Four seasons koh samui ม ก ห อง

ก่อนอื่นเลย ลุงขอพาไปดูพื้นที่โดยรอบ ของรีสอร์ทกันก่อนฮะ จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า รีสอร์มพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล ติดทะเล มีหาดด้วย มีภูเขาด้วย ชัยภูมิตามตำราจีนถือว่า สุดยอดจริง และถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นได้ว่าถึงจะมีพื้นที่มากมายแต่การจัดบ้านพักไว้อย่างหลวมๆทำให้แขกที่มาเข้าพัก สัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่จริง

ก่อนจะไปจุดอื่น ขอพามาสำรวจหาดก่อนเลย หาดของ Four Seasons Resort ถือเป็นหาดส่วนตัวของรีสอร์ทก็คงไม่น่าจะผิด เพราะมีทางเข้าออกมีแค่สองทางเท่านั้น

1 เข้าจากทางหน้ารีสอร์ท

2 เข้ามาจากทางทะเล

เพราะฉะนั้นมันคือหาดปิดนั้นแหละ ส่วนตัวกว่านี้คงไม่มีแล้วล่ะ

อย่างที่บอกไป เนื่องด้วย รีสอร์ทให้ความสำคัญกับเรื่องธรรมชาติมากถึงมากที่สุด จึงทำให้ ธรรมชาติในบริเวณชายหาด ค่อนข้างธรรมชาติและสะอาดมากกกกกก เรียกว่างดงามไม้แพ้หาดไหนๆของเกาะสมุยเลย ยิ่งในช่วงคลื่นลมสงบนะ เรียกว่าสวยสะกดเลยล่ะ

ในบริเวณนี้แขกนอกก็สามารถมาสัมผัสได้นะฮะ เพราะมีห้องอาหารอยู่ที่หาดนี้ ถึง 2 ห้องอาหาร และห้องอาหารแรกที่จะแนะนำเป็นห้องอาหารริมทะเลฮะ บรรยากาศดี๊ดี ชื่อห้องอาหาร Pla Pla

ช่วงกลางวัน จะเน้นเป็นอาหารทะเลง่ายๆ เบาๆ (แต่ราคาไม่ค่อยเบาเท่าไหร่นะ แหะๆ)

ช่วงค่ำ จะเปลี่ยนเป็น Fine dining บอกเลยว่า อาหารอร่อยเทพมากกกก เสียดายไม่ได้ถ่ายภาพไว้ เมนูจะเป็นประมาณ สเต็กและกริลซีฟู้ด ถ้าถามว่ามื้อไหนคือที่สุดของ Four Seasons Resort Koh Samui ลุงแนะนำห้องอาหารนี้และต้องเป็นมื้อเย็นด้วยเท่านั้น (และเป็นห้องอาหารที่ราคาโหดสุดล่ะในโรงแรมนี้)

จานนี้ถิอเป็นไม้ตายของช่วงกลางวัน ฟีลจริงๆคล้าย ยำวุ้นเส้นฮะ แต่นำเสนอ จัดจานมาได้สวยงามจริงๆ

ส่วนใครไม่เน้นอาหารแนะนำที่นี่เลยฮะ CoCoRum บีชบาร์บรรยากาศเทพๆ ที่นี่เป็นอีกห้องอาหารที่รับแขกนอกเช่นกัน ด้วยบรรยากาศแล้ว น่าจะเป็นห้องอาหารที่บรรยากาศชิลล์ที่สุดในโรงแรมแล้ว CoCoRum ช่วงกลางวันไม่เน้นอาหารฮะ แต่เน้นเครื่องดื่ม แต่ก็มีสั่งอาหารได้นะ แต่จะเป็นพวกพิซซ่า แซนวิช ง่ายๆ เราไปดูบรรยากาศกันดีกว่า ว่าชิลล์จริงๆอย่างที่ลุงโม้มั้ย ?

