พระสังฆคุณ Show พระธรรมเทศนา อุชุปฏิปนฺโน ปฏิบัติแล้วตรงคือปฏิบัติมุ่งตรงต่อพระนิพพานไม่วอกแวกไปทางอื่น ปฏิบัติเพื่อละโทษคดโกงทางกาย วาจา ใจ ญายปฏิปนฺโน ปฏิบัติมุ่งเพื่อรู้ธรรมที่จะออกจากภพ 3 โดยแท้ สามีจิปฏิปนฺโน ปฏิบัติอย่างดีเลิศ เพราะท่านปฏิบัติเพื่อบรรลุถึงพระนิพพานจริงๆไม่ใช่เพื่อเหตุอื่น จึงสมควรนับว่าเป็นการปฏิบัติอย่างดีเลิศ
2. อุชุปฏิปันโน แปลว่า ท่านตั้งใจปฏิบัติตรง คือขั้นต้นก็ปฏิบัติเพื่อกำจัดความ คดโกงนอกลู่นอกทางทั้งทางกาย วาจา และใจ จากนั้นก็มุ่งตรงต่อพระนิพพาน แม้จะล่วงเลยข้ามไปกี่ภพกี่ชาติท่านก็ไม่เปลี่ยนใจ ยังมุ่งตรงต่อพระนิพพานอยู่นั่นเอง 3. ญายปฏิปันโน แปลว่า ท่านตั้งใจปฏิบัติเพื่อให้รู้เห็นธรรมสำหรับจะนำพาตัวท่าน ออกพ้นไปให้ได้จากภพ 3 คือ กามภพ รูปภพ และอรูปภพ ซึ่งเปรียบเสมือนคุกใหญ่ใช้กักขังสัตว์โลก 4.สามีจิปฏิปันโน แปลว่า ท่านตั้งใจปฏิบัติอย่างเหมาะสมดีเลิศ ในธรรมวินัยทั้งน้อยใหญ่ คือไม่หละหลวม ดูเบาแม้ในธรรมเล็กน้อย และยอมทุ่มเทเอาชีวิตเป็นเดิมพันในธรรมที่ปฏิบัติได้โดยยาก เช่น การเข้าฌาน เป็นต้น
อาหุเนยฺโย จึงเป็นผู้ควรเคารพสักการะ ควรรับจตุปัจจัยของที่เขานำมาสักการะถวายแม้จากแดนไกล ปาหุเนยฺโย จึงเป็นผู้ควรต้อนรับ แม้ด้วยของประณีตที่เตรียมไว้รับแขก ทกฺขิเนยฺโย จึงเป็นผู้ควรรับของที่เขาทำบุญ อฺชลีกรณีโย จึงสมควรกราบไหว้ อนุตฺตร ปฺุญกฺเขตฺตํ โลกสฺสะ เป็นเนื้อนาบุญอันเลิศไม่มีอื่นจะดีกว่าอีกแล้ว ใครทำบุญกับท่านย่อมได้บุญเยอะ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงได้ทรงสอนให้ชาวโลกทั้งหลาย รู้จักตักตวงบุญจากท่านให้ได้เต็มที่ ด้วยการประพฤติปฏิบัติอย่างเหมาะสม 5 ประการ คือ 1. อาหุเนยโย ต้องรู้ว่าท่านเป็นผู้ควรเคารพสักการะอย่างยิ่งหากได้พบท่าน ณ ที่ใดๆ ให้รีบนำจตุปัจจัยที่ประณีตเหมาะสมมาสักการะ คือถวายบำรุงท่าน เป็นการช่วยหล่อเลี้ยงกายเนื้อของท่านให้ได้รับความสุข ความสะดวกพอสมควรแล้ว ท่านจะได้เมตตาชี้แนะอบรมสั่งสอนให้ 2. ปาหุเนยโย ต้องรู้ว่าท่านเป็นผู้ควรต้อนรับยิ่งกว่าแขกผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย ที่นั่ง ข้าว น้ำ อาหาร และความสะดวกสบายใด ๆ ที่ควรแก่ท่านต้องรีบจัดหามาต้อนรับ เพราะนี่เป็นโอกาสทอง ของเราแล้วที่จะได้ทำบุญใหญ่และได้ฟังธรรมจากท่านโดยไม่ต้องไปไกลถึงวัดของท่าน 3. ทักขิเนยโย