ต.ควรช ม อ.รอ นพ บ บย จ.นครศร ธรรมราช

คราวนี้เราตั้งใจไว้ว่าจะไปย้อนวันวานให้หายคิดถึงกับสถานที่ที่ยังตราตรึงในความทรงจำของเราทั้ง 18 ที่ มีทั้ง ที่เที่ยว ที่นอน ที่กิน ที่ไหว้พระ ไม่ลดละเรื่องคาเฟ่ แถมความเก๋ด้วยการไปลองทำช็อกโกแลตแฮนด์เมดด้วยตัวเอง ทั้งสนุกครื้นเครงในงานเดือนสิบย้อนยุคกินจุก ๆ ต่อด้วยไปรอชมขบวนแห่หมรับ ก่อนจะจบทริปกลับไปด้วยความอิ่มท้องอิ่มบุญและอิ่มใจ รีเฟรช รีชาร์ต รีสตาร์ทพลังชีวิตใหม่กันแบบสุขล้น สำหรับทริปนี้เราเลือกพักที่ Navakitel Design Hotel บินจากสุวรรณภูมิมานครศรีฯ ด้วย Vietjet และการเดินทางทั้งทริปด้วยรถเช่าจาก รถเช่านครศรีธรรมราช อยากรู้แล้วใช่มั้ยว่า 18 ที่ในใจเราจะมีที่ไหนบ้าง ตามกันมาเลยจ้าาาาา

Navakitel Design Hotel FB : Navakitel Design Hotel พิกัด : goo.gl/maps/sxLgWcpqKDoArE9GA Tel : 075-450-959 , 075-450-969 E-mail : [email protected]

ร้านโกปี๊ สาขาศาลากลางจังหวัด FB : ร้านโกปี๊ 1942 – นครศรีธรรมราช กาแฟโบราณ พิกัด : goo.gl/maps/yzgwLfombnuGNseN8

วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช พิกัด : g.page/Detkaphon?share

DAY 1 เริ่มต้นวันแรกกันตั้งแต่เริ่มเดินทางกันเลย วันนี้เราเลือกบินกับตัวจริงเส้นทางสุวรรณภูมิ-นครศรีฯ อย่างเวียตเจ็ทแอร์ ซึ่งช่วงที่ผ่านมามีโปรโมชั่นมากมายให้เราได้เลือกกด ขอบอกเลยว่า เราแอบกดกลับบ้านเป็นว่าเล่นกันเลย และความสุขอย่างหนึ่งของการได้บินมาลงนครศรีฯ คือการได้มองวิวข้างล่างที่มีทั้งทะเล ต้นไม้ แม่น้ำ ธรรมชาติบ้านเรามันอุดมสมบูรณ์มากจริงๆ เอ้า!! ทางไปจองเพื่อบินมาดูวิวตามนี้เลย https://www.vietjetair.com/

001 กาแฟสด บ้านเลขที่ ๙ แลนดิ้งปุ๊ป รีบรับรถเช่าและขับรถพุ่งเป้าไปร้านกาแฟก่อนเลย สำหรับโปรแกรมแรกของเราคือการมาขอพรที่วัดเจดีย์ เลยทำให้กาแฟแก้วแรกของวันนี้ก็ต้องอยู่ใกล้วัดเจดีย์เช่นกัน FB : กาแฟสด บ้านเลขที่ ๙ พิกัด : goo.gl/maps/ZRxGzUeMz9eoUcfD7

เราเคยแวะเวียนมาร้านนี้บ้างแล้วเมื่อคราวมาไหว้ไอ้ไข่ครั้งก่อน ๆ แต่ยังไม่เคยลองสั่งอาหารเป็นเรื่องเป็นราวสักที วันนี้ลองจัดหนักจัดเต็มทั้งคาวหวานและเครื่องดื่ม ที่เราขอแนะนำก็คงเป็นเมนูมาสเตอร์พีซของที่นี่อยู่แล้ว นั่นก็คือ กาแฟเสาวรส ผัดไทกุ้งสด ตำผลไม้รวม และฮันนี่โทสต์ ยิ่งผัดไทกุ้งสดนะ อร่อยสมคำร่ำลือเลย เอาเป็นว่าทุกเมนูของที่นี่เด็ดจริง ปังจริง

002 วัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) มาต่อกันที่วัดเจดีย์ ซึ่งตอนนี้ชื่อเสียงเลื่องลือกระจายไปทั่วประเทศเป็นสาเหตุให้คนหลั่งไหลกันมากราบไหว้กันจนล้นนครขณะนี้ เมื่อก่อนตอนเราเด็ก ๆ เราได้ยินเรื่องตำนานความศักดิ์สิทธิ์ของเด็กวัดผู้ล่วงลับอย่างไอ้ไข่อยู่บ้าง และที่บ้านมีบูชาด้วยความศรัทธาเช่นกัน แต่ตอนนั้นเราไม่คิดเลยว่าอีกไม่กี่ปีต่อมา ไอ้ไข่จะเป็นกระแสจนคนทั่วประเทศต้องมาไหว้กันขนาดนี้ ถือเป็นโชคดีของชาวนครอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ และในภาพนี้คือรูปปั้นไอ้ไข่องค์แรกว่ากันว่าแกะสลักด้วยไม้ ตอนนี้ทางวัดจัดแสดงให้เข้าไปชมและไหว้ขอพรได้แต่ห้ามปิดทอง แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะในวัดมีรูปปั้นไอ้ไข่ให้ได้ขอพรอีกหลายองค์ พิกัด : goo.gl/maps/wDoXjuHF6cae9Dfc8

