เที่ยวลาวต้องรู้! ค่าธรรมเนียม ทำพาสปอร์ต ต่อวีซ่า และอื่นๆ ของ กงสุลไทย ณ เวียงจันทน์ ประเทศลาว  Show 17 มิถุนายน 2565 ( 11:53 ) 23.1K ใครที่กำลังเตรียมตัวเดินทางไปยัง สปป.ลาว ไม่ว่าจะไปเที่ยวหรือไปทำงานก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ควรรู้ก็คือเรื่อง อัตราค่าธรรมเนียมการให้บริการด้านกงสุลไทย ณ เวียงจันทร์ เผื่อว่ามีเหตุให้ต้องขอต่ออายุวีซ่าไม่ว่าประเภทใดก็ตาม จะได้เตรียมเงินให้พร้อมไว้เสมอ *ข้อมูล ณ 26 เมษายน 2565*
อัตราค่าธรรมเนียมการให้บริการด้านกงสุลไทย ณ เวียงจันทร์
การตรวจลงตรา (Visa)ประเภทวีซ่า Visa Validityระยะเวลาพำนัก Period of Stayค่าธรรมเนียม Feeเดินทางผ่าน (ต่อครั้ง) Transit (per entry)3 เดือน / months30 วัน / days800 บาท / Bahtท่องเที่ยว Touristเข้าได้ครั้งเดียว Single Entry3 เดือน / months60 วัน / days1,000 บาท / Bahtเข้าได้หลายครั้ง Multiple Entry6 เดือน / months60 วัน / days5,000 บาท / Bahtคนอยู่ชั่วคราว Non - immigrantเข้าได้ครั้งเดียว Single Entry3 เดือน / months90 วัน / days2,000 บาท / Bahtเข้าได้หลายครั้ง Multiple Entry1 ปี / year90 วัน / days5,000 บาท / Baht
หนังสือเดินทาง (Passport)ประเภทหนังสือเดินทางPassport Typeอายุหนังสือเดินทาง Passport Validityค่าธรรมเนียม (บาท) Fee (ฺBaht)หนังสือเดินทางธรรมดา Ordinary Passportไม่เกิน 5 ปี / up tp 5 years1,000 บาท / Bahtไม่เกิน 10 ปี / up tp 10 years1,500 บาท / Bahtหนังสือเดินทางฉุกเฉิน Emergency Passportไม่เกิน 1 ปี / up tp 1 year200 บาท / Bahtการบันทึกรายการในหนังสือเดินทาง Endorsement100 บาท / Baht
บริการอื่นๆ (Other Services)การรับรองเอกสาร Legalisation600 บาท ต่อตราประทับ / Baht per stampบัตรประชาชนThai ID cardทำบัตรใหม่ เนื่องจากหมดอายุ New card due to expirationไม่มีค่าธรรมเนียม / No feeเปลี่ยนบัตร เนื่องจากสูญหาย ชำรุด หรือแก้ไขข้อมูล Card replacement due to loss, damage, or chanfe of card details100 บาท / Baht
ข้อมูล : https://vientiane.thaiembassy.org/2022/04/5469 ====================
Tag#Laos#asean#gvg=up9t#traveltips#visa#กงสุลไทย ณ เวียงจันทร์#ลาว#วีซ่า#วีซ่าลาว#สปป.ลาว#อาเซียน#เที่ยวลาว#เที่ยวอาเซียน#เที่ยวเอเชีย#เวียงจันทน์#เอเชีย#เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เที่ยวลาวครั้งแรกของเราสองคน วันนี้เราจะมารีวิวการเดินทางโดยการขับรถ จากไทยไปลาว กับเส้นทางน่านสู่หลวงพระบาง ในแบบฉบับของเราที่ใช้เดินทางจริงๆ เอาจริงๆก็ไม่ยากอย่างที่คิด เพลิดเพลินไปกับระหว่างทาง วิวสวยมาก โดยระยะทางจากด่านห้วยโก๋น-หลวงพระบางประมาณ 150 กิโลเมตร ใช้เวลาการเดินทางโดยประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที แบบไม่รวมแวะพักเลย แต่เราแวะพักบ้าง มีแวะถ่ายรูปบ้าง รวมๆก็ใช้เวลาจริงประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงจุดนำรถลงเรือข้ามฟากที่ท่าเรือเชียงแมนแล้วค่ะ สวัสดีทุกคน บทความนี้เราจะขออธิบายขั้นตอนการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวจากประเทศไทย (ด่านพรมแดนห้วยโก๋น) มายัง ประเทศลาว (ด่านน้ำเงิน) เราสองคนนะ ทริปนี้เป็นการมาเที่ยวลาวครั้งแรกของเราสองคนและเป็นการขับรถในต่างประเทศครั้งแรกด้วยถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ใหม่และตื่นเต้นเหมือนกันนะ ข้อควรรู้ก่อนนำรถยนต์ข้ามไปลาวสำคัญมากคือเราจะต้องมีพาสปอร์ตรถยนต์ เล่มสีม่วง (ทำได้ที่ขนส่งทุกจังหวัด ราคา 50 บาท) และจะได้สติกเกอร์ตัว T มาสองชิ้นไว้สำหรับแปะกระจกหน้าและหลังรถ
ทริปนี้เราเริ่มการเดินทางจากตัวเมืองน่านขับสู่ด่านห้วยโก๋น ใช้เส้นทางถนนหมายเลข 101 โดยเริ่มการเดินทางจากโรงแรมที่ตัวเมืองน่าน (The signature at nan) มายัง ด่านพรมแดนห้วยโก๋น จ.น่าน เนื่องจากเรานำรถยนต์ข้ามไปยังฝั่งลาวด้วย เอกสารที่ต้องตรียมค่อนข้างเยอะ จึงใช้บริการของร้านคุณพิม สะดวกและชัวส์ ไม่เสียเวลา เพราะคุณพิมจะช่วยเตรียมเอกสารเช็คเอกสารให้เราอย่างครบถ้วนทั้งยังแนะนำเส้นทางในการขับขี่อีกด้วยนะ สำหรับใครมาครั้งแรกแบบเราจะแวะมาใช้บริการก็ได้ หรือจะเตรียมเอกสารตามเราในโพสต์นี้เลยก็ได้เช่นกันแล้วแต่สะดวกเลย ร้านจะอยู่ฝั่งซ้ายก่อนถึงด่าน เอกสารที่ต้องใช้ผ่านพรมแดน👫🏼สำหรับคน ดังนี้
ค่าเตรียมเอกสาร 150 บาท (ร้านคุณพิม) ขั้นตอนการยื่นเอกสารผ่านแดน ก่อนจะข้ามต้องยื่นเอกสาร ตม.ไทย ก่อน พิมพ์ลายนิ้วมือ ถ่ายรูป(ถอดแมส) ตามปกติเหมือนเดินทางไป ตปท. ทั่วไปเลย ผ่าน ตม.ไทยก็ยื่นเอกสารต่อที่ช่องศุลกากรฝั่งไทย เพื่อให้ได้เอกสารใบขนส่งพิเศษเพื่อนำไปยื่นที่ด่านลาว (ในส่วนนี้ เค้าจะออกเอกสารให้เราอีก 1 ฉบับ เอกสารนี้เราต้องพกไว้ห้ามหายเพราะเดี๋ยวตอนกลับเข้ามาเราต้องนำมาคืนให้ฝั่งไทย) ในเอกสารดังกล่าวจะระบุว่า เราสามารถอยู่ในลาว ได้ 1 เดือนเท่านั้น ไม่ว่าเราจะไปกี่วัน เอกสารจะออกเผื่อไว้ให้เราคือ 1 เดือน หากเราอยู่เกิน เราจะโดนปรับวันละ 1,000 บาท และอีกกรณีคือขากลับเข้าไทย หากลืมคืนเอกสารใบขนส่งพิเศษนี้เราก็จะโดนปรับวันละ 1,000 บาท เช่นกันหรือถ้าเราไม่ได้จ่าย รถและเราจะติดแบล็คลิส คือเราจะไม่สามารถเข้าลาวได้อีกหรืออาจจะเข้าได้แต่ต้องเสียค่าปรับ เมื่อยื่นเอกสารครบ ขับรถผ่านแดนได้เลย ระยะทางไปด่านลาวจะห่างจากด่านห้วยโก๋นประมาณ 400 เมตร เมื่อผ่านด่านห้วยโก๋นและด่านน้ำเงิน หรือ ด่านลาวมาแล้ว คราวนี้จำไว้เลยว่าต้องขับรถชิดขวา** ห้ามหลงลืมหรือห้ามตกใจเวลามีรถสวนมาเด็ดขาด จำไว้ ชิดขวา ชิดขวา หรือจำง่ายๆคือคนขับต้องอยู่ไหล่ถนน ข้อนี้สำคัญมากห้ามลืมโดยเด็ดขาดว่าคนขับต้องชิดขวา!! เมื่อมาถึงด่านน้ำเงิน (ฝั่งลาว) ก่อนข้ามแดนจะต้องยื่นเอกสารการฉีดวัคซีนที่ปริ้นมา กรอกเอกสารของเจ้าหน้าที่ พร้อมชำระเงิน 20 บาทเสร็จแล้วก็ขับไปที่ด่านให้เราลดกระจกลงเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของด่านตรวจสอบใบหน้า พาสปอต์และจำนวนคนโดยสาร (ตอนนี้ จะอยู่บนรถได้เพียงแค่คนขับคนเดียวเท่านั้นผู้โดยสารทั้งหมดต้องลงเดินผ่านไม้กั้น) และไปยื่นเอกสาร ตม.