ส่วนในรายละเอียดอุปกรณ์จะมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบและหลายยี่ห้อโดยช่างสามารถเลือกใช้ได้ตามความสะดวกและความเหมาะสมได้เลยแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดการใช้งานอุปกรณ์ที่ถูกต้องรวมไปถึง การเรียนรู้เทคนิคในการตัดผมชายจากสถาบันสอนตัดผมชาย ที่เปิดสอนโดยเฉพาะและจะมีใบประกาศรับรองให้เพื่อยืนยันว่าเราผ่านการเรียนตัดผมชายมาโดยเฉพาะและพร้อมปฏิบัติงานและให้บริการลูกค้าที่มาใช้บริการตัดผมค่ะ หน้าแรก Uncategorized ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงสร้างของเส้นผม สำหรับช่างเสริมสวยและช่างตัดผมชายที่ควรรู้
โดย admin3654- มีนาคม 21, 20202440 0 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงสร้างของเส้นผม สำหรับช่างเสริมสวยและช่างตัดผมชายที่ควรรู้ ในวิชาการเสริมสวยหรือตัดผมชายนั้นเป็นวิชาชีพแขนงหนึ่งที่ให้บริการแก่ผู้รับบริการเกี่ยวกับการเปลี่ยนทรงผมหรือการทำผมแบบต่างๆจึงควรต้องมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเส้นผม และโครงสร้างความรู้บางต้นต่างๆที่เกี่ยวกับเส้นผมดังนี้ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเส้นผม เป็นการศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างของเส้นผมปัญหาของเส้นผมและวิธีการแก้ไขดังนี้โครงสร้างของเส้นผมมีสามส่วนดังนี้ 1. โครงสร้างของเส้นผมมี 3 ส่วนดังนี้ 1.1 คิวติเกิล เป็นส่วนนอกฉันแรกของเส้นผมมีลักษณะเป็นแผ่นใสเรียงซ้อนกันประมาณ 5 – 7 อัน คล้ายเกล็ดปลาชี้ไปทางปลายเส้นผม เป็นส่วนปกป้องเนื้อชั้นในของเส้นผมจากแสงแดดและมลภาวะแวดล้อมต่างๆ 1.2 คอร์แท็กซ์ ชั้นกลางของเส้นผมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของเส้นผม ซึ่งกำหนดความแข็งแรงความยืดหยุ่นของเส้นผม 3.3 เมตุลลา ชั้นในสุด ประกอบด้วยเซลล์ซึ่งมีลักษณะกลมใส คนที่มีผมบางมากๆอาจจะไม่มีส่วนนี้เลยก็ได้ อายุของเส้นผมแต่ละเส้นอยู่ระหว่าง 2 – 6 ปี และปกติที่ผมจะร่วงวันละ 60 ถึง 100 เส้น ผู้หญิงไทยส่วนใหญ่จะมีผมแห้งไม่มีชีวิตชีวา สีผมออกแดง ไม่มีความเหงางาม ดูด้าน และ ถือเอาการบำรุงเส้นผมด้วยการอบน้ำมันหรือครีมหมักเส้นผมนั้นจึงจำเป็นที่สุดในการทำให้เส้นผมดูสุขภาพดีและมีน้ำหนักเส้นผม หรือ ขนที่พลผิวหนังจะเป็นส่วนที่ไม่มีชีวิตอยู่การตัดผมจึงไม่รู้สึกเจ็บส่วนที่อยู่ใต้ผิวหนังจะเป็นเซลล์ที่ยังมีชีวิตโดยมีเส้น ประสาทและเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยง. ส่วนประกอบของเส้นเพราะผมนั้นคือโปรตีนผมแต่ละเส้นจะมีสามชั้นด้วยกันที่ชั้นนอก ชั้นกลางประกอบ ด้วยเม็ดสีที่ทำให้สีผมแตกต่างกันออกไปและชั้นใน สุดจะเป็นแกนกลางของเส้นผมทำให้เส้นผมมีชีวิตเฉพาะตรงส่วนโคน