ข อว น จฉ ยทางการพยาบาล เส ยงต อการพล ดตกหกล ม

ความผกู พนั ของลูกคา้ ของผรู้ บั บรกิ ารทห่ี อผูป้ ่วยจะแนะนาผอู้ ่นื ผใู้ ชบ้ รกิ ารตอ่ บรกิ ารพยาบาล

ใหม้ าใชบ้ รกิ ารโรงพยาบาลวชริ พยาบาล ≥ 85% - rapid assessment ปัญหาและความตอ้ งการ - ขอ้ รอ้ งเรยี นดา้ นพฤตกิ รรม ของผรู้ บั บรกิ ารโดยหวั หนา้ หอผปู้ ่วยทุกวนั บรกิ าร = 0

6.S :SmartMedical Faculty - โครงการ “Vajira QR Code : นวัตกรรม - อตั ราความพงึ พอใจของ

คณะแพทยท์ ท่ี นั สมยั ในยคุ ดจิ ทิ ลั สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ” ผรู้ บั บรกิ ารตอ่ การใช้

- สรา้ งส่อื การใหค้ วามรู้แก่ผูร้ บั บรกิ ารกลุ่ม นวตั กรรม (≥รอ้ ยละ 80)

โรคเร้ือรังใน รูปแบบคลิปวีดิโอและ - อัตราบุคลากรพยาบาล

QR code ผ่านการอบรมและได้รับ

- ส่งบุคลากรอบรมแบบ online เกี่ยวกับ ใบประกาศนยี บตั ร 100%

digital literacy การเปล่ียนผ่านสู่องค์กร

ดิจิทั ล และความ เข้ าใจและก ารใช้

เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ

สถาบนั พัฒนาบุคลากรภาครฐั ดา้ นดิจทิ ัล

( TDGA )

- เป็น ward นาร่องของหอผู้ป่ วยพิเศษใน

การเรมิ่ ระบบ EIPD

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

6

3.การใช้ประโยชน์จากคา่ นิยมหลกั ขององค์กร (ถ้าม)ี HA I-1.1ก(1)

คา่ นิยมหลกั HA Core Values ตวั อย่างการตดั สินใจ/ การปฏิบตั ิเป็นปกติประจา

V : Visionary Visionary leadership - การพฒั นาศกั ยภาพของหอผปู้ ่วยเพ่อื รองรบั การ มองการณไ์ กล มวี สิ ยั ทศั น์ Patient & Customer ดแู ลผปู้ ่วยโรคเรอ้ื รงั A : Altruism focus มจี ติ สาธารณะ มนี ้าใจ มงุ่ ทา Value on staff - การเขา้ ร่วมกจิ กรรม 5 ส. เพ่อื ประโยชน์ผูอ้ ่นื - ให้ความร่วมมอื เขา้ ร่วมปฏิบตั ิงานหอผู้ป่ วยแยก Ethic & Professional โรค 1A หออภิบาลแยกโรค 3B ทมี 2 และหอผู้ป่วย J : Justice standard แยกโรค 4A เพ่อื ร่วมดแู ลผปู้ ่วย COVID-19 ยดึ ความถกู ตอ้ ง เป็นธรรม - อาสาสมคั รในการฉดี วคั ซนี ป้องกนั COVID-19 System perspective, - ส่ง ICWN ไปช่วยปฏิบัติงานท่ีงานควบคุมโรค I : Integration Teamwork ตดิ เชอ้ื ในชว่ งการแพร่ระบาดของโควดิ -19

- ใหก้ ารดูแลผปู้ ่วยแบบองคร์ วมดว้ ยหวั ใจความเป็น มนุษย์ (holistic care) - ให้บริการผู้ป่ วยทุกรายอย่างเสมอภาคโดย คานึงถงึ สทิ ธผิ ปู้ ่วย ยดึ ถอื คุณธรรม จรยิ ธรรมในการ ประกอบวชิ าชพี เช่น การรกั ษาความลบั ผปู้ ่วย โดย การขออนุญาตผปู้ ่วยกอ่ นใหก้ ารรกั ษาพยาบาล และ มกี ารเซน็ ใบยนิ ยอมในการดูแลลกั ษณะพเิ ศษต่างๆ เช่น ยินยอม การปฏิเสธการรกั ษาท่ีเป็นไปเพียง เพ่อื ยอ้ื ชวี ติ ออกไปโดยไม่เกดิ ประโยชน์ - ส่งเสรมิ ให้ผู้ป่วยและครอบครวั ได้รบั ทราบสทิ ธใิ น การรบั รู้ข้อมูลความเป็นจรงิ เกี่ยวกับภาวะสุขภาพ เช่น การให้ข้อมูลวางแผนการดูแลล่วงหน้าจน นาไปสกู่ ระบวนการตดั สนิ ใจในวาระสดุ ทา้ ย

- ประสานความร่วมมอื ในการทางานร่วมกบั ทมี สห สาขาวชิ าชพี และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมนาทาง คลินิกในการพัฒนาคุณภาพการให้บริการ เช่น discharge Planning, ก า รส่ ง ต่ อ เพ่ื อ ก า ร ดู แ ล ต่อเน่อื ง และการดูแลผปู้ ่วยแบบประคบั ประคอง - พฒั นาคุณภาพการดูแลเฉพาะโรคในรูปแบบของ คณะกรรมการ DSC Pacemaker, DSC NSTEMI, DSC DM เป็นตน้

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

7

ค่านิ ยมหลกั HA Core Values ตวั อย่างการตดั สินใจ/ การปฏิบตั ิเป็นปกติประจา Responsibility R : Responsibility - มี Service mind ใหบ้ รกิ ารดว้ ยความเตม็ ใจ มคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ท่ี - บคุ ลากรปฏบิ ตั หิ นา้ ทต่ี า่ งๆ ตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย หน่วยงาน และองคก์ ร และกจิ กรรมพฒั นาคณุ ภาพของหน่วยงาน เช่น

