หน่วยที่ 1 พื้นฐานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ from ekkachai kaikaew การศกึ ษาวิชาเครอื ข่ายคอมพิวเตอรเ์ บื้องตน้ เปน็ วิชาทเ่ี นน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคัญ เพือ่ ปลูกฝังให้พัฒนาตนเองเข้าสอู่ าชีพอย่าง สม่าเสมอ และนาไปประยกุ ต์กับการใช้คอมพวิ เตอร์เพอ่ื วางแผนใช้ในการทางานสาหรับชวี ิตประจาวันตอ่ ไป และยงั เปน็ การใหผ้ ู้เรียน จุดประสงค์การเรยี นรู้ 2.บอกแนวทางวัดผลและการประเมินผลการเรียนรูไ้ ด้ 3.มีการพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผสู้ าเร็จการศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา ท่ีครูสามารถสงั เกตได้ขณะทาการสอนในเรอื่ ง 3.1 ความมมี นุษยสมั พันธ์ 3.8 การละเว้นสง่ิ เสพติดและการพนัน 3.2 ความมวี นิ ยั 3.9 ความรกั สามคั คี 3.3 ความรบั ผดิ ชอบ 3.10 ความกตัญญกู ตเวที 3.4 ความซ่ือสตั ย์สจุ ริต 3.5 ความเชื่อม่นั ในตนเอง 3.6 การประหยัด 3.7 ความสนใจใฝร่ ู้ สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กีย่ วกบั หลกั การทางาน และกระบวนการของระบบเครอื ขา่ ย เนอื้ หาสาระ 1.บอกจดุ ประสงคร์ ายวิชา สมรรถนะรายวิชา และคาอธบิ ายรายวชิ าตามหลกั สูตรฯ ได้ กิจกรรมการเรียนรู้ ข้ันนาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1.ครผู ู้สอนแนะนาจดุ ประสงค์ท่ผี ูเ้ รยี นจะได้จากหลักสูตร โดยกาหนดใหผ้ ูเ้ รยี นทกุ คนต้องมีความรู้ 2.ผ้เู รียนยกตัวอยา่ งการเชอื่ มตอ่ คอมพิวเตอรเ์ ขา้ ด้วยกนั จากคอมพิวเตอรส์ องเคร่ืองทม่ี ีการเชอื่ มตอ่ กนั 2 ก็มกี ารเชือ่ มตอ่ คอมพิวเตอรม์ ขี นาดท่ใี หญ่กวา่ เดมิ เรียกได้วา่ เป็นการเช่ือมโลกเขา้ ด้วยกนั ทาใหก้ ารสอ่ื สารเปน็ ไปได้ง่ายและสะดวก ขน้ั สอน ข้ันสรปุ และการประยุกต์ จาเป็นโดยท่วั ไป ซ่งึ ทกุ คนจะต้องวางแผนการทางานตา่ ง ๆ ในอนาคต สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้ 1.หนงั สอื เรียน วชิ าเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรเ์ บอื้ งตน้ ของสานักพมิ พเ์ อมพันธ์ หลักฐาน 1.บนั ทึกการสอน การวัดผลและการประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล พึงประสงค์ เครือ่ งมือวดั ผล 1. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ร่วมกันประเมิน 3 เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไม่มีชอ่ งปรบั ปรงุ สภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ แนะนาใหศ้ ึกษาข้อมูลเพ่ิมเตมิ เกี่ยวกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์เกยี่ วกับหลกั การพน้ื ฐานคอมพวิ เตอร์ บนั ทึกหลังการสอน ข้อสรุปหลงั การสอน 4 แผนการจดั การเรยี นรแู้ บบบรู ณาการท่ี 1(ตอ่ ) หน่วยที่ 1 รหสั 20204-2005 เครือข่ายคอมพวิ เตอร์เบ้ืองต้น (2-2-3) สอนครงั้ ท่ี 1 (2-3) สาระสาคญั ปจั จุบันคอมพวิ เตอร์เข้ามามีบทบาทในชวี ิตประจาวัน และในการทางานของมนุษย์มากขนึ้ ซึ่งถือว่าเปน็ ปจั จัยที่มคี วามสาคญั ตอ่ มนุษย์มาก และส่ิงทที่ าให้คอมพวิ เตอรม์ ปี ระสทิ ธภิ าพมากข้นึ คือการเชอื่ มตอ่ คอมพวิ เตอรเ์ ข้าดว้ ยกนั จากคอมพวิ เตอรส์ องเคร่ือง ได้งา่ ยและสะดวกมากขนึ้ โดยในปัจจุบันการเชอ่ื มต่อคอมพิวเตอรเ์ ข้าดว้ ยกนั นัน้ ถือวา่ เป็นยคุ ไร้พรมแดน ทุกคนท่วั ทุกมุมโลกสามารถ ติดตอ่ สอ่ื สารดว้ ยกันได้ ทาให้เกิดความสะดวกสบายในการตดิ ต่อสอ่ื สาร และการแลกเปล่ยี นข้อมลู ระหว่างกนั ไดอ้ ย่างงา่ ยดาย จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1 อธบิ ายความหมายและความสาคัญของเครือขา่ ยคอมพิวเตอรไ์ ด้ 4.1 ความมีมนุษยสมั พนั ธ์ สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กี่ยวกบั หลักการทางาน และกระบวนการของระบบเครือข่าย เน้อื หาสาระ 1 ความหมายและความสาคญั ของระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ 5 กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นาเข้าสูบ่ ทเรียน 1.ครูสนทนากบั ผ้เู รียนเพอ่ื ให้เหน็ ความสาคญั ของเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ โดยการสรา้ งระบบเครอื ข่าย 2.ครแู นะนาให้ผเู้ รยี นมกี ารวางแผนเรยี นวิชาเครือข่ายคอมพวิ เตอรเ์ บ้ืองตน้ ข้นั สอน 4.ครูใช้เทคนิควธิ ีสอนแบบบรรยาย (Lecture Method) ด้วยการเลา่ อธบิ ายแสดงสาธติ ให้ผเู้ รยี นเป็นผูฟ้ งั 5.ครูใช้เทคนคิ วธิ สี อนแบบใชโ้ สตทัศนวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ สี อนทีน่ าอุปกรณโ์ สต 6.