�ѧ���˹�ҷѺ �ѵ�Ҩѧ���˹�ҷѺ ���� 1. ˹�ҷѺ�ú�� ���Сͺ�ѧ�����ŧ���������������§�� ����ŧ����§�ͭ ����§��� ����§ᢡ ������ŧ�ҷ���Դ�ҡ��â��¨ҡ�ŧ�����ѵ�� 2 ��� ��Т������ ���¢���� 3 ��� �������ú���ŧ�� �����ŧ��˹�ҷѺ�ú����ѵ�� 3 ��� ��ǹ�ѵ�� 2 ��� ���ͪ������ �Ҩ����˹�ҷѺ�ú�� ����˹�ҷѺ����§���� �����ҡ���* �ŧ��Ǵǧ�� �������ú�� ���ŧ�����ͧ�ʧ �ѵ�� 3 ��� ��˹�ҷѺ�ͧ��� �ѵ�� 2 ��� ��˹�ҷѺ��� �ѵ�Ҫ������ ��˹�ҷѺ�ͧ��� 2. ˹�ҷѺ�ͧ��� �����ŧ��Сͺ�ŧ���������§��� �������§����� �� �ŧ���� �ŧ�ͧ��� �������ŧ��ºҧ�ŧ �Ҩ�ջ���������§ᢡ�����ҧ ��駹��������Ѻ����оѹ���ŧ �С�˹������˹�ҷѺ���� 3. ˹�ҷѺ��� �͡�ҡ����ѧ���ŧᢡž���� �� ������ŧ�������ŧ���� ��ѧ���˹�ҷѺ�ͧ������� ��㹪�ǧ�١�¹����շӹͧ����§ᢡ���ѡɳ��� �����˹�ҷѺᢡ��Сͺ�ѧ��� 5. ˹�ҷѺ��� �ͭ �ѹ �ǹ ��觷ӹͧ����ѡ������ѵ�Ҩѧ��� 2 ��� ��������ǹ�ѵ�Ҩѧ�������§���� ���ҡ�ա�â���������ŧ�� �����˹�ҷѺ���� 㹪�ǧ�ѵ�� 3 �������ѵ�Ҫ������ ���ͧ�ҡ˹�ҷѺ�������§�ѵ�� 2 ��� ��Ъ������ ������Ǩ��������ͺ���ŧ���ŧ�� �˵ؼ����е�ͧ������������º���º���� ��§�� �������� �������ŧ�ҧ����ͧ��й��ѵ�Ҩѧ��Ъ�����Ǣͧ����ҵ�᷹����§�չ ˹�ҷѺ�չ�����ѵ�� 2 ��� ����͢������� ����˹�ҷѺ��� ���� ˹�ҷѺ�ͧ����ҵ�㹪�ǧ 2 �����Ъ������ ���ͺҧ�ŧ�Ҩ���ͧ���շ�������¡��� �� �ŧ�չ������ ����˹�ҷѺ�ͧ��������6. ˹�ҷѺ�ǹ �ŧ���������§�ǹ��ŧ���չ����ҡ �� �ǹ���� �ǹ������ �ѡ���ŧ��ѵ�� 2 ��� �������ŧ�Ҩ���˹�ҷѺ�ͧ������ŧ��Сͺ�ѧ��� ���ͧ�ҡ˹�ҷѺ�ͧ������ç���ҧ����ǹ�ѧ���㹪�ǧ 2 �����ҡѺ˹�ҷѺ�ǹ ����դ�������������§�Ѻ˹�ҷѺ�ǹ�ҡ����ش7. ˹�ҷѺ����� ���� ˹�ҷѺ������ŧ˹�Ҿҷ�� ˹�ҷѺ������ŧ�͡���� ˹�ҷѺ����ҹ����ա�����ҧ����ǹ�ѧ������ŧ���� �� ˹�ҷѺ�ŧ�Դ �ŧ��� �ŧ�Ҹء�� �ŧ���� �ŧ�� ����֧˹�ҷѺ�ŧ�͡���ҵ�ҧ� 㹪ش 12 ���� �繵� �͡�ҡ����ѧ���ŧ����ɷ���ա�û�оѹ������ٻẺ�ѡɳо���� ��������ѧ���˹�ҷѺ����ŧ��Сͺ���դ������������ó����Ǵѧ��鹨����������ŧ����ҹ������������ҡ�ѡ�ѧ����ŧ��������˹����ҧ�������Ѻ�ŧ���ѹ�� �ѡ����յ�ҧǧ�Ҩ����ŧ���ǡѹ���¨ѧ��з��ᵡ��ҧ�ѹ���� ดนตรีไทย Music of Thai ดนตรีไทย Music of Thai เสียงของดนตรีไทย ประกอบด้วยระดับเสียง 7 เสียง แต่ละเสียงมีช่วงห่างเท่ากันทุกเสียง เสียงดนตรีไทย แต่ละเสียงเรียกชื่อแตกต่างกันไป