แผนการ สอน ประวัติศาสตร์ ป.3 doc

ลงชื่อเข้าใช้

ยินดีต้อนรับ! เข้าสู่ระบบบัญชีของคุณ

กู้คืนรหัสผ่าน

กู้คืนรหัสผ่านของคุณ

รหัสผ่านจะถูกอีเมล์ถึงคุณ

วันพุธ, พฤศจิกายน 9, 2022

  • ข่าวการศึกษา

    • เผยแพร่ผลงานวิชาการ

  • ครู

    • วิทยะฐานะ

      • วPA

    • แผนการสอน

    • สื่อการสอน

    • ใบงาน

    • การทำวิทยฐานะ/หลักเกณฑ์ต่างๆสำหรับครู

    • ข้อสอบ

    • เอกสารสำหรับครู-เอกสารประจำชั้นเรียน

    • เครื่องมือสำหรับครู

    • รวมลิงค์เข้าระบบต่างๆ

    • รวมเอกสารงานโรงเรียน

      • รวบรวมเอกสาร ไฟล์ งานโรงเรียน สำหรับครู

      • รหัสแตกไฟล์เอกสาร

    • ครูประถม

      • บทเรียนนักเรียน

      • สาระความรู้

        • วันสำคัญต่างๆทั้ง 12 เดือน

          • DMC ปีการศึกษา2561

        • นักวิทยาศาสตร์คนสำคัญ

      • รวมข้อสอบต่างๆ

        • o-net,nt <ติว ทุกกลุ่มสาระ>

        • ประถมศึกษาปีที่ 6

        • รวมข้อสอบ

        • รวมข้อสอบปลายภาคเรียน

          • ข้อสอบ ประถมศึกษาปีที่ 4

          • ข้อสอบ ประถมศึกษาปีที่ 5

          • ข้อสอบ ประถมศึกษาปีที่ 6

      • ใบงาน

        • รวบรวม ใบงาน แบบฝึกหัด ประถมศึกษา ป.1-ม.6 ทุกวิชา ที่นี่

      • แผนการเรียนรู้

        • รวมไว้แล้ว ใบงาน แบบฝึกหัด ป1-3 ,ป4-6

        • มาตรฐาน ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง 2551

        • หลักสูตร 8กลุ่มสาระ ฉบับปรับปรุง2560

        • แผนการจัดการเรียนรู้ ประถมศึกษา ป1-ม.6

          • คำนวณเปอร์เซ็นของนักเรียนที่มาเรียนต่อวัน

      • แบบสอบถาม

        • แบบสอบถามความต้องการ

  • ผู้ปกครอง

    • ประสบการณ์ตรงคุณแม่

  • ผู้บริหาร

    • ความรู้สำหรับผู้บริหาร

    • บริหารงาน ๔ ฝ่าย

  • สื่อการสอน

  • หางานราชการ

    • ลงประกาศงานราชการ

  • สอบครู

    • ครูผู้ช่วย

    • ครูอัตราจ้าง

    • พนักงานราชการ

    • รวมลิงค์เปิดสอบครูกรณีพิเศษ63

    • ฝึกทำข้อสอบ ครูผู้ช่วย ภาค ก ข ฟรี

  • เว็บบอร์ด

    • ฝากประชาสัมพันธ์

    • เกี่ยวกับเรา ถาม-ตอบ

  • ทีวีเพื่อการศึกษา

แผนการ สอน ประวัติศาสตร์ ป.3 doc

Editor Picks

Must read

โครงสรา้ งรายวิชา ประวตั ิศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3
ภาคเรียนที่ 1/2563 เวลา 20 ชั่วโมง

หนว่ ยท่ี ชอ่ื หนว่ ย มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั
การเรยี นรู้ ตัวชว้ี ดั (ชวั่ โมง) คะแนน

1 ทมี่ าของศกั ราช มาตรฐาน ส 4.1 การนับชว่ งเวลาเปน็ 2
(ส.1-2)
เขา้ ใจความหมาย ความสาคัญ พุทธศักราช
ของเวลา และยุคสมัยทาง คริสตศ์ กั ราช และ 1
ประวัตศิ าสตร์ สามารถใช้ ฮจิ เราะห์ศกั ราช (ส.3)
วิธีการทางประวตั ศิ าสตรม์ า จะต้องรทู้ มี่ าของ
วิเคราะหเ์ หตุการณ์ต่าง ๆ ศักราช

อย่างเปน็ ระบบ

ตัวชวี้ ดั ป.3/1

เทียบศกั ราชท่สี าคญั ตามปฏิทนิ
ทีใ่ ช้ในชวี ติ ประจาวนั

1 วิธีเทยี บศักราช มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจ การนับชว่ งเวลาเป็น
ความหมาย ความสาคัญของ พุทธศักราช
เวลา และยุคสมยั ทาง คริสตศ์ กั ราช และ
ประวตั ศิ าสตร์ สามารถใช้ ฮิจเราะหศ์ กั ราช
วิธีการทางประวัติศาสตรม์ า จะต้องรทู้ มี่ าของ
วเิ คราะหเ์ หตุการณต์ า่ ง ๆ ศักราช
อยา่ งเป็นระบบ

ตวั ชวี้ ัด ป.3/1

เทียบศักราชทส่ี าคญั ตามปฏิทิน
ทีใ่ ช้ในชวี ิตประจาวัน

โครงสร้างรายวิชา ประวตั ศิ าสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3
ภาคเรยี นท่ี 1/2563 เวลา 20 ชวั่ โมง

หนว่ ยท่ี ช่อื หนว่ ย มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั
2 การเรยี นรู้ ตัวชี้วัด (ชัว่ โมง) คะแนน

เหตกุ ารณส์ าคญั มาตรฐาน ส 4.1 การสบื ค้นและ 2
ของโรงเรียนและ
ชมุ ชน เขา้ ใจความหมาย ความสาคญั รวบรวมข้อมูลของ (ส. 4-5)
ของเวลา และยุคสมัยทาง โรงเรียนจากหลกั ฐาน
ประวตั ิศาสตร์ สามารถใช้วิธีการ
ทางประวัติศาสตรม์ าวเิ คราะห์ และแหล่งขอ้ มลู ที่
เหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ อยา่ งเป็น
ระบบ เก่ียวข้องจะต้องทา

อย่างมรี ะบบข้นั ตอน

ตัวชี้วดั ป.3/2

แสดงลาดบั เหตุการณส์ าคญั ของ

โรงเรยี นและชุมชนโดยระบุ

หลักฐานและแหลง่ ขอ้ มลู ท่ี

เก่ยี วข้อง

3 ปัจจยั ท่ีมีอทิ ธพิ ล มาตรฐาน ส 4.1 ปจั จัยทางภมู ิศาสตรแ์ ละ 1
ต่อการ
เขา้ ใจพฒั นาการของมนุษยชาติ ปัจจัยทางสงั คม เป็น
ต้ังถน่ิ ฐาน ปัจจัยสาคญั ทมี่ อี ิทธพิ ล (ส. 6)
ตอ่ การต้งั ถิ่นฐานและ
พัฒนาการของ จากอดตี จนถงึ ปจั จบุ นั ในด้าน พัฒนาการของชุมชน
ชุมชน ความสัมพนั ธ์และการ

เปลยี่ นแปลงของเหตกุ ารณ์อย่าง

ต่อเนอ่ื ง ตระหนักถงึ ความสาคญั

และสามารถวเิ คราะหผ์ ลกระทบ

ที่เกิดขน้ึ

โครงสรา้ งรายวิชา ประวัติศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3
ภาคเรยี นท่ี 1/2563 เวลา 20 ช่วั โมง

หนว่ ยที่ ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก
การเรยี นรู้ ตัวชว้ี ดั (ช่วั โมง) คะแนน

ตวั ช้ีวัด ป.3/1

ระบปุ จั จัยทมี่ ีอทิ ธพิ ลตอ่
การต้ังถิ่นฐานและ
พฒั นาการของชุมชน

3 ความเหมือน มาตรฐาน ส 4.2 ปจั จยั ทางภูมศิ าสตร์และ 1
และความ เข้าใจพฒั นาการของ

แตกตา่ งทาง มนุษยชาตจิ ากอดตี จนถงึ ปัจจัยทางสงั คม เปน็ ปจั จัย (ส. 7)
ปจั จบุ ัน ในดา้ น
วัฒนธรรมของ ความสมั พันธแ์ ละการ สาคญั ทีม่ ผี ลทาให้
ชมุ ชน เปล่ยี นแปลงของเหตกุ ารณ์ วัฒนธรรมประเพณี การนบั
ถอื ศาสนา ความ เชอ่ื และ
อย่างต่อเน่อื ง ตระหนกั ถงึ
ความสาคญั และสามารถ การประกอบอาชพี ของแต่

วิเคราะหผ์ ลกระทบท่ีเกิดขนึ้ ละชุมชนมีความแตกตา่ งกนั

ตวั ช้ีวัด ป.3/1

ระบปุ จั จัยทมี่ อี ิทธิพลตอ่ การ
ตงั้ ถิ่นฐานและพฒั นาการ
ของชมุ ชน

3 ปัจจัยทีม่ ผี ลตอ่ มาตรฐาน ส 4.1 การสรา้ งสรรค์ 1

การสร้างสรรค์ เขา้ ใจพัฒนาการของ วัฒนธรรมในชุมชนนนั้ เกดิ (ส. 8)
วฒั นธรรมของ
มนษุ ยชาตจิ ากอดีตจนถึง จากปจั จัยสาคัญตา่ ง ๆ
เช่น สภาพแวดลอ้ ม ความ

โครงสรา้ งรายวชิ า ประวตั ศิ าสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3
ภาคเรียนที่ 1/2563 เวลา 20 ช่ัวโมง

หน่วยท่ี ชอื่ หนว่ ย มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก
4 การเรยี นรู้ ตัวชว้ี ดั (ช่วั โมง) คะแนน
ชมุ ชน
ปจั จุบัน ในด้านความสัมพนั ธ์ เปน็ อยู่ อาชีพ ความ
ผู้สถาปนา และการเปลี่ยนแปลงของ
อาณาจกั รสาคัญ เหตกุ ารณ์อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง เชอ่ื ศาสนา และ
ของไทย ตระหนักถงึ ความสาคัญและ
สามารถวเิ คราะหผ์ ลกระทบท่ี ขนบธรรมเนียม
เกดิ ขึน้
ประเพณี

มาตรฐาน ส 4.3 พระมหากษัตรยิ เ์ ป็น 1
(ส. 9)
เข้าใจความเปน็ มาของชาติไทย บคุ คลสาคญั ใน
วฒั นธรรม ภูมิปญั ญาไทย มี ประวัตศิ าสตรไ์ ทยได้
ความรกั ความภูมใิ จและธารงค์ สร้างสรรคค์ วามเจรญิ

ความเป็นไทย มัน่ คงของชาติ และ
เปน็ แบบอยา่ งทด่ี ใี น
ตัวชว้ี ดั ป.3/1
การทาคณุ ประโยชน์
ระบุพระนามและพระราชกรณยี แกช่ าติบา้ นเมือง
กิจโดยสงั เขปของ

พระมหากษัตรยิ ไ์ ทยที่เปน็ ผู้

สถาปนาอาณาจกั รไทย

4 พ่อขุนศรีอนิ ทรา มาตรฐาน ส 4.3 1
เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย (ส. 10)
ทิตย์ พ่อขุนศรีอินทราทิตย์
เปน็ ผนู้ าคนไทยทข่ี บั
วัฒนธรรม ภมู ปิ ญั ญาไทย มี ไลอ่ ิทธิพลของขอม

ความรัก ความภูมิใจและธารงค์ และทรงสถาปนา

ความเป็นไทย

โครงสร้างรายวชิ า ประวัติศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3
ภาคเรียนท่ี 1/2563 เวลา 20 ช่ัวโมง