สำหรับวิธีไหว้ไอ้ไข่จะมี 2 รูปแบบทั้ง ไหว้เพื่อขอพร และไหว้เพื่อแก้บน แต่ละแบบจะไม่ต่างกันเท่าไหร่ ส่วนใหญ่การมาขอพรและแก้บนจะใช้ น้ำแดง ปะทัด รูปปั้นไก่ ชุดทหาร ของเล่น อะไรประมาณนี้ เมื่อได้ของสำหรับไหว้แล้ว ก็ให้นำของไปวางไว้ตรงจุดวางของไหว้ และไปรับดอกไม้ธูปเทียนทองคำเปลวที่จุดบริการของวัด แล้วก็จุดธูปเทียนขอพรที่ลานวัด หลังจากนั้นหากจะขึ้นไปปิดทองรูปปั้นในโบสถ์ก็สามารถขึ้นไปได้ เสร็จสิ้นแล้วจึงมาลาของไหว้ที่วางไว้ทีแรก แล้วเอาไก่ไปปล่อย เอาปะทัดไปจุด เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี

มังคุดคัด ของเด็ดของดีของนครศรีฯ นั้นมีเยอะมาก อีกหนึ่งอย่างที่เราอยากแนะนำแบบเน้นย้ำว่าห้ามพลาดคือ อุ้งเท้าแมวเสียบไม้ เห้ย!!! ไม่ใช่ มันคือมังคุดคัดกรอบๆ หวานๆ ทานเพลินนั่นเอง เจ้ามังคุดคัดคือของกินเล่นของคนนครที่เป็นที่เลื่องลือมาก เพราะคนต่างถิ่นจะไม่คุ้นกับการเห็นมังคุดเสียบไม้ แถมเมื่อกัดเข้าไป มังคุดดันหวานกรอบ ต่างจากรสชาติที่เคยกินด้วย ดังนั้น เราขอแนะนำเลยว่า มานคร ต้องได้ลองมังคุดคัดนะ

003 Thasala Graffiti ออกมาจากวัดเจดีย์ ก่อนเจ้าเข้าที่พักเราขอแว๊บมาจุดนี้สักหน่อย เพราะได้ข่าวว่า เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง กับภาพวาดฝาผนัง Thasala Graffiti ที่เป็นโปรเจคของชาวท่าศาลาร่วมใจกันคืนสีสันให้กับท่าศาลา โดยใช้ภาพวาดฝาผนังพวกนี้ถ่ายทอดอัตลักษณ์ของที่นี่ด้วยสีสันสะดุดตา โดย Thasala Graffiti จะมีด้วยกัน 3 จุด ให้เราได้เดินหาและแชะภาพไปอวดสายตาชาวโซเชี่ยล พิกัดรูปบน : goo.gl/maps/Na61UGk6iTiE83sMA พิกัดรูปล่าง : goo.gl/maps/EZFhhHpiiXcJL7GL6

004 ก.ไก่ เตี๋ยวไก่ตุ๋น ยอมรับแหละว่าหิว ก็ยืนถ่ายภาพกันอยู่ดี ๆ ความหอมของก๋วยเตี๋ยวร้านตรงข้ามมันเตะจมูกซะเหลือทน เราเลยวางมือทิ้งทุกอย่างแล้วข้ามถนนเดินตรงไปสั่งเตี๋ยวไก่คนละชามอย่างไว แค่กลิ่นที่โชยมาก็รู้แล้วว่าต้องอร่อยชัวร์ๆ FB : ก.ไก่ เตี๋ยวไก่ตุ๋น พิกัด : goo.gl/maps/EZFhhHpiiXcJL7GL6

ที่ร้านมีทั้งเมนูเกาเหลา ก๋วยเตี๋ยว และข้าวมันไก่ สามารถสั่งได้ตามถนัด ซึ่งเมนูทุกอย่างที่มีไก่ตุ๋นนั้น ทั้งหอมและเนื้อนุ่ม นุ่มแบบหลุดลุ่ยเปื่อยละลายในปากมาก สำหรับคนที่ชอบแทะขาแทะน่องเราว่าร้านนี้ตอบโจทย์

005 ร้านบ้วนเฮงหล่ง ข้ามถนนกลับมาอีกครั้งเพราะตอนถ่ายลาย Graffiti เมื่อกี้ เรายังไม่ได้จอดช้อปปิ้งของเล่นที่ร้านนี้เลย เห็นอะไรแบบนี้แล้วคิดถึงตัวเองสมัยเด็กๆ เนอะ ทุก ๆ อย่างที่จัดวาง ตั้งขายในร้านนี้ มันคือความคลาสสิคที่ไม่ว่ายุคไหนก็พรากไปไม่ได้ ลองหยิบ ลองจับของเล่นแต่ละอย่างแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากตัวการ์ตูนต่าง ๆ ลูกโป่งวิทยาศาสตร์ งูปลอม จิ้งจกปลอม หรือจะเป็นชุดเครื่องครัวดินเผา ที่เราชอบเอาใบไม้มาเนียนเป็นตำน้ำพริกจนครกแตกบ่อย ๆ ว่าไปตอนนี้เราก็ยังบ้าของเล่นพวกนี้อยู่เหมือนเดิม โดยเฉพาะเจ้าบับเบิ้ลสีสันต่าง ๆ ที่เป่าเมื่อไหร่จะเหมือนโลกสดใสขึ้นทุกที พิกัด : goo.gl/maps/UCoiXzvs1BdShDKw6

