แบบมงุ่ เน้นสมรรถนะอาชีพ บูรณาการ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม การเรยี นการสอนด้วยกระบวนการชมุ ชนการเรยี นรู้ทางวิชาชีพ (PLC) วิชา วทิ ยาศาสตร์เพอ่ื พัฒนาอาชีพธุรกจิ และบริการ รหสั วชิ า 20000-1303 จดั ทาโดย ตาแหน่ง ครูพิเศษสอน งานพัฒนาหลักสตู รการเรียนการสอน วิทยาลัยเทคนคิ สระแก้ว โครงการสอนประกอบดว้ ย 1. จดุ ประสงค์รายวชิ า โครงการสอนรายวชิ า รหสั วิชา 20000-1303 รายวิชา วทิ ยาศาสตรเ์ พ่ือพฒั นาอาชีพธรุ กิจและบรกิ าร ระดบั ช้นั ปวช. สาขาวชิ า คอมพิวเตอรธ์ รุ กจิ , การจัดการโลจิสติกส์ จานวนคาบ/สปั ดาห์ 3 คาบ จานวน 2 หน่วยกิต 1.จุดประสงค์รายวชิ า 1. รู้และเข้าใจเกี่ยวกับพันธุกรรม สารเคมีในชีวิตประจาวัน เทคโนโลยีชีวภาพ จุลินทรีย์ในอาหาร ปิโตรเลยี มและพอลิเมอร์ ไฟฟา้ และคลื่นแม่เหลก็ ไฟฟา้ 2. สามารถสารวจตรวจสอบเกี่ยวกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม ผลกระทบของสารเคมีและ คลื่นแมเ่ หล็กไฟฟ้าต่อมนุษยโ์ ดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3. สามารถทดลองทดสอบเกี่ยวกับสารเคมีในชีวิตประจาวันและในงานอาชีพ จุลินทรีย์ในอาหาร สมบัตขิ องปโิ ตรเลียมและพอลเิ มอร์โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 4. มเี จตคตแิ ละกิจนสิ ยั ท่ดี ตี อ่ การศกึ ษาและสารวจตรวจสอบด้วยกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 2. มาตรฐานรายวิชา 1. แสดงความรเู้ กีย่ วกับพันธุกรรม สารเคมใี นชีวติ ประจาวนั เทคโนโลยชี ีวภาพ จุลินทรีย์ในอาหาร ปิโตรเลียมและพอลเิ มอร์ ไฟฟ้าและคลน่ื แม่เหล็กไฟฟ้า 2. สารวจตรวจสอบเกยี่ วกับการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมตามหลักพนั ธุศาสตร์ 3. เคราะหผ์ ลกระทบของสารเคมีและคลน่ื แม่เหล็กไฟฟา้ ต่อมนษุ ย์ตามหลกั การ 4. สารวจตรวจสอบเกย่ี วกับสมบตั ขิ องปิโตรเคมีและพอลิเมอร์ด้วยกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 5. สารวจตรวจสอบเก่ยี วกับไฟฟา้ ในชีวิตประจาวันและคลืน่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้าตามหลักการและกระบวนการ 3. คาอธิบายรายวิชา ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สารเคมีในชีวิตประจาวัน และในงาน 4. วเิ คราะหเ์ นื้อหา มาตรฐานรายวิชา เนอ้ื หา/สาระ 1. แสดงความรู้เก่ียวกับพันธุกรรม สารเคมีใน - การถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม ชวี ิตประจาวัน เทคโนโลยชี ีวภาพ จุลินทรยี ์ในอาหาร - เทคโนโลยชี ีวภาพ ปิ โ ต ร เ ลี ย ม แ ล ะ พ อ ลิ เ ม อ ร์ ไ ฟ ฟ้ า แ ล ะ ค ล่ื น - จุลนิ ทรียใ์ นอาหาร แม่เหลก็ ไฟฟ้า - คลืน่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า - สารเคมใี นชวี ติ ประจาวันและในงานอาชีพ 2. สารวจตรวจสอบเกี่ยวกับการถ่ายทอดลักษณะ - การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม ทางพนั ธุกรรมตามหลักพนั ธศุ าสตร์ 3. เคราะห์ผลกระทบของสารเคมีและคล่ืน - สารเคมีในชวี ิตประจาวันและในงานอาชพี แมเ่ หลก็ ไฟฟ้าต่อมนษุ ยต์ ามหลกั การ - คลนื่ แม่เหล็กไฟฟา้ 4. สารวจตรวจสอบเกยี่ วกับสมบตั ิของปิโตรเคมีและ - ปโิ ตรเลยี มและผลิตภณั ฑ์ พอลเิ มอร์ดว้ ยกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ - ผลิตภัณฑย์ างและพอลิเมอร์ 5. สารวจตรวจสอบเกี่ยวกับไฟฟ้าในชีวิตประจาวัน - คลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟา้ 5. การแบ่งหน่วยการสอน นาเนื้อ/สาระ มาจัดเป็นกลุ่มหน่วยการเรียน มาตรฐานแต่ละด้านอาจมีมากกว่า 1 มาตรฐานรายวิชา หนว่ ยที่ หวั