หน่วยท่ี ช่อื หนว่ ย มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั
การเรยี นรู้ ตวั ชวี้ ัด อาณาจักรสุโขทัย (ชวั่ โมง) คะแนน

4 สมเดจ็ พระ ระบพุ ระนามและพระราชกรณยี สมเดจ็ พระรามาธบิ ดี 1
กจิ โดยสังเขปของ ท่ี 1 (พระเจา้ อู่ทอง) (ส. 11)
รามาธิบดีท่ี 1 พระมหากษัตรยิ ไ์ ทยทเี่ ป็นผู้ ทรงสถาปนากรุงศรี
(พระเจ้าอทู่ อง) สถาปนาอาณาจักรไทย อยธุ ยาเป็นราชธานี
วางระเบยี บดา้ นการ
มาตรฐาน ส 4.3 ปกครอง และ
ขยายอาณาเขตของ
เข้าใจความเปน็ มาของชาตไิ ทย กรุงศรีอยธุ ยา
วฒั นธรรม ภมู ปิ ญั ญาไทย มี
ความรกั ความภูมิใจและธารงค์
ความเปน็ ไทย
ตัวชว้ี ัด ป.3/1
ระบุพระนามและพระราชกรณยี
กจิ โดยสังเขปของ
พระมหากษตั รยิ ์ไทยที่เปน็ ผู้
สถาปนาอาณาจกั รไทย

4 สมเดจ็ พระเจา้ มาตรฐาน ส 4.3 สมเดจ็ พระเจ้าตาก
ตากสนิ มหาราช เข้าใจความเป็นมาของชาตไิ ทย สินมหาราช ทรงเปน็
ผู้นาในการขบั ไล่พมา่
วัฒนธรรม ภูมิปญั ญาไทย มี หลงั เสียกรงุ ศรีอยุธยา 1
ความรัก ความภูมิใจและธารงค์ ครั้งที่ 2 และ
ความเป็นไทย สถาปนากรงุ ธนบรุ ี (ส. 12)

เปน็ ราชธานี

โครงสร้างรายวิชา ประวตั ศิ าสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3
ภาคเรยี นท่ี 1/2563 เวลา 20 ชัว่ โมง

หนว่ ยที่ ช่อื หนว่ ย มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก
การเรยี นรู้ ตวั ช้วี ัด (ช่วั โมง) คะแนน

ตวั ชว้ี ดั ป.3/1

ระบุพระนามและพระราชกรณีย

กจิ โดยสงั เขปของ

พระมหากษัตริยไ์ ทยทีเ่ ปน็ ผู้

สถาปนาอาณาจกั รไทย 1

4 พระบาทสมเดจ็ มาตรฐาน ส 4.3 พระบาทสมเดจ็ พระ

พระพุทธยอดฟ้า เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย พทุ ธยอดฟ้าจุฬาโลก (ส. 13)
จฬุ าโลก วฒั นธรรม ภูมิปญั ญาไทย มี มหาราช ทรง
ความรัก ความภูมิใจและธารงค์ สถาปนาราชวงศจ์ กั รี

ความเป็นไทย และกรงุ รัตนโกสนิ ทร์

และสร้างความม่นั คง

ตวั ชว้ี ดั ป.3/1 ให้แก่อาณาจักรไทย

ระบุพระนามและพระราชกรณีย

กิจโดยสงั เขปของ

พระมหากษตั รยิ ์ไทยทเ่ี ปน็ ผู้

สถาปนาอาณาจกั รไทย

5 พระบาทสมเดจ็ มาตรฐาน ส 4.3 2
(ส.14-15)
พระปรมนิ ทร เขา้ ใจความเปน็ มาของชาติไทย พระบาทสมเดจ็ พระ
มหาภมู พิ ลอดุลย วฒั นธรรม ภมู ปิ ญั ญาไทย มี เจ้าอยหู่ วั ภูมพิ ลอ
เดช
ความรกั ความภูมใิ จและธารงค์ ดุลยเดช ทรงเป็น
ศนู ยร์ วมใจของคน
ความเปน็ ไทย
ไทย ไดท้ รงทา

คุณประโยชน์

โครงสรา้ งรายวิชา ประวัติศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3
ภาคเรียนท่ี 1/2563 เวลา 20 ชั่วโมง

หน่วยท่ี ช่ือหน่วย มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา น้าหนกั
การเรยี นรู้ ตวั ช้วี ัด ตอ่ สังคมไทยและ (ช่ัวโมง) คะแนน

ตวั ชี้วัด ป.3/2

อธิบายพระราชประวตั ิและพระ ประเทศชาตหิ ลาย

ราชกรณยี กจิ ของ ประการ เพ่ือ
พระมหากษัตริย์ในรชั กาลท่ี ๙ ประเทศชาติมนั่ คง
โดยบสงั เขป และคนไทยอยู่เยน็

เป็นสุข

1

5 สมเดจ็ พระนาง มาตรฐาน ส 4.3 สมเดจ็ พระนางเจ้า (ส. 16)
เจา้ สิริกติ พ์ิ ระ เข้าใจความเปน็ มาของชาติไทย สริ กิ ติ ิ์
บรมราชนิ ี วัฒนธรรม ภมู ปิ ญั ญาไทย มี พระบรมราชินีนาถ
ความรกั ความภูมใิ จและธารงค์
นาถ ความเป็นไทย ทรงส่งเสรมิ ดา้ น
การศกึ ษาและ

ตัวชว้ี ัด ป.3/2 อนรุ ักษ์

อธิบายพระราชประวตั แิ ละพระ ทรพั ยากรธรรมชาติ
ศิลปหัตถกรรม
ราชกรณียกจิ ของ พนื้ บ้าน ทรงตั้งศนู ย์
พระมหากษัตรยิ ใ์ นรัชกาล
ปจั จบุ ันโดยบสงั เขป ศลิ ปาชพี หลายแหง่
ทาให้ราษฎรมีงานทา

5 สมเดจ็ พระ มาตรฐาน ส 4.3 สมเดจ็ พระนเรศวร 1

นเรศวรมหาราช เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย มหาราช เป็นกษัตริย์ (ส. 17)
แหง่ กรุงศรอี ยธุ ยาท่ี
วัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาไทย มี
ความรัก ความภูมใิ จและธารงค์ ประกาศอสิ รภาพจาก
ความเป็นไทย
พม่า และทรง

วางรากฐานความ

ม่ันคงให้กบั ชาติบา้ น

โครงสรา้ งรายวิชา ประวตั ิศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3
ภาคเรยี นที่ 1/2563 เวลา 20 ช่ัวโมง

หน่วยที่ ชื่อหนว่ ย มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั
การเรยี นรู้ ตวั ชว้ี ัด บ้านเมือง (ชัว่ โมง) คะแนน

ตวั ชี้วดั ป.3/3
เลา่ วรี กรรมของบรรพบรุ ุษไทย
ท่มี สี ่วนปกป้องประเทศชาติ

5 ชาวบา้ น มาตรฐาน ส 4.3 1
บางระจัน
ชาวบ้านบางระจัน
เขา้ ใจความเป็นมาของชาติไทย ได้แสดงวรี กรรมท่ี (ส. 18)
วฒั นธรรม ภมู ิปญั ญาไทย มี กลา้ หาญและความ
ความรกั ความภมู ใิ จและธารงค์ เสียสละท่ยี ่งิ ใหญ่ใน
การตอ่ ต้านกองทัพ
ความเป็นไทย
พมา่ ในปลายสมัยกรงุ
ตวั ช้วี ดั ป.3/3 ศรีอยุธยา
เล่าวรี กรรมของบรรพบรุ ุษ

ไทยท่ีมีสว่ นปกปอ้ งประเทศชาติ

5 พระยาพชิ ยั ดาบ มาตรฐาน ส 4.3 1

หกั เขา้ ใจความเป็นมาของชาติไทย พระยาพชิ ัยดาบหัก (ส. 19)
วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาไทย มี ได้รบั การยกย่องเรอ่ื ง
ความซื่อสัตย์ กล้า
ความรกั ความภมู ิใจและธารงค์
ความเปน็ ไทย หาญ และร่วมกอบกู้
เอกราชใหก้ บั ชาติ
ตัวช้ีวดั ป.3/3
บา้ นเมืองกบั สมเด็จ
เลา่ วรี กรรมของบรรพบรุ ษุ พระเจา้ ตากสนิ
ไทยทมี่ ีส่วนปกป้องประเทศชาติ มหาราช

โครงสรา้ งรายวชิ า ประวตั ิศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3
ภาคเรยี นท่ี 1/2563 เวลา 20 ช่ัวโมง

หนว่ ยที่ ชอ่ื หนว่ ย มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก
การเรยี นรู้ ตวั ชี้วดั (ชัว่ โมง) คะแนน

5 ท้าวเทพกษัตรี มาตรฐาน ส 4.3 (ส. 20)
และท้าวศรสี ุนทร เขา้ ใจความเป็นมาของชาติ ท้าวเทพสตรี ท้าวศรี
สุนทร เปน็ วรี สตรี
ไทย วฒั นธรรม ภมู ิปัญญาไทย ไทยทมี่ คี วามกล้า
มคี วามรัก ความภูมิใจและ หาญ สามารถปกป้อง
ธารงค์ความเป็นไทย
รักษาเมอื งถลางจาก

ตัวชวี้ ัด ป.3/3 การรกุ รานของ

เล่าวรี กรรมของบรรพบุรุษ กองทัพพม่าได้สาเรจ็

ไทยทีม่ ีส่วนปกปอ้ งประเทศชาติ

สอบปลายภาคเรยี นท่ี 1 (ส.20) 20
รวมภาคเรียนท่ี 1

สปั ดาหท์ ี่ 1-2

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ัฒนา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี 1 / 2563 ช่ือผสู้ อน ................................................................

กลุ่มสาระ ประวตั ิศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 3 จานวน ......2...... คาบ

หนว่ ยการเรยี นที่ 1 การใช้ศกั ราชในชวี ติ ประจาวัน เรื่อง ท่มี าของศักราช

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั
มาตรฐาน ส 4.1
เข้าใจความหมาย ความสาคญั ของเวลา และยคุ สมัยทางประวัตศิ าสตร์ สามารถใช้วธิ ีการทาง

ประวตั ศิ าสตร์มาวิเคราะหเ์ หตุการณ์ต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ

ตัวช้วี ดั ป.3/1

เทยี บศกั ราชที่สาคญั ตามปฏทิ นิ ที่ใช้ในชวี ติ ประจาวัน

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การนบั ช่วงเวลาเป็นพทุ ธศกั ราช ครสิ ต์ศักราช และฮจิ เราะห์ศักราช จะต้องรทู้ ีม่ าของศกั ราช

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ท่ีมาของศักราช (K)
2. .บอกทม่ี าของศกั ราชได้ (P)
3. มคี วามสนใจใฝเ่ รียนร้แู ละม่งุ ม่ันในการทางาน (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่
สาระการเรียนรู้แกนกลาง พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา

บอกท่ีมาของศกั ราชได้

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี 1

ข้ันนา

ขั้นกระตนุ้ ความสนใจ

1. ครนู าตัวอยา่ งปฏทิ ินมาแสดงให้นกั เรยี นดูทหี่ น้าชัน้ เรยี น แลว้ ให้นกั เรียนสังเกตรายละเอยี ดต่างๆ ที่
ปรากฏอยบู่ นปฏทิ นิ

2. ครูสมุ่ เรียกให้นกั เรียนบอกรายละเอยี ดต่างๆ ทปี่ รากฏบนปฏิทินตามที่สงั เกตได้
3. ครนู าตวั อย่างปฏทิ ินมาแสดงให้นกั เรียนดูทหี่ นา้ ชั้นเรยี น แลว้ ให้นกั เรียนสงั เกตรายละเอียดต่างๆ ที่