006 Navakitel Design Hotel อิ่มบุญอิ่มท้องอิ่มใจจนแก้มปริก็รีบตรงมาที่โรงแรมของทริปนี้กันก่อน คราวนี้เรามาเช็คอินเข้าพักกันที่ดีไซน์โฮเทลสุดคูลของเมืองนครอย่าง Navakitel Design Hotel ซึ่งเมื่อมาถึงเราก็ร้องว้าวกับตึกสีดำขลับ ตัดกับสีน้ำตาลขึงขังของเชือกป่านที่รับหน้าที่เป็นมู่ลี่คอยต้อนรับแขกที่เข้าพักอย่างเก๋ไก๋ เป็นการดีไซน์ที่ทั้งเท่และคูลตั้งแต่ภายนอกตลอดจนภายใน เค้าคุมโทนความเข้มแข็ง ขึงขัง แข็งนอกนุ่มในได้อย่างลงตัว ข้อมูลเพิ่มเติม FB : Navakitel Design Hotel พิกัด : goo.gl/maps/sxLgWcpqKDoArE9GA Tel : 075-450-959 , 075-450-969 E-mail : [email protected]

เมื่อเดินผ่านผ้าม่านเชือกป่านมาเราจะเจอกับโถงแรกด้านนอกที่โล่งโปร่ง ไว้สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนและทานอาหารเช้า ต่อมาก็เปิดประตูเข้าล็อบบี้ที่ยังเน้นความโล่งโปร่งและเข้มแข็ง ด้วยการใช้ปูนเปลือย สีเทา ดำ และน้ำตาล มาจัดสรรตกแต่งให้เข้ากันอย่างกลมกล่อม มันคือมิติของการดีไซน์ที่จะให้ดูเก่าแต่ไม่เก่า แถมยังเป็นลูกเล่นของสีต่างๆ กับใช้วัสดุที่หาได้ในท้องถิ่นตั้งแต่ เหล็ก ไม้ ปูน และเชือก มารวมกันหรือที่เรียกว่าสไตล์ Local Substantive คือการดีไซน์ที่บูรณาการระหว่างความเป็นท้องถิ่นของนครฯ และวัสดุที่เป็นพื้นฐานของงานก่อสร้างเพื่อบอกเรื่องราว และตัวตนของนครได้อย่างแนบเนียน เอ้อ แฮะ เราว่ามันทำให้มองยังไงก็ไม่เบื่อ ถ้าหากต้องการออกจากกรอบของโรงแรมในแบบเดิม ๆ มาพักผ่อนหาไอเดีย อินสปายเรชั่นใหม่ ๆ เราว่าที่นี่ตอบโจทย์ได้เลย

ห้องพักที่นี่มีทั้งหมด 68 ห้อง ทุกห้องจะดีไซน์สไตล์ Loft กว้างขวางแต่ไม่โล่งจนโหวงเหวง ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ WiFi แรงดีไม่มีสะดุด โดยห้องพักทั้งหมด 4 รูปแบบด้วยกันได้แก่ – Loft (25 ห้อง) ห้องพักสไตล์เรียบง่าย น่ารัก ขนาด 25 ตร.ม. มีการดีไซน์อย่างตรงไปตรงมาแต่ไม่แข้งกระด้าง ยังมีพื้นที่พอให้ได้ใช้นั่งจิบกาแฟ ทำงาน อานหนังสือ แถมยังมีระเบียงให้ออกไปสูดอากาศด้วย – Urban (32 ห้อง) ห้องขนาด 25 ตร.ม. เท่า Loft แต่จะอยู่คนละฟาก ภายในห้องตกแต่งด้วยวัสดุที่ถ่ายทอดเรื่องราวของนครเอาไว้อย่างลงตัว พร้อมระเบียงที่เห็นวิวด้านนอกเปิดกว้าง – Garden (8ห้อง) ภายในห้องจะมีลูกเล้นเยอะกว่า 2 แบบที่แล้ว มีขนาด 35 ตร.ม. จะเน้นความร่มรื่นและส่วนตัวด้วยระเบียงและมุมสวน – Valley (3ห้อง) ห้อง Type จะเป็นห้องที่เราชอบที่สุด เพราะนอกจากจะมีขนาด 35 ตร.ม. กว้างแบบจุก ๆ แล้ว ยังมีการใช้กระจกใสรอบ ๆ ห้อง ทำให้รู้สึกโล่ง สว่าง แต่ยังไม่ทิ้งความขึงขังแข้งแรงตามคอนเซ็ปต์ของโรงแรม แถมในห้องยังมี Smart TV ลำโพงบลูทูธ โต๊ะทำงานที่สามารถมองวิวเทือกเขานครศรีธรรมราชได้ด้วย

007 งานเดือนสิบย้อนยุค ชมโรงแรมซะเพลินลืมฟ้าลืมตะวันจนท้องต้องร้องหิว เราเลยขอเลือกไปเดินเล่นที่งานเดือนสิบย้อนยุค ที่จัดตรงกับช่วงที่เรามาพอดี ก็ใช่น่ะสิ เราตั้งใจจะมาให้ตรงกับวันประเพณีของนครอยู่แล้ว แล้วจะพลาดงานนนี้ได้ยังไง ก็พาปากท้องไปหาอะไรกินเล่นสักสามสี่กรุบจะได้นอนหลับสบาย ซึ่งงานเดือนสิบย้อนยุคนี้จัดขึ้นทุกปีในช่วงเทศกาลบุญสารทเดือนสิบซึ่งเป็นประเพณีประจำปีของชาวนครฯ ที่มีมาอย่างยาวนาน ตามหลักฐานบอกว่ามีการจัดครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2466 ณ สนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช และเช่นกันปีนี้ก็ได้ย้อนอดีตกลับไปเหมือนสมัยงานเดือนสิบยุคก่อน จัดขึ้นที่เดิม ยังคงความน่ารักเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน

ภายในงานมีขนมของกินเล่นเยอะมาก ทั้งที่เรารู้จักและไม่รู้จัก แต่ที่เราชอบมากคือหมี่กะทิปักษ์ใต้ที่สามารถเลือกท้อปปิ้งได้เองไม่ว่าจะ กุ้ง หมึก ปู ปลา ลูกชิ้น มีให้ครบ สำหรับใครที่ไม่เคยลอง รสชาติมันจะออกหวาน ๆ เผ็ด ๆ ถึงเครื่องแกงใต้ กินแล้วปากจะมัน ๆ หน่อย ต้องมาพร้อมผักแนมด้วยนะ ไม่งั้นจะไม่อร่อย เมนูนี้ถือว่าเป็นเมนูในดวงใจของเด็กนักเรียนแทบทุกคน เพราะสมัยก่อนตามตลาดนัดจะห่อใบตองเอาไม้กลัด ไว้ให้เด็ก ๆ ได้กินเป็นมื้อเช้ารองท้องก่อนไปโรงเรียน

นอกจากนี้ยังมีขนมและเมนูอื่น ๆ ให้เราได้ชิมได้ซื้อกินเพลินๆ เดินไปกินไป ทั้งไข่ปลาทอด ลูกชุบ ไข่นกกระทา ลูกเนียงต้ม ข้าวดัง เหนียวสองดัง ซึ่งเรามาเดินตอนค่ำทำให้หลาย ๆ เมนูหมดหรือโดนจองกันเกลี้ยง บางร้านดัง ๆ คิวก็ยาวตาม แอบเสียดายเหมือนกัน เลยฟาดขนมจากร้านอื่น ๆ มาลงท้องเป็นการปลอบใจตัวเองแทน

งานเค้าใหญ่มาก ของเยอะมากจริงๆ สมแล้วที่เป็นงานประจำปี เรานี่เดินจนแข้งขาล้าไปหมด เลยต้องมานั่งพักที่ “ลานตะเกียงเคียงดิน” ซึ่งเป็นเวทีกลางของงานเดือนสิบย้อนยุคปีนี้ ซึ่งตรงนี้มีความพิเศษตรงที่ เค้าจะมีการแสดงโชว์ตะเกียงเจ้าพายุทุกคืน แถมยังมีหนังตะลุง มโนราห์ให้ชมแบบเต็มเหนี่ยวจุกกันไปยันปีหน้า เรานี่โชคดีมากที่วันนี้ได้มานั่งดูมโนราห์ ซึ่งถ้าพูดจริง ๆ แล้ว เราไม่ได้ดูมานานมากกกกกก มากจนลืมไปแล้วว่าครั้งสุดท้ายที่ดูคือเมื่อไหร่ นั่งดูแล้วก็อิ่มใจ แม้ความทันสมัยจะเข้ามาบ้านเราเยอะแค่ไหน แต่เราก็ยังไม่ทิ้งมรดกทางศิลปะที่สืบทอดกันมา เห็นแล้วก็ภูมิใจจังเลย ที่เป็นคนที่นี่ เมืองที่มีทั้งธรรมชาติและศิลปะครบครัน

ก่อนจะกลับไปนอนอย่างสบายใจเราขอไปแชะภาพคู่กับไฟทางเข้างานสักหน่อย บ้าบอ นี่มันเทศกาลงานเดือนสิบที่บ้านจริง ๆ เหรอ เดี๋ยวนี้เค้าพัฒนากันขนาดนี้แล้ว ทั้งกินสนุก กิจกรรมเพลิน เดินมัน แถมยังมีจุดถ่ายรูปเยอะด้วย สำหรับใครที่อยากตามรอย ปีนี้ไม่ทันแล้ว ถ้าไปแถวสนามหน้าเมืองที่จัดงาน ก็จะเจอแต่สนามโล่ง ๆ และสวนสาธารณะสำหรับชาวนครฯ เท่านั้น ถ้าอยากมาเที่ยวงานแบบเราก็ต้องรอช่วงเดือนสิบปีหน้าเด้อ

DAY 2 Navakitel Design Hotel เมื่อวานเที่ยวจนล้าไปหมด เมื่อคืนเลยหลับสนิทแบบไม่มีอะไรมากั้นได้ เช้านี้เลยตื่นมาสดใสยิ้มให้ตัวเองในกระจกแล้วแปรงฟันรับวันใหม่พร้อมลงไปตื่นตากับอาหารเช้าข้างล่าง ต้องขอออกตัวไว้ก่อนเลยว่า เราชอบห้องน้ำที่นี่มากเป็นพิเศษ เพราะด้วยดีไซน์ที่ใช้กระเบื้องสีขาวด้านบนตัดกับสีสนมด้านล่างปาดด้วยยาแนวสีน้ำตาลและย้ำความขาวน้ำตาลด้วยเฟอร์นิเจอร์ภายใน มันให้ความรู้สึกวินเทจคลาสสิคและเข้มแข็ง Navakitel นี่เค้าคุมตีมอยู่จริง ๆ

มื้อเช้าของที่นี่ก็ไม่ธรรมดานะ อาจจะไม่ได้เป็นสไตล์บุฟเฟ่ต์นานาชาติแบบที่โรงแรมอื่น ๆ ชอบจัดมาให้ เพราะที่นี่เค้าไม่ซ้ำใคร ด้วยการจัดอาหารถิ่นมาให้ลองชิมกันไม่ยั้ง ทั้งปาท่องโก๋ ขนมชั้น ข้าวเหนียวหมูห่อใบบัว และข้าวมันแกงไก่ใบตอง ตอนแรกก็เห็นว่าใส่ห่อมาอย่างละนิดอย่างละหน่อย น่าจะให้ชิมกันพออิ่มแหละ ที่ไหนได้ พอได้กินทั้งหมดเข้าไป เรียกว่าอิ่มพุงปลิ้นถึงจะถูก