ครูใช้การจัดการเรยี นรู้แบบบรรยาย (Lecture Method) คือ กระบวนการเรียนรทู้ ผ่ี ้สู อนเป็นผู้ถ่ายทอดความรใู้ ห้แก่ผเู้ รยี น ได้ ทม่ี ุ่งพัฒนากระบวนการทางความคดิ ของผเู้ รยี น โดยผูส้ อนจะปอ้ นคาถามในลักษณะตา่ ง ๆ ที่เป็นคาถามทด่ี ี สามารถพัฒนาความคิด 6 4.1 การส่งสญั ญาณทางเดยี ว (One-Way Transmission หรือ Simplex) 5.2 สัญญาณดิจิตอล (Digital Signal) เป็นสัญญาณท่ีมคี ่าได้สองสถานะ 6.ครูอธบิ ายการส่อื สารขอ้ มลู ในเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ จะมสี ่ือกลางสาหรับเช่อื มตอ่ เพอ่ื เช่ือมโยงไปยงั สถานี หรือเคร่ืองคอมพิวเตอรต์ า่ งๆ เข้าด้วยกนั เปน็ ตัวกลางใหผ้ สู้ ง่ ข้อมลู ทาการส่งขอ้ มลู ไปยงั ผรู้ บั สือ่ กลางของการส่ือสารขอ้ มลู แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังน้ี 1) การสื่อสารทางกายภาพ (Physical Media) 2) ส่อื กลางแบบไรส้ าย (Wireless Media) 7.ครูอธบิ ายหลักการพิจารณาเลือกใช้สอ่ื กลาง ซ่ึงควรพิจารณาดังน้ี 7.1 ต้นทนุ 7.2 ความเรว็ 7.3 ระยะทาง 7.4 สภาพแวดลอ้ ม 7.5 ความปลอดภัยของขอ้ มูล หา 8.ผเู้ รียนพิจารณารปู ภาพทค่ี รูกาหนดให้ และบอกความสมั พนั ธร์ ะบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรอ์ ย่างไรบ้าง 9.ผู้เรยี นศึกษาวา่ ภายในสถานศกึ ษาของตนเอง มีการเชอ่ื มตอ่ เครือขา่ ยคอมพวิ เตอรเ์ ข้าดว้ ยกันอย่างไรบ้าง และบอกถึง ประโยชน์ท่จี ะไดร้ บั จากการใช้งานเครือข่ายของหน่วยงาน พร้อมวาดแผนภมู ิการเชอ่ื มตอ่ เครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ประกอบ 10.ครูแนะนาเพม่ิ เติมให้ผเู้ รยี นรจู้ กั บนั ทกึ บัญชรี ายรบั -รายจ่ายในชวี ติ ประจาวนั ของตนเอง เพือ่ สร้างนสิ ยั ความประหยัด ความพอเพยี งให้แกต่ นเองและครอบครวั ข้ันสรุปและการประยุกต์ และหลกั การพจิ ารณาเลือกใชส้ ่ือกลาง โดยการถามตอบ 7 13.สรุปโดยการถาม-ตอบ เพอื่ ประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตประจาวันและประเมินผเู้ รยี นตามแบบฟอรม์ ตอ่ ไปน้ี ช่ือผเู้ รยี น ประสบการณ์พนื้ ฐานการเรียนรู้ วธิ กี ารเรียนรู้ 1. 2. 3. 4. 5. สื่อและแหล่งการเรยี นรู้ หลักฐาน 2.ใบเชค็ รายชื่อ การวัดผลและการประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล เครอ่ื งมือวัดผล 1. แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 8 เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง ไม่มีช่องปรบั ปรงุ กับการประเมนิ ตามสภาพจริง กิจกรรมเสนอแนะ 1.ผเู้ รียนวางแผนศึกษาวชิ าเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรเ์ บ้อื งตน้ บันทึกหลังการสอน ขอ้ สรุปหลงั การสอน 9 แผนการจัดการเรียนรแู้ บบบรู ณาการท่ี 2 หน่วยท่ี 2 สาระสาคญั ปัจจบุ นั คอมพวิ เตอร์เข้ามามบี ทบาทในชีวติ ประจาวนั และในการทางานของมนษุ ยม์ ากขน้ึ ซึ่งถือวา่ เป็นปัจจยั ท่มี คี วามสาคญั ทม่ี กี ารเชอื่ มตอ่ กนั กม็ กี ารเช่อื มตอ่ คอมพวิ เตอรม์ ขี นาดท่ีใหญ่กวา่ เดิม เรยี กได้ว่าเป็นการเชื่อมโลกเขา้ ด้วยกนั ทาใหก้ ารสื่อสารเปน็ ไป ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น โดยในปัจจบุ ันการเช่อื มตอ่ คอมพวิ เตอรเ์ ข้าด้วยกนั นัน้ ถือว่าเปน็ ยคุ ไรพ้ รมแดน ทกุ คนท่ัวทกุ มมุ โลกสามารถ ตดิ ตอ่ สอื่ สารด้วยกนั ได้ ทาให้เกิดความสะดวกสบายในการตดิ ตอ่ สอ่ื สาร และการแลกเปล่ียนขอ้ มลู ระหว่างกันได้อย่างง่ายดาย จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2 บอกองค์ประกอบของเครอื ข่ายคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 3.มกี ารพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ของผสู้ าเรจ็ การศึกษาสานกั งานคณะกรรมการการ อาชวี ศึกษา ทีค่ รูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง 3.1 ความมมี นุษยสัมพนั ธ์ 3.6 การประหยัด 3.2 ความมวี นิ ัย 3.7 ความสนใจใฝร่ ู 3.3 ความรบั ผิดชอบ 3.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั 3.4 ความซือ่ สตั ย์สจุ ริต 3.9 ความรกั สามคั คี 3.5 ความเชื่อมน่ั ในตนเอง 3.10 ความกตัญญูกตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กยี่ วกบั หลักการทางาน และกระบวนการของระบบเครือข่าย เนอ้ื หาสาระ 1 มาตรฐานของระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นาเข้าส่บู ทเรียน 1.ครูแนะนาการจดั กจิ กรรมการเรยี นร้โู ดยใช้แบบโมเดลซปิ ปา (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความร้เู ดมิ จากสัปดาหท์ ี่ 2.