ในดนตรีไทยเรียกระดับเสียงว่า “ทาง” จังหวะของดนตรีไทย “จังหวะ” มีความหมายถึงมาตราส่วนของระบบดนตรีที่ดำเนินไปในช่วงของการบรรเลงเพลงอย่างสม่ำเสมอ เป็นตัวกำหนดให้ผู้บรรเลงจะต้องใช้เป็นหลักในการบรรเลงเพลง จังหวะของดนตรีไทยจำแนกได้ 3 ประเภท คือ 1. จังหวะสามัญ หมายถึงจังหวะทั่วไปที่นักดนตรียึดเป็นหลักสำคัญในการบรรเลงและขับร้องโดยปกติจังหวะสามัญที่ใช้กัน ในวงดนตรีจะมี 3 ระดับ คือ จังหวะช้า ใช้กับเพลงที่มีอัตราจังหวะ สามชั้น จังหวะปานกลาง ใช้กับเพลงที่มีอัตราจังหวะ สองชั้น จังหวะเร็ว ใช้กับเพลงที่มีอัตราจังหวะ ชั้นเดียว 2. จังหวะฉิ่ง หมายถึง จังหวะที่ใช้ฉิ่งเป็นหลักในการตี โดยปกติจังหวะฉิ่งจะตี “ฉิ่ง…ฉับ” สลับกันไป ตลอดทั้งเพลง แต่จะมีเพลงบางประเภทตีเฉพาะ “ฉิ่ง” ตลอดเพลง บางเพลงตี “ฉิ่ง ฉิ่ง ฉับ” ตลอดทั้งเพลง หรืออาจจะตีแบบอื่นๆ ก็ได้ จังหวะฉิ่งนี้นักฟังเพลงจะใช้เป็นแนวในการพิจารณาว่าช่วงใดเป็นอัตราจังหวะ สามชั้น สองชั้น หรือ ชั้นเดียวก็ได้ เพราะฉิ่งจะตีเพลงสามชั้นให้มีช่วงห่างตามอัตราจังหวะของเพลง หรือ ตีเร็วกระชั้นจังหวะ ในเพลงชั้นเดียว 3. จังหวะหน้าทับ หมายถึงเกณฑ์การนับจังหวะที่ใช้เครื่องดนตรี ประเภทเครื่องตีประเภทหนังซึ่งเลียนเสียงการตีมาจาก “ทับ” เป็นเครื่องกำหนดจังหวะ เครื่องดนตรีเหล่านี้ ได้แก่ ตะโพน กลองแขก สองหน้า โทน - รำมะนา หน้าทับ ทำนองดนตรีไทย 1. ทำนองทางร้อง เป็นทำนองที่ประดิษฐ์เอื้อนไปตามทำนองบรรเลงของเครื่องดนตรี และมีบทร้องซึ่งเป็นบทร้อยกรอง ทำนองทางร้องคลอเคล้าไปกับทำนองทางรับหรือร้องอิสระได้ การร้องนี้ต้องถือทำนองเป็นสำคัญ 2. ทำนองการบรรเลง หรือทางรับ เป็นการบรรเลงของเครื่องดนตรีในวงดนตรี ซึ่งคีตกวีแต่งทำนองไว้สำหรับบรรเลง ทำนองหลักเรียกลูกฆ้อง “Basic Melody” เดิมนิยมแต่งจากลูกฆ้องของฆ้องวงใหญ่ และแปรทางเป็นทางของเครื่องดนตรีชนิดต่างๆ ดนตรีไทยนิยมบรรเลงเพลงในแต่ละท่อน 2 ครั้งซ้ำกัน