อิ่มท้องแล้วก็รีบอาบน้ำแต่งตัวออกไปตะลอนข้างนอกกันต่อ อ้อ!! ก่อนจะออกขอแชะภาพกับประตูเลื่อนข้างลิฟต์ซักหน่อย แหมมม ก็มันไม่เหมือนใครซะขนาดนี้ อยากลงรูปให้เพื่อนๆ มาเม้นถามว่าที่ไหน เอาให้อยากตามมาพักกันไปเลย

008 กำแพงเมืองเก่า เอาล่ะ วันนี้ก็ยังอยู่กับการย้อนวันวานของตัวเอง ด้วยการมารอชมขบวนแห่หมรับ (อ่านว่า มรั่บ) ที่มีทุกปีจนเป็นงานใหญ่ประจำปีของนครฯ เช่นกัน วันนี้เราเลือกมารอที่กำแพงเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งที่นี่ก็มีความสำคัญตามประวัติศาสตร์ของนคร ที่นี่มีมายาวนานกว่า 400 ปี โดยมีบันทึกว่าได้แบบอย่างการสร้างมาจากเมืองเชียงใหม่ โดยทำเป็นกำแพงแบบปักเสาพูนดิน ต่อมาเมื่อโปรตุเกสเข้ามามีอิทธิพลในไทยจึงทำนำวิธีการสร้างแบบก่ออิฐและตั้งฐานปืนใหญ่เข้ามาใช้ในการสร้างกำแพงเมืองด้วย เลยได้ถูกดัดแปลงเป็นกำแพงก่ออิฐเพื่อความแข็งแรงในที่สุด พิกัด : goo.gl/maps/fZ5EQ4xtu2iZydoZA

009 ขบวนแห่หมรับ ประเพณีสารทเดือนสิบ เมื่อก่อนโรงเรียนของเราอยู่ตรงที่ตั้งขบวนพอดี เลยมีโอกาสได้แอบหนีมายืนรอชมอยู่บ่อย ๆ ความพีคของทริปนี้คือ เราตั้งใจจะมาขบวนแห่หมรับ ซึ่งอย่างที่บอกว่ามันคืองานใหญ่ประจำปีของนครศรีธรรมราชเลยที่เดียว โดยเริ่มจากสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราชไปสู่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ระยะทางประมาณ 2 กม. ซึ่งขบวนแห่หมรับนั้นมาจากทุก ๆ อำเภอ ทุก ๆ องค์กรในนครศรีฯ ร่วมมือร่วมใจกัน จัดมาเพื่อวันนี้โดยเฉพาะ ทั้งรถแห่ นางรำ มหรสพ ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างมาก

สำหรับขบวนแห่นั้น ที่ขาดไม่ได้เลยคือ หมรับ (มรั่บ) ที่หมายถึง สำรับอาหารคาวหวานบรรจุภาชนะไปถวายพระอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษล่วงลับไปแล้ว โดยวันยกหมรับจะตรงกับวันแรม 14 ค่ำ ซึ่งเป็นวันที่ลูกหลานร่วมกันแบกหามหมรับที่จัดเตรียมเรียบร้อยแล้วไปถวายพระที่วัดนั่นเอง ซึ่งต่อมาการยกหมรับก็กลายเป็นขบวนสนุกสนาน จนวันสุดท้ายคือแรม 15 ค่ำ จะมีการทำบุญเลี้ยงพระที่วัดครั้งใหญ่เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ จะมีการตั้งเปรตที่เรียกว่า ‘ชิงเปรต’ ที่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย นอกจากนี้ยังมีขนมหลักๆ ของงานเดือนสิบ 5 อย่างที่ขาดไม่ได้เลย คือ • ขนมพอง เป็นสัญลักษณ์แทนเรือแพที่บรรพบุรุษใช้ข้ามห้วงมหรรณพ • ขนมลา เป็นสัญลักษณ์แทนเครื่องนุ่งห่ม ใช้เป็นเสื้อผ้าอาภรณ์ • ขนมบ้า เป็นสัญลักษณ์แทนลูกสะบ้า ใช้เป็นอุปกรณ์การละเล่นแทนสะบ้า เพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลิน • ขนมดีซำ เป็นสัญลักษณ์แทนเงินเบี้ย ใช้แทนเงินจับจ่ายใช้สอย • ขนมกง เป็นสัญลักษณ์แทนเครื่องประดับ เพราะมีรูปทรงคล้ายกำไลแหวน

010 โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช & สระล้างดาบศรีปราชญ์ อย่างที่บอกไว้ว่าเรามาย้อนเวลาหาอดีตของตัวเอง ถ้าจะไม่กลับมาเยี่ยมสถานที่แห่งความทรงจำตั้งแต่เข้ามัธยมก็คงไม่ได้ ซึ่งตอนนี้โรงเรียนของเราก็มีอายุครบ 102 ปีแล้ว ก็น่าจะเป็นรุ่นคุณทวดกันแล้วแหละ และนอกจากนี้ ที่นียังมีสถานที่สำคัญของเมืองนครฯ อีกหนึ่งที่คือ “สระล้างดาบศรีปราชญ์” ซึ่งในประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า ท่านกวีศรีปราชญ์ได้โดนประหารชีวิตที่จุดนี้ และเพชฌฆาตได้นำดาบที่ฟันคอมาล้างที่สระน้ำแห่งนี้นี่เอง ข้างๆ สระจะมีรูปปั้นท่านนั่งอยู่ พร้อมด้วยบทกวีที่ท่านเขียนไว้ก่อนตาย ถ้าจะให้เล่าถึงความผูกพันธ์ของเรากับสระนี้ ก็จะมีเรื่องตลกมาเล่าจนถึงปัจจุบัน คือ เรากับเพื่อนๆ จะชอบมาบนกับศรีปราชญ์ขอให้สอบผ่าน แล้วแก้บนด้วยการวิ่งรอบสระ 10 รอบบ้าง 20 รอบบ้าง แต่เมื่อถึงเวลาแก้บนจะต้องขอต่อรองเพื่อให้วิ่งน้อยลงทุกที เพราะเราคิดว่าท่านศรีปราชญ์ใจดี รักเด็กๆ ที่นี่มากๆ พิกัด : goo.gl/maps/hpkyJzadZD9fJZ3r6

