Show มอเตอร์ไฟฟ้า มอเตอร์แอร์ อุปกรณ์สำคัญที่แอร์ขาดไม่ได้แอร์บ้าน เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่นับวันจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ในแต่ละบ้านจะขาดไม่ได้ ด้วยอากาศของเมืองไทยที่ร้อนจัดทุกฤดู และหนึ่งในชิ้นส่วนอุปกรณ์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่แอร์จะไม่มีไม่ได้เลย นั่นก็คือมอเตอร์แอร์ไฟฟ้า เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ต้องประกอบอยู่ในเครื่องใช้ไฟฟ้าเกือบทุกชนิดนั่นเองมอเตอร์ไฟฟ้า มอเตอร์แอร์ อุปกรณ์สำคัญที่แอร์ขาดไม่ได้มอเตอร์ไฟฟ้า คืออะไรมอเตอร์ไฟฟ้าในอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหลาย เป็นอุปกรณ์ซึ่งจะทำหน้าที่แปลงกระไฟฟ้าที่จะเดินในเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นโดยเปลี่ยนจากพลังงานไฟฟ้ามาเป็นพลังงานกล มอเตอร์ไฟฟ้าในเครื่องใช้แต่ละชนิดก็จะมีความเร็วรอบหรือมีกำลังแตกต่างกันไป ชนิดของมอเตอร์ไฟฟ้าในส่วนของมอเตอร์แอร์ก็ได้มีการแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ตามลักษณะของการใช้กระแสไฟฟ้า ดังนี้
ส่วนประกอบของมอเตอร์ส่วนประกอบของมอเตอร์นี้หรือที่เรียกกันว่า Split Phase Motor ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนดังต่อไปนี้ 1. สเตเตอร์ (Stator) เป็นชิ้นส่วนที่มีไว้สำหรับวางขดลวดหรือลวดอาบน้ำยา โดยมีลักษณะเป็นแผ่นเหล็กบางๆ และมีร่องที่เรียกว่า สล็อด โดยแบ่งออกได้คือ
2. โรเตอร์ (Rotor) เป็นส่วนที่ทำหน้าที่หมุนปล่อยวงจรของขดลวดให้แยกออกจากกัน โดยส่วนเพลาของโรเตอร์นี้จะมีสวิตซ์หมุนแบบหนีแรงเหวี่ยงของศูนย์กลางอยู่ด้วย (Centrifugal Swich) 3. สวิทซ์แบบหนีแรงเหวี่ยง (Centrifugal Swich) ประกอบด้วย 2 ส่วน คือส่วนที่อยู่กับฝาครอบและส่วนที่หมุนอยู่ที่เพลาโรเตอร์ โดยทำหน้าที่ตัดขดลวดหลังจากที่โรเตอร์ซึ่งจะมีการหมุนอย่างเต็มพิกัดไปแล้วประมาณ 75% 4. แคปรัน (Capacitor Run) ในวงจรไฟฟ้าจะมีอุปกรณ์ชนิดนี้อยู่ข้างๆ เมื่อมอเตอร์มีปัญหาไม่มีแรงหมุนหรือหยุดหมุนมักพบว่าแคปรันรั่วหรือช็อตได้เสมอ ดังนั้น เมื่อเกิดปัญหาหรืออาการดังกล่าว ควรเช็คแคปรันเป็นอันดับแรก มอเตอร์ของแอร์ยังประกอบไปด้วยอุปกรณ์อีกหลายชิ้น โดยหนึ่งในนั้นคือ พัดลมระบายอากาศสำหรับแผงคอยล์ร้อนและพัดลมโพรงกระรอกในคอยล์เย็นและมอเตอร์บานสวิงซ้าย-ขวา ขึ้น-ลง ซึ่งมักเป็นแบบมอเตอร์กระแสสลับเฟสเดียวและแบบ 3 เฟส ในส่วนมอเตอร์กระแสสลับแบบเฟสเดียวยังสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 แบบดังนี้ 1. มอเตอร์สปลิทเฟส จะเหมือนกับมอเตอร์แอร์บ้าน สำหรับขดรันของมอเตอร์พัดลมแอร์บ้านจะมี 2 ขด ทำให้สามารถเปลี่ยนความเร็วให้ช้าหรือเร็วได้ 2. มอเตอร์แบบแคปรัน มอเตอร์แบบนี้จะมีขดรัน 2 ชุดเหมือนมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ 3. มอเตอร์แชดเดดโปล เป็นแบบที่ตัวโรเตอร์และสเตเตอร์เหมือนกับสปลิทเฟส แต่จะมีขดลวดพันที่สเตเตอร์ขดรัน 2 ชุด ซึ่งไม่มีขดลวดสตาร์ท เพราะมีขั้วแชดเดดโปลซึ่งคอยทำหน้าที่เป็นตัวสตาร์ทแล้ว จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำงานได้ก็จะต้องมีไฟฟ้าป้อนเข้าไปในขดลวดที่พันอยู่รอบเหล็กบนแกนหมุน จึงจะเกิดเป็นแม่เหล็กที่จะผลักหรือดูดบนตัวสเตเตอร์ได้ กล่าวโดยสรุปคือ การทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างสนามแม่เหล็กในตัวมอเตอร์ และสนามแม่เหล็กซึ่งเกิดที่ขดลวดจนเกิดการผลักและดูด โดยแหล่งจ่ายไฟจากกระแสตรงหรือกระแสสลับ ส่งผลให้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์สำคัญที่อยู่ในงานหรืออุปกรณ์ที่หลากหลาย เช่น อุปกรณ์เครื่องเป่า พัดลม เครื่องมือช่าง หรือเครื่องใช้ในครัวเรือนนั่นเอง มอเตอร์ไฟฟ้า (Electric motor) คือ อุปกรณ์ไฟฟ้าที่แปลงพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกลซึ่งจะแสดงออกมาเป็นกำลังที่เพลา มอเตอร์ไฟฟ้าถูกนำไปใช้งานเป็นต้นกำลังขับ (Driver) ของอุปกรณ์ต่างๆเช่น พัดลม, ปั๊มน้ำหอยโข่ง, เครื่องมือเครื่องใช้ในครัวเรือน และดิสก์ไดรฟ์ จนกระทั่งไปถึงงานในอุตสาห์กรรมหนักพวก turbo-machinery พวก แก๊สคอมเพลสเซอร์ ที่ตัวหนึ่งขนาดหลาย MW เลยทีเดียวครับ ขนาดต่างๆของ motor ขอบคุณภาพจาก ABBหลักการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าการทำงานปกติของมอเตอร์ไฟฟ้า ส่วนใหญ่เกิดจากการทำงานร่วมกันระหว่าง ชนิดของมอเตอร์ไฟฟ้ามอเตอร์ไฟฟ้าสามารถแบ่งได้ 2 แบบหลักๆตามลักษณะของกระไฟฟ้าคือ 1. มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (DC Motor) 2. มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Motor) ข้อควรระวัง: ในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมอเตอรเป็นส่วนประกอบ ห้ามใช้เครื่องใช้ประเภทนี้ในช่วงที่ไฟตก
หรือแรงดันไฟฟ้าไม่ถึง 220 โวลต์ แล้วพบกับสาระดีๆแบบนี้ทางด้านงานช่าง งานวิศวกรรม และอุตสาหกรรมได้ที่ นายช่างมาแชร์ นะครับ Website: www.naichangmashare.com #นายช่างมาแชร์ |