ทรัพยากรบุคคลถือเป็นปัจจัยอันสำคัญยิ่งต่อการเติบโตของธุรกิจ เฉกเช่นเดียวกับพืชพันธุ์ที่ต้องอาศัยดินดีในการเจริญงอกงาม พนักงานกรุงไทยหลายพันคนคือส่วนสำคัญที่ช่วยให้เราประสบความสำเร็จในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ ของธนาคาร ทั้งในประเทศไทยและอีกหลายประเทศทั่วโลก ที่กรุงไทยเราเชื่อว่าการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลที่มีประสิทธิภาพเป็นหนึ่งในแรงผลักดันสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน ความสามารถในการดึงดูด รักษา และพัฒนาพนักงานที่มีความสามารถและความคล่องตัว การส่งเสริมความหลากหลาย เท่าเทียม และสุขภาวะในการทำงาน รวมถึงวัฒนธรรมการทำงานอย่างมีความรับผิดชอบ เหล่านี้ช่วยวางรากฐานที่ทั้งหนักแน่นและยืดหยุ่นให้กับธนาคาร นำไปสู่การบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาธุรกิจ ท่ามกลางบริบทของการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่ง ท่ามกลางยุคสมัยที่ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ธนาคารมีการปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานด้านการบริหารบุคลากรอยู่เสมอ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของพนักงานให้ก้าวไปพร้อมกับองค์กร การดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถ การดึงดูดบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ ธนาคารมุ่งเน้นการดึงดูดพนักงานที่มีศักยภาพเข้ามาร่วมงานกับธนาคารตั้งแต่แหล่งต้นกำเนิดในรูปแบบเชิงรุกและได้ดำเนินการเพิ่มช่องทางการสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถโดดเด่น ผ่านช่องทางการสรรหาต่าง ๆ เช่น การสรรหาบุคลากรที่มีศักยภาพสูงที่ได้รับทุนจากหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ นักเรียนทุนโครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) และโครงการทุนสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ซึ่งทำให้ธนาคารสามารถดึงดูดบุคลากรกลุ่มศักยภาพจากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ในสาขาเฉพาะทางที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนสู่การเป็นธนาคารดิจิทัล กรุงไทยรับสมัครนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยอาชีวศึกษาต่าง ๆ ทั่วประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม เพื่อเข้ารับการฝึกงานกับธนาคารและบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร เช่น บริษัท Infinitas by Krungthai และ บริษัท Arise by Infinitas เพื่อสร้างความร่วมมือและแสวงหาบุคลากรที่มีความสามารถให้มาร่วมงานกับธนาคารในอนาคต ค่าตอบแทนที่เป็นธรรม เพื่อรักษาบุคลากรที่มีความสามารถ ธนาคารมีการวิเคราะห์และทบทวนกลยุทธ์ค่าตอบแทนและสวัสดิการของพนักงานเป็นประจำทุกปี เพื่อให้แน่ใจว่าผลตอบแทนที่พนักงานได้จากธนาคารอยู่ในเกณฑ์ ที่สามารถแข่งขันได้กับองค์กรคู่เทียบแห่งอื่น ๆ ธนาคารดำเนินงานตามนโยบาย PDO (Performance Driven Organization) คือ “องค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยผลการปฏิบัติงานเป็นสำคัญ” โดยพนักงานจะได้รับผลตอบแทนสอดคล้องกับผลการปฏิบัติงานของตนเอง นอกจากนั้นธนาคารยังดูแลให้พนักงานได้รับเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมตามตำแหน่งหน้าที่ ความรับผิดชอบ และอยู่ในอัตราที่เทียบเท่ากับธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินอื่น ธนาคารจัดให้มีสวัสดิการที่หลากหลาย สามารถตอบสนองความต้องการของพนักงานได้อย่างเหมาะสม และยังมีการพิจารณาปรับเพิ่มเงินเดือนพิเศษระหว่างปีให้แก่พนักงานที่มีศักยภาพสูงของธนาคารด้วย ธนาคารมีการจ่ายเงินตอบแทนพิเศษตามผลงาน (โบนัส) เป็นเงินที่จ่ายเพื่อตอบแทนผลการปฏิบัติงานในรอบปีที่ผ่านมา เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงาน ส่งเสริมให้พนักงานมีความมุ่งมั่นในการทำงานอย่างต่อเนื่อง และรักษาบุคลากรที่มีความสามารถให้ปฏิบัติงานกับธนาคาร การรักษาพนักงานกลุ่มที่มีศักยภาพสูง ธนาคารได้พัฒนาปรับปรุงกระบวนการเก็บรักษาพนักงานกลุ่มศักยภาพสูง โดยพิจารณาจากมิติต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อความร่วมมือร่วมใจของพนักงานกลุ่มดังกล่าว ใน 6 มิติ ได้แก่
การดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถ การดึงดูดบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ ธนาคารมีระบบการบริหารผลการปฏิบัติงาน (Performance Management) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ดำเนินการอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ผลงานของพนักงานบรรลุเป้าหมายตามที่ธนาคาร หน่วยงาน และบุคคล ได้กำหนดไว้ ได้แก่
ทั้งนี้ ในปี 2565 นอกจากการประเมินผลการปฏิบัติงานตาม KPI แล้ว ธนาคารยังกำหนดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานในส่วน Contribution โดยใช้เครื่องมือ Objective and Key Results (OKRs) สำหรับกลุ่มผู้บริหารระดับสูงของธนาคาร เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนภารกิจหลักของธนาคาร หรือ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย การวางแผนอัตรากำลังเชิงกลยุทธ์ ธนาคารได้นำเครื่องมือ People Analytics ต่าง ๆ มาใช้เป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยให้ธนาคารจัดทำแผนการจัดการกำลังคนอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับกลยุทธ์ของธนาคารโดยการวิเคราะห์กลยุทธ์ระยะสั้น/ระยะยาวของธนาคารกับสถานะปัจจุบันของกำลังคนและทักษะด้านบุคลากร ทั้งนี้ ในปี 2565 นอกจากการประเมินผลการปฏิบัติงานตาม KPI แล้ว ธนาคารยังกำหนดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานในส่วน Contribution โดยใช้เครื่องมือ Objective and Key Results (OKRs) สำหรับกลุ่มผู้บริหารระดับสูงของธนาคาร เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนภารกิจหลักของธนาคาร หรือ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย กลยุทธ์การพัฒนาศักยภาพบุคลากร กรุงไทยมีแนวทางด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากร โดยมุ่งพัฒนาทักษะพนักงานใน 4 ด้าน คือ สมรรถนะหลักขององค์กร (Core Competency) สมรรถนะด้านดิจิทัล (Digital Competency) สมรรถนะด้านการเป็นผู้นำ (Leadership Competency) และสมรรถนะประจำตำแหน่งงาน (Functional Competency) ส่งผลให้ธนาคารสามารถประเมิน บริหารจัดการ และออกแบบแผนพัฒนารายบุคคล (Individual Development Plan หรือ IDP) ได้ดียิ่งขึ้น ธนาคารยังได้ทบทวนและปรับปรุงกระบวนการนี้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับบริบททางธุรกิจและนโยบายการดำเนินงานของธนาคารในปัจจุบัน ส่งผลให้จัดสรรทรัพยากรบุคคลและอัตรากำลังภายในองค์กรเป็นไปอย่างเหมาะสม ผลการดำเนินงานที่โดดเด่นด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากรในปี 2565 ธนาคารได้ประเมินประสิทธิผลของโปรแกรมการพัฒนาพนักงานที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ โดยคํานวณหาผลตอบแทนจากการลงทุนในหลักสูตรฝึกอบรม ความผูกพันและการมีส่วนร่วมของพนักงาน ธนาคารให้ความสำคัญกับการดูแลพนักงานและมุ่งเน้นการสร้างความผูกพันระหว่างธนาคารและพนักงานอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดให้มีการสำรวจความผูกพันของพนักงานที่มีต่อธนาคาร เป็นประจำทุกปี ปีละ 2 ครั้ง ซึ่งในปี 2565 ธนาคารได้ดำเนินการปรับแบบสำรวจความมุ่งมั่นในการปฏิบัติงานของธนาคารให้เหมาะสมและสามารถวัดผลได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยธนาคารได้ดำเนินการนำผลที่ได้จากการสำรวจความคิดเห็นของพนักงานมาพัฒนางานด้านทรัพยากรบุคคลให้มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับความต้องการและความคาดหวังของพนักงาน และนำมาซึ่งการกำหนดกลยุทธ์ในการเสริมสร้างความผูกพัน ทั้งในระดับภาพรวมธนาคาร และระดับสายงาน เพื่อยกระดับความมุ่งมั่นผูกพันของพนักงานให้เกิดการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม จากการสำรวจความผูกพันของพนักงานที่มีต่อธนาคาร ปี 2565 มีพนักงานให้ความร่วมมือตอบแบบสำรวจมากถึง 98.67% มีผลสำรวจในภาพรวมธนาคารเท่ากับ 91.60% อาชีวอนามัยและความปลอดภัย ธนาคารกรุงไทย ตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพและความปลอดภัยในการทำงานของพนักงาน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ตลอดจนสภาพแวดล้อมของสถานประกอบการที่ปราศจากอันตรายและความเสี่ยง ธนาคารจึงได้ยกระดับการดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เป็นไปตามมาตรฐานระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย : ISO 18001 กำหนดเป้าหมายการดำเนินงานด้านความปลอดภัย นโยบายความปลอดภัย วิสัยทัศน์ความปลอดภัย