ที่งอกออกมาจากต่อมเล็กๆซึ่งอยู่ใต้หนังศีรษะ ส่วนผมที่พ้นออกมามากเกินไป เป็นส่วนที่ตายทั้งหมดสำหรับความรู้เพิ่งต้นเกี่ยวกับเส้นผม และ การทำผม ตกแต่งทรงผม ช่างทำผม หรือ ช่างเสริมสวยสามารถศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเส้นผม การตัดซอยผมควรจะต้องมีศิลปะคือมองดูแล้วมีความเคลื่อนไหวรูปหน้า และความแตกต่างของโครงสร้างเส้นผมเปลี่ยนแปลงไปตามลักษณะของแต่ละประเทศคนเอเชีย มีผมดำคนยุโรปมีผมสีทองสอนคนผิวดำหรือที่เรียกว่านิโกรนั้นจะมีเส้นผมหยิก ผมจะมี 3 ชั้นคือผมชั้นนอกผมชั้นในและผมชั้นกลางศรีษะของคนจะมีหลายรูปแบบแตกต่างกันไปจึงทำให้การซอยผมนั้นผิดเพี้ยนไปบ้าง หลักการซอยผม เพื่อจะกำจัดความหนาของเส้นผม การซอยผมถ้าผมแห้งเราควรใช้กรรไกรฟันปลา ส่วนการซอยผมเปียกควรใช้กรรไกรธรรมดาหรือมีดโกน ลักษณะของเส้นผมจะเป็นเครื่องกำหนดจุดตั้งต้นว่าควรจะซอยผม ใกล้กับหนังศรีษะได้มากกว่า เส้นผมอยากอาบเห็นผลก็คือถ้าซอยผมหยาบๆกับหนังศรีษะมากเกินไปปลายผมสั้นๆที่ซอยไว้จะโผล่แทง ขึ้นด้านบนสำหรับเส้นผมที่ละเอียดนั้นผมจะอ่อนและยืดหยุ่นได้ง่าย ถึงผมจะสั้น ผมก็สามารถเรียบติดกับศีรษะและไม่กระดกขึ้นมา การซอยผมนั้น จะซอยผมออกมากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับทรงผม ที่ตกแต่งให้เป็นรูปทรง ข้อแนะนำในการซอยผมซึ่งมีลักษณะ ต่างๆกันดังนี้ 1. เส้นผมละเอียดตั้งต้นซอยห่างจากหนังศีรษะประมาณ 1 / 2 นิ้วถึง 1 นิ้ว 2. เส้นผมธรรมดาตั้งต้นซอยห่างจากหนังศีรษะประมาณ 1 นิ้ว ถึง 1 นิ้วครึ่ง 3. เส้นผมหนาตั้งต้นซอยผมห่างจากหนังศีรษะประมาณนิ้วครึ่งถึง 2 นิ้ว การซอยผมต้องฝึกหัดและการฝ่ายจะต้องมีหลักการและวิธีการซอยที่ถูกต้องตลอดจนการยกมือขึ้นซอยตามระดับองศา ในสมัยก่อนมีคนเคยนิยมใช้มีดโกนในการซอยผมเพราะทรงผมโดยมากจะเป็นทรงผมที่นุ่มสลวยเป็นธรรมชาติหลังจากนั้นผมกับกลายเป็นเส้นผมที่มีน้ำหนักเส้นผมคมชัดโดยเฉพาะเส้นที่กรอบ เมื่อความนิยมทรงผมเปลี่ยนไปกรรไกรจึงเข้ามาแทนที่ใบมีดโกนนับจากนั้นเป็นเวลานานเลยทีเดียวที่กรรไกรได้ยึดครองอยู่ในวงการซอยผมทั่วทุกมุมโลกและได้รับการยอมรับอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากรรไกรดีกว่าใบมีดโกน แต่เป็นเพราะอิทธิพลของทรงผม ต่างๆ นั่นเอง ประวัติศาสตร์ของการซอยผมตามแบบมาตรฐานมีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1965 ในนครนิวยอร์กสหรัฐอเมริกา ช่างผมได้ค้นคว้านำหลักวิชาเรขาคณิต มาประกอบการออกแบบทรงผมแบบทรงต่างๆ แต่ยังไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร บุคคลส่วนมากยังคงนิยมทรงผมแบบยีหัวโตเหมือนเดิมถึงช่วงปลายปี ค.