การสอบเข้า มหา ลัย ต่างประเทศ

ตั้งแต่ปี 2018 ระบบแอดมิชชั่นของเพื่อศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยไทยได้เปลี่ยนแปลงไป จากสอบเพียงแค่สอบ ONET GAT PAT มาเป็นการใช้ระบบ TCAS แต่กลับมีปัญหามากขึ้น ไปเรียนต่อต่างประเทศดีกว่า

สารบัญ Show

ตอบข้อสงสัยแรกทำไมมหาลัยต่างประเทศที่รับ GED จึงมีเยอะ
แนะนำมหาลัยต่างประเทศที่รับ GED มีที่ไหนบ้าง
มหาลัยต่างประเทศ เข้ายังไง
สอบเข้ามหาลัยต่างประเทศ ใช้อะไรบ้าง
ทำไมต้องมีการสอบเข้ามหาลัย
ไปเรียนต่างประเทศใช้อะไรบ้าง

อย่างที่เราได้เกลิ่นไปเบื้องต้นว่า ในปี 2018 นี้ ระบบแอดมิชชั่นของการเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้เปลี่ยนแปลงไปจากสอบเพียงแค่สอบ ONET GAT PAT มาเป็นการใช้ระบบ TCAS แต่กลับมีปัญหามาขึ้น “ปัญหาที่พบอย่างแรกคือรอบ Portfolio ปล่อยสิทธิ์ที่นั่งมากกว่า 1 สิทธิ์ นั่นแปลว่าเด็กเก่งก็จะได้ในทุกที่ที่เขาเลือกอยู่แล้ว พอมาถึงรอบ 3 ที่มีปัญหามากๆ ข้อที่นักเรียนโวยวายมากที่สุดก็คือการให้สิทธิ์กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) เข้ามายื่นคะแนนในรอบนี้ด้วย ทั้งๆ ที่เขาก็ติดในกลุ่มแพทย์ของเขาอยู่แล้ว พอเข้ามากันเยอะขึ้น ก็ทำให้คะแนนในรอบนี้ถูกดันให้สูงมาก ดังนั้นเด็กที่วางแผนไว้ว่าจะยื่นคะแนนในรอบ 3 เพราะศึกษาจากคะแนนปีที่แล้วว่าคะแนนประมาณนี้น่าจะติด พอมีกลุ่ม กสพท. เข้ามา ปรากฏว่าคะแนน 27,000 เต็ม 30,000 ก็ยังสอบไม่ติดในบางคณะ มันก็เลยเป็นปัญหา” - ที่มา sanook.com

จึงทำให้น้องๆหลายๆคนยังไม่มีที่เรียน และพลาดมหาวิทยาลัยในดวงใจไป แต่น้องๆหลายๆคนไม่ต้องเป็นกังวลไปนะคะ เพราะทราบหรือไม่ว่าน้องๆยังสามารถสมัครไปเรียนต่อต่างประเทศทันอยู่ น้องๆทราบหรือไม่ว่า การศึกษาต่อประเทศอังกฤษนั้นใช้ระยะเวลา 3 ปีก็จบแล้ว แถมน้องยังสามารถเลือกเรียนแบบ Sandwich year ได้ซึ่งนั้นก็คือการทำ Intership/ Work Placement หรือการฝึกงานซึ่งมีแบบได้เงินและไม่ได้เงิน

แล้วมีมหาวิทยาลัยอะไรบ้างที่เราสามารถเข้าไปเรียนปริญญาตรี ปี 1 ได้เลย เช่น University of Sussex, University of Leicester, Coventry University, Kingston, University of Lincoln, University of Keele, University of the West of England, Bath Spa University หรือ Northumbria University และมหาลัยอื่นๆในประเทศอังกฤษ

แต่ถ้าน้องๆ อยากเข้าไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่ Top ระดับโลก ทางเราก็แนะนำการศึกษาต่อในประเทศเนเธอร์แลนด์ หรือที่เราเรียกกันว่า "Holland" นั้นเอง เช่น University of Twente, University of Amsterdam, Tilburg University เป็นต้น

สนใจวางแผนไปเรียนต่อต่างประเทศ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมดังกล่าวสามารถติดต่อเรามาได้ทุกสาขา ทางเรายินดีให้คำปรึกษาและวางแผนให้อย่างมืออาชีพ โทรหาเราวันนี้ที่

0866324594

Line:

@smilecampus

สำหรับใครมีแผนอยากไปเรียนต่อต่างประเทศ บวกกับเป็นคนลาด เรียนเก่งมาก ต้องการสอบเทียบเพื่อไม่ต้องเสียเวลาเรียนอย่างน้อย 2-3 ปี จริงแล้วมหาลัยต่างประเทศที่รับ GED ก็มีด้วยกันหลายแห่ง และเชื่อว่าหลายประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักยินดีรับผู้ที่สอบทำคะแนนสูงแบบไม่มีเงื่อนไขอื่นใดมากนัก หากไม่ใช่เข้าเรียนในคณะแพทย์หรือบางคณะที่มีข้อกำหนดพิเศษ ลองมาดูว่ามีสถาบันไหนในประเทศต่าง ๆ น่าสนใจจนต้องหาข้อมูลต่อ