ลาว ชำระ 20,000 กีบ และด่านศุลกากรฝั่งลาว ชำระค่านำรถยนต์เข้า 5,000 กีบ ปล.สำหรับเงินกีบเราแนะนำให้แลกติดตัวไว้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นในการใช้จ่ายระหว่างเดินทาง แล้วค่อยไปแลกที่ธนาคารที่หลวงพระบาง เพราะจะได้เรทที่ดีกว่ามาก 🚙 เริ่มออกเดินทางจากด่านลาวไปยังหลวงพระบาง เข้าสู่เมืองหงสา ช่วงที่เราไปทุ่งนากำลังเขียวขจีสวยงามมากตลอดเส้นทาง จะเป็นนาขั้นบันไดแบบนี้เลย บรรยากาศดีมาก ระหว่างทางเราแวะตลาดในเมืองหงสา เพื่อหาซื้อซิมลาวและเติมเน็ต ราคาซิม+เน็ต 3 วัน 5 gb = 20,000 กีบ เน็ตค่อนข้างเร็วเลยนะ ระหว่างทางก็จะเจอสัตว์ต่างๆ เต็มไปหมด เพราะฉะนั้นขับอย่างระมัดระวัง อย่าขับเร็วนะ เพื่อความปลอดภัยทั้งคนและสัตว์ …จากหงสามุ่งหน้าต่อไปยังบ้านนาปุง ถนนค่อนข้างจะโค้งเยอะแต่ตัวถนนดี วิ่งสบาย วิวสวยมากให้ยึดเส้นทาง 4B ไว้และมุ่งหน้าต่อไปที่ท่าเรือบ้านเชียงแมน ระยะทาง จากด่านที่เราผ่าน ตม. จนถึงบ้านเชียงแมน ประมาณ 150 กิโลเมตร ระยะเวลาการเดินทางอันนี้แล้วแต่ความชำนาญและทักษะในการขับรถของแต่ละคนด้วยนะ แต่สำหรับเราใช้เวลาจริงๆ ประมาณ 4 ชม. เลย เพราะไม่อยากขับเร็วและดื่มด่ำบรรยากาศไปด้วยแวะถ่ายรูปแวะพักบ้าง ชิลๆเลย มาถึงท่าเรือบ้านเชียงแมนแล้วทุกคนนน.. เราใช้เวลาทั้งหมดราวๆ 4 ชม. นะ ไม่ขับเร็วมาก เพราะเน้นปลอดภัย และชื่นชมบรรยากาศระหว่างทาง ถือเป็นประสบการณ์ที่ใหม่และรู้สึกดีจริงๆ นะ บอกก่อนว่าเส้นทางนี้เหมาะแก่ผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางแบบเรื่อยๆ ใช้ชีวิตช้าๆได้ ไม่เร่งรีบ และต้องมีความอดทนพอสมควร แต่ถ้าเป็นคนที่แฮปปี้กับระหว่างทางได้ ก็ลุยเลย … สนุกแน่นอน เมื่อมาถึงบ้านเชียงแมน เราจอดรถรอคิวเพื่อที่จะนำรถลงเรือเพื่อข้ามไปยังฝั่งหลวงพระบาง โดยจะมีค่าเรือพร้อมคนโดยสาร สำหรับรถเก๋ง 4 ที่นั่ง ราคา 30,000 กีบ (รถแต่ละขนาดราคาจะแตกต่างกัน) แต่ราคานี้คือรวมคนโดยสารหมดแล้ว เรือจะทำการแล่นข้ามแม่น้ำโขง เพียงประมาณ 10 นาทีก็ถึงฝั่งหลวงพระบางแล้วแล้วทุกคน สบายดี~ หลวงพระบาง ไว้รอชมรีวิวเที่ยวหลวงพระบางได้เร็วๆนี้นะ ฝากติดตามเพจเราด้วยนะ >> กูชอบเที่ยว สำหรับการเดินทางของเราสองคนจากน่านสู่หลวงพระบาง เส้นทาง ระยะทางอาจไม่ได้โปรยด้วยกลีบกุหลาบ มีอุปสรรคบ้าง มีสุขมีทุกข์ปะปน แต่สิ่งเดียวที่เราสองคนมองไปในทางเดียวกันคือจุดหมายปลายทางจะเป็นอย่างไรไม่สำคัญ แต่เก็บเกี่ยวความรู้สึกระหว่างทางให้มากที่สุด นี่เป็นอีกประสบการณ์ที่เราได้ออกไปเรียนรู้ด้วยกัน และมันมีความสุขมาก ..สักครั้งในชีวิตลองขับรถมาเที่ยวกันดูนะคะ แล้วพบกับรีวิวเที่ยวลาว ทั้งหลวงพระบางและการนั่งรถไฟความเร็วสูงไปยังวังเวียงด้วย บอกเลยสวยงามและสนุกมากๆ ฝากติดตามด้วยนะ |
ไปหลวงพระบางต้องใช้พาสปอร์ตไหม
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
ลิขสิทธิ์ © 2024 th.ketajaman Inc.
