ทำไม Blockchain ถึงได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา? ส่งผลให้ธุรกิจด้าน Blockchain เกิดการเติบโตมากมายโดยเฉพาะในตลาด DeFi หรือคริปโต และในบทความนี้ SCB 10X มานำเสนอคุณสมบัติเด่นของ Blockchain ที่นำพาให้เทคโนโลยีแห่งอนาคตมาสู่ความนิยมในทุกวันนี้ Show ภาพรวมของ Blockchain
เหตุใด Blockchain จึงมีความสำคัญ
เครือข่าย Blockchain สามารถติดตามบัญชี คำสั่งซื้อ การชำระเงิน การผลิต และอื่นๆ อีกมากมาย และสามารถดูรายละเอียดทั้งหมดของการทำธุรกรรมได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้ผู้คนมีความมั่นใจมากขึ้น ไปจนถึงประสิทธิภาพและโอกาสใหม่ๆ ที่ตามมา ลักษณะเด่นที่สำคัญของ Blockchain ที่อาจเข้ามาแทนที่ระบบการเงินแบบดั้งเดิม
วิธีการทำงานของ Blockchain คืออาศัยการบันทึกข้อมูลเป็นรายการแบบต่อเนื่องเป็นสาย ข้อมูลที่ได้รับการบันทึกอยู่ในสายพร้อมกับทำการเข้ารหัสใหม่ทุกครั้งที่มีรายการข้อมูลเพิ่มเติมเข้าไป อีกทั้งข้อมูลที่ถูกต้องจะได้รับการเข้ารหัสซ้อนเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่เกิดธุรกรรม ทั้งยังกระจายสำเนาไปยังหลายๆ Node ในระบบเพื่อยืนยันความถูกต้อง ด้วยวิธีการนี้ทำให้ Blockchain เก็บข้อมูลไว้โดยที่ไม่มีใครสามารถแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือแทรกแซงรายการข้อมูลที่ถูกบันทึกไปแล้วได้ หากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลจำเป็นต้องทำธุรกรรมใหม่เพิ่มเข้าไปเท่านั้น วิธีดังกล่าวช่วยให้ Blockchain ป้องกันการโจมตีในลักษณะบิดเบือนระบบเพื่อกำหนดการทำธุรกรรมตามใจชอบได้
อีกหนึ่งวิธีการทำงานของ Blockchain ที่โดดเด่นมากคือการใช้หลักการกระจายศูนย์หรือ Decentralization หลักการนี้เปิดให้ผู้ใช้มีสิทธิ์เต็มที่ในการใช้งานระบบตามลักษณะหรือขอบเขตบริการของ Blockchain นั้นโดยไม่จำเป็นต้องผ่านการรับรองจากหน่วยงานกลางใดๆ หากอธิบายให้ง่ายคือผู้ใช้สามารถเก็บ Cryptocurrency, Digital Asset หรือแม้แต่ไฟล์เอกสาร และ Digital Art ต่างๆ บน Blockchain และเข้าถึงทั้งหมดนี้ที่ไหนก็ได้เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต ทั้งยังควบคุมสินทรัพย์นั้นผ่าน Private Key แนวคิดดังกล่าวเกิดขึ้นด้วยเทคโนโลยี Blockchain และได้ขับเคลื่อนโลกการเงินสู่แนวคิด Decentralized Finance ซึ่งผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้โดยไม่ต้องผ่านการช่วยเหลือจัดการโดยธนาคารหรือสถาบันการเงินนั่นเอง
เมื่อพูดถึง Blockchain เรามักได้ยินคำว่าปลอดภัยสูงควบคู่กันมา แต่มีน้อยคนที่จะรู้ถึงสาเหตุความปลอดภัยของมัน ซึ่งจริงๆ แล้ว Blockchain เป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยมากที่สุดด้วยการใช้วิธีการเข้ารหัสแบบ Cryptography ซึ่งเป็นวิธีการแปลงข้อมูลเป็นรหัสเฉพาะผ่านการคำนวณโดยคอมพิวเตอร์ หากข้อมูลเป็นชุดเดียวกันทั้งหมด รหัสที่ออกมาจะเหมือนกันทั้งหมด แต่หากข้อมูลมีการดัดแปลงแม้เพียงส่วนเดียว รหัสทั้งหมดจะเปลี่ยนไป ดังนั้น การดัดแปลงข้อมูลและสวมรอยเพื่อบิดเบือนธุรกรรมเข้าไปใน Blockchain จึงเป็นไปได้ยากมาก อีกทั้งยังป้องกันการสอดส่องข้อมูลด้วยการเข้ารหัสดังกล่าว เพราะรหัสไม่สามารถย้อนกลับเป็นข้อมูลได้โดยง่าย และมีเพียงผู้ใช้เท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้ด้วย Private Key และทำการส่งต่อข้อมูลได้ด้วย Public Key
