วิธีการลดการใช้พลังงาน มี 8 ข้อ อะไรบ้าง

ค่าไฟ เป็นอีกหนึ่งค่าใช้จ่ายรายเดือนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งยังคำนวณได้ยากว่าในแต่ละเดือนนั้นจะต้องจ่ายเท่าไหร่ ยิ่งในช่วงที่อากาศร้อนจัดนั้นค่าไฟก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้น จะมีวิธีการไหนที่ช่วยลดค่าไฟในบ้านได้บ้างไหมนะ?

 

เพราะฉะนั้น บทความนี้จึงจะมาแนะนำ 10 เคล็ดวิธีประหยัดไฟฟ้าแบบเรียบง่าย ที่จะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าและประหยัดค่าใช้จ่ายของคุณได้เป็นอย่างดี จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย!

หยุดเพิ่มรายจ่ายที่มากับค่าไฟฟ้า โดยที่คุณไม่รู้ตัว

การใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้าของครัวเรือนไทยในปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา จากข้อมูลการใช้ไฟฟ้าครัวเรือนโดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) พบว่าภาคครัวเรือนมีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยอาจเกี่ยวเนื่องกับอุณหภูมิของประเทศไทยที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2562 ทำให้มีการใช้เครื่องปรับอากาศมากขึ้น และระยะเวลายาวนานขึ้นนั่นเอง

โดยก่อนที่เราจะเริ่มประหยัดไฟฟ้า เรามาทำความเข้าใจหลักการคำนวณค่าไฟฟ้าเบื้องต้นกันก่อนดีกว่า

 

วิธีการลดการใช้พลังงาน มี 8 ข้อ อะไรบ้าง

 

การคำนวณค่าไฟฟ้าเบื้องต้น

ก่อนที่จะไปรู้ถึงวิธีประหยัดไฟฟ้าที่เป็นวิธีลดค่าไฟที่ได้ผลจริงนั้น มาทำความรู้จัก และเข้าใจการคำนวณค่าไฟฟ้าเบื้องต้นกันก่อน โดยการคิดค่าไฟฟ้าประเภทต่างๆ ของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) นั้นสามารถคิดได้เหมือนกัน ซึ่งการใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนจะจัดเป็นประเภทที่ 1 และมีสูตรพร้อมค่าต่างๆ ในการคำนวณ ดังนี้ 

ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละเครื่องในบ้านของคุณนั้นใช้ไฟจำนวนกี่วัตต์ และดูจำนวนชั่วโมงที่ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้านั้นๆ ในแต่ละวัน เช่น 

 

  • เครื่องปรับอากาศ ใช้กำลังไฟ 1,570 วัตต์ เมื่อเปิดใช้งาน 8 ชั่วโมง
  • ไดร์เป่าผม ใช้กำลังไฟ 2,400 วัตต์ เมื่อเปิดใช้งาน 1 ชั่วโมง
  • หม้อทอดไร้น้ำมัน ใช้กำลังไฟ 1,500 วัตต์ เมื่อเปิดใช้งาน 30 นาที

 

จากนั้นนำตัวเลขทั้งสองอย่าง มาคำนวณเพื่อหาจำนวนหน่วยไฟฟ้าที่ใช้ในแต่ละเดือน โดยใช้สูตรตามวิธีด้านล่าง ดังนี้

สูตรการคำนวณ กำลังไฟฟ้า (วัตต์) = พลังงานไฟฟ้า (จูล) ÷ เวลา (วินาที) = P = W÷T
พลังงานไฟฟ้า (ยูนิต) = กำลังไฟฟ้า (วัตต์) x เวลา (ชั่วโมง) ÷ 1000
ดังนั้น ค่าไฟฟ้า = จำนวนยูนิต x อัตราค่ากระแสไฟฟ้าต่อหน่วย

 

เมื่อลองคำนวณค่าไฟฟ้าดูแล้ว หลายๆ คนคงจะเห็นค่าไฟฟ้าคร่าวๆ แล้วว่าในแต่ละวันคุณใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนไปเท่าไหร่ และต้องจ่ายค่าไฟมากขนาดไหน คราวนี้มาดูวิธีประหยัดไฟฟ้ากันเลย!

 

วิธีการลดการใช้พลังงาน มี 8 ข้อ อะไรบ้าง

 

10 วิธีง่ายๆ ช่วยลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าภายในบ้าน 

เมื่อได้ทราบการคำนวณค่าไฟคร่าวๆ แล้ว ทีนี้เรามาดูกันว่า 10 วิธีที่จะช่วยให้คุณประหยัดไฟฟ้าได้นั้นมีอะไรบ้าง นอกจากจะช่วยโลกแล้ว ยังช่วยเซฟค่าใช้จ่ายในกระเป๋าสตางค์ของคุณอีกด้วย!