ข้อการสอน เวลา (คาบ) มาตรฐานรายวชิ า หน่วยท่ี หวั ข้อการสอน เวลา (คาบ) - คล่นื แม่เหลก็ ไฟฟา้ 2 - *หมายเหตุ มีการพฒั นาหนว่ ยการเรียนรูใ้ ห้สอดคลอ้ งกับผู้เรียนและผเู้ รียนสามารถนาไปปฏบิ ัตไิ ด้จรงิ โดยได้ 6. แผนการประเมนิ ผลการเรยี น รหสั วชิ า 20000-1303 รายวชิ า วิทยาศาสตรเ์ พ่ือพัฒนาอาชีพธรุ กจิ และบรกิ าร 6.1 แนวทางการประเมนิ 6.1 เนือ้ หาสาระ 80 คะแนน - ทฤษฎี 60 คะแนน - ปฏิบตั ิ 20 คะแนน 6.2 พฤตกิ รรม 20 คะแนน 6.2 แผนการวดั ประเมิน หนว่ ยท่ี คะแนนระหว่างภาค คะแนน เครือ่ งมอื การวดั ผล หมาย 8 7 - ไฟฟ้าในชวี ติ ประจาวนั 9 8 - คลืน่ แม่เหลก็ ไฟฟ้า 10 สอปลายภาค รวมคะแนนระหวา่ งภาค คะแนนสอบปลายภาค คะแนนรวม การวเิ คราะหจ ดุ ประสงค ตารางวิเคราะหจดุ ประสงคเ ชงิ พฤตกิ รรม รหัสวชิ า 20000-1303 ชอ่ื วิชา วทิ ยาศาสตรเ พื่อพฒั นาอาชพี ธรุ กิจและบรกิ าร เรอื่ งท่ี เร่ือง จุดประสงคเชิงพฤติกรรม 1 การถา ยทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม 1. บอกความหมายของลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมได 2. บอกความหมายของการแปรผนั ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมได 3. อธิบายลกั ษณะและกระบวนการถา ยทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม 4. อธบิ ายลักษณะของโครโมโซมและสารพันธกุ รรมได 5. บอกสาเหตแุ ละการเกดิ มิวเทชนั ได 2 สารเคมีในชวี ิตประจําวนั และในงานอาชีพ 1. อธิบายความหมายของสารเคมีได 2. อธบิ ายและยกตัวอยางสารเคมีท่เี กดิ ขึ้นในธรรมชาติได 3. เลอื กใชสารเคมที ใ่ี ชใ นชีวิตประจาํ วันไดถกู ตอ ง 4. อธิบายและยกตัวอยางสารเคมีท่ีใชปรุงแตงรสอาหาร ใชใน การเกษตร ใชเพื่อสาธารณูปโภค ใชเปนเครื่องสําอาง และใชใน งานอาชีพได 3 เทคโนโลยีชวี ภาพ 1. อธบิ ายความหมายของเทคโนโลยีชวี ภาพได 2. อธิบายการนาํ เทคโนโลยีชีวภาพไปใชในดา นตาง ๆ ได 3. อธิบายความหมายของพันธวุ ศิ วกรรมและการนําไปใชป ระโยชน 4. อธบิ ายวธิ กี ารผสมเทียมได 5. อธบิ ายประโยชนและวธิ กี ารถา ยฝากตวั ออนได 4 จลุ ินทรยี ในอาหาร 1. บอกความหมายของจุลินทรยี ใ นอาหารได 2. บอกประเภทของจุลนิ ทรียใ นอาหารได 3. อธิบายลักษณะทว่ั ไปและโครงสรางของจุลนิ ทรยี ได 4. อธิบายความสาํ คญั ของจลุ ินทรยี ใ นอาหารได 5. บอกแหลงทีม่ าของจุลนิ ทรยี ซ่ึงปนเปอ นในอาหารได 5 ปโตรเลยี มและผลติ ภัณฑ 1.อธิบายความหมายของปโ ตรเลียมและการเกดิ ปโ ตรเลียมได 2.อธิบายขนั้ ตอนการกล่ันนํ้ามนั ดิบได 3.ยกตวั อยางผลิตภัณฑปโตรเลียมได 4.อธบิ ายการเกิดแกสธรรมชาตแิ ละประโยชนข องแกสธรรมชาติได 5.ยกตัวอยางเช้ือเพลิงท่ีใชในชวี ิตประจาํ วนั ได 6 ผลิตภัณฑย างและพอลิเมอร 1. อธบิ ายความหมายและสมบัตขิ องพอลเิ มอรได 7 ไฟฟาในชีวิตประจําวัน 4. อธบิ ายลกั ษณะโครงสรางและสมบตั ิของพอลเิ มอรได 1. อธิบายความรูเบือ้ งตน เกยี่ วกับไฟฟาและแหลง กาํ เนดิ ตาง ๆ ได 1. อธบิ ายความหมายและคุณสมบตั ขิ องคลนื่ แมเหล็กไฟฟา ได การวเิ คราะหหลกั สตู รรายวชิ า ตารางการวิเคราะหเ นื้อหา รหัสวชิ า 20000-1303 ช่ือวิชา วิทยาศาสตรเ พ่ือพัฒนาอาชีพธุรกิจและบริการ ชั่วโมง ที่ เรือ่ ง เน้ือหา ทฤษฏี ปฏบิ ัติ รวม 1-2 การถา ยทอดลกั ษณะทาง 1.1 ความหมายของการถายทอดลกั ษณะทาง 6 - 6 1.2 ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม 1.3 กระบวนการถายทอดลักษณ ะทาง พันธุกรรม 1.4 โครโมโซมและสารพนั ธุกรรม 1.5 การถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม 1.6 การเปล่ียนแปลงทางพนั ธุกรรม 3-4 สารเคมใี นชีวิตประจาํ วันและใน 2.1 