ศึกษาเกี่ยวกับความสำคัญของสถาบันทางสังคม บรรทัดฐานทางสังคม วัฒนธรรม คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม ปัญหาในสังคม สิทธิหน้าที่ของพลเมืองดีตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และหลักธรรมหรือคำสอนของศาสนาที่ตนนับถือ โดยธรรมชาติมนษุ ย์จะอยูร่ ่วมกนั เป็นสงั คม เพอ่ื อาศยั ซง่ึ กนั และกนั ช่วยเหลอื เก้อื กูล ร่วมกันแกป้ ัญหา ในการดาเนินชีวิต และสนองความต้องการของมนุษย์ จึงได้มีการกาหนดวิธีการปฏิบัติต่อกันในลักษณะท่ีจะ กอ่ ให้เกดิ ประโยชน์ต่อตนเอง และสังคม สังคมมนุษย์ทุกสังคม จะมีโครงสร้างทางสังคม ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มสังคมและสถาบันสังคม ทาให้ สังคมมีระบบระเบียบในการอยู่ร่วมกัน และมีการตอบสนองติดต่อสัมพันธ์กันตามสถานภาพ บทบาทและ หน้าที่ เพื่อตอบสนองความต้องการของสมาชิกในสังคม และทาให้สังคมคงอยู่สืบต่อไป สถาบันทางสังคมท่ี สาคัญประกอบด้วย สถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา สถาบันศาสนา สถาบันเศรษฐกิจ และสถาบัน การเมืองการปกครอง เม่ือสถาบันทางสังคมดังกล่าวทาหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพจะทาให้สังคมมีความ มน่ั คง และเจริญเตบิ โตอย่างยงั่ ยืน ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั ๑. รู้และเข้าใจความหมายและองค์ประกอบของสังคมมนุษย์และสาเหตุท่ีมนุษย์อยู่ร่วมกันเป็นสังคม มที ัศนคติท่ดี ีตอ่ การอยูร่ ่วมกันเป็นสังคม ๒. รู้และเขา้ ใจความหมายและองคป์ ระกอบโครงสร้างทางสงั คมทจ่ี ะทาให้สังคมมคี วามสงบสุข มน่ั คงและ เจรญิ รงุ่ เรือง ๓. รู้และเข้าใจความหมายสถาบันทางสังคมที่สาคัญ เห็นความสาคัญของการปฏิบัติตนตามแบบอย่าง พฤติกรรมของสถาบนั ทางสังคม ๔. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของผ้สู าเร็จการศึกษา สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ทค่ี รูสามารถสงั เกตได้ขณะทาการสอนในเรื่อง ๑. ความมมี นษุ ยสัมพันธ์ ๒. ความมีวินยั ๓. ความรบั ผดิ ชอบ ๔. ความซอื่ สตั ยส์ ุจรติ ๕. ความเชอ่ื มั่นในตนเอง ๖. การประหยดั ๗. ความสนใจใฝร่ ู้ ๘. การละเว้นส่งิ เสพตดิ และการพนัน ๙. ความรักสามคั คี ๑๐. ความกตัญญูกตเวที สาระการเรยี นรู้ ปฐมนเิ ทศ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ผลการเรียนรูท้ ่ีคาดหวงั และระเบยี บปฏบิ ตั ใิ นการเรียนหนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑ ๑. สงั คมมนษุ ย์ ๒. โครงสร้างทางสังคม ๓. สถาบันทางสงั คมทีส่ าคัญ กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ ๑ ขัน้ นาเข้าสูบ่ ทเรียน ๑. ครูพดู คยุ กบั นักเรียน ถึง ลักษณะเนื้อหารายวิชา ๒. นักเรยี นฟังคาชี้แจงสังเขปรายวชิ า หนา้ ทีพ่ ลเมืองและศลี ธรรม และการวัดประเมินผล ขน้ั สรปุ และการประยุกต์ โดยดูเฉลยจากแผ่นใส เสร็จแลว้ ส่งครู ตามความจริงเมื่อบันทึกเสร็จแล้วให้รวมจานวนข้อที่นักเรียนปฏิบัติไปแสดงลงในกราฟ นักเรียนจะ เหน็ พัฒนาการความดีของตนเอง ตนเอง ประกาศนียบัตรน้ีจะเป็นเคร่ืองกระตุ้นให้นักเรียนตั้งใจทาความดี และให้นักเรียนเก็บ ชัว่ โมงที่ ๒ ข้นั นาเขา้ ส่บู ทเรียน ๑. ครูพดู คยุ กบั นักเรียนเกย่ี วกับ คากลา่ วที่ว่า “มนุษย์เปน็ สตั วส์ ังคม” นักเรยี นและครรู ่วมกันอภปิ ราย ๘. ครเู ฉลยคาตอบที่ถูกตอ้ ง จากแผน่ ใส ๒. สอื่ PowerPoint วิชาหนา้ ที่พลเมอื งและศีลธรรม ๑. การตรวจใบงาน กิจกรรม คาถาม ๒. การเชค็ ช่อื เรียนในรายวชิ า การวดั ผลและการประเมนิ ผล ๒. ประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ ๔. ตรวจคาถามทา้ ยหนว่ ยการเรยี นรู/้ ใบงาน ประสงค์ เครอ่ื งมือวัดผล ๓. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม (โดยนกั เรียน) ๕. แบบประเมินผลการเรยี นรู้ ร่วมกนั ประเมิน ๗. บนั ทึกความดี ๑. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล ต้องไม่มชี อ่ งปรับปรงุ ๔. ตอบคาถามทา้ ยหน่วยการเรียนรูแ้ ละทาใบงานได้ทกุ ใบงานจึงจะถือว่าผา่ นการประเมิน ๖. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กับการ ๗. การบันทึกความดีไม่มีเกณฑ์ ให้นักเรียนบันทึกตามสภาพจริง แต่นักเรียนจะสามารถทราบ พัฒนาการความดขี องตนเองลงในแบบพฒั นาความดที อ่ี ยดู่ า้ นหลงั ของหนา้ ปกหนังสอื เรยี น ให้นักเรยี นบนั ทกึ ความดีและนาผลไปลงในแผนพัฒนาการความดี แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 2-3 วิชา หน้าท่ีพลเมอื งและศลี ธรรม รหสั วชิ า 20000-1501 ครูผู้สอน นายรัตนชัย ออมสนิ หน่วยท่ี 2 ช่ือหนว่ ย การจัดระเบยี บทางสังคมและการขัดเกลาทางสังคม จานวน 4 ชว่ั โมง จดุ ประสงค์รายวชิ า ๑. มคี วามรูค้ วามเข้าใจเก่ยี วกบั สถาบันครอบครวั และสถาบนั ทางสังคม สทิ ธิหนา้ ที่ของพลเมือง ดีและหลักธรรมของศาสนา ๒. ปฏิบัติตนเปน็ พลเมืองดีตามระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมขุ ๓. ตระหนกั ถงึ การดารงชีวิตที่ถูกต้องดีงามในฐานะศาสนิกชนและพลเมืองดี สมรรถนะรายวิชา ๑. แสดงความรู้เก่ียวกับสถาบันครอบครัวและสถาบันทางสังคม สิทธิหน้าที่พลเมืองดี และ ๒. วิเคราะห์หลักการของวัฒนธรรม คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ ๓. นาหลักศาสนา หลกั ธรรม และหลกั กฎหมาย มาประยกุ ตใ์ ช้เพ่อื การเปน็ พลเมอื งดี สาระสาคญั สังคมมีกระบวนการที่ทาใหส้ มาชิกในสังคมมแี นวทางให้ถือปฏบิ ัติต่อกนั และกันและมีความประพฤติ ไปตามกฎระเบียบแบบแผนความสัมพนั ธร์ ะหว่างกนั ไปตามทศิ ทางทส่ี ังคมกาหนดดว้ ยกระบวนการจัดระเบียบ ทางสังคม ซึ่งประกอบด้วยบรรทัดฐานทางสังคม สถานภาพทางสังคม บทบาททางสังคมและการควบคุมทาง สังคม รวมทั้งการใหส้ มาชกิ ในสงั คมได้รับการอบรมส่ังสอนตามกระบวนการขัดเกลาทางสังคม เพือ่ ให้บุคคลท่ี เข้ามาอยู่ในสังคมได้เรียนรู้แบบแผนการประพฤติปฏิบัติและการมีความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นซึ่ งจะช่วยให้ สมาชิกในสังคมสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมท่ีเกิดขึ้นอย่างต่อเนอ่ื งและเรยี นรทู้ ่ีจะอยู่ ร่วมกนั ในสังคมได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ผลการเรยี นร้ทู ค่ี าดหวัง ๑. รู้และเข้าใจความหมายและความสาคัญของการจัดระเบียบทางสังคม มีทัศนคติที่ดีต่อการปฏิบัติ ตามกฎระเบียบแบบแผนของสังคม ๒. รู้และเข้าใจองค์ประกอบของการจัดระเบียบทางสังคม และปฏิบัติตนในการอยู่ร่วมกันในสังคม ตามบรรทดั ฐานทางสังคม ที่สังคมกาหนดข้นึ ๓. ร้แู ละเขา้ ใจการขัดเกลาทางสังคม และความสาคญั ในการพัฒนาตนเอง ใหส้ ามารถอยู่รว่ มในสังคม ทม่ี กี ารเปล่ียนแปลงไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ๔. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผ้สู าเรจ็ การศกึ ษา สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ทีค่ รูสามารถสังเกตได้ขณะทาการสอนในเรอื่ ง ๑. ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ ๒. ความมีวนิ ยั ๓. ความรับผิดชอบ ๔. ความซื่อสัตย์สุจริต ๕. ความเชื่อมั่นในตนเอง ๖. การประหยัด ๗. ความสนใจใฝ่รู้ ๘. การละเวน้ สิง่ เสพตดิ และการพนนั ๙. ความรักสามัคคี ๑๐. ความกตญั ญูกตเวที สาระการเรียนรู้ ๑. ความหมายและความสาคัญของการจดั ระเบียบทางสงั คม ๒. องค์ประกอบของการจัดระเบียบทางสงั คม ๓. การขดั เกลาทางสังคม กิจกรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ ๑-๒ ขั้นนาเขา้ สู่บทเรียน การจัดระเบยี บ จะเกิดปัญหาอะไรบา้ ง ทางสงั คม ช่ัวโมงท่ี ๓-๔ ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรยี น ๑. ครทู บทวนเรือ่ งการจัดระเบยี บทางสังคม โดยสุ่มเรียกนักเรยี นเป็นรายบคุ คล ๒. ครูอธิบายองค์ประกอบของการจดั ระเบียบทางสงั คม ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ ๔. ครใู หน้ กั เรยี นทาใบงาน ทาแบบประเมินผลการเรยี นรู้ และบนั ทึกความดี ๑. หนงั สอื เรียน วิชาพลเมืองและศีลธรรม ของบริษทั สานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั ๑. การตรวจใบงาน กจิ กรรม คาถาม ๓. บนั ทึกความดี วิธวี ัดผล ๑. สงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล ๒. ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ ประสงค์ เครือ่ งมือวัดผล ร่วมกันประเมิน ประเมินตามสภาพจรงิ ผลการบันทึกความดีด้วยการนาข้อมูลบันทึกความดีในแตล่ ะครัง้ มาเขียนกราฟแสดงจะเหน็ แผนบรู ณาการเศรษฐกิจพอเพียง การจดั การเรียนรู้ที่ 4 วิชา หน้าท่พี ลเมืองและศลี ธรรม รหสั วชิ า 20000-1501 ครูผสู้ อน นายรตั นชยั ออมสิน หนว่ ยที่ 3 ชือ่ หนว่ ย ภูมปิ ญั ญาไทย จานวน 2 ชั่วโมง จดุ ประสงคร์ ายวชิ า ๔. มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับสถาบันครอบครัวและสถาบันทางสังคม สิทธิหน้าที่ของพลเมืองดีและ ๕. ปฏบิ ัตติ นเป็นพลเมอื งดตี ามระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมขุ ๔. ตระหนักถึงการดารงชีวติ ทถี่ กู ตอ้ งดีงามในฐานะศาสนกิ ชนและพลเมืองดี ๑. แสดงความรู้เก่ียวกบั สถาบนั ครอบครัวและสถาบันทางสงั คม สทิ ธิหน้าทีพ่ ลเมอื งดี และหลักธรรม ๓. นาหลักศาสนา หลักธรรม และหลักกฎหมาย มาประยุกตใ์ ช้เพอ่ื การเป็นพลเมอื งดี สาระสาคญั สังคมไทยมีพื้นฐานมาจากสังคมเกษตร สงั คมพระพุทธศาสนา สังคมท่ีเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ สังคมท่ีเป็นสังคมชนช้ันที่มีโครงสร้างแบบหลวมๆ และยังยึดขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นหลักและไม่นิยม ความเปล่ียนแปลง แต่ความเจริญทางเทคโนโลยีและการส่ือสารในปัจจุบันเป็นผลให้สังคมไทยมีการ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม บรรพบุรุษไทยได้ส่งต่อความเจริญงอกงาม วิถีการปฏิบัติตนเป็น วัฒนธรรมไทยเป็นมรดกของสงั คมสืบต่อมาจนถงึ ปัจจุบัน สงั คมไทยไดม้ กี ารปรบั เปลีย่ นตามสภาพสิง่ แวดล้อม ทาให้เกิดค่านิยมไทยซึ่งเป็นรากฐานสาคัญในการพัฒนาตนเอง สังคม และประเทศ ซึ่งมีทั้งส่ิงดีงามที่คนไทย ควรปฏบิ ัติ และค่านยิ มทางประเพณี คนไทยควรปรับเปลยี่ นแก้ไขและร่วมกันสรา้ งค่านยิ มท่ีสาคัญ เพ่ือร่วมกัน สรา้ งความเจริญใหแ้ ก่ประเทศชาติตอ่ ไป อย่างไรกต็ าม สังคมไทยได้ส่ังสมความรู้ ความสามารถและสติปัญญาในการแก้ไขปญั หาวิกฤตในการ ดารงชวี ติ และการพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมของทอ้ งถน่ิ และชาติ เกดิ เปน็ ภมู ปิ ัญญาไทยในปจั จุบันนี้ ผลการเรียนรูท้ ่คี าดหวัง ๑ รูแ้ ละเขา้ ใจความหมาย และลักษณะของสังคมไทย มีทัศนคติที่ดีในการอยู่ร่วมกับผู้อนื่ ในสังคม ๒. รู้และเข้าใจความหมาย ความสาคัญ ประเภทและองค์ประกอบของวัฒนธรรมไทย มีแนวทางการ ประพฤติปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสม ๓. รู้และเข้าใจความหมายและความสาคัญของคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และภูมิปัญญาไทย ได้แนวทาง ในการพัฒนาตนเอง สังคม และประเทศชาติ ๔. มกี ารพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศึกษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตได้ขณะทาการสอนในเร่ือง ๑. ความมีมนษุ ยสมั พันธ์ ๒. ความมวี นิ ยั ๓. ความรบั ผิดชอบ ๔. ความซ่อื สตั ย์สุจริต ๕. ความเชือ่ มัน่ ในตนเอง ๖. การประหยัด ๙. ความรกั สามคั คี ๑๐. ความกตญั ญูกตเวที ๑. สงั คมไทย ๔. คา่ นิยม กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น (การสร้างศรัทธา) คา่ นยิ ม และภูมปิ ญั ญาไทย กลมุ่ ท่ี ๑ สังคมไทย กลุ่มท่ี ๒ วฒั นธรรมไทย กลมุ่ ท่ี ๓ คา่ นิยม กลมุ่ ที่ ๔ ภมู ปิ ัญญาไทย ๓. แต่ละกลมุ่ ไดร้ ับมอบหมายใหถ้ อดรหัสเรอ่ื งทีต่ นเองได้ศกึ ษาเขา้ กับหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ๔. ให้แตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอหน้าชัน้ เรียนตามหวั ข้อโดยใชเ้ วลากลุ่มละ ๑๕ นาที ๖. ตวั แทนกลมุ่ ออกมานาเสนอเน้อื หา โดยเปิดโอกาสใหก้ ลมุ่ อื่นซักถาม ๗. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ความสาคัญ ๘. ครใู หน้ กั เรยี นทาใบงาน และ แบบประเมนิ ผลการเรียนรแู้ ละบนั ทกึ ความดี ๑. หนังสอื เรยี น วิชาหนา้ ที่พลเมืองและศลี ธรรม ของบรษิ ัท สานกั พมิ พ์เอมพนั ธ์ จากัด ๒. ใบงาน ๔. สื่อ PowerPoint วชิ า หน้าทพ่ี ลเมืองและศีลธรรม หลักฐาน ๒. การเชค็ ช่อื เข้าเรียนในวิชา ๔. บนั ทกึ พฒั นาการความดี การวัดผลและการประเมินผล เครอ่ื งมือวัดผล รว่ มกันประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ ผล ประเมินตามสภาพจริง ผลการบันทึกความดดี ้วยการนาข้อมลู บนั ทึกความดีในแต่ละครั้งมาเขียนกราฟแสดงจะเหน็ กจิ กรรมเสนอแนะ แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 5 วชิ า หน้าทพ่ี ลเมอื งและศีลธรรม รหัสวิชา 20000-1501 ครูผสู้ อน นายรตั นชัย ออมสิน หนว่ ยที่ 4 ชอ่ื หนว่ ย การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ 2 ช่ัวโมง จดุ ประสงค์รายวชิ า ๒. ปฏิบัตติ นเปน็ พลเมอื งดตี ามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมุข ๓. ปฏิบัติตนเป็นศาสนกิ ชนทด่ี ีตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถอื ๔. ตระหนักถงึ การดารงชวี ติ ท่ถี กู ต้องดีงามในฐานะศาสนิกชนและพลเมอื งดี สมรรถนะรายวิชา ๑. แสดงความรู้เกย่ี วกบั สถาบันครอบครัวและสถาบนั ทางสงั คม สทิ ธหิ น้าทพ่ี ลเมอื งดี และหลักธรรม ของศาสนา ๒. วิเคราะห์หลักการของวัฒนธรรม คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงเพื่อใช้ในการดารงชวี ติ ๓. นาหลกั ศาสนา หลกั ธรรม และหลกั กฎหมาย มาประยุกตใ์ ช้เพอื่ การเปน็ พลเมอื งดี สาระสาคัญ ประเทศไทยมกี ารปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมุขมาต้งั แต่ พ.