ครูแสดงรูปภาพการเขา้ รหสั ข้อมูลในการสง่ ผา่ นเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ใหผ้ เู้ รียนดู แลว้ แสดงความคดิ เห็น เพื่อเชื่อมโยงเข้า 3.ครูแนะนาใหผ้ เู้ รยี นศึกษาเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ เพอ่ื ใหน้ าไปใชไ้ ด้ถูกต้อง 10 4.ครูใชเ้ ทคนิดวธิ กี ารจดั การเรียนรแู้ บบรว่ มมอื (Cooperative Learning) หมายถงึ กระบวนการเรียนรู้ที่จัดให้ผเู้ รยี นได้ 4.1 แบง่ ผูเ้ รียนออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ 9.ผู้เรียนบอกสญั ญาณอนาล็อก (Analog Signal) และสัญญาณดิจติ อล (Digital Signal) โดยครเู ปน็ ผกู้ าหนดชนิดของ 10.ผ้เู รียนพิจารณารปู ภาพทค่ี รกู าหนดให้วา่ เป็นการสง่ สญั ญาณข้อมลู ในรปู แบบใด สรปุ และการประยุกต 15.ครแู ละผเู้ รยี นช่วยกันสรุปมาตรฐานของระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ และองค์ประกอบของเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ โดยให้ 16.ผเู้ รยี นทากิจกรรมใบงาน แบบฝกึ หัด แบบฝึกปฏิบตั ิ และแบบประเมินผลการเรียนรู้ 11 18.ประเมินธรรมชาติของผู้เรยี น และวเิ คราะหผ์ ู้เรียนเปน็ รายกลุ่มตามวิธีการเรียนรู้ ชือ่ ผู้เรียน ธรรมชาตขิ องผเู้ รยี น วธิ กี ารเรยี นรู้ 1. 2. 3. แบบวเิ คราะหผ์ ้เู รยี นเปน็ รายกล่มุ ตามวธิ กี ารเรียนรู้ 1. สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ 1.หนงั สือเรียน วิชาเครือข่ายคอมพิวเตอรเ์ บ้อื งตน้ ของสานกั พมิ พ์เอมพันธ์ หลักฐาน 1.บันทึกการสอน การวดั ผลและการประเมินผล วธิ วี ัดผล 12 เครื่องมอื วดั ผล การประเมินตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1.แนะนาใหผ้ ู้เรยี นอ่านทบทวนเนอื้ หาเพิม่ เตมิ แบบประเมินผลการเรยี นร้หู นว่ ยที่ 1 1. การเช่ือมต่อคอมพิวเตอรเ์ ขา้ กนั ด้วยสายเคเบลิ 13 4 การเชอ่ื มโยงคอมพิวเตอรเ์ ขา้ ดว้ ยกันทาให้เกิดประโยชน์ของคอมพวิ เตอรใ์ นด้านใด 1. สะดวกและประหยดั คา่ ใช้จา่ ย 2. เกดิ การทางานในลักษณะกลมุ่ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ และอปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์ 3. ลดความซา้ ซอ้ นและสามารถกาหนดมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยให้แกแ่ ฟม้ ขอ้ มลู 4. ตดิ ต่อสือ่ สารกับเคร่ืองคอมพิวเตอร์อ่นื โดยอาศัยโปรแกรมส่อื สารทีม่ ีความสามารถใชเ้ ปน็ เคร่อื งคอมพวิ เตอรไ์ ด้ เชน่ เดยี วกนั 5 ถ้าผเู้ รียนทางานอยูใ่ นโรงพยาบาลแหง่ หนึง่ ของรัฐบาล ซ่ึงมหี ลายแผนกและมจี านวนผ้ปู ว่ ยจานวนมาก ผ้เู รียนคิดว่าขอ้ ใดเป็น ความสาคญั ของระบบเครือขา่ ยคอมพิวเตอรท์ จี่ าเป็นต้องนามาใช้ในโรงพยาบาล 1. ทาใหเ้ กดิ การทางานในลกั ษณะกล่มุ ของเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ และอปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์ 2. สามารถขยายอาณาเขตในการสื่อสารข้อมูลไดอ้ ยา่ งครอบคลุมกวา้ งขวางได้ไกลยงิ่ ขน้ึ 3. ลดความซา้ ซอ้ นและสามารถกาหนดมาตรฐานการรกั ษาความปลอดภัยใหแ้ กแ่ ฟม้ ขอ้ มูล 4. การใชท้ รัพยากรในระบบคอมพิวเตอร์ร่วมกนั โดยผู้ใช้คอมพวิ เตอร์ทุกเครอื่ งทีอ่ ยใู่ นระบบเครอื ข่าย สามารถใชท้ รัพยากร ร่วมกันได้ 6 คน อุปกรณท์ ่ใี ช้กาเนิดข่าวสาร หรอื แหล่งกาเนิด เปน็ ต้นทางของขอ้ มลู ข่าวสาร คือองค์ประกอบใด ของระบบส่อื สารข้อมลู 1. ผ้รู บั สาร 2. ผสู้ ่งสาร 3. สือ่ กลาง 4. ขอ้ มลู ขา่ วสาร 7 ข่าวสารทีจ่ ะส่งผา่ นทางเครอื ข่ายคอมพวิ เตอรจ์ ะต้องทาอยา่ งไรเพอ่ื ส่งไปยงั สอื่ กลางหรือตวั กลาง 1. แปลงสญั ญาณและเข้ารหสั 2. ส่งผา่ นทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 3. สง่ ทางสายไฟ สายเคเบลิ สายไฟเบอรอ์ อพติก 4. แปลงสญั ญาณ (Decoding) ใหก้ ลับมาเปน็ ข้อมลู ขา่ วสาร 8 ข้อใดคือการส่งสญั ญาณทางเดยี ว 1. วทิ ยุส่ือสาร 2. วิทยสุ นาม 3. โทรศัพทม์ อื ถือ 4. วทิ ยกุ ระจายเสยี ง 9 การสง่ สญั ญาณแบบใดเป็นการส่งสญั ญาณแบบสมบรู ณแ์ บบ 1. การสง่ สัญญาณทางคู่ 2. การส่งสัญญาณกงึ่ ทางคู่ 3. การส่งสัญญาณทางเดยี ว 4. การส่งสัญญาณที่มลี กั ษณะเปน็ คล่นื ต่อเนื่อง 10 จากภาพดา้ นล่างคอื รูปแบบการสง่ สญั ญาณแบบใด 1. สัญญาณดจิ ติ อล 2. สญั ญาณอนาลอ็ ก 3. สัญญาณดาวเทยี ม 4. สัญญาณโทรศพั ทเ์ คลื่อนท่ี 11 สญั ญาณใดเปน็ สัญญาณที่มกั จะเกดิ ขึน้ ตามธรรมชาติ เปน็ สญั ญาณทม่ี คี วามต่อเน่อื งไมไ่ ดเ้ ปลย่ี นแปลงอย่างรวดเรว็ 1. สัญญาณดิจติ อล 2. สัญญาณอนาล็อก 3. สัญญาณทีวีดิจิตอล 4. สญั ญาณดาวเทยี ม 12 