ข้อมูลจากภาพถ่ายโทรศัพท์ที่ถูกอัปโหลดขึ้น

เมื่อใช้รูปภาพ iCloud คุณจะสามารถดาวน์โหลดสำเนารูปภาพและวิดีโอบนอุปกรณ์เครื่องใดก็ได้

Show

วิธีดาวน์โหลดรูปภาพและวิดีโอจาก iCloud.com

หากคุณต้องการบันทึกสำเนารูปภาพและวิดีโอของคุณจาก iCloud.com ลงใน iPhone, iPad, iPod touch, Mac หรือ PC ของคุณ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้

บน iPhone, iPad หรือ iPod touch

  1. บน iCloud.com ให้แตะแอปรูปภาพ 
  2. แตะเลือก จากนั้นแตะรูปภาพหรือวิดีโอ หากต้องการเลือกรูปภาพหรือวิดีโอหลายรายการ ให้แตะมากกว่าหนึ่งรูปภาพ หากต้องการเลือกคลังทั้งหมดของคุณ ให้แตะเลือกทั้งหมด
  3. แตะปุ่มเพิ่มเติม 
    ข้อมูลจากภาพถ่ายโทรศัพท์ที่ถูกอัปโหลดขึ้น
     
  4. เลือกดาวน์โหลด จากนั้นแตะดาวน์โหลดเพื่อยืนยัน 

หากรูปภาพของคุณถูกดาวน์โหลดเป็นไฟล์ ZIP ที่เก็บถาวร ให้ดูวิธีเลิกบีบอัดโฟลเดอร์ใน iPhone, iPad หรือ iPod touch 

บน Mac หรือ PC

  1. บน iCloud.com ให้คลิกรูปภาพ และเลือกรูปภาพหรือวิดีโอ กดปุ่ม command บน Mac หรือปุ่ม Ctrl บน PC ของคุณเพื่อเลือกรูปภาพหรือวิดีโอหลายรายการ
  2. คลิกปุ่มดาวน์โหลด 
    ข้อมูลจากภาพถ่ายโทรศัพท์ที่ถูกอัปโหลดขึ้น
     ที่อยู่มุมบนของหน้าต่างค้างไว้ หากคุณต้องการดาวน์โหลดต้นฉบับรูปภาพหรือวิดีโอที่บันทึกหรือนำเข้าไว้ ให้เลือก "ต้นฉบับ (ไม่รวมการแก้ไข)" สำหรับรูปแบบ JPEG หรือ H.264 รวมทั้งการแก้ไข และแม้ว่าต้นฉบับจะเป็นรูปแบบ HEIF หรือ HEVC ให้เลือก "เข้ากันได้มากที่สุด"*
  3. คลิกดาวน์โหลด

หากรูปภาพของคุณถูกดาวน์โหลดเป็นไฟล์ ZIP ที่เก็บถาวร ให้ดูวิธีเลิกบีบอัดโฟลเดอร์ใน Mac หรือพีซีของคุณ 

จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณลบรูปภาพหรือวิดีโอ

โปรดทราบว่าเมื่อคุณลบรูปภาพออกจากรูปภาพ iCloud รูปภาพนั้นจะถูกลบออกจาก iCloud และอุปกรณ์อื่นๆ ที่คุณลงชื่อเข้าใช้ด้วย Apple ID เดียวกัน แม้ว่าคุณจะเปิดดาวน์โหลดและเก็บต้นฉบับไว้ หรือดาวน์โหลดต้นฉบับไปที่ Mac เครื่องนี้ก็ตาม หากคุณเลือกที่จะดาวน์โหลดต้นฉบับ ไฟล์ที่ดาวน์โหลดก็จะส่งผลต่อพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในอุปกรณ์ของคุณด้วย เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีจัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูล และคุณยังสามารถดูวิธีส่งรูปภาพและวิดีโอไปยังอุปกรณ์เครื่องอื่นผ่าน AirDrop ได้ด้วย