ต้องรู้ว่าท่านคือผู้ควรอย่างยิ่งที่จะรับของที่เราเตรียมไว้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เพราะท่านคือผู้ที่สามารถรู้เห็น อย่างทะลุปรุโปร่งว่า ผู้ที่เราต้องการทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้นั้น บัดนี้ตายแล้วไปบังเกิดใหม่ ณ ภพภูมิใด ๆ เมื่อเราทำบุญกับท่านแล้ว ท่านจะได้แจ้งข่าวการบุญการกุศลของเราให้แก่ผู้ที่ล่วงลับทราบโดยตรงเขาเหล่านั้น เมื่อทราบชัดเจนย่อมอนุโมทนาถูกต้อง และได้รับผลบุญใหญ่ทันทีตามเจตนารมณ์ของเรา 4. อัญชลีกรณีโย ต้องรู้ว่าท่านเป็นผู้ควรกราบไหว้อย่างยิ่ง เพราะเมื่อเรากราบไหว้ท่านด้วยความเต็มใจ ย่อมเป็นการเปิดใจตนเองให้พร้อมที่จะน้อมรับคำสั่งสอนที่อุดมไปด้วยอมตธรรมสามารถน้อมนำใจให้หยุดนิ่ง เข้าถึงธรรมกายและบรรลุอริยธรรมตามท่านไปได้โดยง่าย แม้นิสัยบารมียังอ่อนอยู่ไม่สามารถจะบรรลุธรรมในขณะนั้น ก็สามารถน้อมนำให้บังเกิดศรัทธามั่นคงในพระรัตนตรัย เป็นการปิดอบายให้กับตนเองอย่างชาญฉลาดและมั่นคง 5. อนุตตรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสะ ต้องรู้ว่าท่านผู้นี้แหละเป็นเนื้อนาบุญอันเลิศไม่มีศาสดาใด ๆ ในโลกจะยิ่งใหญ่กว่าท่านอีกแล้ว เพราะท่านสามารถปราบกิเลสได้เด็ดขาดด้วยธรรมกายของท่าน ทำให้ทั้งกายทั้งใจของท่านบริสุทธิ์ผุดผ่อง และสามารถผลิตกระแสบุญได้อย่างมากมายมหาศาล ไม่มีที่สิ้นสุด ดวงอาทิตย์สามารถผลิตแสงสว่างและความร้อนอย่างต่อเนื่องและมากมายมหาศาลไม่มีประมาณฉันใด พระอริยเจ้าทั้งหลายย่อมสามารถผลิตบุญและความดีทั้งหลายอย่างมากมายมหาศาลและต่อเนื่องไม่มีประมาณยิ่งกว่าฉันนั้นดวงอาทิตย์แม้จะให้ความร้อนและแสงสว่างได้มากมายมหาศาลก็เฉพาะในเวลากลางวันแต่พระอริยเจ้าท่านให้บุญและความดีแก่ชาวโลกได้ทั้งกลางวันกลางคืนไม่มีว่างเว้น หากบุญเปรียบเหมือนกระแสไฟฟ้า ใครทำบุญกับพระอริยเจ้า ก็เหมือนเอาปลักบุญขนาดยักษ์ไปต่อกระแสบุญจากท่านเข้ามาในตัว ย่อมได้บุญมาก หากบุญเปรียบเหมือนน้ำในมหาสมุทร ใครทำบุญกับพระอริยเจ้าก็เหมือนเอาท่อบุญขนาดยักษ์ไปสูบเอากระแสบุญมาจากท่าน ย่อมได้บุญมาก หากบุญเปรียบเหมือนพืชพันธุ์ธัญญาหาร ซึ่งต้องหว่าน ต้องปลูก จึงจะบังเกิดขึ้นได้ใครทำบุญกับพระอริยเจ้าก็เหมือนกับหว่านหรือปลูกพืชพันธุ์บุญลงไปในเนื้อนาบุญชั้นเลิศย่อมได้บุญไม่มีที่สุดประมาณ
