การแปลงทางเรขาคณิต 50 กจิ กรรมที 4 กําหนดรูปสามเหลียม A, B, C , D , E , Fและ G ดงั นี Y 4 B D 2 4 2 0 2 46 8 10 X G 2 E 4 6 F 8 ให้นกั เรียนพิจารณาสงั เกตความสมั พนั ธ์ของรูปแตล่ ะคตู่ อ่ ไปนี แล้วอธิบายวา่ รูปหนงึ เป็นภาพทีได้จาก (1) รูป A กบั รูป B ………………………………………………………………………………………… (2) รูป A กบั รูป D ………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………… (3) รูป C กบั รูป E ………………………………………………………………………………………… (4) รูป F กบั รูป G ………………………………………………………………………………………… (5) รูป A กบั รูป E ………………………………………………………………………………………… การแปลงทางเรขาคณิต 51 ใบงานที 6 วนั ที …….. เดือน ………………… พ.ศ. …………. กําหนดรูปสามเหลียม A, B, C , D , E และ F ดงั นี 6 4 BE -10 -8 -6 -4 -2 0 2 4 6 8 10 12 14 D -4 ให้นกั เรียนอธิบายวา่ รูปหนงึ เป็นภาพทีได้จากการแปลงของอีกรูปหนงึ อยา่ งไรบ้าง ………………………………………………………………………………………… (2) รูป A กบั รูป E ………………………………………………………………………………………… (3) รูป C กบั รูป F ………………………………………………………………………………………… (4) รูป D กบั รูป E ………………………………………………………………………………………… (5) รูป B กบั รูป D ………………………………………………………………………………………… การแปลงทางเรขาคณติ 52 5. การนําไปใช้ กิจกรรมที 1 จงหาพืนทีโดยประมาณของรูปทีกําหนดให้ (1) 8 3 2 2 6. 6 (3) 11 12 1. 7 (4) 7 14. การแปลงทางเรขาคณติ 53 (5) 4. 12 (6) (7) 4 การแปลงทางเรขาคณติ 54 กจิ กรรมที 2 ศลิ ปะกบั การแปลงทางเรขาคณิต จงอาศยั รูปต้นแบบเพือ การเลือนขนาน การสะท้อน การหมนุ ในการออกแบบลวดลาย (1) (2) การแปลงทางเรขาคณติ 55 ใบงานที 7 วนั ที …….. เดือน ………………… พ.ศ. …………. 1. จงหาพืนทีโดยประมาณของรูปเรขาคณิต AB DE 7 , CE 4 , BE 3.5 A F CE D 2. กําหนดให้เส้นโค้งทงั หมด เป็ นสว่ นของเส้นรอบจงหาพืนทีโดยประมาณของสว่ นทีแรเงา 3. กําหนดให้เส้นโค้งทงั หมด เป็นสว่ นของเส้นรอบวงกลม จงหาพืนทีโดยประมาณของพืนทีสว่ นทีแรเงา 14 การแปลงทางเรขาคณิต 56 4. กําหนดให้เส้นโค้งทงั หมด เป็ นสว่ นของเส้นรอบวงกลม จงหาพืนทีโดยประมาณตอ่ ไปนี 14 5. กําหนดให้เส้นโค้งทงั หมด เป็ นสว่ นของเส้นรอบวงกลม จงหาพืนทีโดยประมาณของพืนทีสว่ นทีแรเงา 3 6. กําหนดให้เส้นโค้งทงั หมด เป็ นสว่ นของเส้นรอบวงกลม จงหาพืนทีโดยประมาณของพืนทีสว่ นทีแรเงา 2 การแปลงทางเรขาคณติ 57 7. จงหาพืนทีโดยประมาณของพืนทีสว่ นทีแรเงา 4 4 4 8. กําหนดให้ A เป็นจดุ ตดั ของเส้นทแยงมมุ ของสีเหลียมรูปใหญ่ 3 3A 9. กําหนดให้ ABCD และ OPQR เป็ นรูปสีเหลียมจตั รุ ัสมีด้านยาว 15 A BP O D CQ การแปลงทางเรขาคณิต 58 ใบงานที 8 วนั ที …….. เดอื น ………………… พ.