วิธีดาวน์โหลดรูปภาพและวิดีโอจากแอปรูปภาพ

หากคุณต้องการดาวน์โหลดสำเนาภาพถ่ายและวิดีโอแบบขนาดเต็มของคุณจากแอปรูปภาพไปยัง iPhone, iPad หรือ iPod touch ที่ใช้ iOS 10.3 หรือใหม่กว่า หรือ iPadOS หรือ Mac ที่ใช้ OS X Yosemite 10.10.3 หรือใหม่กว่า ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

บน iPhone, iPad หรือ iPod touch

  1. ไปที่การตั้งค่า > [ชื่อของคุณ]
  2. แตะ iCloud แล้วแตะรูปภาพ
  3. เลือกดาวน์โหลดและเก็บต้นฉบับไว้

บน Mac ของคุณ

  1. เปิดแอปรูปภาพ
  2. เลือกรูปภาพ > การตั้งค่า
  3. เลือก iCloud จากนั้นคลิกดาวน์โหลดต้นฉบับไปที่ Mac เครื่องนี้

บน PC

บน iPhone, iPad หรือ iPod touch

  1. เปิดแอพรูปภาพ แล้วไปที่แท็บอัลบั้ม
  2. เลื่อนลงไปที่การแชร์อัลบั้มและเลือกอัลบั้ม 
  3. แตะรูปภาพหรือวิดีโอ จากนั้นแตะปุ่มแชร์ 
    ข้อมูลจากภาพถ่ายโทรศัพท์ที่ถูกอัปโหลดขึ้น
  4. เลือกบันทึกรูปภาพหรือบันทึกวิดีโอ

บน Mac ของคุณ

  1. เปิดรูปภาพ แล้วเลือกการแชร์อัลบั้มจากเมนูด้านซ้าย 
  2. เลือกรูปภาพหรือวิดีโอ
  3. กดปุ่ม Control ค้างไว้แล้วคลิกที่รูปภาพหรือวิดีโอ จากนั้นเลือก นำเข้า

บน PC

ใน iCloud สำหรับ Windows 11.1:

  1. เลือกเมนูเริ่ม > การแชร์อัลบั้ม iCloud
  2. ดับเบิ้ลคลิกการแชร์อัลบั้มที่คุณต้องการใช้ดาวน์โหลดรูปภาพหรือวิดีโอ
  3. ดับเบิ้ลคลิกรูปภาพหรือวิดีโอ จากนั้นคัดลอกไปยังโฟลเดอร์อื่นบนคอมพิวเตอร์ของคุณ

ใน iCloud สำหรับ Windows 7.x:

  1. เปิดหน้าต่าง Windows Explorer 
  2. คลิกรูปภาพ iCloud ในบานหน้าต่างการนำทาง 
  3. ดับเบิ้ลคลิกที่โฟลเดอร์ที่แชร์
  4. ดับเบิ้ลคลิกการแชร์อัลบั้มที่คุณต้องการใช้ดาวน์โหลดรูปภาพหรือวิดีโอ
  5. ดับเบิ้ลคลิกรูปภาพหรือวิดีโอ จากนั้นคัดลอกไปยังโฟลเดอร์อื่นบนคอมพิวเตอร์ของคุณ

หากต้องการดาวน์โหลดทั้งอัลบั้ม ให้เปิดหน้าต่าง File Explorer หรือหน้าต่าง Windows Explorer (Windows 7) เปิดโฟลเดอร์รูปภาพ จากนั้นเปิดโฟลเดอร์รูปภาพ iCloud คัดลอกโฟลเดอร์การแชร์อัลบั้มไปยังตำแหน่งอื่นบนคอมพิวเตอร์ของคุณ 

วันที่เผยแพร่: 24 มกราคม 2565

ข้อมูลจากภาพถ่ายโทรศัพท์ที่ถูกอัปโหลดขึ้น

เชื่อหรือไม่ว่าความจริงแล้ว Big Data นั้นมีความสัมพันธ์กับการทำธุรกิจอย่างมีนัยยะ โดยเฉพาะในแง่มุมของการตลาดที่ตัว Big Data อาจเป็นปัจจัยสำคัญของการทำธุรกิจในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ ซึ่งจะเห็นได้จากการปรับตัวของเหล่านักการตลาด ที่คิดค้นกลยุทธ์ใหม่ ๆ จาก Big Data มาพัฒนาต่อยอดเป็นแคมเปญ จนสร้างผลกำไรให้บริษัทหรือธุรกิจได้เป็นกอบเป็นกำ โดยเฉพาะเหล่า Digital Marketing Agency ที่ได้เริ่มเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงในการทำการตลาดมากกว่ายุคไหนๆ

