กระเป๋าโหลดใต้เครื่องได้กี่กิโล นกแอร์

โหลดกระเป๋าไม่ฟรีแล้ว! “นกแอร์” เก็บเงินค่าสัมภาระใต้ท้องเครื่อง สำหรับตั๋วราคาโปรโมชัน

เผยแพร่: 15 ก.พ. 2560 16:32   ปรับปรุง: 15 ก.พ. 2560 17:59   โดย: MGR Online

กระเป๋าโหลดใต้เครื่องได้กี่กิโล นกแอร์

MGR Online - สายการบินนกแอร์ออกประกาศ ตั้งแต่ 20 ก.พ. นี้ เก็บค่าน้ำหนักสัมภาระสำหรับตั๋วราคาโปรโมชัน ส่วนตั๋วราคาประหยัดซึ่งแพงขึ้นมาเล็กน้อย ยังได้รับฟรี 15 กิโลกรัมเช่นเดิม

วันนี้ (15 ก.พ.) สายการบินนกแอร์ได้ออกประกาศว่า ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. เป็นต้นไป จะยกเลิกการโหลดสัมภาระฟรี 15 กิโลกรัมทุกเที่ยวบิน โดยผู้โดยสารจะต้องซื้อน้ำหนักสัมภาระเพิ่มเติมขณะที่ทำการจองบัตรโดยสาร โดยสำหรับผู้ที่ซื้อบัตรโดยสารราคาโปรโมชัน เส้นทางในประเทศ จะต้องซื้อน้ำหนักสัมภาระเพิ่ม โดยคิดราคาเริ่มต้นที่ 15 กิโลกรัม 350 บาท สูงสุด 40 กิโลกรัม 1,400 บาท ก่อนเวลาเดินทาง ไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง

ส่วนผู้ที่ซื้อบัตรโดยสารราคานกประหยัด จะได้น้ำหนักสัมภาระฟรี 15 กิโลกรัม และราคานกเปลี่ยนได้ จะได้น้ำหนักสัมภาระฟรี 20 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม สำหรับสมาชิกนกแฟนคลับ หากซื้อบัตรโดยสารราคาโปรโมชัน เส้นทางในประเทศ จะได้รับน้ำหนักสัมภาระฟรี 5 กิโลกรัม และสมาชิกนกสไมล์พลัส จะได้รับน้ำหนักสัมภาระฟรี 10 กิโลกรัม

สำหรับสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่อง นกแอร์ยังคงให้นำติดตัวขึ้นเครื่องได้ โดยต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม มีขนาดไม่เกิน 36 เซนติเมตร x 56 เซนติเมตร x 23 เซนติเมตร และต้องจำกัดของเหลวไม่เกิน 100 มิลลิลิตรต่อขวด รวมกันไม่เกิน 1,000 มิลลิลิตร ซึ่งจะต้องนำสัมภาระใส่ไว้ที่ช่องเก็บของเหนือศีรษะ

อนึ่ง สำหรับประเภทบัตรโดยสารของสายการบินนกแอร์ ประกอบด้วย ราคาโปรโมชัน ซึ่งเป็นราคาถูกที่สุด จะมีเฉพาะในบางเที่ยวบิน และต้องจองในเวลาที่กำหนด, ราคานกประหยัด (Nok Eco) สูงกว่าราคาโปรโมชัน โดยจะแสดงเมื่อราคาโปรโมชั่นหมดลง และราคานกเปลี่ยนได้ (Nok Flexi) ราคาจะสูงที่สุด การเปลี่ยนแปลงการเดินทาง สามารถทำได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

รายงานข่าวแจ้งว่า การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขน้ำหนักสัมภาระของสายการบินนกแอร์ ทำให้ในปัจจุบัน ยังคงมีสายการบินโลว์คอสต์แอร์ไลน์ในประเทศที่ยังคงให้น้ำหนักฟรี 15 กิโลกรัม เหลือเพียงแค่สายการบินไทยไลอ้อนแอร์เท่านั้น โดยแอร์เอเชียเป็นสายการบินที่คิดน้ำหนักสัมภาระแยกจากราคาบัตรโดยสาร ทำให้สามารถจัดราคาโปรโมชั่นได้ถูกกว่าสายการบินอื่น แต่ต้องซื้อน้ำหนักสัมภาระเช็กอิน เริ่มต้นที่ 15 กิโลกรัม 300 บาท สูงสุด 40 กิโลกรัม 1,210 บาท