A : Agility Agility, Learning ● การดแู ลผปู้ ่วย pneumonia, UTI ไมใ่ ห้ อาการ ทรุดลงจนเขา้ สภู่ าวะ septic shock มคี วามยดื หยนุ่ พรอ้ มเรยี นรู้ ● การดูแลผปู้ ่วยแบบประคบั ประคองในผปู้ ่วยระยะ พรอ้ มเปลย่ี นแปลงส่สู งิ่ ทด่ี กี ว่า สดุ ทา้ ยสง่ ผลใหผ้ ปู้ ่วยตายอยา่ งสงบ

- บคุ ลากรมกี ารเตรยี มความพรอ้ มรบั สถานการณ์ ฉุกเฉนิ อุบตั ภิ ยั หมู่ โรคอุบตั ใิ หม่ ( COVID-19) และการเปลย่ี นแปลงตา่ ง ๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ภายในองคก์ ร - พรอ้ มดแู ลผูป้ ่วยทส่ี งสยั ตดิ เชอ้ื รนุ แรง

4. การปฏิบตั ิ/ กิจกรรม ที่สาํ คญั ที่สอดคล้องกบั จุดเน้นขององคก์ ร (ถา้ มี) HA I-1.1ค(2) 1.10จุดเน้นของ

โรงพยาบาล การปฏิบตั ิ/ กิจกรรม ที่สาํ คญั ตวั ชี้วดั ผลลพั ธ์

จดุ เน้น

1. Green : ประหยดั พลงั งาน - 5 ส. ในหน่วยงาน การจดั การขยะ - รอ้ ยละของคะแนนการประเมนิ

และสรา้ งสงิ่ แวดลอ้ มทด่ี ี ความสะอาด สงิ่ แวดลอ้ ม กจิ กรรม 5 ส. (≥ 90%)

- ลดปรมิ าณการใชก้ ระดาษ - อตั ราความพงึ พอใจของผใู้ ช้

- พฒั นานวตั กรรมการดแู ลผปู้ ่วยจาก นวตั กรรม Vajira hand lock : ปลอก ขยะ recycle (Vajira hand lock : ปลอก มอื กนั ดงึ (≥ 80%) มอื กนั ดงึ ) - อตั ราผปู้ ่วยรายใหม่ทไ่ี ดร้ บั การ - การดแู ลผปู้ ่วยแบบประคบั ประคอง ประเมนิ อาการโดยใชแ้ บบประเมนิ

ESAS (≥ 80%)

- อตั ราผปู้ ่วยทไ่ี ดร้ บั การดแู ลแบบ

ประคบั ประคองหรอื ผปู้ ่วยระยะ

สดุ ทา้ ยไดร้ บั การจดั การความปวดให้

อย่ใู นระดบั ≤ 6 (≥ 70%)

- อตั ราความพงึ พอใจของญาตติ อ่

การดูแลแบบประคบั ประคองหรอื

ผปู้ ่วยระยะสุดทา้ ย (≥ 80%)

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

8

จดุ เน้น การปฏิบตั ิ/ กิจกรรม ท่ีสาํ คญั ตวั ชี้วดั ผลลพั ธ์

2. Lean : ปรบั ปรุงระบบ - อตั ราผปู้ ่วยระยะสุดทา้ ยไดก้ ลบั เพอ่ื ลดการสญู เปลา่ (waste) บา้ นตามทต่ี อ้ งการ (≥ 50%) เพมิ่ คุณคา่ และประสทิ ธภิ าพ - อตั ราผู้ป่วยทม่ี คี ะแนน PPS ≤ 50 % ไดร้ บั การพดู คยุ เพอ่ื วางแผนการ 3. Safety : ลดความเสย่ี ง ดแู ลลว่ งหน้า (≥ 80%) เพม่ิ ความปลอดภยั ในทุกจดุ ทกุ ขนั้ ตอน - โครงการพฒั นากระบวนการ - อตั ราการวางแผนจาหน่าย

4. Smart digital : การมงุ่ สู่ วางแผนจาหน่าย (ใชแ้ นวคดิ DMS (discharge plan) ผปู้ ่วยสามารถกลบั บา้ น การใหบ้ รกิ าร และบรหิ าร จดั การในยุคดจิ ทิ ลั และ lean) กอ่ นเวลา 12.00น. (≥ 60%)

- ระยะเวลาในการรบั ใหมผ่ ปู้ ่วยเขา้

หอ้ งพเิ ศษ  60 นาที

- โครงการวางแผนจาหน่ายผปู้ ่วย - รอ้ ยละการกลบั มารกั ษาซา้ ภายใน

โรคหลอดเลอื ดสมอง 28 วนั ในผปู้ ่วย stroke ( 1.5%)

- การนามาตรฐานสาคญั จาเป็นต่อ - จานวนความคลาดเคลอ่ื นในการ

ความปลอดภยั : Vajira 2P safety บรหิ ารยาทม่ี คี วามเสย่ี งสูง

goal มาปรบั ใชอ้ ย่างเหมาะสมตาม - จานวนครงั้ การใหเ้ ลอื ดและ

บรบิ ทของหน่วยงาน ส่วนประกอบของเลอื ดผดิ พลาด

- จานวนการระบุตวั ผปู้ ่วยผดิ พลาด

- จานวนอุบตั กิ ารณท์ เ่ี กดิ ขน้ึ จากการ

ไม่สามารถประเมนิ ผปู้ ่วยกอ่ นเขา้ สู่

ภาวะวกิ ฤตผลกระทบั ระดบั ≥E

- อตั ราการตดิ เชอ้ื CAUTI

- โครงการ “Vajira QR Code : นวตั กรรม - อตั ราความพงึ พอใจของ

สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ” ผรู้ บั บรกิ ารตอ่ การใชน้ วตั กรรม

- สรา้ งส่อื การใหค้ วามรแู้ ก่ผรู้ บั บรกิ าร ( ≥ 80 %)