ศ. …………. ศลิ ปะกบั การแปลงทางเรขาคณิต (1) (2) การแปลงทางเรขาคณิต 59 หนังสืออ้างองิ 1. หนงั สือเรียนรายวชิ าพืนฐาน คณิตศาสตร์ เลม่ 1 ชนั มธั ยมศกึ ษาปี ที 2 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั พืนฐาน พ.ศ. 2551 พิมพ์ครังที 1 พ.ศ. 2553 (สสวท) 2. คณิตศาสตร์ เลม่ 1 ชนั มธั ยมศกึ ษาปี ที 2 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั พืนฐาน พ.ศ. 2551 พิมพ์ครังที 1 พ.ศ. 2554 (พว) ในหัวข้อนี้เราจะพูดถึง การแปลงทางเรขาคณิต ระดั้บชั้น ม.2 ซึ่งจะพูดถึง การแปลงทางเรขาคณิตถูกแบ่งออกด้วยกัน 3 หัวข้อ
การเลื่อนขนานการเลื่อนขนานนั้นเป็นการเลื่อนรูปทางเรขาคณิตไปที่ใดที่หนึ่ง บนระบบพิกัดฉาก 2 มิติ โดยการเลื่อนขนานั้นมีคุณสมบัติ ดังนี้
การสะท้อนการสะท้อนบนระนาบเป็นการแปลงทางเรขาคณิตที่มีเส้นตรง l ที่ตรึงเส้นหนึ่งเป็นเส้นสะท้อน แต่ละจุด P บนระนาบจะมีจุด P’ เป็นภาพที่ได้จากการสะท้อนจุด P โดยที่
สมบัติของการสะท้อน
การสะท้อนบนแกน X และ Y จะทำได้โดยนับช่องตารางหาระยะระหว่างจุดที่กำหนดให้กับเส้นสะท้อนซึ่งภาพของจุดนั้นจะอยู่ห่างจากเส้นสะท้อนเป็นระยะที่เท่ากันกับระยะที่นับได้เมื่อได้ภาพของจุดนั้นแล้วจึงหาพิกัด ส่วนการสะท้อนที่ไม่ได้เกิดบนแกน X และ Y นั้นจะทำการหาได้โดยให้ลากเส้นตรงผ่านจุดที่กำหนดให้และตั้งฉากกับเส้นสะท้อน ภาพของจุดที่กำหนดให้จะอยู่บนเส้นตั้งฉากที่สร้างขึ้นและอยู่ห่างจากเส้นสะท้อนเป็นระยะเท่ากันกับจุดที่กำหนดให้อยู่ห่างจากเส้นสะท้อน เมื่อได้ภาพของจุดนั้นแล้วจึงหาพิกัด การหมุนการหมุนบนระนาบเป็นการแปลงทางเรขาคณิตที่มีจุด O เป็นจุดที่ตรึงอยู่จุดหนึ่งเรียกว่า O ว่า จุดหมุน แต่ละจุด P บนระนาบ มีจุด P’ เป็นภาพที่ได้จากการหมุนจุด P รอบจุด O ตามทิศทางที่กำหนดด้วยมุมที่มีขนาด K โดยที่
สมบัติของการหมุน
สุดท้ายนี้หวังว่าน้องๆจะได้นำความรู้จากเนื้อหา การแปลงทางเรขาคณิต ระดับชั้น ม.2 ไปใช้ และเกิดประโยชน์กับตัวน้องๆทุกคน เนื้อหาในบทนี้ อาจจะเชื่อมโยงกับเรื่องสามเหลี่ยมมุมฉาก หรือ สามเหลี่ยมคล้าย ถ้ามีโอกาสก็อยากให้น้องๆกลับไปทบทวนกันด้วยนะ |