ปรากฏอยบู่ นปฏทิ นิ

ข้ันสอน

ขนั้ สารวจค้นหา
1. ครนู าตวั อยา่ งปฏทิ นิ มาแสดงให้นกั เรียนดูทห่ี น้าช้นั เรยี น แลว้ ให้นกั เรียนสังเกตรายละเอียดตา่ งๆ ท่ี
ปรากฏอยบู่ นปฏทิ ิน
2. ครสู ุ่มเรยี กใหน้ กั เรยี นบอกรายละเอยี ดต่างๆ ที่ปรากฏบนปฏทิ ินตามท่สี งั เกตได้
ครตู งั้ ประเดน็ คาถามใหน้ กั เรยี นตอบ เชน่

1) ตวั เลข 2555 หมายถึงอะไร

2) ตัวเลข 2012 หมายถึงอะไร

3) ตัวเลข 2555 และ 2012 มีท่ีมา และมีความสาคญั อย่างไร

3. ครอู ธบิ ายเช่ือมโยงใหน้ กั เรียนเห็นถึงความสาคัญของทม่ี าของศักราชบนปฏิทนิ ทีม่ ีความเกย่ี วข้องกบั
ชวี ิตประจาวัน ของนักเรียน

4. นักเรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

คาบท่ี 2

1. ครูแบง่ นักเรียนเปน็ กลมุ่ กลุม่ ละ 4 คน คละกันตามความสามารถ คือ เกง่ ปานกลางค่อนขา้ งเกง่
ปานกลางค่อนขา้ งออ่ น และอ่อน ครชู ้แี จงให้นกั เรยี นเห็นความสาคัญและปฏบิ ตั ิตนตามกตกิ าของ
การเรยี นรู้ และการทางานรว่ มกันในกลุ่ม

2. ครูใหส้ มาชกิ แต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ศกึ ษาความรเู้ รอื่ ง ทีม่ าของศักราชจากหนังสือเรยี น

3. สมาชกิ แต่ละคนในกลุม่ ผลัดเปลย่ี นกนั อธบิ ายความรเู้ ร่อื ง ที่มาของศกั ราช เพอื่ ตรวจสอบความเข้าใจ
ทถี่ กู ต้อง

4. ครนู าแผนผงั แสดงการใช้ศกั ราชมาให้นกั เรยี นดู แลว้ อธิบายความรู้เพมิ่ เตมิ เพ่ือให้นกั เรียนเข้าใจมาก
ยงิ่ ขน้ึ

5. ครูสมุ่ เรยี กตวั แทนนกั เรียน 2-3 คน ออกมาอธบิ ายลาดับทม่ี าของศกั ราชประกอบแผนผงั โดยให้
เพอื่ นๆ ตรวจสอบความถกู ต้อง

6. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มมอื กันทาใบงานท่ี 1.1 เรือ่ ง ท่มี าของศกั ราช โดยใหส้ มาชิกแต่ละคนในกล่มุ
หาคาตอบในใบงานดว้ ยตนเองจนครบทกุ ขอ้ จากน้ันจับคกู่ บั เพือ่ นในกลมุ่ ผลัดกนั อธิบายคาตอบของ
ตนเองใหเ้ พอ่ื นฟงั (นักเรียนอกี คูห่ นึ่งกป็ ฏิบัติกจิ กรรมเชน่ เดยี วกนั )

7. สมาชิกรวมกลมุ่ 4 คนตามเดมิ จากนนั้ ผลัดกันอธบิ ายคาตอบของคูต่ นเองใหเ้ พ่อื นอกี คู่หน่ึงฟงั และ
สรปุ คาตอบทเี่ ปน็ มติของกลุ่มแล้วบนั ทึกคาตอบลงในใบงาน

ขน้ั สรปุ

ข้ันขยายความเขา้ ใจ
ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ ความสาคญั ของทีม่ าของศกั ราช

ขั้นตรวจสอบผล
1. ครูใหน้ กั เรียนสรปุ ความรู้จากการเรยี นจนได้ขอ้ สรปุ ร่วมกันวา่ ทีม่ าของศักราช ที่ใช้กันในปจั จุบนั มี
ประวัติอยา่ งไร
2. ครูตรวจสอบผลการทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพ่ือตรวจสอบความเข้าใจก่อนเรียนของ

นักเรียน

3. ครูประเมินผลนักเรียน โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถาม พฤติกรรมการทางาน

รายบคุ คล พฤติกรรมการทางานกลุม่ และจากการนาเสนอผลการทากจิ กรรมหนา้ ช้ันเรียน

6. การวัดและประเมินผล

การวัดและประเมนิ ผล วิธีการวัดผล เครอื่ งมอื วดั เกณฑ์การ
จดุ ประสงค์ ประเมนิ ผล
1.คาถามกระตนุ้
ความรู้ความ 1. สังเกตจากการซกั ถาม ตอบ ความคิด 70% ขึน้ ไป ถือวา่
เขา้ ใจ (K) คาถาม ผา่ นเกณฑก์ าร
ประเมนิ
2. ทม่ี าของศักราชได้

ทกั ษะ/ 1.บอกทม่ี าของศักราชได้ 1. ใบงานบอกท่มี าของ 70% ขน้ึ ไป ถือว่า
กระบวนการ (P)
ศกั ราชได้ ผ่านเกณฑก์ าร

ประเมิน

คุณลกั ษณะนสิ ยั (A) 1. สังเกตจากการเรยี นมีความ 1. แบบสังเกต 70% ขนึ้ ไป ถอื ว่า
พฤติกรรม
รบั ผดิ ชอบตอ่ งานทสี่ งั่ และสง่ งาน ผ่านเกณฑก์ าร
ไดท้ นั ตามท่ีกาหนด ประเมนิ
2. สงั เกตจากการเรียนใฝเ่ รียนรู้

3. สงั เกตจากการมงุ่ ม่ันในการ
ทางาน

7. สอื่ /แหล่งการเรียนรู้
7.1 สอื่ การเรียนรู้
1) หนังสือเรยี นประวัตศิ าสตร์ ป.3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 การใช้ศักราชตามปฏิทมินไทยและสากล
2) แบบฝกึ หัดประวตั ิศาสตร์ป.3 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 การใช้ศกั ราชตามปฏิทมนิ ไทยและสากล

7.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องเรียน
2) ห้องสมุด
3) อินเทอรเ์ น็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...................

ลงช่อื ............................................ครูผสู้ อน ลงชือ่ ............................................ฝา่ ยวชิ าการ

(........................................................) (.......................................................)

ลงชือ่ ................................................... ผ้บู รหิ าร
(...........................................................)

สัปดาห์ที่ 3

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ัฒนา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี 1 / 2563 ชื่อผู้สอน ................................................................

กลุม่ สาระ ประวตั ศิ าสตร์ ช้ัน ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 จานวน ......1...... คาบ

หน่วยการเรยี นท่ี 1 การใช้ศักราชในชีวิตประจาวนั เร่อื ง วธิ เี ทียบศักราช

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ดั
มาตรฐาน ส 4.1
เขา้ ใจความหมาย ความสาคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวตั ิศาสตร์ สามารถใชว้ ิธีการทาง

ประวัตศิ าสตรม์ าวิเคราะหเ์ หตุการณ์ตา่ ง ๆ อย่างเป็นระบบ
ตวั ชีว้ ดั ป.3/1
เทยี บศักราชท่ีสาคญั ตามปฏิทนิ ที่ใชใ้ นชวี ิตประจาวัน

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การนับช่วงเวลาเปน็ พุทธศักราช ครสิ ตศ์ กั ราช และฮจิ เราะหศ์ กั ราช จะต้องรทู้ ีม่ าของศักราช

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. การเทียบศกั ราช (K)
2. .สามารถเทียบศกั ราชจากพุทธศักราชเปน็ ครสิ ตศ์ กั ราชได้ และเทียบครสิ ตศ์ กั ราชเปน็ พุทธศักราชได้ (P)
3. มคี วามสนใจใฝ่เรยี นรแู้ ละมงุ่ ม่ันในการทางาน (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ ้องถนิ่
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา

สามารถเทียบศกั ราชจาก พทุ ธศักราชเปน็
ครสิ ต์ศักราชได้ และเทียบครสิ ตศ์ ักราชเปน็
พทุ ธศักราชได้ (P)

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบท่ี 1

ข้ันนา

ขน้ั กระตุน้ ความสนใจ
1. ครใู หน้ ักเรียนอ่านกรณีตวั อยา่ ง จากน้ันให้นักเรยี นชว่ ยเทียบปี ค.ศ. เป็น พ.ศ. และคานวณอายุของ
หลานๆ ให้คุณยายมณี

2. ครใู ห้นกั เรียนเขียนคาตอบลงในกระดาษแผน่ เล็กๆ แล้วเขียนช่ือกากับด้านหลงั กระดาษ โดยใหต้ ัวแทน
นกั เรยี นเกบ็ รวบรวมสง่ ครู

ข้นั สอน

ขัน้ สารวจค้นหา
1. ครใู ห้นกั เรียนอา่ นกรณตี วั อยา่ ง จากนัน้ ให้นกั เรยี นช่วยเทียบ

ปี ค.ศ. เป็น พ.ศ. และคานวณอายุของหลานๆ ให้คุณยายมณี

2. ครูให้นกั เรยี นเขยี นคาตอบลงในกระดาษแผน่ เล็กๆ แล้วเขยี นชอ่ื กากบั ด้านหลงั กระดาษ โดยให้ตวั แทน
นักเรียนเกบ็ รวบรวมสง่ ครู

3. ครูสุ่มหยบิ กระดาษคาตอบของนกั เรียน 3-5 คน ออกมาอ่าน แลว้ ให้เจา้ ของคาตอบอธิบายวิธีการ
เทียบปีเป็น พ.ศ. และคานวณอายุ

4. ครอู ธิบายเชื่อมโยงให้นกั เรียนเห็นความสาคญั ของการเทยี บศกั ราชว่า การใชศ้ กั ราชทแี่ ตกต่างกัน อาจ
ทาใหเ้ กิดความสับสนได้ การรู้วธิ เี ทียบศักราชจะชว่ ยทาให้เรารไู้ ดว้ า่ ปี พ.ศ. ใด ตรงกบั ปี ค.ศ. ใด

5. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด
6. ครูใหน้ กั เรยี นรวมกลมุ่ เดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1) แลว้ รว่ มกนั ศกึ ษาความรเู้ รือ่ ง วิธีการ

เทียบศักราชแบบตา่ งๆ จากหนังสือเรยี น
7. สมาชกิ ในแตล่ ะกลมุ่ ผลดั กนั อธบิ ายความรูต้ ามที่ศึกษา และซกั ถาม ข้อสงสยั จนสมาชกิ ในกลมุ่ มี

ความรู้ความเข้าใจตรงกนั จากนัน้ ร่วมกันสรปุ วธิ กี ารเทยี บศกั ราช ดงั น้ี
- การเทียบพทุ ธศกั ราชเปน็ คริสตศ์ ักราช

- การเทยี บครสิ ตศ์ ักราชเปน็ พทุ ธศกั ราช

ขน้ั สรปุ

ขั้นขยายความเขา้ ใจ
ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ การเทยี บศักราช

ขั้นตรวจสอบผล
1. ครใู หน้ ักเรยี นสรปุ ความรจู้ ากการเรียนจนไดข้ อ้ สรปุ รว่ มกนั เกี่ยวกบั การเทียบศักราช
2. ครูตรวจสอบผลการทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพ่ือตรวจสอบความเข้าใจก่อนเรียนของ

นกั เรียน

3. ครูประเมินผลนักเรียน โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถาม พฤติกรรมการทางาน

รายบุคคล พฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ และจากการนาเสนอผลการทากิจกรรมหนา้ ชัน้ เรียน

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั และประเมินผล วธิ ีการวดั ผล เครื่องมอื วดั เกณฑก์ าร
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล
1.คาถามกระตุ้น
ความรูค้ วาม 1. สังเกตจากการซกั ถาม ตอบ ความคดิ 70% ขึ้นไป ถอื วา่
เขา้ ใจ (K) คาถาม ผา่ นเกณฑก์ าร
2. สามารถเทยี บศกั ราชจาก ประเมนิ
ทักษะ/ พุทธศักราชเป็นครสิ ต์ศกั ราชได้
กระบวนการ (P) และเทียบครสิ ตศ์ ักราชเป็น 1. ใบงานบอกทมี่ าของ 70% ขึ้นไป ถือวา่
พุทธศักราชได้ (P)

1.บอกทมี่ าของศักราชได้

ศักราชได้ ผา่ นเกณฑก์ าร

ประเมนิ

คณุ ลักษณะนิสัย (A) 1. สงั เกตจากการเรยี นมีความ 1. แบบสังเกต 70% ข้ึนไป ถือวา่
พฤติกรรม
รับผิดชอบต่องานทีส่ ง่ั และส่งงาน ผ่านเกณฑก์ าร
ไดท้ นั ตามท่กี าหนด ประเมิน
2. สังเกตจากการเรียนใฝเ่ รียนรู้

3. สงั เกตจากการมงุ่ ม่ันในการ
ทางาน

7. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) หนังสือเรยี นประวัตศิ าสตร์ ป.3 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 1 การใชศ้ กั ราชตามปฏิทินไทยและสากล
2) แบบฝกึ หดั ประวตั ศิ าสตร์ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 สามารถเทียบศักราชจาก พทุ ธศักราชเปน็
ครสิ ตศ์ ักราชได้ และเทียบครสิ ตศ์ ักราชเปน็ พุทธศักราชได้

7.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) หอ้ งเรียน
2) หอ้ งสมุด
3) อนิ เทอรเ์ น็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...................