1. การเปลี่ยนมาใช้ Smart Home ระบบบ้านอัจฉริยะประหยัดพลังงาน

ในยุคนี้ที่เทคโนโลยีใหม่ๆ ผุดขึ้นมามากมาย ทำให้มีนวัตกรรมต่างๆ ให้เลือกใช้งานมากขึ้น รวมถึงระบบ Smart Home ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับบ้าน หรือที่เรียกกันว่าระบบบ้านอัจฉริยะ เป็นทางเลือกที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการให้บ้านเป็นมากกว่าที่พักอาศัย แต่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้ครบทุกรูปแบบ

 

อย่างเช่นนวัตกรรมที่สามารถควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้ผ่านแอปพลิเคชัน ถึงแม้เจ้าของบ้านจะไม่อยู่บ้าน ก็สามารถควบคุมปิด-เปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้ในกรณีที่ลืมปิด หรือนวัตกรรมเพื่อการประหยัดพลังงาน ที่ระบบสามารถตั้งค่าให้ระบบไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น เครื่องปรับอากาศ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ หยุดทำงาน เมื่อไม่พบคนอยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งถือว่าเป็นวิธีประหยัดไฟฟ้าได้ดีเลยทีเดียว 

2. ให้ความสำคัญของการเลือกซื้อและใช้หลอดไฟ

วิธีประหยัดไฟฟ้าอีกหนึ่งอย่าง คือ การเลือกใช้หลอดไฟที่ช่วยประหยัดไฟ ซึ่งหลอดไฟที่ประหยัด และคุ้มค่าที่สุดในปัจจุบัน คือ หลอดไฟแอลอีดี (LED) เพราะสามารถประหยัดพลังงานได้ถึง 90% เมื่อเทียบกับหลอดไฟแบบอื่น ทั้งยังมีอายุการใช้งานที่มากกว่าหลอดไฟแบบหลอดไส้ถึง 15 เท่า นอกจากนี้หลอดไฟแอลอีดี (LED) ยังปลอดภัยต่อผิวของคุณ และให้แสงสว่างที่ชัดเจนอีกด้วย 

3. อย่าลืมว่าตู้เย็นกินไฟมากที่สุด

ยิ่งอากาศร้อน ตู้เย็นยิ่งทำงานหนัก และทำให้กินไฟมากที่สุดในบรรดาเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เพื่อรักษาความเย็นของอาหารให้คงความสดใหม่อยู่เสมอ จึงทำให้ต้องมีการเสียบปลั๊กตู้เย็นตลอดเวลา และกลายเป็นการกินไฟในที่สุด ซึ่งการจัดการกับตู้เย็นของคุณเป็นหนึ่งในวิธีประหยัดไฟฟ้าได้ ด้วยการวางตู้เย็นในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และไม่ควรตั้งอยู่ใกล้แหล่งความร้อน เพื่อไม่ให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักยิ่งขึ้น หมั่นละลายน้ำแข็งอย่างสม่ำเสมอ และปรับตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสมกับปริมาณของที่แช่ในตู้เย็น รวมถึงการเปิด-ปิดตู้เย็นบ่อยๆ หรือเปิดทิ้งไว้นานเกินความจำเป็น ก็ทำให้เปลืองไฟได้เช่นกัน

4. การปรับระดับอุณหภูมิของน้ำในเครื่องซักผ้า

การซักผ้าที่เป็นกิจวัตรประจำวันนั้น เป็นหนึ่งในวิธีลดค่าไฟที่สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ปรับระดับอุณหภูมิของน้ำในเครื่องซักผ้าให้เหมาะสมกับเสื้อผ้าของคุณ เพราะหากคุณเลือกอุณหภูมิได้เหมาะสมจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่ฝังบนผ้าได้อย่างล้ำลึก ช่วยป้องกันการทำลายเนื้อผ้า ทำให้ยืดอายุการใช้งานชุดโปรดของคุณให้ใช้งานได้นานขึ้น และยังช่วยประหยัดพลังงานจากการที่เครื่องซักผ้าไม่ต้องทำงานหนักเกินความจำเป็นอีกด้วย

5. ตั้งเวลาเปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศ

การตั้งเวลาเปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศเป็นวิธีประหยัดไฟฟ้าที่ดีที่สุดสำหรับการใช้เครื่องปรับอากาศ ยิ่งในช่วงหน้าฝน หรือหน้าหนาว ที่อากาศภายนอกเย็นสบาย การตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติจะทำให้ลดการใช้งานเครื่องปรับอากาศ และช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกด้วย เช่น ตั้งเวลาเปิดเครื่องปรับอากาศให้ทำงานอัตโนมัติในช่วงเวลาที่คุณนอนหลับตอนกลางคืน และตั้งเวลาปิดในช่วงเช้าที่คุณกำลังจะตื่น หรือช่วงเช้ามืดที่อากาศกำลังเย็นสบาย ซึ่งวิธีนี้จะทำให้คุณนอนหลับสบายได้ถึงเช้า และยังเป็นวิธีประหยัดไฟฟ้าได้อย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงต่อวันด้วย