ช่วงค่ำๆ CoCoRum จะเปลี่ยนเป็นห้องอาหารเต็มตัวหลังจากสระว่ายน้ำปิด แต่อาหารจะไม่เน้นแบบกินจริงๆจังแบบ Pla Pla แต่จะเน้นเป็นอาหารแนว คานาเป้ เสริฟเกร๋ๆ แต่กินแล้วอิ่ม การเสริฟจะเหมือนการเสริฟแบบเชฟเทเบิ้ลฮะมีเชฟมาทำอาหารและบาเทนเดอร์มาผสมเครื่องดื่มให้ดูเลย ส่วนอาหารที่ทานจะเน้นจับคู่กับเครื่องดื่มพิเศษจานต่อจานฮะ

จานนี้สลัดปลาทูน่าสดเสริฟพร้อมกับกล้อยแผ่นกรอบ (เออ…แปลกล่ะสิ)

จานนี้ สเต็กเนื้อวากิว แต่เสริฟม่เหมือนหมูปิ้ง (บรรยายซะราคาตกเลยลุง)

อันนี้สลัดข้าวคีนัว+อโวคาโด้

อันนี้โครตอร่อยเลย พุดดิ้งข้าว+มะม่วงแห้ง+ป๊อปคอร์น อร่อยเทพจริงๆนะจานนี้

ส่วนใครเน้นความคุ้มค่าก็ต้อง บุฟเฟ่ต์เท่านั้น ซึ่งก็ไม่ได้มีทุกวัน

มื้อที่คุ้มสุดในโรงแรมก็คงหนีไม่พ้นซันเดย์บลันช์ในวันอาทิตย์ ราคา 2,400++ (food only)

แต่มื้อบุฟเฟ่ต์ที่บรรยากาศดีที่สุดก็คงต้องที่บีชนี่แหละฮะ ราคาประมาณ 3 พันบาท/คน นั่งชมอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า พร้อมกับ อาหารอร่อยๆ ดนตรีอคูสติก และการแสดงการควงกระบองไฟ

KOH Thai Kitchen and Bar

ถ้าพูดถึงห้องอาหารที่วิวสวยที่สุดในโรงแรมก็ต้องยกให้ที่ฮะ KOH Thai Kitchen and Bar ที่นี่ก็รับแขกนอกมาทานอาหารเช่นกัน หลักๆที่นี่จะขายอาหารไทยโลคอล อาฟเตอร์นูนที บุฟเฟ่ต์อาหารเช้า และซันเดย์บลันช์ ( 2400++) เป็นหลัก

แต่ที่ลุงอยากแนะนำจริงคือ อาฟเตอร์นูนที ราคา 1250/คนฮะ ด้วยบรรยากาศ ด้วยวิว ด้วยเซ็ตอาฟเตอร์นูนที และ ด้วยบริการ บอกเลยว่า มันจะเติมเต็มความสุขในวันหยุดพักผ่อนได้เป็นอย่างดีทีเดียวจริง

เวลาทำการของอาฟเตอร์นูนทีจะอยู่ที่ 1:00 pm – 5:00 pm แต่แนะนำให้มาสัก 4 โมงฮะ แดดเบาลงแล้วค่อยมา

ส่วนใครไม่เน้นกินหนม แต่อยากมาซึมซับบรรยากาศที่ KOH Thai Kitchen แนะนำอาหารไทยโลคอลเลยฮะ เมนูที่ห้ามพลาดเลย คือ ส้มตำยอดมะพร้าว กราบเท่านั้นเมนูนี้ อร้อยยยย อร่อย

อีกเมนูคือ ที่แนะนำคือ ปลากระพงทอดสมุนไพร

หมี่กะทิกุ้งสด จานนี้รสชาติกลางๆ แต่รสแปลกไม่ซ้ำที่ไหน

เมนูเพิ่งเคยทาน ปลาต้มกระพงต้มตะลิงปลิง โดยรวมรสชาติก็เปรี้ยวๆหอมๆ คล้ายต้มส้ม ต้มยำ ที่ไม่เผ็ดฮะ

ส่วนใครอยากลองอาหารสักมื้อ อยากซึมซับบรรยากาศของที่นี่ดูสักหน่อย แต่มีงบจำกัด ลุงแนะนำ บุฟเฟ่ต์อาหารเช้าฮะเวลาทำการคือ 7:00 am – 11:00 am ราคาตกประมาณ 1000 -1200++ คน เสริฟที่ห้อง KOH Thai Kitchen and Bar เช่นกัน ไอเทมในไลน์บุฟเฟ่ต์ ใช้ของดีมีคุณภาพ แต่ปริมาณไอเทมอาจจะดูหลากหลายน้อยไปสักหน่อย สำหรับลุงๆว่าไฮไลท์น่าจะเป็นที่ เบอเกอรี่ที่เยอะมากกก เยอะขนาดเปิดเป็นร้านขายขนมได้เลยฮะ

