หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าตอบแทนคณะกรรมการ 2565

ประกาศ เรื่องหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าตอบแทนและอัตราค่าตอบแทนบุคคลหรือคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งให้มีหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่

                                (90) เงินได้เท่าที่สมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติจ่ายเป็นเงินสะสมเข้ากองทุนการออมแห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนการออมแห่งชาติ ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินห้าแสนบาท สำหรับปีภาษีนั้น และให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนดเงินได้ที่ได้รับยกเว้นตามวรรคหนึ่ง เมื่อรวมกับเงินได้ที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณ เพื่อเสียภาษีเงินได้ สำหรับกรณีที่ผู้มีเงินได้จ่ายเป็นเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตาม (35) หรือเงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการตาม (43) หรือเงินสะสมเข้ากองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนตาม (54) แล้วแต่กรณี หรือเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตาม (55) หรือเบี้ยประกันภัยสำหรับการประกันชีวิตแบบบำนาญตาม (61) แล้ว ต้องไม่เกินห้าแสนบาท ในปีภาษีเดียวกัน

    มาตรา 62 ในกรณีผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ผู้ที่ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ ผู้ที่ถึงแก่ความตาย บุคคลที่ตั้งตัวแทนจัดการทรัพย์สิน หรือผู้รับประโยชน์จากทรัสต์ เป็นผู้มีเงินได้สุทธิถึงจำนวนต้องเสียภาษี ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์ ผู้จัดการมรดก ทายาท หรือผู้อื่นที่ครอบครองทรัพย์มรดก ตัวแทนหรือทรัสตี แล้วแต่กรณี เป็นผู้มีหน้าที่ต้องปฏิบัติการตามบทบัญญัติแห่งส่วนนี้แทนผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ผู้ที่ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ ผู้ที่ถึงแก่ความตาย บุคคลที่ตั้งตัวแทน หรือผู้รับประโยชน์จากทรัสต์นั้น  

“อนุทิน” เผย การเพิ่มค่าตอบแทน บุคลากรสาธารณสุข ดูแลทุกวิชาชีพ เตรียมพิจารณาตัวเลขสัปดาห์นี้ พร้อมแจงค่าเสี่ยงภัยโควิด  

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการปรับเพิ่มค่าตอบแทนบุคลากรสาธารณสุข ว่า เรื่องนี้จะมีการหารือกับ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข

หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าตอบแทนคณะกรรมการ 2565

ทั้งนี้ หลักการคือ หากอยู่ในงบประมาณที่ดำเนินการได้หรือให้ได้ก็จะดำเนินการ โดยต้องดูแลทุกวิชาชีพ ไม่แยกดูบางวิชาชีพหรือดูว่าใครทำงานหนักกว่ากัน เนื่องจากทุกวิชาชีพทำงานหนักกันทั้งหมด

หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าตอบแทนคณะกรรมการ 2565
อนุทิน ชาญวีรกูล

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การจ่ายค่าตอบแทนจะใช้เงินบำรุงของโรงพยาบาล สิ่งสำคัญจึงต้องดูเรื่องงบประมาณว่ามีเพียงพอในการจ่าย และไม่เกิดผลกระทบต่อโรงพยาบาลในระยะยาว ซึ่งแต่ละแห่งมีสภาพคล่องทางการเงินแตกต่างกัน จึงต้องพิจารณาเป็นรายโรงพยาบาล

สำหรับตัวเลขที่เหมาะสม จะมีการพิจารณาผ่านคณะกรรมการค่าตอบแทนที่มี นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ซึ่งจะมีการประชุมในสัปดาห์นี้ หากมีความชัดเจนแล้วจะออกประกาศต่อไป

ส่วนเรื่องค่าตอบแทนเสี่ยงภัยโควิด 19 นั้น มีทั้งงบเงินกู้และงบกลาง ซึ่งมีระเบียบการใช้แตกต่างกัน โดยงบเงินกู้ต้องขอรับการสนับสนุนผ่านสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และต้องแจกแจงข้อมูลอย่างละเอียดและเข้มงวด

หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าตอบแทนคณะกรรมการ 2565
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์

อย่างไรก็ตาม งบทั้ง 2 ส่วนไม่สามารถนำมาเกลี่ยกันได้ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการแยกให้วิชาชีพใดได้รับเงินก่อน ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข จะพยายามติดตามและจัดสรรให้ครบถ้วนต่อไป

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า บุคลากรที่กระทรวงสาธารณสุขขอรับการสนับสนุนค่าตอบแทนเสี่ยงภัยโควิด 19 ประกอบด้วย กลุ่มวิชาชีพ กลุ่มเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคอื่นๆ และกลุ่มบุคลากรที่สนับสนุนการปฏิบัติงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข

ขณะที่เงื่อนไข จะต้องเป็นผู้ที่เข้าหลักเกณฑ์การเบิกจ่าย มีการปฏิบัติงานที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย รวมถึงต้องมีคำสั่งมอบหมายหรือให้ไปปฏิบัติงานเป็นลายลักษณ์อักษร

นอกจากนี้ จะมีสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเป็นผู้รวบรวมข้อมูลการปฏิบัติงานของบุคลากรในจังหวัด พร้อมตรวจสอบและรับรองว่ามีการปฏิบัติงานถูกต้องตามหลักเกณฑ์ ส่งให้กับสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณต่อไป

หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าตอบแทนคณะกรรมการ 2565
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน

นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ขอรับการสนับสนุนค่าตอบแทนเสี่ยงภัยโควิด 19 เดือนพฤศจิกายน 2564-มิถุนายน 2565 รวมทุกกลุ่ม ประมาณ 13,500 ล้านกว่าบาท โดยได้รับการสนับสนุนจากงบเงินกู้ 11,500 ล้านกว่าบาท

ส่วนเงื่อนไขตามพ.ร.ก.เงินกู้ฯ กำหนดให้จ่ายได้เฉพาะกลุ่มวิชาชีพ กลุ่มเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคอื่นๆ ขณะที่กลุ่มสนับสนุนการปฏิบัติงาน ประมาณ 2,000 ล้านบาท ครม. ให้ขอสนับสนุนจากแหล่งงบประมาณอื่น โดยได้ขอรับการสนับสนุนจากงบกลางปี 2565 และได้รับจัดสรรจากสำนักงบประมาณ 871 ล้านบาท

จากนั้น มีหนังสือแจ้งการจัดสรรไปจังหวัดต่าง ๆ ลดทอนลงตามสัดส่วน เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2565 โดยให้เร่งรัดเบิกจ่ายให้เสร็จสิ้นภายในเดือนพฤศจิกายน 2565

ในส่วนของงบประมาณส่วนที่ยังขาด ให้จังหวัดตรวจสอบข้อมูลและรายงานสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ภายในวันที่ 6 ธันวาคม 2565 เพื่อรวบรวม พิจารณา และประสานขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากแหล่งอื่นกับสำนักงบประมาณต่อไป