ลงชอ่ื ............................................ครูผู้สอน ลงชอ่ื ............................................ฝา่ ยวิชาการ

(........................................................) (.......................................................)

ลงชอื่ ................................................... ผูบ้ รหิ าร
(...........................................................)

สัปดาหท์ ่ี 4-5

โรงเรยี นขจรเกยี รติพัฒนา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี 1 / 2563 ช่อื ผู้สอน ................................................................

กลุ่มสาระ ประวตั ิศาสตร์ ช้ัน ประถมศกึ ษาปีที่ 3 จานวน ......2...... คาบ

หน่วยการเรยี นที่ 1 เหตกุ ารณ์สาคญั ของโรงเรยี นและชุมชน เรื่อง เหตกุ ารณ์สาคัญของโรงเรียนและ

ชุมชน

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้วี ดั
มาตรฐาน ส 4.1
เข้าใจความหมาย ความสาคัญของเวลา และยคุ สมัยทางประวตั ศิ าสตร์ สามารถใช้วธิ ีการทาง

ประวตั ิศาสตร์มาวิเคราะหเ์ หตุการณต์ า่ ง ๆ อยา่ งเป็นระบบ

ตัวชีว้ ัด ป.3/2

แสดงลาดบั เหตกุ ารณ์สาคัญของโรงเรยี นและชมุ ชนโดยระบหุ ลักฐานและแหลง่ ข้อมลู ที่เกีย่ วข้อง

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การสบื ค้นและรวบรวมขอ้ มลู ของโรงเรียนจากหลกั ฐาน และแหลง่ ข้อมลู ที่เกย่ี วขอ้ งจะต้องทา

อย่างมรี ะบบข้นั ตอน

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. เหตุการณ์สาคญั ของโรงเรียนและชุมชน (K)
2. .ลาดับเหตุการณ์สาคญั ของโรงเรียนและชุมชน (P)
3. มีความสนใจใฝเ่ รยี นร้แู ละมุง่ มั่นในการทางาน (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา

ลาดับเหตกุ ารณส์ าคัญของโรงเรยี นและชมุ ชน

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี 1

ข้ันนา

ข้นั กระตุ้นความสนใจ
1. ครูให้นกั เรยี นรอ้ งเพลง โรงเรยี นของเรานา่ อยู่ พรอ้ มกนั 2 รอบ จากน้นั ใหน้ กั เรยี นแต่ละคนแสดง
เหตผุ ลวา่ เพราะเหตุใดนักเรยี นจงึ ชอบมาโรงเรียน

2. ครูใหน้ ักเรยี นร้องเพลง โรงเรยี นของเราน่าอยู่ พรอ้ มกนั 2 รอบ จากน้นั ให้นกั เรียนแต่ละคนแสดงเหตผุ ลวา่

3. เพราะเหตุใดนกั เรยี นจงึ ชอบมาโรงเรยี น

เพลงโรงเรียนของเราน่าอยู่
โรงเรยี นของเรานา่ อยู่ คณุ ครใู จดที กุ คน
เด็กๆก็ไมซ่ ุกซน พวกเราทกุ คนชอบมาโรงเรียน
ชอบมา ชอบมาโรงเรียน ซ้า

4. ครตู ง้ั ประเด็นคาถามเกี่ยวกับโรงเรียนใหน้ กั เรยี นช่วยกนั ตอบ เชน่
- โรงเรยี นของเราตง้ั ขึน้ มากป่ี ี
- โรงเรียนของเรามคี รู และนกั เรียนกคี่ น
- โรงเรียนของเราเคยเปลย่ี นช่อื บ้างหรือไม่
- โรงเรยี นของเรามีเรอ่ื งราวสาคัญอะไรเกิดขึ้นบ้าง
- ครเู ปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นตอบอย่างอสิ ระ จากนนั้ ครูอธิบายเพือ่ เชอ่ื มโยงให้นักเรียนเขา้ ใจว่า โรงเรยี น
เป็นสถานท่ที ีม่ คี วามสาคัญ หากตอ้ งการรู้เร่อื งราวต่างๆ ของโรงเรยี น
- รจู้ กั สืบคน้ และรวบรวมข้อมลู ต่างๆ ของโรงเรยี น

5. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด

ขั้นสอน

ขนั้ สารวจค้นหา
1. นกั เรียนแบ่งกลุม่ กลมุ่ ละ 4 คน ตามความสมคั ร ใจ จากนนั้ รว่ มกันศึกษาความรเู้ รือ่ ง โรงเรยี นและ
ชมุ ชนของเรา จากหนงั สอื -เรยี น
2. นกั เรียนแตล่ ะคนในกลมุ่ ผลัดกันอธบิ ายความรเู้ กย่ี วกบั ประเภทของหลกั ฐานทีใ่ ชใ้ นการรวบรวมขอ้ มูล
เก่ยี วกับโรงเรยี นและชุมชน พรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ ดงั น้ี
1) หลักฐานทเ่ี ปน็ ตวั หนังสอื

2) หลักฐานที่ไม่ใชต่ ัวหนังสือ

คาบท่ี 2

ข้ันสรปุ

1. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั สืบค้นและรวบรวมข้อมลู ต่างๆ ของโรงเรยี น โดยนาความรู้พน้ื ฐานที่ไดจ้ าก
การเรยี นในขัน้ ที่ 2 มาปรบั ใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม เพ่ือหาคาตอบจากประเด็น
คาถามในข้ันที่ 1

2. สมาชกิ แต่ละกลมุ่ รวบรวมขอ้ มลู หลักฐานตา่ งๆ มาอภปิ รายและเรียบเรียงข้อมลู เพ่อื ตอบประเด็น
คาถาม

3. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มบนั ทึกข้อมูลลงใน ใบงานที่ เรอ่ื ง โรงเรยี นของเรา

ขั้นขยายความเขา้ ใจ
ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ การลาดับเหตกุ ารณส์ าคญั ในโรงเรยี น

ขน้ั ตรวจสอบผล

1. ครูให้นักเรียนสรุปความรู้จากการเรียนจนได้ข้อสรุปร่วมกันว่า วิธีการสืบค้นเหตุการณ์สาคัญใน
โรงเรยี นทาไดด้ ว้ ยวิธใี ดบ้าง

2. ครูตรวจสอบผลการทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เพ่ือตรวจสอบความเขา้ ใจก่อนเรยี นของนักเรยี น

3. ครูประเมินผลนกั เรียน โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถาม พฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล
พฤตกิ รรมการทางานกลุม่ และจากการนาเสนอผลการทากจิ กรรมหนา้ ช้ันเรียน

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวัดและประเมินผล วิธกี ารวัดผล เคร่อื งมือวดั เกณฑก์ าร
จดุ ประสงค์

ความรู้ความ 1. สังเกตจากการซกั ถาม ตอบ 1.คาถามกระตุน้ ประเมินผล
เข้าใจ (K) คาถาม ความคดิ
2. เหตกุ ารณส์ าคญั ของโรงเรยี น 70% ขน้ึ ไป ถือว่า
ทักษะ/ และชุมชน ผา่ นเกณฑก์ าร
กระบวนการ (P) ประเมนิ
1.ลาดบั เหตกุ ารณ์สาคญั ของ
โรงเรียนและชุมชน 1. ใบงานเหตกุ ารณ์ 70% ข้ึนไป ถือว่า

สาคัญของโรงเรียนและ ผ่านเกณฑก์ าร
ชุมชน ประเมนิ

คุณลักษณะนิสยั (A) 1. สงั เกตจากการเรียนมีความ 1. แบบสงั เกต 70% ขนึ้ ไป ถือว่า
พฤติกรรม
รบั ผดิ ชอบตอ่ งานทีส่ ง่ั และส่งงาน ผ่านเกณฑก์ าร
ไดท้ ันตามท่ีกาหนด ประเมนิ
2. สงั เกตจากการเรียนใฝเ่ รียนรู้

3. สงั เกตจากการมงุ่ มั่นในการ
ทางาน

7. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
7.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียนประวัติศาสตร์ ป.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เหตุการณส์ าคัญของโรงเรียนและชมุ ชน
2) แบบฝึกหดั ประวัติศาสตร์ ป.3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เหตกุ ารณ์สาคญั ของโรงเรยี นและชมุ ชน

7.2 แหล่งการเรียนรู้
1) หอ้ งเรยี น
2) ห้องสมดุ
3) อินเทอรเ์ นต็

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
..................

ลงชอ่ื ..........................................ครผู ้สู อน ลงชอ่ื ..................................ฝา่ ยวิชาการ

(........................................................) (.......................................................)

ลงชื่อ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ที่ 6

โรงเรยี นขจรเกยี รติพัฒนา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี 1 / 2563 ชือ่ ผ้สู อน ................................................................