แต่ก่อนที่จะทำความเข้าใจว่าทำไม Digital Agency ถึงได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในยุคสมัยแห่ง Big Data ได้ เราต้องเข้าใจถึงความหมายและหลักการทำงานของ Big Data กันก่อนครับว่าคืออะไร ส่งผลอย่างไรต่อโลก ณ ปัจจุบัน

Big Data คืออะไร

Big Data คือ ข้อมูลจำนวนมหาศาลในทุกแง่มุมทุกรูปแบบ เช่น ข้อมูลที่มาจากการติดต่อสื่อสารระหว่างองค์กรกับลูกค้าในทุกช่องทาง ซึ่งอาจเป็นข้อมูลที่มีโครงสร้างชัดเจนอย่างข้อมูลที่เก็บอยู่ในตารางข้อมูลต่าง ๆ หรืออาจเป็นข้อมูลกึ่งมีโครงสร้างอย่าง Log Files หรือแม้กระทั่งข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างชัดเจนอย่าง ข้อมูลการโต้ตอบผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ไฟล์จำพวกมีเดีย ภาพ ภาพเคลื่อนไหว และเสียงเป็นต้น

ข้อมูลจากภาพถ่ายโทรศัพท์ที่ถูกอัปโหลดขึ้น

แต่ทั้งหมดนี้ก็ยัง เป็นเพียงข้อมูลดิบที่รอการวิเคราะห์และประมวลผล เพื่อนำผลลัพธ์ไปสร้างมูลค่าทางธุรกิจในด้านต่าง ๆ แม้จะไม่สามารถนำข้อมูลทั้งหมดไปใช้ได้ แต่ก็มีบางอย่างที่มีประโยชน์แฝงอยู่หากเรานำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง

คุณลักษณะสำคัญ 4 อย่างของ Big Data

  • มีปริมาณมาก (Volume) Big Data ต้องเป็นข้อมูลที่มีปริมาณมหาศาลไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบออนไลน์ หรือออฟไลน์ก็ตาม โดยข้อมูลเหล่านี้จะมีปริมาณมากกว่าหน่วย TB (Terabyte) ขึ้นไป ซึ่งไม่สามารถประมวลผลด้วยระบบฐานข้อมูลธรรมดาได้ จำเป็นต้องใช้คลังข้อมูล และซอฟต์แวร์ฮาดูปทำงานประสานกันในการบริหารจัดการข้อมูล (Hadoop โปรแกรมที่ใช้สำหรับจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และการประมวลผลแบบกระจายบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกันเป็นกลุ่ม)
  • ความเร็ว (Velocity) Big Data เป็นข้อมูลที่มีการเพิ่มขึ้นตลอดเวลา มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ไม่มีความตายตัว ไม่สามารถจับทิศทางหรือรูปแบบที่ชัดเจนได้ เช่น ข้อมูลการสื่อสารสนทนา ข้อมูลวีดีโอ ข้อมูลภาพถ่ายที่ถูกอัปโหลดจากโทรศัพท์มือถือ หรือข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า เป็นต้น
  • ความหลากหลาย (Variety) รูปแบบข้อมูลต้องมีความหลากหลายแตกต่างกันออกไป เช่น ไฟล์ภาพ ไฟล์ตัวอักษร หรือไฟล์วีดีโอ อีกทั้งยังมีที่มาจากหลายแหล่งโดยไม่จำกัดว่าจะต้องมาจากสื่อสังคมออนไลน์เพียงอย่างเดียว
  • ยังไม่ผ่านการวิเคราะห์ประมวลผล (Veracity) Big Data เป็นข้อมูลที่ต้องผ่านการวิเคราะห์ประมวลผลให้เป็นข้อมูลดิบก่อนถึงจะสามารถนำไปใช้งานหรือสร้างประโยชน์ต่อได้