กลมุ่ โรคเรอ้ื รงั ในรปู แบบคลปิ วดี โิ อ

- มีการประเมนิ ความรูบ้ ุคลากร specific

functional competency 5 โรคหลัก และ

เวชศาสตรเ์ ขตเมอื ง โดยใช้Google Form

และ QR code

- ส่ือสารและบันทึกข้อมูลท่ีสาคัญ

เร่งดว่ น ทางโปรแกรม Line

ข.บริบท

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

9

5. ความมุ่งหมายของหน่วยงาน (หน้าท่ีและเป้าหมายของหน่วยงาน) ผปู้ ่วยอายุรกรรมไดร้ บั การดแู ลแบบองคร์ วมดว้ ยความรวดเรว็ ปลอดภยั ภายใตม้ าตรฐานวชิ าชพี

โดยคานงึ ถงึ สทิ ธผิ ปู้ ่วย มงุ่ เน้นการสง่ เสรมิ สขุ ภาพ มกี ารจดั การความรู้ส่กู ารพฒั นาคณุ ภาพการดแู ลอยา่ ง ต่อเน่อื ง

6. ประเดน็ คณุ ภาพที่สาํ คญั (ที่เก่ียวกบั บริบทของหน่วย)

มิติคณุ ภาพ/ ประเดน็ คณุ ภาพ ตวั ชี้วดั การบรรลเุ ป้าหมาย สาํ คญั ตามเป้าหมาย

1. การเขา้ ถงึ บรกิ าร - ระยะเวลาเขา้ รบั บรกิ าร - ระยะเวลาในการรบั ใหมผ่ ปู้ ่วยเขา้ หอ้ งพเิ ศษ

(Accessibility) ระยะเวลาการรอคอย  60 นาที (  85%)

- ผปู้ ่วยทม่ี ยี า stat order ไดร้ บั การตอบสนอง

ภายใน 30 นาที

2. ความปลอดภยั - ลดภาวะแทรกซ้อนจาก - รอ้ ยละของผปู้ ่วย stroke ไดร้ บั การประเมนิ

(Safety) การดูแลโดยทีมสหสาขา การกลนื ภายใน 24 ชวั่ โมง (  100%)

วชิ าชพี - อุบัติการณ์การเกดิ ภาวะ hypoglycemia ในผปู้ ่วยโรคเบาหวานทค่ี วามเสย่ี งสงู (0 ครงั้ )

- อตั ราการเกดิ แผลกดทบั ระดบั 1-4

( 5 ครงั้ ตอ่ 1,000 วนั นอนเสย่ี ง)

-อตั ราการตดิ เชอ้ื VAP ( 6 ครงั้ ต่อ 1,000 วนั ใส)่

- อตั ราการตดิ เชอ้ื CAUTI ( 5 ครงั้ ต่อ 1,000 วนั ใส)่

- จานวนอบุ ตั กิ ารณ์การพลดั ตกหกลม้ /การตก

เตยี งระดบั ผลกระทบ  E (0 ครงั้ )

- อตั ราการเกดิ หลอดเลอื ดดาส่วนปลายอกั เสบระดบั

1 - 4 (  3% )

3.ความเหมาะสม การวนิ ิจฉยั และรกั ษาท่ี - จานวนความคลาดเคลอ่ื นในการบรหิ ารยาทม่ี ี

( Appropriateness ) ถกู ตอ้ งเหมาะสม ความเสย่ี งสงู ระดบั ผลกระทบ A-E (0 ครงั้ )

4.ประสทิ ธผิ ล(เป้า) ผลลพั ธก์ ารรกั ษาเป็นท่ี - อตั ราการจดั การความปวดอย่างต่อเน่อื งในผปู้ ่วย

(Effectiveness) ตอ้ งการของผูป้ ่วย มะเรง็ (  80%)

- อัตราการจัดการความปวดหลังการผ่าตัดใส่

อุปกรณ์ไฟฟ้ าหัวใจให้อยู่ในระดับปวดน้อย

(mild pain) ภายใน 24 ชวั่ โมง (90%)

5.ประสทิ ธภิ าพ (ตน้ ทุน - การใชท้ รพั ยากรคมุ้ ค่า - รอ้ ยละการกลบั เขา้ รกั ษาซา้ ภายใน ๒๘ วนั ใน

คมุ้ ทุน)(Efficiency) ทนั ต่อเวลา ลดระยะเวลาวนั ผปู้ ่วย stroke (  1.5%)

นอน ลดคา่ ใชจ้ า่ ย และไม่มี - LOS ของผปู้ ่วยโรคหลอดเลอื ดสมองตีบ ( < 10 วนั )

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

10

มิติคณุ ภาพ/ ประเดน็ คณุ ภาพ ตวั ชี้วดั การบรรลุเป้าหมาย สาํ คญั ตามเป้าหมาย 6.คนเป็นศูนยก์ ลาง การกลบั มารกั ษาซา้ - รอ้ ยละการกลบั เขา้ รกั ษาซา้ ภายใน ๒๘ วนั ดว้ ย (People-centered) - ความพรอ้ มของทมี ผดู้ แู ล เร่อื ง การปฏบิ ตั ติ วั ไม่ถูกตอ้ งของผปู้ ่วย DM (  3 %) และระบบการใหด้ แู ลทเ่ี ป็น - รอ้ ยละการกลบั เขา้ รกั ษาซ้าภายใน๒๘วนั ดว้ ยเรอ่ื ง 7.รวดเรว็ (Timeliness) องคร์ วม การปฏบิ ตั ติ วั ไมถ่ กู ตอ้ งของผปู้ ่วย CAD ( 3%) - อตั ราความพงึ พอใจของผใู้ ชบ้ รกิ ารต่อบรกิ าร 8.ความตอ่ เน่อื ง ความทนั การ (Timeless) (Continuity) พยาบาล ( 85%) ไดร้ บั บรกิ ารอยา่ งต่อเน่อื ง -อตั ราความพงึ พอใจของญาตติ อ่ การดแู ลผปู้ ่วยแบบ 9. สมรรถนะ ประสานงานดี ประคบั ประคอง/ผปู้ ่วยระยะทา้ ย (  80%) (competency) -อตั ราความพงึ พอใจของผปู้ ่วยและญาตทิ ่ไี ดร้ บั มาตรฐานวชิ าชพี การรกั ษาดว้ ยการใสอ่ ุปกรณ์ไฟฟ้าหวั ใจ (  80%) - อตั ราผปู้ ่วยระยะสุดทา้ ยไดก้ ลบั บา้ นตามความ

