ฟังก์ชัน ใด ที่ ใช้ ในการ รับค่า ตัวเลข ทศนิยม

เวลาเราใช้ Excel คำนวณตัวเลข บ่อยครั้งผลลัพธ์จะออกมาเป็นตัวเลขที่หน้าตาน่าเกลียดหน่อยๆ เพราะมีทศนิยมเยอะเกินไป เช่น 1234.5465 ซึ่งในชีวิตจริงเราไม่ค่อยอยากเห็นทศนิยมเยอะขนาดนี้อยู่แล้ว ดังนั้นการปัดเศษทศนิยมได้จึงเป็นสิ่งจำเป็น

อย่างไรก็ตามการปัดเศษทศนิยมนั้นมีอยู่ 2 ลักษณะใหญ่ๆ คือ ปัดแค่การมองเห็น (ไม่เปลี่ยนค่าจริง) กับ ปัดค่าจริงๆ เลย ซึ่งการปัดแค่การมองเห็นนั้น เราสามารถกดปุ่ม Increase/Decrease Decimal ตรง Number Format ได้เลยอยู่แล้ว (คิดว่าหลายๆ คนคงทำเป็นอยู่แล้วล่ะ)

แต่ในบทความนี้ผมจะมาพูดถึงการปัดเศษทศนิยมแบบปัดค่าจริงๆ ซึ่งเราต้องใช้ฟังก์ชันมาช่วยครับ หนึ่งในฟังก์ชันที่ปัดเศษได้คือกลุ่มพวก ROUND นั่นเอง

ROUND, ROUNDUP, ROUNDDOWN

ฟังก์ชันที่ใช้บ่อยที่สุดในการปัดตัวเลขก็คือ ฟังก์ชันกลุ่ม ROUND, ROUNDUP, ROUNDDOWN นั่นเอง ซึ่งผมขอพูดถึงตัวที่เข้าใจง่ายที่สุดก่อน นั่นก็คือ ROUNDDOWN

ROUNDDOWN ปัดเศษทศนิยมทิ้งเสมอ

ฟังก์ชันนี้ มีวิธีใช้งาน คือ

=ROUNDDOWN(number,num_digits) หรือแปลได้ว่า
=ROUNDDOWN(ตัวเลขที่จะปัด,จำนวนทศนิยมที่จะให้คงไว้)

เช่น =ROUNDDOWN(1234.5465 , 2) จะได้ 1234.54 เพราะต้องการทศนิยม 2 ตำแหน่ง และการใช้ ROUNDDOWN แปลว่า ตำแหน่งที่เหลือให้ตัดทิ้งได้เลย ไม่ต้องสนใจว่าจะมีค่ามากหรือน้อยแค่ไหน

เช่น =ROUNDDOWN(1234.5465 , 1) จะได้ 1234.5 เพราะต้องการทศนิยม 1 ตำแหน่ง และการใช้ ROUNDDOWN แปลว่า ตำแหน่งที่เหลือให้ตัดทิ้งได้เลย ไม่ต้องสนใจว่าจะมีค่ามากหรือน้อยแค่ไหน

ROUNDUP ปัดเศษทศนิยมขึ้นเสมอ

ฟังก์ชันนี้ก็คล้ายๆ ROUNDDOWN แต่จะดูว่ามีตัวเลขถัดจากตำแหน่งทศนิยมที่ต้องการรึเปล่า? ถ้ามีก็จะปัดขึ้น เช่น

=ROUNDUP(1234.502,2) = 1234.51
=ROUNDUP(1234.502,1) = 1234.6

ROUND ปัดเศษทศนิยมตามหลักคณิตศาสตร์

ฟังก์ชันนี้ทำตัวผสมกันระหว่าง ROUNDUP และ ROUNDDOWN โดยจะดูว่าตัวเลขถัดจากตำแหน่งทศนิยมที่ต้องการถึงเลข 5 หรือไม่? ถ้าถึงก็จะปัดขึ้นแบบ ROUNDUP ถ้าไม่ถึง ก็จะปัดเศษทิ้งแบบ ROUNDDOWN เช่น

=ROUND(1234.5465,2) = 1234.55
=ROUND(1234.5465,1) = 1234.5

เรื่องของเรื่องคือ เจ้า ROUND, ROUNDUP, ROUNDDOWN ทั้ง 3 ตัวนี้ สามารถใส่จำนวน Digit ทศนิยมให้เป็นเลข 0 หรือ ติดลบก็ได้!! (วิธีการพิจารณาตัวถัดไปมันก็จะวิ่งย้อนกลับไปทางซ้าย) เช่น

ปัดค่าตัวเลขเป็นเลขทศนิยมตามที่ระบุ จัดรูปแบบตัวเลขเป็นรูปแบบทศนิยมที่ใช้เครื่องหมายมหัพภาคและจุลภาค และส่งกลับค่าผลลัพธ์เป็นข้อความ

ไวยากรณ์

FIXED(number, [decimals], [no_commas])