ข้อมูลจากภาพถ่ายโทรศัพท์ที่ถูกอัปโหลดขึ้น

กระบวนการทำงานของ Big Data

จากการที่ต้องทำงานกับปริมาณข้อมูลมหาศาลที่ไม่สามารถคาดเดาได้ และมีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตลอดเวลา กระบวนการทำงานของ Big Data จึงสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ขั้นตอนสำคัญ คือ

  • รวบรวมข้อมูล การรวบรวมข้อมูลของ Big Data นั้น จะทำหน้าที่จัดการข้อมูลที่หลากหลายแตกต่างออกไป ซึ่งเป็นจุดที่เทคโนโลยีแบบเก่าไม่สามารถทำได้ โดยตัว Big Data สามารถที่จะจัดเก็บรวบรวมข้อมูลขนาดใหญ่จำนวนมหาศาลที่มีรูปแบบหลากหลายได้ในระดับที่มากกว่าหน่วยเทราไบต์ (Terabyte) เลยทีเดียว
  • จัดการข้อมูล Big Data เป็นข้อมูลจำนวนมหาศาลที่เราต้องหาแหล่งที่อยู่ในการจัดเก็บให้ดี ซึ่งในปัจจุบันนั้นนิยมเก็บไว้บน Cloud หรือบนเครื่อง Server ภายในองค์กร ขึ้นอยู่กับความสะดวกหรือความต้องการในแต่ละองค์กร
  • การวิเคราะห์ นี่เป็นขั้นตอนที่เป็นหัวใจสำคัญสำหรับการทำงานของ Big Data เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้น Big Data จะเป็นข้อมูลที่ไม่มีประโยชน์เลยหากไม่มีการวิเคราะห์เพื่อทำให้เกิดความชัดเจน เพราะข้อมูลที่เราได้หลังจากวิเคราะห์แล้วจะสามารถนำมาพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ได้ในแง่มุมที่เราต้องการ ถือเป็นการย่อยข้อมูลจำนวนมหาศาลให้เหลือแค่สิ่งที่เราต้องการเท่านั้น

Big Data มีความสำคัญอย่างไรกับการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน

ลองนึกภาพดูว่าหากคุณทำธุรกิจ แล้วสามารถรับรู้ถึงความต้องการของผู้บริโภคส่วนมากได้ รู้จักพฤติกรรมการซื้อขายของพวกเขา เข้าใจในสิ่งที่พวกเขาต้องการ คุณก็จะเดินกลยุทธ์ได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด จนสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย สิ่งเหล่านี้สามารถทำได้จริงหากเรามีข้อมูลที่มากเพียงพอ และ Big Data ก็คือกุญแจสำคัญของเรื่องนี้ ซึ่งจะมีประโยชน์อะไรบ้างที่เราสามารถนำมาต่อยอดทางธุรกิจได้นั้น มาดูกันครับ

1.เข้าใจลูกค้า สามารถสร้างและรักษาฐานลูกค้าทั้งรายเก่าหรือใหม่ได้

ธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จต้องมีฐานลูกค้าที่แข็งแรง การทำความเข้าใจลูกค้าจึงเป็นเรื่องสำคัญ ยิ่งในยุคปัจจุบันที่ ความต้องการ ของลูกค้าผันแปรไปเรื่อยไม่หยุดนิ่ง หากตามความต้องการของลูกค้าไม่ทัน การสูญเสียฐานลูกค้าไปก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งหากเราใช้ Big Data เข้ามาช่วยเรื่องการวิเคราะห์แนวโน้มพฤติกรรมของลูกค้า วิเคราะห์ความต้องการของพวกเขาจากข้อมูลในด้านต่าง ๆ คุณก็สามารถส่งมอบสิ่งที่ลูกค้าต้องการให้กับพวกเขา ออกแบบโปรโมชั่นหรือข้อเสนอดี ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าบริการได้อย่างตรงจุด และเมื่อลูกค้าพึงพอใจก็อาจเกิดการบอกต่อ เกิดความภักดีต่อแบรนด์ ซึ่งช่วยให้คุณขยายฐานลูกค้าออกไปได้อีกตามความต้องการ