ศ. ๒๔๗๕ เปน็ การปกครองโดยประชาชน เพอื่ ประชาชน อานาจอธิปไตยจึงเปน็ ของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตรยิ ์ทรง ใช้อานาจอธิปไตยผ่านทางรัฐสภาคณะรัฐมนตรี และศาลตามทบี่ ัญญัติไวใ้ นรัฐธรรมนญู สถาบพั ระมหากษัตริย์ มีความสาคัญอย่างย่ิงต่อสังคมไทย ทรงมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ แก้ปัญหาความทุกข์และเสริมสร้าง ความสุขให้แก่ประชาชนในทุกด้าน คนไทยทุกคนจะต้องร่วมกันธารงรักษาไว้ซ่ึงระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ ให้มคี วามม่นั คงถาวรตลอดไป ผลการเรยี นรูท้ คี่ าดหวัง ๑. อธิบายหลักการสาคญั ของการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ ได้ ๒. เปรียบเทยี บรปู แบบของรฐั ได้ ๓. สรุปฐานะและพระราชอานาจของพระมหากษตั รยิ ์ได้ ๔. มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สาเร็จการศึกษา สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ท่คี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรื่อง ๑. ความมีมนษุ ยสมั พันธ์ ๒. ความมวี ินยั ๓. ความรบั ผดิ ชอบ ๔. ความซือ่ สัตยส์ จุ ริต ๕. ความเชื่อมั่นในตนเอง ๖. การประหยัด ๗. ความสนใจใฝร่ ู้ ๘. การละเว้นสิ่งเสพตดิ และการพนนั ๙. ความรกั สามัคคี ๑๐. ความกตญั ญูกตเวที สาระการเรยี นรู้ ๑. การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย ๒. รูปแบบของรัฐ ๓. การปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมขุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ครูใช้ประเด็นคาถามว่า “นักเรียนมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพ” เพ่ือให้นักเรียน ขั้นสอน ๒. ครูอธิบายเร่ืองรูปแบบของการปกครองระบอบประชาธิปไตย ๓ แบบ ได้แก่ แบบรัฐสภา ๓. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันอธบิ ายสรุปรูปแบบการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยของไทย คณุ ธรรมความดีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัว ขนั สรปุ และการประยุกต์ ประชาชน เพอื่ วเิ คราะห์และเปรียบเทียบกบั ผลคะแนนของแบบทดสอบกอ่ นเรียน ๗. ให้นกั เรียนทาใบงาน และแบบทดสอบทา้ ยหนว่ ยการเรียนรู้ ๑. หนงั สือเรียน วิชาหนา้ ทีพ่ ลเมอื งและศีลธรรม ของบริษัท สานกั พิมพ์เอมพนั ธ์ จากดั ๔. แบบประเมนิ ตนเอง หลักฐาน ๓. บันทกึ ความดี การวดั ผลและการประเมนิ ผล ๒. ประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ ๔. ตรวจคาถามท้ายหนว่ ยการเรียนร/ู้ ใบงาน ประสงค์ ๗. ตรวจบนั ทึกความดี ๑. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ๓. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม (โดยนกั เรียน) ๖. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและนักเรียน ๗. บนั ทึกความดี ๒. เกณฑ์ผ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (๕๐ % ขน้ึ ไป) ๔. ตอบคาถามท้ายหนว่ ยการเรยี นรู้และทาใบงานไดท้ กุ ใบงานจึงจะถอื ว่าผา่ นการประเมิน ประเมินตามสภาพจริง ผลการบันทึกความดดี ้วยการนาข้อมลู บนั ทึกความดีในแตล่ ะครัง้ มาเขียนกราฟแสดงจะเหน็ ให้นกั เรยี นทาบันทกึ ความดแี ละนาผลไปลงในแผนพฒั นาการความดี แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 6 วชิ า หน้าทีพ่ ลเมอื งและศลี ธรรม รหัสวิชา 20000-1501 ครผู ูส้ อน นายรตั นชยั ออมสนิ หน่วยที่ 5 ช่ือหน่วย สทิ ธิและหนา้ ท่ขี องพลเมืองดีตามระบอบประชาธิปไตย จานวน 2 ชว่ั โมง จุดประสงค์รายวิชา ๑. มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจเก่ียวกับสถาบันครอบครวั และสถาบนั ทางสังคม สิทธิหนา้ ท่ีของพลเมืองดีและ หลักธรรมของศาสนา ๒. ปฏบิ ตั ิตนเป็นพลเมืองดีตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข ๓. ปฏบิ ตั ิตนเป็นศาสนิกชนทดี่ ีตามหลกั ธรรมของศาสนาทตี่ นนบั ถือ ๔. ตระหนกั ถงึ การดารงชวี ติ ที่ถกู ต้องดีงามในฐานะศาสนิกชนและพลเมอื งดี สมรรถนะรายวิชา ๑. แสดงความรู้เกี่ยวกบั สถาบนั ครอบครวั และสถาบันทางสงั คม สิทธิหนา้ ทพ่ี ลเมอื งดี และหลักธรรม ของศาสนา ๓. นาหลกั ศาสนา หลกั ธรรม และหลกั กฎหมาย มาประยกุ ต์ใชเ้ พ่ือการเป็นพลเมืองดี สาระสาคัญ การประพฤติปฏิบัติตนเปน็ พลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ประกอบด้วยการปฏบิ ัติตนตามสถานภาพ บทบาท สิทธิ เสรีภาพ และหนา้ ที่ โดยยดึ หลกั กฎหมาย ไม่ละเมิดสทิ ธิเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นการปฏิบัตติ น อย่างถูกต้องในฐานะของพลเมืองดี อีกทั้งต้องสนับสนุน ส่งเสริมให้บุคคลอ่ืนมีค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม ท่ี ถกู ตอ้ งดีงามซึง่ ถอื ปฏบิ ัติตนเป็นพลเมืองดีด้วย จงึ จะนาสันตสิ ุขมาสสู่ งั คมได้ ผลการเรยี นรทู้ คี่ าดหวงั ๑. รู้และเขา้ ใจสิทธิของพลเมอื ง ๒. อธบิ ายแนวทางการค้มุ ครองสิทธขิ องพลเมอื ง ๓. บอกบทบาทหน้าทข่ี องเยาวชนในฐานะพลเมอื งของประเทศ ๔. มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สาเร็จการศึกษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ที่ครสู ามารถสังเกตไดข้ ณะทาการสอนในเรือ่ ง ๑. ความมมี นุษยสัมพันธ์ ๒. ความมีวินยั ๓. ความรบั ผดิ ชอบ ๔. ความซื่อสตั ย์สจุ รติ ๕. ความเชือ่ ม่ันในตนเอง ๖. การประหยดั ๗. ความสนใจใฝ่รู้ ๘. การละเว้นสิ่งเสพติดและการพนัน ๙. ความรกั สามัคคี ๑๐. ความกตญั ญูกตเวที สาระการเรียนรู้ ๑. สิทธขิ องพลเมือง ๒. เสรภี าพของพลเมือง ๓. บทบาท หนา้ ทขี่ องเยาวชนในฐานะพลเมอื งของประเทศ กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรยี น ดงั กล่าว ๒. ให้นักเรียนทาใบงาน จากน้ันครูและนักเรียนช่วยกันเฉลยใบงาน นักเรียนแลกเปลี่ยนกันตรวจ ๓. ครูจัดการเรียนรู้เรื่อง สถานภาพและบทบาท โดยการศึกษาจากกรณีตัวอย่าง ตามข้ันตอน และเลขานกุ ารกลมุ่ ▪ ให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มศึกษาค้นคว้าตัวอย่างของบุคคลท่ีมีบทบาทสอดคล้องกับ สถานภาพมากรณีละ ๑ ตัวอย่าง อาจเป็นบุคคลใกล้ชิดหรือบุคคลในข่าว และสรุปไว้เป็น - การท่บี ุคคลมบี ทบาทสอดคล้องกบั สถานภาพส่งผลต่อสังคมอยา่ งไร และบทบาทของตนเอง แลว้ ทาเป็นใบปลวิ เพื่อเผยแพร่ไปยงั นักเรยี นคนอ่นื ๆ ในโรงเรยี น ขน้ั สรปุ และการประยกุ ต์ ๕. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อให้เกิดการตระหนักในการปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาทและ ๖. นัดหมายนักเรยี นไปศึกษาค้นควา้ ท่แี หลง่ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ แลว้ สรปุ ในชัว่ โมงถดั ไป ๑. หนงั สอื เรยี น วชิ าหนา้ ทพ่ี ลเมอื งและศลี ธรรม ของบรษิ ัท สานักพมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากัด ๒ ใบงาน ๔. แบบประเมนิ ตนเอง ๑. การตรวจใบงาน กิจกรรม คาถาม ๓. บันทกึ ความดี วธิ วี ดั ผล ๒. ประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ ๕. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ ประสงค์ ๑. แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล ๓. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม (โดยนักเรยี น) ๖. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและนักเรียน ๗. บันทกึ ความดี ๒. เกณฑผ์ า่ นการประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (๕๐ % ขึ้นไป) ๓. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (๕๐ % ขึ้นไป) ๕. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เกณฑผ์ ่าน คอื พอใช้ (๕๐ % ข้ึนไป) ประเมนิ ตามสภาพจริง ผลการบันทึกความดีด้วยการนาข้อมูลบนั ทึกความดใี นแต่ละครัง้ มาเขียนกราฟแสดงจะเหน็ พัฒนาการความดขี องตนเองลงในแบบพัฒนาความดีท่อี ยดู่ า้ นหลงั ของหน้าปกหนงั สอื เรียน ให้นกั เรยี นทาบนั ทกึ ความดีและนาผลไปลงในแผนพฒั นาการความดี แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 7 วิชา หน้าทพ่ี ลเมอื งและศลี ธรรม รหสั วชิ า 20000-1501 ครผู ้สู อน นายรัตนชัย ออมสนิ หน่วยที่ 6 ชื่อหนว่ ย พลเมืองดตี ามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง จานวน 2 ชวั่ โมง จุดประสงค์รายวชิ า ๑. มคี วามรูค้ วามเข้าใจเก่ยี วกับสถาบันครอบครัวและสถาบันทางสังคม สิทธหิ นา้ ทีข่ องพลเมืองดแี ละ หลักธรรมของศาสนา ๒. ปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดตี ามระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข ๓. ปฏิบัตติ นเป็นศาสนกิ ชนท่ีดตี ามหลกั ธรรมของศาสนาท่ีตนนับถอื ๔. ตระหนักถงึ การดารงชวี ติ ท่ถี ูกต้องดงี ามในฐานะศาสนิกชนและพลเมอื งดี สมรรถนะรายวชิ า ๑. แสดงความร้เู ก่ียวกบั สถาบนั ครอบครวั และสถาบันทางสงั คม สิทธหิ น้าทีพ่ ลเมืองดี และหลกั ธรรม ของศาสนา ๒. วิเคราะห์หลักการของวัฒนธรรม คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงเพือ่ ใชใ้ นการดารงชวี ติ ๓. นาหลกั ศาสนา หลักธรรม และหลกั กฎหมาย มาประยกุ ตใ์ ช้เพอ่ื การเปน็ พลเมอื งดี สาระสาคัญ พลเมอื งดี คือ พลเมอื งที่มีคณุ ภาพ มคี วามรู้ ความสามารถ มสี ว่ นรว่ มในการสรา้ งความเจรญิ ก้าวหน้า ใหก้ ับบา้ นเมอื ง มคี วามรับผดิ ชอบ การปฏิบัตติ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงคอื วธิ ีหนึง่ ของการปฏิบัติตน เพ่อื ใหเ้ ป็นพลเมอื งดี ผลการเรยี นร้ทู ค่ี าดหวงั ๑. บอกหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้ ๒. ปฏบิ ัติหนา้ ท่ีพลเมอื งดตี ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้ ๓. มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สาเร็จการศึกษา สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ท่คี รูสามารถสังเกตได้ขณะทาการสอนในเรอื่ ง ๑. ความมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ ๒. ความมีวินัย ๓. ความรบั ผดิ ชอบ ๔. ความซอ่ื สตั ย์สุจรติ ๕. ความเชือ่ ม่ันในตนเอง ๖. การประหยดั ๗. ความสนใจใฝร่ ู้ ๘. การละเวน้ สิ่งเสพตดิ และการพนัน ๙. ความรักสามคั คี ๑๐. ความกตญั ญูกตเวที สาระการเรยี นรู้ ๑. หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๒. พลเมอื งดีตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง กจิ กรรมการเรียนรู้ ๑. ครูและนักเรียนสนทนาเก่ียวกบั ปรัชญาหรอื แนวคิดของเศรษฐกิจพอเพยี ง เป็นแนวพระราชดาริ การพัฒนาประเทศ จาเปน็ ต้องทาตามลาดับขน้ั ต้องสร้างพื้นฐานคอื ความพอมี พอกิน พอใช้ ของ คนทงั้ ประเทศ จะต้องทอผ้าใส่เอง อย่างน้ันมันเกินไป แต่ว่าในหมู่บ้านหรือในอาเภอจะต้องมีความพอเพียง ท่ีไม่ห่างไกลนักไม่ต้องเสียค่าขนส่งมากนัก...” “...ปัจจุบันน้ีจะปฏิบัติเศรษฐกิจพอเพียง ๑๐๐ หนึ่ง คือ ผลิตไว้ใช้ “...คนเราถ้าพอในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อย ก็ ๔. นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนประมาณ ๑๐ นาที แล้วสลบั กนั ตรวจ ๖. ครูบอกแนวการปฏิบัตทิ ี่เห็นเป็นรูปธรรม เกิดมาจากการยึดมั่นในระบบพอเพียงกอ่ น เม่ือยึดมั่น จากแนวพระราชดาริ สามารถแยกออกเป็นแนวปฏบิ ัติได้ ดงั นี้ พอเพยี งตอ่ การดารงชพี ของคนในครอบครวั ตนเอง ๒) ผลิตไว้ขาย เม่ือผลิตเพียงพอต่อความต้องการในครอบครัวแล้ว หากผลผลิตท่ีได้เหลือหรือ ควรเร่ิมต้นจากการขายในบริเวณชุมชนของตนเอง ซ่ึงไม่ต้องใช้ต้นทุนเพิ่ม เช่น ค่าขนส่ง ค่า ความปรารถนาต้องการก็ไม่เกินประมาณมากนัก คือไม่โลภจนกลายเป็นลุ่มหลง ไม่จงใจทา ๗. ครูใช้เทคนิคการอภิปรายเป็นคณะ (Conference) เป็นการชุมนุมอภิปรายระหว่างนักเรียนเพ่ือ ๘. นักเรียนแบ่งกลุม่ จัดทาแผน่ พับและออกแบบประชาสมั พนั ธ์ให้ความรูเ้ รื่อง เศรษฐกิจพอเพียงกับ ความรว่ มมือปฏบิ ัตติ นตามหลักธรรมเศรษฐกจิ พอเพียง สาคญั เพื่อนาเสนอครู และเพ่ือนรว่ มช้นั เรียนซงึ่ อาจมีการแกป้ ญั หาต่อไป (ถา้ มี) ๑) แบง่ กลุม่ กลุ่มละ ๕-๖ คน ๒) นักเรียนพิจารณาถึงปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่ส่งผลที่ดีต่อนักเรียนและบุคคลใน ๑๑.นกั เรียนทาใบงาน ๒ ประการ ที่ทาให้เกิดผลเชิงประจักษ์ ได้แก่ (๑) ความพอประมาณ (๒) ความมีเหตุผล ซึ่งเป็น ๑๓.นกั เรยี นทาคาถามท้ายหนว่ ยการเรยี นรู้ ๑. หนงั สือเรียน วิชาหน้าทพ่ี ลเมืองและศลี ธรรม ของบริษัท สานกั พมิ พเ์ อมพันธ์ จากดั ๒ ใบงาน ๔. แบบประเมนิ ตนเอง ๑. การตรวจใบงาน กิจกรรม คาถาม ๓. บันทึกความดี วิธีวดั ผล ๒. ประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกล่มุ ๕. ตรวจแบบประเมินผลการเรยี นรู้ ประสงค์ ๑. แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ๒. แบบประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกล่มุ (โดยครู) ๔. คาถามทา้ ยหนว่ ยการเรยี นร/ู้ ใบงาน จากหนงั สือเรยี นวิชาหน้าท่พี ลเมืองและศีลธรรม ๖. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและนักเรียน ๗. บันทกึ ความดี เกณฑ์การประเมินผล ๒. เกณฑ์ผา่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (๕๐ % ขน้ึ ไป) ๕. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ เกณฑ์ผ่าน คอื พอใช้ (๕๐ % ขึ้นไป) ประเมินตามสภาพจรงิ ผลการบันทึกความดีด้วยการนาข้อมูลบนั ทึกความดใี นแต่ละครัง้ มาเขียนกราฟแสดงจะเหน็ พัฒนาการความดขี องตนเองลงในแบบพัฒนาความดที ีอ่ ย่ดู า้ นหลังของหน้าปกหนงั สือเรยี น ใหน้ กั เรยี นทาบันทึกความดแี ละนาผลไปลงในแผนพัฒนาการความดี แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 8 วชิ า หน้าท่ีพลเมืองและศลี ธรรม รหัสวชิ า 20000-1501 ครผู ู้สอน นายรตั นชยั ออมสนิ หนว่ ยที่ 7 ช่ือหน่วย พลเมอื งดีตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง จานวน 2 ชวั่ โมง จุดประสงคร์ ายวชิ า ๑. มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับสถาบันครอบครัวและสถาบันทางสังคม สิทธิหน้าท่ีของพลเมืองดี และหลกั ธรรมของศาสนา ๓. ปฏบิ ตั ิตนเป็นศาสนิกชนท่ีดีตามหลกั ธรรมของศาสนาทต่ี นนบั ถือ ๔. ตระหนกั ถงึ การดารงชวี ติ ท่ีถูกต้องดีงามในฐานะศาสนกิ ชนและพลเมอื งดี สมรรถนะรายวชิ า ๑. แสดงความรเู้ ก่ยี วกบั สถาบนั ครอบครัวและสถาบนั ทางสงั คม สิทธิหน้าท่พี ลเมอื งดี และหลักธรรม ของศาสนา ๓. นาหลักศาสนา หลกั ธรรม และหลักกฎหมาย มาประยกุ ต์ใช้เพ่อื การเป็นพลเมืองดี สาระสาคัญ ศาสนาเป็นส่ิงจาเป็นแก่ชีวิต ศาสนาทาให้มนุษย์สามารถอยู่ได้ตามลาพังโดยปราศจากความกลัว คาสอนในศาสนาต่าง ๆ มีความสาคัญอย่างย่ิงในการพัฒนาบุคคลให้มีทัศนคติท่ีดีงาม มีคุณธรรมประจาตน และแนวทางปฏิบัติอันถูกต้อง ศาสนาจะช่วยพัฒนาปรับปรุงความคิดและการกระทาต่าง ๆ ของบุคคลให้มี คุณภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการแก้ปัญหาและข้อบกพร่องของตนเองได้ จนสามารถบรรลุความสาเร็จในชีวิต และพ้นจากความทุกข์ ผู้ที่พัฒนาตนเองแล้วย่อมมีศักยภาพและคุณภาพมีหลักปฏิบัติอันถูกต้องและมีความ พร้อมในการสร้างประโยชน์สุขแก่สังคมส่วนรวม คาสอนของศาสนาจึงมีเป้าหมายให้ผู้ศึกษาและปฏิบัติตาม สามารถพัฒนาตนเองและสังคมได้ ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวงั ๑. อธิบายความหมาย จุดกาเนดิ ความสาคัญของศาสนากับการดาเนินชีวิต และลักษณะของศาสนาได้ ๒. บอกศาสนาสาคัญของโลกได้ ๓. อธบิ ายประเภทของศาสนาได้ ๔. มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สาเร็จการศึกษา สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ที่ครสู ามารถสังเกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง ๑. ความมีมนุษยสัมพันธ์ ๒. ความมวี ินยั ๓. ความรบั ผดิ ชอบ ๔. ความซอื่ สตั ย์สจุ ริต ๕. ความเช่อื ม่ันในตนเอง ๖. การประหยัด ๗. ความสนใจใฝร่ ู้ ๘. การละเว้นสงิ่ เสพติดและการพนนั ๙. ความรกั สามคั คี ๑๐. ความกตญั ญกู ตเวที สาระการเรียนรู้ ๑. ความหมายของศาสนา ๒. จุดกาเนิดของศาสนา ๓. ความสาคัญของศาสนากบั การดาเนนิ ชีวิต มนุษยไ์ มว่ ่าชาตใิ ดภาษาใด ล้วนเป็นคนมศี าสนาแทบท้ังสิ้น และศาสนาท่ีตนนบั ถือย่อมกาหนดไว้ ๒. นักเรยี นแขง่ ขันกันทายปญั หา โดยแบง่ กลมุ่ ๓-๔ กลุม่ (ตามความเหมาะสม) ใหต้ วั แทนเขยี นตอบ ขนั้ สอน ล้วนมีวัตถุประสงค์ส่งเสริมความเข้าใจดี มีสันติต่อกัน มุ่งขจัดความแตกร้าวระหว่างมนุษยชาติ ขน้ั สรุปและการประยุกต์ สือ่ และแหล่งการเรียนรู้ หลักฐาน การวัดผลและการประเมินผล เคร่อื งมือวัดผล รว่ มกนั ประเมนิ (๕๐ % ข้นึ ไป) ประเมินตามสภาพจรงิ ผลการบันทึกความดดี ้วยการนาข้อมลู บนั ทึกความดใี นแตล่ ะครัง้ มาเขียนกราฟแสดงจะเหน็ ใหน้ กั เรียนทาบนั ทึกความดแี ละนาผลไปลงในแผนพฒั นาการความดี แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 9 วิชา หน้าที่พลเมอื งและศีลธรรม รหสั วชิ า 20000-1501 ครูผสู้ อน นายรตั นชัย ออมสิน หน่วยที่ 8 พุทธประวตั ิ วันสาคญั องค์ประกอบทางพระพุทธศาสนา และเร่ืองนา่ รจู้ ากพระไตรปฎิ ก 2 ช่วั โมง จุดประสงค์รายวิชา ๑. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสถาบันครอบครัวและสถาบันทางสังคม สิทธิหน้าท่ีของพลเมืองดี และหลกั ธรรมของศาสนา ๓. ปฏบิ ัตติ นเป็นศาสนิกชนทีด่ ตี ามหลกั ธรรมของศาสนาทต่ี นนบั ถอื ๔. ตระหนกั ถงึ การดารงชวี ิตท่ีถกู ตอ้ งดงี ามในฐานะศาสนกิ ชนและพลเมืองดี สมรรถนะรายวชิ า ๑. แสดงความรเู้ ก่ยี วกับสถาบันครอบครัวและสถาบันทางสงั คม สทิ ธหิ นา้ ที่พลเมืองดี และหลักธรรม ของศาสนา ๓. นาหลักศาสนา หลกั ธรรม และหลกั กฎหมาย มาประยกุ ต์ใช้เพื่อการเป็นพลเมืองดี สาระสาคญั พระพุทธประวัติในหน่วยน้ีเป็นการแสดงให้เห็นถึงพระประวัติของพระพุทธเจ้าต้ังแต่ประสูติ จนถึง ปรินิพพาน แสดงให้เห็นว่าตลอดพระชนมช์ ีพ พระพุทธเจ้าได้ทรงสรา้ งคุณูปการต่าง ๆ ให้กับมนุษยชาติ และ หลักธรรมที่ทรงแสดงไว้เป็นเวลานานกว่า ๒,๕๐๐ ปีมาแล้ว ยังคงทันสมัยมาจนทุกวันนี้ วันสาคัญทาง พระพุทธศาสนาคอื วันสาคญั ในพุทธประวัติองค์ประกอบของพระพุทธศาสนามี ๓ ประการ คือ พระพทุ ธคุณ ๙ พระธรรมคณุ ๖ และพระสังฆคณุ ๙ เร่อื งนา่ รจู้ ากพระไตรปิฎกในท่ีน้ีคือ พทุ ธพยากรณ์ ๑๘ ประการ ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวัง ๑. อธิบายพุทธประวัติได้ ๒. อธิบายวันสาคญั ทางพระพุทธศาสนาได้ ๓. บอกองค์ประกอบของพระพุทธศาสนาได้ ๔. บอกคมั ภีร์สาคัญและเรื่องนา่ รู้จากพระไตรปิฎกได้ ๕. มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สาเร็จการศึกษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ท่ีครูสามารถสังเกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง ๑. ความมมี นษุ ยสมั พันธ์ ๒. ความมีวนิ ยั ๓. ความรบั ผิดชอบ ๔. ความซ่ือสตั ย์สุจรติ ๕. ความเชือ่ มัน่ ในตนเอง ๖. การประหยัด ๗. ความสนใจใฝร่ ู้ ๘. การละเว้นส่ิงเสพตดิ และการพนนั ๙. ความรกั สามคั คี ๑๐. ความกตญั ญูกตเวที สาระการเรียนรู้ ๑. พระพุทธประวัติโดยสงั เขป ๒. ศกึ ษาพทุ ธประวัตจิ ากพระพทุ ธรูปปางตา่ ง ๆ ๓. วันสาคญั ทางพระพุทธศาสนา ๔. องค์ประกอบของพระพทุ ธศาสนา ๖. เร่ืองนา่ รจู้ ากพระไตรปิฎก ข้นั นาเขา้ สู่บทเรยี น (การสร้างศรทั ธา) ๓. ครเู นน้ ใหน้ กั เรยี นให้ความสาคญั กับคาสอนซ่ึงเป็นหวั ใจของพระพทุ ธศาสนา คอื การไม่ทาชั่วทัง้ ปวง หลักธรรมสาคัญของพระพุทธศาสนาซึ่งปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก เช่น ความเช่ือเร่ืองกรรม ๔. ครูอธิบายเก่ียวกับการตรัสรู้และการก่อตัวพระพุทธศาสนาในชมพูทวีป หลักธรรมสาคัญของ ๕. นักเรยี นทาใบงาน ๘. ให้นกั เรยี นศกึ ษาเรือ่ งน่ารจู้ ากพระไตรปฎิ ก เหตุการณใ์ นสงั คมปัจจบุ นั หรือไมอ่ ย่างไร สือ่ และแหลง่ การเรยี นรู้ ๒. กจิ กรรมส่งเสริมการเรียนรู้ ๕. บันทึกความดี ๗. สอื่ PowerPoint วิชาหน้าทพี่ ลเมอื งและศีลธรรม ๑. การตรวจใบงาน กจิ กรรม คาถาม ๒. การเชค็ ช่อื เขา้ เรยี น ๔. บันทกึ พฒั นาการความดี วิธวี ัดผล ๑. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ๒. ประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ ๔. ตรวจคาถามทา้ ยหนว่ ยการเรียนรู้/ใบงาน ๖. การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึง ๗. ตรวจบันทกึ ความดี เคร่อื งมอื วดั ผล ๒. แบบประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยคร)ู ๕. แบบประเมินผลการเรียนรู้ รว่ มกันประเมิน ๑. เกณฑ์ผา่ นการสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไม่มีช่องปรับปรุง ๓. เกณฑ์ผา่ นการสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (๕๐ % ขน้ึ ไป) ๖. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กับการ ๗. การบันทึกความดีไม่มีเกณฑ์ ให้นักเรียนบันทึกตามสภาพจริง แต่นักเรียนจะสามารถทราบ กจิ กรรมเสนอแนะ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 10 วชิ า หน้าทพ่ี ลเมอื งและศลี ธรรม รหัสวชิ า 20000-1501 ครผู ้สู อน นายรัตนชยั ออมสนิ หน่วยท่ี 8 ช่อื หน่วย สอบกลางภาค จานวน 2 ชว่ั โมง สาระสาคญั แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 11 วชิ า หนา้ ทพ่ี ลเมืองและศลี ธรรม รหสั วิชา 20000-1501 ครูผู้สอน นายรตั นชยั ออมสนิ หนว่ ยที่ 9 ชอ่ื หน่วย หลักธรรมและหลักปฏิบัตทิ างพระพทุ ธศาสนา จานวน 2 ชั่วโมง จดุ ประสงคร์ ายวชิ า ๑. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสถาบันครอบครัวและสถาบันทางสังคม สิทธิหน้าท่ีของพลเมืองดี และหลักธรรมของศาสนา ๓. ปฏบิ ตั ติ นเป็นศาสนิกชนทดี่ ีตามหลกั ธรรมของศาสนาท่ีตนนับถอื ๔. ตระหนกั ถึงการดารงชีวติ ที่ถกู ตอ้ งดีงามในฐานะศาสนกิ ชนและพลเมอื งดี สมรรถนะรายวชิ า ๑. แสดงความรู้เกี่ยวกบั สถาบันครอบครัวและสถาบันทางสังคม สิทธิหนา้ ท่ีพลเมอื งดี และหลกั ธรรม ของศาสนา ๓. นาหลักศาสนา หลักธรรม และหลักกฎหมาย มาประยกุ ตใ์ ชเ้ พื่อการเป็นพลเมืองดี สาระสาคญั หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา หรือคาสอนทางพระพุทธศาสนาปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกมีอยู่ เปน็ จานวนมาก แต่หลกั ธรรมทม่ี ีความสาคัญมากทสี่ ดุ ทางพระพทุ ธศาสนา คอื อรยิ สจั ๔ ส่วนหลักปฏิบัติทางพระพุทธศาสนา คือไม่ทาความชั่วทั้งปวง ทาแต่ความดี ทาจิตของตนให้ผ่องใส ทั้งหมดเรมิ่ ต้นทกี่ ารสวดมนต์ และทาสมาธิ ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวงั ๑. อธิบายหลกั ธรรมสาคัญทางพระพทุ ธศาสนาได้ ๒. สามารถสวดมนตภ์ าษาบาลีแลว้ แปลเปน็ ภาษาไทยได้ ๓. สามารถกล่าวคาแผเ่ มตตาใหท้ ้ังตนเองและผู้อืน่ ได้ ๔. ปฏิบัติวธิ กี ารบริหารจติ ตามหลกั พระพุทธศาสนาได้ ๕. มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สาเร็จการศึกษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสังเกตไดข้ ณะทาการสอนในเรื่อง ๑. ความมีมนษุ ยสัมพันธ์ ๒. ความมีวนิ ยั ๓. ความรบั ผิดชอบ ๔. ความซื่อสัตย์สุจริต ๕. ความเชอื่ มน่ั ในตนเอง ๖. การประหยดั ๗. ความสนใจใฝ่รู้ ๘. การละเวน้ ส่งิ เสพตดิ และการพนัน ๙. ความรักสามคั คี ๑๐. ความกตญั ญูกตเวที สาระการเรียนรู้ ๑. หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา ๒. ทกุ ข์(ธรรมทคี่ วรรู้เท่าทนั ) ๓. สมทุ ัย (ธรรมทค่ี วรละ) ๔. นโิ รธ (ธรรมทค่ี วรบรรล)ุ ๕. มรรค (ธรรมทค่ี วรเจรญิ ) ช่วั โมงท่ี ๑ ๑. ครแู ละนักเรยี นช่วยกนั ยกตัวอย่างหลกั ธรรมสาคัญทางพระพุทธศาสนาที่สามารถนาไปปรบั ใช้ใน ๑) กลุม่ ที่ ๑ ศึกษาเรอื่ งทุกข์ ช่ัวโมงท่ี ๒ ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรียน (๑) สมาธิที่มีโดยธรรมชาติ เช่น เมื่ออ่านหนังสือ ใจจะจดจ่ออยู่กับเร่ืองท่ีอ่าน มีความสุขเพลิดเพลิน ข้ันสอน (วิธสี อนแบบ Jigsaw) วิธีบริหารจิตตามหลักพระพทุ ธศาสนา วิธีบริหารจิตมีหลายวิธี ข้ึนอยู่กับแต่ละบุคคลว่าจะเลือกใชว้ ิธี โยคะ แตบ่ างคนอาจเหมาะกับวธิ อี อกกาลงั อย่างเรว็ ๆ เช่น วง่ิ แอโรบิก ๖. นักเรียนจัดกลุ่มเป็นกลุ่มย่อย ๆ กลุ่มละ ๔ คน แต่ละกลุ่มศึกษาการบริหารจิต การสวดมนต์ และ ข้นั สรุปและการประยุกต์ ดีหรือแผ่ความรู้สึกเป็นมิตรไปยังเพ่อื นมนษุ ย์และอมนษุ ย์ท้ังหลาย ได้แก่ เทวดา และสรรพสัตว์ ให้มีความร่มเย็นเป็นสุข การแผ่เมตตานิยมทาหลังจากสวดมนต์หรือเจริญสมาธิเสร็จ การแผ่ ๗. ทดลองฝกึ ให้นกั เรียนแผ่เมตตาใหต้ นเอง และแผ่เมตตาใหค้ นอื่น ๑. หนงั สอื เรยี น วชิ าหน้าทพ่ี ลเมืองและศลี ธรรม ของบริษัท สานกั พิมพ์เอมพนั ธ์ จากัด ๒. ใบงาน ๔. แบบประเมินตนเอง ๑. การตรวจใบงาน กจิ กรรม คาถาม ๓. บันทกึ ความดี วธิ ีวดั ผล ๒. ประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ ๕. ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้ ประสงค์ ๑. แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ๒. แบบประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม (โดยครู) ๔. คาถามท้ายหนว่ ยการเรยี นร/ู้ ใบงาน จากหนังสือเรียนวิชาหนา้ ที่พลเมอื งและศีลธรรม ๖. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและนักเรียน ๗. บนั ทึกความดี เกณฑ์การประเมินผล ๒. เกณฑ์ผา่ นการประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกล่มุ คือ ปานกลาง (๕๐ % ข้ึนไป) ๕. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ เกณฑ์ผ่าน คอื พอใช้ (๕๐ % ขึ้นไป) ประเมินตามสภาพจริง ผลการบันทึกความดดี ้วยการนาข้อมูลบนั ทึกความดใี นแตล่ ะครัง้ มาเขียนกราฟแสดงจะเห็น พัฒนาการความดีของตนเองลงในแบบพฒั นาความดีที่อยู่ดา้ นหลังของหนา้ ปกหนังสือเรยี น ใหน้ ักเรยี นทาบันทกึ ความดแี ละนาผลไปลงในแผนพฒั นาการความดี แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 12 วิชา หน้าทีพ่ ลเมืองและศลี ธรรม รหัสวิชา 20000-1501 ครผู ู้สอน นายรัตนชยั ออมสนิ หน่วยท่ี 10 ชื่อหนว่ ย หนา้ ที่ชาวพทุ ธและศาสนกิ ชนตัวอยา่ ง จานวน 2 ชัว่ โมง จุดประสงคร์ ายวิชา ๑. มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับสถาบันครอบครัวและสถาบันทางสังคม สิทธิหน้าท่ีของพลเมืองดี และหลกั ธรรมของศาสนา ๓. ปฏิบตั ติ นเป็นศาสนิกชนทด่ี ีตามหลักธรรมของศาสนาทต่ี นนบั ถอื ๔. ตระหนกั ถงึ การดารงชีวติ ท่ถี กู ต้องดงี ามในฐานะศาสนิกชนและพลเมืองดี สมรรถนะรายวิชา ๑. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั สถาบนั ครอบครวั และสถาบันทางสงั คม สิทธหิ น้าทพี่ ลเมืองดี และหลกั ธรรม ของศาสนา ๓. นาหลักศาสนา หลักธรรม และหลกั กฎหมาย มาประยุกต์ใชเ้ พอื่ การเป็นพลเมืองดีสาระสาคญั สาระสาคญั หน้าท่ีชาวพุทธเป็นคุณสมบัติท่ีดีของชาวพุทธท่ีจะต้องสร้างศรัทธาให้เกิดมีในตน เรียนรู้ระเบียบท่ี ถกู ตอ้ งในการไปวัด ตลอดจนการประกอบพิธีกรรมและปฏบิ ตั ิตนท่ีเหมาะสมตอ่ พระสงฆ์ ศาสนกิ ชนตวั อยา่ งในท่นี ป้ี ระกอบด้วยพระภิกษุ และอบุ าสก ทีท่ าคณุ ประโยชนใ์ ห้แกพ่ ระพทุ ธศาสนา และประเทศชาติ ผลการเรยี นร้ทู ี่คาดหวงั ๑. