Lexus rx270 ม อสอง เต นถนนส ขาภ บาล

ความเร็วบนมาตรวัด เมื่อเทียบกันแล้ว ที่ระดับ 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง GPS จะวัดได้ที่ 106 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพี้ยนระดับปกติ

Lexus rx270 ม อสอง เต นถนนส ขาภ บาล

ในโหมด Normal คุณจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่า รอบเครื่องยนต์ ทำงานอยู่ที่ระดับเท่าไหร่ จนกระทั่งต้องหมุนสวิชต์ บน แผงควบคุมกลาง ไปยังดหมด Sport นั่นละครับ คุณจึงจะเห็นว่า รอบเครื่องยนต์ โผล่ขึ้นมาแทนที่ อย่างที่เห็นอยู่นี้

ภาพนี้ ถ่ายตอนผ่อนเท้าจากคันเร่งนิดนึงพอดีนะครับ อย่าเข้าใจผิดว่า มอเตอร์จะยอมทำงานจนถึง 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง เชียวละ!

Lexus rx270 ม อสอง เต นถนนส ขาภ บาล

เมื่อมาถึงทางลงอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เราเลี้ยวซ้าย เข้าถนนพหลโยธิน กันอีกครั้ง แล้วเลี้ยวกลับรถที่ สถานีรถไฟฟ้า BTS อารีย์ แล้วพุ่งเข้าไปยังสถานีบริการน้ำมัน Caltex แห่งเดิม เพื่อเติมน้ำมันเบนซิน 95 Techron ให้เต็มถังอีกครั้ง เอาแค่หัวจ่ายตัดก็พอ เหมือนเช่นการเติมครั้งแรก

Lexus rx270 ม อสอง เต นถนนส ขาภ บาล

ทีนี้ เรามาดูกันดีกว่า ว่าตัวเลขที่ CT200h ทำออกมาได้นั้น เป็นอย่างไรกันบ้าง ระยะทางที่แล่นไปบนมาตรวัด Trip Meter 93.2 กิโลเมตร

Lexus rx270 ม อสอง เต นถนนส ขาภ บาล

ปริมาณน้ำมันเติมกลับ 5.11 ลิตร ….เฮ้ย พอๆกับ Nissan March เลยนะนั่น!

Lexus rx270 ม อสอง เต นถนนส ขาภ บาล

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 18.23 กิโลเมตร/ลิตร

Lexus rx270 ม อสอง เต นถนนส ขาภ บาล

ถือว่า CT200h ให้ความประหยัดในระดับที่ดีมาก เมื่อเทียบกับรถยนต์ทั่วไป และทำได้ดีเมื่อเทียบกับรถยนต์ Hybrid คันอื่นๆ ซึ่งเาเคยทดลองกันไปก่อนหน้านี้ ตัวเลขอาจจะด้อยกว่า Prius ใหม่เล็กน้อย แต่นั่นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะด้วยการปรับเซ็ตรถให้เน้นการขับขี่ที่สนุกกว่า ใส่ข้าวของลูกเล่นมาให้เยอะกว่า วัสดุดีกว่า ถ้าน้ำหนักของ ชิ้นส่วนที่เพิ่มขึ้นในรถ มันจะทำให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงด้อยลงไปบ้างนิดหน่อย ผมว่า ก็ยังพอยอมรับได้อยู่ดี

Lexus rx270 ม อสอง เต นถนนส ขาภ บาล

แต่สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ ถึงแม้ถังน้ำมันจะมีความจุ 45 ลิตรโดยประมาณ เท่ากับ Prius ทว่า เมื่อนำมาขับขี่ใช้งานจริง น้ำมัน 1 ถัง อาจจะพา CT200h แล่นไปได้ ไม่ไกลเท่ากับที่ Prius ทำได้ เพราะภาพถ่ายในวันคืนรถ บอกผมชัดเจน ว่า การที่ยังเหลือน้ำมันอีก 3 ขีด ทั้งที่แล่นไปทั้งหมด 447 กิโลเมตร นั่นเท่ากับว่า น้ำมัน 1 ถัง อาจพารถแล่นไปได้ ราวๆ 550 – 600 กิโลเมตร แต่ในความจริง Prius ใหม่ จะพาคุณแล่นไปได้ไกลกว่านั้น คือประมาณ 700 กิโลเมตร (ขับแบบปกติ ไม่ใช่ขับเพื่อเน้นประหยัด)

Lexus rx270 ม อสอง เต นถนนส ขาภ บาล

********** สรุป ********** ขอแค่ยกขุมพลัง Camry Hybrid มาวางในตัวถังที่ปรับเส้นสายอีกรอบ จัดการพื้นที่ด้านหลังรถ ให้ดีกว่านี้ พอแล้ว!