กำลังโหลดความคิดเห็น

เมื่อท่านนำสัมภาระมาลงทะเบียนเพื่อยืนยันการเดินทาง สัมภาระนั้นจะอยู่ในความดูแลของบริษัทฯ และบริษัทฯ จะออกป้ายสัมภาระสำหรับสัมภาระแต่ละชิ้นที่ลงทะเบียนแล้วสัมภาระที่ต้องลงทะเบียนจะต้องมีชื่อของท่าน หรือหลักฐานแสดงตนอื่นๆติดไว้อย่างแน่นหนา สัมภาระที่ต้องลงทะเบียนจะถูกขนส่งไปพร้อมกับเที่ยวบินที่ท่าน เดินทาง เว้นแต่ว่าบริษัทฯ ได้เลือกที่จะขนส่งสัมภาระไปพร้อมกับเที่ยวบินอื่นเพื่อความปลอดภัย ความมั่นคง หรือด้วยเหตุผลในการปฏิบัติงาน หากสัมภาระที่ต้องลงทะเบียนของท่านถูกขนส่งไปกับเที่ยวบินถัดไป นกแอร์จะจัดการให้สัมภาระดังกล่าวไปถึงยังสถานีปลายทางของท่านภายในเวลาที่เหมาะสม เว้นแต่กฎหมายที่ใช้บังคับจะกำหนดให้ท่านมาแสดงตนเพื่อขอรับสัมภาระต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร

ประเภทของสัมภาระที่ต้องลงทะเบียน ได้แก่สัมภาระทั่วไป และสัมภาระพิเศษ


สัมภาระทั่วไป 

สัมภาระทั่วไปต้องมีน้ำหนักต่อชิ้นไม่เกิน 30 กิโลกรัม และ ไม่มีสิ่งที่ไม่ถือว่าเป็นสัมภาระ ไม่มีทรัพย์สินมีค่าและแตกหักง่าย ท่านสามารถขนส่งสัมภาระโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เมื่อเลือกบัตรโดยสารประเภทบินสบาย (Nok X-tra) และบัตรโดยสารประเภทบินเพลิดเพลิน (Nok MAX) ซึ่งน้ำหนักสัมภาระต้องเป็นไปตามที่สายการบินอนุญาตตามประเภทบัตรโดยสาร ท่านสามารถซื้อน้ำหนักสัมภาระเพิ่มเติมได้

น้ำหนักสัมภาระที่สายการบินอนุญาตตามประเภทบัตรโดยสาร

น้ำหนักที่ได้รับ (กิโลกรัม) ต่อเที่ยวบิน

บัตรโดยสารประเภทบินเบาเบา (Nok Lite)

บัตรโดยสารประเภทบินสบาย
เส้นทางภายในประเทศ

บัตรโดยสารประเภทบินเพลิดเพลิน
เส้นทางภายในประเทศ

บัตรโดยสารประเภทบินสบาย
เส้นทางระหว่างประเทศ

บินเพลิดเพลิน
เส้นทางระหว่างประเทศ

* อัตราค่าธรรมเนียมสัมภาระเมื่อเลือกบัตรโดยสารประเภท บินสบาย/บินเพลิดเพลิน 300 บาทต่อเที่ยวบินสำหรับเส้นทางภายในประเทศ และ 500 บาทต่อเที่ยวบินสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ (รวมอยู่ในค่าบัตรโดยสารแล้ว)

สัมภาระพิเศษ (Items Require Special Handling)

สัมภาระพิเศษ หมายถึง สิ่งของสัมภาระที่ต้องการการดูแลพิเศษ และต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกเหนือจากสัมภาระทั่วไป ได้แก่

  • อุปกรณ์กีฬา เช่น จักรยาน อุปกรณ์กอล์ฟ กระดานโต้คลื่น อุปกรณ์ยิงธนู อุปกรณ์ตกปลา เป็นต้น
  • เครื่องดนตรี เช่น กีตาร์ กลอง คีย์บอร์ด จะเข้ เป็นต้น
  • อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ที่มีขนาดใหญ่ เช่น โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์  เป็นต้น
  • สิ่งของสัมภาระที่มีขนาดมากกว่า 40 ซม. x 75 ซม. x 50 ซม. หรือสัมภาระที่ทางสายการบินพิจารณาแล้วว่าต้องดูแลเป็นพิเศษ 

โดยสัมภาระพิเศษจะต้องถูกบรรจุในกล่องหรือหีบห่อที่เหมาะสมต่อการป้องกันความเสียหาย และน้ำหนักสัมภาระพิเศษรวมบรรจุภัณฑ์จะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 30 กิโลกรัมต่อชิ้น ทั้งนี้พนักงานสามารถปฎิเสธการรับโหลดสัมภาระพิเศษเหล่านี้ได้หากไม่ได้บรรจุในกล่องหรือหีบห่อ หรือบรรจุในกล่องหรือหีบห่อที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจเกิดความเสียหายในระหว่างการขนส่ง สัมภาระพิเศษ มีค่าธรรมเนียมดังนี้