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ศาสนิกชนที่ดี ๒. วิเคราะหข์ ้อคิดและแบบอยา่ งการดาเนินชีวิตจากประวตั สิ าวก ศาสนิกชนตวั อย่าง ๓. มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สาเร็จการศึกษา สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ท่ีครสู ามารถสังเกตได้ขณะทาการสอนในเรอื่ ง ๑. ความมมี นุษยสัมพันธ์ ๒. ความมวี นิ ยั ๓. ความรับผิดชอบ ๔. ความซอ่ื สัตย์สุจรติ ๕. ความเชือ่ ม่ันในตนเอง ๖. การประหยัด ๗. ความสนใจใฝ่รู้ ๘. การละเว้นสง่ิ เสพติดและการพนัน ๙. ความรกั สามคั คี ๑๐. ความกตญั ญูกตเวที สาระการเรยี นรู้ ๑. คณุ สมบัติทดี่ ีของชาวพุทธ ๒. การสร้างศรทั ธาให้เกดิ มีในตน ๓. การเรียนรรู้ ะเบยี บปฏิบตั ใิ นการไปวดั ๔. วธิ ีปฏบิ ัตใิ นการประกอบพิธีกรรมทีว่ ดั ในโอกาสต่าง ๆ ๕. วิธีปฏิบัตติ นที่เหมาะสมต่อพระสงฆ์ ๖. ศาสนิกชนตัวอยา่ ง กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔. ครูให้นกั เรียนจดั กลมุ่ เปน็ กลุม่ ย่อย กลุ่มละ ๓-๔ คน เรยี กว่า กลุ่มบ้าน ไปจนครบชั้นเรยี น • สมาชิก แยกจบั กล่มุ เป็นกล่มุ ผ้เู ชยี่ วชาญ ศึกษาคน้ ควา้ เรอื่ งวธิ ีปฏบิ ตั ิตนตอ่ พระสงฆ์ ๑. การตรวจใบงาน กิจกรรม คาถาม ๓. บนั ทกึ ความดี การวดั ผลและการประเมินผล ๒. ประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ ๔. ตรวจคาถามทา้ ยหน่วยการเรียนรู้/ใบงาน ประสงค์ เครอ่ื งมือวดั ผล ๓. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยนกั เรยี น) ๕. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ รว่ มกนั ประเมนิ ๗. บันทึกความดี ๑. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล ตอ้ งไม่มีชอ่ งปรบั ปรงุ ๔. ตอบคาถามท้ายหน่วยการเรยี นรแู้ ละทาใบงานได้ทกุ ใบงานจงึ จะถือว่าผ่านการประเมนิ ๖. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้ึนอยู่กับการ ๗. การบันทึกความดีไม่มีเกณฑ์ ให้นักเรียนบันทึกตามสภาพจริง แต่นักเรียนจะสามารถทราบ ผลการบันทึกความดีด้วยการนาข้อมลู บันทึกความดใี นแต่ละครั้งมาเขียนกราฟแสดงจะเหน็ กจิ กรรมเสนอแนะ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 13 วชิ า หนา้ ทพ่ี ลเมอื งและศลี ธรรม รหสั วิชา 20000-1501 ครผู สู้ อน นายรัตนชัย ออมสนิ หน่วยที่ 11 ชอื่ หน่วย มารยาทชาวพทุ ธ จานวน 2 ช่ัวโมง จุดประสงค์รายวชิ า ๑. มคี วามร้คู วามเขา้ ใจเกี่ยวสถาบนั กบั ครอบครัวและสถาบันทางสังคม สทิ ธหิ น้าท่ีของพลเมืองดีและ หลักธรรมของศาสนา ๓. ปฏบิ ัติตนเปน็ ศาสนิกชนทดี่ ตี ามหลกั ธรรมของศาสนาทต่ี นนบั ถอื ๔. ตระหนกั ถึงการดารงชีวติ ทีถ่ ูกต้องดงี ามในฐานะศาสนิกชนและพลเมืองดี สมรรถนะรายวิชา ๑. แสดงความร้เู กี่ยวกับสถาบนั ครอบครวั และสถาบนั ทางสังคม สทิ ธิหน้าที่พลเมืองดี และหลกั ธรรม ของศาสนา ๓. นาหลักศาสนา หลักธรรม และหลกั กฎหมาย มาประยุกตใ์ ชเ้ พื่อการเปน็ พลเมืองดี สาระสาคัญ มารยาทชาวพทุ ธ และมารยาทชาวไทยเป็นของคู่กัน ดังน้ัน มารยาทชาวพุทธก็คือมารยาทชาวไทยที่ ควรปฏิบัตนิ น่ั เอง ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั ๑. ปฏบิ ัตติ ามแบบอย่างมารยาทไทยได้ ๒. ปฏิบัตกิ ารนัง่ การยืน่ การเดนิ การไหว้ และการกราบได้ถูกต้อง ๓. มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สาเร็จการศึกษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสังเกตไดข้ ณะทาการสอนในเรื่อง ๑. ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ ๒. ความมีวินยั ๓. ความรบั ผิดชอบ ๔. ความซอื่ สัตย์สุจริต ๕. ความเชอ่ื ม่ันในตนเอง ๖. การประหยดั ๗. ความสนใจใฝร่ ู้ ๘. การละเวน้ สิ่งเสพตดิ และการพนนั ๙. ความรกั สามัคคี ๑๐. ความกตญั ญกู ตเวที สาระการเรยี นรู้ ๑. มารยาทชาวพุทธ ๒. การนงั่ ๓. การยนื ๔. การเดนิ ๕. การไหว้ ๖. การกราบ กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรยี น ๑. ครแู ละนักเรียนกล่าวถึงความสาคญั ของมารยาทในสงั คมไทย ขนั้ สอน (วธิ สี อนแบบปฏิบตั ิกลุ่มยอ่ ย) พุทธ ปฏิบตั ิตามใบงานสง่ ครู ๕. นกั เรียนทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และประเมินตนเองเพอื่ ทดสอบความซื่อสตั ย์ สอื่ และแหลง่ การเรียนรู้ ๓. บนั ทึกความดี ๕. ส่ือ PowerPoint วิชาหน้าท่ีพลเมืองและศีลธรรม ๑. การตรวจใบงาน กจิ กรรม คาถาม ๒. การเช็คชือ่ เขา้ เรียนในวิชา ๔. พฒั นาการความดี วธิ ีวัดผล ๑. สังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล ๓. สังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ ๖. การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึง ๗. ตรวจบันทกึ ความดี ๒. แบบประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยครู) ๔. คาถามท้ายหน่วยการเรยี นรู้/ใบงาน จากหนงั สือเรยี นวิชาหนา้ ที่พลเมืองและศีลธรรม ร่วมกนั ประเมนิ ๗. บันทกึ ความดี ๑. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง ๓. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (๕๐ % ข้นึ ไป) ๖. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้ึนอยู่กับการ ๗. การบันทึกความดีไม่มีเกณฑ์ ให้นักเรียนบันทึกตามสภาพจริง แต่นักเรียนจะสามารถทราบ กจิ กรรมเสนอแนะ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 14 วชิ า หนา้ ทพ่ี ลเมอื งและศีลธรรม รหัสวชิ า 20000-1501 ครผู ู้สอน นายรัตนชยั ออมสนิ หนว่ ยที่ 12 ช่ือหน่วย ศาสนาพราหมณ-์ ฮินดู จานวน 2 ชั่วโมง จดุ ประสงค์รายวิชา ๑. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสถาบันครอบครัวและสถาบันทางสังคม สิทธิหน้าที่ของพลเมืองดี และหลกั ธรรมของศาสนา ๓. ปฏิบัติตนเป็นศาสนกิ ชนท่ีดตี ามหลักธรรมของศาสนาทต่ี นนับถอื ๔. ตระหนักถึงการดารงชวี ติ ที่ถกู ต้องดีงามในฐานะศาสนกิ ชนและพลเมอื งดี สมรรถนะรายวิชา ๑. แสดงความรเู้ ก่ียวกับสถาบนั ครอบครัวและสถาบันทางสงั คม สิทธหิ นา้ ทพ่ี ลเมืองดี และหลักธรรม ของศาสนา ๓. นาหลกั ศาสนา หลกั ธรรม และหลักกฎหมาย มาประยุกต์ใช้เพื่อการเปน็ พลเมอื งดี สาระสาคัญ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เป็นศาสนาท่ีไมม่ ีศาสดา มรี ากฐานจากคติศรัทธา ความเชอื่ ทห่ี ลากหลายและ พัฒนาการที่ยาวนานหลายพันปี มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรม ความเชื่อ พิธีกรรมต่าง ๆ ในประเทศไทย รวมท้ัง ประเทศตา่ ง ๆ ในเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ ปรากฏหลักฐานทางอารยธรรมในประเทศกลุ่มอาเซยี น ผลการเรยี นรทู้ คี่ าดหวัง ๑. อธิบายถึงหลกั ธรรมของศาสนาพราหมณ-์ ฮินดไู ด้ ๒. วิเคราะหถ์ ึงอารยธรรมอนิ เดียในเอเชยี ตะวันออกเฉียงใตไ้ ด้ ๓. วเิ คราะหถ์ งึ อทิ ธิพลของวัฒนธรรมอนิ เดียทีม่ ีตอ่ วฒั นธรรมไทยได้ ๔. บอกความสาคญั ของบคุ คลสาคญั ของศาสนาพราหมณ-์ ฮินดู ๕. มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สาเร็จการศึกษา สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ทค่ี รสู ามารถสังเกตไดข้ ณะทาการสอนในเรื่อง ๑. ความมีมนุษยสัมพนั ธ์ ๒. ความมวี นิ ยั ๓. ความรับผดิ ชอบ ๔. ความซื่อสัตยส์ ุจรติ ๕. ความเช่ือมนั่ ในตนเอง ๖. การประหยัด ๗. ความสนใจใฝ่รู้ ๘. การละเว้นสิ่งเสพตดิ และการพนัน ๙. ความรักสามัคคี ๑๐. ความกตญั ญูกตเวที สาระการเรยี นรู้ ๑. หลกั ธรรมของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ๒. อารยธรรมอนิ เดียในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ๓. อิทธพิ ลของวฒั นธรรมอินเดียท่ีมตี อ่ วฒั นธรรมไทย ๔. บคุ คลสาคญั กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นาเข้าสูบ่ ทเรียน ๒. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปถงึ วฒั นธรรมอนิ เดีย ๓. แบง่ กลุ่มผเู้ รียนออกเปน็ ๔ กลมุ่ ตามความเหมาะสม กลุ่มท่ี ๓ อภปิ รายถงึ อารยธรรมอนิ เดียทมี่ ีต่อวัฒนธรรมไทย ขั้นสรปุ และการประยกุ ต์ ๗. นักเรียนทาแบบประเมินผลการเรียนรู้ และประเมินตนเองเพ่อื ทดสอบความซ่อื สตั ย์ สอื่ และแหลง่ การเรียนรู้ ๓. บันทกึ ความดี ๕. สื่อ PowerPoint วชิ าหนา้ ที่พลเมอื งและศลี ธรรม ๑. การตรวจใบงาน กิจกรรม คาถาม ๒. การเช็คชือ่ เข้าเรียน ๔. บนั ทึกพฒั นาการความดี วิธวี ัดผล ๑. สังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล ๓. สังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ ๖. การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึง ๗. ตรวจบันทกึ ความดี ๒. แบบประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม (โดยครู) ๓. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ (โดยนักเรยี น) ๕. แบบประเมินผลการเรียนรู้ รว่ มกนั ประเมนิ ๑. เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ต้องไม่มชี อ่ งปรบั ปรุง ๓. เกณฑ์ผา่ นการสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (๕๐ % ขึ้นไป) ๖. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้ึนอยู่กับการ ๗. การบันทึกความดีไม่มีเกณฑ์ ให้นักเรียนบันทึกตามสภาพจริง แต่นักเรียนจะสามารถทราบ กจิ กรรมเสนอแนะ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 15 วิชา หนา้ ท่พี ลเมืองและศีลธรรม รหสั วชิ า 20000-1501 ครูผสู้ อน นายรัตนชัย ออมสิน หน่วยท่ี 13 ช่ือหนว่ ย ศาสนาคริสต์ จานวน 2 ชั่วโมง จุดประสงค์รายวิชา ๑. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสถาบันครอบครัวและสถาบันทางสังคม สิทธิหน้าที่ของพลเมืองดี และหลักธรรมของศาสนา ๓. ปฏบิ ตั ติ นเป็นศาสนิกชนทดี่ ีตามหลกั ธรรมของศาสนาท่ตี นนบั ถือ ๔. ตระหนักถึงการดารงชีวิตทีถ่ ูกต้องดีงามในฐานะศาสนิกชนและพลเมืองดี สมรรถนะรายวชิ า ๑. แสดงความรเู้ กย่ี วกับสถาบนั ครอบครัวและสถาบันทางสงั คม สทิ ธิหนา้ ท่พี ลเมืองดี และหลักธรรม ของศาสนา ๓. นาหลกั ศาสนา หลักธรรม และหลกั กฎหมาย มาประยกุ ตใ์ ช้เพ่อื การเป็นพลเมอื งดี สาระสาคญั ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาท่ีนับถือพระเจ้าองค์เดียว มีหลักคาสอนที่สาคัญ ความรักและวิธีปฏิบัติตาม บญั ญตั ิ ๑๐ ประการ มจี ดุ หมายปลายทางคอื การไดก้ ลบั ไปอย่กู ับพระผู้เป็นเจ้านิรนั ดร์ การศึกษาศาสนาคริสต์ จึงเป็นศาสนาสาคัญในกลุ่มอาเซียน จาเป็นในการเตรียมความพร้อม เข้าสู่ประชาคมอาเซียนอกี ดว้ ย ผลการเรยี นร้ทู ี่คาดหวงั ๑. อธิบายประวตั ศิ าสดาของศาสนาคริสตโ์ ดยสังเขป ๒. อธิบายหลักคาสอนของศาสนาและวธิ ปี ฏบิ ัติในศาสนาครสิ ต์ ๓. ตระหนกั ถงึ หลกั คาสอนของศาสนา อทิ ธพิ ลของศาสนาครสิ ต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ๔. อธิบายถึงการเผยแผ่คริสต์ศาสนาและการรบั วทิ ยาการตะวันตกในประเทศไทย ๕. อธบิ ายถงึ อทิ ธพิ ลของศาสนาคริสตต์ ่อสังคมไทย ๖. บอกความสาคัญของบคุ คลสาคญั ของศาสนาคริสต์ได้ ๗. มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สาเร็จการศึกษา สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ท่คี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง ๑. ความมีมนุษยสัมพนั ธ์ ๒. ความมีวินยั ๓. ความรับผดิ ชอบ ๔. ความซอ่ื สัตยส์ จุ ริต ๕. ความเชื่อมน่ั ในตนเอง ๖. การประหยัด ๗. ความสนใจใฝ่รู้ ๘. การละเวน้ สง่ิ เสพติดและการพนนั ๙. ความรกั สามัคคี ๑๐. ความกตัญญูกตเวที สาระการเรียนรู้ ๑. ประวัตศิ าสนา ๒. ประวัติศาสดา ๓. ประเภทของศาสนาคริสต์ ๕. หลักคาสอนของศาสนา ๖. คมั ภีรท์ างศาสนา ๙. การเผยแผค่ รสิ ต์ศาสนาและการรบั วทิ ยาการตะวนั ตกในประเทศไทย กจิ กรรมการเรียนรู้ ๒. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ ความสาคัญของศาสนาคริสต์ ๓. แบ่งกลมุ่ ผู้เรยี นออกเปน็ ๔ กล่มุ ตามความเหมาะสม กล่มุ ท่ี ๓ อภิปรายถึงวทิ ยาการตะวนั ตกในประเทศไทย ขน้ั สรุปและการประยุกต์ ๗. นกั เรยี นทาแบบประเมินผลการเรยี นรู้ และประเมินตนเองเพอ่ื ทดสอบความซ่ือสัตย์ ส่อื และแหลง่ การเรียนรู้ ๓. บันทกึ ความดี ๕. สือ่ PowerPoint วชิ าหนา้ ทพี่ ลเมอื งและศีลธรรม ๑. การตรวจใบงาน กิจกรรม คาถาม ๒. การเช็คชื่อเข้าเรียน ๔. บันทกึ พฒั นาการความดี วิธีวัดผล ๑. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ๒. ประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ ๔. ตรวจคาถามทา้ ยหนว่ ยการเรียนร้/ู ใบงาน ๖. การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึง ๗. ตรวจบันทึกความดี เครอื่ งมือวัดผล ๒. แบบประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ (โดยคร)ู ๕. แบบประเมินผลการเรียนรู้ ร่วมกันประเมิน ๑. เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล ต้องไม่มชี อ่ งปรับปรงุ ๓. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (๕๐ % ข้นึ ไป) ๖. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กับการ ๗. การบันทึกความดีไม่มีเกณฑ์ ให้นักเรียนบันทึกตามสภาพจริง แต่นักเรียนจะสามารถทราบ กจิ กรรมเสนอแนะ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 16 ครผู ู้สอน นายรัตนชัย ออมสนิ จดุ ประสงคร์ ายวิชา ๑. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสถาบันครอบครัวและสถาบันทางสังคม สิทธิหน้าที่ของพลเมืองดี และหลักธรรมของศาสนา ๓. ปฏบิ ัตติ นเป็นศาสนิกชนทดี่ ีตามหลักธรรมของศาสนาทต่ี นนบั ถือ ๔. ตระหนักถึงการดารงชีวติ ทถ่ี กู ต้องดีงามในฐานะศาสนิกชนและพลเมืองดี สมรรถนะรายวิชา ๑. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั สถาบันครอบครัวและสถาบนั ทางสังคม สทิ ธิหนา้ ท่ีพลเมอื งดี และหลักธรรม ของศาสนา ๓. นาหลกั ศาสนา หลักธรรม และหลกั กฎหมาย มาประยกุ ต์ใชเ้ พ่อื การเปน็ พลเมอื งดี สาระสาคญั ศาสนาอิสลาม เปน็ ศาสนาท่ีเช่อื ในพระเจ้าองค์เดยี ว เชอ่ื ในคัมภีรอ์ ัลกรุ อาน เชื่อในการทาความดี ไม่ ใฝท่ ารา้ ยผู้อน่ื ยดึ หลกั สันติภาพ ใฝ่ความสงบ เพอ่ื ใหส้ ามารถอยู่ร่วมกับศาสนาอ่นื ในโลกอยา่ งสันติ |