กระบวนการการสงเคราะห ผ ม รายได น อยและผ ไร ท พ ง

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายอนุกูล ปีดแก้ว รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รองปลัด พม.) ในฐานะโฆษกกระทรวง พม. พร้อมด้วย นางสาวซาราห์ บินเย๊าะ รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (รองอธิบดี พส.) ในฐานะโฆษก พส. วานนี้ร่วมเปิดเผยเกี่ยวกับเงินช่วยเหลือออนไลน์ (E-Service) หรือ เงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง ช่วยเหลือรายละไม่เกิน 3,000 บาท

ผ่านการยื่นคำร้องในระบบ “ยื่นคำขอรับบริการ” ผ่านเว็บไซต์คลิกที่นี่

การช่วยเหลือดูแลกลุ่มเป้าหมายที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคม ซึ่งกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ได้มีนโยบายให้เปิดช่องทางการช่วยเหลือแบบออนไลน์ (E-Service) เพิ่มเติม เพื่ออำนวยความสะดวกและการให้บริการด้วยความรวดเร็วแก่กลุ่มเป้าหมายในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 ซึ่งจากเดิมที่จะต้องเดินทางเข้าไปขอความช่วยเหลือด้วยตนเองที่หน่วยงานของกระทรวง พม. ทั้งในส่วนกลางและต่างจังหวัดทั่วประเทศ สำหรับผู้ขอรับเงินช่วยเหลือหรือเงินสงเคราห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่งแบบออนไลน์ (E-Service) สามารถยื่นคำร้องในระบบ “ยื่นคำขอรับบริการ”

เช็คคุณสมบัติก่อนยื่นรับเงินสงเคราะห์ 3,000 บาท

• ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยด้วยเหตุที่หัวหน้าครอบครัวเสียชีวิต ทอดทิ้ง สาบสูญ หรือต้องโทษจำคุก เจ็บป่วยเรื้อรัง หรือพิการไม่สามารถประกอบอาชีพได้
• ประสบปัญหายากลำบากไม่สามารถดูแลครอบครัวได้ และคนไร้ที่พึ่ง ตามระเบียบกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ว่าด้วยการสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ. 2552 ช่วยเหลือครอบครัวละไม่เกิน 3,000 บาท

หลักเกณฑ์การช่วยเหลือขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของนักสังคมสงเคราะห์หรือเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับมอบหมาย

ตรวจสอบคุณสมบัติ

รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อกระทรวง พม. โดย พส. ได้รับข้อมูลของผู้ขอรับเงินสงเคราห์ฯ ในระบบ “ยื่นคำขอรับบริการ” ทางเจ้าหน้าที่จะโทรกลับเพื่อติดต่อสอบถาม และนัดหมายวันลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน

จากนั้นเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่เยี่ยมบ้านตามหลักและกระบวนการสังคมสงเคราะห์ เพื่อตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงตามที่กรอกไว้ในระบบ

ขั้นตอนพิจารณาคุณสมบัติ

และสุดท้าย จะมีการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ขอรับเงินสงเคราะห์ฯ ว่าเป็นไปตามระเบียบกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ว่าด้วยการสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง พ.ศ. 2552 โดย พส. จะโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ขอรับเงินสงเคราะห์ โดยเร็วที่สุด ผ่านระบบ Krungthai Corporate Online

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการยื่นเรื่องขอรับเงินสงเคราะห์ 3000 บ.จากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หลักเกณฑ์-เงื่อนไขการพิจารณามีอะไรบ้าง ตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดได้ที่นี่

หลังจากที่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ภายใต้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ออกมาประกาศให้ความช่วยเหลือประชาชน(ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง)ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 โดยได้เพิ่มช่องทางออนไลน์ผ่านระบบ E-Service ในการยื่นเรื่องขอรับเงินสงเคราะห์จำนวน 3,000 บาท

โดยหลังจากที่ประกาศนโยบายนี้ออกไป พบว่าประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแห่เข้ามาลงทะเบียนในช่องทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก บางรายสามารถลงทะเบียนได้สำเร็จ และบางส่วนไม่สามารถที่จะเข้าเว็บไซต์ หรือ สแกนคิวอาร์โคดตามที่ระบุไว้ได้ และจากการตรวจสอบของ"ฐานเศรษฐกิจ"ที่ได้ลองเข้าระบบ E-Service (เวลา 21.00 น. วันที่10 ส.ค.64) ผ่าน เว็บไซต์ http://www.dsdwservice.dsdw.go.th/Petitions/Petition และสแกนคิวอาร์โคด ก็พบว่าไม่สามารถทำรายการได้ทั้งคู่ เช่นเดียวกับการลองระบบติดตามสถานะก็เข้าไม่ได้เช่นเดียวกัน

นายอนุกูล ปีดแก้ว รองปลัด กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า คุณสมบัติของผู้ที่จะมายื่นขอรับเงินสงเคราะห์นั้น จะต้องเป็นผู้ที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน ครอบครัวผู้มีรายได้น้อย ด้วยเหตุที่หัวหน้าครอบครัวเสียชีวิต ทอดทิ้ง สาบสูญ หรือต้องโทษจำคุก เจ็บป่วยเรื้อรัง หรือพิการไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ประสบปัญหายากลำบากไม่สามารถดูแลครอบครัวได้ และคนไร้ที่พึ่ง ตามระเบียบ พส. ว่าด้วยการสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง พ.ศ. 2552 โดยจะให้ความช่วยเหลือครอบครัวละไม่เกิน 3,000 บาท

" เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและให้บริการรวดเร็วแก่กลุ่มเป้าหมายในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 ซึ่งจากเดิมจะต้องเดินทางเข้าไปขอความช่วยเหลือด้วยตนเองที่หน่วยงานของกระทรวง พม. ทั้งในส่วนกลางและต่างจังหวัดทั่วประเทศ แต่ตอนนี้ผู้ขอรับเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่งสามารถยื่นเรื่องแบบออนไลน์ (E-Service)ได้ โดยยื่นคำร้องในระบบผ่านเว็บไซต์"

ทั้งนี้การช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง แต่เดิมนั้นมีมานานแล้ว (คลิกอ่านรายละเอียดระเบียบกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ว่าด้วยการสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง พ.ศ. 2552) โดยจะให้การช่วยเหลือด้านการเงินหรือสิ่งของเป็นวงเงินครั้งละไม่เกิน 3,000 บาท ต่อครอบครัว และช่วยเหลือติดต่อกันไม่เกิน 3 ครั้งต่อครอบครัวต่อปีงบประมาณ

ดังนั้นการยื่นขอรับเงินเงินสงเคราะห์ 3,000 บาทในครั้งนี้ ก็จะมีเงื่อนไข หลักเกณฑ์ที่ทางกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการจะต้องพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสอบถาม รวมไปถึงนัดหมายเพื่อลงพื้นที่จริง และเมื่อไปถึงสถานที่ หรือ บ้านก็จะตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงตามที่ได้กรอกไว้ในระบบ ซึ่งเกณฑ์การพิจารณาก็จะเป็นไปตามระเบียบกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ว่าด้วยการสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง พ.ศ. 2552 และเมื่อพิจารณาตรวจสอบแล้วว่าเข้าเงื่อนไขก็จะโอนเงินเข้าบัญชีผู้ขอรับเงินสงเคราะห์