ในปัจจุบันมหาวิทยาลัยของไทย เปิดหลักสูตรนานาชาติค่อนข้างเยอะและหลากหลาย ทว่าในบรรดาคณะนานาชาติของไทย คณะที่เรียกว่าเป็นท็อปฮิต อัตราการแข่งขันสูงทุกปี คือ คณะ BBA ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะ BBA ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ BBA คือคณะเกี่ยวกับอะไร ทำไมถึงมีคนอยากเข้าเยอะ อัตราการแข่งขันคะแนนสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปีจริงไหม แล้วเราควรวางแผนเรียนSAT เรียนIELTS หรือเรียนTOEFLไหม ถ้าคะแนนสูงขึ้นทุกปีจริง เราควรมาติวเรียนพิเศษกับ The Planner Education ตั้งแต่วันนี้เลยดีไหม วันนี้จะมาพามาหาคำตอบนี้กันค่ะ ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ BBA กันก่อน BBA (The Bachelor of Business Administration) เป็นหลักสูตรบริหารธุรกิจนานาชาติ ที่มีระบบการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ รูปแบบการเรียนเกี่ยวกับการจัดการธุรกิจรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบริหาร บัญชี การเงิน ตลอดจนเรื่องการตลาด ส่วนเหตุผลที่ BBA เป็นหนึ่งในคณะในฝันของเด็ก ๆ หลายคน เพราะ BBA เป็นคณะที่มีโอกาสในการทำงานสูง เงินเดือนดีและมั่นคง อีกทั้งสายงานในโลกธุรกิจกว้างมาก หากได้เป็นเด็ก BBA การันตีได้เลยว่าจบมามีงานทำแน่นอน เพราะปัจจุบันโลกเราสิ่งที่ขับเคลื่อนหลักคือเศรษฐกิจที่ต้องอาศัยเรื่องของธุรกิจเข้ามาเป็นตัวแปรในการขับเคลื่อน แน่นอนว่าตลาดแรงงานทั้งในไทยและทั่วโลกต้องการผู้ที่มีความรู้ความสามารถในด้านธุรกิจและความสามารถด้านภาษาอังกฤษเข้ามาร่วมงานในแวดวงนี้ และ “เด็ก BBA ตอบโจทย์ทุกอย่าง” ตอนนี้ในหลาย ๆ มหาวิทยาลัยเปิดสอนหลักสูตร BBA แต่วันนี้จะพาไปรู้จักกับคณะ BBA ของ 2 มหาวิทยาลัยที่เปิดสอนคณะนี้มาอย่างยาวนาน อย่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาดูกันว่า BBA ของสองที่นี้มีสาขาอะไรบ้าง และจุดแข็งของแต่ละที่มีอะไรบ้าง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นที่แรกในไทยที่เปิดสอนหลักสูตร BBA ขึ้นใน ค.ศ. 1992 เรียนที่วิทยาเขตท่าพระจันทร์ ตัวหลักสูตรมุ่งเน้นให้นักศึกษามีมุมมองแบบโลกาภิวัฒน์ (Global Perspectives) มีความคล่องตัวในการทำงานในสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีทักษะในการสื่อสารและการนำเสนอทางธุรกิจอย่างมืออาชีพ และเปิดโอกาสให้นักศึกษาขยายโลกทัศน์และประสบการณ์ของตนผ่านโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษากับสถาบันการศึกษาด้านบริหารธุรกิจต่าง ๆ ในทุกทวีปทั่วโลก โดยเปิดสอนทั้งหมด 3 สาขา ได้แก่ 1.สาขาการบัญชี (Accounting) 2.สาขาการเงิน (Finance) 3.สาขาการตลาด (Marketing) BBA จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อตั้งขึ้นในค.ศ. 1996 เป็นคณะหลักสูตรนานาชาติคณะแรกของมหาวิทยาลัย BBA ของที่นี่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลกจาก AACSB (the Association to Advance Collegiate Schools of Business) แสดงถึงมาตรฐานความสำเร็จในระดับสากล ที่นี่เปิดสอนทั้งหมด 4 สาขา ได้แก่ 1.สาขาการบัญชี (Accounting) 2.สาขาการเงิน (Finance) 3.สาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ (International Business Management) 4.สาขาการตลาด (Marketing) โดยสาขานี้พึ่งเปิดได้ไม่กี่ปีมานี้เอง มาถึงเกณฑ์คะแนนและแรงก์คะแนนแต่ละปีที่ผ่านมาที่ขั้นต่ำสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปีจนนับได้ว่าคะแนน SAT ที่ใช้เข้า BBA ธรรมศาสต์และจุฬาฯสามารถยื่นเข้าศึกษาต่อใน 30 top universities ของสหรัฐอเมริกาได้เลย เกณฑ์คะแนน BBA ธรรมศาสตร์ 1.คะแนนภาษาอังกฤษ เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ 2.คะแนนคณิตศาสตร์ เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ เกณฑ์คะแนน BBA จุฬาฯ 1.คะแนนภาษาอังกฤษ เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ 2. คะแนนคณิตศาสตร์ เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ สำหรับน้องที่กังวลว่าจะทำคะแนนได้ไม่ถึงเกณฑ์หรืออยากอัพสกิลคะแนนให้ถึง save zone ในการยื่น BBA TU – CU สามารถให้ The Planner Education ช่วยได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นคอร์สติว SAT IELTS TOEFL หรืออื่น ๆ โปรดวางใจฝากอนาคตการเป็นเด็ก BBA ไว้กับเราได้ค่ะ สนใจติว GED | IGCSE | A-Level | SAT | IELTS | TOEFL-MUIC | CU-TEP | TU-GET | GSAT | CU-ATT | CU-ATS | BMAT | ACT | IB TCAS ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ข้อมูลในการเตรียมตัวยื่น Portfolio รอบแรกของระบบการคัดเลือก Portfolio และหลายๆ โครงการของคณะ/มหาลัยที่เปิดรับ อีกทั้งยังมีเวลาในการเตรียมตัวก่อนเข้ามหาวิทยาลัยได้นาน การเตรียมตัวยื่นเอกสารประกอบการสมัคร 1.ใบผลการเรียน (ปพ.1) การทำเกรดให้ดียังถือเป็นสิ่งสำคัญ การที่แต่ละคนจะได้เกรดดีๆนั้น ถือเป็นความพยายามรับผิดชอบ
ใบผลคะแนนภาษาอังกฤษ น้องๆควรศึกษามหาวิทยาลัยที่รับ และคะแนนขั้นต่ำที่ใช้ยื่น
รวมมหาวิทยาลัยในไทยที่มีหลักสูตร INTER เตรียมตัวสอบ เพื่อเก็บคะแนน ได้แล้วที่>> https://www.boostup.in.th/inter
TOEFL iBT 2.
Listening (การฟัง): มีคำถามทั้งหมด 34-51ข้อ ให้เวลาในการทำข้อสอบ 60-90 นาที 3. Speaking (การพูด): มีคำถามปลายเปิดทั้งหมด 6 ข้อ ให้เวลาในการทำข้อสอบ 20 นาที 4. Writing (การเขียน): มีคำถามทั้งหมด 2 ข้อให้เวลาในการทำข้อสอบ50 นาที รวมทั้งหมดผู้สอบจะมีเวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งในการสอบ ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
TOEIC ปัจจุบัน การสอบ TOEIC มี 2 แบบ คือ
แต่มีการนำมาปรับใหม่ ดังนี้ โดยแบ่งออกเป็น 4 ส่วนย่อย ดังนี้ 2.การอ่าน
(Reading Comprehension) Part 6: Text Completion 12 ข้อ ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
IELTS (International English Language Testing
System) คะแนน IELTS ใช้สำหรับอะไรได้บ้าง ปัจจุบันคะแนน IELTS เป็นที่ยอมรับ คะแนน IELTS ที่ถือว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐาน เกณฑ์คือ 5.5 หรือ 6.5 ขึ้นไป คะแนน
IELTS ถือว่าเป็นคะแนนที่ได้รับการ IELTS on Computer : 7,500 บาท ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
SAT (