ข้อใดคือลกั ษณะการสื่อสารทางกายภาพ 1. ใช้คล่นื วิทยุ หรอื บลทู ธู 2. ส่งข้อมลู ดว้ ยคลื่นอินฟราเรด 3. ใช้อากาศเปน็ สื่อกลางลกั ษณะสอ่ื กลางท่ไี รส้ าย 4. อาศยั สายสญั ญาณทีท่ าหน้าที่เป็นสื่อกลางในระบบสือ่ สารข้อมลู 13 สายสญั ญาณประเภทใดทีน่ ยิ มใช้เ ปน็ สายโทรศพั ท เพอื ่ สง่ สญั ญาณโทรศพั ท์ 1. สายค่บู ดิ เกลียว 2. สายโคแอกเชยี ล 3. สายใยแก้วนาแสง 4. สายสัญญาณแบบไร้สาย 14 สายสัญญาณใดสามารถส่งข้อมลู ได้จานวนมากเป็นระยะทางไกลด้วยความเร็วทส่ี งู แต่ขอ้ เสียคือมีความเสียหายไดง้ ่าย และมี ราคาทีส่ งู 1. สายเคเบลิ 2. สายคู่บิดเกลียว 3. สายโคแอกเชยี ล 4. สายใยแก้วนาแสง 14 15 โทรศัพทม์ ือถือท่เี ราใช้กันอยูใ่ นปจั จุบนั ใชส้ ่อื กลางไร้สายแบบใดในการนาสัญญาณ 1. คล่นื วิทยุ 2. อินฟราเรด 3. ไมโครเวฟ 4. ดาวเทียม 16 การสอ่ื สารใดทม่ี คี วามเรว็ สงู สง่ สญั ญาณเปน็ ทอดๆ จากสถานหี น่ึงไปยงั สถานหี นึง่ ในแนว เส้นตรง ไมส่ ามารถส่งเปน็ เส้นโค้ง หรอื หักเลยี้ วได้ 1. คลืน่ วิทยุ 2. อนิ ฟราเรด 3. ไมโครเวฟ 4. ดาวเทียม 17 เพราะเหตุใดการส่ือสารข้อมลู ควรมีการเขา้ รหัสข้อมลู กอ่ นที่จะสง่ ไปยังสอื่ กลาง และผรู้ บั ต้องมกี ารถอดรหสั ทใ่ี ชม้ าตรฐาน เดียวกนั จึงจะสามารถนาขอ้ มูลน้ันไปใชไ้ ด้ 1. ลดตน้ ทุน 2. มีความรวดเร็ว 3. ความปลอดภยั ของข้อมูล 4. ใชร้ ะยะทางในการส่งขอ้ มูลนอ้ ยลง 18 IEEE คอื อะไร 1. สอ่ื กลางในการส่งข้อมลู 2. การส่อื สารขอ้ มูลในเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ 3. คณะกรรมการกาหนดมาตรฐานเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ 4. การกาหนดคุณสมบตั ิในระดบั ของอุปกรณก์ ารสอ่ื สารข้อมูล 19 ขอ้ ใดคือองคป์ ระกอบของเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ 1. IEEE 2. สายสัญญาณ 3. ช่องทางการสอ่ื สาร 4. ผใู้ ชเ้ ครื่องคอมพิวเตอร์ 20 ขอ้ ใดคืออปุ กรณ์ที่ใชใ้ นการสอ่ื สาร 1. Windows 7 2 . Windows 8 3. MAC OS 4 . Switching เฉลยเแบบประเมินผลการเรียนรหู้ นว่ ยท่ี 1 1.4 6.2 11.2 16.3 2.1 7.2 12.4 17.3 3.2 8.4 13.1 18.3 4.4 9.1 14.4 19.3 5.4 10.1 15.2 20.4 บันทกึ หลังการสอน ขอ้ สรุปหลังการสอน ปัญหาที่พบ 15 แผนการจัดการเรยี นรแู้ บบบูรณาการท่ี 3 หน่วยที่ 2 สาระสาคัญ การสื่อสารในเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ สิ่งทส่ี าคญั ท่ีขาดไมไ่ ด้ คือ อปุ กรณ์ทใ่ี ชใ้ นการสอื่ สารในปัจจุบนั มีอุปกรณณท์ ่ชี ่วยในการ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1 บอกอปุ กรณเ์ ก่ียวกบั เครือขา่ ยคอมพิวเตอรไ์ ด้ 2 อธิบายการด์ ในการเช่ือมตอ่ เครอื ข่ายได้ 3 อธบิ ายสายสญั ญาณ หรอื สายเคเบิลได้ 4 อธบิ ายพอร์ต RJ-11 และ RJ-45 (Registered Jack) ได้ 5 อธบิ ายโมเด็ม (Modem) ได้ 6 อธิบายเราเตอร์ (Router) ได้ 7.มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สาเร็จการศึกษา สานักงานคณะกรรมการ การอาชวี ศกึ ษา ท่ีครสู ามารถสังเกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง 7.1 ความมีมนษุ ยสัมพันธ์ 7.6 การประหยดั 7.2 ความมวี นิ ยั 7.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 7.3 ความรับผดิ ชอบ 7.8 การละเว้นสิ่งเสพติดและการพนัน 7.4 ความซอื่ สตั ยส์ จุ รติ 7.9 ความรกั สามคั คี 7.5 ความเชอื่ มัน่ ในตนเอง 7.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กยี่ วกับหลักการทางาน และกระบวนการของระบบเครือขา่ ย 2.ใชอ้ ปุ กรณ์และเช่อื มตอ่ ระบบเครอื ข่ายเบอ้ื งตน้ ในการปฏิบัตงิ าน 3.ประยุกตใ์ ช้งานเครือขา่ ยในการปฏบิ ัตงิ านขององคก์ ร เนอ้ื หาสาระ 1.อปุ กรณ์เก่ียวกับเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 2 การ์ดในการเชื่อมตอ่ เครอื ข่าย 3 สายสัญญาณ หรอื สายเคเบลิ 10 บริดจ์ (Bridge) 4 พอรต์ RJ-11 และ RJ-45 5 โมเด็ม (Modem) (Server) 6 เราเตอร์ (Router) กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรียน 1.ครูสนทนากบั ผเู้ รยี นเกยี่ วกับการเชอ่ื มตอ่ คอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 2 เครอ่ื งเขา้ ดว้ ยกันนั้น นอกจากจะมเี ครื่องคอมพวิ เตอร์ ต้ังแต่ 2 เครอื่ งแล้ว ยงั ตอ้ งมอี ปุ กรณ์ทเ่ี รียกว่าอปุ กรณเ์ นต็ เวิรก์ ที่ใชใ้ นการเช่ือมตอ่ ระหวา่ งกันอีกด้วยซึ่งผใู้ ชง้ านจะตอ้ งจัดหามาเพอ่ื ทาการตดิ ตัง้ 2.ครกู ลา่ วถงึ ความสาคัญของอปุ กรณพ์ ื้นฐานทจี่ าเปน็ ติดตั้งเชอ่ื มต่อเครือขา่ ย 3.ผู้เรียนยกตัวอยา่ งอุปกรณ์เชอ่ื มต่อในปจั จบุ ัน 16 4.