ค้นหา และศึกษาบทความด้านคอมพิวเตอร์ การเขียนเว็บไซต์ ทำเว็บไซต์ ทำโปรแกรม ทำโปรแกรมบนมือถือ ออกแบบเว็บไซต์ การเขียนโปรแกรม การออกแบบเว็บไซต์ ฐานข้อมูล รวมไปถึงข่าวแวดวง IT, Computer และบทความต่าง ๆ ที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี ด้วยเนื้อหาที่สดใหม่ กระชับ และอ่านเข้าใจง่าย ซึ่งจะทำให้คุณสามารถที่จะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จากบทความ และองค์ความรู้ที่ทางเราเลือกมาให้ โดยบทความทุกบทความถูกเขียนขึ้นใหม่ ในเรื่องต่าง ๆ เพื่อนำเสนอมุมมองใหม่ ๆ ให้กับผู้อ่านทุกคน
DBMS DBMS ย่อมาจาก Database Management System ระบบฐานข้อมูล (Database) ความหมายของระบบฐานข้อมูล ฐานข้อมูล (Database) หมายถึง กลุ่มของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน นำมาเก็บรวบรวมเข้าไว้ด้วยกันอย่างมีระบบและข้อมูลที่ประกอบกันเป็นฐานข้อมูลนั้น ต้องตรงตามวัตถุประสงค์การใช้งานขององค์กรด้วยเช่นกัน เช่น ในสำนักงานก็รวบรวมข้อมูล ตั้งแต่หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ที่มาติดต่อจนถึงการเก็บเอกสารทุกอย่างของสำนักงาน ซึ่งข้อมูลส่วนนี้จะมีส่วนที่สัมพันธ์กันและเป็นที่ต้องการนำออกมาใช้ประโยชน์ต่อไปภายหลัง ข้อมูลนั้นอาจจะเกี่ยวกับบุคคล สิ่งของสถานที่ หรือเหตุการณ์ใด ๆ ก็ได้ที่เราสนใจศึกษา หรืออาจได้มาจากการสังเกต การนับหรือการวัดก็เป็นได้ รวมทั้งข้อมูลที่เป็นตัวเลข ข้อความ และรูปภาพต่าง ๆ ก็สามารถนำมาจัดเก็บเป็นฐานข้อมูลได้ และที่สำคัญข้อมูลทุกอย่างต้องมีความสัมพันธ์กัน เพราะเราต้องการนำมาใช้ประโยชน์ต่อไปในอนาคต ตัวอย่าง
ระบบฐานข้อมูล (Database System) หมายถึง การรวมตัวกันของฐานข้อมูลตั้งแต่ 2ฐานข้อมูลเป็นต้นไปที่มีความสัมพันธ์กัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล และทำให้การบำรุงรักษาตัวโปรแกรมง่ายมากขึ้น โดยผ่านระบบการจัดการฐานข้อมูล หรือ เรียกย่อ ๆ ว่า DBMS องค์ประกอบของระบบฐานข้อมูล ระบบฐานข้อมูลเป็นเพียงวิธีคิดในการประมวลผลรูปแบบหนึ่งเท่านั้น แต่การใช้ฐานข้อมูลจะต้องประกอบไปด้วยองค์ประกอบหลักดังต่อไปนี้ 1. แอพลิเคชันฐานข้อมูล (Database Application) 2. ระบบจัดการฐานข้อมูล (DatabaseManagement System หรือ DBMS) 3. ดาต้าเบสเซิร์ฟเวอร์ (Database Server) 4. ข้อมูล (Data) 5. ผู้บริหารฐานข้อมูล ((Database Administrator หรือ DBA) แอพพลิเคชันฐานข้อมูล เป็นแอพพลิเคชันที่สร้างไว้ให้ผู้ใช้งานสามารถติดต่อกับฐานข้อมูลได้อย่างสะดวก ซึ่งมี รูปแบบการติดต่อกับฐานข้อมูลแบบเมนูหรือกราฟฟิก โยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับฐานข้อมูลเลยก็สามารถเรียกใช้งานฐานข้อมูลได้เช่น บริการเงินสด ATM ระบบจัดการฐานข้อมูล ระบบจัดการฐานข้อมูล หมายถึง กลุ่มโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ชนิดหนึ่ง