กลมุ่ สาระ ประวัติศาสตร์ ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 จานวน ......1...... คาบ

หน่วยการเรยี นที่ 3 การต้ังถิ่นฐาน การดาเนนิ ชวี ิตและวัฒนธรรมในชมุ ชน

เรอื่ ง ปัจจยั ที่มอี ิทธิพลตอ่ การต้ังถิน่ ฐานพัฒนาการของชุมชน

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ดั
มาตรฐาน ส 4.1
เข้าใจพฒั นาการของมนษุ ยชาตจิ ากอดีตจนถงึ ปจั จบุ นั ในด้านความสัมพนั ธแ์ ละการเปลี่ยนแปลงของ

เหตุการณ์อยา่ งต่อเน่ือง ตระหนักถงึ ความสาคญั และสามารถวเิ คราะหผ์ ลกระทบทเ่ี กดิ ขึ้น

ตวั ชีว้ ดั ป.3/1

ระบุปจั จัยทมี่ ีอทิ ธพิ ลต่อการตั้งถิน่ ฐานและพฒั นาการของชมุ ชน

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
ปัจจยั ทางภมู ศิ าสตรแ์ ละปจั จัยทางสงั คม เปน็ ปจั จัยสาคญั ท่ีมอี ิทธิพลตอ่ การต้งั ถ่ินฐานและ

พัฒนาการของชุมชน

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. ปจั จยั ท่มี ีอทิ ธพิ ลตอ่ การตง้ั ถนิ่ ฐานพฒั นาการของชมุ ชน(K)
2. บอกปจั จยั ทมี่ ีอิทธิพลตอ่ การตง้ั ถิน่ ฐานพฒั นาการของชุมชน(P)
3. มีความสนใจใฝเ่ รยี นรู้และมุง่ ม่นั ในการทางาน (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง

บอกปจั จัยท่ีมีอทิ ธพิ ลต่อการตัง้ ถิ่นฐานพัฒนาการของ พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา
ชมุ ชน

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

คาบที่ 1

ขนั้ นา

ขน้ั กระตนุ้ ความสนใจ
1) ครูนาบตั รภาพมาแสดงท่หี นา้ ชั้นเรียน แล้วให้นักเรียนพิจารณาว่า ภาพดงั กลา่ วมคี วามสัมพนั ธ์ หรอื มคี วามเชื่อมโยง

กนั อย่างไร

2) ครูนาบตั รภาพมาแสดงทีห่ น้าช้นั เรยี น แลว้ ใหน้ ักเรียนพิจารณาว่า ภาพดังกล่าวมีความสมั พนั ธ์ หรอื มี
ความเชือ่ มโยงกนั อยา่ งไร

3) ครสู ุ่มเรยี กตัวแทนนกั เรียน 2-3 คน ออกมาอธิบายความสัมพนั ธ์หรอื ความเช่ือมโยงของภาพต่างๆ

ขนั้ สอน

ข้นั สารวจค้นหา
1. ครูกาหนดประเดน็ ในการเช่อื มโยงวา่ วิถชี ีวิตรมิ น้า จากนัน้ อธิบายความสมั พันธ์ หรือความเชื่อมโยง
กันของภาพดังกลา่ วให้นกั เรียนสังเกตเกีย่ วกบั ปจั จยั ท่ีมอี ทิ ธิพลตอ่ การตัง้ ถน่ิ ฐานและการดาเนินวถิ ี
ชวี ิตของคนในชุมชน

2. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ
3. นกั เรยี นรวมกลมุ่ กันตามความสมัครใจ กลุ่มละ 4 คน จากนั้นให้แต่ละกลุ่มร่วมกนั ศกึ ษาความรเู้ รือ่ ง

ปัจจยั ทม่ี อี ทิ ธิพลตอ่ การ ตงั้ ถนิ่ ฐานและพฒั นาการของชมุ ชน จากหนงั สือเรยี น
4. สมาชิกในแตล่ ะกลมุ่ ผลดั กันอธิบายลกั ษณะของปจั จยั ทางภูมิศาสตร์ และปัจจยั ทางสงั คม จากนั้น

ร่วมกันจาแนกความแตกตา่ งของปจั จยั ทางภูมศิ าสตรแ์ ละปจั จัยทางสงั คม

5. ครใู หน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั จาแนกบตั รภาพทคี่ รูนามาแสดงในขนั้ ที่ 1 วา่ บัตรภาพใดเป็นปจั จยั
ทางภูมิศาสตร์ และบตั รภาพใดเปน็ ปัจจัยทางสงั คมทม่ี ผี ลตอ่ วถิ ีชีวิตของคนในชมุ ชนและการพัฒนา
ของชุมชน

6. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มสรปุ ผล แล้วสง่ ตัวแทนออกมานาเสนอผลการจาแนกทหี่ น้าชน้ั เรียน พร้อมอธิบาย
ประกอบ

ขน้ั สรุป

ขัน้ ขยายความเขา้ ใจ
1) นกั เรยี นร่วมกันอธบิ ายและยกตวั อย่างปจั จยั ทางภูมิศาสตรแ์ ละปจั จยั ทางสงั คมทม่ี ผี ลตอ่ วิถีชวี ิตของ
คนในชุมชนและการพฒั นาของชุมชน เช่น
2) การเลอื กต้ังถ่นิ ฐานบรเิ วณทร่ี าบลุม่ แมน่ า้ จะสง่ ผลตอ่ การประกอบอาชพี และการดารงชีวติ อย่างไร

3) การลงแขกเกย่ี วข้าว แสดงให้เหน็ ถึงปจั จัยทางภูมศิ าสตร์และปจั จยั ทางสังคมอยา่ งไร

4) นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ อธิบายคาตอบและยกตวั อยา่ งประกอบ

ขัน้ ตรวจสอบผล
1. ครูให้นกั เรียนสรปุ ความร้จู ากการเรียนจนได้ข้อสรุปปัจจยั ที่มอี ทิ ธพิ ลตอ่ การตง้ั ถน่ิ ฐาน
2. ครูตรวจสอบผลการทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพ่ือตรวจสอบความเข้าใจก่อนเรียนของ

นกั เรียน

3. ครูประเมินผลนักเรียน โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถาม พฤติกรรมการทางาน

รายบคุ คล พฤติกรรมการทางานกลุม่ และจากการนาเสนอผลการทากิจกรรมหน้าช้ันเรยี น

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวดั และประเมินผล วิธกี ารวัดผล เครอ่ื งมือวัด เกณฑก์ าร
จดุ ประสงค์ ประเมนิ ผล
70% ข้นึ ไป ถอื ว่า
ความรู้ความ 1. สังเกตจากการซกั ถาม ตอบ 1.คาถามกระต้นุ ผา่ นเกณฑก์ าร
เขา้ ใจ (K) คาถาม ความคดิ ประเมิน
2. ปจั จัยทีม่ อี ทิ ธิพลต่อการตั้งถน่ิ
ทกั ษะ/ ฐานพฒั นาการของชุมชน 1. ใบงานปจั จยั ทม่ี ี 70% ข้ึนไป ถือว่า
กระบวนการ (P) อทิ ธพิ ลตอ่ การตง้ั ถ่ิน ผ่านเกณฑก์ าร
1.บอกปจั จัยทมี่ ีอทิ ธิพลตอ่ การตง้ั ฐานพฒั นาการของ ประเมนิ
ถน่ิ ฐานพฒั นาการของชมุ ชน ชุมชน

คณุ ลักษณะนสิ ัย (A) 1. สงั เกตจากการเรียนมีความ 1. แบบสังเกต 70% ขึ้นไป ถอื วา่
พฤตกิ รรม
รบั ผิดชอบตอ่ งานทส่ี งั่ และสง่ งาน ผา่ นเกณฑก์ าร
ได้ทนั ตามที่กาหนด ประเมนิ
2. สงั เกตจากการเรยี นใฝเ่ รยี นรู้

3. สังเกตจากการมงุ่ มั่นในการ
ทางาน

7. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
7.1 สือ่ การเรยี นรู้
1) หนังสือเรียนประวัติศาสตร์ ป.3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตั้งถ่ินฐาน
พฒั นาการของชุมชน
2) แบบฝึกหดั ประวตั ศิ าสตร์ ป.3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 ปัจจยั ทีม่ ีอิทธิพลต่อการต้ังถน่ิ ฐานพฒั นาการ
ของชุมชน

7.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) หอ้ งเรียน
2) หอ้ งสมุด
3) อินเทอรเ์ นต็

8. กิจกรรมเสนอแนะ
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...................

ลงชอ่ื ............................................ครผู ้สู อน ลงช่ือ...................................................ฝ่ายวชิ าการ

(........................................................) (.......................................................)

ลงชื่อ................................................... ผ้บู รหิ าร
(...........................................................)

สปั ดาหท์ ี่ 7

โรงเรียนขจรเกยี รติพัฒนา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี 1 / 2563 ชือ่ ผสู้ อน ................................................................
กลุ่มสาระ ประวัติศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 จานวน ......1...... คาบ
เร่อื ง ความเหมอื นและความแตกตา่ งทาง
หนว่ ยการเรียนที่ 3 วัฒนธรรมในชมุ ชน
วฒั นธรรมของชุมชน

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้ีวดั
มาตรฐาน ส 4.2
เขา้ ใจพฒั นาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปจั จบุ นั ในดา้ นความสัมพนั ธ์และการเปลี่ยนแปลงของ

เหตกุ ารณ์อย่างต่อเนอื่ ง ตระหนักถงึ ความสาคญั และสามารถวเิ คราะหผ์ ลกระทบทเ่ี กดิ ข้นึ
ตัวชว้ี ดั ป.3/1

ระบุปจั จยั ท่มี ีอทิ ธิพลตอ่ การต้ังถ่นิ ฐานและพฒั นาการของชุมชน

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
ปจั จยั ทางภูมิศาสตรแ์ ละปจั จัยทางสงั คม เป็นปจั จัยสาคญั ทมี่ ผี ลทาให้วฒั นธรรมประเพณี การนบั ถือ

ศาสนา ความ เชื่อ และการประกอบอาชีพของแตล่ ะชมุ ชนมคี วามแตกตา่ งกัน

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. ความเหมอื นและความแตกตา่ งทางวฒั นธรรมของชมุ ชน(K)
2. บอกความเหมือนและความแตกตา่ งทางวฒั นธรรมของชมุ ชน(P)

3. มคี วามสนใจใฝเ่ รยี นรแู้ ละมงุ่ มัน่ ในการทางาน (A)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิ่น

บอกความเห มือนแล ะความแตกต่างท าง พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา

วฒั นธรรมของชมุ ชน

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

คาบท่ี 1

ขั้นนา

ข้นั กระตุ้นความสนใจ
1. ครูนาบัตรภาพมาแสดงทห่ี นา้ ชัน้ เรียน แลว้ ใหน้ ักเรยี นพจิ ารณาว่า ประเพณีดังกลา่ วมคี วามสาคญั

อย่างไร และเป็นประเพณขี องจังหวดั ใด

2. ครูชแ้ี จงถงึ ความสาคญั ของประเพณีตา่ งๆ เพื่อเช่อื มโยงใหน้ กั เรียนเหน็ ความแตกต่างของประเพณี
ทางศาสนาของแตล่ ะทอ้ งถนิ่

3. นักเรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด
4. ครแู บ่งนกั เรยี นเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คือ เกง่ ปานกลางคอ่ นขา้ งเกง่

ปานกลางค่อนขา้ งอ่อน และอ่อน

ข้นั สอน

ข้ันสารวจค้นหา
1. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันศึกษาความรู้เรอื่ ง ความเหมือนและความแตกต่างทางวฒั นธรรมของ
ชมุ ชน จากหนงั สอื เรียน และหอ้ งสมุด ในประเดน็ ท่ีกาหนด ดังนี้

1) ความเหมอื นและความแตกต่างทางวัฒนธรรมประเพณี

2) ความเหมือนและความแตกต่างทางศาสนาและความเช่อื

3) ความเหมือนและความแตกต่างทางการประกอบอาชีพ

2. สมาชกิ ในแตล่ ะกล่มุ ผลัดกนั อธิบายความรจู้ ากประเดน็ ทไ่ี ดศ้ ึกษา

3. ครูสนทนากบั นกั เรียนเกี่ยวกับองคค์ วามรทู้ ี่ไดจ้ ากการศึกษาในช่ัวโมงทีแ่ ล้ว จากนนั้ ครตู งั้ ประเด็น
คาถามให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั วเิ คราะห์และแสดงความคิดเห็น เช่น
- เพราะเหตุใด คนท่ีนับถอื ศาสนาเดียวกนั ในแต่ละชุมชนจึงมกี ิจกรรมทางศาสนาแตกต่างกัน

- เพราะเหตุใด ชุมชนภาคใตจ้ ึงไม่มปี ระเพณขี อฝน

- การประกอบอาชพี ที่แตกต่างกนั มผี ลตอ่ ประเพณี หรอื ความเช่อื ของคนในชุมชนอย่างไร

4. ครูตรวจสอบคาตอบ และอธบิ ายเพมิ่ เตมิ ให้นกั เรยี นเขา้ ใจวา่ การประกอบอาชีพตา่ งๆ ในชมุ ชน ก็
เป็นปจั จัยสาคัญท่ที าใหเ้ กดิ ความเชือ่ และประเพณที ่สี าคญั

