การอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม Show พลังงานถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม เหตุผลก็เพราะต้องมีการใช้พลังงานในทุกขั้นตอนของการดำเนินงานทั้งภาคอุตสาหกรรม คมนาคม เกษตรกรรม และอื่นๆ ปัจจัยที่มีผลให้ปริมาณการใช้พลังงานโลก คือ จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นหากเป็นเช่นนี้ทรัพยากรและพลังงานที่กำลังลดลง เพราะอัตราการใช้พลังงานในโลกได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 7 ต่อปีฉะนั้นโลกเราจะต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ทุกๆปี หากไม่มีมาตรการอนุรักษ์และเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้พลังงานหรือปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมและระบบขนส่ง พลังงานจะต้องหมดไปในอนาคตอย่างแน่นอน นอกจากนี้แล้วการใช้พลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นยังส่งผลให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากขึ้นด้วย ดังนั้นการอนุรักษ์พลังงานจึงเป็นมาตรการที่สำคัญที่จะทำให้มีการผลิตและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การอนุรักษ์พลังงาน หมายถึง การผลิตและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดการอนุรักษ์พลังงานนอกจากจะช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานซึ่งเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในกิจการแล้วยังจะช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากแหล่งที่ใช้และผลิตพลังงานด้วย รูปที่ 8.1 แนวโน้มความต้องการพลังงานใน 20 ปี ข้างหน้า ที่มา: ทิศทางพลังงานไทยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน วิธีการอนุรักษ์พลังงาน 1. ด้านที่อยู่อาศัย อุณหภูมิเป็นปัจจัยแวดล้อมที่สำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์มนุษย์ต้องการอาศัยอยู่ในที่ที่มีอุณหภูมิพอเหมาะ บ้านเรือนในประเทศแถบหนาวจึงมีการปรับอุณหภูมิในบ้านให้อบอุ่น ส่วนในประเทศร้อนก็มีการใช้เครื่องปรับอากาศเพื่อให้เย็นสบายการปรับอุณหภูมิตามต้องการนี้จำเป็นต้องใช้พลังงานเชื้อเพลิงเป็นอันมากนอกจากนั้นอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านเช่นตู้เย็นพัดลมวิทยุโทรทัศน์ฯลฯก็อาศัยพลังงานเชื้อเพลิงทั้งสิ้นดังนั้นจึงต้องมีมาตรการในการอนุรักษ์พลังงานที่ใช้ในที่อยู่อาศัยโดยสรุปได้ดังนี้ 1.1 การออกแบบบ้าน ให้มีลักษณะโปร่ง มีการถ่ายเทและระบายอากาศได้สะดวกสำหรับทิศของบ้านควรหันหน้าไปทางทิศเหนือ –ใต้ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้แสงแดดเข้าสู่ช่องเปิดของตัวบ้าน วัสดุที่ใช้สร้างบ้านควรเลือกใช้วัสดุที่สามารถช่วยลดการสูญเสียพลังงานเพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน เช่นการใช้ฉนวนกันความร้อนตั้งแต่หลังคาจนถึงผนังการใช้วัสดุอื่นแทนกระจก เพื่อลดการสูญเสียความร้อนหรือความเย็นลง เท่ากับลดการสูญเสียพลังงาน รูปที่ 8.2 การหันทิศทางของบ้าน ที่มา: สาระน่ารู้เรื่องการอนุรักษ์พลังงาน 1.2 การปลูกต้นไม้เพิ่มความร่มเงาในบริเวณบ้านจะช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้านและช่วยไม่ให้แสงแดดส่องถึงตัวบ้านในช่วงฤดูร้อนทำให้ช่วยลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ 1.3 การเลือกซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้า ควรเลือกซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีฉลากเบอร์ 5 หรือเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีขนาดเหมาะสมกับขนาดครอบครัว 1.4 การใช้น้ำในที่อยู่อาศัย ต้องใช้น้ำอย่างประหยัด ถือว่าเป็นการประหยัดพลังงานด้วย เพราะการทำให้น้ำสะอาดต้องผ่านกระบวนการที่ต้องใช้พลังงาน หลักการการประหยัดน้ำ เช่น 1.4.1 ใช้หัวก๊อกที่มีตัวลดอัตราการไหลของน้ำให้น้อยลง 1.4.2 ปิดก๊อกน้ำในระหว่างแปรงฟันสระผม หรือโกนหนวด 1.4.3 ใช้ไม้กวาดในการกวาดพื้นแทนการใช้น้ำฉีดเพื่อทำความสะอาด 1.4.4 ล้างรถด้วยน้ำถังและฟองน้ำแทนการใช้สายยางฉีดน้ำ 1.4.5 ใช้น้ำจากการซักล้างหรือถูพื้นเพื่อรดน้ำต้นไม้แทนการใช้น้ำประปา 1.5 การใช้พลังงานในเตาก๊าซอย่างประหยัดทำได้ดังนี้ 1.5.1 เลือกใช้ถังก๊าซที่มีเครื่องหมายสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) 1.5.2 ควรใช้สายยางหรือสายพลาสติกชนิดยาวและมีความยาว1-1.5 เมตร 1.5.3 ตั้งเตาก๊าซให้ห่างถังก๊าซประมาณ1-1.5 เมตร ปิดวาล์วที่หัวเตาและหัวปรับความดันเมื่อเลิกใช้ 1.5.4 เลือกขนาดของหม้อหรือกระทะให้เหมาะสมกับปริมาณอาหารที่จะปรุง 1.5.5 ควรเตรียมอาหารสด เครื่องปรุง และอุปกรณ์การทำอาหารให้พร้อมก่อนติดไฟไม่ควรติดไฟรอนานเกินไปจะสิ้นเปลืองก๊าซ 1.6 การทาสีผนังบ้านหรือเลือกวัสดุพื้นห้องควรเป็นสีอ่อนๆ เพื่อช่วยสะท้อนแสงสว่างภายในห้อง ควรใช้หลอดประหยัดพลังงานเช่น หลอดผอม (หลอดฟลูออเรสเซนต์) 1.7 การรีดเสื้อผ้า ควรรีดจำนวนมากในครั้งเดียว 2. ด้านสถานศึกษา อาคารหรือสถานศึกษามีการใช้พลังงานหลายรูปแบบ เช่น ระบบปรับอากาศ ระบบไฟฟ้าและแสงสว่าง อุปกรณ์สำนักงาน เช่น เครื่องถ่ายเอกสาร คอมพิวเตอร์ เป็นต้น หลักการอนุรักษ์พลังงานที่ใช้ในสถานศึกษาสรุปได้ดังนี้ 2.1 การปลูกต้นไม้เพิ่มความร่มเงาแก่ตัวอาคารเรียนโดยไม่ให้อาคารถูกแสงแดดโดยตรงจะช่วยให้ตัวอาคารไม่ร้อนมีบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่ดีปลูกหญ้าคลุมดินเพื่อลดการสะท้อนของแสงเข้าสู่ตัวอาคารเรียน 2.2 ผนังภายในห้องเรียนควรเป็นสีขาว เพราะจะสามารถช่วยให้ห้องเรียนมีความสว่าง 2.3 เลือกหลอดไฟที่มีวัตต์ต่ำพัดลมติดเพดานซึ่งจะช่วยทำให้เกิดการหมุนเวียนของอากาศภายในห้องเรียน 2.4 