กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลใด ไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ (ภ.ง.ด.50) และงบการเงิน ภายใน 150 วันนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี ตามมาตรา 68 และมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อพ้นกำหนดเวลา
กรณีที่ยื่นแบบแสดงรายการ และมีภาษีต้องชำระ ต้องเสียเงินเพิ่มอีกอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องชำระนับแต่วันพ้นกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการ จนถึงวันที่ยื่นแบบฯ เจ้าพนักงานประเมินอาศัยอำนาจตามมาตรา 23 แห่งประมวลรัษฎากร ออกหมายเรียกเพื่อทำการตรวจสอบภาษีอากร โดยเรียกพยานกับสั่งให้ผู้ที่ไม่ยื่นรายการนำบัญชีหรือพยานหลักฐานอันควรแก่เรื่องมาแสดงได้ หลังจากได้รับหมายเรียกแล้ว หากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนำบัญชี เอกสาร หรือหลักฐานประกอบการลงบัญชีมามอบให้เจ้าพนักงานประเมินตามหมายเรียกที่เพียงพอแก่การตรวจสอบเพื่อหากำไรสุทธิได้ เจ้าพนักงานประเมินก็มีอำนาจประเมินภาษีตามมาตรา 24 แห่งประมวลรัษฎากรพร้อมเบี้ยปรับ 2 เท่าตามมาตรา 26 แห่งประมวลรัษฎากร และเงินเพิ่มอีก ร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องเสีย โดยไม่รวมเบี้ยปรับ ตามมาตรา 27 แห่งประมวลรัษฎากร นอกจากนี้ ในกรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลใดไม่ยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 เจ้าพนักงานประเมินยังมีอำนาจประเมินภาษีในอัตราร้อยละ 5 ของยอดรายรับก่อนหักรายจ่ายใด ๆ หรือยอดขายก่อนหักรายจ่ายใด ๆ ของรอบระยะเวลาบัญชี แล้วแต่อย่างใดจะมากกว่า ถ้ายอดรายรับก่อนหักรายจ่ายหรือยอดขายก่อนหักรายจ่ายดังกล่าวไม่ปรากฏ เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจประเมิน โดยอาศัยเทียบเคียงกับยอดในรอบระยะเวลาบัญชีก่อนนั้นขึ้นไป ถ้ายอดในรอบระยะเวลาบัญชีก่อนไม่ปรากฏ ให้ประเมินได้ตามที่เห็นสมควร ตามมาตรา 71 (1) แห่งประมวลรัษฎากร จะเห็นว่าการยื่นแบบภงด.50 และงบการเงิน เมื่อพ้นกำหนดเวลา ผู้ประกอบการต้องเสียค่าปรับแบบ เงินเพิ่ม และเบี้ยปรับ เรามาช่วยกันเพิ่มกำไรให้ธุรกิจ ด้วยการยื่นแบบฯ และงบการเงินภายใน 150 วันกันคะ สูตร (ไม่) ลับการคำนวณเงินเพิ่ม/เบี้ยปรับ ในการยื่น ภ.ง.ด. และ ภ.พ. 30 ของนักบัญชียุค 4.017 Apr อดิศร เกษหอม Share this postSHARES View 12387 |