ภายหลังได้มีการแต่งทำนองเพิ่มใช้บรรเลงในเที่ยวที่สองแตกต่างไปจากเที่ยวแรกเรียกว่า “ทางเปลี่ยน” 2. การประสานเสียงระหว่างเครื่องดนตรี คือ การบรรเลงดนตรีด้วยเครื่องดนตรีต่างชนิดกัน สุ้มเสียง และความรู้สึกของเครื่องดนตรีเหล่านั้น ก็ออกมาไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะบรรเลงเหมือนกันก็ตาม ประเภทของเพลงไทย 1. เพลงสำหรับบรรเลงดนตรีล้วนๆ ไม่มีการขับร้อง เป็นเพลงที่ใช้บรรเลงประโคมพิธีต่างๆ เพลงโหมโรง และเพลงหน้าพาทย์ จะเป็นเพลงสำหรับใช้ประกอบกิริยาอาการและแสดงอารมณ์ต่างๆ ของการรำ 2. เพลงสำหรับขับร้อง คือ เพลงซึ่งร้องแล้วรับด้วยการบรรเลง เรียกว่า ร้องส่งดนตรี เช่น เพลงประกอบ การขับเสภา(ร้องส่งเสภา) เพลงที่ร้องส่งเพื่อฟังไพเราะทั่วไปส่วนมากจะเป็นเพลงเถาและเพลงตับ 3. เพลงประกอบการรำ คือ เพลงร้องตามบทร้อง ให้ผู้รำได้รำตามบทหรือเนื้อร้องส่วนมากจะเป็นเพลง สองชั้นเพื่อให้เหมาะกับการรำไม่ช้าไปไม่เร็วไป นอกจากนั้น ก็ยังใช้เพลงหน้าพาทย์ประกอบการแสดง กิริยาอาการ ของผู้แสดงอีกด้วย วงปี่พาทย์ ประกอบด้วยเครื่องตีเป็นสำคัญ เช่น ฆ้อง กลอง และมีเครื่องเป่าเป็นประธานได้แก่ ปี่ นอกจากนั้นเป็นเครื่อง วงปี่พาทย์ยังแบ่งไปได้อีกคือ วงปี่พาทย์ชาตรี,วงปี่พาทย์ไม้แข็ง,วงปี่พาทย์เครื่องห้า,วงปี่พาทย์เครื่องคู่,วงปี่พาทย์เครื่องใหญ่,วงปี่พาทย์ไม้นวม,วงปี่พาทย์มอญ,วงปี่พาทย์นางหงส์ วงเครื่องสาย เครื่องสาย ได้แก่ เครื่องดนตรี ที่ประกอบด้วยเครื่องดนตรีที่มีสายเป็นประธาน มีเครื่องเป่า และเครื่องตี เป็นส่วนประกอบ ได้แก่ ซอด้วง ซออู้ จะเข้ เป็นต้น ปัจจุบันวงเครื่องสายมี 4 แบบ คือ วงเครื่องสายเครื่องเดี่ยว,วงเครื่องสายเครื่องคู่,วงเครื่องสายผสม,วงเครื่องสายปี่ชวา วงมโหรี ในสมัยโบราณเป็นคำเรียกการบรรเลงโดยทั่วไป เช่น "มโหรีเครื่องสาย" "มโหรีปี่พาทย์" ในปัจจุบัน มโหรี ใช้เป็นชื่อเรียกเฉพาะวงบรรเลงอย่างหนึ่งอย่างใดที่มีเครื่อง ดีด สี ตี เป่า มาบรรเลงรวมกันหมด ฉะนั้นวงมโหรีก็คือวงเครื่องสาย และวงปี่พาทย์ ผสมกัน วงมโหรีแบ่งเป็น วงมโหรีเครื่องสี่,วงมโหรีเครื่องหก,วงมโหรีเครื่องเดี่ยว หรือ มโหรีเครื่องเล็ก,วงมโหรีเครื่องคู่,วงมโหรีโบราณ(เครื่องแปด) เพลงดนตรีไทย แบ่งได้เป็น 4 แบบคือ เพลงหน้าพาทย์ ได้แก่ เพลงที่บรรเลงประกอบกิริยาเคลื่อนไหวหรือเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ทั้งของมนุษย์ ของสัตว์ ของวัตถุต่าง ๆ และอื่น