Red ocean strategy ตัวอย่าง บริษัท

การดำเนินธุรกิจในทะเลแดง (RED OCEAN)เป็นเรื่องท้าทาย ต้องใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมและวิเคราะห์ตลาดอย่างต่อเนื่อง ประการแรก คุณไม่จำเป็นต้องหมกมุ่นอยู่กับคู่แข่งของคุณ แต่คุณควรจับตาดูคุณสมบัติใหม่ที่พวกเขาเปิดตัวในตลาดอยู่เสมอ นอกจากนี้ อย่าหยุดปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของคุณ ค้นหาสิ่งที่ทำให้คุณแตกต่างจากคู่แข่งและแจ้งให้ลูกค้าทุกคนทราบเกี่ยวกับคุณค่าที่นำเสนอของคุณ

หากต้องการที่ปรึกษาด้านการตลาดและแฟรนไชส์ ปรึกษาแฟรนซ์บิซ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เตรียมตัวของคุณให้พร้อม แล้วมาลุยไปด้วยกัน!! Inbox / comment สอบถามมาได้เลยค่ะ โทรฝ่ายขาย 094-494-2696 / 094-552-2253 Line Official Account: @franzbiz (มีแอด) ID Line : franzbiz Website: www.franzbiz.com

โดยทั่วไปแล้วธุรกิจต่างๆ มักจะทำงานในสภาพแวดล้อมของน่านน้ำสีแดง (Red Ocean) ซึ่งหมายถึงตลาดที่เต็มไปด้วยคู่แข่ง บริษัทต่างๆ จึงใช้กลยุทธ์สร้างความแตกต่างจากบริษัทอื่น ไม่ว่าจะแตกต่างในแง่ของผลิตภัณฑ์ กลุ่มเป้าหมาย การบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม หรือราคา

ตรงกันข้าม ในน่านน้ำสีน้ำเงิน (Blue Ocean) จะเปรียบเหมือนน่านน้ำที่ไม่คุ้นเคยและเป็นธุรกิจใหม่ที่มีการแข่งขันเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย ไม่มีแรงกดดันด้านราคา และมีโอกาสทำกำไรจำนวนมาก

เพื่อให้เข้าใจกลยุทธ์ของน่านน้ำสีสีน้ำเงินและน่านน้ำสีสีแดงมากขึ้น มาดูตัวอย่างกัน

เมื่อ Apple คิดค้น iPod ในปี 2001 พวกเขาไม่เพียงแต่สร้างผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จ แต่ยังสร้างหมวดหมู่ของผลิตภัณฑ์เครื่องเล่นเพลงดิจิทัลขึ้นมาใหม่อีกด้วย ทำให้การแข่งขันไม่มีความสำคัญ

กลยุทธ์ Red Ocean

McDonald’s เป็นตัวอย่างที่คลาสสิกของการนำกลยุทธ์น่านน้ำสีแดงที่ประสบความสำเร็จไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารจานด่วนที่มีการแข่งขันสูง โดยใช้ทั้งกลยุทธ์การลดราคา ออกโปรดักต์ใหม่ถี่ และมีการโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ และยังคงรักษามาตรฐานของอาหารไว้ได้

ความแตกต่างระหว่าง Red Ocean และ Blue Ocean

Red ocean strategy ตัวอย่าง บริษัท

ตลาดที่มีอยู่ VS การสร้างตลาดใหม่

กลยุทธ์ Red Ocean จะไม่พยายามผลักดันให้เกินขอบเขตของตลาดเดิม ส่วนกลยุทธ์ Blue Ocean จะค้นหาโอกาสในการสร้างตลาดใหม่ที่ยังไม่เกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น Canon ได้สร้างตลาดใหม่สำหรับเครื่องพิมพ์ตั้งโต๊ะขนาดเล็กโดยเปลี่ยนลูกค้าเป้าหมายจากองค์กรไปเป็นการใช้ส่วนตัว

เอาชนะการแข่งขัน VS ทำให้การแข่งขันไม่ใช่เรื่องจำเป็น

จุดเน้นของกลยุทธ์น่านน้ำสีแดงคือการเอาชนะการแข่งขันด้วยการตลาดเชิงรุก การกำหนดราคาที่ดีขึ้น และประสบการณ์ผู้ใช้ที่โดดเด่น ดังที่เห็นได้ชัดจากความสำเร็จที่น่าทึ่งของ Amazon ที่เปรียบเสมือนฉลามในโลกของอีคอมเมิร์ซ

