขนึ เพ่อื จาลองพทุ ธประวตั ติ อนผจญมาร พุทธประวตั ิ การผจญมาร วิเคราะหเ์ หตกุ ารณ์ • พญามาร หมายถึง กิเลสที่มารบกวนพระทัยของพระสิทธัตถะในขณะนั่งสมาธิ อันได้แก่ โลภะ โทสะ • ดังนน้ั การผจญมาร กค็ ือการตอ่ สู้กับอานาจของกเิ ลส • พระแม่ธรณี หมายถึง บารมีทัง ๑๐ ทท่ี รงบาเพญ็ มา • ดังนั้น การอ้างถึงพระแม่ธรณี ก็คือทรงอ้างถึงคุณความดีที่ทรงบาเพ็ญมา เพ่ือใช้เป็นกาลังใจในการต่อสู้ พทุ ธประวัติ การตรัสรู้ พระสิทธตั ถะทรงตรัสร้เู ปน็ องค์พระสมั มาสมั พทุ ธเจ้า ศาสดาของพระพทุ ธศาสนา พทุ ธประวัติ การตรสั รู้ • เม่ือทรงออกผนวชแล้ว พระสิทธัตถะ ได้ศึกษาค้นคว้าทางพ้นทุกข์อยู่เป็นเวลา ๖ ปี จึงได้ตรัสรู้เป็น ขันที่ ๑ ทรงฝึกปฏบิ ัติโยคะ • ทรงไปขอศกึ ษาเล่าเรียนและฝึกปฏิบัติอยู่กับอาจารย์ “อาฬารดาบส กาลามโคตร” ขนั ที่ ๒ ทรงบาเพ็ญตบะ • การทรมานตนเองให้ลาบาก ตามวิธีทรมานตนเองแบบต่างๆ ท่ีนักบวชชาวอินเดียนิยม ขนั ที่ ๓ ทรงบาเพ็ญทุกกรกิริยา • ขนั ที่ ๑ การกดั ฟนั ขันท่ี ๔ ทรงบาเพ็ญเพียรทางจติ • เป็นการคิดค้นหาเหตุผลทางด้านจิตใจ เป็นขันตอนหลังจากท่ีพระองค์ทรงเลิกบาเพ็ญ พทุ ธประวตั ิ การตรสั รู้ • หลงั จากทรงพิจารณาไตร่ตรองแล้ว พบว่าการบาเพ็ญทุกกรกิริยานัน มิใช่หนทางดับทุกข์ที่แท้จริง พระสิทธัตถะ นิโรธ สมุทัย พุทธประวตั ิ อร๔ิยสจั การตรัสรู้ พทุ ธประวัติ การตรสั รู้ • ความรแู้ จ่มแจง้ นัน ได้ปรากฏขึนในพระทัยของพระองคด์ ุจมองเหน็ ด้วยตาเปล่า เปน็ ความสวา่ งโพลงภายในท่ี ยามตน้ • ทรงระลกึ ถงึ ชาติหนหลงั ของพระองคไ์ ด้ พทุ ธประวตั ิ การสั่งสอน การแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ • หลังจากทรงตรัสรู้ พระพุทธเจ้าได้เสด็จไปตรัสสอน “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” • โกณฑญั ญะ ๑ ใน ๕ ของปญั จวัคคยี ์ไดเ้ กิด “ดวงตาเห็นธรรม” และขอบวช • พระพุทธเจ้าประทานอุปสมบทให้ด้วยวิธี “เอหิภิกขุ” เกิดพระสงฆ์รูปแรกขึนในโลก พทุ ธประวตั ิ การสั่งสอน การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา • หลังจากมีพระอรหนั ตส์ าวกครบ ๖๐ รปู พระพทุ ธเจ้าทรงส่งให้แยกย้ายไปประกาศพระพุทธศาสนายังทิศต่างๆ ส่วนพระพุทธเจ้า • พระเจา้ พิมพสิ าร และชาวเมืองมคธที่นบั ถอื ชฎลิ สามพนี่ ้อง ตา่ งพากนั เลือ่ มใสในพระพทุ ธศาสนา และทรงสร้าง “วัดพระเวฬุวัน” • สุทัตตเศรษฐี หรืออนาถบิณฑิกเศรษฐี ทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าให้เสด็จไปโปรดชาวเมืองสาวัตถี และสร้าง “วัดพระเชตะวัน •