มีการรณรงค์หรือจัดกิจกรรมด้านการอนุรักษ์พลังงานในสถานศึกษา 3. ด้านสถานที่ทำงาน มีวิธีการประหยัดพลังงานดังนี้ 3.1 การป้องกันความร้อนเข้าสู่อาคารโดยเลือกใช้วัสดุที่เป็นฉนวนกันความร้อนได้ดีหรือใช้กระจกหน้าต่างชนิดป้องกันรังสีความร้อนการปลูกต้นไม้ให้ร่มเงากับผนัง และการทำ กันสาด เป็นต้น 3.2 ใช้สีอ่อนในการทาผนังอาคาร 3.3 เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น ป้ายฉลากเขียวประหยัดไฟเบอร์ 5 3.4 ติดตั้งสวิตซ์ไฟให้สะดวกในการเปิดปิด 3.5 การลดชั่วโมงการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าการปิดเครื่องทำน้ำเย็นก่อนเวลาเลิกงาน 15-30 นาที 3.6 เครื่องปรับอากาศ ควรตั้งอุณหภูมิที่ 25oC บริเวณที่ทำงานทั่วไปและพื้นที่ส่วนกลาง ตั้งอุณหภูมิที่ 24oC ในบริเวณพื้นที่ทำงานใกล้หน้าต่างกระจกและตั้งอุณหภูมิที่ 22oC ในห้องคอมพิวเตอร์ซึ่งการปรับอุณหภูมิเพิ่มทุกๆ 1oC จะช่วยประหยัดพลังงานร้อยละ 10 ของเครื่องปรับอากาศ 3.7 ควรใช้บันไดกรณีขึ้นลงชั้นเดียว การตั้งโปรแกรมให้ลิฟต์หยุดเฉพาะชั้นคี่ หรือ ชั้นคู่ เนื่องจากลิฟต์ใช้พลังงานไฟฟ้ามากในขณะออกตัว 3.8 ควรบำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอโดยการตรวจสอบสภาพอุปกรณ์การทำความสะอาดและตรวจสอบรอยรั่วตามขอบกระจกและผนังทุก 3-6 เดือน 4. ด้านการขนส่ง มาตรการบางประการในการอนุรักษ์พลังงานที่ใช้ในด้านการขนส่งได้แก่ 4.1 การใช้รถร่วมกันในเส้นทางเดียวกัน สลับกันนำรถออกใช้งานแล้วโดยสารไปด้วยกัน 4.2 ร่วมกันรณรงค์ให้ขับรถยนต์ส่วนตัวน้อยลงหันมาปั่นจักรยาน การใช้รถโดยสารประจำทาง 4.3 ใช้พลังงานทดแทน เช่นไบโอดีเซล แก๊สโซฮอลล์ เป็นต้น แทนการใช้น้ำมันปิโตรเลียม 4.4 จัดกิจกรรมรณรงค์เรื่องวิธีประหยัดพลังงานในการขนส่งให้กับบริษัท หรือโรงงานอุตสาหกรรม สนับสนุนการวิจัยในองค์กร ค้นคว้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีประสิทธิภาพในการลดการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล 4.5 สนับสนุนการขนส่งสินค้าของกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานหมุนเวียน 4.6 ปรับปรุงระบบการขนส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นจัดระบบการขนส่งมวลชนภายในเมืองหรือระหว่างเมืองใหญ่กับเมืองบริวารอย่างมีประสิทธิภาพ 4.7 ตรวจสอบอุปกรณ์สภาพเครื่องยนต์เป็นประจำเพื่อเป็นการลดการสิ้นเปลืองน้ำมัน การพิจารณาเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า ประหยัดพลังงานไฟฟ้าเราต้องพิจารณา 1. อุปกรณ์ไฟฟ้าอะไรบ้างที่เราใช้งานประจำหรือใช้งานบ่อยและนานโดยพิจารณาจากพลังงานไฟฟ้า (Watt) เป็นสำคัญเพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้กำลังไฟฟ้ามากเสียค่าใช้จ่ายมากนอกจากเราจะพิจารณาเรื่องการใช้งานอย่างถูกต้องเหมาะสมแล้วเราต้องพิจารณาเรื่องการประหยัดพลังงาน 2. การดูแลบำรุงรักษาเพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดต้องการการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธีจึงจะทำให้เกิดการประหยัดสูงสุด สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เราจะต้องพิจารณาในเรื่องการประหยัดพลังงานให้พิจารณาจากตารางต่อไปนี้ ตารางที่ 8.1 อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องใช้พลังงาน
หมายเหตุ พลังงานไฟฟ้าที่ระบุในตารางเปลี่ยนแปลงได้ตามรุ่น/ขนาด/และยี่ห้อของอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดนั้นๆ จะไม่เท่ากันทุกยี่ห้อและทุกรุ่นแต่โดยประมาณขนาดเดียวกันการใช้พลังงานใกล้เคียงกันจากตารางการใช้พลังงานไฟฟ้าแต่ละชนิดเราพอจะทราบแล้วว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดใดใช้พลังงานไฟฟ้ามากน้อยอย่างไรและชนิดไหนใช้มากใช้น้อย นักเรียนมีวิธีการประหยัดพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ ที่โรงเรียนอย่างไรบ้างใช้แสงสว่างจากธรรมชาติ แทนเท่าที่ทำได้ เช่น การอ่านหนังสือในสถานที่ ที่มีแสงธรรมชาติเพียงพอ หรือเปิดม่านหรือหน้าต่างให้กว้างขึ้น เพื่อให้แสงสว่างจากธรรมชาติผ่านเข้ามาในห้องเรียน หมั่นทำความสะอาดหลอดไฟ ไม่ให้ฝุ่นจับ จะช่วยให้หลอดไฟส่องสว่างได้เต็มที่ โดยปิดสวิตช์หลอดไฟก่อน เพื่อ ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าดูด การทำความสะอาด ...
เราจะช่วยส่งเสริมการประหยัดพลังงานในโรงเรียนได้อย่างไร1. ปิดไฟในเวลาพักเที่ยงหรือเมื่อเลิกราการใช้งานหรือหมดความจำเป็นต้องใช้งาน การปิดสวิตซ์ไฟบ่อยๆไม่ทำให้เปลืองไฟฟ้าแต่อย่างใด 2. เปิดม่านหรือหน้าต่างหรือติดตั้งกระเบื้องโปร่งแสงเพื่อรับแสงสว่างจาก ธรรมชาติ แทนการใช้แสงสว่างจากหลอดไฟ 3. กำหนดช่วงเวลาการเปิดปิดไฟให้เหมาะสมกับช่วงเวลาที่ใช้งาน
นักเรียนมีวิธีประหยัดพลังงานไฟฟ้าอย่างไรวิธีใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด. ควรปิดไฟทุกครั้งเมื่อไม่มีคนอยู่ในห้อง. เลือกใช้หลอดไฟที่มีกำลังวัตต์เหมาะสมกับการใช้งาน. สำหรับบริเวณที่ต้องการความสว่างมาก ภายในอาคารควรเลือกใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ ส่วนภายนอกอาคารควรเลือกใช้หลอดไอโซเดียม และหลอดไอปรอท. ควรใช้ฝาครอบดวงโคมแบบใสหากไม่มีปัญหาเรื่องแสงจ้า และหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ. นักศึกษามีวิธีการอนุรักษ์และประหยัดพลังงานที่ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างไร10 วิธีประหยัดพลังงานในบ้านแบบเห็นผลจริง. 1. ปรับอุณหภูมิแอร์อย่างเหมาะสม ... . 2. ลดการใช้แอร์ ... . 3. ปิดก๊อกน้ำเมื่อไม่ใช้ ... . 4. ถอดปลั๊กไฟทุกครั้งหลังใช้งาน ... . 5. อาบน้ำเย็นเแทนน้ำอุ่น ... . 6. ติดม่านป้องกันความร้อน ... . 7. ซักผ้าด้วยระบบน้ำเย็น ... . 8. เลี่ยงการอบผ้า. |