ความหมายของสารเคมี 628 2.9 การหลกี เลยี่ งสารเคมอี นั ตรายทีพ่ บบอยใน ชีวติ ประจาํ วนั 5-6 เทคโนโลยชี ีวภาพ 3.1 ความหมายของเทคโนโลยี ชีวภาพ 6-6 3.2 ประโยชนของเทคโนโลยีชีวภาพ 3.3 พนั ธวุ ิศวกรรม 3.4 การผสมเทยี ม 3.5 การถายฝากตวั ออ น 3.6 การโคลนน่ิง 3.7 ผลของเทคโนโลยีชวี ภาพตอสงั คมและ สง่ิ แวดลอ ม 7-8 จุลนิ ทรยี ใ นอาหาร 4.1 ความหมายของจุลินทรยี ใ นอาหาร 628 4.2 ประเภทของจุลนิ ทรียใ นอาหาร 4.3 ลักษณะทั่วไปและโครงสรา งของจุลนิ ทรยี 4.4 ความสําคญั ของจุลินทรยี ในอาหาร 4.5 แหลงท่มี าของจุลนิ ทรียซ ่ึงปนเปอนใน อาหาร 4.6 แหลงท่ีอยูอาศัยของจลุ ินทรียตาม ธรรมชาติทาง 9 สอบกลางภาค 10-11 ปโตรเลียม 5.1 ความหมายของปโ ตรเลียม 6-6 5.2 การกาํ เนดิ ปโตรเลียม 5.3 ผลติ ภัณฑจากการกลัน่ น้าํ มันปโ ตรเลยี ม 5.4 แกส ธรรมชาติ 5.5 ผลิตภัณฑท่ีไดจ ากปโตรเลยี ม 12-13 ผลติ ภัณฑย างและพอลิเมอร 6.1 ความหมายของพอลิเมอร 628 6.8 การกําจดั พลาสติก 14-15 ไฟฟา ในชวี ติ ประจาํ วัน 7.1 ความรูเบ้ืองตน เก่ยี วกับไฟฟา 6-6 7.2 ประเภทของไฟฟาและแหลงกาํ เนิดไฟฟา 7.3 การสง จา ยกาํ ลังไฟฟา 7.4 วงจรไฟฟา ในบา นและอาคาร 7.5 กําลงั ไฟฟาและพลงั งานไฟฟา 7.6 ประเภทเครอ่ื งใชไฟฟาในชวี ติ ประจาํ วนั 16-17 คลน่ื แมเ หล็กไฟฟา 8.1 ความหมายของคลืน่ แมเ หลก็ ไฟฟา 6-6 8.3 สเปกตรมั คล่ืนแมเหลก็ ไฟฟา 8.4 ระบบสือ่ สารโทรคมนาคม 8.5 ประโยชนของการสื่อสารและ โทรคมนาคม 18 สอบปลายภาค รวม 54 ผลการวิเครา ระดบั ชั้นประกาศ จดุ ประสงครายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า คาํ อธบิ ายรายวชิ า หนว ย 1. รูแ ล ะ เข าใจ เกี่ ย ว กั บ 1. แ ส ด งค วาม รูเก่ี ย วกั บ ศึกษาและปฏบิ ัติ 1.การถา ยทอดลกั พั น ธุ ก ร ร ม ส า ร เค มี ใน พั น ธุ ก ร ร ม ส า ร เค มี ใน เกี่ยวกบั การถายทอด ทางพนั ธุกรรม ชี วิ ต ป ร ะ จํ า วั น ชี วิ ต ป ร ะ จํ า วั น ลกั ษณะทางพันธุกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ จุลินทรีย เทคโนโลยีชีวภาพ จุลินทรีย สารเคมีใน ในอาหารปโ ตรเลียมและพอ ในอาหารปโตรเลียมและพอ ชีวติ ประจาํ วนั และใน ลิ เม อ ร ไฟ ฟ าแ ล ะ ค ลื่ น ลิ เม อ ร ไฟ ฟ า แ ล ะ ค ล่ื น งานอาชพี แมเ หล็กไฟฟา แมเหลก็ ไฟฟา เทคโนโลยชี วี ภาพ 2.สารเคมใี น 2. สามารถสํารวจตรวจสอบ 2. สํารวจตรวจสอบเก่ียวกับ จุลินทรยี ในอาหาร ชวี ติ ประจําวันแล เกี่ ย ว กั บ ก า ร ถ า ย ท อ ด การถายทอดลักษณะทาง ปโ ตรเลยี มและ งานอาชพี ลัก ษ ณ ะท างพั น ธุก รรม พันธุกรรมตามหลักพัน ธุ ผลติ ภณั ฑ พอลิเมอร ผลกระทบของสารเคมีและ ศาสตร และผลิตภณั ฑ ไฟฟา ใน ค ล่ื น แ ม เห ล็ ก ไฟ ฟ า ต อ 3. เคราะหผลกระทบของ ชีวิตประจาํ วนั และคลน่ื มนุษยโดยใชกระบวนการ ส า ร เ ค มี แ ล ะ ค ล่ื น แมเหล็กไฟฟา 3.เทคโนโลยีชวี ภ ทางวิทยาศาสตร แมเหล็กไฟฟาตอมนุษยตาม 3. สามารถทดลองทดสอบ หลักการ เ ก่ี ย ว กั บ ส า ร เ ค มี ใ น 4. สํารวจตรวจสอบเก่ียวกับ ชีวิตประจําวันและในงาน สมบตั ิของปโตรเคมีและพอลิ อาชีพ จุลินทรียในอาหาร เมอรดวยกระบวนการทาง สมบัติของปโตรเลียมและ วิทยาศาสตร 4.จลุ นิ ทรียใ นอาห พ อ ลิ เ ม อ ร โ ด ย ใ ช 5. สาํ รวจตรวจสอบเก่ยี วกบั ก ร ะ บ ว น ก า ร ท า ง ไฟฟา ในชีวติ ประจาํ วนั และ าะหห ลกั สตู ร าศาสตรเพ่ือพัฒนาอาชีพธรุ กจิ และบริการ ศนียบัตรวิชาชีพ ช่ัวโมง ทปร จุดประสงคเชงิ พฤติกรรม 123 กษณะ 6 - 6 1. บอกความหมายของลักษณะทางพันธุกรรมได 2. บอกความหมายของการแปรผันลกั ษณะทางพันธกุ รรมได 3. อธบิ ายลักษณะและกระบวนการถายทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม 4. อธบิ ายลกั ษณะของโครโมโซมและสารพันธกุ รรมได 5. บอกสาเหตุและการเกิดมวิ เทชันได 6 2 6 1. อธบิ ายความหมายของสารเคมีได 3. เลือกใชสารเคมที ่ใี ชใ นชีวิตประจาํ วนั ไดถูกตอ ง ภาพ 6 - 6 1. อธบิ ายความหมายของเทคโนโลยชี ีวภาพได หาร 6 2 6 1. บอกความหมายของจลุ ินทรียในอาหารได วิทยาศาสตร คลน่ื แมเหล็กไฟฟา ตาม 8.