กลยุทธ์ Blue Ocean มุ่งเน้นไปที่การสร้างทางเลือก ตัวอย่างเช่น Uber ไม่ได้สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ได้เปลี่ยนวิธีการทำงานของอุตสาหกรรมรถแท็กซี่ โดยกำจัด Pain Point ของการใช้แท็กซี่แบบเดิมๆ เพื่อเปลี่ยนผู้ใช้ที่ก่อนหน้านี้ไม่ชอบขึ้นแท็กซี่ให้เป็นลูกค้า

จับความต้องการที่มีอยู่ VS สร้างความต้องการใหม่

กลยุทธ์ Red Ocean พยายามใช้ความต้องการที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนกลยุทธ์ Blue Ocean มุ่งสร้างความต้องการใหม่ ตัวอย่างเช่น Netflix ที่เปลี่ยนจากธุรกิจขายและให้เช่าดีวีดีเป็นบริการสตรีมมิ่ง

รู้จุดแข็งและทำความเข้าใจจุดอ่อนของธุรกิจตัวเองก่อนเลือกตลาดไปกับ คุณพชร อารยะการกุล ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Bluebik Group ในคอร์ส “Strategy to Win – วางกลยุทธ์สู่ชัยชนะ”

อ้างอิง https://bit.ly/3F2FmH8

Red ocean strategy ตัวอย่าง บริษัท

Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine ‘แบรนด์’ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำธุรกิจ แต่หากเ…

Red Ocean คือ ตลาดที่มีการแข่งขันสูงมาก โดยที่ลูกค้าจะตัดสินใจจาก “ราคา” เป็นหลัก ข้อดีของตลาด Red Ocean คือ ตลาดนี้มีขนาดใหญ่ มีกำลังซื้อ ซึ่งส่งผลให้คู่แข่งเข้ามาทำการตลาดแย่งลูกค้ากันในตลาดเดิม เพราะคู่แข่งมีความแตกต่างน้อย ส่งผลให้ลูกค้ามีความรักแบรนด์ต่ำ ใครราคาถูกกว่า ก็พร้อมไปหาเจ้าใหม่ ถ้าสินค้าของคุณถูกตัดสินโดยราคาเป็นหลัก มีแนวโน้มสูงว่าคุณกำลังอยู่ในตลาดนี้

Red Ocean Strategy คืออะไร

Red Ocean Strategy คือ กลยุทธ์ตลาดที่จะเอาชนะตลาดที่มีการแข่งขันสูง โดยพยายามสู้ในเงื่อนไขของราคาให้ได้มากที่สุด และใช้กลยุทธ์ CLV ช่วย เพื่อดึงลูกค้าใหม่และสร้างกำไรระยะยาวให้กับธุรกิจ ซึ่งจะแตกต่างกับ Blue Ocean Strategy

.png)

กำหนด Mindset

Mindset ที่ตั้งไว้ก่อนทุกอย่างเลยก็คือ

  1. ราคา ไม่ใช่ตัวกำหนดทุกอย่าง
  2. แม้ว่าสินค้าจะเหมือนกัน แต่ประสบการณ์ที่ได้รับ ไม่เหมือนกัน
  3. บริษัทที่จะชนะในระยะยาว Winning Company ควรโฟกัสที่มูลค่าของลูกค้า (Customer Lifetime Value) มากกว่า การซื้อครั้งเดียว (One-Time Purchase)

และสำหรับสินค้า Red Ocean บางตลาด ผู้ชนะมีเพียงน้อยรายเท่านั้น ที่สร้างกำไร และอยู่ได้ในระยะยาว