ป.ล. หรือใครอยากจะสั่งเป็นแบบอลาคาร์ตก็ตกประมาณจานล่ะ 500++ (แต่ลุงว่าบุฟเฟ่ต์เถอะ คุ้มกว่าเห็นๆ)

จากจุดนี้ไปจะเป็นในส่วนสำหรับ คนที่อยากเข้าพักในรีสอร์ทสักครั้งเราไปดูกันดีกว่า ว่าเมื่อจองมาแล้วเราจะ พบกับอะไรกันบ้าง

เมื่อมาถึงเราจะต้องมาลงที่ตรงนี้ก่อนฮะ จุดนี้เรียกว่า Lobby Arrival เป็นจุดที่สำหรับเช็คอินฮะ ถือเป็นจุดที่วิวสูงสุดของโรงแรมแล้วฮะ เรียกเสียงว้าวได้แน่นอน

เมื่อทำการเช็คอินเสร็จแล้ว รถบัคกี้จะพาเราไปวิลล่าฮะ

โดยรวม ห้องพักทุกห้องเรียกว่าหน้าตาแทบเหมือนกันหมดเลยฮะ สำหรับคนที่จองห้องเป็นวิลล่าไว้ ถ้าไม่ใช่ บีชวิลล่าและฝั่งเรสซเดนท์ ห้องพักจะเรียกว่าต่างกันแค่วิวและขนาดห้องก็คงไม่ผิดฮะ

One Bedroom Pool Villa ขนาด 103 ตารางเมตร สามารถเข้าพักได้ สูงสุด 3 คนต่อห้อง ต้องบอกเลยว่าตัวห้องพักของที่นี่เองอาจไม่ใช่ไฮไลท์ของโรงแรมนะ ถามว่าสวยมั้ย? บอกเลยว่าโดยรวมสวยฮะ หรูด้วย แต่การตกแต่งเป็นสไตล์ที่ฝรั่งเขาชอบกัน คนไทยอาจจะไม่ค่อยว้าวนะ ส่วนสระว่ายน้ำน่าจะยาว 10 เมตรได้นะ (น้ำในสระเย็นมากกกกกกกกกก)

ถ้าเป็น Beach Villa With Pool จะได้สระและวิวแบบนี้ไปฮะ แต่ภายในห้องพักหน้าตาเหมือน One Bedroom Pool Villa นั้นแหละ

ในส่วนของห้องพักฝั่ง Residence Villa with Pool การตกแต่งก็แตกต่างจาก ฝั่ง Pool Villa ไม่มากนัก หลักๆก็จะต่างกันแค่ห้องนั่งเล่นและสระว่ายน้ำฮะ ส่วนห้องนอนหน้าตาเหมือนฝั่งวิลล่าเลย เราไปดูกันดีกว่าว่าหน้าตาเป็นยังไง ห้องฝั่งเรสซิดนท์ลุงว่ามันเหมาะกับมาพักเป็นแบบครอบครัวใหญ่มากๆๆ หรือมาจัดอีเว้นท์ มาจัดปาร์ตี้เอาอ่ะ โดยรวมแล้ววิวจากฝั่งเรสซเดนท์จะค่อนข้างปังกว่ามากฮะ

ออกจากวิลล่าไปสำรวจพื้นที่ส่วนกลางจุดอื่นๆกันต่อดีกว่า

Main Lobby

โอเพ่นแอร์ตามสไตล์รีสอร์ทเมืองไทย แต่ไม่ร้อนฮะ จุดนี้จะอยู่ติดกับ KOH Thai Kitchen and Bar

ห้องสมุด

จะอยู่ด้านล่างของ KOH Thai Kitchen and Bar

ห้องเทียร์เตอร์

จะอยู่ใกล้ๆห้องสมุดดฮะ

สปา

บรรยากาศจะเป็นสปากลางป่าฮะ ห้องทรี้ดเม้นท์ใหญ่เวอร์วังมาก ส่วนการนวดก็ดีตามมาตรฐานโรงแรม 5 ดาวฮะ ใครงบพอก็นวดได้ไม่ผิดหวังฮะ

