กินข้าวเสร็จแล้วปวดท้องตรงกลาง

ปวดท้องหลังกินข้าวเสร็จค่ะ จะปวดแบบเสียดๆรู้สึกอยากจะอาเจียนด้วยค่ะ บางทีมีอาการปวดกลางดึกบ้างถ้ากินอิ่มมากก็จะปวดเหมือนกันค่ะ ปวดตรงท้องด้านซ้ายเหนือสะดือมานิดหน่อย ใช่โรคกะเพาะหรือป่าวคะ

กินข้าวเสร็จแล้วปวดท้องตรงกลาง
 พญ.นรมน

แพทย์

Jul 06, 2020 at 11:13 AM

 สวัสดีค่ะคุณ Fon Fon

อาการปวดท้องสัมพันธ์กับมื้ออาหาร ปวดเสียดๆ คลื่นไส้ อาจจะเกิดจากภาวะกระเพาะอาหารอักเสบได้มากที่สุด หากเป็นมานานๆเรื้อรังอาจมีแผลในกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กส่วนต้นด้วยได้

สาเหตุอื่นๆเช่นปวดจากลำไส้อักเสบเฉียบพลันจากการรับประทานอาหารที่ไม่สุกสะอาด ปวดจากลำไส้แปรปรวนซึ่งมักจะเป็นมาค่อนข้างเรื้อรังอาจจะเกิน 2 สัปดาห์ขึ้นไป ร่วมกับเมื่อได้ถ่ายแล้วอาการปวดมักจะดีขึ้น

เบื้องต้นดื่มน้ำมากๆชดเชยกับที่เสียไปจากการอาเจียน กินยาแก้คลื่นไส้อาเจียนได้ก่อนเบื้องต้น รับประทานอาหารอ่อนๆสุกสะอาดให้ตรงเวลาครบ 3 มื้อ ไม่กินมื้อใหญ่เกินไปในคราวเดียว และหากอาการยังไม่ทุเลา ควรไปพบแพทย์เพื่อรับยาลดกรดภายใต้การดูแลของแพทย์ต่อไปค่ะ

นิ่วในถุงน้ำดี (Gallstones) เกิดจากการตกผลึกของหินปูน (แคลเซียม) หรือคอเลสเตอรอลที่มีอยู่ในน้ำดี ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเชื่อว่าการตกผลึกของสารเหล่านี้ เกี่ยวกับการติดเชื้อของทางเดินน้ำดี และความไม่สมดุลของส่วนประกอบน้ำดี การตกผลึกนี้อาจทำให้เกิดเป็นก้อนนิ่วเพียงก้อนเดียว หรือก้อนเล็กๆ หลายก้อนก็ได้

จริงๆ แล้วโรคนี้สามารถเกิดได้กับทุกคน ทุกเพศทุกวัย เพียงแต่ว่าจะมีคนบางกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากกว่าคนอื่น เช่น คนที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ผู้หญิงที่มีลูกแล้ว ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน ทาลัสซีเมีย โลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงแตก เป็นต้น

กินข้าวเสร็จแล้วปวดท้องตรงกลาง

อาการแบบไหนคือ “สัญญาณเตือน”

อาการของโรคนิ่วในถุงน้ำดีนี้แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือประเภทที่ไม่มีอาการเลย กับประเภทที่มีอาการ ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีอาการ จะตรวจเจอโดยบังเอิญจากการไปตรวจสุขภาพประจำปีที่มีการตรวจอัลตร้าซาวด์ช่องท้อง ส่วนในกลุ่มที่มีอาการก็จะมีอาการตั้งแต่น้อยไปมาก เช่น

• ท้องอืด แน่นท้อง โดยเฉพาะเวลาหลังทานอาหารมัน ซึ่งอาการแบบนี้อาจเกิดจากโรคระบบทางเดินอาหารอื่น เช่นโรคลำไส้หรือโรคกระเพาะก็ได้