9 กลยุทธ์สร้างกำไร สำหรับการตลาด Red Ocean

  1. เสนอราคาเริ่มต้นถูกที่สุด แล้วค่อยสร้างรายได้ระยะยาวจากการขายครั้งต่อไป ตัวอย่างเช่น ฟิตเนสที่เสนอลดราคา 6 เดือนแรก หรือ ค่ายมือถือต่าง ๆ
  2. ขายเพิ่มกับลูกค้าเดิม (Up Sales - Cross Sales) ตัวอย่างเช่น สายการบินที่ขายราคาประหยัด แล้วมีการขายของกินบนเครื่องบินเพิ่ม
  3. สร้างข้อเสนอที่ไม่ซ้ำใครจนไม่สามารถเปรียบเทียบกับคู่แข่งได้ง่าย (Unique Offer) ตัวอย่างเช่น Package Netfilx ที่สร้างแตกต่างจากคู่แข่ง(ในช่วงแรก) การคิดเป็นรูปแบบ % อ้างอิงจากผลลัพธ์
  4. เลือกการตลาดเฉพาะกลุ่มแทนเจาะคนกลุ่มใหญ่ หากตลาดสำหรับกลุ่มใหญ่เน้นราคาอย่างเดียว คุณสามารถเลือกการตลาดกลุ่มเฉพาะ เพื่อตอบสนอง และจะทำให้คุณชนะในตลาดได้
  5. ให้เหตุผลที่ลูกค้าไม่ควรซื้อสินค้าเพียงแต่ราคา เช่น คุณจ่ายค่าจ้างที่ยุติธรรมกว่า มีการรับประกันที่ดีกว่า หรือใช้พลังงานทดแทน 100% หรือไม่? ถ้าเป็นเช่นนั้นแจ้งให้ลูกค้าของคุณทราบ
  6. มีราคา "ซื้อครั้งแรก" ต่ำที่สุด แล้วจึงได้กำไรจากสินค้าต่อเนื่องในภายหลัง เช่น เครื่องพิมพ์ที่ราคาเริ่มต้นถูก แต่จำเป็นต้องซื้อหมึกเฉพาะกับเขา หรือ ด้ามโกนราคาถูก ที่ต้องใช้ใบมีดโกนอย่างต่อเนื่อง
  7. ให้สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า เมื่อสะสมการซื้อจนถึงจุดหนึ่ง มีให้ส่วนลดเพิ่ม หรือ สิ่งของเพิ่มเติมเป็นของขวัญประจำปี
  8. เปลี่ยนจากการขายสินค้า เป็นการแก้ปัญหา ลูกค้ามีแนวโน้มจะซื้อการแก้ปัญหาที่มีมูลค่า มากกว่าการซื้อสินค้าที่เปรียบเทียบราคาโดยตรง เช่น ครีมกันแดดป้องกัน UV เปลี่ยนเป็นการแก้ปัญหาเลี่ยงริ้วรอยก่อนวัย วัสดุก่อสร้างที่ขายของเป็นชิ้น เปลี่ยนเป็นการติดตั้งเสร็จสวยงามพร้อมมีการรับประกัน
  9. สร้างแบรนด์ให้แตกต่างและจดจำได้เป็นคนแรก ลูกค้าอย่างน้อย 1 ใน 3 มีแบรนด์ในใจที่อยากจะซื้ออยู่แล้ว ซึ่งมาจากการจดจำของแบรนด์ และส่งผลให้สร้างการซื้อระยะยาวได้

กลยุทธ์การตลาดแบบ Red Ocean

กลยุทธ์การตลาดแบบ Red Ocean คือกลยุทธ์ที่เน้นการแข่งขันในตลาดที่เต็มไปด้วยคู่แข่งอย่างแข็งขัน โดยพยายามทำให้สินค้าหรือบริการของคุณเด่นชัดในวิธีต่าง ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า ซึ่งอาจเป็นการลดราคาหรือโฆษณาอย่างมากเพื่อสร้างความนิยม แต่ควรระมัดระวังเรื่องการแข่งขันราคาที่อาจส่งผลให้กำไรลดลงหรือเสี่ยงการพ่ายแพ้ในการแข่งขัน

ข้อดีของกลยุทธ์ Red Ocean

  1. เร็วและเข้าใจง่าย: กลยุทธ์นี้ใช้วิธีการที่คุ้นเคยและเข้าใจง่าย ทำให้สามารถนำไปใช้ได้เร็วและไม่ต้องลงทุนเวลาในการวิจัยและพัฒนาใหม่เป็นอย่างมาก
  2. สร้างความนิยมในตลาดที่มีอยู่: การเลือกใช้สิ่งที่คล้ายคลึงกับคู่แข่งในตลาดที่มีอยู่อาจช่วยสร้างความน่าสนใจและความติดตามจากลูกค้าที่มีความรู้ความสนใจในสินค้าหรือบริการนั้น
  3. การเลือกกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย: การเน้นให้บริการที่เหมาะสมและน่าสนใจต่อกลุ่มลูกค้าเฉพาะ ทำให้เราสามารถสร้างความชอบใจและความพึงพอใจให้กับกลุ่มลูกค้านั้นได้