011 Glur house ใกล้ ๆ โรงเรียนเราจะมีร้านกาแฟซึ่งเราก็คลับคล้ายคลับคลาว่าเมื่อก่อนตรงนี้คือร้านขายเครื่องเขียน ไม่น่าเชื่อเลยว่าปัจจุบันจะเป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความเท่และอบอุ่น อย่าง Glur House คาเฟ่สไตล์ loft เน้นโทนสีดำและน้ำตาลเข้ม ภายในร้านเรียงรายไปด้วย skateboard ตามความชอบของเจ้าของร้าน ช่วยเพิ่มสีสันให้ดูมีอะไรมากขึ้น สำหรับเมนูเครื่องดื่มนั้น ทางร้านจะมีเมนูพิเศษออกมาให้ได้ชิมกันทุก ๆ เดือน เช่น เมี่ยงคำโคลด์บริว Beach Boy และอีกหลากหลายเมนู หากเข้าไปในร้าน คิดอะไรไม่ออกก็ถามน้องพนักงานได้ ยิ้มแย้มแจ่มใส แนะนำเราได้ทุกคน นอกจากนี้ สำหรับใครที่หลงใหลกีฬา skateboard ก็สามารถหาซื้ออุปกรณ์ได้จากที่นี่ด้วย FB : GLUR HOUSE พิกัด : g.page/Glurhouse?share

ถนนเส้นหลังพระธาตุเป็นอีกหนึ่งจุดที่เรารู้สึกว่า ถ่ายรูปสวยมาก

012 ขนมจีนเมืองคอนเส้นสด มานครฯ ไม่กินขนมจีนถือว่ามาไม่ถึง แล้วเรากล้าเอาหัวเป็นประกันได้เลยว่า หากเข้าร้านขนมจีนในนครฯ 100 ร้าน แน่นอนว่า จะต้องอร่อยทั้ง 100 ร้านชัวร์ สำหรับวันนี้เราขอมาแซ่บกันที่ร้านขนมจีนเส้นสดเจ้าดัง ที่มีทั้งขนมจีนน้ำยาต่าง ๆ หมูทอด ทอดมันกุ้งกรอบ และขนมหวานยกทัพกันมาให้เราได้ทานแบบจุกกันทั้งวัน แอบกระซิบหน่อยแล้วกันว่าเราฟาดไปแน่น ๆ 4 จานไปเลยจ้า FB : เมืองคอนเส้นสด พิกัด : goo.gl/maps/4wdGZf5nXnWETXf86

013 One more Thai craft chocolates เชื่อมั๊ยว่าโกโก้ที่ปลูกอยู่ในไทยส่วนใหญ่ตอนนี้ คือโกโก้ที่มีแหล่งกำเนิดมาจากนครศรีฯ เลยนะ เอาจริง ๆ คือ คนไทยหรือแม้แต่คนท้องถิ่นก็รู้กันน้อยมากว่า นครนี่มีแบรนด์ช็อกโกแลตเป้นของตัวเองหลายเจ้าเลย แถมยังคุณภาพดีมากด้วย ซึ่งที่ที่เรามาวันนี้ ก็คือ One more Thai craft chocolates ของพี่นุช ผู้ซึ่งหลงใหลในการทำขนมและรักช็อกโกแลตมากจนยอมไปศึกษาจากสภาบันต่าง ๆ เพื่อมาสร้าง handcrafted chocolate แบบคุณภาพเน้น ๆ ที่เป็นของคนนครตัวจริง ที่นี่ไม่ใช่โรงงานทำช็อกโกแลตที่ผลิตแบบทีละเยอะ ๆ นะ เพราะที่นี่คือช็อกโกแลตโฮมเมดเน้นคุณภาพและความใส่ใจ รับรองว่าช็อกโกแลตทุกเม็ดทุกบาร์ที่เราได้ไป คือคัดสรรมาจากวัตถุดิบคุณภาพและกรรมวิธีที่เน้นความสดใหม่ไม่มีสารเจือปนแน่นอน FB : One more – วันมอร์ – Thai craft chocolates พิกัด : goo.gl/maps/jxoB7TaTtoMLciEz7

มาถึงแหล่งทั้งที เราต้องขอลองผลิตช็อกโกแลตฝีมือตัวเองสักหน่อย ซึ่งเราจะมีพี่นุช คุณครูและเจ้าของที่นี่คอยเป็นโค้ชให้เรา ซึ่งเอาจริงนะ ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าวันหนึ่งจะได้มาลองทำช็อกโกแลตกับเค้าอ่ะ โดยการทำช็อกโกแลตของวันมอร์นั้นมี 5 ขั้นตอน คือ 1.เก็บผลโกโก้ทิ้งให้ลืมต้น บ่มไว้ 3-4 วัน 2. แกะเอาเมล็ดที่มีปุยขาวห่อหุ้มข้างในผล มาหมักในภาชนะไม้ที่รองรับด้วยใบตองประมาณ 1 สัปดาห์ 3. โดยทุก 2 วันต้องพลิกตลบคลุกเคล้าให้ทั่ว วัดอุณหภูมิและความชื้นตามหลักการหมักเพื่อให้ได้เมล็ดแห้งคุณภาพ 4. จากนั้นนำไปตากและเฝ้ากลับกองตากให้แห้งทั่วถึง จึงนำเก็บในภาชนะที่แห้งปิดมิดชิด เพื่อรอการคั่ว 5. กะเทาะเปลือก และนำไปบด 4 วัน เป็นโกโก้แมส (cocoa mass) ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการนำมาทำเป็นช็อกโกแลตของวันมอร์ในรูปแบบต่างๆ ต่อไป สำหรับใครที่สนใจอยากเวิร์คชอปทำช็อกโกแลตหรือมาอุดหนุนช็อกโกแลตคุณภาพดี ก็ลองมาที่นี่ดูได้