• ปวดเสียดท้อง หรือปวดท้องบริเวณใต้ชายโครงขวา หรือลิ้นปี่ มักจะเป็นหลังทานอาหารมัน แต่จะเป็นนานอยู่หลายชั่วโมง บางทีอาจร้าวไปสะบักขวา หรือหลังได้ด้วย

• ถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน จะปวดท้องบริเวณชายโครงขวามากขึ้น กดแล้วเจ็บ อาจมีไข้ หรืออาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย

ผู้ป่วยโรคนี้มักมีอาการปวดท้องกลางท้องช่วงบน ลักษณะการปวด คือ รู้สึกปวดแน่น หรือแสบร้อนสัมพันธ์กับมื้ออาหาร เช่น หลังรับประทานอาหารอาการปวดท้องจะดีขึ้นหรือแย่ลง บางคนมีอาการอิ่มง่าย อิ่มเร็ว ระยะเวลาของการปวดอาจเป็นวันหรือเป็นเดือน หรือมีลักษณะเป็นๆหายๆ

ปวดท้องแบบไหนเสี่ยงเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร ?

  • มีอาการปวดท้องในคนอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป
  • เลือดออกทางเดินอาหาร (อาเจียนมีเลือดปน, ถ่ายอุจจาระเป็นเลือดปน หรือถ่ายอุจาระมีสีดำ), น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ, อาเจียนบ่อยๆ ทุกวัน
  • ไม่ตอบสนองต่อการรักษาโดยการใช้ยาลดกรดแบบเม็ด เป็นระยะเวลา 4 – 8 สัปดาห์หลังการรักษา
  • มีอาการเป็นๆหายๆบ่อยครั้ง, มีประวัติมะเร็งกระเพาะอาหารหรือทางเดินอาหารของญาติสายตรงลำดับหนึ่ง (ได้แก่ พ่อ, แม่, พี่, น้อง)

ผู้ที่มีอาการดังกล่าวเบื้องต้นควรได้รับการตรวจเพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติม เช่น การส่องกล้องกระเพาะอาหาร

โรคกระเพาะ (อาหารอักเสบ) เป็นโรคที่พบได้บ่อย ผู้ป่วยควรพบแพทย์เพื่อให้คำแนะนำและการรักษาหรือควรได้รับการตรวจเพิ่มเติมเมื่อมีสัญญาณเตือนของมะเร็งกระเพาะอาหาร

ปวดท้องตรงกลางบ่อยครั้ง บางครั้งก็มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียร่วมด้วย เอ๊ะ…สัญญาณนี้บอกโรคอะไรได้บ้างนะ


อาการปวดท้องแถว ๆ สะดือ หรือปวดท้องตรงกลาง เป็นสัญญาณบอกโรคอะไรได้บ้าง คนที่มีอาการปวดท้องตรงกลางเป็น ๆ หาย ๆ อยู่บ่อยครั้ง ลองเช็กดูค่ะว่าเสี่ยงโรคอะไรไหม โดยเฉพาะหากมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย มาดูกันว่าอาการปวดท้องตรงกลางเป็นสัญญาณของโรคอะไร


1. โรคกระเพาะอาหาร


หากมีอาการปวดท้องแบบจุก แสบ แน่นบริเวณเหนือสะดือหรือปวดท้องตรงกลางแบบเฉียบพลัน หรืออาจมีอาการปวดท้องแบบเป็น ๆ หาย ๆ โดยเฉพาะในช่วงที่รู้สึกหิว หรือแม้แต่กินอาหารจนอิ่มแล้วก็ยังมีอาการจุก เสียด แน่น มีลม และปวดท้องตรงกลางขึ้นมาอีก นี่อาจเป็นสัญญาณของโรคกระเพาะอาหารได้


2. กรดไหลย้อน


อาการปวดท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่อาจเป็นสัญญาณของโรคกรดไหลย้อนได้ด้วยนะคะ และหลายคนก็ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคกระเพาะกับโรคกรดไหลย้อนอยู่ด้วย เนื่องจากอาการปวดท้องจะคล้าย ๆ กัน เพียงแต่ว่าหากเป็นกรดไหลย้อนมักจะมีอาการแสบร้อนกลางอก และอาการจะเกิดหลังจากรับประทานอาหารอิ่มใหม่ ๆ


