�� ��� ���óѯ�� ���Ѫ��ó�
�ҹ���ҧ������آ�Ҿ Show ������� (Cardio Exercise) �繡���͡���ѧ��·���繡��������������ç�ͧ�к�����������¹���ʹ��лʹ�������ö���͡��ਹ�������ҡ��� �����ѡ��Ҿ㹡���͡���ѧ������բ�� ��Ъ���㹡���Ҽ�ҭ������ ���͡��Ŵ���˹ѡ�������͡���ѧ���Ẻ��������Ẻ�͡���� 2 ��Դ�˭� � �������˹ѡ�ͧ����͡���ѧ��������ç���ᷡ����Դ��� �ѧ��� 1. ����͡���ѧ��·�����ç���ᷡ��� (Lower Impact Cardio Exercise) �������͡���ѧ��·���觼�����Դ�ç�������ç���ᷡ����͵�ҧ
� ���� ���� 2. ����͡���ѧ��·�����ç���ᷡ�٧��� (Higher Impact Cardio Exercise) �������͡���ѧ��·���觼�����Դ�ç�������ç���ᷡ����͵�ҧ � �ҡ ������� �·�������� ����͡���ѧ���Ẻ��������й����� 150 �ҷյ���ѻ���� ���� �ѹ�л���ҳ 20-30 �ҷ� �������͡����������͡���ѧ��¡������͡�����������Ѻ�آ�Ҿ�����Ҿ��ҧ��¢ͧ���кؤ������Ŵ��������§��͡�úҴ�� �������㹪�ǧ˹�������ҧ��� ��ͧ���ѧ�繾���� �����ͧ�ͧ��âҴ��� ��Ф���������Դ����Ҩ���觼����յ���آ�Ҿ�����Ф�Ѻ ���������������͡���ѧ���仾�����ѹ��¤�Ѻ นักวิทยาศาสตร์การกีฬา ได้จําแนกรูปแบบของการออกกําลังกายออกเป็น 1.การออกกําลังกายแบบเกร็งกล้ามเนื้ออยู่กับที่ ไม่มีการเคลื่อนไหว (Isometric exercise) 2.การออกกําลังกายแบบทําให้กล้ามเนื้อทํางานเป็นไปอย่างสม่ําเสมอตลอดการ เคลื่อนไหว (Isokinetic exercise) 3.การออกกําลังกายแบบใช้ออกซิเจน (Aerobic exercise) 4.การออกกําลังกายแบบไม่ต้องใช้ออกซิเจน ในระหว่างที่มีการเคลื่อนไหว (Anaerobic exercise) เช่น การวิ่ง 100 เมตรกระโดดสูง พุ่งแหลน ทุ่มน้ําหนัก ขว้างจักร เป็นต้น ส่วนใหญ่จะปฏิบัติกันในหมู่นักกีฬาที่ทําการฝึกซ้อมหรือแข่งขัง จึงไม่เหมาะกับบุคคลธรรมดาทั่วไป 5.การออกกําลังกายแบบมีการยืด-หดตัวของกล้ามเนื้อ
(Isotonic exercise) #วิ่ง #ออกกำลังกาย #ดูแลสุขภาพ #หุ่นดี #สมัครคาสิโน ขั้นต่ำ 50 บาท คนส่วนใหญ่มักเลือกประเภทของการออกกำลังกายเพียงหนึ่งหรือสองอย่างตามเป้าหมายสุขภาพและความชอบที่ต่างกันไป แต่รู้หรือไม่ว่าตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญและนักกายภาพบำบัด เราควรออกกำลังกายสลับกันไปให้ครบทุกรูปแบบ เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์ครบทุกส่วนและตอบโจทย์ทุกฟังก์ชันการทำงาน การออกกำลังกายที่ควรทำเป็นประจำ แบ่งได้เป็น 4 ประเภทหลัก คือ
การออกกำลังกายแบบแอโรบิกมีอีกชื่อหนึ่งว่าการฝึกความทนทานของกล้ามเนื้อ เป็นการออกกำลังกายที่ทำให้ปอดและหัวใจแข็งแรง เพิ่มการสูบฉีดของเลือด อัตราการหายใจ และการเต้นของหัวใจ ช่วยให้เราทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การเดินระยะไกล หรือการเดินขึ้นบันได โดยไม่รู้สึกเหนื่อยง่าย การออกกำลังกายแบบแอโรบิกช่วยให้ผนังหลอดเลือดคลายตัว ลดความดันโลหิต ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดการอักเสบ เผาผลาญไขมัน และเพิ่มระดับคอเลสเรสเตอรอลชนิดดีในเลือด นอกจากนี้ยังช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น และในระยะยาวมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังหลายชนิด เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวาน มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม รวมถึงภาวะซึมเศร้า ตัวอย่างการออกกำลังกายที่จัดอยู่ในประเภทแอโรบิก ได้แก่
เคล็ดลับการออกกำลังกายแบบแอโรบิก
การฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมวลกล้ามเนื้อในร่างกายของเราจะลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น การฝึกความแข็งแรง (Strength Training) เป็นวิธีที่จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อให้กลับคืนมา ทำให้รู้สึกแข็งแรง สามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องตัว ทั้งการถือของ การยกของหนัก และการทำสวน รวมไปถึงการลุกขึ้นยืนจากพื้นหรือเก้าอี้อย่างมั่นคง นอกจากนี้ การฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อยังช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูก ลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก เพิ่มการทรงตัวและปรับท่าทางของร่างกาย ป้องกันการบาดเจ็บจากหกล้ม ทั้งยังลดความตึงและอาการเจ็บปวดบริเวณหลังและข้อต่อต่างๆ ได้ การออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรงมักอาศัยน้ำหนักจากอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้เกิดแรงต้าน เช่น ดัมเบลล์ บาร์เบล ยางยืด หรือจะใช้น้ำหนักตัวของเราเองออกกำลังโดยไม่ต้องมีอุปกรณ์ก็ได้ เช่น การแพลงก์ และการสควอซ ตัวอย่างการออกกำลังกายประเภทฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ได้แก่