ครูใช้เทคนิควธิ ีการจัดการเรยี นรแู้ บบอภปิ ราย (Discussion Method) คือกระบวนการทผ่ี ้สู อนมุง่ ให้ 5.ครใู ชเ้ ทคนิควธิ ีสอนแบบใชโ้ สตทศั นวัสดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ ีสอนท่นี าอุปกรณโ์ สต 6.ครูและผเู้ รยี นใชเ้ ทคนคิ การจดั การเรยี นรูแ้ บบสาธิต (Demonstration Method) คอื กระบวนการท่ผี ู้สอน หรือบุคคลใด 7.ครสู าธติ โดยแสดงการด์ ในการเชือ่ มต่อเครอื ข่าย (Network Interface Card) หมายถึง แผงวงจรสาหรบั 8.ครใู ชเ้ ทคนคิ การอธิบายเก่ียวกบั สายสญั ญาณ หรอื สายเคเบลิ และแสดงรูปภาพ โดยแสดงสอ่ื Power Point ประกอบ (1) เงอื่ นไขความรู้ เป็นความรอบร้เู กี่ยวกบั วิชาการตา่ ง ๆ ทเ่ี กีย่ วขอ้ ง ความรอบคอบทจ่ี ะนาความรเู้ หลา่ น้นั มาพิจารณาให้ (2) เงอ่ื นไขคณุ ธรรม เป็นสง่ิ ทีต่ อ้ งเสรมิ สรา้ งให้มคี วามตระหนักในคณุ ธรรม มคี วามซื่อสตั ย์สุจริตและมคี วามอดทน มคี วาม 17 ขัน้ สรุปและการประยุกต์ สายสญั ญาณ หรอื สายเคเบลิ 10 บริดจ์ (Bridge) พอร์ต RJ-11 และ RJ-45 โมเดม็ (Modem) (Server) 14.ผู้เรยี นทาใบงาน แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ 15.ประเมินผเู้ รียนตามแบบฟอรม์ ตอ่ ไปนี้ แบบประเมนิ ประสบการณ์พ้นื ฐาน ชื่อผู้เรียน ประสบการณพ์ ื้นฐานการเรียนรู้ วธิ กี ารเรยี นรู้ 1. 2. 3. 4. 5. สือ่ และแหล่งการเรียนรู้ 1.หนงั สือเรยี น วิชาเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรเ์ บ้อื งต้น ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ หลกั ฐาน 1.บันทกึ การสอน 18 การวัดผลและการประเมินผล วธิ วี ัดผล 12 ประการ 6. ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้ และแบบฝกึ ปฏิบัติ เครอื่ งมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล ต้องไม่มชี ่องปรับปรงุ การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กจิ กรรมเสนอแนะ 1.ทากิจกรรมใบงาน 19 บนั ทึกหลังการสอน ข้อสรุปหลงั การสอน 20 แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการที่ 4 หน่วยที่ 2 รหัส 20204-2005 เครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์เบ้อื งตน้ (2-2-3) สอนครัง้ ที่ 4 (10-12) ช่อื หน่วย/เรื่อง อุปกรณร์ ะบบเครอื ขา่ ย จานวน 3 ช.ม. สาระสาคญั การสอื่ สารในเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ สิง่ ที่สาคญั ท่ีขาดไมไ่ ด้ คือ อปุ กรณ์ทใี่ ชใ้ นการส่อื สารในปจั จบุ ันมีอุปกรณณท์ ชี่ ว่ ยในการ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 7 อธบิ ายฮบั (Hub) ได้ สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ทค่ี รสู ามารถสังเกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กย่ี วกับหลักการทางาน และกระบวนการของระบบเครือข่าย 21 เน้ือหาสาระ 7 ฮับ (Hub) กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้ันนาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1.ครูใชเ้ ทคนคิ การสอนแบบซปิ ปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความร้เู ดมิ จากสปั ดาหท์ ีผ่ า่ นมา โดยดงึ ความรู้ 2.ครูสนทนากบั ผเู้ รยี นเก่ียวกับฮบั เป็นอุปกรณ์ชว่ ยกระจายสญั ญาณไปยังเครื่องต่างๆ ทีอ่ ยู่ในระบบ หากเป็นระบบเครือข่าย 3.ผูเ้ รยี นเล่าเร่อื งการใช้อปุ กรณ์ฮับ ท่เี คยศกึ ษามาบา้ งแล้ว ข้ันสอน 4.ครใู ช้เทคนคิ การสอนแบบสาธิตการสรา้ งรปู ภาพโดยใช้อปุ กรณฮ์ ับ โดยใชส้ ื่อ Power Point 5.ครูใช้เทคนิคการอธิบาย และการสาธิตการเปดิ รูปภาพเพื่อนามาใช้ และใหผ้ ูเ้ รียนฝึกปฏิบตั ติ าม โดยการเปดิ รูปภาพ 22 6.ครูใชเ้ ทคนิคการสาธติ การปดิ รปู ภาพเพอ่ื นามาใช้ และใหผ้ เู้ รยี นฝกึ ปฏิบตั ติ าม โดยการปดิ รูปภาพเพ่ือนารูปภาพไปใชง้ าน 7.ครแู ละผ้เู รยี นอธบิ าย และแสดงรูปภาพเครือ่ งทวนสัญญาณ (Repeater) คือ อปุ กรณท์ ่ีทาหน้าทรี่ ับ 8.ครูและผูเ้ รยี นช่วยกันอธิบาย และแสดงรูปภาพของบรดิ จ์ (Bridge) คอื อุปกรณ์ใช้ในการเชื่อมตอ่ เครอื ขา่ ยหลายเครอื ข่าย 9.ครูและผเู้ รยี นช่วยกันอธบิ าย และแสดงรูปภาพของเกตเวย์ (Gateway) คือ อุปกรณท์ ีท่ าหนา้ ทีเ่ ช่อื มต่อเครอื ขา่ ยตา่ งๆ เข้า 10.ครูและผเู้ รียนชว่ ยกันอธบิ าย และสาธิตการใชง้ านของเคร่ืองแมข่ ่าย หรอื เครื่องเซริ ฟ์ เวอร์ (Server) หมายถึง 11.ครูและผเู้ รยี นชว่ ยกนั อธบิ าย และสาธิตการใช้งานของไคลเอนต์ (Client) หรอื เครือ่ งลูกขา่ ย เป็นคอมพิวเตอรใ์ นเครอื ขา่ ย 23 12.