พันธกิจความปลอดภัย เป็นกรอบและแนวทางของกระบวนการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย โดยยึดถือการปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานด้านความปลอดภัย จนนำไปสู่การสร้าง “วัฒนธรรมความปลอดภัย ขององค์กร” และทำให้พนักงานรู้สึกว่า “ธนาคารคือบ้านหลังที่สอง” ธนาคารได้ส่งเสริมผลักดันนโยบายถ่ายทอดสู่การปฏิบัติของฝ่ายต่าง ๆ โดยมีระบบที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วทั้งองค์กร ทั้งสำนักงานใหญ่ ส่วนภูมิภาค และสาขา ผ่าน KTB - SSHE (KTB – Safety, Security, Health and Environment) และมีการดำเนินการที่แตกต่างกันไปตามความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในแต่ละสถานที่ทำงาน หรือสภาพแวดล้อมในการทำงานเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานให้เหมาะสม ปลอดภัย ปราศจากความเสี่ยง ผลการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย วิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยมความปลอดภัยของธนาคาร วิสัยทัศน์ “มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพของบุคลากรทั่วทั้งองค์กร สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานให้เหมาะสม ปลอดภัย ปราศจากความเสี่ยง เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่บุคลากรทั่วทั้งองค์กร” พันธกิจ
ทั้งนี้ เพื่อบรรลุเป้าหมายบ้านหลังที่สอง ธนาคารจึงได้จัดทำโครงการ KRUNGTHAI SAFETY TOGETHER ครอบคลุมการดำเนินงานทั้ง 3 เป้าหมายโดยมีขอบเขตการดำเนินงาน 3 ด้าน คือ ด้านกฎหมาย (Law) ด้านความรู้ (Knowledge) และด้านสถานที่ทำงาน (Workplace) มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพของบุคลากรทั่วทั้งองค์กร สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานให้เหมาะสม ปลอดภัย ปราศจากความเสี่ยง เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่บุคลากรทั่วทั้งองค์กร โดยโครงการนี้มีภารกิจ 4 ประการ ได้แก่
ธนาคารให้ความรู้ด้านอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานแก่พนักงานอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 ได้จัดอบรมรวมทั้งสิ้น จำนวน 7 หลักสูตร มีผู้เข้าอบรมรวมทั้งสิ้น 268 คน รายละเอียดดังนี้ .png) กระบวนการรายงานและสอบสวนอุบัติการณ์ ธนาคารกำหนดขั้นตอนรายงานการเกิดอุบัติการณ์ เพื่อให้การดำเนินงานของธนาคาร สอดคล้องกับข้อกำหนดของกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน และเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลและสถิติในการเกิดอุบัติการณ์ และเหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติการณ์ เพื่อนำไปวิเคราะห์และกำหนดแผนป้องกันรวมถึงวิธีการแก้ไข .png) ทั้งนี้ ธนาคารรายงานผลการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ต่อคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการสภาพแวดล้อมเพื่อสวัสดิภาพของพนักงาน ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากกรรมการผู้จัดการใหญ่และคณะกรรมการบรรษัทภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม และต่อคณะกรรมการธนาคาร อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ผู้บริหารฝ่ายบริหารงานวินัยและพนักงานสัมพันธ์ถูกกำหนดให้รับผิดชอบการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย โดยต้องปฏิบัติงานให้บรรลุตามดัชนีชี้วัดความสำเร็จที่เกี่ยวข้อง ยกตัวอย่างเช่น การส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพนักงาน นอกเหนือจากการยึดถือและปฏิบัติตามข้อกำหนดของ พ.ร.บ. ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 เช่น การจัดให้มีการตรวจสุขภาพประจำปี การจ่ายเงินทดแทนกรณีทุพพลภาพและเสียชีวิตอันเนื่องมาจากการทำงาน และการดูแลสถานที่ทำงานให้มีความปลอดภัย เป็นต้นแล้ว ธนาคารยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของพนักงาน ผ่านโครงการและกิจกรรมที่โดดเด่นในปี 2565 ดังนี้ ทั้งนี้ ธนาคารจัดให้มีการให้ความรู้ เสริมสร้างความเข้าใจ เรื่องอคติทางเพศและการเลือกปฏิบัติระหว่างเพศในสถานที่ทำงาน และนอกจากนี้ สำหรับการลาคลอดบุตร พนักงาน(มารดา) จะได้รับค่าจ้างเต็มจำนวนในช่วงลาคลอดรวมกันสูงสุด 98 วัน และได้สิทธิในการกลับมาทำงานในตำแหน่งเดิม หรือตำแหน่งที่ได้รับค่าตอบแทนไม่น้อยกว่าเดิม |