2.นำไปประยุกต์ใช้กับการทำแคมเปญการตลาดได้

การตลาดกับ Big Data มีความเกี่ยวข้องกันอย่างปฏิเสธไม่ได้ อย่างที่กล่าวไปข้างต้น เมื่อเราวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าหรือผู้บริโภคจากข้อมูลทั้งหมดได้แล้ว เราจะรู้ได้ทันทีว่ากลยุทธ์หรือแคมเปญแบบไหนที่เหมาะและตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าของเรามากที่สุด แต่การที่จะเอาข้อมูลมาใช้ได้นั้น ต้องมีขั้นตอนการวิเคราะห์ที่ดี แม่นยำ และถูกต้อง มีเครื่องมือที่พร้อมและประสบการณ์ที่มากพอจะเข้าใจได้ว่า ต้องจัดการข้อมูลอย่างไรถึงจะเกิดประโยชน์สูงสุด เพราะถึงแม้จะมีข้อมูลอยู่ในมือ แต่ถ้าไม่รู้วิธีใช้ ก็ไม่อาจสร้างความแตกต่างหรือเพิ่มอัตราการประสบความสำเร็จให้กับแคมเปญได้เลย

ข้อมูลจากภาพถ่ายโทรศัพท์ที่ถูกอัปโหลดขึ้น

3.นำไปประยุกต์ใช้สร้างคอนเทนต์ สินค้า หรือบริการที่ตอบโจทย์กับฐานลูกค้าและโดดเด่นเหนือคู่แข่ง

หลายธุรกิจในปัจจุบัน เข้ามาโลดแล่นอยู่ในสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ กันมากขึ้น ซึ่งข้อดีคือผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าบริการได้ง่ายและไวขึ้น แต่ข้อเสียคือธุรกิจคุณไม่ใช่เจ้าเดียวที่ลงมาเล่น คู่แข่งก็ย่อมทำได้เช่นกัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องผลักดันให้ธุรกิจโดดเด่นเหนือคู่แข่ง รีบเข้าหาผู้บริโภคเพื่อสร้างฐานลูกค้าให้แข็งแรงก่อนจะโดนแย่งไปเสียหมด ฉะนั้นเมื่อเรานำเอา Big Data เข้ามาช่วย เราก็สามารถสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์หรือธุรกิจเราได้อย่างง่ายดาย สามารถพัฒนาคอนเทนต์ สินค้า หรือบริการให้มีความแตกต่างเหนือคู่แข่ง รู้ว่าสิ่งไหนที่ลูกค้าต้องการ เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด พร้อมรับมือความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที

4.วิเคราะห์ข้อมูลความเป็นไปได้เพื่อจัดการความเสี่ยง

ในปัจจุบันที่หลายสิ่งเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาแบบนี้ การจำลองความเสี่ยงและเตรียมความพร้อมจึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามได้ การวิเคราะห์ข้อมูล Big Data เพื่อนำมาซึ่งทางเลือกในการทำธุรกิจจึงมีความสำคัญ เมื่อข้อมูลเหล่านั้นมาจากสิ่งที่เคยเกิดขึ้นหรือแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น ทำให้คาดเดาได้ว่าตลาดในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด ต้องดำเนินกลยุทธ์แบบไหนถึงจะบรรลุเป้าหมายอย่างที่ตั้งใจโดยไม่สะดุดล้มกลางทางเสียก่อน