ผเู้ รยี นพิจารณารปู ภาพที่ครกู าหนดใหว้ า่ เปน็ อปุ กรณเ์ ครือข่ายประเภทใด 13.ผู้เรียนคน้ ควา้ หาข้อมูลอุปกรณท์ เี่ กยี่ วกบั ระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอรอ์ ยา่ งน้อยคนละ 5 ชนดิ พร้อมรปู ภาพประกอบ 14.ผเู้ รียนพจิ ารณารปู ภาพที่ครูกาหนดว่าเป็นอปุ กรณเ์ ครือขา่ ยประเภทใด และข้อดีและขอ้ เสยี 15.ผเู้ รยี นบอกลกั ษณะของสายคบู่ ิดเกลยี วชนดิ หมุ้ ฉนวน (Shielded Twisted Pair: STP) และบอกข้อดแี ละข้อเสยี ของสาย STP พร้อมหารูปภาพประกอบ และข้อดีและขอ้ เสียของสาย STP 16.ผู้เรียนบอกลกั ษณะสายใยนาแสง (Fiber Optic) และบอกข้อดแี ละขอ้ เสียของสายสายใยนาแสง (Fiber Optic) พรอ้ มหา รปู ภาพประกอบ และขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี ของสายใยนาแสง (Fiber Optic) 17.ผเู้ รยี นวาดรูปภาพ หรอื หารปู ภาพการเชอ่ื มตอ่ คอมพิวเตอรด์ ว้ ยฮบั (Hub) 18.ผเู้ รยี นวาดรูปภาพ หรอื หารปู ภาพการใชอ้ ปุ กรณบ์ รดิ จ์ (Bridge) ในการเชอ่ื มต่อ 19.ผู้เรียนแสดงรปู ภาพการเช่อื มต่อเคร่อื งแมข่ ่าย (Server) กับเครอื่ งลกู ข่าย (Client) โดยใชอ้ ุปกรณเ์ ครือขา่ ยเชื่อมต่อ เชน่ HUB เปน็ ต้น 20.ครใู หค้ วามรเู้ พิม่ เตมิ ในการทาบญั ชรี ายรับ-รายจ่าย ซึ่งเปน็ การจดบนั ทึกเหตุการณต์ ่าง ๆ เปน็ วธิ ชี ว่ ยตรวจสอบการใช้ จา่ ยของครอบครัวว่ามรี ายจา่ ยสมดุลกบั รายรับ และใชจ้ ่ายอย่างมเี หตุผลตามความจาเปน็ พอเหมาะกบั สภาพครอบครัวหรือไม่ หาก สามารถปรับเปลีย่ นพฤตกิ รรมการบรโิ ภค เพ่อื ลดรายจา่ ยทีไ่ ม่จาเปน็ เกินตนได้ จะช่วยใหม้ ีเงินเกบ็ ออมเพอ่ื เป็นรากฐานสร้าง ภูมิคุ้มกนั ทดี ใี นชวี ติ ได้ ขน้ั สรุปและการประยกุ ต์ 21.ครแู ละผเู้ รยี นสรุปอปุ กรณร์ ะบบเครอื ข่าย โดยการฝึกปฏิบตั ิ และการถาม-ตอบและนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้ 22.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมใบงาน แบบประเมินผล และแบบฝึกปฏบิ ตั ิ และประเมนิ ผู้เรียนตามแบบฟอรม์ ดงั ต่อไปน้ี ชื่อผเู้ รยี น ประสบการณ์พ้ืนฐานการเรยี นรู้ วธิ ีการเรียนรู้ 1. 2. 3. 4. 5. สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้ 1.หนังสือเรียน วชิ าเครอื ข่ายคอมพิวเตอรเ์ บ้อื งตน้ ของสานกั พิมพ์เอมพันธ์ 24 หลักฐาน 1.บนั ทกึ การสอน การวัดผลและการประเมินผล วิธวี ัดผล 12 ประการ เกณฑ์การประเมนิ ผล ปรับปรุง การประเมินตามสภาพจริง กจิ กรรมเสนอแนะ 1.ครูแนะนาใหผ้ เู้ รียนอ่านทบทวนเนอื้ หา และทากจิ กรรมใบงาน 25 แบบประเมนิ ผลการเรียนร้หู น่วยที่ 2 จงเลอื กคาตอบทถี่ กู ต้องเพียงข้อเดยี ว 1 อปุ กรณใ์ ดมหี นา้ ที่แปลงสญั ญาณจากคอมพวิ เตอรส์ ่งผา่ นไปตามสายนาสญั ญาณ ทาให้คอมพวิ เตอร์ในเครอื ขา่ ยแลกเปลย่ี นข้อมลู ขา่ วสารกนั ได้ 1. โมเดม็ 2. เราเตอร์ 3. สายสัญญาณ หรอื สายเคเบลิ 4. การด์ ในการเชื่อมตอ่ เครอื ข่าย 2 สายสัญญาณแบบใดทส่ี ายประกอบด้วยลวดทองแดงทเ่ี ป็นแกนหลกั หน่งึ เส้นทห่ี มุ้ ดว้ ยฉนวนชัน้ หนึ่ง เพื่อป้องกันกระแสไฟร่ัว จากน้นั จะหมุ้ ดว้ ยตวั นาซงึ่ ทาจากลวดทองแดงถกั เป็นเปีย 1. สายโคแอกเชยี ล 2. สายคบู่ ิดเกลียว 3. สายใยแกว้ นาแสง 4. สายคูบ่ ดิ เกลียวแบบหมุ้ ฉนวน 3 สายสัญญาณชนดิ ใดที่มรี าคาถกู มขี นาดเลก็ และง่ายต่อการใช้งาน 1. สายโคแอกเชียล 2. สายคูบ่ ิดเกลยี ว 3. สายคบู่ ิดเกลียวแบบหมุ้ ฉนวน 4. สายคูบ่ ดิ เกลียวแบบไมห่ มุ้ ฉนวน 4 สายสญั ญาณชนิดใดทม่ี กี ารสง่ ขอ้ มูลผ่านสอื่ กลางโดยใช้เลเซอร์วิ่งผา่ นช่องกลวงของเส้นใยแตล่ ะเส้น 1. สายคู่บิดเกลียว 2. สายโคแอกเชียล 3. สายใยแก้วนาแสง 4. สายไฟเบอรอ์ อพติก 5 สายสญั ญาณใดทีเ่ หมาะกับการเช่ือมโยงระหวา่ งอาคารกบั อาคาร หรอื ระหว่างเมืองกับเมือง 1. สายโคแอกเชยี ล 2. สายโทรศัพท์ 3. สายคบู่ ิดเกลียว 4. สายใยแก้วนาแสง 6 อปุ กรณ์ใดทาหน้าท่เี ป็นสอ่ื กลางในการเชือ่ มตอ่ ระหว่างคอมพิวเตอรเ์ ขา้ ดว้ ยกัน 1. ฮับ 2. พอร์ต 3. การด์ แลน 4. สายสัญญาณ 7 พอร์ต RJ-11 และ RJ-45 มขี ้อแตกตา่ งกันอยา่ งไร 1. RJ-11 ขนาดเล็กมีขา 4 ขา 2. RJ-11 ขนาดเลก็ มีขา 8 ขา 3. RJ-45 จะมขี นาดใหญ่กวา่ มขี า 4 ขา 4. RJ-45 จะมีขนาดใหญ่กวา่ มีขา 6 ขา 8 พอรต์ ใดเอาไวเ้ พื่อเช่อื มตอ่ สาหรับสาย LAN 1. RJ-11 2. RJ-12 3. RJ-45 4. RJ-46 9 เราเรียกกระบวนการแปลงสญั ญาณอนาล็อก เปน็ สญั ญาณดจิ ติ อลของโมเดม็ ว่าอยา่ งไร 1. มอดเู ลชนั่ 2. ดมี อดูเลชนั่ 3. ควิ มอดเู ลชั่น 4. อาร์มอดูเลชั่น 10 ข้อใดคือหนา้ ทขี่ องเราเตอร์ที่ถูกตอ้ งท่ีสดุ 1. ทาหน้าท่เี