ตอบข้อสงสัยแรกทำไมมหาลัยต่างประเทศที่รับ GED จึงมีเยอะ

ก่อนจะไปรู้ว่ามหาลัยต่างประเทศที่รับ GED มีที่ไหนบ้าง ขออธิบายข้อมูลเพื่อให้ทุกคนมั่นใจว่าการสอบนี้มีมาตรฐาน โดยการสอบ GED คือ การสอบเทียบวุฒิที่ดำเนินการโดยประเทศสหรัฐฯ ซึ่งจัดให้สอบแบบนี้มานานมาก หลายประเทศรวมถึงเมืองไทยของเราก็นำเอาหลักสูตรดังกล่าวมาใช้ และสถาบันการศึกษาหลายแห่งทั้งไทยและทั่วโลกต่างก็ยอมรับในคุณภาพ

เหตุเพราะเนื้อหาที่สอบมีความครอบคลุมในหลายหมวด หลากวิชาไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ, คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์, สังคมศึกษา แถมยังใช้ข้อสอบอังกฤษทั้งหมด นั่นบ่งบอกถึงผู้สอบต้องมีความรู้มากพอจึงสามารถสอบและเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษาได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเรียนในระดับ ม.ปลาย เหมือนกับนักเรียนทั่วไป

แนะนำมหาลัยต่างประเทศที่รับ GED มีที่ไหนบ้าง

เมื่อเข้าใจถึงเหตุผลหลัก ๆ ที่บรรดามหาวิทยาลัยหลายแห่งยินดีรับคะแนนสอบ GED สำหรับเทียบวุฒิเข้าเรียนต่อกันเรียบร้อย คราวนี้ลองมาเช็ครายชื่อตามประเทศที่คนไทยนิยมไปเรียนต่อกันสักนิดว่ามหาลัยต่างประเทศที่รับ GED มีที่ไหนบ้าง เพื่อเป็นตัวเลือกดี ๆ ให้ลองวางแผนเรียนในอนาคตกันดู

สหรัฐอเมริกา

Colorado State University, George Mason University, Oregon State University, Hofstra University, Saint Louis University, University of Alabama at Birmingham, University of South Florida, Washington State University, Illinois State University, Florida International University, Texas A&M University-Corpus Christ, University of South Carolina, University of Massachusetts, Boston Quinnipiac University, University of Connecticut เป็นต้น

ออสเตรเลีย

Australian Catholic University, Central Queensland University, Curtin University, Griffith University, Macquarie University, RMIT University, Southern Cross University, Taylors College The University of Adelaide, The University of New South Wales, The University of Queensland, University of Melbourne, University of Tasmania, Western Sydney University

นิวซีแลนด์

Massey University, University of Canterbury, University of Auckland, University of Waikato Victoria, University of Wellington

อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่สนใจไปเรียนต่อในยุโรป การสอบเทียบวุฒิ GED อาจยังไม่ถูกยอมรับมากนักโดยเฉพาะในสหราชอาณาจักร แต่ก็ยังมีมหาลัยต่างประเทศที่รับ GED อีกหลายแห่งจัดว่าน่าสนใจและตอบโจทย์การเรียนของทุกคนมาก ๆ ซึ่งตัวอย่างที่ขอแนะนำ เช่น

Medical University of Lublin ประเทศโปแลนด์
Thompson Rivers University ประเทศแคนาดา
Tokyo International University ประเทศญี่ปุ่น
Singapore Institute of Management (SIM) ประเทศสิงคโปร์

ทั้งนี้หากน้อง ๆ คนไหนสนใจอยากเรียนต่อกับมหาลัยต่างประเทศที่รับ GED ต้องลองศึกษาข้อมูลของสถาบันนั้น ๆ รวมถึงคณะ รายวิชา และเงื่อนไขอื่นเพิ่มเติมด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อตนเองสอบแล้วจะได้ไม่มีปัญหาอื่นตามมา และคะแนนสอบสามารถถูกนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด คุ้มค่ากับการจ่ายเงินและการตั้งใจฝึกฝนอย่างดี

มหาลัยต่างประเทศ เข้ายังไง

ขั้นตอนการไปเรียนต่อต่างประเทศ.

1. ค้นหาข้อมูล ... .

2. ขอรับคำปรึกษาและคำแนะแนวจากพี่ๆ IDP. ... .

3. เตรียมใบสมัครให้พร้อม ... .

4. รอการตอบรับจากมหาวิทยาลัย ... .

5. พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ... .

6. เตรียมเอกสารการยื่นขอวีซ่านักเรียน ... .

บริการของ IDP..

สอบเข้ามหาลัยต่างประเทศ ใช้อะไรบ้าง

Checklist!.

สำเนาพาสปอร์ต.

ใบสมัครเรียนของสถาบันที่ต้องการเรียน โดยกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน.

ผลคะแนนสอบภาษาอังกฤษ TOEFL/ IELTS (ถ้ามี).

เอกสารรับรองสถานะทางการเงิน (เฉพาะประเทศอเมริกา).

ทำไมต้องมีการสอบเข้ามหาลัย

1.การสอบเข้ามหาวิทยาลัย คือ การตัดสินอนาคตของนักเรียนจำนวนมาก ว่าใครจะเป็นผู้ชนะหรือแพ้ ดังนั้น ระบบการศึกษาไทยตั้งแต่ชั้นอนุบาล จึงพุ่งเป้าไปที่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นสำคัญ เพราะวัฒนธรรมความเชื่อของคนไทยยึดถือกันมาว่า การเรียนจบมหาวิทยาลัย คือใบเบิกทางไปสู่ความสำเร็จในชีวิต จะมีงานที่ดีให้ทำ จะมีรายได้สูง จะมีอนาคต ...