ข้อเสียของกลยุทธ์ Red Ocean

  1. การแข่งขันรุนแรง: ตลาด Red Ocean มีการแข่งขันที่รุนแรง ทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกมากมายและยอมรับสินค้าหรือบริการที่ดีที่สุดในมุมมองของพวกเขา
  2. การลดกำไร: การแข่งขันราคาอาจส่งผลให้ต้องลดราคาของสินค้าหรือบริการ ทำให้กำไรลดลงหรือแม้แต่ขาดทุนเมื่อพยายามรักษาตลาด
  3. ความเสี่ยงในการพัฒนา: การใช้กลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกับคู่แข่งอาจทำให้ขาดความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมในการพัฒนาสินค้าหรือบริการ
  4. การพัฒนาลูกค้า: การเน้นที่การดึงดูดลูกค้าโดยการลดราคาหรือโปรโมชั่นอาจทำให้ลูกค้ามองว่าราคาถูกเป็นสำคัญกว่าคุณภาพ
  5. ความลำบากในการอยู่รอด: การแข่งขันในตลาดที่เต็มไปด้วยคู่แข่งอาจทำให้ยากที่จะอยู่รอดในระยะยาว เนื่องจากคู่แข่งสามารถเข้ามาดักทางลูกค้าได้เสมอ

เริ่มต้นทำธุรกิจแบบมืออาชีพ

อยากเริ่มต้นทำการตลาดแบบมืออาชีพ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มยังไง ให้ Waymaker เป็นที่ปรึกษาการตลาด เราพร้อมดูแลและลงลึกเกี่ยวกับมุมมองทางการตลาดใหม่ ๆ แบบที่ไม่เคยมีใครบอกคุณมาก่อน ตั้งแต่ขั้นตอนการวางกลยุทธ์ ไปจนถึงการจัดวางระบบวัดให้ได้ผลกำไร ตาม Marketing ROI อย่ารอช้า โอกาสเพิ่มยอดขาย ขยายโอกาสกำลังรอคุณอยู่

ธุรกิจที่ใช้กลยุทธ์ Blue Ocean มีอะไรบ้าง

ธุรกิจที่ใช้กลยุทธ์ Blue Ocean มีอะไรบ้าง บริษัท Apple ในช่วงที่ Steve Jobs เป็น CEO (iPod, iPhone, iPad, Macbook Air) Netflix ที่เปลี่ยนจากการให้คนไปเช่าหนังที่ Blockbuster ให้สามารถดูหนังผ่าน Netflix ได้ที่บ้าน

Red Ocean Strategy คืออะไร

กลยุทธ์น่านน้ำสีแดง หรือ Red Ocean คือการทำธุรกิจในอุตสาหกรรมที่มีความต้องการสูง มีคู่แข่งจำนวนมาก และแข่งขันดุเดือด ทำให้ผู้ประกอบการต้องแข่งขันกันด้วยราคาเป็นหลัก พยายามลดต้นทุน เน้นขายสินค้าราคาถูก และจำนวนมาก หากมองภาพรวมเป็นเค้ก 1 ก้อน ที่ต้องแบ่ง 10 ส่วน โดยที่ลูกค้ามีจำนวนเท่าเดิม ใครๆ ก็อยากได้เค้กก้อนใหญ่ ...

Blue Ocean กับ Purple Ocean ต่างจาก Red Ocean อย่างไร

กลยุทธ์ Red Ocean จะไม่พยายามผลักดันให้เกินขอบเขตของตลาดเดิม ส่วนกลยุทธ์ Blue Ocean จะค้นหาโอกาสในการสร้างตลาดใหม่ที่ยังไม่เกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น Canon ได้สร้างตลาดใหม่สำหรับเครื่องพิมพ์ตั้งโต๊ะขนาดเล็กโดยเปลี่ยนลูกค้าเป้าหมายจากองค์กรไปเป็นการใช้ส่วนตัว

Red Ocean Blue Ocean คืออะไร

ในแวดวงการทำธุรกิจคงจะรู้จักคำว่า Blue Ocean กับ Red Ocean กันเป็นอย่างดีเพราะมันคือสภาพตลาดที่แบรนด์หรือธุรกิจนั้นจะเข้าไปทำธุรกิจและทำการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ โดยที่เรารู้จักกันดีก็คือ Red Ocean นั้นเป็นตลาดที่มีการแข่งขันกันสูงมาก ส่วน Blue Ocean นั้นคือตลาดที่โดดเด่นด้วยคุณค่าและความแตกต่างของแบรนด์ ธุรกิจ หรือ ...