หลังจากเสด็จไปเผยแผ่พระพุทธศาสนายังแคว้นต่างๆ เป็นเวลา ๔๕ พรรษา พระพุทธเจ้าก็เสด็จดับขันธปรินิพพาน ประวตั ิพุทธสาวก พุทธสาวิกา พระสารีบุตร ประวัติ • มนี ามวา่ อปุ ติสสะ เป็นบตุ รพราหมณ์ในเมืองนาลันทา กรงุ ราชคฤห์ สัญชัยเวลฏั ฐบุตร “สารบี ุตร” และไดร้ บั การแตง่ ตังจากพระพทุ ธเจ้าใหเ้ ปน็ พระอัครสาวกเบอื งขวา คุณธรรมที่ควรถอื เป็นแบบอยา่ ง • เป็นผู้มีปัญญาหลกั แหลม ประวตั พิ ุทธสาวก พทุ ธสาวกิ า พระโมคคลั ลานะ ประวัติ • มนี ามเดมิ ว่า โกลติ ะ เปน็ บตุ รพราหมณ์หวั หน้าหม่บู ้านโกลิตคาม ได้เข้าศึกษาปรัชญาสานกั สัญชัยเวลฏั ฐบุตร พระพทุ ธเจ้าให้เป็นพระอัครสาวกเบืองซ้าย คณุ ธรรมทค่ี วรถือเปน็ แบบอย่าง • เปน็ ผู้ที่มีความอดทนยิ่ง ประวตั พิ ทุ ธสาวก พุทธสาวิกา นางขชุ ชุตตรา ประวตั ิ • เป็นหญิงค่อม ธิดาของนางนมในบ้านโฆสกเศรษฐี เมืองโกสัมพี
นางขุชชุตตรามีหน้าที่ซือดอกไม้ถวายแก่ • ไดฟ้ งั พระธรรมเทศนาจากพระพุทธเจา้ จนบรรลุโสดาปตั ตผิ ล จนในเวลาตอ่ มาไดก้ ลายเปน็ อาจารยผ์ ูแ้ สดงพระธรรม คณุ ธรรมทีค่ วรถอื เป็นแบบอยา่ ง • เปน็ ผู้ฝกึ ฝนตนเองอยเู่ สมอ ประวัติพุทธสาวก พทุ ธสาวิกา พระเจา้ พิมพสิ าร ประวัติ • พระเจา้
พิมพสิ าร เปน็ พระมหากษตั ริยแ์ ควน้ มคธ ทรงมีความเลอ่ื มใส ศรัทธาในพระพทุ ธเจ้า • พระองค์ได้ถวายสวนไผ่ เพ่อื ใช้ในการสร้างวดั เวฬุวันถวายพระพุทธเจา้ ซง่ึ ถือเปน็ วดั ในพระพุทธศาสนาแหง่ แรก คณุ ธรรมท่คี วรถือเปน็ แบบอย่าง • ทรงเป็นพระบดิ าท่ดี ขี องบตุ ร ศาสนิกชนตัวอยา่ ง พระมหาธรรมราชาลไิ ทย • ทรงเปน็ พระราชโอรสในพระยาเลอไทย พระมหากษตั ริยอ์ งค์ที่ ๕ แหง่
กรุงสุโขทัย พระพุทธศาสนาอย่างดีย่งิ ทางศาสนา การปกครอง และอักษรศาสตร์เปน็ อย่างยง่ิ ศาสนกิ ชนตวั อยา่ ง พระมหาธรรมราชาลไิ ทย ดา้ นศาสนา • ทรงมีความเช่ียวชาญทางด้านศาสนา รอบรู้พระไตรปิฎกอย่างแตกฉาน ทังอรรถกถา