พระธรรมเทศนา การปฏิบัติเท่านั้น แนวปฏิบัติอย่างไหนถูกพระองค์สอนไว้ละเอียดหมดแล้วปัญหาจึงเหลือแต่ว่าพวกเราจะปฏิบัติกันจริงหรือไม่เท่านั้น ดังที่พรรณนามานี้ ก็จะเห็นคำตอบในปัญหาข้างต้นได้แล้วว่า เพียงแต่จะท่องจำ อิติปิโส ภควาฯ ไว้ หรือเพียงแต่ระลึกถึงพระคุณเหล่านั้นไว้ จะยังไม่พอแก่พระประสงค์ของพระองค์ กิจที่เราควรทำอย่างยิ่งจึงอยู่ที่การปฏิบัติของท่านตามแนวปฏิบัติของท่าน ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา นี้ เรียกว่า "อิทธิบาท 4" เป็นหัวใจแห่งความสำเร็จทั้งมวล แปลอย่างจำได้ง่ายว่า ปักใจ บากบั่น วิจารณ์ ทดลอง ไม่ว่าจะทำกิจการใด ถ้าประกอบด้วย 4 อย่างนี้ เป็นสำเร็จทั้งสิ้น ว่าโดยเฉพาะในการบำเพ็ญภาวนา 1) ต้องปักใจรักการนี้จริง ๆ ประหนึ่งชายหนุ่มรักหญิงสาว ใจจดจ่อต่อหญิงคู่รักฉะนั้น 2) ต้องบากบั่นพากเพียรเอาจริงเอาจัง 3) วิจารณ์ตรวจดูการปฏิบัติให้ถูกต้องตามแนวสอนของอาจารย์ให้ดีที่สุด 4) ทดลองในที่นี้ได้แก่หมั่นใครครวญสอดส่องดูว่า วิธีการที่ทำไปนั้นมีอะไรขาดตกบกพร่องบ้าง รีบแก้ไข อย่างนั้นไม่ดีเปลี่ยนอย่างนี้ ลองดูใหม่ เช่น นั่งภาวนาในที่นอนมักจะง่วง ก็เปลี่ยนมานั่งเสียที่อื่น เป็นต้น ข้อสำคัญให้ยึดแนวสอนเป็นหลักไว้ อย่าออกนอกทาง 4 อย่างนี้เรียกว่า "อิทธิบาท เป็นเครื่องที่จะช่วยให้เกิดความสำเร็จในกิจทั้งปวง"
เพียงพระคุณที่ท่านได้ทุ่มเทชีวิตย้อนกลับไปค้นเอาวิธีการปฏิบัติธรรม เพื่อเข้าถึงธรรมกายกลับมา เป็นผลให้ชาวโลกสามารถปราบกิเลสที่ทั้งหมักดอง ห่อหุ้ม ครอบงำ กัดกร่อนบีบคั้น บังคับใจจนสิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ พ้นจากความทุกข์ในการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารได้เราก็ยากที่จะหาสิ่งใดที่มีคุณค่าเพียงพอที่จะตอบแทนพระคุณของท่านได้ตรงตามความรู้สึกตรงตามจิตสำนึกที่เราซาบซึ้ง แต่ด้วยกำลังสติปัญญาที่เราพอมีอยู่ ก็พอจะทำให้เรามองออกว่า การจะบูชาคุณของท่านในยามที่ท่านได้ล่วงลับไปแล้วได้อย่างดีที่สุดก็คือ การที่ตัวเราเอง ผู้อยู่ในฐานะที่เป็นลูกศิษย์หลานศิษย์ของท่าน ตั้งใจฝึกฝน พากเพียร ทุ่มเท จนสามารถปฏิบัติธรรมได้เข้าถึงธรรมกายภายใน และอาศัยธรรมกายที่เข้าถึงไปปราบกิเลสที่หมักดอง ห่อหุ้ม ครอบงำ กัดกร่อน บีบคั้นใจของเราได้หมดสิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ เพราะสิ่งเหล่านี้ในสมัยที่พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำท่านมีชีวิตอยู่นั้น ท่านให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ยิ่งกว่าชีวิตของท่านเองเสียอีก