ตอ้ งการ ( 50%) -อตั ราผูป้ ่วยระยะสดุ ทา้ ย ในหอผปู้ ่วยไดร้ บั การดแู ล แบบประคบั ประคองเสยี ชวี ติ อยา่ งสงบโดยไมม่ กี าร ช่วยฟ้ืนคนื ชพี โดยไม่จาเป็น (  80%) - จานวนขอ้ รอ้ งเรยี นเกย่ี วกบั การใหบ้ รกิ าร (0 ครงั้ ) - อตั ราผปู้ ่วยภาวะพษิ เหตตุ ดิ เชอ้ื (sepsis)ไดร้ บั การสง่ ตรวจ hemoculture อยา่ งนอ้ ย 1 specimen, lactate และเรมิ่ ใหย้ าฆา่ เชอ้ื ภายใน 60 นาที หลงั ไดร้ บั การวนิ ิจฉยั (≥ 80%) - อตั ราผปู้ ่วยทม่ี ยี า stat order ไดร้ บั การ ตอบสนองภายใน 30 นาที (100%) - อตั ราการสง่ ตอ่ ผปู้ ่วยแบบประคบั ประคอง/

ผปู้ ่วยระยะทา้ ยทไ่ี ดร้ บั การดูแลตอ่ เน่อื ง ( 80%) - อตั ราผปู้ ่วยทไ่ี ดร้ บั การดแู ลแบบประคบั ประคอง/ ผปู้ ่วยระยะสุดทา้ ยไดร้ บั บรกิ ารเครอ่ื งมอื ทาง

การแพทยท์ บ่ี า้ น ( 50%) - อตั ราการ re-admission ภายใน 28 วนั จาก การคาอุปกรณ์ ( 3%) - อตั ราพยาบาลวชิ าชพี ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ

Specific competency ( 85%)

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

11

7. ขอบเขตบริการ (Scope of service) : ครอบคลมุ /ไมค่ รอบคลมุ / ลกั ษณะสาํ คญั ของผรู้ บั บริการ (เขียนรวบประเดน็ สาํ คญั ของหน่วยงาน)

• ขอบเขตและภาระกจิ หลกั ทท่ี า ให้การบรกิ ารรกั ษาพยาบาลท่มี คี ุณภาพตามมาตรฐานวชิ าชีพครอบคลุมทงั้ บรกิ าร ดา้ นการส่งเสรมิ สุขภาพ

การป้องกนั โรค การรกั ษาพยาบาล การฟ้ืนฟูสภาพอย่างเป็นองค์รวม สนับสนุนการทางานแบบสหสาขาวชิ าชพี และ ประสานความร่วมมอื กบั หน่วยงานท่ีเก่ียวขอ้ งในการให้บรกิ ารสุขภาพแก่ผู้ป่ วยอายุตงั้ แต่ 15 ปีข้ึนไป ทางด้าน อายุรกรรมทุกระบบทงั้ กลุ่มโรคเร้ือรงั และหายขาด รวมถึงผู้ป่ วยระยะสุดท้ายท่ีต้องใช้เคร่อื งช่วยหายใจซ่ึงญาติ ต้องการดูแลอย่างใกล้ชดิ นอกจากน้ียงั ให้บรกิ ารด้านวชิ าการโดยเป็นสถานท่ีฝึกปฏิบัติแก่แพทย์ต่อยอดเฉพาะ สาขาแพทย์ประจาบ้าน นักศกึ ษาปรญิ ญาตรี นักศกึ ษาปรญิ ญาโท และนักศกึ ษาหลกั สูตรเฉพาะทางการดูแลแบบ ประคบั ประคอง

8. ความต้องการของผ้รู บั บริการ/ ผ้รู บั ผลงานภายนอก (จาํ แนกตามกลมุ่ สาํ คญั ) HA I-3.1, I-3.2 ก(1) I-6ก

ลกั ษณะของผ้รู บั บริการ ความต้องการ การออกแบบ/ ปรบั ปรงุ กระบวนการทาํ งาน

1.โรคหลอดเลอื ดหวั ใจตบี -ไดร้ บั การรกั ษาตามมาตรฐานจากแพทย์ - ดแู ลผปู้ ่วยตามระบบ STEMI (CAD) ทช่ี านาญ สามารถกลบั บา้ น ไดเ้ รว็ fast tract

- ไดร้ บั การตรวจวนิ ิจฉยั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งรวดเรว็ - มอบหมายงานระบบการดแู ล

- มคี วามรูในการดแู ลตนเองเมอ่ื แพทย์ เป็นรายบุคคล (case method)

อนุญาตใหก้ ลบั บา้ น - นาแนวคดิ การจดั การตนเอง

- อยากไดร้ บั การรกั ษาอย่างรวดเรว็ มาใชใ้ นการพฒั นาศกั ยภาพการ

จดั การตนเองสาหรบั ผปู้ ่วย

2.ปอดอกั เสบ (pneumonia) - อยากทราบขอ้ มูลการเจบ็ ป่วย และแนวทาง -วางแผนการจาหน่ายร่วมกนั

การรกั ษา ในทมี สหสาขาวชิ าชพี

- ไดร้ บั การตรวจวนิ ิจฉยั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งรวดเรว็