เคล็ดลับการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
การยืดเหยียดกล้ามเนื้อรูปแบบของการออกกำลังกายที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการออกกำลังกายอื่นๆ เพราะจะช่วยคงความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ซึ่งเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ชัดขึ้นในวัยผู้ใหญ่เมื่อร่างกายมีความยืดหยุ่นน้อยลงและยืดเหยียดได้ไม่เต็มที่ ความยืดหยุ่นที่ลดลงนี้จะเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดอาการตะคริว อาการปวดหรือบาดเจ็บตามกล้ามเนื้อ ข้อต่อ มีอาการข้อฝืด ข้อยึดตามมาบ่อยๆ ทั้งยังเป็นอุปสรรคในการทำกิจวัตรในชีวิตประจำวัน เช่น การก้มตัวหยิบของหรือผูกเชือกรองเท้า การหันคอไปด้านหลังเพื่อถอยรถ เป็นต้น ตัวอย่างการออกกำลังกายประเภทยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ได้แก่ ท่าบริหารหรือท่ายืดคลายกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆ เช่น หลัง ต้นขา คอ ไหล่ ข้อมือ เคล็ดลับการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
การฝึกการทรงตัวการออกกำลังกายแบบฝึกการทรงตัวช่วยในการยืนและเคลื่อนไหวร่างกายอย่างมั่นคง ป้องกันการหกล้มง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยสูงอายุที่ระบบอวัยวะที่ช่วยในการทรงตัวอย่างสายตา หูชั้นใน กล้ามเนื้อขา และข้อต่อต่างๆ เริ่มเสื่อมตัวลงไป การฝึกการทรงตัวไม่มีจำกัดอายุและสามารถเริ่มฝึกได้แม้จะไม่ได้รู้สึกว่ามีปัญหาด้านการทรงตัว นอกจากนี้ หากมีความเสี่ยงต่อการหกล้มหรือมีความกังวลก็สามารถปรึกษานักกายภาพบำบัดเพื่อรับการประเมินทักษะการทรงตัว และรับคำแนะนำเกี่ยวกับการออกกำลังกายโดยเน้นจุดที่อ่อนแอของร่างกายเพื่อแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ตัวอย่างการออกกำลังกายประเภทการฝึกการทรงตัว ได้แก่
เคล็ดลับการฝึกการทรงตัว
การออกกำลังกายให้ครบทั้ง 4 ประเภทนี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของสุขภาพในทุกด้านและลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรังต่างๆ ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเพิ่มการออกกำลังกายเป็น 4 เท่า หรือใช้เวลานานขึ้น เพียงแค่เพิ่มการออกกำลังกายอื่นๆ เข้ามาเสริม ในขณะที่ยังเน้นการออกกำลังกายที่ชื่นชอบเป็นหลักต่อไป ออกแบบการออกกำลังกายที่เหมาะกับตัวเองและได้ประโยชน์เต็มที่กับทีมแพทย์และนักกายภาพบำบัดพีโมแคร์ เมดิคอล คลินิก แอดไลน์ @primocare เพื่อสอบถามและนัดหมายล่วงหน้า หรือดูบริการอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ ประเภทของการออกกำลังกายมี 5 ประเภท คืออะไรบ้างการออกกำลังกาย 5 รูปแบบ. 1. การออกกำลังกายแบบเกร็งกล้ามเนื้ออยู่กับที่ ... . 2. การออกกำลังกายแบบมีการยืดหดตัวของกล้ามเนื้อ ... . 3. การออกกำลังกายแบบทำให้กล้ามเนื้อทำงานไปอย่างสม่ำเสมอตลอดการเคลื่อนไหว ... . 4. การออกกำลังกายแบบไม่ใช้ออกซิเจนในระหว่างที่มีการเคลื่อนไหว ... . 5. การออกกำลังกายแบบใช้ออกซิเจน. ประเภทของการออกกําลังกายมีกี่ประเภท อะไรบ้าง4 ประเภทของการออกกำลังกาย. การออกกำลังกายแบบแอโรบิก (Aerobic Exercise) หรือการฝึกความทนทาน (Endurance Exercise). การฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (Strength Training). การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ (Stretching). การฝึกการทรงตัว (Balance exercise). ประเภทของการออกกำลังกายแบ่งเป็นสามประเภทมีอะไรบ้างการออกกำลังกายก็มีหมวดหมู่เช่นกัน โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ Weight Training (ยกหน้ำหนัก), Stretching (ยืดกล้ามเนื้อ) และ Cardio (คาร์ดิโอ)
การออกกำลังกายแบบเคลื่อนที่มีอะไรบ้าง2. การเคลื่อนไหวแบบเคลื่อนที่ เป็นการเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ได้แก่ # การเดิน ( walk) การวิ่ง (Run) การกระโดดเขย่ง (Hop) การกระโดด ( Jump ) การกระโจน การ ( Leap) กระโดดสลับเท้า ( Skip ) การสไลด์ ( Slide ) การควบม้า ( Gallop )
|