จนปรากฏเป็นประวัติศาสตร์ชีวิตของท่านว่า แม้ว่าบางครั้งท่านต้องได้รับทุกขเวทนาเพราะอาพาธ ล้มป่วยลง ท่านก็ยังไม่ยอมที่จะหยุดพร่ำ อนบรรดาลูกศิษย์ลูกหาของท่านแม้แต่น้อย ด้วยปรารถนาที่จะเห็นลูกศิษย์ได้เข้าถึงความละเอียดที่ทับทวีเข้าไปตามลำดับ ๆ ของธรรมกายภายใน เพราะฉะนั้น การบูชาคุณของท่านที่ประเสริฐและทรงคุณค่าที่สุดในโลกก็คือเราทุกคนต้องพากเพียรปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงธรรมกายให้ได้ส่วนใครที่ปฏิบัติจนได้เข้าถึงธรรมกายภายในแล้ว ก็จงเพียรพยายามฝึกให้ละเอียดลุ่มลึกยิ่ง ๆ ขึ้นไป จนกว่าจะไปถึงที่สุดของความรู้ภายในนั้น ขณะเดียวกัน ก็ช่วยกันแผ่ขยายคำสอนของท่านให้กว้างไกลขจรขจายออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ให้วิธีการปฏิบัติธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ท่านย้อนไปค้นไปคว้ากลับคืนมาด้วยชีวิต ได้เป็นที่รู้จักและปฏิบัติตามกันไปถ้วนทั่วทุกคนในโลกเช่นนั้นแหละ จึงจะเป็นการบูชาพระคุณของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำอย่างสูงสุด *----------------------------------------------------------------------------------------------------------* สังฆคุณหมายถึงอะไรมีความสำคัญอย่างไรสังฆคุณ หมายถึง คุณของพระสงฆ์ ในที่นี้ท่านหมายถึงพระสงฆ์ผู้บรรลุโลกุตตรธรรมตั้งแต่ชั้นโสดาบันเป็นต้นไป เรียกเต็มว่า พระอริยสงฆ์ คุณ ๔ ข้อต้น เป็นคุณประโยชน์ส่วนตัวของท่าน คุณ ๕ ข้อหลัง เป็นคุณประโยชน์ที่เกื้อกูลต่อผู้อื่นรวมเป็น ๙ ประการ คือ
พระสังฆคุณมีอะไรบ้างสังฆคุณ 4 บท คือ สุปฏิปันโน (เป็นผู้ปฏิบัติดี) อุชุปฏิปันโน (เป็นผู้ปฏิบัติตรง) ญายปฏิปันโน (เป็นผู้ปฏิบัติถูกทาง) สามีจิปฏิปันโน (เป็นผู้ปฏิบัติสมควร)
สังฆคุณ 9 หมายถึงอะไรมีประโยชน์อย่างไรสังฆคุณ 9 หมายถึง คุณของพระสงฆ์ ความดีได้รับยกย่องมาตังแต่ครังพุทธกาล คือ และ 5 ประการหลังเป็นผลดังต่อไปนี 1. สุปฏิปนฺโน: เป็นผู้ปฏิบัติดี ไม่ตึงนัก ปฏิบัติไม่ถอยหลัง ปฏิบัติได้ดีเท่าเดิม หรือ พระพุทธเจ้า
ในสังฆคุณ 9 ประการ ข้อใดที่หมายถึง “เป็นผู้แก่การกราบไหว้8. อญฺชลิกรณีโย แปลว่า เป็นผู้ควรแก่การกราบไหว้ หมายถึงพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ เป็นผู้บริสุทธิ์ ย่อมตั้งอยู่ในฐานะที่ควรแก่กระทำอัญชลีคือการกราบไหว้ให้ความเคารพ ยกย่อง
|