คลนื่ แมเ หลก็ ไฟ 4. อธิบายความสําคญั ของจลุ ินทรียในอาหารได 6 - 6 1.อธิบายความหมายของปโตรเลยี มและการเกดิ ปโ ตรเลียมได และพอ 6 - 6 1. อธิบายความหมายและสมบัตขิ องพอลิเมอรไ ด ระจําวัน 6 - 6 1. อธิบายความรเู บื้องตน เก่ียวกบั ไฟฟาและแหลงกําเนิดตา ง ๆ ได ฟฟา 6 - 6 1. อธบิ ายความหมายและคุณสมบตั ขิ องคลื่นแมเหล็กไฟฟา ได รวม 54 ผงั การสรา งแบบทดสอบ (Te ระดับชน้ั ประกาศนียบตั รวชิ าช หนว ยเร่ือง จุดประสงคเชิงพฤติกรรม ผลติ ภณั ฑยางและ 1. อธิบายความหมายและสมบัตขิ องพอลเิ มอรได พอลิเมอร 2. จาํ แนกประเภทของพอลเิ มอรไ ด 3. อธบิ ายปฏกิ ิริยาการเกดิ พอลิเมอรไ ด 4. อธบิ ายลกั ษณะโครงสรา งและสมบตั ิของพอลิเมอรได 5. ยกตวั อยางผลิตภณั ฑย างและพอลิเมอรได สารเคมใี น 1. อธบิ ายความหมายของสารเคมไี ด ชีวิตประจาํ วนั และใน2. อธิบายและยกตัวอยา งสารเคมีท่ีเกดิ ขึ้นในธรรมชาติได งานอาชพี 3. เลือกใชส ารเคมที ี่ใชในชีวิตประจาํ วันไดถกู ตอ ง 4. อธิบายและยกตัวอยางสารเคมที ีใ่ ชปรงุ แตง รสอาหาร ใชใ การเกษตร ใชเพ่ือสาธารณูปโภค ใชเ ปนเคร่อื งสาํ อาง และใ อาชีพได est Blueprint) ภาคทฤษฏี ระดบั พฤติกรรมพุทธพิ ิสัย น้ําหนกั ความสําคัญ จํานวนขอ 4 2 11 2 11 2 11 ใน 2 11 คลน่ื แมเ หลก็ ไฟฟา 1. อธบิ ายความหมายและคณุ สมบตั ขิ องคล่นื แมเหลก็ ไฟฟาไ ไฟฟาใน 1. อธบิ ายความรเู บือ้ งตนเกี่ยวกับไฟฟาและแหลงกาํ เนดิ ตาง รวม ได 4 11 100 40 8 8 9 8 4 3 ฝผงั การสรางแบบทดสอบ (T ระดบั ชน้ั ประกาศนียบัตรวิชาช จุดประสงครายวิชา/สมรรถนะรายวิชา/ จดุ ประสงคเ ชงิ พฤติกรรม จดุ ประสงครายวชิ า 1. เลือกใชส ารเคมีท่ีใชใ นชวี ิตประจาํ วันไดถ กู ตอง 1.ใหน เทคโน โลยีชีวภ าพ จุลิน ทรียใน อาห าร ปโตรเลียมและผลิตภัณฑ ยางและพอลิเมอร สารชีวโมเลกุลในอาหาร คล่ืนแมเหล็กไฟฟา พลงั งานนวิ เคลยี ร 2.เพ่ือใหมีทักษะการคํานวณหาโอกาสของ ลักษณะการถายทอดทางพันธุกรรม การ จําแนกสิ่งมีชีวิต การทดลองจุลินทรียใน อาหาร การเลือกใชเทคโนโลยีชีวภาพ การ ทดลองสมบัติของสารไฮโดรคารบอน การ ทดสอบสมบตั ิทางกายภาพของพอลิเมอร การ ทดสอบสารชีวโมเลกลุ ในอาหาร การวเิ คราะห ผลของคลื่นแมเหล็กไฟฟาตอมนุษย และ พลังงานนิวเคลียร คาํ อธิบายรายวิชา ลักษณะทางพันธุกรรม ความหลากหลายทาง ชีวภาพ เทคโนโลยชี ีวภาพ จุลนิ ทรยี ในอาหาร Test Blueprint) ภาคปฏิบตั ิ กาํ หนดงานที่ใชว ัดสอบภาคปฏิบัติ นํา้ หนกั เวลาทใ่ี ชส อบ ปโตรเลียมและผลิตภัณฑ ยางและพอลิเมอร รวม 2 100 2 1 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 หน่วยท่ี 1 ชอ่ื วิชา วิทยาศาสตร์เพอ่ื พฒั นาอาชพี ธุรกจิ และบรกิ าร (20000- เวลาเรียนรวม 54 1303) คาบ ชอ่ื หน่วย การถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม สอนครั้งท่ี 1–2/18 ชื่อเรอ่ื ง การถา่ ยทอดลักษณะทางพันธกุ รรม จานวน 6 คาบ หวั ข้อเร่อื ง 1.1 ความห มายของการถ่ายท อดลักษ ณ ะท าง กจิ กรรมท่ี 1.1 การหาหมเู่ ลือด พนั ธุกรรม กจิ กรรมท่ี 1.2 สืบคน้ ขอ้ มูลเกีย่ วกบั มิวเทชัน 1.2 ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม 1.3 กระบวนการถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม 1.4 โครโมโซมและสารพนั ธุกรรม 1.5 การถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม 1.6 การเปล่ียนแปลงทางพันธกุ รรม แนวคดิ สาคัญ ไปสู่ลูกหลาน (Heredity) โดยหน่วยพันธุกรรมท่ีเรียกว่า ยีน (Gene) การศึกษาการถ่ายทอดลักษณะ สมรรถนะย่อย จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม 2 ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม/บรู ณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และแบง่ บัน ความรว่ มมือ/ยอมรบั ความคิดเหน็ สว่ นใหญ่ เนอ้ื หาสาระ ซง่ึ สามารถถา่ ยทอดจากรนุ่ หน่งึ ไปยังรุ่นตอ่ ไปได้ เช่น จากพ่อแม่ไปสู่ลกู ขนาด และการเรียงตัว ยีนที่มีตาแหน่งเดียวกันของโครโมโซมที่คู่กันจะกาหนดลักษณะทางพันธุกรรมลักษณะ 1.5 การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม หลาย ๆ ชั่วอายุคน นามาเขียนแผนผังแสดงบุคคลท่ีได้รับการถ่ายทอดลักษณะท่ีศึกษาเป็นแผนภาพแสดง 1.6 การเปลย่ี นแปลงทางพันธกุ รรม กิจกรรมการเรียนรู้ (สปั ดาห์ท่ี 1/18, คาบท่ี 1–3/54) การเรยี น คณุ ลกั ษณะนิสัยทีต่ อ้ งการใหเ้ กดิ ขนึ้ และขอ้ ตกลงในการเรยี น 3 5. ครสู อนเนอื้ หาสาระ หวั ข้อ 1.1 – 1.4 กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ท่ี 2/18, คาบที่ 4-6/54) ความมีวินยั และความรบั ผดิ ชอบ ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้ และแบบทดสอบก่อนเรียน และหลงั เรยี น www.google.com การวดั และการประเมินผล 60 ผา่ นเกณฑ์ ไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ งานท่มี อบหมาย 4 ผลงาน/ชิ้นงาน/ความสาเร็จของผ้เู รียน เอกสารอ้างองิ 5 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 หน่วยท่ี 2 ชอื่ วิชา วิทยาศาสตร์เพ่ือพฒั นาอาชีพธุรกจิ และบริการ (20000– เวลาเรียนรวม 54 1303) คาบ ชื่อหน่วย สารเคมีในชีวิตประจาวนั และในงานอาชีพ สอนคร้ังท่ี 3-4/18 ชอื่ เรือ่ ง สารเคมใี นชวี ิตประจาวนั และในงานอาชพี จานวน 6 คาบ หวั ข้อเรอ่ื ง หนว่ ยท่ี 2 สารเคมีในชีวิตประจาวนั และในงาน กจิ กรรมที่ 2 ใหน้ ักเรยี นสารวจสารเคมีทใ่ี ชใ้ น อาชพี ชวี ิตประจาวนั และในงานอาชีพ 2.9 การหลีกเลี่ยงสารเคมีอันตรายที่พบบ่อยใน ชวี ิตประจาวนั แนวคิดสาคัญ รสอาหาร สารแต่งสีอาหาร สารทาความสะอาด สารกาจัดแมลงและสารกาจัดศัตรูพืช เป็นต้น ในการจาแนก สมรรถนะย่อย 6 จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม ดา้ นความรู้ ด้านทกั ษะ 1จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 5. อธิบายและยกตัวอย่างสารเคมีที่เกิดข้ึนใน ด้านความร้แู ละทักษะ ธรรมชาติ 1. อธิบายความหมายของสารเคมีได้ 6. อธิบายอละยกตัวอน่างสารเคมีท่ีใช้ปรุงรส 2. อธิบายและยกตัวอย่างสารเคมีที่เกิดขึ้นใน อาหาร ธรรมชาติได้ 3. เลอื กใชส้ ารเคมที ีใ่ ช้ในชวี ติ ประจาวนั ไดถ้ ูกต้อง 4. อธิบายและยกตัวอย่างสารเคมีที่ใช้ปรุงแต่งรส อาหาร ใช้ในการเกษตร ใช้เพื่อสาธารณูปโภค ใช้เป็น เครือ่ งสาอาง และใช้ในงานอาชีพได้ สิ่งมชี ีวิตได้ ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ร่วมมอื เนื้อหาสาระ สารเคมีเป็นองค์ประกอบ ซ่ึงสามารถจาแนกเป็นสารสังเคราะห์และสารธรรมชาติ เชน่ สารปรงุ รสอาหาร สาร ความหมายของสารเคมี 7 กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ที่ 3/18, คาบที่ 7–9/54) การเรยี น คุณลักษณะนิสัยท่ตี ้องการใหเ้ กดิ ข้นึ และขอ้ ตกลงในการเรียน กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ที่ 4/18, คาบท่ี 10-12/54) ความมวี ินัย และความรบั ผดิ ชอบ ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้ เรยี