"ธปท." เร่งออกใบอนุญาตธุรกิจ E-Payment ชี้ "โควิด" ดันยอดพร้อมเพย์ พุ่ง สิ้นเดือนเม.ย. แตะ 16 ล้านรายการต่อวัน!29/05/2020 น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การใช้งานบริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-payment) ได้รับความนิยมและมีปริมาณการใช้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริการโอนเงินและชำระเงิน ทำให้มีผู้สนใจประกอบธุรกิจด้านนี้เพิ่มขึ้นมาก โดยปัจจุบัน มีผู้ประกอบธุรกิจการชำระเงินตาม พ.ร.บ.ระบบการชำระเงิน พ.ศ. 2561 จำนวน 118 ราย ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ธปท. มีการอนุญาตให้ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการการชำระเงินรายใหม่ไปแล้วจำนวน 17 ราย รวม 32 ใบอนุญาต และอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 10 ราย ทั้งนี้ ธปท.ได้กำหนดกระบวนการพิจารณาอนุมัติใบอนุญาตที่ชัดเจน โดยใช้เวลา 60 วันนับตั้งแต่วันที่ยื่นเอกสารครบถ้วนถูกต้องแล้ว ซึ่งรายละเอียดการขออนุญาตเพื่อประกอบธุรกิจ ได้เผยแพร่ผ่านคู่มือประชาชนบนเว็บไซต์ ธปท. โดยการพิจารณาได้ให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยง รูปแบบการประกอบธุรกิจ ความมั่นคงเข้มแข็งของระบบงาน และการคุ้มครองผู้ใช้บริการ รวมทั้งการปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลที่ดีและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง น.ส.สิริธิดา กล่าวว่า สำหรับธุรกรรมโอนเงินและชำระเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ พร้อมเพย์ โดย ณ สิ้นเดือนเม.ย.63 มียอดลงทะเบียนแล้ว 52 ล้านหมายเลข ธุรกรรมเฉลี่ย 11 ล้านรายการต่อเดือน และในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีจำนวนธุรกรรมสูงสุดถึง 16 ล้านรายการต่อวัน ในวันสิ้นเดือนเม.ย.63 และมีร้านค้าที่รับชำระด้วย QR Code กว่า 6 ล้านจุด ธปท.เผยการใช้ e-payment เพิ่มสูงขึ้นช่วงโควิด ชี้ ผู้ประกอบการรายใหม่ยื่นขอใบอนุญาตต่อเนื่อง หลังรออนุมัติอีก 10 ราย จากอนุมัติไปแล้ว 17 ราย 32 ใบอนุญาต จากในช่วง 2 ปีมีผู้ประกอบการกว่า 118 ราย ยันพร้อมอนุมัติหากคุณสมบัติครบ ระบุโควิด-19 ดันยอดพร้อมเพย์แตะ 16 ล้านรายการ ยอดลงทะเบียน 52 ล้านเลขหมาย นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การใช้งานบริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ได้รับความนิยมและมีปริมาณการใช้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริการโอนเงินและชำระเงิน ทำให้มีผู้สนใจประกอบธุรกิจด้านนี้เพิ่มขึ้นมาก
ปัจจุบันมีผู้ประกอบธุรกิจการชำระเงินตาม พ.ร.บ.ระบบการชำระเงิน พ.ศ. 2561 จำนวน 118 ราย โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ธปท. มีการอนุญาตให้ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการการชำระเงินรายใหม่ไปแล้วจำนวน 17 ราย รวม 32 ใบอนุญาต และอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 10 ราย ทั้งนี้ ธปท. ได้กำหนดกระบวนการพิจารณาอนุมัติใบอนุญาตที่ชัดเจน โดยใช้เวลา 60 วันนับตั้งแต่วันที่ยื่นเอกสารครบถ้วนถูกต้องแล้ว ซึ่งรายละเอียดการขออนุญาตเพื่อประกอบธุรกิจได้เผยแพร่ผ่านคู่มือประชาชนบนเว็บไซต์ ธปท.https://www.bot.or.th/Thai/PaymentSystems/PSA_Oversight/Application_Manual/Pages/default.aspx โดยการพิจารณาได้ให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยง รูปแบบการประกอบธุรกิจ ความมั่นคงเข้มแข็งของระบบงาน และการคุ้มครองผู้ใช้บริการ รวมทั้งการปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลที่ดีและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง สำหรับธุรกรรมโอนเงินและชำระเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ พร้อมเพย์ ปัจจุบันมียอดลงทะเบียนแล้ว 52 ล้านหมายเลข ธุรกรรมเฉลี่ย 11 ล้านรายการต่อเดือน และในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 มีจำนวนธุรกรรมสูงสุดถึง 16 ล้านรายการในเดือนเมษายน 2563 และมีร้านค้าที่รับชำระด้วย QR Code กว่า 6 ล้านจุด มายถึง บริษัทมหาชนจำกัดที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจการรับฝากเงินที่ต้องจ่ายคืนเมื่อทวงถามหรือเมื่อครบกำหนดระยะเวลา ให้สินเชื่อ ซื้อขายตั๋วแลกเงิน ซื้อขายเงินตราต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัยและหลักทรัพย์ ธุรกิจอนุพันธ์ทางการเงิน ธุรกิจธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ (e-banking) ธุรกิจการเงินและธุรกิจการให้บริการอื่น ธนาคารพาณิชย์แบ่งออกได้อีก 4 ประเภท ดังนี้
|