ศ.1960 เด็กผู้หญิงและหญิงสาวได้รับอนุญาตให้ไว้ผมเหยียดตรงและยาว เด็กผู้หญิงที่ผมไม่ได้เหยียดตามธรรมชาติต้องไปยืดรอยหยิกออกจากผมด้วยเตารีดผ้า ความนิยมผมยาวเหยียดตรงยังคงดำเนินอยู่ต่อไป โดยนักออกแบบแฟชั่นฝรั่งเศส กูแรช และการ์แด็ง และนักออกแบบแฟชั่นชาวอังกฤษ แมรี ควอนต์ พากันตัดผมนางแบบจนเกือบเป็นรูปทรงเรขาคณิตในคอลเลคชั่น กึ่งทศวรรษ ต่อมา ปี ค.ศ.1968 วิดัล ซาสซูน ผู้นำหลักการออกแบบผมมาดัดแปลงประกอบการซอยที่เรียกว่า ตัดแบบเรขาคณิตทำให้ชื่อเสียงดังไปทั่วโลก ช่างเสริมสวยทั้งในประเทศและต่างประเทศพากันไปเป็นลูกศิษย์ เพื่อศึกษาหลักการออกแบบทรงผมเป็นจำนวนมาก นับว่าเป็นหลักมาตรฐานของการออกแบบทรงผมที่ทุกคนยอมรับ เพราะสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบปฏิบัติในการประกอบอาชีพเทคนิคการซอยแบบผม แต่ละสมัยไม่แตกต่างกันมาก เพื่อต้องการให้เป็นพื้นฐานของแนวทางออกแบบผมได้มาตรฐาน ปฏิบัติได้แม่นยำผมเข้ารูปทรงดี การตัดซอยผมควรจะต้องมีศิลปะคือ ให้มองดูแล้วมีการเคลื่อนไหว รูปหน้าและความแตกต่างของโครงสร้างเส้นผมเปลี่ยนแปลงไปตามลักษณะของแต่ละประเทศ คนเอเซียมีผมดำ คนยุโรปมีผมสีทอง ส่วนคนผิวดำหรือที่เรียกว่านิโกรมีเส้นผมหยิก ผมมี 3 ชั้น คือ ผมชั้นนอก ผมชั้นใน และผมชั้นกลาง ศีรษะของคนจะมีขวัญหลายรูปแบบแตกต่างกัน ทำให้การซอยผมผิดเพี้ยนไป ดังนั้นช่างผมจะต้องศึกษาเพื่อแก้ไขปัญหาให้ได้ การซอยผมแบบมาตรฐาน ที่นิยมคือ การซอยซิกแซ็ก เป็นเทคนิคที่ทำให้ผมดูนุ่มนวลเป็นธรรมชาติไม่ต้องใช้มีดโกนซอยอีกครั้งหนึ่ง และนี่คือจุดได้เปรียบซึ่งการซอยผมแบบซิกแซ็ก ทำให้เกิดผลดี คือ ผมดูเบาบาง เส้นผมจะพลิ้วเป็นธรรมชาติ การซอยผมซิกแซ็ก จะทำให้ผมดูหนาหรือบางอย่างไรก็ได้ หากซิกแซ็กลึกผมหนาก็จะทำให้ดูบาง หากซิกแซ็กตื้นผมบางก็จะทำให้ดูหนา การซิกแซ็ก ที่เส้นกรอบผมทำให้ใบหน้าดูไม่แข็ง และดูเป็นธรรมชาติขึ้น โดยจะสามารถทำให้ผมบางโดยดูแล้วความยาวไม่สั้นลง และทำให้ได้ผมที่พลิ้วสลวย หวีและจัดรูปทรงได้ง่าย ตลอดจนเทคนิคการซอยผมก็ยังเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป เพราะต้องการผมประเภทนุ่มสลวยเป็นธรรมชาติ เช่นเดียวกับการซอยผมด้วยใบมีด ซึ่งเป็นวิธีการซอยแบบเก่ากว่ากรรไกร และยังมีเทคนิคการซอยอีกวิธีหนึ่ง ที่จะได้ผมที่นุ่มสลวยเป็นธรรมชาติ โดยมากมักได้ผมที่บางและเบา การซอยด้วยใบมีด อาศัยหลักเช่นเดียวกันกับกรรไกร แต่วิธีการซอยและผลที่ออกมาจะไม่เหมือนกันซึ่งการซอยผมด้วยมีดโกนมี 3 วิธีดังนี้ 1.การถากและตัด โดยจะถากผมสูงหรือต่ำ ขึ้นอยู่กับความต้องการผมหนาหรือบาง เมื่อถากมาถึงปลายผมตามต้องการ ให้ออกแรงกดผมก็จะขาด 2.การตัดและดึงเข้าหาตัว โดยกดปลายมีดลงบนเส้นผม ออกแรงดึงเข้าหาตัวเล็กน้อยผมจะขาด ผมที่ได้จะมีลักษณะค่อนข้างหนาเพราะไม่ได้ถากผม 3.