ๆ เพลงรับร้อง ที่เรียกว่าเพลงรับร้องก็ด้วยบรรเลงรับจากการร้อง คือ เมื่อคนร้องได้ร้องจบไปแล้วแต่ละท่อน ดนตรีก็ต้องบรรเลงรับในท่อนนั้น ๆ โดยมากมักเป็นเพลงอัตรา 3 ชั้นและเพลงเถา เช่น เพลงจระเข้หางยาว 3 ชั้น เพลงสี่บท 3 ชั้น และเพลงบุหลันเถา เป็นต้น เพลงละคร หมายถึงเพลงที่บรรเลงประกอบการแสดงโขน ละคร และมหรสพต่าง ๆ ซึ่งหมายเฉพาะเพลงที่มีรัองและดนตรีรับเท่า นั้น เพลงละครได้แก่เพลงอัตรา 2 ชั้น เช่น เพลงเวสสุกรรม เพลงพญาโศก หรือชั้นเดียว เช่น เพลงนาคราช เพลงตะลุ่มโปง เป็นต้น เพลงเบ็ดเตล็ด ได้แก่ เพลงเล็ก ๆ สั้น ๆ สำหรับใช้บรรเลงเป็นพิเศษ เช่น บรรเลงต่อท้ายเพลงใหญ่เป็นเพลงลูกบท หรือเพลงภาษา ต่าง ๆ ซึ่งบรรเลงเพื่อสนุกสนาน อัตราจังหวะหลักของดนตรีไทยคือจังหวะใด1. จังหวะสามัญ หมายถึงจังหวะทั่วไปที่นักดนตรียึดเป็นหลักสำคัญในการบรรเลงและขับร้องโดยปกติจังหวะสามัญที่ใช้กัน ในวงดนตรีจะมี 3 ระดับ คือ จังหวะช้า ใช้กับเพลงที่มีอัตราจังหวะ สามชั้น จังหวะปานกลาง ใช้กับเพลงที่มีอัตราจังหวะ สองชั้น
อัตราจังหวะเพลงไทยแบบไหนเร็วที่สุด๑. อัตราจังหวะชั้นเดียว เป็นลักษณะของเพลงไทยในยุคแรก มีต้นกำเนิดมาจากเพลงพื้นบ้านหรือ เพลงประกอบการเต้นรำ เป็นเพลงที่มีจังหวะเร็ว หรือเรียกว่าเพลงเร็ว เพลงชั้นเดียวจะร้องเอื้อนน้อย หรือไม่มีการร้องเอื้อนเลยก็ได้ ใช้ขับร้องและบรรเลงประกอบการแสดงมหรสพต่างๆ ตัวอย่างเพลงชั้นเดียว ได้แก่ เพลงนาคราช เพลงหนีเสือ
เพลงไทยอัตราจังหวะ 3 ชั้น มีเพลงอะไรบ้าง๓. อัตราจังหวะสามชั้น เกิดในสมัยรัตนโกสินทร์ เพื่อใช้ร้องสักวาซึ่งผู้เล่นต้องด้นสดและมีเวลาคิดกลอนน้อย มีจำนวนห้องเพลงเป็นสองเท่าของ ๒ ชั้นหรือสี่เท่าของชั้นเดียว มีจังหวะช้า ต้องใช้เวลาบรรเลงและขับร้องนานกว่าเพลงในอัตราอื่นๆ ทำนองร้องจะมีการร้องเอื้อนยาวๆ ใช้ขับร้องและบรรเลงในโอกาสทั่วไป ตัวอย่างเพลงสามชั้น ได้แก่ ...
อัตราจังหวะ 3 ชั้นของดนตรีไทยหมายความว่าอย่างไรจังหวะของดนตรีไทยที่มีระดับช้า คือช้ากว่าสองชั้นเท่าตัว หรือช้ากว่าชั้นเดียว ๔ เท่า เรียกเต็มว่า อัตราสามชั้น, ชื่ออัตราจังหวะหน้าทับและทำนองเพลงประเภทหนึ่ง มีความยาวเป็น ๒ เท่า ของอัตราสองชั้น.
|