Blockchain เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มที่ด้วยการเป็นตัวเชื่อมโยงเครือข่ายข้อมูลดิจิทัลที่เข้าถึงได้เพียงเข้าถึงอินเทอร์เน็ต พร้อมกับมี Ecosystem ที่อำนวยความสะดวกด้านการจัดการธุรกรรมและความปลอดภัยอย่างเป็นอัตโนมัติ การทำธุรกรรมบน Blockchain จึงมีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่น้อยกว่า ยกตัวอย่างเรื่องการส่งเงินข้ามประเทศ เดิมทีเราต้องพึ่งพาตัวแทนผู้ให้บริการซึ่งอาจกินเวลาดำเนินธุรกรรมให้เราเป็นวัน แต่หากเราส่งเงินผ่าน Blockchain ระบบจะสามารถดำเนินการเรียบร้อยใน 30 นาทีหรือเร็วกว่านั้น การสร้างกระบวนการให้เกิดความเร็วดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญของโลกการเงินซึ่งกำลังจะเปลี่ยนแปลงสู่ยุค Decentralized Finance ในเร็ววันนี้ และข้อเท็จจริงที่สนใจอีกประการหนึ่งคือระบบสัญญาอัจฉริยะ หรือ Smart Contract ซึ่งจะทำให้การชำระบัญชีเร็วขึ้นไม่ว่าจะเป็นสัญญาประเภทใด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในประโยชน์ที่ดีที่สุดของคุณสมบัติเด่นของ Blockchain จนถึงทุกวันนี้ รวมถึงยังตัดตัวกลางหรือ Third Party ออกไปก็ช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งเงินได้โดยเสียค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น? สรุป
ลักษณะการทํางานของเทคโนโลยี Blockchain มีความสําคัญอย่างไรBlockchain คือเทคโนโลยีการประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ หรือที่เรียกว่า Distributed Ledger Technology (DLT) ซึ่งเป็นรูปแบบการบันทึกข้อมูลที่ใช้หลักการ Cryptography ร่วมกับกลไก Consensus โดยข้อมูลที่ถูกบันทึกในระบบ Blockchain นั้นจะสามารถทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ยาก ช่วยเพิ่มความถูกต้อง และความน่าเชื่อถือของ ...
ลักษณะการทํางานของเทคโนโลยี Blockchain มีกี่ลักษณะ และมีความสําคัญอยางไรลักษณะการทำงานของ Blockchain. 1. A ต้องการโอนเงิน (ส่งข้อมูล) ไปให้ B ผ่านเลขบัญชี โดยใช้ Private key+Password และ Public Key: ... . 2. เก็บ Transaction ไว้ใน Public Ledger : ... . 3. ยืนยันความถูกต้องโดย Miner และต้องไม่ถูกคัดค้านจากผู้ใช้ : ... . 4. เพิ่ม Block นั้นเข้าไปยัง Chain: ... . 5. เงินถูกถ่ายโอนและอัพเดทข้อมูลแก่ผู้ใช้. Blockchain มีลักษณะอย่างไรBlockchain คือ ระบบโครงข่ายในการเก็บบัญชีธุรกรรมออนไลน์ ซึ่งมีลักษณะเป็นเครือข่ายใยแมงมุมที่เก็บสถิติการทำธุรกรรมทางการเงินและสินทรัพย์ชนิดอื่นๆในอนาคต โดยไม่มีตัวกลางคือสถาบันการเงินหรือสำนักชำระบัญชี นั่นก็คือระบบ Blockchain จะไม่มีตัวกลางอย่างที่เคยเป็นมานั่นเอง จึงเท่ากับว่า Blockchain เป็นระบบโครงข่ายในการทำ ...
บล็อกเชนกับบิตคอยน์มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรซึ่งก็จะเห็นได้ว่า Bitcoin (บิทคอยน์) กับ Blockchain (บล็อกเชน)นั้นไม่ใช่สิ่งเดียวกันแต่ก็มีความสัมพันธ์กันเป็นอย่างยิ่ง เพราะเทคโนยีBlockchain (บล็อกเชน)นั้นถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยกับการจัดการสกุลเงิน Bitcoin (บิทคอยน์)
|