ที่สร้างขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่บริหารฐานข้อมูลโดยตรง ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องรับรู้เกี่ยวกับรายละเอียดภายในโครงสร้างฐานข้อมูล พูดง่าย ๆ ก็คือ DBMS นี้เป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงระหว่างผู้ใช้ และโปรแกรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบฐานข้อมูล ตัวอย่างของ DBMS ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ Microsoft Access, FoxPro, SQL Server, Oracle, Informix, DB2 เป็นต้น หน้าที่ของระบบจัดการฐานข้อมูล มีดังนี้ 1. กำหนดมาตรฐานข้อมูล 2. ควบคุมการเข้าถึงข้อมูลแบบต่าง ๆ 3. ดูแล-จัดเก็บข้อมูลให้มีความถูกต้องแม่นยำ 4. จัดเรื่องการสำรอง และฟื้นสภาพแฟ้มข้อมูล 5. จัดระเบียบแฟ้มทางกายภาพ (Physical Organization) 6. รักษาความปลอดภัยของข้อมูลภายในฐานข้อมูล และป้องกันไม่ใช้ข้อมูลสูญหาย 7. บำรุงรักษาฐานข้อมูลให้เป็นอิสระจากโปรแกรมแอพพลิเคชันอื่น ๆ 8. เชื่อมโยงข้อมูลที่มีความสัมพันธ์เข้าด้วยกัน เพื่อรองรับความต้องการใช้ข้อมูลในระดับ ต่าง ๆ ดาต้าเบสเซิร์ฟเวอร์ เป็นคอมพิวเตอร์ที่คอยให้บริการการจัดการฐานข้อมูล ซึ่งก็คือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ระบบจัดการฐานข้อมูลทำงานอยู่นั่นเอง เพราะฉะนั้นควรเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีความรวดเร็วในการทำงานสูงกว่าคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานโดยทั่วไป ข้อมูล ข้อมูล คือ เนื้อหาของข้อมูลที่เราใช้งาน ซึ่งจะถูกเก็บในหน่วยความจำของดาต้าเบสเซิร์ฟเวอร์ โยจะถูกเรียกมาใช้งานจากระบบจัดการฐานข้อมูล ผู้บริหารฐานข้อมูล ผู้บริหารฐานข้อมูล คือ กลุ่มบุคคลที่ทำหน้าที่ดูแลข้อมูลผ่านระบบจัดการฐานข้อมูล ซึ่งจะควบคุมให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังทำหน้าที่กำหนดสิทธิการใช้งานข้อมูล กำหนดในเรื่องความปลอดภัยของการใช้งาน พร้อมทั้งดูแลดาต้าเบสเซิร์ฟเวอร์ให้ทำงานอย่างปกติด้วย รูปแบบฐานข้อมูล ขอยกรูปแบบที่นิยมเท่านั้น ถ้าต้องการทราบสามารถดูได้จากหนังสือฐานข้อมูลทั่วไป ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database)ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์เป็นฐานข้อมูลที่นิยมนำมาใช้งานในปัจจุบันมากที่สุดฐานข้อมูลหนึ่ง โดยผู้ริเริ่มพัฒนาก็คือ อีเอฟ คอดด์ (E.F.Codd) และระบบจัดการฐานข้อมูลที่ใช้ฐานข้อมูลแบบนี้ ได้แก่ Microsoft Access, DB2 และ Oracle เป็นต้น ลักษณะโครงสร้างข้อมูลของฐานข้อมูลชนิดนี้ ข้อมูลถูกจัดเก็บในรูปแบบของคาราง (Table) ซึ่งภายในตารางก็จะแบ่งออกเป็นแถว (Row) และคอลัมน์ (Column) แต่ละตารางจะมีจำนวนแถวได้หลายแถว และจำนวนคอลัมน์ได้หลายคอลัมน์ แถวแต่ละแถวสามารถเรียกชื่อได้อีกอย่างว่า ระเบียนหรือเรคคอร์ด (Record) และคอลัมน์แต่ละคอลัมน์เรียกได้อีกชื่อหนึ่งว่า เขตข้อมูลหรือ ฟิลด์ (Field) ตัวอย่างโครงสร้างข้อมูลในรูปแบบตาราง คอลัมน์ 1 คอลัมน์ 2 คอลัมน์ 3 คอลัมน์ 4