ข้นั สรปุ

ขั้นขยายความเขา้ ใจ
1)นกั เรยี นรว่ มกนั อธบิ ายและยกตัวอย่างบอกความเหมือนและความแตกต่างทางวัฒนธรรมของชุมชน
- ความเหมือนและความแตกตา่ งทางวฒั นธรรมประเพณี

- ความเหมือนและความแตกตา่ งทางศาสนาและความเชือ่

- ความเหมือนและความแตกตา่ งทางการประกอบอาชีพ

ขัน้ ตรวจสอบผล
1) ครูใหน้ กั เรยี นสรุปความรู้จากการเรยี นจนได้ข้อสรปุ ความแตกต่างทางวัฒนธรรมของชมุ ชน

- ความเหมอื นและความแตกต่างทางวัฒนธรรมประเพณี
- ความเหมือนและความแตกตา่ งทางศาสนาและความเชื่อ
- ความเหมือนและความแตกตา่ งทางการประกอบอาชีพ

2) ครูตรวจสอบผลการทาแบบทดสอบก่อนเรยี น เพ่ือตรวจสอบความเข้าใจก่อนเรียนของนักเรยี น
3) ครูประเมินผลนกั เรยี น โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถาม พฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล

พฤติกรรมการทางานกลมุ่ และจากการนาเสนอผลการทากิจกรรมหนา้ ชน้ั เรยี น

6. การวดั และประเมินผล

การวัดและประเมินผล วิธีการวัดผล เครอ่ื งมือวดั เกณฑ์การ
จุดประสงค์ ประเมินผล
1.คาถามกระตนุ้
ความร้คู วาม 1. สังเกตจากการซกั ถาม ตอบ ความคดิ 70% ขึ้นไป ถอื ว่า
เข้าใจ (K) คาถาม ผ่านเกณฑก์ าร
2. ความแตกต่างทางวัฒนธรรม ประเมนิ
ทักษะ/ ของชุมชน
กระบวนการ (P) 1. ใบงานความ 70% ขึ้นไป ถือว่า
1.บอกความแตกตา่ งทาง
วัฒนธรรมของชมุ ชน แตกต่างทางวฒั นธรรม ผา่ นเกณฑก์ าร

ของชุมชน ประเมิน

คุณลกั ษณะนสิ ยั (A) 1. สงั เกตจากการเรยี นมีความ 1. แบบสังเกต 70% ขึ้นไป ถือวา่
พฤตกิ รรม
รับผดิ ชอบต่องานทส่ี ง่ั และสง่ งาน ผา่ นเกณฑก์ าร
ได้ทันตามที่กาหนด ประเมนิ
2. สงั เกตจากการเรียนใฝเ่ รยี นรู้

3. สงั เกตจากการมงุ่ มนั่ ในการ
ทางาน

7. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
7.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) หนังสือเรียนประวัติศาสตร์ ป.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อการตั้งถิ่นฐาน
พัฒนาการของชมุ ชน
2) แบบฝึกหดั ประวัตศิ าสตร์ ป.3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 ความแตกต่างทางวัฒนธรรมของชุมชน

7.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งเรียน
2) หอ้ งสมุด
3) อนิ เทอรเ์ น็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...................

ลงชอ่ื ............................................ครูผสู้ อน ลงช่อื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ

(........................................................) (.......................................................)

ลงช่ือ................................................... ผูบ้ รหิ าร
(...........................................................)

สปั ดาหท์ ี่ 8

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นที่ 1 / 2563 ชือ่ ผู้สอน ................................................................
กลุ่มสาระ ประวัติศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 จานวน ......1...... คาบ
เร่อื ง ปัจจยั ท่มี ผี ลตอ่ การสรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรมของ
หน่วยการเรยี นที่ 3 วัฒนธรรมในชมุ ชน
ชมุ ชน

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ัด
มาตรฐาน ส 4.1
เข้าใจพฒั นาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถงึ ปจั จบุ ัน ในดา้ นความสัมพนั ธ์และการเปล่ียนแปลงของ

เหตกุ ารณอ์ ยา่ งต่อเนอ่ื ง ตระหนักถงึ ความสาคัญและสามารถวเิ คราะหผ์ ลกระทบทเี่ กดิ ข้นึ
ตัวชี้วดั ป.3/1

ปจั จยั ที่มอี ทิ ธิพลตอ่ การต้ังถ่ินฐานและพฒั นาการของชมุ ชน

ตัวชว้ี ัด ป.3/2

เปรียบเทียบความเหมอื นและความต่างทางวัฒนธรรมของชุมชนตนเองกบั ชุมชนอ่ืน ๆ

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การสร้างสรรคว์ ัฒนธรรมในชุมชนนน้ั เกิดจากปจั จัยสาคญั ตา่ ง ๆ เช่น สภาพแวดล้อม ความ

เป็นอยู่ อาชพี ความเช่อื ศาสนา และขนบธรรมเนยี มประเพณี

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1. ปัจจัยท่ีมผี ลตอ่ การสรา้ งสรรค์วฒั นธรรมของของชมุ ชน(K)
2. บอกปจั จัยทม่ี ีผลต่อการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรมของของชุมชน(P)
3. มคี วามสนใจใฝเ่ รยี นรแู้ ละมงุ่ ม่ันในการทางาน (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่ิน
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

บอกปัจจัยที่มผี ลต่อการสรา้ งสรรคว์ ัฒนธรรมของของ พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา
ชมุ ชน

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

คาบท่ี 1

ขั้นนา

ขน้ั กระตนุ้ ความสนใจ
1. ครใู ห้นักเรยี นดบู ตั รภาพ เก่ียวกบั ขา้ วของเครอ่ื งใช้ บา้ น กจิ กรรม และปะเพณตี ่างๆแล้วใหน้ ักเรยี น
ช่วยกันตอบวา่ เป็นภาพอะไร ใช้งานอย่างไร และเคยพบเจอหรอื ไม่
2. ครอู ธิบายเพม่ิ เตมิ เก่ยี วกับลกั ษณะของภาพแตล่ ะภาพ และบอกถงึ เหตผุ ลในการใชแ้ ละเหคุผลในการ
สร้าง
3. ครูอธบิ ายถึงปัจจัยต่างทีม่ ผี ลตอ่ การสร้างสรรคส์ ่งิ ของตา่ งๆและวิถชี วี ิตความเป็นอยขู่ องคนในแตล่ ะ
ชุมชน และยกตวั อย่างประกอบ

ข้นั สอน

ขั้นสารวจค้นหา
1. ครใู ห้นกั เรียนแบง่ กลมุ่ แจกภาพวธิ ีชวี ิตของคนในแตล่ ะชมุ ชนทแี่ ตกตา่ งกัน แล้วใหส้ มาชิกในกลมุ่

ช่วยกันวิเคราะห์ ตามหัวขอ้ ท่กี าหนด ดงั นี้
- วฒั นธรรมนีค้ อื
- มลี กั ษณะสาคัญดังนี้
- ปจั จัยทท่ี าให้เกดิ วัฒนธรรมนี้ คอื

2. ในแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาอธบิ ายหนา้ ชนั้ เรยี น
3. ครูและนกั เรียนชว่ ยกนั สรุปและทา ใบงานเร่ือง วัฒนธรรม ประเพณี ภมู ปิ ัญญาในทอ้ งถนิ่

ข้นั สรุป

ขนั้ ขยายความเขา้ ใจ
1. นักเรียนรว่ มกันอธบิ ายและยกตวั อยา่ งวฒั นธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาในท้องถิ่น

ขนั้ ตรวจสอบผล

2) ครูใหน้ ักเรียนสรุปความรูจ้ ากการเรียนจนไดข้ อ้ สรปุ วัฒนธรรม ประเพณี ภูมปิ ัญญาในท้องถ่ิน
3) ครตู รวจสอบผลการทาแบบทดสอบก่อนเรยี น เพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจกอ่ นเรียนของนักเรยี น
4) ครปู ระเมินผลนกั เรียน โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถาม พฤติกรรมการทางานรายบุคคล

พฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ และจากการนาเสนอผลการทากิจกรรมหน้าช้ันเรียน

6. การวัดและประเมินผล

การวดั และประเมินผล วธิ กี ารวัดผล เครอื่ งมือวดั เกณฑ์การ
จดุ ประสงค์ ประเมินผล
1.คาถามกระตนุ้ 70% ขึน้ ไป ถอื ว่า
ความรู้ความ 1. สังเกตจากการซกั ถาม ตอบ ความคิด ผา่ นเกณฑก์ าร
เข้าใจ (K) คาถาม ประเมิน
2. วฒั นธรรม ประเพณี ภมู ิ 1. ใบงานวัฒนธรรม
ทกั ษะ/ ปญั ญาในท้องถิ่น ประเพณี ภูมิปัญญา 70% ขึน้ ไป ถือว่า
กระบวนการ (P) ในท้องถ่ิน ผา่ นเกณฑก์ าร
1.บอกวัฒนธรรม ประเพณี ภมู ิ ประเมิน
ปัญญาในท้องถ่ิน

คุณลักษณะนิสัย (A) 1. สงั เกตจากการเรียนมีความ 1. แบบสังเกต 70% ข้ึนไป ถอื ว่า
รบั ผิดชอบตอ่ งานท่ีสง่ั และสง่ งาน พฤติกรรม ผา่ นเกณฑก์ าร

ไดท้ ันตามทก่ี าหนด ประเมนิ
2. สงั เกตจากการเรียนใฝเ่ รยี นรู้
3. สงั เกตจากการมงุ่ มน่ั ในการ

ทางาน

7. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้

7.1 สือ่ การเรียนรู้
1) หนังสือเรียนประวัติศาสตร์ ป.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อการต้ังถ่ินฐาน
พัฒนาการของชมุ ชน

2) แบบฝึกหดั ประวัตศิ าสตร์ ป.3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 วฒั นธรรม ประเพณี ภูมปิ ญั ญาในทอ้ งถิ่น
7.2 แหลง่ การเรียนรู้

1) ห้องเรียน

2) หอ้ งสมดุ
3) อนิ เทอรเ์ นต็

8. กิจกรรมเสนอแนะ
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...................

ลงชือ่ ............................................ครูผู้สอน ลงช่อื ...................................................ฝ่ายวชิ าการ

(........................................................) (.......................................................)

ลงชอ่ื ................................................... ผ้บู รหิ าร
(...........................................................)

สปั ดาห์ท่ี 9

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นที่ 1 / 2563 ชอื่ ผ้สู อน ................................................................