น และหลงั เรยี น www.google.com การวดั และการประเมินผล 60 ผ่านเกณฑ์ 8 3. สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มโดยใช้แบบประเมินผล การปฏิบัติกิจกรรมกลุ่ม ต้องได้คะแนน 4. ตรวจกจิ กรรมการทดลอง ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ งานที่มอบหมาย ผลงาน/ชน้ิ งาน/ความสาเร็จของผเู้ รียน เอกสารอา้ งอิง 9 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3 หนว่ ยที่ 3 ชื่อวิชา วิทยาศาสตรเ์ พ่ือพฒั นาอาชพี ธุรกิจและบริการ (20000- เวลาเรียนรวม 54 1303) คาบ ชื่อหน่วย เทคโนโลยีชีวภาพ สอนคร้ังที่ 5–6/18 ชือ่ เรือ่ ง เทคโนโลยชี วี ภาพ จานวน 6 คาบ หวั ข้อเรื่อง กิจกรรมที่ 3.1 แก๊สชีวภาพ แนวคิดสาคญั แรก ๆ มนุษย์รู้จักใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการถนอมอาหาร และแปรรูปอาหารตามข้ันตอนง่าย ๆ เช่น สมรรถนะย่อย จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 10 ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม/บูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ร่วมมือ เน้อื หาสาระ สาหรับคาว่า Bio มาจาก Biology (ชีววิทยา) เป็นเรื่องของส่ิงมีชีวิตและ Technology เป็นการประยุกต์ใช้ 3.2 ประโยชนข์ องเทคโนโลยชี ีวภาพ 3.3 พันธุวิศวกรรม 3.4 การผสมเทยี ม สตั ว์ตวั เมยี ในระยะเวลาเป็นสัด เพ่อื ใหส้ ตั ว์ตวั เมยี ตั้งท้องแลว้ คลอดลูกออกมาตามปกติ โดยไม่ตอ้ งใหส้ ัตว์ผสม 3.5 การถา่ ยฝากตัวออ่ น ที่เกิดจากการผสมพันธรุ์ ะหว่างไข่ของสัตว์แม่พันธ์ุและเชอื้ ตัวผู้ของพ่อพันธ์ุท่ีคัดเลอื กไว้ ซ่ึงล้างเกบ็ ออกมาจาก 3.6 การโคลนนงิ่ 11 กจิ กรรมการเรียนรู้ (สปั ดาห์ท่ี 5/18, คาบท่ี 13–15/54) ความมีวนิ ยั และความรับผดิ ชอบ กิจกรรมการเรียนรู้ (สัปดาห์ที่ 6/18, คาบท่ี 16-18/54) ความมวี นิ ัย และความรบั ผิดชอบ ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น และหลงั เรยี น www.google.com การวดั และการประเมินผล 60 ผา่ นเกณฑ์ 12 3. สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มโดยใช้แบบประเมินผล การปฏิบัติกิจกรรมกลุ่ม ต้องได้คะแนน 4. ตรวจกจิ กรรมการทดลอง ไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ งานทมี่ อบหมาย ผลงาน/ชิ้นงาน/ความสาเรจ็ ของผู้เรียน เอกสารอ้างอิง 13 แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 4 หนว่ ยท่ี 4 ชื่อวิชา วิทยาศาสตรเ์ พือ่ พัฒนาอาชีพธุรกจิ และบรกิ าร (20000- เวลาเรียนรวม 54 1303) คาบ ชอื่ หน่วย จุลนิ ทรยี ใ์ นอาหาร สอนคร้งั ท่ี 7–8/18 ช่ือเร่ือง จุลินทรีย์ในอาหาร จานวน 6 คาบ หวั ข้อเร่อื ง 4.1 ความหมายของจลุ นิ ทรีย์ในอาหาร กิจกรรมท่ี 4.1 แบคทีเรยี ในอาหาร 4.2 ประเภทของจุลินทรยี ใ์ นอาหาร กิจกรรมที่ 4.2 ศึกษาลกั ษณะของรา 4.3 ลกั ษณะทั่วไปและโครงสร้างของจลุ ินทรีย์ กจิ กรรมที่ 4.3 ศกึ ษาลกั ษณะของยีสต์ 4.4 ความสาคัญของจลุ นิ ทรยี ์ในอาหาร 4.5 แหล่งท่มี าของจุลินทรีย์ซงึ่ ปนเป้อื นในอาหาร 4.6 แหล่งท่ีอยู่อาศัยของจุลินทรีย์ตามธรรมชาติทาง ชวี ภาพ แนวคิดสาคญั สามารถทาให้เกิดปฏิกิริยาทางชีวเคมี ดารงชีวิตโดยใช้อาหารอย่างง่าย ๆ เช่น เกลืออนินทรีย์อย่างเดียว หรือ สมรรถนะย่อย จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม 14 ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง รว่ มมอื ใชอ้ ุปกรณท์ ดลองอย่างฉลาดและรอบคอบ เนอื้ หาสาระ เห็นต้องมองด้วยกล้องจุลทรรศน์ สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ เหล่าน้ี เรียกว่า “จุลินทรีย์” ประกอบด้วยส่ิงมีชีวิต 