014 ร้านโกปี๊ สาขาศาลากลางจังหวัด ทั้งกาแฟทั้งช็อกโกแลตเข้ามารองท้องเรียกน้ำย่อยจนต้องเรียกหาอาหารมื้อหลักเข้าสู่กระเพาะบ้างแล้ว วันนี้เราขอปิดท้ายด้วยอีกมื้อพิเศษกับบักกุดเต๋ร้อน ๆ ในหม้อดินเผาที่เราอยากกลับมาทานตั้งนานแล้ว เชื่มั๊ยว่า บักกุดเต๋ที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่ากินที่ปักษ์ใต้ และที่หนึ่งเรื่องบักกุดเต๋สำหรับเรา ต้องยกให้ร้านนี้ โกปี๊ สาขาศาลากลาง เท่านั้น เมื่อก่อนร้านโกปี๊คือร้านน้ำชายามเช้าอยู่ที่จังหวัดชุมพร จนได้ขยายมาสร้างตำนานที่นครศรีธรรมราช โดยรวมแล้ว ร้านนี้มีอายุยาวนานกว่า 70 ปีแล้ว และยังคงความเป็นเอกลักษณ์มาตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน ตอนนี้โกปี๊ไม่ได้มีแค่อ่หารเช้าเท่านั้น ยังมี บะกุดแต๊ ข้าวขาหมู ข้าวหมูอบ ซาลาเปา กาแฟสด หรือ โกปี๊ และอีกมากมายให้เลือกทานกันได้เค้าเปิดทั้งวันตั้งแต่เช้าตรู่ยันดึกกันเลยที่เดียว FB : ร้านโกปี๊ 1942 – นครศรีธรรมราช กาแฟโบราณ พิกัด : goo.gl/maps/yzgwLfombnuGNseN8

มื้อค่ำจบไปแล้ว กลับมาถึงที่พักในค่ำคืนนี้ เห็นไฟที่โรงแรมสวยดีเลยต้องกดชัตเตอร์สักหน่อย ด้วยความคุมโทน ดำ น้ำตาลของภายนอก ทำให้เมื่อเปิดไฟสีส้มแล้วมันให้ความรู้สึกสุขุม ลึกลับแต่อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เราชอบความเข้าใจใช้สี แสง เงา และวัสดุของที่นี่นะ มันเป็นความทันสมัยที่คลาสสิค ซึ่งเราเองก็นิยามไม่ถูกว่า จริงๆ มันสไตล์อะไรกันแน่

DAY 3 วันสุดท้ายขอตื่นสายด้วยความขี้เกียจสักนิด แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีมื้อเช้าทานอย่างอิ่มหนำเหมือนวันก่อนหน้านะ เพราะที่ Navakitel เค้ามีบริการเสิร์ฟอาหารเช้าถึงห้อง จัดเป็นเซ็ตสวยงามน่ารักน่าชัง ในปริมาณที่อิ่มพอดี ที่สำคัญยังเอามาเป็นพร๊อพถ่ายรูปอวดชีวิตดี๊ดีที่นครศรีได้ด้วย

015 ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ทานมื้อเช้าจนอิ่มแปล้ รอย่อยสักแปป ก็รีบอาบน้ำแต่งตัวสวยออกมาไหว้ศาลหลักเมืองนครฯ ก่อนหลับสักหน่อย แม้ว่าจะไม่ได้มาตั้งแต่วันแรก แต่ยังไงก็ต้องมา เพราะที่นี่คือที่ประดิษฐานหลักเมืองของจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกแบบคล้ายศิลปะศรีวิชัยเรียกว่าทรงเหมราชลีลา มีอาคารเล็ก ๆ รายล้อม 4 หลังถือเป็นบริวารสี่ทิศเรียกว่าศาลจตุโลกเทพ ประกอบด้วย พระเสื้อเมือง ศาลพระทรงเมือง ศาลพระพรหมเมืองและศาลพรบันดาลเมือง พิกัด : goo.gl/maps/D9Jvp4czgS22NMhRA

หลักเมืองนครศรีฯ นั้น ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความศักดิ์สิทธิ์เอามาก ๆ เริ่มตั้งแต่องค์เสาหลักเมืองทำด้วยไม้ตะเคียนทอง ที่ได้มาจากภูเขายอดเหลืองภูเขาลูกหนึ่งในทิวเขานครศรีธรรมราช และว่ากันว่าขณะที่อัญเชิญเสาหลักเมืองลงตั้งพื้นลานหน้าวิหารหลวงก็เกิดพระอาทิตย์ทรงกลดจนชาวบ้านต่างพากันอัศจรรย์ใจ และหากใครเคยได้ยินชื่อ องค์จตุคามรามเทพ ก็จะร้องอ๋อ เพราะนั่นคือ เทวดาผู้รักษาเมืองนครที่ซึ่งอยู่บนเสาสูงสุดของหลักเมือง ชาวนครฯ เชื่อว่าท่านคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยปกป้องรักษาบ้านเมืองให้พ้นจากภัยอันตรายต่าง ๆ มาอย่างยาวนาน