3.โรคมะเรง็ (cancer) - ไดร้ บั การรกั ษาจากแพทยท์ เ่ี ชย่ี วชาญ - ใหก้ ารดแู ลผูป้ ่วยโดยแพทย์ ไดร้ บั ยาทต่ี รงกบั โรค ผเู้ ชย่ี วชาญ - แพทย์ พยาบาลยม้ิ แยม้ พดู จาไพเราะ - ประสานความร่วมมอื กบั ทมี - อยากไดร้ บั การบรกิ ารทส่ี ะดวก รวดเรว็ สหสาขาวชิ าชพี - ไดพ้ กั หอ้ งพเิ ศษทกุ ครงั้ ทม่ี านอน รพ. - การใหข้ อ้ มลู เพ่อื การดูแลตนเอง - ตอ้ งการคาแนะนา ความรเู้ ร่อื งปฏบิ ตั ติ วั และการเสรมิ พลงั

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

12

ลกั ษณะของผ้รู บั บริการ ความต้องการ การออกแบบ/ ปรบั ปรงุ กระบวนการทาํ งาน กอ่ นและหลงั ไดร้ บั ยาเคมบี าบดั - จองหอ้ งพเิ ศษลว่ งหน้า

4. ตดิ เชอ้ื ระบบทางเดนิ - ไดร้ บั ยาปฏชิ วี นะรวดเรว็ ไม่แพย้ า - มแี นวทางการป้องกนั การแพ้ ปัสสาวะ - อยากไดร้ บั การรกั ษาจากแพทย์ พยาบาล ยาซา้ และผปู้ ่วยทม่ี ภี าวะsepsis

จะไดร้ บั ยาปฏชิ วี นะภายใน1ชม.

5.โรคหลอดเลอื ดสมอง - ตอ้ งการพบแพทยผ์ เู้ ชย่ี วชาญ - ได้รบั การดูแลจากแพทย์ ( stroke) - อยากทราบเกย่ี วกบั แนวทางการรกั ษา ผู้เช่ยี วชาญ ทจ่ี ะไดร้ บั ขณะนอนโรงพยาบาล - ดูแลผปู้ ่วยตามระบบ stroke - ไดร้ บั การรกั ษารวดเรว็ ทนั ท่วงที fast tract - ไดร้ บั การทากายภาพบาบดั จนสามารถ - โครงการวางแผนจาหน่ายผปู้ ่ วย ดแู ลตนเองได้ ไมม่ คี วามพกิ ารหลงเหลอื โรคหลอดเลอื ดสมอง โดยใช้ D-METHOD-P

กล่มุ อายุสาํ คญั - ตอ้ งการหายจากโรค ไม่เป็นภาระ - ตอ้ งมญี าต/ิ ผดู้ ูแลตลอดเวลา • ผสู้ งู อายุ - ตอ้ งการผดู้ แู ล ขณะรบั ไวใ้ นโรงพยาบาล

อน่ื ๆ - โครงการพฒั นาการดูแลผปู้ ่วย • ผปู้ ่วยโรคเรอ้ื รงั ระยะ - ตอ้ งการการดแู ลแบบประคบั ประคอง แบบประคบั ประคอง รว่ มกบั ทมี สดุ ทา้ ย จากศูนยว์ ชริ จติ ตาภบิ าล

9. ความต้องการของลกู คา้ ภายใน/ หน่วยงานท่ีต้องประสาน HA II-1.1ก(4)

ลกั ษณะของ ความต้องการ การออกแบบ/ ปรบั ปรงุ กระบวนการทาํ งาน ผรู้ บั บริการ

หอ้ งยา -ใบสัง่ ยาท่ีเป็ น Doctor’s Order Sheet - แพทยเ์ ขยี นใบสงั่ ยาชดั เจน ใช้ ตวั ยอ่ เป็น

เขยี นสะกดใหถ้ กู ตอ้ งชดั เจน สากล ระบุวนั ทใ่ี ช้ ชอ่ื ยาขนาด จานวน รปู แบบ

ตดิ สตกิ๊ เกอรช์ ่อื -สกุลผปู้ ่วย HN, AN ใหถ้ กู ตอ้ ง

- แยกประเภทใบสงั่ ยาตามความ - กรณเี บกิ ยาดว่ น แยกใบสงั่ ยาและเขยี นคาว่า

จาเป็นเร่งด่วน “ดว่ น” ในใบสงั่ ยา (สง่ ทางกระสวยเบกิ ยา)

- หอผู้ป่ วยใช้กระสวยส่งเบิกยา - ตรวจสอบรายการยาทต่ี อ้ งการเบกิ ใหต้ รงกบั ท่ี

อยา่ งถูกตอ้ ง หอ้ งยาระบไุ วก้ อ่ นใชก้ ระสวยเบกิ ยา

-ตอ้ งการให้หอผู้ป่วยทา Medication - กรณตี อ้ งการยมื ยาใหป้ ระสานงานและเขยี น

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

13

ลกั ษณะของ ความต้องการ การออกแบบ/ ปรบั ปรงุ กระบวนการทาํ งาน ผ้รู บั บริการ conciliation ใบยมื พรอ้ มแนบใบ Doctor’s order sheet หอ้ งปฏบิ ตั กิ าร ทม่ี กี ารประทบั ตรา หกั ยาคนื พร้อมมใี บยืม ศูนยเ์ ปล โภชนาการ - แพทยท์ า Medication reconciliation ตงั้ แต่

แรกรบั ผปู้ ่วยทกุ ราย

- ตรวจสอบรายการยา HM ให้ - มกี ารตรวจสอบยา HMใหต้ รงกบั ยาปัจจบุ นั

ถกู ตอ้ งทุกครงั้ ก่อนทาการสง่ เบกิ ทผ่ี ปู้ ่วยรบั ประทาน (Medication reconcile)