วันเวลาที่เราจะต้องบอกลาเจ้าเหลืองอ๋อย ก็มาถึง บ่ายวันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม 2011 พายุฝนเทกระหน่ำลงมาราวกับว่า พระอินทร์ และพระอิศวร คงนัดกันเล่นเจ็ทสกี ผมถึงกับต้องนำ CT200h คันนี้ ลงไปจอดยังชั้นใต้ดิน B1 ของอาคาร All Season ถนนวิทยุ แทนที่จะได้จอดริมกำแพงรั้วอย่างที่นัดกันไว้ในตอนแรก

บนชั้น 43 ของ อาคาร Main Building ของ All Season ระหว่างที่พายุฝนกำลังโหมอย่างหนัก พี่สรณะ ออกมารับกุญแจ รีโมทคืน แล้วเราก็นั่งคุยกันเรื่องความคิดเห็นที่เกิดขึ้น หลังจากใช้ชีวิตอยู่กับมัน นานถึง 6 วัน 5 คืน อย่างออกอรรถรส เมามันเป็นอันมาก คุยกันราวๆ ครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว

ยอมรับเลยว่า จากครั้งแรก ที่เห็นหน้าตาแล้ว ผมไม่ชอบรถคันนี้เท่าใดนัก แต่พอเมื่อลองขับกันยาวๆ ใช้ชีวิตด้วยกัน ผมก็พบว่า CT200h ก็ไม่ใช่รถที่เลวร้ายเลย มันมีบุคลิกบางอย่าง ผสมผสานกัน ที่ทำให้ผมรู้สึกว่า การใช้ชีวิตกับรถคันนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ก่อให้เกิดอาการ พารานอยด์ เหมือนอย่างที่เคยเจอมาในรถยนต์แนวแปลกๆแบบนี้ บางคัน ขณะเดียวกัน ในทางตรงข้าม แน่นอนว่า CT200h ก็ไม่ใช่รถที่ดีสมบูรณ์แบบ จนไม่อาจหาข้อติใดๆ ได้ ด้วยเช่นกัน

Lexus rx270 ม อสอง เต นถนนส ขาภ บาล

ถ้าจะถามว่า รถคันนี้ มีจุดดีตรงไหน ผมก็ตอบได้ทันทีว่า ตรงที่ความ “เยอะ” ของหล่อนนั่นละ!

CT200h เป็นรถที่ “เยอะ” ในหลายๆเรื่อง ตั้งแต่ให้ข้าวของมา “เยอะ” เมื่อเทียบกับค่าตัวที่จ่ายออกไป มีลูกเล่น “เยอะ” ในห้องโดยสาร ปริมาณกระจกหน้าต่างรอบคันก็ “เยอะ” กว่า Lexus รุ่นอื่นๆ ที่เป็นรถยนต์นั่งด้วยกัน ไม่ใช่ SUV (ส่วนใหญ่ มีไม่เกิน 8 บาน นี่ล่อเข้าไป 10 บาน เท่ากับ RX รุ่นที่แล้วเลยละ) ช่วงล่างเซ็ตมามั่นใจในช่วงความเร็วสูงๆ มากกว่า Toyota รุ่นอื่นๆ “เยอะ” เช่นเดียวกับพวงมาลัยไฟฟ้า ที่เซ็ตมาได้ดีกว่า ที่เคยพบเจอใน Toyota หรือแม้แต่ Lexus รุ่นอื่นๆ “เยอะ” อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ที่ประหยัดกว่ารถทั่วๆไป “เยอะ” (แต่อาจไม่เท่า Prius หรือ CR-Z)