4.2 ประเภทของจุลนิ ทรีย์ในอาหาร 4.3 ลกั ษณะทัว่ ไปและโครงสรา้ งของจุลนิ ทรีย์ 4.4 ความสาคัญของจลุ ินทรยี ใ์ นอาหาร 4.5 แหล่งทม่ี าของจุลินทรยี ซ์ ่ึงปนเปือ้ นในอาหาร 4.6 แหลง่ ท่อี ยอู่ าศัยของจุลินทรยี ต์ ามธรรมชาตทิ างชวี ภาพ 15 กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ท่ี 7/18, คาบท่ี 19–21/54) ความมีวนิ ัย และความรับผดิ ชอบ กจิ กรรมการเรียนรู้ (สปั ดาห์ที่ 8/18, คาบท่ี 22-24/54) ความมวี นิ ยั และความรับผดิ ชอบ ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้ และแบบทดสอบก่อนเรียน และหลังเรยี น www.google.com การวัดและการประเมินผล 60 ผา่ นเกณฑ์ 16 3. สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มโดยใช้แบบประเมินผล การปฏิบัติกิจกรรมกลุ่ม ต้องได้คะแนน 4. ตรวจกิจกรรมการทดลอง ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ งานทมี่ อบหมาย ผลงาน/ชน้ิ งาน/ความสาเร็จของผู้เรียน เอกสารอ้างอิง 17 แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 5 หน่วยที่ 5 ชื่อวิชา วทิ ยาศาสตรเ์ พ่อื พัฒนาอาชพี ธรุ กิจและบริการ (20000- เวลาเรียนรวม 54 1303) คาบ ชื่อหน่วย ปิโตรเลยี มและผลิตภณั ฑ์ สอนครัง้ ท่ี 8–9/18 ช่อื เรื่อง ปิโตรเลยี มและผลติ ภณั ฑ์ จานวน 6 คาบ หัวข้อเร่อื ง กิจกรรมที่ 5.1 ปิโตรเลียมกบั เศรษฐกิจและสงั คม แนวคิดสาคญั สาคัญ และเป็นวตั ถุดิบในการผลิตเชอ้ื เพลงิ ทใ่ี ชใ้ นรถยนตแ์ ละน้ามันหล่อล่นื ในเครือ่ งจกั รกล นอกจากนย้ี งั สมรรถนะย่อย จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม ดา้ นทกั ษะ 1. อธิบายความหมายของปิโตรเลียมและการเกิดปโิ ตรเลียมได้ 18 ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง รว่ มมอื เน้อื หาสาระ (Oleum) แปลว่า น้ามัน รวมความแล้วหมายถึง น้ามันท่ีได้จากหิน ตามคานิยาม ปิโตรเลียม หมายถึง 5.2 การกาเนิดปโิ ตรเลยี ม เหล่าน้ีตายลงจะเน่าเปื่อยผุพังและย่อยสลายไป แต่ในสภาพแวดล้อมท่ีออกซิเจนน้อยซากสิ่งมีชีวิตเหล่าน้ี 5.3 ผลติ ภณั ฑ์จากการกลัน่ น้ามันปิโตรเลียม 5.4 แก๊สธรรมชาติ 5.5 ผลิตภณั ฑ์ท่ีได้จากปิโตรเลยี ม ทาปฏิกิริยาทางเคมีกับออกซิเจนให้น้ากับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ พลังงานความร้อนท่ีได้จะมากหรือน้อย 1) เชือ้ เพลิงแขง็ 2) เชือ้ เพลิงเหลว 3) เชื้อเพลิงแกส๊ 19 กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ท่ี 8/18, คาบที่ 22–24/54) ความมวี นิ ัย และความรับผดิ ชอบ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ท่ี 9/18, คาบท่ี 25-27/54) ความมีวนิ ัย และความรบั ผดิ ชอบ สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้ และแบบทดสอบก่อนเรยี น และหลงั เรยี น www.google.com การวัดและการประเมินผล 60 ผา่ นเกณฑ์ 20 3. สังเกตการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มโดยใช้แบบประเมินผล การปฏิบัติกิจกรรมกลุ่ม ต้องได้คะแนน 4. ตรวจกิจกรรมการทดลอง ไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ งานทม่ี อบหมาย ผลงาน/ชน้ิ งาน/ความสาเร็จของผูเ้ รียน เอกสารอา้ งอิง 21 แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 6 หน่วยที่ 6 ช่ือวิชา วิทยาศาสตร์เพอื่ พัฒนาอาชีพธรุ กิจและบริการ (20000- เวลาเรียนรวม 54 1303) คาบ ช่อื หน่วย พอลิเมอร์และผลติ ภัณฑ์ยาง สอนคร้ังท่ี 11– 12/18 ชื่อเรื่อง พอลิเมอร์และผลิตภัณฑ์ยาง จานวน 6 คาบ หัวข้อเรือ่ ง 6.1 ความหมายของพอลเิ มอร์ กจิ กรรมท่ี 6.1 การสลายตวั ของพลาสติก 6.2 