ก่อนทาการสง่ เบกิ และเขยี น off ในกรณีท่ี

ตอ้ งการหยุดยาทผ่ี ูป้ ่วยรบั ประทานประจา

- กรณียา HM ยาฉดี ใหร้ ะบสุ ถานทฉ่ี ีดทุกครงั้

- เกบ็ สงิ่ สง่ ตรวจทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร - ปฏบิ ตั ติ ามคูม่ อื การส่งตรวจทาง หอ้ งปฏบิ ตั กิ าร

ถกู ตอ้ ง ถูกคน และส่งตรวจภายใน - บรรจุสงิ่ สง่ ตรวจลงในกระสวยอยา่ งถูกตอ้ ง

เวลาทก่ี าหนด ไม่หก เลอะเทอะ

- ในการเจาะเลอื ดส่งตรวจโดยเฉพาะ - มกี ารเขยี นระบุเวลาจรงิ ในการเจาะเลอื ด

test glucose ใหบ้ นั ทกึ เวลาเวลาจรงิ ทกุ ครงั้ ในใบ Lab ทส่ี ง่ ตรวจหาระดบั glucose

(real time) ในมุมขวาของใบ Lab

- เตรยี มผปู้ ่วยใหพ้ รอ้ มกอ่ นการ - เตรยี มผูป้ ่วยและอปุ กรณ์ พรอ้ มแฟ้ม

เคลอ่ื นยา้ ยผปู้ ่วย ประวตั ผิ ปู้ ่วย และช่วยเหลอื ขณะเคล่อื นยา้ ย

- ระบุรายละเอียดของอาหารท่ี - มกี ารบนั ทกึ รายละเอยี ดอาหารทต่ี อ้ งการเบกิ ตอ้ งการเบกิ ใหค้ รบถว้ น ครบถว้ นในระบบ e-phis อาหารเชา้ อาหาร - การเปล่ยี นรายการอาหารตาม กลางวนั และอาหารเยน็ กอ่ นเวลา 6.00 น. เวลาทก่ี าหนด 10.00 น. และ 14.00 น.ตามลาดบั

10. การใช้เสียงของผรู้ บั บริการเพ่ือปรบั ปรงุ HA I-3.2ก(1), I-4ก(3)

ช่องทางการส่อื สารและรบั ฟัง ตวั อยา่ งการปรบั ปรงุ

คาํ ร้องเรยี น

1. หอ้ งน้าพน้ื ไม่สะอาด และพบ 1. เสนอผบู้ รหิ ารเพอ่ื ปรบั ปรุงแกไ้ ข : การซ่อมแซมพน้ึ ผนงั หอ้ งน้า

แมลงสาบในหอ้ งผปู้ ่วยจากแบบ 2. ดูแลใหม้ กี ารกาจดั แมลงใหค้ รอบคลมุ พน้ื ทห่ี อผปู้ ่วย

สารวจความพงึ พอใจผปู้ ่วยใน 3. จดั หายาฉีดฆ่าแมลง ฉีดพน่ หลงั การจาหน่ายผปู้ ่วย

4. เพมิ่ ระบบการตรวจสอบการดแู ลความสะอาดหอ้ งน้าทุกวนั และเพม่ิ

ชอ่ งทางการประเมนิ โดยผรู้ บั บรกิ ารในการรบั ขอ้ รอ้ งเรยี น ขอ้ เสนอแนะ

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

14

ช่องทางการสือ่ สารและรบั ฟัง ตวั อย่างการปรบั ปรงุ 5. จดั หาอุปกรณ์สาหรบั ทาความสะอาดหอ้ งน้าเพมิ่ เตมิ เชน่ แปรง 2. มเี สยี งรบกวนขณะเจา้ หนา้ ท่ี สาหรบั ขดั รอ่ งยาแนว เขา้ ไปเกบ็ ผา้ เป้ือนภายในหอ้ ง 1. แจง้ ปัญหากบั เจา้ หนา้ ทป่ี ระจาตกึ เพอ่ื ปรบั เปลย่ี นเวลาการเกบ็ ผา้ ผปู้ ่วยช่วงเวลา 05.00 น. 2. ปรบั เปลย่ี นเวลาเกบ็ ผา้ จากชว่ งเวลา 05.00น. เป็นเวลา 10.00น. ข้อเสนอแนะ 1. ควรมบี รกิ าร WIFI - เสนอผบู้ รหิ ารโรงพยาบาลเพอ่ื พจิ ารณาดาเนนิ การ และขอ้ มูลเพอ่ื แจง้ 2. ผรู้ บั บรกิ ารตอ้ งการทจ่ี อดรถ ผรู้ บั บรกิ าร ขณะมาใชบ้ รกิ ารในเวลาราชการ 3. ควรปรบั ปรงุ ชนิดและรสชาด - ประสานงานกบั แผนกโภชนาการเพอ่ื ปรบั เปลย่ี นชนดิ ของอาหารให้ ของอาหารในมอ้ื เชา้ สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของผปู้ ่วยโดยไมข่ ดั ต่อแผนการรกั ษา เช่น มอ้ื เชา้ ขอเป็น American breakfast แทนขา้ วตม้ หรอื โจก๊ อ่นื ๆ - -

11. กระบวนการหลกั ท่ีสาํ คญั (เขียน Flow การทาํ งานท่ีสาํ คญั ๆ) HA I-6.1ก(1), 1.6ข(2)

ขนั้ ตอนกระบวนการ ขอ้ กาํ หนด การออกแบบ/ ปรบั ปรงุ วิธีการประเมิน

Access & Entry -ไดร้ บั บรกิ ารอยา่ งรวดเรว็ - รบั รายงานสภาพผปู้ ่วย - ระยะเวลาในการรบั ใหม่

โดยทมี ทม่ี ศี กั ยภาพตาม จากศนู ยร์ บั จอง ER หรอื ผปู้ ่วยเขา้ หอ้ งพเิ ศษ

ลาดบั ความสาคญั เรง่ ด่วน หน่วยงานทส่ี ่งต่อตามเกณฑ์  60 นาที ( 85%)

Assessment -ผปู้ ่วยไดร้ บั การประเมนิ -ระบบการบนั ทกึ เวชระเบยี น - จานวนอบุ ตั กิ ารณ์ท่ี