นี่คือรถ Toyota / Lexus รุ่นหนึ่ง ที่ออกแบบแผงหน้าปัดมาได้ดี โดนใจผมมากๆ การจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ทำได้ดีเยี่ยม (เมื่อเทียบกับรถในค่ายเดียวกันรุ่นอื่นๆ) ชวนให้เกิดความตื่นเต้นเวลาขึ้นมานั่งขับครั้งแรกๆ (แม้แรงดึงกระชากของมัน จะยังไม่ถึงขั้นจะทำให้ผมสำเร็จเสร็จสมอารมณ์หมาย และทำหน้าที่ออกมาในระดับ ใช้ได้ เพียงพอ เท่านั้นก็ตาม) มันเป็นรถที่เหมาะกับสาวโสด วัยทำงาน มีเพื่อนอีก 2-3 คน ว่างๆ ก็เก็บเสื้อผ้า ไปเที่ยวทะเล หัวหิน ชะอำ หรือปราณบุรี พอๆกับการขับใช้งานในเมือง ไปตามสภาพการจราจรอันแสนจลาจลของกรุงเทพมหานคร

CT200h จะตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ได้ดี มันเป็นรถยนต์ที่ ผู้หญิงจำนวนไม่น้อย เห็นแล้ว “ร้องกรี๊ดๆๆๆ ฉันอยากได้ๆๆ” อย่างน้อยในวันที่ผมนำรถคันนี้มาใช้ชีวิตด้วย ก็มีน้องผู้หญิงคนหนึ่ง มายืนดูรถ แล้วร้องกรี๊ดๆๆๆ แบบนี้ให้ผมดูมาแล้ว!

Lexus rx270 ม อสอง เต นถนนส ขาภ บาล

แล้วสิ่งที่ผมอยากจะเห็นจาก ทีมวิศวกร Lexus ในการปรับปรุง CT200h ให้ดีขึ้นกว่านี้ละ? มีอะไรบ้าง?

ข้อแรก พละกำลังของเครื่องยนต์ ผมมองว่า มันเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าคุณจะอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ แห่งใดในโลก ถ้าเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร พร้อมระบบขับเคลื่อน Hybrid มันเพียงพอจะพาให้ Prius แล่นไปได้โดยไม่มีลูกค้า เท้าเบารายใดปริปากบ่น มันย่อมพา CT200h แล่นไปได้อย่างสบายใจไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก

เพียงแต่ว่า สำหรับคนที่อยากได้เครื่องยนต์ที่แรงกว่านี้ และต้องประหยัดน้ำมันไม่แพ้กัน ทางเลือกที่น่าสนใจก็คือ การนำ เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร พร้อมระบบ Hybrid จาก Toyota Camry Hybrid ซึ่งนอกจากจะประหยัดพอใช้ได้แล้ว ยังมีกิตติศัพท์ ด้านความแรงแถมพ่วงมาให้อย่างมิได้ตั้งใจอีกด้วย ความแรงในระดับนั้น ถ้าสามารถนำมาวางลงไปในห้องเครื่องยนต์ ของ CT200h ได้แล้ว เชื่อได้เลยว่า หลายๆคนจะยินดีจ่ายเงินเพื่อเป็นเจ้าของมากกว่านี้อย่างแน่นอน

แล้วทำไมพวกเขาไม่ยอมทำออกมาเลยแต่แรกละ? อันที่จริง ผมเชื่อว่า Sadakata-san เองก็น่าจะรู้ดีว่า ข้อจำกัดของการ สร้างรถยนต์คันนี้คือ ในเมื่อ Toyota ต้องการเปิดตลาด แบรนด์ Lexus ในยุโรป ให้มากขึ้น การสร้างรถยนต์ขนาดเล็ก สักรุ่นเพื่อทำตลาดที่นั่น ในบางประเทศ ถ้าขืนใส่เครื่องยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบใหญ่เกิน 2.0 ลิตรขึ้นไป ภาษีต่างๆ ที่ผู้บริโภคต้องเสีย จะสูงมาก จนกระทั่ง อาจส่งผลกระทบต่อยอดขายได้ในทางอ้อม มิเช่นนั้น ก็ต้องทำรุ่นสมรรถนะสูง อย่างเช่น Lexus CT F Hybrid เพื่อเจาะตลาดคนที่อยากได้ Premium Hot Compact Hatchback กันไปเลย

ประเด็นต่อมา คือพื้นที่ในห้องโดยสาร โดยเฉพาะด้านหลัง การติดตั้งแบ็ตเตอรี Ni-Mh เข้ามา ส่งผลกระทบถึงการจัด พื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะขนาดของมันก็ใหญ่ระดับน้องๆขอนไม้ซุงเลยทีเดียว โจทย์ ที่จะต้องเกิดขึ้นแน่ๆคือ ทำอย่างไรถึงจะสามารถลดขนาดของแบ็ตเตอรีลงได้มากกว่านี้ แต่ยังต้องคงประสิทธิภาพด้าน การจ่าย และเก็บประจุไฟฟ้า ไว้ให้ดีเท่าๆเดิม หรือต้องดีกว่าเดิม