ตารางลูกค้า (Customer Table) จุดเด่นของข้อมูลเชิงสัมพันธ์ 1. ง่ายต่อการเรียนรู้ และการนำไปใช้งาน ทำให้เห็นภาพข้อมูลชัดเจน 2. ภาษาที่ใช้จัดการข้อมูลเป็นแบบซีเควล ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงเข้าใจง่าย 3. การออกแบบระบบมีทฤษฎีรองรับ สามารถลดความซ้ำซ้อนของข้อมูลได้ หมายเหตุ ภาษาซีเควล(Structured Query Language หรือ SQL) เป็นภาษามาตรฐานภาษาหนึ่ง มีรูปแบบการใช้คำสั่งเป็นภาษาเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้ง่ายต่อการเข้าใจและเรียนรู้ วิธีการใช้งาน ซึ่งกล่าวต่อไป ตัวอย่างฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
http://mpnn2551.net46.net โปรแกรมจัดการข้อมูล (Data Management Software) โปรแกรมจัดการข้อมูล คือ โปรแกรมสำหรับการสร้าง จัดการ และรวบรวมข้อมูล จากไฟล์ต่างๆ โดยมีเครื่องมืออำนวยความสะดวกในการสร้างระบบสารสนเทศต่างๆ ได้ เพื่อให้ข้อมูลถูกจัดเก็บในรูปแฟ้มข้อมูล ปัจจุบัน ความต้องการใช้ข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเพื่อให้ได้ข้อมูล ที่ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด จึงทำให้มีการนำฐานข้อมูล มาประยุกต์ใช้ในส่วนงานต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ฐานข้อมูล คือ กลุ่มของข้อมูลที่ถูกจัดเก็บ เพื่อสนองความต้องการของระบบงานต่างๆ ในเวลาเดียวกัน โดยมีข้อมูลอยู่ที่ศูนย์กลาง โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล (Database Management System) คือ โปรแกรมที่ช่วยในการสร้าง หรือดูแลฐานข้อมูล เพื่อให้สามารถจัดเก็บข้อมูล และเรียกใช้ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว โดยผู้ใช้ไม่ต้องสร้างแฟ้มข้อมูลที่ซ้ำซ้อนกัน ซึ่งช่วยลดปัญหาความซ้ำซ้อนของการเก็บข้อมูล ลดปัญหาความยุ่งยาก ในการบำรุงรักษาข้อมูล และสามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล จึงมีหน้าที่ในการควบคุมความคงสภาพของข้อมูล การควบคุมการใช้งานจากผู้ใช้หลายคน การควบคุมความปลอดภัยของข้อมูล การสำรองข้อมูล และการฟื้นสภาพข้อมูล การควบคุมการคงสภาพของข้อมูล หมายถึง การควบคุมให้ข้อมูลมีความถูกต้องอยู่เสมอ และไม่มีการจัดเก็บข้อมูลที่ซ้ำซ้อนกัน การควบคุมการใช้งานจากผู้ใช้หลายคน หมายถึง การควบคุมการใช้ข้อมูลจากผู้ใช้งานหลายคนพร้อมกัน ในเวลาเดียวกัน ข้อมูลจะต้องมีความทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ผู้ใช้งานทุกคนควรจะได้รับข้อมูลที่ตรงกัน รวมถึงควบคุมลำดับการทำงานของผู้ใช้แต่ละคน ที่ใช้งานฐานข้อมูลด้วย การควบคุมความปลอดภัยของข้อมูล หมายถึง การควบคุมการใช้งานข้อมูล ที่จัดเก็บในฐานข้อมูล โดยป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่มีสิทธิในการใช้ข้อมูลเข้ามาเพิ่ม แก้ไข หรือลบข้อมูลได้ การสำรองข้อมูล และการฟื้นสภาพข้อมูล