ครอบคลมุ องคร์ วมและ - แพทยต์ รวจร่างกาย เกดิ ขน้ึ จากการทไ่ี ม่

มกี ารประเมนิ ซ้าเม่อื มี - พยาบาลใช้ NEWS สามารถประเมนิ ผปู้ ่วย

อาการเปลย่ี นแปลง score ในการประเมนิ ก่อนเขา้ สภู่ าวะวกิ ฤต

เพ่อื เฝ้าระวงั ผปู้ ่วยก่อน

เขา้ ส่ภู าวะวกิ ฤต

- ซกั ประวตั ผิ ปู้ ่วยอย่าง

ครอบคลมุ เชน่ โรครว่ ม

ประวตั กิ ารแพย้ า แพ้

อาหาร

Investigation -การตรวจวนิ จิ ฉยั ถูกตอ้ ง - การเตรยี มความพรอ้ ม - อบุ ตั กิ ารณค์ วาม

เหมาะสม ผปู้ ่วยตามแนวทาง ผดิ พลาดในการเตรยี ม

ปฏบิ ตั เิ พอ่ื ป้องกนั ความ ผปู้ ่วยตรวจพเิ ศษ

ผดิ พลาดในขนั้ ตอนการ -อบุ ตั กิ ารณค์ วามผดิ พลาด

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

15

ขนั้ ตอนกระบวนการ ขอ้ กาํ หนด การออกแบบ/ ปรบั ปรงุ วิธีการประเมิน

ตรวจวนิ ิจฉัยและการเฝ้า ในการส่งตรวจทาง

ระวงั ภาวะแทรกซอ้ น หอ้ งปฏบิ ตั กิ าร

-การตดิ ตามผลการตรวจ - จานวนการระบตุ วั

ต่าง ๆ ผปู้ ่วยผดิ พลาด

Plan of care -แผนการดแู ลรกั ษาครอบคลมุ - วางแผนการดูแลผปู้ ่วย - แ ผ น ก า ร ดู แ ล ไ ม่

ปัญหาความตอ้ งการผปู้ ่วย รว่ มกบั ทมี สหสาขาวชิ าชพี ครอบคลุมปัญหาความ

แบบองคร์ วม ตอ้ งการของผปู้ ่วย

Care of Patient - การรกั ษาทไ่ี ดม้ าตรฐาน การดูแลรกั ษาตาม - อบุ ตั กิ ารณก์ ารดูแลรกั ษา Discharge รวดเรว็ และปลอดภยั แนวทาง Fast tract, ไม่ไดม้ าตรฐาน ลา่ ชา้ ไม่ ปลอดภยั Continuity of care CPG, Care map - อตั ราการวางแผนจาหน่าย - จาหน่ายผปู้ ่วยไดต้ ามเวลา - ผปู้ ่วยทุกรายมกี าร ผู้ป่ วยสามารถกลับบ้าน ทก่ี าหนดและไม่มกี ารกลบั มา วางแผนจาหน่ายโดยใช้ กอ่ นเวลา 12.00 น. รกั ษาซา้ ภายใน 28 วนั จาก แนวคดิ DMS - อตั ราการ Re-admission การปฏบิ ตั ติ วั ไม่ถกู ตอ้ ง ภายใน 28 วันจากการ ป ฏิบั ติ ตัว ไ ม่ ถู ก ต้ อ งใ น - ผปู้ ่วยกลุ่มเป้าหมาย - การประสานส่งตอ่ งาน โรค DM, CAD, Stroke ไดร้ บั การตดิ ตามดูแล การดแู ลตอ่ เน่อื งเพอ่ื และผปู้ ่วยคาอุปกรณ์ ตอ่ เน่อื ง ตดิ ตามเยย่ี มผปู้ ่วย - รายงานขอ้ มูลการตอบ ภายหลงั การจาหน่าย กลบั ภายหลงั การตดิ ตาม เยย่ี มจากงานการดแู ล ต่อเน่อื ง

12. ปริมาณงานท่ีสาํ คญั ปริมาณงาน

งานท่ีสาํ คญั 2562 2563 2564 2565 (ต.ค.-ม.ี ค 65) รบั ใหม่ รบั ยา้ ย 443 538 515 306 จาหน่าย 88 146 180 71 ถงึ แกก่ รรม 461 528 525 279 LOS (วนั ) 34 41 49 24 9.82 10.07 8.05 7.78

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

16

ปริมาณงาน

งานท่ีสาํ คญั 2562 2563 2564 2565 (ต.ค.-ม.ี ค 65) อตั ราการครองเตยี ง (%) 86.63 95.71 84.03 RW ( เฉลย่ี ) 5.53 5.90 5.83 85.06 6.99

13. กลุ่มโรคหลกั / ที่พบบอ่ ย 5 อนั ดบั แรก/ หตั ถการที่สาํ คญั (เฉพาะหน่วยงานทางคลินิก)

ปริมาณงาน

กลุ่มโรคหลกั / หตั ถการที่สาํ คญั 2562 2563 2564 2565

(ต.ค.-ม.ี ค65)

1. มะเรง็ 56 85 106 36

2. Stroke 44 38 33 27

3. Pneumonia 45 41 63 42

4. โรคหลอดเลอื ดหวั ใจ 20 39 36 44

5. UTI 28 26 42 29

หตั ถการที่สาํ คญั

1. EGD 16 15 18 19

2.Colonoscope 38 24 21 20

3. Lumbar puncture 9 5 16 7

4. CAG, PCI 2 13 11 11

5. Abdominal tapping 9 7 17 4

6. TACE 4 6 12 4

7. Pleural tapping 7 7 99

8. BM 1 2 6 4

14.ศกั ยภาพและข้อจาํ กดั (ทรพั ยากร:ผ้ปู ฏิบตั ิงานเครื่องมือเทคโนโลยี สถานท่ี)เทียบกบั ภาระงานท่ีเก่ียวขอ้ ง