แนวโน้มการทำ Digital Marketing ในยุคสงคราม Big Data

สิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้อย่างแรกเลยคือ ทุกธุรกิจ ทุกแบรนด์ ทุกองค์กร สามารถเข้าถึงการทำงานของ Big Data ได้ทั้งนั้น นั่นย่อมหมายความว่าแนวโน้มของ Marketing และ Digital Marketing ในตลาด ณ ปัจจุบันกำลังเปลี่ยนไป โดยเฉพาะ Online Marketing ที่เป็นเหมือนหัวใจสำคัญของหลายธุรกิจ ที่ตัว Big Data ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจควรตระหนักว่า เทรนด์การทำการตลาดออนไลน์และ การตลาดดิจิทัลในยุคสมัยแห่งสงคราม Big Data จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ด้วยความที่ธุรกิจหรือแบรนด์ต่าง ๆ ต้องดิ้นรนปรับตัวคิดกลยุทธ์ใหม่ ๆ ให้ก้าวล้ำเหนือคู่แข่ง ซึ่งจะมีความเป็นไปได้อะไรเกิดขึ้นบ้างนั้น มาลองดูตัวอย่างกันครับ

  • การตลาดในสื่อสังคมออนไลน์จะถูกมุ่งเน้นและให้ความสำคัญน้อยลง เพราะเมื่อทุกธุรกิจสามารถเข้าถึงการทำงานตรงนี้ได้เหมือนกัน ธุรกิจแต่ละประเภทก็ต้องรีบวิเคราะห์หาพื้นที่เพื่อสร้างจุดยืนของตัวเองที่โดดเด่นกว่าเจ้าอื่นให้เจอ ซึ่งบางทีอาจจะไม่ใช่ในสื่อสังคมออนไลน์เพียงอย่างเดียว
  • การตลาดบนเว็บไซต์จะเพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นช่องทางหนึ่งในการทำ Digital Marketing ที่ง่ายและธุรกิจไหนก็สามารถเริ่มต้นทำกันได้ทั้งนั้น แถมยังไม่ต้องใช้พื้นที่ร่วมกัน สามารถสร้างสรรค์กลยุทธ์หรือจุดเด่นของตัวเองได้อย่างเต็มที่
  • เทรนด์การทำ Video Marketing ที่มาแรงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจะเห็นได้จากการเกิดขึ้นของแพลตฟอร์มน้องใหม่อย่างไม่ขาดสาย อีกทั้งยังสามารถวัดผลและเก็บข้อมูลเป็น Big Data ได้ง่ายจากจำนวนผู้ใช้งานที่มหาศาล ส่งผลให้หากเรามีข้อมูลการใช้งานตรงนี้ที่มากพอ ก็สามารถประยุกต์กลยุทธ์แผนการตลาดให้เหมาะสมกับธุรกิจหรือแบรนด์ของเราได้

ข้อมูลจากภาพถ่ายโทรศัพท์ที่ถูกอัปโหลดขึ้น

แม้จะฟังดูยุ่งยาก แต่หากการเปลี่ยนแปลงมาถึงและเราสามารถปรับตัวตามทัน ธุรกิจคุณก็จะพร้อมรับมือแล้วผ่านปัญหาไปได้อย่างง่ายดาย ซึ่งถ้าจะทำแบบนั้นได้ คุณจำเป็นต้องมีข้อมูลในมือที่มากพอจะสร้างทางเลือกที่ถูกต้องให้กับธุรกิจคุณเอง หรือถ้าไม่อย่างนั้นคุณก็ต้องมีทีมงานที่ไว้ใจได้ คอยแก้ปัญหาเมื่อแผนการตลาดเกิดติดขัดหรือมีประสบการณ์มากพอที่จะรู้ว่าต้องทำอย่างไรในช่วงเวลานี้

ฉะนั้นแล้ว Digital Agency จึงได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ยุคปัจจุบัน ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่พร้อมรับมือความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ทั้งยังสามารถประยุกต์ใช้ข้อมูล Big Data ได้อย่างหลากหลายเพราะคุ้นชินกับการทำงานด้านนี้มาโดยเฉพาะนั่นเอง