ถ้าเป็น Honda เขาจะใช้วิธีการฝังแบ็ตเตอรีและอุปกรณ์ต่อพ่วง ไว้ที่ด้านหลังของเบาะนั่ง แต่ สำหรับรถยนต์ Hatchback ผมก็เข้าใจดีว่า จุดขายสำคัญคือ ต้องอเนกประสงค์พอ ต้องพับเบาะได้ ดังนั้น รูปทรงของแบ็ตเตอรีแบบดังกล่าว จึงไม่อาจ ตอบความต้องการลูกค้าได้ในแง่การใช้งานจริง เป็นเรื่องที่ต้องมีการศึกษาและพัฒนากันต่อไปในระยะยาว

เรื่องช่วงล่างที่แข็งไปหน่อยในช่วงความเร็วต่ำ ข้อนี้พอเข้าใจได้ว่าถนนในยุโรป ที่ยังเป็นก้อนกรวดโบราณ อายุนับแล้ว หลายร้อยปี ยังมีให้พบเห็นและใช้งานกันอยู่ดาษดื่น เป็นพื้นถนนที่ทำลายช่วงล่างได้ดีนักแล ขืนทำช่วงล่างแนวนุ่มๆ ไปเป็นหลัก สงสัยไม่แคล้วคงได้พังเร็วก่อนเวลาอันควร แต่ในเมื่อ คุณคิดจะทำรถรุ่นนี้ ส่งขายในตลาดทั่วโลก ถ้าจำเป็น การปรับเซ็ตช่วงล่างในช่วงความเร็วต่ำ ให้ซับแรงสะเทือนได้ดีกว่านี้อีก แน่น และมั่นใจกว่านี้ แต่เพิ่มความนุ่มนวลใน ระหว่างรูดไปบนพื้นผิวถนน ก็ไม่น่าเหลือบ่ากว่าแรงนัก

ท้ายสุด คงจะเป็นเส้นสายด้านหลัง บริเวณเสาหลังคาหลัง C-Pillar ที่เกี่ยวพันกับทัศนวิสัย ถ้าสามารถปรับและเกลาให้ ออกมาใกล้เคียงกับเวอร์ชันต้นแบบอย่าง LF-Ch มากกว่านี้ ผมว่าคงได้ใจลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก

Lexus rx270 ม อสอง เต นถนนส ขาภ บาล

ในตลาดตอนนี้ คู่แข่งของ CT200h มีใครบ้าง?

ในตลาดกลุ่ม Primuim Compact Hatchback ของเมืองไทย ระดับราคา 2 – 3 ล้านบาทนั้น BMW 1 Series กับ Audi A1 ดูจะเป็น คู่แข่งหลักเหมือนในตลาดโลก อย่าเพิ่งมาถามผมว่า A1 เป็นอย่างไร เพราะในเมื่อยังไม่เคยลองขับ มันก็คง ไม่แฟร์ที่ผมจะพูดถึงรถรุ่นนี้ ขณะที่ ซีรีส์ 1 นั้น ผ่านมือมาแล้ว 2 รุ่น ทั้ง 120i Hatchbazk 5 ประตู และ 120d Coupe ที่แรงกว่า แต่ราคาขายหน้าโชว์รูมก็ทะลุเพดานเดือดไปมากโข จนขายไม่ค่อยได้ และเลิกทำตลาดไปในที่สุด เพราะ พื้นที่ห้องโดยสารคับแคบไม่แพ้ CT200h เลย ต่างกันตรงที่ ขับสนุก และแทบไม่ต้องไปแก้ไขเรื่องช่วงล่างอื่นใด หาก ไม่จำเป็นจริงๆ

