หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ขั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ เล่ม ๑ นี้ จัดเรียงลำดับของเนื้อหาให้สอดคล้องกับพัฒนการของผู้เรียนโดยผู้เรียนจะได้เรียนรู้กี่ยวกับการเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว และอากาศและชีวิตของสัตว์ ซึ่งป็นพื้นฐาที่สำคัญต่อการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ผู้เรียนจะได้ทำกิจกรรการเรียนรู้ การฝึกปฏิบัติ ตอบคำถาม เพื่อตรวจสอบความเข้าใจ และสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ สรุปความรู้ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 สรปุ ความรู้วชิ าวิทยาศาสตร์ แรง คอื ส่ิงท่กี ระทำต่อวัตถุ แล้วทำใหว้ ัตถเุ กิดกำรเปลีย่ นแปลงไป เชน่ ทำให้วตั ถุ เมือ่ มีแรงกระทาตอ่ วัตถุ อาจทาใหเ้ กดิ การเปล่ยี นแปลงไดด้ ังนี้ 2. ทำให้เปล่ียนจำกวตั ถทุ ก่ี ำลังเคล่อื นท่ีอยู่ เปน็ หยดุ นง่ิ 3. ทำใหเ้ ปลยี่ นจำกเคลอ่ื นทีช่ ำ้ เป็นเรว็ ขน้ึ แรงผลกั 5. ทำใหว้ ัตถเุ ปลี่ยนรูปรำ่ ง 6. ทำใหว้ ตั ถุเปล่ยี นขนำด ชนดิ ของการออกแรง มีดงั นี้ กำรเคลื่อนทข่ี องวตั ถุจำเปน็ ต้องมแี รงเขำ้ มำกระทำ เมือ่ ต้องกำร สรุปความรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ แมเ่ หล็ก คอื วตั ถทุ ส่ี ามารถดงึ ดูดวตั ถุท่ีมสี ารแม่เหล็กได้ แม่เหลก็ รปู ตวั ยู แมเ่ หล็กแบบแท่ง แม่เหลก็ รูปวงแหวน แมเ่ หล็กรปู ทรงกลม สารแม่เหล็ก 1. วัตถทุ ี่มีสารแม่เหล็กมักจะมีสว่ นผสมของโลหะบำงชนดิ เชน่ เหลก็ นิกเกลิ นอต ตะปู คลปิ หนบี กระดาษ ลูกกุญแจ 2. วัตถุท่ีไม่ใชส่ ารแมเ่ หลก็ แม่เหล็กจะไม่สำมำรถดึงดูดได้ เชน่ ไม้ แก้ว ยำง ผ้า ไม้ ยาง พลาสตกิ แกว้ กระดาษ สรุปความรู้วชิ าวิทยาศาสตร์ พลงั งาน หมำยถึง ควำมสำมำรถในกำรทำงำน พลังงำนมีหลำยแบบ โดยพลงั งำน พลงั งานไฟฟา้ พลังงานแสง คอื พลังงำนทีอ่ เิ ล็กตรอนเคล่ือนท่ผี ำ่ น คือ พลังงานท่ีรบั รู้ไดด้ ว้ ย พลังงานเสยี ง พลงั งานความรอ้ น คอื พลังงำนทเ่ี กดิ จำก คือ พลงั งำนท่ไี ด้มำจำกหลำยแหล่ง พลงั งานกล คอื พลังงำนทเี่ กดิ ขนึ้ จำกกำรกระทำของ สรปุ ความรู้วิชาวิทยาศาสตร์ 1. แหลง่ พลังงานท่ีมีจากดั แหลง่ พลงั งานจากซากดกึ ดาบรรพ์ท่ใี ช้แล้วหมดไป หรือเมือ่ นามาใช้แล้วไม่ เปน็ แร่เชื้อเพลงิ ที่เกิดจากการทบั ถมกนั ของซากพชื ซากสตั วเ์ ปน็ เวลาหลายลา้ นปี 2. แหลง่ พลังงานหมุนเวยี น แหล่งพลังงานทีน่ ามาใช้แลว้ สามารถนา กลับมาใช้ใหม่ได้ หรือเป็นแหล่งพลงั งานทไี่ มม่ ีวันหมด ลมหมนุ เครอ่ื งกาเนดิ ไฟฟา้ จึงทาให้สามารถผลติ ไฟฟ้าได้ พลงั งานนา้ โดยอาศัยแรงดนั ของนา้ จากเข่ือนหมุนกังหันท่มี แี กนติดกับ เครื่องกาเนิดไฟฟ้า ผลติ ไฟฟ้าออกมา พลังงานแสงอาทิตย์ ต้องอาศยั เซลล์สุรยิ ะในการเปลี่ยนแปลงพลงั งานแสง จากดวงอาทติ ยใ์ หเ้ ปน็ พลังงานไฟฟ้า สรปุ ความรู้วชิ าวิทยาศาสตร์ การเปลี่ยนพลงั งาน พลงั งำนมหี ลำยแบบ เช่น พลงั งำนกล พลงั งำน ไฟฟ้ำ พลังงำนแสง พลังงำนเสียง พลงั งำนควำมร้อน โดยพลังงานสามารถ ตัวอยา่ ง เชน่ การเปลยี่ นพลงั งานไฟฟ้า เป็นพลังงานความรอ้ น ทาให้ขนมปงั กรอบ การเปลย่ี นพลงั งานไฟฟา้ ทาให้แกนเครื่องป่นั หมุน การเปลี่ยนพลังงานไฟฟา้ แผงเซลลส์ ุรยิ ะ เป็นอปุ กรณท์ ่ี เครือ่ งคิดเลข มเี ซลล์สุรยิ ะเป็น พลงั งานไฟฟ้า สรุปความร้วู ชิ าวทิ ยาศาสตร์ พลงั งานรูปหน่งึ ที่สามารถเปลย่ี นเป็นพลังงานอน่ื ได้มากกว่า 1 พลงั งาน ตวั อยา่ ง เช่น พลงั งานไฟฟ้าเปลย่ี นเปน็ พลงั งานแสง พลังงานไฟฟ้าเปล่ียนเป็น พลงั งานแสง พลังงานไฟฟา้ เปลีย่ นเป็น พลงั งานแสง พลังงานไฟฟ้าเปลยี่ นเปน็ พลงั งานกล สรปุ ความรู้วิชาวทิ ยาศาสตร์ การใชไ้ ฟฟา้ อย่างประหยัด ตง้ั โทรทัศน์หา่ งจากผนงั อย่างน้อย 10 เซนตเิ มตร ควรรดี ผ้าคร้ังละหลายตวั โดยไม่พรมน้าจนชุ่ม เลือกซือ้ ตูเ้ ย็นทม่ี ีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ปรบั อุณหภูมิใหเ้ หมาะสมกับขนาดหอ้ ง การใชไ้ ฟฟา้ อยา่ งปลอดภยั ตรวจสอบสายไฟฟา้ และอุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยู่ใน ในการเสยี บและถอดเต้าเสียบของเคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ไม่ควรใช้เต้ารับตวั เดยี วกบั เต้าเสียบหลาย ๆ ตวั เพราะจะทาให้เต้ารับ เม่ือร่างกายเปียกน้า ไม่ควรเปดิ หรอื ปดิ สวติ ซ์เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ เมื่อไม่ใชง่ านเครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ควรปิดสวิตช์และถอดปลกั๊ สรปุ ความร้วู ชิ าวิทยาศาสตร์ ความสาคัญของดวงอาทิตย์ ดวงอาทติ ย์เปน็ ดาวฤกษ์ขนาดใหญท่ ่มี แี สงสว่างใน กระบวนการสร้างอาหารของพชื และแสงของ การหมุนรอบตัวเองของโลก ทาให้เหน็ ดวงอาทติ ยป์ รากฏข้ึนบน สรปุ ความรู้วชิ าวทิ ยาศาสตร์ การเกิดทศิ ทิศเกิดจากการทโี่ ลกหมนุ รอบตวั เองและโคจรรอบดวงอาทิตย์ขึน้ ทศิ ท่ีเรามองเห็นดวงอาทติ ย์ขึ้นเปน็ ทิศตะวนั ออก (East) เมอ่ื เราหันหน้าไปทาง เมอื่ เราหนั หนา้ ไปทาง เมอ่ื เราหันหนา้ ไปทางทิศตะวนั ออก ด้านหลังจะเปน็ ทศิ ตะวนั ตก (West) สรปุ ความรวู้ ชิ าวทิ ยาศาสตร์ เปน็ สสารในสถานะแกส๊ มีอยู่ทกุ หนทุกแห่งรอบตัวเรา ไมม่ ีสี ไมม่ ีกลิ่น แก๊สไนโตรเจน แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ พชื ใช้แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ มนษุ ย์ใชแ้ ก๊สออกซเิ จนในการหายใจ สัตว์ใชแ้ ก๊สออกซิเจนในการหายใจ อากาศยงั ช่วยกรองความร้อนท่ีมาจาก ทาให้อุณหภมู ิบนโลกไมร่ อ้ นเกนิ ไป สรุปความร้วู ชิ าวิทยาศาสตร์ มลพิษทางอากาศ คอื อากาศที่มแี กส๊ บางชนิด ฝนุ่ ละออง และควนั ที่ก่อใหเ้ กดิ อนั ตราย ภูเขาไฟปะทุ ไฟปา่ โรงงานอตุ สาหกรรม รถยนต์ มนุษย์ สัตว์ เกิดการระคายเคอื งของดวงตา จมกู คอ อาจไดร้ บั สารพษิ จากการหายใจ มองเห็น ทาใหเ้ กิดอบุ ัติเหตุได้ อืน่ ๆ วสั ดุอุปกรณต์ า่ ง ๆ สกปรกงา่ ย ฝุ่นละอองเกาะบริเวณใบของพืชทา ใบของพชื มีสีที่เปลยี่ นไป สรปุ ความร้วู ชิ าวทิ ยาศาสตร์ แนวทางการปฏบิ ตั ิตน เพื่อลดมลพษิ ทางอากาศ ใช้ถงุ ผา้ หรือ ถุงกระดาษ ใชร้ ถจักรยาน หรอื เดนิ ไม่เผาขยะหรือสงิ่ ต่าง ๆ ปลกู ตน้ ไม้เพ่มิ ข้นึ เพ่ือดดู ซับ คือ อากาศทีเ่ คลื่อนท่ี เกิดจากความแตกตา่ งกันของอุณหภมู อิ ากาศ ลมบก เกิดในเวลากลางคืน เกดิ จากพืน้ ดิน หรอื พืน้ ทรายคายความรอ้ นได้เรว็ กว่าพนื้ น้า ลมทะเล เกดิ ในเวลากลางวนั เกดิ จากพื้นดนิ หรือพื้นทรายรบั ความรอ้ น จากดวงอาทติ ยไ์ ด้ สรุปความรูว้ ิชาวิทยาศาสตร์ เครอ่ื งมือที่ใช้วดั กระแสลม ประโยชน์ของลม โทษของลม |