016 วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งแต่เด็กจนโต เราจะได้ยินคำพูดของผู้เฒ่าผู้แก่เสมอว่า “เกิดมาหนึ่งชาติ ต้องได้กราบพระธาตุเมืองนครฯ” ซึ่งเราก็ชอบเคลมตัวเองอยู่เสมอว่า ชาตินี้ของเรานั้นคุ้มเหลือเกินเพราะการได้อยู่ที่นี่ทำให้เราได้มาไหว้พระธาตุบ่อยกว่าใคร เชื่อมั๊ยว่าตอนเด็ก ๆ จะต้องจับมือเพื่อน ๆ นั่งรถสองแถวมาขอพรแห่พระขึ้นธาตุทุกครั้งที่เป็นวันสอบของโรงเรียน เพราะว่าชาวนครฯ มีความเชื่อว่าการนำผ้าขึ้นธาตุนั้นจะทำให้การขอพรหรือบนบานเป็นจริงดังหวัง เรียกว่าเอาฤกษ์เอาชัย ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องใช้การบน ฮ่าๆๆๆ สำหรับเราแล้วนอกจากไม่สามารถขึ้นไปเดินรอบพระธาตุได้ตลอดเวลาเหมือนสมัยเราเด็ก ๆ และนักท่องเที่ยวมากขึ้นกว่าเก่าแล้ว พระธาตุฯ หรือ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากความทรงจำเลยสักนิดเดียว พิกัด : g.page/Detkaphon?share

ในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ความขลังและความเก่าแก่ของพระธาตุเมืองนครนั้น ถ้าจะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้เพราะที่นี่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดนครศรีธรรมราชเลยทีเดียว ซึ่งพระบรมธาตุเจดีย์องค์ใหญ่ตรงกลางที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้านั้นเป็นเจดีย์สถาปัตยกรรมแบบทรงระฆังคว่ำ ยอดเจดีย์หุ้มด้วยทองคำแท้ประดับด้วยเพชรนิลจินดา และอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ขององค์พระบรมธาตุ คือ ว่ากันว่าองค์พระธาตุจะไม่มีเงาทอดลงพื้นไม่ว่าแสงอาทิตย์จะส่องกระทบทางไหนก็ตาม ซึ่งปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศ จดทะเบียนวัดพระมหาธาตุเป็นโบราณสถาน นับเป็นปูชนียสถาน ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้

017 Ergo Coffee เดินชมพระธาตุย้อนวันวานจนความหวานในเลือดลดลงไปเยอะ เราเลยต้องแวะเติมพลังกับคาเฟ่เก๋ ๆ ตรงข้ามวัดกันสักแก้วสองแก้ว ที่เราเลือกร้านนี้เพราะที่นี่ มีเมนูที่นำเอกเอกลักษณ์ต่าง ๆ ของเมืองนครมาผสมผสานจนเกิดเป็นเครื่องดื่มหลากหลาย โดยเฉพาะเจ้า ‘Lapucino ลาปูชิโน่’ เมนูที่ทางร้านคิดค้นขึ้นมาด้วยการนำขนมลามาท็อปปิ้งบนฟองนมเนียนนุ่มของคาปูชิโน่ เป็นลูกเล่นให้ทานลาดิปกับฟองนมซึ่งบอกเลยว่ากลมกลืนกันมาก ทำให้การทานกาแฟของเราเร้าใจขึ้นไปอีก ยิ่งกับเราผู้ซึ่งชอบขนมลามาก ยกให้เป็นอันดับหนึ่งในดวงใจของบรรดาขนมเดือนสิบทั้งหลายแล้วด้วย ยิ่งว้าวกับเมนูนี้มากขึ้นอีกพันเท่า FB : ร้านกาแฟดี อร่อย นครศรี Ergo Coffee พิกัด : g.page/ErgoCoffeeThailand?share

018 วัดไพศาลสถิตย์ (วัดปากพยิง) และจุดสุดท้าย ก่อนจะไปสนามบิน เราขอแวะมาชมวัดโบราณ ที่สันนิษฐานว่าสร้างเมื่อสมัยกรุงศรีอยุธยา ความสวยงามโดดเด่นเรียกร้องให้เราต้องมาถึงที่นี่ คือพระอุโบสถหลังเก่าสร้างด้วยอิฐเก่าแก่ มี​รากไทรขึ้นมาโอบล้อมกระจายทั่วโบสถ์ ภายในมีพระประทาน พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ แม้หลักฐานข้อมูลจะไม่ได้ปรากฏมากมายนัก และยังไม่ได้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย แต่ที่นี่ก็สวยเหมาะกับการการเข้าไปถ่ายภาพ หรือแม้แต่หามุมสงบ ๆ นั่งหย่อนใจ ทำสมาธิก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน พิกัด : goo.gl/maps/NY8mBRitHfS8rxKT7

สำหรับทริปย้อนวันวานของเราก็จบไปแล้ว ทั้งหมดมันคือการกลับมาดู มาชื่นชมความเปลี่ยนแปลงของบ้านตัวเอง เราดีใจนะที่เห็นบ้านตัวเองพัฒนาขนาดนี้ ได้เห็นความเจริญที่เพิ่มขึ้นตามสเต็ปของมันอย่างเป็นธรรมชาติโดยที่คนนครยังคงรักษาอัตลักษณ์ของตัวเองไว้ได้อย่างมั่นคง สถานที่วิ่งเล่นกับเพื่อนในสมัยอดีตยังคงเป็นที่เดิมเพิ่มเติมคือทุกคนมีรายได้เพิ่มขึ้น จังหวัดเรามีคนหลังใหลกันมามากขึ้น และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เรารักนครฯ มากขึ้นเช่นกัน สำหรับใครที่กำลังสนใจหรือวางแพลนจะมาเที่ยวนครบ้านเรา แล้วมีอะไรสงสัยหรืออยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ก็มาแลกเปลีย่นพูดคุยกันได้ เรายินดีมาก ๆ