ฎีกา • ทรงสง่ เสรมิ อุปถมั ภด์ า้ นการศึกษาพระพุทธศาสนาและศิลปะศาสตรต์ ่างๆ พระมหาธาตุเมืองนครชมุ • โปรดใหส้ ร้างปราสาทราชมณเฑียร ดา้ นอกั ษรศาสตร์ • ทรงพระราชนิพนธ์เร่ือง “เตภูมิกถา” หรือ “ไตรภูมิพระร่วง” อันเป็นวรรณกรรมทาง พระพุทธศาสนาเร่อื งแรกของไทย ศาสนกิ ชนตวั อย่าง พระมหาธรรมราชาลิไทย • ทรงมีความกตัญญูอย่างย่ิง พระมหาธรรมราชาลิไทย ทรงมีความรักและกตัญญูต่อพระราชมารดาของพระองค์ • ทรงมีความสามารถในการถ่ายทอดนามธรรมให้เป็นรูปธรรม เนือหาของไตรภูมิพระร่วง กล่าวถึงเร่ืองศีลธรรม • ทรงมีความคดิ ริเร่มิ เป็นยอด วเิ คราะห์ได้จากการที่ทรงบรรยายธรรมในไตรภูมิพระรว่ ง ทรงเสนอแนวคดิ ใหมๆ่ ดว้ ย เช่น ศาสนกิ ชนตวั อยา่ ง สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส • มีพระนามเดิมวา่ พระองค์เจา้ มนษุ ยนาคมานพ เมอ่ื พระชนั ษาได้ ๒๐ พรรษา และเสดจ็ ไปประทับทวี่ ัดบวรนเิ วศวิหารและวัดมกุฏกษัตริยารามตามลาดบั ศาสนกิ ชนตวั อย่าง สมเด็จพระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ผลงานสาคัญดา้ นการจัดการทางพระพทุ ธศาสนา • ทรงจดั สอนภกิ ษุสามเณรผู้บวชใหม่ ให้ได้เรียนพระธรรมวินัย และภาษาไทย ผลงานพระนิพนธ์ทางพระพทุ ธศาสนา • ทรงตังหลักสตู ร “สามเณรผรู้ ู้ธรรม” เป็นตน้ ศาสนิกชนตวั อย่าง สมเด็จพระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส • ทรงมีความใฝ่รู้ใฝ่ศึกษา พยายามเอาแบบอย่างท่ีดีจากผู้ท่ีพระองค์ประทับใจ เช่น พระยาปริยัติธรรมธาดา • ทรงมคี วามอ่อนน้อมถอ่ มตนเป็นเลศิ พระองคท์ รงเปน็ “เจา้ นาย” มาผนวช กลับไมถ่ อื องค์ ทรงกราบไหว้พระภกิ ษุ • ทรงมหี ิรโิ อตตปั ปะเปน็ เลศิ ทรงมีความละอายตอ่ การทาชว่ั ทาผดิ ทรงใชจ้ ่ายสรุ ุ่ยสุร่าย ไมร่ ูจ้ กั ประหยัด • ทรงมีความคิดริเร่ิม ฝึกพระภิกษุสงฆ์ให้มีความสามารถในการถ่ายทอดพระธรรมให้เข้าใจง่าย รวมทังทรงนิพนธ์ • ทรงมีวิสยั ทศั นก์ ว้างไกล เน่ืองจากทรงเป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่ศึกษา ทรงมีวิธีคิดท่ีแยบคาย (โยนิโสมนสิการ) อย่างครบวงจรคือ ชาดก มติ ตวินทกุ ชาดก มิตตวินทกุ ชาดก เป็นเรื่องราวของชายช่ือมิตตวินทุกะ ผู้ได้รับผลกรรมเห็นกงจักรเป็นดอกบัว เพราะเป็น ในท่สี ุดความโลภนันไดช้ กั นาใหม้ ติ ตวนิ ทกุ ะไดพ้ บเจอกับผีเปรตทมี่ กี งจกั รบดศีรษะอยู่ แต่มิตตวินทุกะกลับ ถกู กงจกั รบดศรี ษะได้รับความทรมานย่ิงนกั ซงึ่ ให้คติสอนใจ คอื โลภมาก ลาภหาย ชาดก ราโชวาทชาดก ราโชวาทชาดก เป็นเรื่องราวท่ีสั่งสอนให้ผู้นาประเทศปกครองประเทศโดยธรรม
มีความซื่อสัตย์ • ผปู้ กครองท่ีดตี อ้ งประพฤติตนเปน็ แบบอยา่ งท่ดี ี เพ่อื ใหผ้ ู้นอ้ ยปฏบิ ตั ิตาม ซง่ึ จะชว่ ยให้สงั คมสงบสุข อยอู่ ยา่ งรม่ เย็นเปน็ สุข |