3. นิ่วในถุงน้ำดี


นอกจากโรคกระเพาะและโรคกรดไหลย้อนแล้ว อาการปวดท้องบริเวณเหนือสะดือ หรือใต้ลิ้นปี่ยังเกิดจากหลอดอาหารและถุงน้ำดีได้เช่นกัน โดยเฉพาะโรคนิ่วในถุงน้ำดี ลองมาเช็กอาการให้ชัด ๆ เลยดีกว่า


4. ลำไส้อักเสบ


หากมีอาการปวดท้องบริเวณรอบ ๆ สะดือ ปวดแบบเป็น ๆ หาย ๆ ตำแหน่งนี้อาจบอกถึงความผิดปกติของลำไส้เล็ก ทำให้เกิดอาการท้องเดิน แต่หากมีอาการปวดบิด ร่วมด้วยท้องเสียมาก ๆ และเหมือนกับว่ามีลมในท้อง นี่ก็มีโอกาสเป็นโรคลำไส้อักเสบได้เหมือนกัน


5.ไส้ติ่ง


เรารู้กันดีว่าอาการปวดท้องไส้ติ่งมักจะบอกเป็นอาการปวดท้องด้านขวา ทว่าอาการเริ่มแรกของโรคไส้ติ่งอักเสบก็คืออาการปวดท้องรอบ ๆ สะดือ โดยมีอาการปวดบิดเป็นพัก ๆ รอบ ๆ สะดือ คล้ายอาการปวดถ่ายท้องเสีย แต่มักจะถ่ายไม่ออก หรือบางคนก็มีอาการปวดท้องเหนือสะดือร่วมกับถ่ายเหลว หรือท้องเสียด้วย หลังจากนั้นอาการปวดท้องจะย้ายตำแหน่งมาที่ท้องน้อยด้านขวา และมีอาการปวดรุนแรงจนทนไม่ไหว ซึ่งต้องรีบรักษาอย่างเร่งด่วนที่สุด


6. ตับอ่อนอักเสบ


ในกรณีมีอาการปวดท้องตรงกลางค่อนไปทางด้านซ้ายช่วงบน สัญญาณนี้บอกความผิดปกติของตับอ่อน ม้าม และลำไส้ เช่น อาการตับอ่อนอักเสบ ม้ามแตก เป็นต้น ซึ่งหากเป็นตับอ่อนอักเสบจะมีอาการปวดท้องรุนแรง ร่วมกับคลื่นไส้อาเจียน บางคนอาจเกิดอาการปวดบริเวณช่องท้องส่วนขวาลามไปยังแผ่นหลังได้ ใครที่ชอบดื่มแอลกอฮอล์แล้วมีอาการดังที่กล่าวมา ควรรีบไปพบแพทย์นะคะ


7. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ


อาการปวดท้องในตำแหน่งเหนือหัวหน่าว ปวดแบบหน่วง ๆ อาจเป็นสัญญาณของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ มดลูกอักเสบ หรือเนื้องอกมดลูก เป็นต้น ซึ่งถ้ามีอาการปัสสาวะไม่สุด หรือปวดปัสสาวะแต่ปัสสาวะไม่ออก แสบขัดขณะปัสสาวะด้วย ให้สงสัยโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบไว้ก่อนเลย


ไม่ว่าอาการปวดท้องตรงกลางที่เป็นอยู่จะบอกถึงโรคอะไรก็ตามแต่ ทว่าในกรณีที่ปวดท้องบ่อย ๆ ปวดเป็น ๆ หาย ๆ ก็ไม่ควรชะล่าใจนะคะ ยิ่งหากมีอาการปวดท้องร่วมกับความผิดปกติอื่น ๆ อย่าง คลื่นไส้ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ท้องเสีย ก็ควรปรึกษาแพทย์ให้เร็วที่สุด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวดท้องตรงกลางที่เป็นอยู่ จะได้ทำการรักษาได้อย่างตรงจุดและทันท่วงที