Scholastic Aptitude Test ) เป็นการสอบมาตรฐานความถนัดในการเรียน grade12 = ม.6 SAT เป็นข้อสอบมาตรฐาน ที่วัดทักษะด้าน verbal และ mathematical reasoning -เป็นการวัดระดับภาษาอังกฤษมาตรฐานระดับโลก จากสหรัฐอเมริกาที่น้องๆ สายอินเตอร์จะพลาดไม่ได้ -คะแนนเต็มวิชาละ 800 รวมเป็น 1,600 คะแนน สอบ SAT
ต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง ? ถ้าสอบ SAT แล้วเอาคะแนนไปยื่นที่ จุฬาฯ ก็มีรับ SATมีหลายวิชา สถานที่สอบ SAT สามารถสมัครสอบผ่านเว็บไซต์ ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
หลายคนสงสัย ว่าการสอบ BMAT นั้นคืออะไร BMAT คือการสอบเฉพาะทางสำหรับ และสำหรับน้องๆ #dek63 ที่จะสมัครเรียนต่อคณะแพทยศาสตร์ หรือคณะทันตแพทยศาสตร์ น้องๆสามารถสอบ BMAT ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ต่อหนึ่งรอบการสอบแอดมิชชั่น การสอบในเดือนสิงหาคม :
น้องต้องลงทะเบียนด้วยตนเอง (หลังจากเปิดหน้าเว็บไซต์ขึ้นมาแล้ว กรุณาคลิ๊กที่ตัวเลือก Shop ที่ปรากฏอยู่ด้านบนของหน้าเว็บไซต์) การสอบในเดือนตุลาคม : ศูนย์สอบจะเป็นผู้ลงทะเบียนให้น้อง สอบถามเจ้าหน้าที่ศูนย์สอบ เพื่อทำการลงทะเบียนสอบ และอย่าลืมสอบถามเลขที่ผู้สมัครสอบของน้อง เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทะเบียนสอบนั้น ได้เสร็จสมบูรณ์ครบถ้วนนะคะ และน้องจะต้องมาสอบกับศูนย์ที่ได้มีการขึ้นทะเบียนไว้แล้วเท่านั้น การสอบ BMAT ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ประกอบด้วย 3 ส่วน ส่วนที่ 1 ความถนัด และทักษะ 60 นาที (ข้อสอบปรนัย) ความรู้และการประยุกต์ด้านวิทยาศาสตร์ 30 นาที (ข้อสอบปรนัย) สอบเขียนบรรยาย 30 นาที (ข้อสอบบรรยาย) ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
TU-GET เป็นการวัดระดับภาษาอังกฤษ -ที่สำคัญคือสามารถสอบล่วงหน้า แนวข้อสอบ TU-GET ไม่ได้ลึกลับเหมือนกับ ข้อสอบ TOEFLแถมยังมีหนังสือให้อ่าน 2 Computer-Based Test (CBT) สนใจเพิ่มเติม มีคะแนน TU GET สอบติดง่าย ๆ ได้แต่ เนิ่น ๆ คลิก สถาบันภาษา
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ การทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษ TU-GET Paper-based Test (PBT) (Thammasat University General English Test) http://litu.tu.ac.th/2019/assets/public/kcfinder/upload/public/cbt%20pbt/001.pdf สมัครสอบออนไลน์ที่ :
http://litu.tu.ac.th/TUGET/Login.aspx
ข้อสอบ
CU-TEP เป็นข้อสอบที่นิสิตจุฬาฯ ต้องสอบทุกคน เพราะต้องได้ 30 คะแนนขึ้นไป ข้อสอบ CU-TEP มี 3 ส่วน โดยผู้คุมสอบจะแจกข้อสอบให้ทำทีละส่วน เป็นหนึ่งในทักษะที่จำเป็นสำหรับการสื่อสารในชั้นเรียน โดยเฉพาะโปรแกรมภาคภาษาอังกฤษหรือหลักสูตรนานาชาติ ในการทดสอบส่วนนี้ ข้อสอบจะให้ผู้สอบฟัง ส่วนที่ 2 : Reading ทักษะการอ่าน มี 60 ข้อ ใช้เวลา 70 นาที เป็นอีกหนึ่งทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้ที่จะศึกษาต่อ โดยในสมัยนี้ตำราเรียนส่วนใหญ่ ส่วนที่ 3 : Writing ทักษะการเขียน มี 30 ข้อ ใช้เวลา 30 นาที ข้อสอบจะเน้นความรู้ทางด้านการใช้ภาษาอังกฤษของผู้สอบ อ่านเพิ่ม คลิก เตรียมตัวสอบ เพื่อเก็บคะแนน ได้แล้วที่>> https://www.boostup.in.th/inter
|