ป็นโมเดม็ ปล่อย WiFi 2. ตรวจสอบขอ้ มูลทด่ี ูจากแอดเดรส 3. รวมสญั ญาณรับสง่ กนั หลายๆ สถานี 4. ปรับโปรโตคอลท่แี ตกต่างกันให้สื่อสารกันได้ 11 ข้อใดกลา่ วถึงฮับ (Hub) ไดถ้ กู ตอ้ งทสี่ ุด 1. เปน็ อปุ กรณ์ที่รวมสัญญาณรับส่งหลายๆ สถานี เข้าด้วยกัน 2. เป็นอปุ กรณท์ ีร่ วมสัญญาณท่ีมาจากอุปกรณร์ บั ส่งแตล่ ะสถานีแยกกนั 3. เปน็ อุปกรณ์ทรี่ วมสัญญาณทมี่ าจากอปุ กรณร์ บั สง่ หลายๆ สถานี เข้าด้วยกนั 4. เปน็ อปุ กรณ์ท่รี วมสัญญาณท่ีมาจากอปุ กรณร์ บั สง่ หลายๆ สถานี เพือ่ มาแยกขอ้ มูลกนั 12 สวิตช์ช่วยลดปญั หาใดของขอ้ มลู 1. ลดปัญหาการสง่ ขอ้ มลู 2. ลดปญั หาการรวมกนั ของขอ้ มลู 3. ลดปญั หาการแยกกนั ของขอ้ มลู 4. ลดปัญหาการชนกันของขอ้ มลู 13 ขอ้ ใดคอื ขอ้ แตกต่างกันระหวา่ งสวติ ช์กับฮับ 1. สวิตช์จะรับกลมุ่ ข้อมลู แยกส่งกอ่ น ส่วนฮับกระจายไปทกุ สถานี 26 2. สวติ ช์จะรับกลุ่มขอ้ มลู มาตรวจสอบก่อน สว่ นฮับกระจายไปทกุ สถานี 3. ฮับจะรับกลุ่มข้อมลู มาตรวจสอบก่อน ส่วนสวติ ช์กระจายไปทกุ สถานี 4. สวติ ชจ์ ะปอ้ งกนั การดักจับข้อมลู ก่อนส่ง ส่วนฮบั ไมม่ กี ารดักจับขอ้ มลู 14 ขอ้ ใดกลา่ วถึงเกตเวยไ์ ด้ถกู ตอ้ งทีส่ ุด 1. อปุ กรณ์ท่ที าหนา้ ท่เี ชอ่ื มตอ่ เครอื ข่ายต่างๆ เขา้ ด้วยกัน 2. อปุ กรณ์ท่ีทาหนา้ ท่ีเชื่อมต่อเครอื ขา่ ยหลายเครอื ขา่ ยเขา้ ด้วยกนั 3. อปุ กรณป์ ระมวลผลหน่วยความจา หนว่ ยความจาสารอง ฐานขอ้ มูลและโปรแกรมต่างๆ 4. อุปกรณแ์ ปลงรปู แบบแพค็ เกจของโปรโตคอลหน่งึ ไปเป็นรูปแบบของอกี โปรโตคอลหน่ึง 15 ข้อใดคอื ความหมายของโปรโตคอลทีถ่ ูกตอ้ งท่ีสดุ 1. มาตรฐานการรับสง่ แบบอเี ทอรเ์ นต็ 2. ตวั แปลงสัญญาณอนาล็อกเป็นสัญญาณดจิ ติ อล 3. ป้องกนั การดกั จับข้อมลู ที่กระจายไปในเครือข่าย 4. มาตรฐานในการส่อื สารข้อมลู บนเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ 16 จากความหมายท่วี ่า “ใช้ในการเชอ่ื มตอ่ เครือขา่ ยหลายเครอื ข่ายเขา้ ดว้ ยกัน โดยจะต้องเป็นเครอื ขา่ ยท่ีใชโ้ ปรโตคอลเดยี วกัน” เปน็ ลกั ษณะการทางานของอุปกรณใ์ ด 1. ฮับ 2. บรดิ จ์ 3. สวติ ช์ 4. เกตเวย์ 17 อุปกรณใ์ ดทท่ี าใหส้ ญั ญาณสง่ ไปในระยะไกลได้ 1. บริดจ์ 2. เกตเวย์ 3. อุปกรณส์ วติ ช์ 4. เครอ่ื งทวนสญั ญาณ 18 คอมพวิ เตอรแ์ มข่ ่ายในระบบเครอื ข่ายระยะไกลท่ใี ชเ้ มนเฟรมคอมพวิ เตอรห์ รอื มินคิ อมพิวเตอร์ เป็นศนู ย์กลางของเครือขา่ ยเรานยิ มเรยี กวา่ อะไร 1. Bridge 2 . Gateway 3. Host Computer 4. Server Computer 19 ข้อใดกล่าวถงึ เครื่องแม่ข่ายหรอื เครอ่ื งเซริ ฟ์ เวอรไ์ ด้ถกู ต้องทส่ี ุด 1. คอมพวิ เตอรท์ ท่ี าหนา้ ท่ีเปน็ ผู้ใหบ้ ริการทรพั ยากรตา่ งๆ 2. ทาหน้าที่รับสัญญาณดิจิตอล แล้วสง่ ตอ่ ออกไปยงั อุปกรณต์ อ่ อืน่ 3. คอมพิวเตอร์ทท่ี าหนา้ ทเ่ี ชือ่ มตอ่ เครอื ข่ายหลายเครือข่ายเข้าด้วยกนั 4. คอมพิวเตอรท์ ที่ าหน้าที่รบั สัญญาณดิจิตอล แลว้ สง่ ต่อออกไปยังอปุ กรณต์ อ่ อื่น 20 ขอ้ ใดคือความหมายของเครอื่ งลูกขา่ ยหรือไคลเอนต์ 1. คอมพวิ เตอรเ์ ครอื่ งลูกขา่ ยสาหรับจ่ายขอ้ มลู 2. คอมพวิ เตอรท์ ่ใี ช้สาหรบั เป็นศนู ย์กลางของเครือขา่ ย 3. คอมพิวเตอรข์ องผูใ้ ช้แต่ละคนในระบบเครอื ข่ายน่นั เอง 4. คอมพวิ เตอร์ที่ใชส้ าหรับสารองฐานข้อมลู และโปรแกรมต่างๆ 27 1. 4 เฉลยแบบประเมนิ ผลการเรยี นรหู้ นว่ ยท่ี 2 บนั ทกึ หลังการสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน แผนการจดั การเรยี นรแู้ บบบรู ณาการท่ี 5 28 รหัส 20204-2005 เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบ้ืองต้น (2-2-3) หน่วยที่ 3 จานวน 3 ช.ม. สาระสาคัญ ในปัจจบุ นั เป็นโลกของข้อมลู ขา่ วสารทางคอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์ ตา่ งกม็ ีการเชื่อมโยงเขา้ ดว้ ยกนั อย่างมากมาย การ รปู แบบการเช่ือมตอ่ คอมพิวเตอรจ์ ึงมีความสาคัญเปน็ อยา่ งยง่ิ เป็นพน้ื ฐานการเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์จากคอมพวิ เตอร์เพยี ง 2 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1 อธบิ ายประเภทของเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 2.มีการพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคข์ องผสู้ าเร็จการศกึ ษาสานกั งานคณะกรรมการการ อาชีวศึกษา ทีค่ รูสามารถสังเกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่ือง 2.1 ความมมี นษุ ยสัมพนั ธ์ 2.