แต่ก็ใช่ว่า คู่แข่งในบ้านเราจะไม่เหลือแล้ว เพราะความจริง ม้านอกสายตา ทั้ง Volvo C30 และ Volkswagen Golf GTi ก็ยังคงไม่อาจตัดทิ้งปล่อยวางลงไปไปได้ง่ายนัก เพราะ Golf GTi นั้น ตอบทุกความต้องการของทุกคนได้ดีที่สุดในกลุ่ม ขณะที่ C30 ยังต้องการเครื่องยนต์ซึ่งต้องแรงกว่านี้ แต่ต้องกินน้ำมันพอกับเดิม นอกนั้น มันหนักแน่น และขับดีมากๆ จนเริ่มคิดว่า ถ้าซื้อมาใช้ แล้วไปวางเครื่องใหม่ หรือจูนอัพให้ดีๆ ผมว่า ไม่เลวเลยทีเดียว แต่ถ้าใครอยากแรง ก็คงต้อง หันไปมอง Volkswagen Scirocco ซึ่งโฉบเฉี่ยวกว่า ขับสนุกกว่า แต่ ก็ยังคงมีบริการหลังการขายที่น่าเป็นห่วงอยู่

แล้วถ้าคิดได้ว่า จะตกลงปลงใจกับ CT200h ละ? ควรเลือกรุ่นย่อยไหน?

รุ่น Luxury อันเป็นรุ่นพื้นฐาน เริ่มต้นที่ราคาถูกสุด 2,190,000 บาท สิ่งที่จะถูกตัดออกไป มีเพียง กระจกมองข้างพร้อม ไฟเลี้ยว แบบพับได้ด้วยสวิชต์ไฟฟ้า (ทำงานร่วมกับเกียร์ถอยหลัง) ไฟส่องสว่าง ตรงที่วางเท้า และระบบไล่ฝ้าด้วย ความร้อน เบาะคู่หน้าเป็นแบบปรับด้วยมือ ไม่มีสวิชต์ไฟฟ้า และไม่มีระบบจำตำแหน่งเบาะคนขับ Memory 3 ตำแหน่ง ไม่มีกุญแจรีโมทแบบในรีวิวนี้ ไม่มีระบบนำทางไม่มีจอมอนิเตอร์ EMV ไม่มีกล้องถอยหลัง กับระบบ Bluetooth รุ่นนี้จะเหมาะกับลูกค้าซึ่งมองว่า อุปกรณ์ข้างบนนี้ ไม่มีความจำเป็นใดๆกับชีวิตเลย มันพอเพียงสำหรับการแข่งขัน ในตลาดที่ยังมี BMW X1 ซึ่งมีพื้นที่ในห้องโดยสาร “ไล่เลี่ยกัน” ในราคา 2,149,000 บาท กับ Mercedes-Benz C200 Classic รุ่นพื้นฐาน ที่ยังมีออพชัน น้อยกว่า CT200h ด้วยซ้ำ แต่ขายในราคาพอกัน

ถ้าเป็นรุ่น Sport ราคา 2,390,000 บาท สิ่งที่จพะเพิ่มเข้ามาคือชุดตกแต่งรอบคัน พร้อมล้ออัลลอย ลาย Sport เพิ่ม พวงมาลัย และหัวเกียร์แบบหุ้มหนัง กับชุดกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ที่ถูกตัดออกไป…แค่นั้น…เมื่อมองถึง ข้าวของที่จะได้เพิ่มขึ้น กับจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเพิ่ม ผมเห็นว่า ไม่ค่อยจะคุ้มค่ากันเท่าไหร่

ส่วนรุ่นที่เห็นในรีวิวนี้ คือรุ่น Luxury ซึ่งมาพร้อมอุปกรณ์ข้างบนนี้ที่หายไป กลับมาประจำการครบถ้วน 2,590,000 บาท เป็นรุ่นที่ผมคิดว่า เหมาะกับคนโสดที่คิดจะเริ่มต้นหา Lexus มาใช้ สักคัน และอยากได้อุปกรณ์ครบๆ ไม่ต้องไปทำอะไร เพิ่มเติมอีก ส่วน Moon Roof ถ้าอยากได้ ต้องเพิ่มเงินอีก 100,000 บาท เป็น 2,690,000 บาท ผมมองว่า ไม่จำเป็นเลย

Lexus rx270 ม อสอง เต นถนนส ขาภ บาล

และท้ายสุดนี้…ถ้าจะให้เปรียบบุคลิกของ CT200h เป็นมนุษย์สักคนนึงละ? ควรเป็นคนแบบไหน?