หมายถึง คุณสมบัติในการจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ในที่หนึ่ง เพื่อเป็นข้อมูลสำรองสำหรับเรียกกลับมาได้ เมื่อข้อมูลปัจจุบันมีปัญหา การใช้งานโปรแกรมจัดการฐานข้อมูล ผู้ใช้งานจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับฐานข้อมูลเบื้องต้นพอสังเขป เพื่อให้ระบบงาน ที่สร้างโดยใช้โปรแกรมจัดการฐานข้อมูลต่างๆ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล มีจุดเด่นอยู่ที่การค้นหา และจัดทำรายงานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งการแสดงผลบนจอภาพ และการพิมพ์ออกทางเครื่องพิมพ์ การแสดงผลทางจอภาพสามารถทำได้ โดยใช้ภาษาเรียกค้น หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า Query Language ภาษานี้ จะใกล้เคียงกับภาษาธรรมชาติมากที่สุด ผู้ใช้จึงสามารถเรียนรู้การสร้างคำสั่งได้เร็ว การเรียกค้นทำได้ โดยส่งคำสั่งด้วยภาษาเรียกค้น ซึ่งมีเงื่อนไขต่างๆ เข้าไป เพื่อให้โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล ดึงข้อมูลมาแสดงตามเงื่อนไขที่ต้องการ การแสดงผลในรูปรายงาน สามารถแสดงได้หลายรูปแบบ เช่น แสดงในรูปของข้อความ ตาราง แผนภูมิ รูปภาพ ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบ และพัฒนาระบบงาน ข้อดีของฐานข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลเป็นฐานข้อมูลได้เปรียบกว่าการจัดเก็บข้อมูลแบบแฟ้มข้อมูล ดังนี้ 1. หลีกเลี่ยงความขัดแย้งของข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลแบบแฟ้มข้อมูล โดยข้อมูลเรื่องเดียวกันอาจมีอยู่หลายแฟ้มข้อมูล ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้งของข้อมูลได้ ( Inconsistency ) 2. สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้ ฐานข้อมูลเป็นการจัดเก็บข้อมูลรวมไว้ด้วยกัน เมื่อผู้ใช้ต้องการข้อมูลจากฐานข้อมูล 3. สามารถลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลในลักษณะแฟ้มข้อมูล อาจทำให้ข้อมูลประเภทเดียวกันถูกเก็บ 4. รักษาความถูกต้อง ฐานข้อมูลบางครั้งอาจมีข้อผิดพลาดขึ้น เช่น การป้อนข้อมูลผิด ซึ่งระบบการจัดการฐานข้อมูล 5. สามารถกำหนดความเป็นมาตรฐานเดียวกันได้ เพราะในระบบฐานข้อมูลจะมีกลุ่มบุคคลที่คอยบริหารฐานข้อมูล
6. สามารถกำหนดระบบความปลอดภัยของข้อมูลได้ ผู้บริหารระบบฐานข้อมูลสามารถกำหนดการเรียกใช้ข้อมูลของ 7. ความเป็นอิสระของข้อมูลและโปรแกรม โปรแกรมที่ใช้ในแต่ละแฟ้มข้อมูลจะมีความสัมพันธ์กับแฟ้มข้อมูลโดยตรง http://www.thaigoodview.com elational Database คือ ระบบฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ เป็นการเก็บข้อมูลในรูปของตาราง (table) ในแต่ละตารางแบ่งออกเป็นแถวๆ และในแต่ละแถวจะแบ่งเป็นคอลัมน์ (Column)
ซึ่งในการเชื่อมโยงกันระหว่างข้อมูลในตารางต่างๆ จะ เชื่อมโยงโดยใช้การอ้างอิงจากข้อมูลในคอลัมน์ที่กำหนดไว้ http://www.mindphp.com |