คุยสัพเพเหระ โดย Rainee ซ่อนที่คั่นบรรทัด
101 91.27K 116 กดเลิฟกระทู้นี้ เพิ่มเข้าชั้น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ช่วยทักทายเพื่อเป็นกำลังใจให้นักเขียนหน่อยจ้าเพิ่มความคิดเห็น ปักหมุดเต็มแล้ว เลือกความคิดเห็นออกอย่างน้อย 1 อัน ความคิดเห็นใหม่ที่เลือก WMD1009หัวข้อ สอนโดย WMD1010หัวข้อ สอนโดย WMD1011หัวข้อ สอนโดย “คนเริ่มต้นทำงาน” เงินเดือนยังไม่มาก สามารถวางแผนการเงินได้ไหม
แล้วจะเริ่มเก็บเงินอย่างไรดี? เราอาจจะรู้สึกว่าเพิ่งเริ่มต้นทำงาน เงินเดือนยังน้อยอยู่ แล้วจะไปเริ่มต้นวางแผนการเงินได้อย่างไร ในเบื้องต้น อยากบอกว่าการวางแผนการเงินเป็นเรื่องของคนทุกเพศทุกวัย การเก็บเงิน ออมเงินก็เป็นเรื่องจำเป็น ไม่ว่าจะอายุมาก อายุน้อย หรือยากดีมีจนอย่างไร ทุกคนต้องวางแผนการเงิน ส่วนวิธีการและแนวคิดอาจจะแตกต่างกันไปตามช่วงอายุ และเป้าหมายทางการเงินของแต่ละคนนั่นเอง
1. การทำบัญชีรายรับ รายจ่าย จุดเริ่มต้นของการวางแผนการเงิน คือการรู้จักตนเอง นั่นก็คือ เราต้องรู้สถานภาพทางการเงินของตัวเองก่อน ด้วยการทำบัญชีรายรับ รายจ่าย และการทำงบการเงินส่วนบุคคลนั่นเอง เพื่อให้รู้ว่าใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง เป็นค่าใช่จ่ายฟุ่มเฟือยมากน้อยเพียงใด เราสามารถเก็บเงินออมได้เดือนละเท่าไร คำแนะนำ: อย่าเริ่มผ่อนบ้าน ผ่อนรถเร็วเกินไป เพราะภาระดอกเบี้ยจะสูงมาก แค่ลำพังเงินต้นสำหรับการผ่อนก็เยอะมากอยู่แล้ว ยังต้องมาเสียดอกเบี้ยอีก นั่นจะทำให้คุณไม่เหลือเงินสำหรับการออมและการลงทุนเลย ให้ชะลอการเป็นหนี้ออกไปให้ได้นานที่สุด อย่าฟุ่มเฟือยและอย่าใช้จ่ายเกินตัว 2. ตั้งเป้าเงินออม ‘เงินออม คือจุดตั้งต้นของความสำเร็จทางการเงิน’ กำหนดไปเลยว่าจะเก็บเงินออมเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของรายได้ ขั้นต่ำคือ 10% ของรายได้ ต้องเก็บก่อนใช้ เพราะถ้าใช้ก่อนเก็บรับรองได้เลยไม่มีเงินเหลือเก็บอย่างแน่นอน วิธีที่จะทำให้ออมได้อย่างแน่นอนคือการตัดบัญชีเงินเดือน ไปเข้าบัญชีเงินออมโดยอัตโนมัติตามเปอร์เซ็นต์ของรายได้ที่เราต้องการจะออม จะเริ่มออมอย่างไร ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด1. เก็บเป็นเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินอย่างน้อย 3 – 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน ซึ่งเงินก้อนนี้จะเป็นเงินที่มีไว้เผื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น อุบัติเหตุหรือตกงาน แนะนำว่าให้ออมเงินในส่วนนี้ไว้ในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง เช่น บัญชีออมทรัพย์ บัญชีฝากประจำเผื่อฉุกเฉิน หรือนำไปลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน หรือกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้นที่สามารถไถ่ถอนได้ทุกวันทำการ เป็นต้น 2. สำรวจความต้องการเรื่องประกันของตัวเอง เช่น ลองสำรวจตัวเองว่าเรามีภาระที่ต้องดูแลรับผิดชอบใครบ้างหรือไม่ โดยมากคนเริ่มต้นทำงานมักจะเป็นคนโสด ไม่มีภาระ ซึ่งถ้าไม่มีภาระ ในช่วงต้นก็อาจจะยังไม่ต้องทำประกันชีวิต แต่ถ้าคุณเป็นลูกคนโต ต้องดูแลพ่อแม่ ต้องเลี้ยงน้อง ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ นั่นก็แปลว่า หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจากไปก่อนวัยอันควร ก็จะมีคนลำบาก อย่างนี้ต้องมาพิจารณาทำประกันชีวิตที่ได้ทุนประกันหรือความคุ้มครองประมาณ 5 เท่าของรายจ่ายที่คุณต้องรับผิดชอบต่อปี เป็นต้น ส่วนประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุ ต้องทบทวนสวัสดิการที่มีอยู่ว่าเพียงพอตอบโจทย์ความต้องการหรือไม่ อย่างไรก็ดี หากการเงินของเราดีพอที่จะทำประกันชีวิตที่พ่วงประกันสุขภาพไว้ในกรมธรรม์เดียวกันได้ตั้งแต่อายุยังน้อยและยังแข็งแรง เราจะได้ความคุ้มครองที่คุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายไป 3. จัดพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสม เนื่องจากวัยเริ่มต้นทำงาน ยังมีเวลาเก็บเงินอีกนาน สามารถกระจายพอร์ตการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงได้ อาจตั้งเป้าหมายผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูงได้ แต่อย่าลืมว่า การลงทุนมีความผันผวน สิ่งที่ให้ผลตอบแทนสูงก็จะมีความเสี่ยงสูงขึ้นไปด้วยเช่นกัน ลองดูตัวอย่างพอร์ตข้างล่าง ซึ่งการจัดสรรเงินลงทุน โดยคำนึงจากช่วงอายุและความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงระดับปานกลางขึ้นไป ก่อนลงทุน ผู้ลงทุนควรทำแบบสอบถามเพื่อประเมินระดับความเสี่ยงในการลงทุนที่เหมาะสม เพื่อทราบถึงระดับความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงของตนเองอีกครั้ง ก่อนตัดสินใจลงทุน ตัวอย่างการจัดพอร์ตลงทุน
การวางแผนการเงินและเก็บเงินสำหรับ “คนเริ่มต้นทำงาน” ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก เริ่มเก็บเงินออมไว และเริ่มลงทุนไว ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง อีกทั้งยังเป็นช่วงที่สามารถรับความเสี่ยงได้หลากหลายระดับ จึงมีทางเลือกการลงทุนที่หลากหลายอีกด้วย ดังนั้นการวางแผนการเงินตั้งแต่เริ่มต้นทำงานจึงเหมาะสมที่สุด
|