6. เปิดม่านรับแสงจากรรมชาติ

นอกจากแสงแดดจะช่วยให้บ้านสว่างอย่างเป็นธรรมชาติแล้วนั้น ในเวลากลางวันที่แสงแดดสามารถส่องถึงภายในบ้าน การเปิดผ้าม่านรับแสงจะช่วยให้คุณประหยัดไฟได้ ทั้งยังเป็นการเปิดรับลมเย็นๆ เข้ามาภายในตัวบ้าน ทำให้ไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา รวมถึงไม่จำเป็นต้องเปิดไฟฟ้าทั้งหลัง ซึ่งเป็นวิธีประหยัดไฟฟ้าที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ และเห็นผลจริงอีกด้วย

7. ตรวจสอบมิเตอร์ไฟเป็นประจำ

อีกวิธีประหยัดไฟฟ้า คือ อย่าละเลยในการตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้า เพราะจะทำให้รู้ถึงจำนวนไฟที่ใช้ไปในแต่ละรอบเดือนว่าเพิ่มขึ้น หรือลดลงเท่าไหร่ ซึ่งช่วยในเรื่องการวางแผนประหยัดไฟได้ดี และที่สำคัญควรหมั่นตรวจเช็กสภาพของมิเตอร์อยู่เสมอ เพราะหลายครั้งที่ค่าไฟพุ่งสูงขึ้นอาจมาจากการที่มิเตอร์มีความผิดปกติ ชำรุด หรือเสียหายได้ เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาได้ทันที  และช่วยลดปัญหาค่าไฟสูงเกินจำเป็น ดังนั้น จึงควรตรวจเช็กมิเตอร์ไฟสม่ำเสมอ

8. หมั่นทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้า

เครื่องใช้ไฟฟ้าโดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ หรือเครื่องดูดฝุ่น เมื่อใช้งานไปนานๆ แล้วไม่ได้มีการทำความสะอาด หรือดูแลอย่างเหมาะสม นอกจากจะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพแล้ว ยังทำให้ทำงานหนักขึ้นโดยไม่จำเป็น และส่งผลต่อค่าไฟฟ้าเช่นกัน

9. ได้เวลาเปลี่ยนเครื่องทำน้ำอุ่นเป็นแบบประหยัดพลังงาน

เครื่องทำน้ำอุ่นได้กลายเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีใช้กันแทบทุกบ้าน เพราะมีประโยชน์อย่างมากในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น ทำให้คุณไม่ต้องทนอาบน้ำเย็นอีกต่อไป เพราะจะช่วยปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม แต่เครื่องปรับน้ำอุ่นบางชนิดก็สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าเป็นอย่างมาก ดังนั้น การเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นควรเลือกให้มีขนาดเหมาะสมกับครอบครัว และที่สำคัญควรเลือกซื้อรุ่นที่ประหยัดพลังงาน เพราะสามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 10-20% นับเป็นวิธีลดค่าไฟที่ดีอีกหนึ่งวิธี

10. ปิด-ถอดปลั๊กไฟเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้งาน

การถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน เป็นวิธีประหยัดไฟฟ้าเบื้องต้นที่สามารถทำได้ง่ายๆ เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอุปกรณ์ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรทัศน์ ที่มีรีโมทเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ แต่การปิดเครื่องแล้วในขณะที่อุปกรณ์ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์นั้นยังใช้พลังงานเพื่อรอรับคำสั่งจากรีโมทอยู่ หากไม่ถอดปลั๊กไฟออก เท่ากับว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องนั้นก็ยังคงใช้ไฟอยู่ตลอดเช่นกัน

 

เพราะฉะนั้น วิธีลดค่าไฟง่ายๆ คือหลังจากที่ไม่ใช้งานแล้วให้ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า และถอดปลั๊กทุกครั้ง เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน ประหยัดค่าไฟฟ้า และยังช่วยป้องอันตรายจากการเกิดอัคคีภัยได้อีกด้วย

 

วิธีการลดการใช้พลังงาน มี 8 ข้อ อะไรบ้าง

 

วิธีประหยัดไฟฟ้าในครัวเรือนนั้น ทุกคนสามารถทำได้อย่างง่ายๆ และเป็นวิธีที่ได้ผลที่สุด แค่เพียงคุณปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพียงเล็กน้อย แลกมากับการได้ประหยัดพลังงานที่มากขึ้น ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าลดลงอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงยังเป็นการถนอมการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ให้มีอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยอีกหนึ่งความสำคัญของการประหยัดค่าไฟฟ้า คือ การออกแบบบ้านให้เหมาะสม โดยการสร้างบ้านประหยัดพลังงานไฟฟ้า ที่สามารถตอบโจทย์การใช้ไฟฟ้าในบ้านได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับแนวคิดจาก AP ที่มีเทรนด์รักษ์โลก ด้วยการออกแบบบ้านมาเพื่อประหยัดพลังงานโดยเฉพาะอีกด้วย