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 2.2 ความมีวินยั 2.8 การละเว้นส่งิ เสพตดิ และการพนัน 2.3 ความรบั ผดิ ชอบ 2.9 ความรกั สามคั คี 2.4 ความซื่อสตั ย์สุจรติ 2.10 ความกตญั ญกู ตเวที 2.5 ความเชือ่ มนั่ ในตนเอง 2.6 การประหยัด สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ ก่ียวกับหลกั การทางาน และกระบวนการของระบบเครือข่าย เนื้อหาสาระ 1 ประเภทของเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1.ครูสนทนากบั ผเู้ รยี นเก่ยี วกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ จาแนกออกได้หลายประเภทแลว้ แต่เกณฑท์ ่ีใช้ เชน่ ขนาด ลกั ษณะ 1) เครอื ข่ายทอ้ งถนิ่ (Local Area Network: LAN) 29 ข้ันสอน 4.1 เครอื ข่ายแบบเพียร์ทเู พียร์ (Peer-to-Peer) และข้อดแี ละขอ้ เสยี ของเครอื ขา่ ยแบบเพยี รท์ ูเพยี ร์ 4.2 เครอื ขา่ ยแบบ Server-Based 4.3 เครือขา่ ยแบบ Client/Server และบอกข้อดีและขอ้ เสยี ของเครอื ข่ายแบบ Client/Server 5.ครูและผู้เรยี นสาธติ การทางานของระบบเครือขา่ ยแมน (Metropolitan Area Network: MAN) โดยใช้สื่อ Power Point 30 6.ครูและผูเ้ รยี นสาธติ การทางานของระบบเครือข่ายแวน (Wide Area Network: WAN) โดยใช้ส่ือ Power Point ประกอบ 7.ครแู ละผเู้ รยี นช่วยกนั สาธติ การทางานของระบบเครอื ข่ายอนิ ทราเนต็ (Intranet) และบอกความแตกต่างของระบบ 8.ครแู ละผู้เรยี นอธบิ าย และสาธติ ารทางานของระบบเครอื ข่ายอนิ เทอร์เนต็ (Internet) โดยใช้สื่อ Power Point ประกอบ 9.ครเู สนอแนะและเป็นที่ปรกึ ษาในการนาเอาแนวปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ซึ่งในกระบวนการทางานทกุ อาชีพ ซึ่ง ขนั้ สรปุ และการประยุกต์ 10.ครแู ละผเู้ รยี นสรุปโดยการถามตอบเกีย่ วกบั ประเภทของเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ และแสดงตัวอย่างประกอบ โดยเน้นให้ 31 11.ผเู้ รียนทากจิ กรรมใบงาน แบบฝึกปฏิบัติ แบบประเมนิ ผลการเรยี น เพ่ือฝึกทักษะการเรยี นรู้ใหเ้ กดิ ความชานาญในการ นาไปประยุกตใ์ ชต้ อ่ ไป 12.ผู้เรยี นรว่ มกนั ประเมนิ โดยพิจารณาจากขอ้ มูลความรู้ การใหเ้ หตผุ ล และความพร้อมในการอภปิ ราย ช่อื ผู้เรยี น ประสบการณ์พืน้ ฐานการเรียนรู้ วิธีการเรยี นรู้ 1. 2. 3. 4. สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ 1.หนงั สือเรียน วชิ าเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์เบ้อื งต้น ของสานกั พิมพเ์ อมพันธ์ หลักฐาน 1.บันทึกการสอน การวัดผลและการประเมินผล วิธวี ดั ผล ประการ เครือ่ งมอื วดั ผล 32 เกณฑก์ ารประเมินผล ต้องไม่มชี ่องปรบั ปรุง กจิ กรรมเสนอแนะ 1.ครูแนะนาให้ฝกึ ปฏิบตั ทิ ากจิ กรรมใบงาน และอ่านทบทวนเนอื้ หา บนั ทึกหลังการสอน ข้อสรุปหลงั การสอน 33 แผนการจัดการเรยี นรแู้ บบบรู ณาการท่ี 6 หนว่ ยท่ี 3 รหสั 20204-2005 เครือขา่ ยคอมพิวเตอรเ์ บอ้ื งตน้ (2-2-3) สอนครง้ั ท่ี 6 (16-18) ชื่อหน่วย/เรอ่ื ง ประเภทของเครอื ขา่ ย จานวน 3 ช.ม. สาระสาคัญ ในปจั จุบันเปน็ โลกของขอ้ มลู ข่าวสารทางคอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์ ตา่ งก็มกี ารเช่อื มโยงเข้าดว้ ยกันอย่างมากมาย การ รปู แบบการเช่ือมต่อคอมพิวเตอรจ์ งึ มคี วามสาคญั เป็นอยา่ งย่ิง เปน็ พน้ื ฐานการเช่ือมตอ่ คอมพวิ เตอรจ์ ากคอมพวิ เตอร์เพยี ง 2 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สมรรถนะรายวชิ า เน้ือหาสาระ 2 ลักษณะการเชือ่ มตอ่ ของเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน 34 เตรยี มการศกึ ษาคน้ ควา้ มาเปน็ อยา่ งดี ผ้เู รยี นเปน็ ฝา่ ยรบั ฟงั และจดบันทกึ สาระสาคญั ในขณะทฟ่ี ังบรรยาย และเปดิ โอกาสให้ 2.ครแู สดงลกั ษณะการเชอ่ื มตอ่ ของเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ และรปู แบบการเชอ่ื มต่อเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ ขั้นสอน 3.ครใู ชเ้ ทคนิคการจัดการเรียนร้แู บบอภปิ ราย (Discussion Method) เพอื่ ม่งุ ให้ผเู้ รยี นมีโอกาสสนทนาแลกเปล่ยี นความ 2) การเชื่อมต่อแบบหลายจุด (Multi-Point) ข้อดแี ละข้อเสียของการเชอื่ มต่อเครือข่ายแบบหลายจดุ (Multi-Point) 4.ครอู ธบิ ายรปู แบบการเช่ือมตอ่ เครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ โดยรปู แบบการเชือ่ มตอ่ เครอื ข่าย โทโพโลยี 1) โทโพโลยแี บบบสั (Bus Topology) 35 8.4 จัดทาเปน็ เลม่ รายงาน ขน้ั สรปุ และการประยุกต์ 12.สรุปเน้ือหาโดยใหผ้ เู้ รยี นฝึกทกั ษะการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมออกแบบสอบถาม ทส่ี ามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวันได้ |