ประเภทของพอลเิ มอร์ กจิ กรรมท่ี 6.2 การทาเส้นใยสงั เคราะห์ 6.3 ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ กิจกรรมที่ 6.3 การทายางในประเทศไทย 6.6 ผลิตภณั ฑ์จากยาง 6.7 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์พอลิ เมอรส์ ังเคราะห์ 6.8 การกาจดั พลาสติก แนวคดิ สาคญั ผลิตภัณฑ์ท่ีใช้ในชีวิตประจาวนั ประเภทพลาสติกชนดิ ตา่ ง ๆ เช่น ถุงและภาชนะใส่อาหาร ขวด เคร่ืองใช้ สมรรถนะย่อย จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม 22 ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความรว่ มมอื ชว่ ยเหลือเกื้อกูล เนื้อหาสาระ มอนอเมอร์ (Monomer) จานวนมากเช่ือมต่อกันด้วยพันธะโควาเลนต์ พอลิเมอร์ท่ีประกอบด้วยมอนอเมอร์ 6.2 ประเภทของพอลเิ มอร์ 6.3 ปฏิกิรยิ าการเกดิ พอลิเมอร์ 6.4 โครงสรา้ งและคณุ สมบัตขิ องพอลเิ มอร์ 6.5 ผลิตภัณฑ์จากพอลิเมอร์ 6.6 ผลิตภัณฑ์จากยาง ยางพาราที่ผลิตได้แบ่งออกเป็น 5 ชนิด ได้แก่ ยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง ยาง 23 6.7 ความก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยขี องผลิตภณั ฑ์พอลิเมอรส์ ังเคราะห์ ส่วนพอลิเอทลิ นี ใชท้ าฟนั ปลอม ล้นิ หัวใจ กระเพาะปัสสาวะ และท่อนา้ ดี เปน็ ตน้ ความชุ่มช้ืนและป้องกันการถูกทาลายของผิวดิน ทาตาข่ายกันแมลงสาหรับการปลูกผักปลอดสารพิษ 6.8 การกาจดั พลาสตกิ กิจกรรมการเรียนรู้ (สปั ดาห์ที่ 11/18, คาบที่ 31–33/54) ความมวี ินยั และความรับผิดชอบ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ท่ี 12/18, คาบท่ี 34-36/54) ความมวี ินัย และความรับผดิ ชอบ ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้ และแบบทดสอบก่อนเรียน และหลังเรยี น 24 2. แหล่งการเรียนรู้ หนังสือ วารสาร เก่ียวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต การวดั และการประเมินผล 60 ผ่านเกณฑ์ ไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ งานท่ีมอบหมาย ผลงาน/ช้ินงาน/ความสาเรจ็ ของผู้เรียน เอกสารอา้ งองิ 25 แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 7 หน่วยท่ี 7 ช่อื วิชา วิทยาศาสตรเ์ พ่ือพัฒนาอาชีพธรุ กจิ และบรกิ าร (20000- เวลาเรยี นรวม 54 1303) คาบ ช่ือหน่วย ไฟฟ้าในชีวิตประจาวนั สอนคร้ังท่ี 13– 15/18 ชื่อเรื่อง หนว่ ย ไฟฟา้ ในชีวิตประจาวนั จานวน 9 คาบ หัวข้อเรอื่ ง กจิ กรรมท่ี 7.1 การต่อวงจรไฟฟ้า ประจาวนั แนวคดิ สาคญั พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น ประเทศไทยมีไฟฟ้าใช้เป็นคร้งั แรกเมื่อ 20 กันยายน พ.ศ. 2427 ในสมัยรัชกาลท่ี 5 สมรรถนะย่อย จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม 26 5. อธิบายหลักการใช้และการประหยดั พลงั งานของเคร่ืองใช้ไฟฟา้ ต่าง ๆ ได้ ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม/บรู ณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ร่วมมือ เนื้อหาสาระ ต่าง ๆ เช่น ด้านแสงสว่าง ด้านความร้อน ด้านพลังงาน และด้านเสียง เป็นต้น การเรียนรู้เกี่ยวกับไฟฟ้าจึงมี ความร้เู บ้ืองต้นเกย่ี วกบั ไฟฟา้ ประเภทของไฟฟ้าและแหล่งกาเนิด (1) ไฟฟ้ากระแสตรง (Direct Current หรือ DC) ไฟฟ้ากระแสตรงเป็นไฟฟ้าที่มีทิศทางการไหลไป (2) ไฟฟ้ากระแสสลับ (Alternating Current หรือ AC) ไฟฟ้ากระแสสลับเป็นไฟฟ้าท่ีมีการไหล การกาเนดิ ของไฟฟา้ 1. ไฟฟ้าท่ีเกิดจากการเสียดสีของวัตถุ เป็นไฟฟ้าท่ีเกิดข้ึนจากการนาวัตถุต่างกัน 2 ชนิดมาขัดสี 2. ไฟฟ้าทเ่ี กดิ จากการทาปฏกิ ิริยาทางเคมี โดยการนาโลหะ 2 ชนดิ ท่ีแตกต่างกันตัวอยา่ ง สังกะสี |