ไวยากรณ์ของฟังก์ชัน FIXED มีอาร์กิวเมนต์ดังนี้

  • หมายเลข    จำเป็น ตัวเลขที่คุณต้องการปัดเศษและแปลงเป็นข้อความ

  • ทศนิยม    ไม่จำเป็น จำนวนหลักทางด้านขวาของจุดทศนิยม

  • No_commas    ไม่จำเป็น ค่าตรรกะที่ถ้าเป็น TRUE จะป้องกันไม่ให้ FIXED รวมเครื่องหมายจุลภาคในข้อความที่ส่งกลับ

ข้อสังเกต

  • จำนวนเลขนัยสำคัญที่จะใส่ไว้ใน Microsoft Excel ห้ามมีเกินกว่า 15 หลัก แต่สามารถใส่ทศนิยมได้มากถึง 127 ตำแหน่ง

  • ถ้า Decimals เป็นค่าลบ จะเป็นการปัดค่าจำนวนไปทางซ้ายของจุดทศนิยม

  • ถ้าไม่มีการระบุค่าให้กับ Decimals ก็จะถือว่าเป็นค่า 2

  • ถ้า no_commas เป็น FALSE หรือไม่มีการระบุค่าไว้ ข้อความที่ส่งกลับจะมีเครื่องหมายจุลภาคเหมือนปกติ

  • ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างการจัดรูปแบบเซลล์ที่มีตัวเลขโดยใช้สั่ง (บนแท็บ หน้าแรก ในกลุ่มตัวเลข ให้คลิกลูกศรที่อยู่ถัดจากตัวเลขแล้วคลิกตัวเลข) และการจัดรูปแบบตัวเลขโดยตรงด้วยฟังก์ชัน FIXED คือ FIXED จะแปลงผลลัพธ์เป็นข้อความ ตัวเลขที่จัดรูปแบบด้วย สั่ง เซลล์ ยังคงเป็นตัวเลข

ตัวอย่าง

คัดลอกข้อมูลตัวอย่างในตารางต่อไปนี้ และวางในเซลล์ A1 ของเวิร์กชีต Excel ใหม่ เพื่อให้สูตรแสดงผลลัพธ์ ให้เลือกสูตร กด F2 แล้วกด Enter ถ้าคุณต้องการ คุณสามารถปรับความกว้างของคอลัมน์เพื่อดูข้อมูลทั้งหมดได้

ฟังก์ชัน ROUND จะปัดเศษตัวเลขตามจำนวนหลักที่กำหนด ตัวอย่างเช่น ถ้าเซลล์ A1 มีค่า 23.7825 และคุณต้องการที่จะปัดเศษค่าดังกล่าวให้เป็นทศนิยมสองตำแหน่ง คุณสามารถใช้สูตรดังต่อไปนี้

=ROUND(A1, 2)

ผลลัพธ์ของฟังก์ชันนี้จะเท่ากับ 23.78

ไวยากรณ์

ROUND(number, num_digits)

ไวยากรณ์ของฟังก์ชัน ROUND มีอาร์กิวเมนต์ดังนี้

  • number    (ต้องระบุ) ตัวเลขที่คุณต้องการปัดเศษ

  • num_digits    (ต้องระบุ) จำนวนหลักทศนิยมที่คุณต้องการปัดเศษ

ข้อสังเกต

  • ถ้า num_digits มีค่ามากกว่า 0 (ศูนย์) ตัวเลขจะถูกปัดเศษตามจำนวนตำแหน่งทศนิยมที่ระบุ

  • ถ้า num_digits มีค่าเท่ากับ 0 ตัวเลขจะถูกปัดเศษให้เป็นจำนวนเต็มที่ใกล้ที่สุด

  • ถ้า num_digits มีค่าน้อยกว่า 0 ตัวเลขจะถูกปัดเศษไปทางซ้ายของจุดทศนิยม

  • เมื่อต้องการปัดเศษขึ้นเสมอ (ให้ค่าห่างจากศูนย์) ให้ใช้ฟังก์ชัน ROUNDUP

  • เมื่อต้องการปัดเศษลงเสมอ (ให้ค่าเข้าใกล้ศูนย์) ให้ใช้ฟังก์ชัน ROUNDDOWN

  • เมื่อต้องการปัดเศษของตัวเลขให้ใกล้เคียงผลคูณเฉพาะ (ตัวอย่างเช่น เมื่อต้องการปัดเศษให้ใกล้เคียง 0.5 มากที่สุด) ให้ใช้ฟังก์ชัน MROUND

ตัวอย่าง

คัดลอกข้อมูลตัวอย่างในตารางต่อไปนี้ และวางในเซลล์ A1 ของเวิร์กชีต Excel ใหม่ เพื่อให้สูตรแสดงผลลัพธ์ ให้เลือกสูตร กด F2 แล้วกด Enter ถ้าต้องการ คุณสามารถปรับความกว้างของคอลัมน์เพื่อดูข้อมูลทั้งหมด