Digital Agency อีกหนึ่งทางเลือกแก้เกม ในยุคสงคราม Big Data

สำหรับเหล่า Digital Agency แล้ว Big Data เป็นเหมือนอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้การตลาดยุคปัจจุบันแตกต่างจากเดิมพอสมควร ทีมเอเจนซีที่ดีและมีฝีมือจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างรวดเร็ว สามารถเข้าถึงเครื่องมือการใช้งานต่าง ๆ รวมถึงสามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อหลากหลายธุรกิจได้อย่างเฉียบคม ข้อจำกัดที่เคยมีจะถูกปลดล็อก ขอบเขตความเป็นไปได้ใหม่ ๆ จะถูกขยายออกตามวิสัยทัศน์และความสามารถ

ดังนั้นแล้ว มันคงไม่มีอะไรจะเหมาะสมไปมากกว่าการให้คนที่ใช่ มาทำงานที่ชำนาญ เพราะคงไม่มีใครที่จะเข้าใจการตลาดไปมากกว่าคนที่ทำงานกับการตลาดมาโดยตลอดหรอกจริงไหม? มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยหากผู้ประกอบการจะเลือกจ้าง Agency มาดูแลจัดการดูแลเรื่องการตลาดในยุคสมัยที่หลายสิ่งพร้อมเปลี่ยนแปลงได้ในทุกวินาที ซึ่งจะมีข้อได้เปรียบอะไรบ้างนั้น มาลองสำรวจดูกัน

  • มีรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่นกว่า ด้วยความที่สามารถทุ่มเวลาการทำงานทั้งหมดไปที่ทำการตลาดเพียงอย่างเดียว ทำให้เอเจนซีมองเห็นภาพรวมได้ดีกว่า รู้ว่าต้องปรับต้องแก้ตรงไหนจนทำได้ตรงตามจุดประสงค์ที่วางไว้
  • คุ้นชินกับกลยุทธ์การตลาดมากมาย ทำให้พร้อมรับมือความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน อีกทั้งยังสามารถอัปเดตข้อมูลให้ตามทันกระแสของโลกปัจจุบันได้รวดเร็วทันใจที่สุด
  • อยู่กับข้อมูลปริมาณมหาศาลและทำงานวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อพัฒนาต่อยอดกลยุทธ์ตลอดเวลา ทำให้สามารถริเริ่มไอเดียใหม่ ๆ ที่พร้อมรองรับเป้าหมายของการทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • มีการตัดสินใจที่เด็ดขาดชัดเจน สามารถเลือกสรรสิ่งที่เหมาะสมที่สุดให้กับตัวธุรกิจได้จากประสบการณ์ รวมถึงการนำข้อมูลมาวิเคราะห์เชื่อมโยงปรับใช้ได้อย่างชำนาญราบรื่น

ข้อมูลจากภาพถ่ายโทรศัพท์ที่ถูกอัปโหลดขึ้น

แต่ถึงอย่างนั้น การทำการตลาดให้ประสบความสำเร็จควรเริ่มต้นจากความเข้าใจ เพราะถ้าหากทีมเอเจนซีมีความเข้าใจในสิ่งที่กำลังทำอยู่เป็นอย่างดี มีความรู้ มีความชำนาญ สามารถใช้เครื่องมือและวิเคราะห์ข้อมูลจาก Big Data จนต่อยอดมาพัฒนาเป็นแคมเปญการตลาดหรือวางแผนกลยุทธ์ได้ ก็ถือว่าเป็นก้าวแรกของความสำเร็จเลยทีเดียว

หากคุณเป็นผู้ประกอบการที่กำลังมองหา Digital Marketing Agency ดี ๆ มาเป็นพาร์ทเนอร์คอยช่วยเหลือดูแลธุรกิจ ติดต่อร่วมงานกับ Cotactic ได้ที่

Call: 065-095-9544
Inbox: https://m.me/cotactic
Line@: https://line.me/R/ti/p/@cotactic

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://mandalasystem.com/blog/th/47/bigdata-20082020

https://www.ops.go.th/main/index.php/knowledge-base/article-pr/657-big-data

https://mandalasystem.com/blog/th/45/big-data-18082020

https://rb.gy/sxnqui

ข้อมูลจากภาพถ่ายโทรศัพท์ที่ถูกอัปโหลดขึ้น

Cotactic Strategist Team 2021