กลุ่มสาระ ประวัติศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 จานวน ......1...... คาบ

หน่วยการเรียนท่ี 4 การสถาปนาอาณาจักรไทย เร่ือง ผ้สู ถาปนาอาณาจกั รสาคัญของไทย

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ัด

มาตรฐาน ส 4.3

เขา้ ใจความเปน็ มาของชาติไทย วัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญาไทย มคี วามรัก ความภมู ใิ จและธารงคค์ วามเปน็
ไทย

ตัวชวี้ ดั ป.3/1
ระบุพระนามและพระราชกรณยี กจิ โดยสงั เขปของพระมหากษัตริย์ไทยทีเ่ ปน็ ผู้สถาปนาอาณาจกั รไทย

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
พระมหากษตั ริยเ์ ปน็ บุคคลสาคัญในประวัติศาสตรไ์ ทยไดส้ รา้ งสรรคค์ วามเจรญิ ม่ันคงของชาติ และ
เปน็ แบบอยา่ งทีด่ ีในการทาคุณประโยชน์แก่ชาติบา้ นเมือง

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. ผสู้ ถาปนาอาณาจกั รสาคัญของไทย(K)
2. บอกประวตั ิผสู้ ถาปนาอาณาจกั รสาคัญของไทยได(้ P)
3. มคี วามสนใจใฝ่เรียนรแู้ ละมงุ่ มนั่ ในการทางาน (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ ้องถิ่น
สาระการเรียนรู้แกนกลาง พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา

บอกประวัติผู้สถาปนาอาณาจักรสาคญั ของไทยได้

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี 1

ขัน้ นา

ขน้ั กระตุ้นความสนใจ

1. ครูเล่าถงึ สาเหตขุ องการเสยี กรงุ ศรีอยธุ ยาครงั้ ที่ 2 ให้นักเรยี นฟัง เพื่อใหน้ กั เรียนตระหนักและเห็นถงึ
ความสาคัญของความสามคั คีของคนในชาติ

ขัน้ สอน

ขน้ั สารวจค้นหา
1. ครูเลา่ ถงึ สาเหตขุ องการเสียกรงุ ศรอี ยธุ ยาคร้ังท่ี 2 ใหน้ กั เรยี นฟงั เพื่อใหน้ กั เรียนตระหนักและเห็นถงึ
ความสาคัญของความสามคั คีของคนในชาติ

2. ครใู ห้นกั เรียนยกตวั อย่าง บคุ คลที่ชว่ ยกอบกเู้ อกราชไทยท่นี กั เรียนรจู้ กั
3. ครใู หน้ ักเรียนดูภาพพระมหากษัตริย์ไทยทกี่ อบกเู้ อกราชไทยในอดีตและอธบิ ายประวตั ิและวรี กรรมท่ี

กล้าหาญของพระมหากษตั รยิ แ์ ตล่ ะพระองค์
4. ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนคน้ ควา้ หาความร้เู พิ่มเตมิ

ขน้ั สรุป

ขั้นขยายความเขา้ ใจ
1. นักเรียนร่วมกันอธบิ าย ผสู้ ถาปนาอาณาจกั รไทยในอาณาจกั รต่างๆ

ข้ันตรวจสอบผล
3) ครูใหน้ ักเรียนสรปุ ความรู้จากการเรยี นจนได้ขอ้ สรปุ ผสู้ ถาปนาอาณาจกั รไทยในอาณาจักรตา่ งๆ
3) ครตู รวจสอบผลการทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน เพอื่ ตรวจสอบความเขา้ ใจกอ่ นเรียนของนักเรยี น

4) ครูประเมินผลนักเรียน โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถาม พฤติกรรมการทางาน
รายบคุ คล พฤตกิ รรมการทางานกลุม่ และจากการนาเสนอผลการทากจิ กรรมหน้าชั้นเรยี น

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมินผล วธิ กี ารวัดผล เคร่ืองมอื วัด เกณฑก์ าร
จดุ ประสงค์ ประเมินผล
1.คาถามกระต้นุ
ความรคู้ วาม 1. สังเกตจากการซกั ถาม ตอบ ความคิด 70% ขนึ้ ไป ถอื ว่า
เขา้ ใจ (K) คาถาม ผ่านเกณฑก์ าร
2. ผสู้ ถาปนาอาณาจกั รไทยใน ประเมนิ

อาณาจกั รตา่ งๆ

ทกั ษะ/ 1.บอกประวตั ิผสู้ ถาปนาอาณาจักร 1. ใบงานผสู้ ถาปนา 70% ข้ึนไป ถือว่า
กระบวนการ (P)
ไทยในอาณาจกั รตา่ งๆ อาณาจักรไทยใน ผา่ นเกณฑก์ าร
ประเมนิ
อาณาจกั รตา่ งๆ

คณุ ลักษณะนสิ ยั (A) 1. สังเกตจากการเรียนมคี วาม 1. แบบสังเกต 70% ขึ้นไป ถือวา่
พฤติกรรม
รับผิดชอบตอ่ งานที่สงั่ และสง่ งาน ผ่านเกณฑก์ าร
ไดท้ นั ตามทก่ี าหนด ประเมิน
2. สังเกตจากการเรียนใฝเ่ รียนรู้

3. สงั เกตจากการมงุ่ มัน่ ในการ
ทางาน

7. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้
7.1 สอื่ การเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรียนประวตั ิศาสตร์ ป.3 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 ผสู้ ถาปนาอาณาจกั รไทยในอาณาจกั รต่างๆ
2. แบบฝกึ หัดประวัตศิ าสตร์ ป.3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 ผู้สถาปนาอาณาจกั รไทยในอาณาจักรต่างๆ

7.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) ห้องเรียน
2) หอ้ งสมดุ
3) อินเทอรเ์ น็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................

ลงช่อื ............................................ครูผู้สอน ลงชื่อ...................................................ฝ่ายวิชาการ

(........................................................) (.......................................................)

ลงชื่อ................................................... ผู้บรหิ าร
(...........................................................)

สปั ดาห์ท่ี 10

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ัฒนา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นที่ 1 / 2563 ชอื่ ผู้สอน ................................................................

กลุม่ สาระ ประวตั ศิ าสตร์ ช้ัน ประถมศึกษาปที ี่ 3 จานวน ......1...... คาบ

หน่วยการเรยี นท่ี 4 การสถาปนาอาณาจักรไทย เรื่อง พ่อขุนศรีอนิ ทราทิตย์

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้ีวัด

มาตรฐาน ส 4.3

เข้าใจความเปน็ มาของชาติไทย วฒั นธรรม ภมู ิปัญญาไทย มคี วามรัก ความภมู ิใจและธารงค์ความเป็น
ไทย

ตวั ช้ีวดั ป.3/1
ระบุพระนามและพระราชกรณยี กจิ โดยสงั เขปของพระมหากษัตรยิ ไ์ ทยทเ่ี ป็นผู้สถาปนาอาณาจกั รไทย

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
พอ่ ขุนศรีอนิ ทราทิตย์ เป็นผู้นาคนไทยท่ีขบั ไลอ่ ิทธิพลของขอม และทรงสถาปนาอาณาจกั รสโุ ขทัย

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. พ่อขนุ ศรีอินทราทิตย(์ K)
2. บอกประวัติพ่อขนุ ศรีอทิ ราทติ ย์ได้(P)
3. มีความสนใจใฝเ่ รียนร้แู ละมงุ่ ม่ันในการทางาน (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา

บอกประวัติพ่อขุนศรีอินทราทิตยไ์ ด้

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบที่ 1

ขนั้ นา

ข้นั กระตนุ้ ความสนใจ
1. ครูนาบัตรภาพมาแสดงใหน้ กั เรียนดู แล้วใหน้ ักเรียนเชอื่ มโยงเรอ่ื งราวจากภาพ

2. ครตู ้ังประเด็นคาถามเก่ียวกบั ภาพ ดงั นี้

3. ครนู าบัตรภาพมาแสดงให้นกั เรยี นดู แลว้ ใหน้ กั เรียนเชอ่ื มโยงเรอื่ งราวจากภาพ

ขน้ั สอน

ขั้นสารวจค้นหา
1. ครนู าบตั รภาพมาแสดงใหน้ กั เรียนดู แลว้ ใหน้ ักเรียนเชื่อมโยงเรอ่ื งราวจากภาพ

2. ครตู ้ังประเดน็ คาถามเก่ียวกับภาพ ดังน้ี

3. วัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทยั มีความสาคญั อย่างไร

4. พอ่ ขนุ ศรีอนิ ทราทิตยม์ คี วามเก่ียวข้องกบั ประวตั ิศาสตรอ์ ยา่ งไร

5. ประเพณีเผาเทียนเล่นไฟสบื ทอดมาจากสมัยใด

6. ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นตอบคาถามอย่างอสิ ระ จากนั้นครอู ธบิ าย

- เพื่อเช่อื มโยงให้นักเรยี นเขา้ ใจเกยี่ วกบั ความเป็นมาของภาพต่างๆตงั้ แตส่ มัยสโุ ขทัย
7. นักเรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด
8. นกั เรียนรวมกลุม่ กลมุ่ ละ 4 คน ตามความสมัครใจ จากนัน้ ให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันศกึ ษาความรู้

เรื่อง พอ่ ขุนศรีอินทราทิตย์ ผสู้ ถาปนากรงุ สโุ ขทยั จากหนงั สอื เรียน และหอ้ งสมุด โดยครูกาหนด
ประเด็นในการศกึ ษา ดงั นี้

9. พระราชประวตั ิ

10. พระราชกรณยี กจิ ที่สาคญั

11. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ แบง่ หนา้ ทีค่ วามรับผิดชอบในการศึกษาความรู้ตามความเหมาะสม หรอื ตามความ
สนใจ

12. ครตู ้ังประเด็นคาถามให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ อธิบาย หรอื ตอบคาถาม ดงั นี้

13. บคุ คลใดบา้ งท่มี ีบทบาทสาคญั ในการเปน็ ผู้นาชาวไทย

- กอ่ นการสถาปนากรุงสโุ ขทยั

14. พอ่ ขนุ ศรีนาวนาถม มบี ทบาทสาคญั อยา่ งไร

15. การขบั ไล่ขอมมผี ลตอ่ อาณาจกั รสุโขทัย

- อยา่ งไร

16. ครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง แล้วอธิบายเพมิ่ เตมิ เพ่ือให้นกั เรียนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจมากยง่ิ ข้นึ

ขัน้ สรปุ

ข้นั ขยายความเขา้ ใจ
1. นักเรยี นรว่ มกันอธิบาย ประวัตพิ อ่ ขนุ ศรีอทิ ราทติ ย์

ขัน้ ตรวจสอบผล
2) ครูให้นกั เรยี นสรุปความรู้ ผสู้ ถาปนาอาณาจกั รไทย พ่อขุนศรีอิทราทติ ย์
3) ครูตรวจสอบผลการทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน เพ่ือตรวจสอบความเขา้ ใจก่อนเรยี นของนกั เรียน
4) ครปู ระเมนิ ผลนักเรยี น โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถาม พฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล
พฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ และจากการนาเสนอผลการทากจิ กรรมหนา้ ชน้ั เรยี น

6. การวดั และประเมินผล

การวัดและประเมินผล วิธีการวัดผล เครือ่ งมอื วดั เกณฑ์การ
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล
1.คาถามกระตนุ้
ความรคู้ วาม 1. สงั เกตจากการซกั ถาม ตอบ ความคดิ 70% ขึน้ ไป ถือวา่
เข้าใจ (K) คาถาม ผ่านเกณฑก์ าร
2. พอ่ ขนุ ศรีอทิ ราทิตย์ 1. ใบงานพ่อขนุ ศรีอิท ประเมนิ
ทกั ษะ/ ราทิตย์
กระบวนการ (P) 1.บอกประวตั พิ ่อขนุ ศรอี ิทราทติ ย์ 70% ขึ้นไป ถือว่า
ผ่านเกณฑก์ าร
ประเมนิ

คุณลักษณะนิสยั (A) 1. สังเกตจากการเรยี นมคี วาม 1. แบบสังเกต 70% ข้ึนไป ถอื วา่
พฤตกิ รรม
รบั ผดิ ชอบตอ่ งานท่สี งั่ และสง่ งาน ผ่านเกณฑก์ าร
ได้ทนั ตามท่กี าหนด ประเมนิ
2. สังเกตจากการเรยี นใฝเ่ รยี นรู้

3. สงั เกตจากการมงุ่ ม่ันในการ
ทางาน

7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
7.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1. หนงั สือเรียนประวตั ศิ าสตร์ ป.3 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 ผู้สถาปนาอาณาจักรไทยในอาณาจกั รต่างๆ
2. แบบฝกึ หดั ประวัตศิ าสตร์ ป.3 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 พ่อขนุ ศรอี ิทราทิตย์

7.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องเรียน
2) หอ้ งสมุด
3) อนิ เทอรเ์ น็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...................

ลงชื่อ............................................ครูผู้สอน ลงชื่อ...................................................ฝ่ายวิชาการ

(........................................................) (.......................................................)

ลงชื่อ................................................... ผ้บู ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาหท์ ี่ 11

โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี 1 / 2563 ช่ือผู้สอน ................................................................