เวทีมวยและฟิตเนส

อันนี้อยู่ในจุดที่แยกต่างหาก ต้องให้รถบักกี้มาส่งฮะ แต่วิวจากเวทีมวย อล้าอลังมากกก บอกเลย น่าจะทำเป็นอีกห้องอาหารได้เลยฮะ จุดนี้ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดของรีสอร์ทอะ

ปงล. เขาจะมีคลาสมวยให้เรียนฟรีด้วยนะฮะ เราสามารถดูตามตารางกิจกรรม

Kid Club & Beach House

จะอยู่แถวบริเวณหาด ใกล้ๆกับห้องอาหาร Pla Pla ฮะ ตัว Kid Club น่าจะเข้าใจกันเนอะ ขนาดไม่ใหญ่ แต่ค่นข้างน่ารัก เพราะเป็นเหมือนบ้านต้นไม้

ส่วน Beach House คือ Kid Club ของเด็กวัยรุ่นถึึงเด็มหาลัยนั้นเอง ฟีลลิ่งเหมือนห้องรับแขกชิคๆริมทะเล

สรุปปิดท้ายสักนิด

ลุงไปสมุยมาก็หลายครั้ง หลายโรงแรมทั้งไฮเอน และไม่ไฮเอน แต่บอกเลยว่ายังไม่เคยเจอรีสอร์ทที่ไหนในสมุยที่เหมือนที่นี่เลย คงไม่มีที่ไหนในสมุยที่จะปรับความลักซูรี่ระดับขั้นสุดให้ผสานเข้ากับธรรมชาติได้ลงตัวขนาดนี้แล้ว ไม่แปลกใจเลยว่า ทำมั้ยใครๆก็ยกให้ที่นี่เป็น รีสอร์ทอันดับต้นๆในเกาะสมุย ไม่ว่าจะด้วย เรื่องวิว ธรรมชาติ หาด และบริการ (รวมถึงราคาด้วย) ถือว่า หารีสอร์ทในสมุยเทียบได้ยากจริงๆ แต่ถ้านับเรื่องตัววิลล่า ห้องพัก อย่างเดียว เอาจริงๆการตกแต่งอาจไม่ค่อยถูกจริตคนไทยสักเท่าไหร่ เพราะที่นี่ออกแบบให้ถูกจริตชาวต่างชาติที่อยากสัมผัสความเป็นไทยมากกว่านั้นเอง

ป.ล. เนื่องจากห้องพักราคาค่อนข้างแพงมากกกก อาจจะเป็นการยากที่จะได้มาเข้าพักที่นี่กันบ่อยๆ ลุงจึงอยากแนะนำให้ลองแวะใครไปสมุยถ้าพักที่อื่น ถ้าวันไหนอากาศดีๆ ลองแวะไปสัมผัส Four Seasons ด้วยการไปทานน้ำ ทานหนม หรือทานอาหารกันดู ลองไปดูกันเนอะ มันอาจจะไม่ได้ฟินระดับ 10 เหมือนเข้าพัก แต่ ระดับ 6-7-8 น่าจะได้อยู่ ลุงว่าไปแล้วก็น่าแชะๆรูปมาอวดในโซเชียลกันคุ้มล่ะ

ปิดท้ายไดอารี่หน้านี้ด้วย นายแบบน้องรักอีกคนของลุงพักกี้… หน้ากากจิงโจ้ เปกกี้ ผลิตโชค นั้นเอง

ขอบคุณผลิตมากๆ ที่ทริปนี้ที่ไปเที่ยวเป็นเพื่อนลุงน้า ทริปนี้บอกเลยว่าลุงโอเคมากกกกก ที่ผลิตมาเติมความป่วนให้ทริปนี้ ถึงจะซนไปหน่อย งอแงไปบ้าง แต่ก็ทำให้ลุงยิ้ม หัวเราะได้บ่อยครั้งจริงๆ ทริปนี้ผลิตน่ารักและป่วนมากจริงๆ หลังจากทริปนี้ทำให้ลุงให้ฉายาผลิตว่า “เด็กน้อย” เลยล่ะกัน คนอะไร ซน แสบ ป่วนผุดๆ

ป.ล. ผลิตบอกว่า นี่เป็นการมาสมุยที่เรียบร้อยที่สุดของผลิตแล้วนะลุง เออ…… ถ้าจัดเต็มกับลุงนี่สงสัยลุงคงไม่ต้องถ่ายรูปทำงานแล้วมั้ง 55555555555