การตัดและโยกผม โดยวิธีกดใบมีดไว้และโยกผมหรือเหวี่ยงผมไป ให้เคลื่อนมีดโกนตามด้วย ผมจะขาด และถากจากแรงเหวี่ยงเล็กน้อย ผมจะไม่หนาเกินไป ในขณะเดียวกันก็ไม่บางเกินไป ที่ผ่านมามีคนเคยนิยมใช้มีดโกนในการซอยผม เพราะทรงผมโดยมากเป็น ทรงผมที่นุ่มสลวยเป็นธรรมชาติ หลังจากนั้นผมกลับกลายเป็นตรงที่มีน้ำหนัก เส้นผมคมชัด โดยเฉพาะที่เส้นกรอบ เมื่อความนิยมทรงผมเปลี่ยนไปกรรไกรจึงเข้ามาแทนที่มีดโกน นับจากนั้นมาเป็นเวลานานทีเดียว ที่กรรไกรได้ยึดครองอยู่ในวงการซอยผมทั่วทุกมุมโลกให้การยอมรับอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของทรงผมเป็นตัวกำหนดนั้นเอง การซอยผมดว้ยกรรไกร การตัดซอยแบบตรงๆ 1.การซอยตรงๆแนวนอน 2.การซอยตรงๆแนวตั้ง 3.การซอยตรงๆแนวทะแยง 4.การซอยแนวโค้ง 5.การซอยแบบผสมผสาน การตัดซอยแบบซิกแซ็ก 1.การซอยซิกแซ็กแนวนอน 2.การซอยซิกแซ็กแนวตั้ง 3.การซอยซิกแซ็กแนวทะแยง 4.การซอยซิกแซ็กแนวโค้ง 5.การซอยซิกแซ็กแบบผสมผสาน การตัดซอยแบบสไลด์ 1.การซอยสไลด์แนวนอน 2.การซอยสไลด์แนวตั้ง 3.การซอยสไลด์แนวทะแยง 4.การซอยสไลด์แนวโค้ง 5.การซอยสไลด์ผสมผสาน การตัดซอยผมด้วยปัตตาเลี่ยน 1.การตัดแนวนอน 2.การตัดแนวตั้ง 3.การตัดแนวทะแยง 4.การตัดแนวโค้ง 5.การตัดผสมผสาน 6.การแกะลายผม เรียนรู้โครงสร้างเส้นผม ก่อนการออกแบบ-ตัดซอย นอกจากที่เราจะต้องรู้เรื่องโครงสร้างเส้นผมแล้ว จะต้องรู้ลึกไปถึงส่วนประกอบของเส้นผมด้วยว่า ในผมหนึ่งเส้นจะแบ่งชั้นผมออกเป็น 3 ชั้นคือ ผมชั้นนอก ผมชั้นใน และผมชั้นกลาง(แกนผม) ชั้นของเส้นผมแต่ละชั้นจะทำหน้าที่ต่างกัน ซึ่งแต่ละชั้นเพื่อประโยชน์ของการทำเคมีเป็นสำคัญ ไม่เพียงแต่ชั้นของเส้นผมเท่านั้นที่ต้องทำความเข้าใจ ศีรษะของคนก็ยังมีขวัญหลายรูปแบบที่ต่างกันออกไป ซึ่งจะทำให้มาตรฐานของการตัดซอยผมผิดเพี้ยนต่างกันออกไป ต้องทำความเข้าใจเช่นกัน สำหรับวัตถุประสงค์หลักของการตัดซอยผมนั้น ก็เพื่อจะกำจัดความหนาแน่นของเส้นผม การซอยผมถ้าผมแห้ง ควรจะใช้กรรไกรฟันไล่เพื่อลดความหนา ส่วนการซอยผมเปียกควรใช้กรรไกรธรรมดาหรือมีดโกนในตัดซอย ส่วนผมสั้นและปานกลาง ควรใช้ปัตตาเลี่ยนในการตัดซอย[สวยและรวดเร็ว] ซึ่งลักษณะของเส้นผม จะเป็นตัวกำหนดจุดตั้งต้นว่า ควรจะซอยผมใกล้กับหนังศีรษะได้มากน้องแค่ไหน เช่นกรณีเส้นผมที่มีความละเอียด สามารถซอยผมให้ใกล้กับหนังศีรษะได้มากกว่าเส้นผมหยาบ เหตุผมก็คือ ถ้าซอยผมหยาบใกล้กับหนังศีรษะมากเกินไปปลายผมสั้นๆที่ซอยไว้ จะโผล่แทงขึ้นด้านบน ส่วนผมที่ละเอียดนั้น ผมจะอ่อนและยืดหยุ่นได้ง่าย ถึงจะซอยผมให้สั้นผมก็ยังคงเรียบติดกับศีรษะ ไม่กระดกขึ้นมา การซอยผมนั้นจะซอยผมออกมากน้อยเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับทรงผมที่ตกแต่งให้เป็นรูปทรง |