ผมมองว่า CT200h เป็นเสมือนผู้หญิง วัย 25 – 30 ปี แนวหวานซ่อนเปรี้ยว ไว้แบบไม่ถึงโฉ่งฉ่างมากนัก แต่ดูออกอยู่ ว่าวิธีคิด ไม่เหมือนคนธรรมดา ฐานะทางบ้านและการเงินอยู่ในระดับดีเลิศ ถูกเชิญไปร่วมงานสังคมบ้าง ประปราย จบการศึกษา จากมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศ 1 ใน 3 แห่ง แล้วก็ไปเรียนต่อปริญญาโท ที่อังกฤษ หรือยุโรป 2 ปี บินกลับมาทำงานในองค์กรข้ามชาติขนาดเขื่องๆ รูปร่าง สูงโปร่ง มั่นใจในตัวเอง รักครอบครัว รักเพื่อนเฉพาะก๊วน ที่สนิทมาตั้งแต่สมัยเรียน มัธยมมาด้วยกัน ซึ่งก็จะมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้น ปกติแล้ว เป็นคนติดนิสัยผู้ชาย จากคุณพ่อมาบ้าง คือไม่แคร์ใครหน้าไหนที่มาเล่นการเมืองในสำนักงานกับเธอ แอบซุบซิบนินทาเจ้านายฝรั่งบ้าง นิดหน่อย พอขำขำ แต่ ที่แน่ๆ เธอชอบ Shopping เป็นชีวิตจิตใจ ซื้อของแต่ละชิ้น ไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่ แพงสาแก่ใจเป็นอันมาก เพราะคุณเธอถือ คติที่ว่า “ต่อให้แพงแค่ไหน ถ้าฉันชอบ ฉันมองว่าดี ฉันซื้อเลย รอทำไม เดี๋ยวคนอื่นคว้าไปละจะอดซะเปล่าๆ” ส่วนเรื่อง สิ่งแวดล้อมหนะเหรอ “ฉันก็สนใจบ้างนะ แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญในชีวิต สนแค่ว่า ถ้าซื้อรถที่ประหยัดน้ำมันไว้หน่อยก็ดี เพราะที่บ้าน ไม่นิยมให้ติดก๊าซอะไรทั้งสิ้น”

ถ้าคุณเป็นผู้หญิง ที่คิดจะซื้อรถคันนี้ไว้ใช้เอง ด้วยตรรกะวิธีคิดในแบบผู้หญิงยุคใหม่ ผมเชื่อว่า CT200h จะเป็นรถยนต์ ที่เหมาะกับคุณมากๆ มันจะตอบโจทย์การใช้งานได้ดีเลยทีเดียว และถ้าเป็นพ่อบ้าน ที่คิดจะซื้อรถเอาไว้ให้ภรรยา สุดรัก ขับไปทำงาน มันก็ยังจะเป็นรถยนต์ที่สามารถแสดงออกถึงความเป็นคนหัวคิดทันสมัย และไม่ยึดติดกรอบจำกัด ของ เธอ ได้ดีมากๆ ต่อให้ถึงขั้นว่า ถ้าคุณเป็นเกย์ควีน มีความเป็นผู้หญิงในตัวสูง ผมก็ยังคงคิดว่า รถคันนี้เหมาะกับคุณอีก เช่นกัน

แต่ถ้าคุณเป็นผู้ชายแท้ๆ แมนๆ ไปจนถึง เกย์คิง หรือคนที่รักสมรรถนะความแรงเป็นชีวิตจิตใจ ผมคงต้องเตือนกันตรงนี้ว่า CT200h อาจไม่เหมาะกับคุณเพราะถึงแม้จะมีช่วงล่างที่ดี พวงมาลัยสไตล์รถยนต์ Premium Sport GT ชั้นดี แต่พละกำลังจาก เครื่องยนต์ Hybrid มันจะไม่ทันอกทันใจพวกรักความแรงเข้ากระแสเลือดอย่างคุณแน่ๆ และเมื่อขับแล้ว คุณอาจไม่ชอบมัน ก็ได้

ขอแนะนำให้ไปลองขับก่อน คิดดีๆ อย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินใจ เพราะรถคันนี้ คนที่คิดจะซื้อ ต้องมีความชื่นชอบในรูปลักษณ์ และมักตัดสินใจซื้อของด้วยอารมณ์ มากกว่ารถยนต์ปกติทั่วๆไป หรือแม้แต่ Toyota / Lexus รุ่นอื่นๆ อยู่เหมือนกัน!

เพราะเพียงแค่ลองขับสักครั้ง ก็จะรู้แล้วว่า คุณควรใช้ชีวิตกับ สาว Hiso Working woman ชอบคิดต่าง คนนี้หรือไม่