กลุม่ สาระ ประวัติศาสตร์ ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 จานวน ......1...... คาบ

หน่วยการเรียนที่ 4 การสถาปนาอาณาจกั รไทย เรือ่ ง สมเด็จพระรามาธิบดีท่ี 1 (พระเจา้ อู่ทอง)

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั
มาตรฐาน ส 4.3
เข้าใจความเป็นมาของชาตไิ ทย วฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาไทย มคี วามรกั ความภูมิใจและธารงค์ความเปน็

ไทย
ตวั ชวี้ ดั ป.3/1
ระบพุ ระนามและพระราชกรณียกจิ โดยสงั เขปของพระมหากษตั รยิ ไ์ ทยทเี่ ปน็ ผู้สถาปนาอาณาจกั รไทย

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
สมเดจ็ พระรามาธบิ ดีท่ี 1 (พระเจ้าอทู่ อง) ทรงสถาปนากรงุ ศรอี ยธุ ยาเป็นราชธานี วางระเบยี บดา้ น
การปกครอง และขยายอาณาเขตของกรงุ ศรีอยุธยา

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. สมเดจ็ พระรามาธบิ ดที ี่ 1 (พระเจา้ อทู่ อง) (K)
2. บอกประวัติสมเด็จพระรามาธิบดที ี่ 1 (พระเจ้าอ่ทู อง) (P)
3. มีความสนใจใฝเ่ รยี นรู้และมงุ่ มั่นในการทางาน (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิน่
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

บอกประวัติสมเด็จพระรามาธบิ ดที ่ี 1 (พระเจา้ อ่ทู อง) พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบท่ี 1

ขั้นนา

ขน้ั กระตุ้นความสนใจ
1. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด

2. ครูนาบตั รภาพมาแสดงใหน้ ักเรยี นดู แลว้ ใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาวา่ บคุ คลในภาพคอื ใคร และเหตุการณ์ที่
เกิดข้ึนในภาพมคี วามสาคญั อยา่ งไร

ขน้ั สอน

ขัน้ สารวจค้นหา
1. ครูนาบตั รภาพมาแสดงให้นกั เรียนดู แล้วใหน้ ักเรียนพจิ ารณาว่า บคุ คลในภาพคอื ใคร และเหตกุ ารณ์ท่ี
เกดิ ขนึ้ ในภาพมีความสาคญั อย่างไร

2. ครเู ลา่ เรอื่ งราวประกอบภาพใหน้ กั เรยี นเข้าใจวา่ ภาพดังกลา่ ว

- เปน็ ภาพทว่ี าดจากจินตนาการเพ่อื ให้เหน็ เหตกุ ารณส์ าคัญที่
- พระเจ้าอทู่ อง ทรงควบคุมการสรา้ งกรุงศรีอยุธยาเปน็ ราชธานี
- เมือ่ พ.ศ. 1893 ณ บริเวณเกาะเมอื งอยุธยาในปัจจุบนั

3. ครใู หน้ ักเรยี นแสดงความคดิ เห็นวา่ พระเจา้ อู่ทอง มคี วามสาคญั ตอ่ กรงุ ศรอี ยุธยาอยา่ งไร

4. ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง สมเดจ็ พระรามาธิบดที ี่ 1 (พระเจ้าอู่
ทอง) เพือ่ หาคาตอบวา่

5. พระเจา้ อู่ทอง มคี วามสาคญั ตอ่ กรงุ ศรอี ยุธยาอย่างไร
6. ครกู าหนดวตั ถุประสงค์ที่นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ จะตอ้ งร่วมกนั ปฏิบตั ิ ดงั นี้

7. รวบรวมขอ้ มลู เก่ียวกับพระราชประวตั ิ และพระราชกรณียกจิ ทสี่ าคญั ของสมเดจ็ พระรามาธิบดที ี่ 1
(พระเจ้าอทู่ อง)

8. เรียงลาดับเหตกุ ารณ์พระราชกรณียกจิ ทสี่ าคญั

ข้นั สรปุ

ขั้นขยายความเขา้ ใจ
1. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั รวบรวมข้อมูลเก่ยี วกบั พระราชประวัติ พระราชกรณยี กจิ ท่สี าคญั ของ
สมเดจ็ พระรามาธิบดีท่ี 1 (พระเจา้ อู่ทอง) จากหนังสือเรียน ห้องสมดุ และใบความรู้ เรือ่ ง การ
ปกครองแบบจตสุ ดมภ์ แลว้ เรียงลาดบั เหตกุ ารณ์พระราชกรณยี กิจทส่ี าคัญตามทไ่ี ด้วางแผนรว่ มกัน

ขั้นตรวจสอบผล

1. ครูให้นักเรียนสรุปความรู้ ผู้สถาปนาอาณาจักรไทย สมเดจ็ พระรามาธิบดีท่ี 1 (พระเจา้ อูท่ อง)

2. ครตู รวจสอบผลการทาแบบทดสอบก่อนเรยี น เพือ่ ตรวจสอบความเขา้ ใจก่อนเรยี นของนักเรียน
3. ครูประเมินผลนักเรียน โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถาม พฤติกรรมการทางานรายบุคคล

พฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ และจากการนาเสนอผลการทากิจกรรมหน้าชั้นเรียน

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั และประเมนิ ผล

จดุ ประสงค์ วิธกี ารวดั ผล เครือ่ งมอื วัด เกณฑก์ าร

ประเมินผล

ความรู้ความ 1. สังเกตจากการซกั ถาม ตอบ 1.คาถามกระตนุ้ 70% ข้นึ ไป ถือวา่

เข้าใจ (K) คาถาม ความคดิ ผ่านเกณฑก์ าร

2. สมเดจ็ พระรามาธบิ ดที ี่ 1 (พระ ประเมนิ

เจา้ อู่ทอง)

ทกั ษะ/ 1.บอกประวัตสิ มเดจ็ พระรามาธบิ ดี 1. ใบงานสมเด็จพระ 70% ขน้ึ ไป ถือวา่

กระบวนการ (P) ที่ 1 (พระเจ้าอูท่ อง) รามาธบิ ดที ี่ 1 (พระเจ้า ผา่ นเกณฑก์ าร

อูท่ อง) ประเมิน

คุณลกั ษณะนสิ ยั (A) 1. สังเกตจากการเรียนมคี วาม 1. แบบสังเกต 70% ขน้ึ ไป ถือว่า
รบั ผิดชอบตอ่ งานทสี่ งั่ และส่งงาน พฤติกรรม ผ่านเกณฑก์ าร

ได้ทนั ตามที่กาหนด ประเมิน
2. สงั เกตจากการเรยี นใฝเ่ รียนรู้
3. สงั เกตจากการมงุ่ ม่ันในการ

ทางาน

7. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 ส่อื การเรียนรู้
1. หนงั สอื เรยี นประวัตศิ าสตร์ ป.3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ผูส้ ถาปนาอาณาจกั รไทยในอาณาจักรตา่ งๆ
2. แบบฝึกหดั ประวตั ศิ าสตร์ ป.3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 สมเด็จพระรามาธบิ ดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง)

7.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) หอ้ งเรียน
2) หอ้ งสมุด
3) อนิ เทอร์เนต็

8. กิจกรรมเสนอแนะ
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................

ลงชื่อ............................................ครูผสู้ อน ลงช่อื ...................................................ฝ่ายวชิ าการ

(........................................................) (.......................................................)

ลงช่อื ................................................... ผ้บู ริหาร
(...........................................................)

สัปดาห์ท่ี 12

โรงเรียนขจรเกยี รติพัฒนา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี 1 / 2563 ชอ่ื ผสู้ อน ................................................................

กลมุ่ สาระ ประวัติศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 จานวน ......1...... คาบ

หน่วยการเรยี นท่ี 4 การสถาปนาอาณาจกั รไทย เรอ่ื ง สมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราช

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด

มาตรฐาน ส 4.3

เข้าใจความเปน็ มาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาไทย มคี วามรกั ความภูมิใจและธารงค์ความเป็น
ไทย

ตวั ช้ีวดั ป.3/1
ระบุพระนามและพระราชกรณียกจิ โดยสงั เขปของพระมหากษัตรยิ ไ์ ทยทเ่ี ป็นผ้สู ถาปนาอาณาจักรไทย

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช ทรงเป็นผ้นู าในการขบั ไลพ่ มา่ หลงั เสยี กรงุ ศรีอยุธยาครง้ั ที่ 2 และ

สถาปนากรุงธนบรุ เี ปน็ ราชธานี

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. สมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช (K)
2. บอกประวตั ิสมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช (P)
3. มคี วามสนใจใฝเ่ รียนรแู้ ละมงุ่ มัน่ ในการทางาน (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ ้องถิ่น
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา

บอกประวัติสมเด็จพระเจ้าตากสนิ มหาราช

5. กิจกรรมการเรยี นรู้ คาบท่ี 1

ข้ันนา

ขน้ั กระตุ้นความสนใจ
1. นกั เรียนตอบคาถามกระต้นุ ความคิด
2. ครเู ลา่ ถงึ สาเหตขุ องการเสยี กรงุ ศรอี ยุธยาคร้ังที่ 2 ให้นกั เรียนฟงั เพ่อื ใหน้ กั เรียนตระหนักและ
เห็นถงึ ความสาคญั ของความสามคั คีของคนในชาติ

ข้ันสอน

ข้นั สารวจคน้ หา
1. ครูเลา่ ถงึ สาเหตขุ องการเสยี กรงุ ศรีอยุธยาคร้ังท่ี 2 ให้นักเรียนฟงั เพือ่ ใหน้ ักเรยี นตระหนักและ
เหน็ ถงึ ความสาคัญของความสามคั คีของคนในชาติ

2. ครูเปิดซดี ีเพลงพระเจา้ ตาก พรอ้ มแจกเนอื้ เพลง จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็
เกีย่ วกับการต่อสเู้ พอื่ ก้เู อกราชของสมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราช

3. ครใู ห้นกั เรยี นชว่ ยกนั หาคาตอบว่า เพราะเหตใุ ด สมเดจ็ พระเจ้า

ตากสนิ มหาราช จงึ ขับไลก่ องทัพพม่าให้ไปจากกรุงศรีอยธุ ยาได้สาเรจ็
4. ครูกาหนดประเด็นในการศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง พระเจา้ ตากสนิ มหาราช ดังนี้

5. รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพระราชประวัติ และพระราชกรณียกจิ ทส่ี าคญั ของสมเดจ็ พระเจา้ ตากสิน
มหาราช

6. รวบรวมข้อมูลเก่ยี วกบั พระราชประวตั ิ และพระราชกรณยี กจิ ที่สาคญั ของสมเดจ็ พระเจ้าตากสนิ
มหาราช

7. เรยี งลาดบั เหตกุ ารณ์พระราชกรณียกิจท่สี าคัญ

8. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มตรวจสอบความถกู ตอ้ งของพระราชประวตั ิ และพระราชกรณยี กจิ ทสี่ าคญั ของ
สมเดจ็ พระเจ้าตากสนิ มหาราช และเรยี งลาดบั เหตุการณ์พระราชกรณียกจิ ทีส่ าคญั

9. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั วเิ คราะห์วา่ เพราะเหตใุ ด สมเดจ็ พระ-เจา้ ตากสินมหาราช จึงขับไล่
กองทพั พมา่ ใหไ้ ปจากกรุงศรอี ยธุ ยาไดส้ าเรจ็

10. ครสู ุม่ ตวั แทนนกั เรยี น 2-3 กลมุ่ สรปุ ผลการวเิ คราะห์ของกลุ่ม

11. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุน้ ความคิด

12. ครูนาแผนท่ีแสดงอาณาเขตประเทศไทยในรัชสมยั ของสมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช มาแสดงที่
หนา้ ชั้นเรียน แล้วอธบิ ายให้นักเรียนเขา้ ใจถงึ การขยายอานาจในการปกครอง โดยการทา