ทรพั ยากร ศกั ยภาพ ขอ้ จาํ กดั

บคุ ลากร มที มี บุคลากรทม่ี คี วามรูค้ วามสามารถหลายระดบั - บุคลากรได้รบั การอบรมการดูแล

- staff attending 1 คน และอาจารย์แพทย์ ผู้ป่ วยท่ีได้รับเคมีบาบัดยังไม่ครบ

ทป่ี รกึ ษาได้ 11 อนุสาขา ทกุ คน

- แพทยป์ ระจาบา้ นปีท่ี 1 จานวน 1 คน

- บุคลากรทางการพยาบาล 17 คน RN 11

คน TN 1 คน และ PN 5 คน

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

ทรพั ยากร 17 ข้อจาํ กดั

ศกั ยภาพ - พยาบาลจบหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทาง อายุรศาสตร์ 1คน การพยาบาลโรคหัวใจหลอดเลอื ด และทรวงอก 1คน และการพยาบาลผปู้ ่วยมะเรง็ 1 คน -พยาบาลผา่ นการอบรมหลกั สตู รเคมบี าบดั 5คน

เคร่ืองมอื - มเี ครอ่ื ง defibrillator จานวน 1 เครอ่ื ง - Infusion pump ยังมีจานวนไม่เพียงพอ เทคโนโลยี - มี Infusion pump 3 เครอ่ื ง - มี computer 7 เครอ่ื ง แก้ไขโดยยืมจากหน่วยงานขา้ งเคียง สถานท่ี และศนู ยเ์ คร่อื งมอื แพทย์

- หอผู้ป่ วยพิเศษเด่ียวรบั ผู้ป่ วยจานวน15 ห้อง -ผู้ป่ วยวิกฤตมีภาวะเส่ียงภายในห้อง

ดแู ลรกั ษาพยาบาลผู้ป่วยท่ปี ่วยดว้ ยโรคเรอ้ื รงั ทาง พิเศษ การดูแลและประเมินเพ่ือการ

อายุรกรรม โดยรบั ผู้ป่วยใหม่จากศูนย์รบั จอง เฝ้าระวังค่อนข้างยาก การให้ความรู้แก่

ห้องอายุรกรรมพิเศษ (admission center) ผู้ป่ วยและญาติให้มสี ่วนร่วมในการ

และรบั ย้ายผู้ป่ วยจากหอผู้ป่ วยสามัญกรณีท่ี เฝ้าระวงั อาการทส่ี าคญั ระยะเรมิ่ แรก

ผู้ป่วยและญาติมคี วามตอ้ งการและได้รบั ความเห็น กรณีเกิดภาวะวิกฤตสามารถติดตาม

จากแพทยใ์ หส้ ามารถเขา้ พกั ในหอ้ งพเิ ศษได้ แพทย์ได้อย่างรวดเร็วเน่ืองจาก

มหี อ้ งพกั แพทยอ์ ยู่ใกล้

- ผปู้ ่วยตดิ เชอ้ื ไมส่ ามารถอยใู่ นหอ้ งแยกได้

15. การสร้างเสริมสขุ ภาพ (เชอ่ื มโยงกบั ภาวะสุขภาพของการทางานทค่ี ดิ ว่าจะเกดิ ขน้ึ ) HA III-5

ในหน่วยงานมีการสร้างเสริมสุขภาพซึ่งประกอบด้วย การส่งเสริมสุขภาพสาหรบั ผู้ป่ วยหรือ ผรู้ บั บรกิ ารบคุ ลากร และชุมชนดงั น้ี

กิจกรรมสรา้ งเสริมสุขภาพสาํ หรบั ผ้ปู ่ วย / ชุมชน กจิ กรรมทจ่ี ดั ไดแ้ ก่

  1. การจดั บอรด์ ใหค้ วามรเู้ กยี่ วกบั โรคตดิ ตอ่ และโรคเรอ้ื รงั ต่างๆ แผนการดูแลรกั ษา เช่น การปฏบิ ตั ติ วั สาหรบั ผูป้ ่วยมะเรง็ ทไ่ี ดร้ บั การรกั ษาดว้ ยยาเคมบี าบดั ผปู้ ่วยเบาหวาน วณั โรค ความรทู้ วั่ ไปเกยี่ วกบั โรคตดิ ต่อทก่ี าลงั แพร่ระบาด เชน่ COVID 19 ความรเู้ กยี่ วกบั การใชย้ า โภชนาการสาหรบั ผสู้ งู อายุ การดแู ลเสน้ เลอื ด เป็นตน้
  1. จดั กจิ กรรมรณรงคเ์ ร่อื งการล้างมอื เพ่อื กระตุ้นและส่งเสรมิ ให้บุคลากรผู้ป่ วย ญาติผู้ป่วย ประชาชนทส่ี นใจ เหน็ ความสาคญั ของการลา้ งมอื ป้องกนั การแพรก่ ระจายเชอ้ื โรค
  1. โครงการ “วางแผนการจาหน่ายผู้ป่วยโรคหลอดเลอื ดสมอง โดยใช้แนวคดิ “ D-METHOD–P ” ร่วมกบั ทีม สหสาขาวชิ าชพี เพ่อื ใหผ้ ปู้ ่วยและญาตไิ ดร้ บั การเตรยี มความพรอ้ มกอ่ นการจาหน่าย รวมถงึ การตดิ ตามต่อเน่อื ง ภายหลงั จาหน่าย เพอ่ื ลดอตั ราการกลบั มารกั ษาซา้
  1. โครงการ “การพฒั นาศกั ยภาพการจดั การดูแลตนเองสาหรบั ผู้ป่ วยโรคหลอดเลอื ดหวั ใจ” เพ่ือให้ผูป้ ่ วย มคี วามรูเ้ ก่ียวกบั โรค ปัจจยั เส่ยี ง การรกั ษาทไ่ี ด้รบั การเฝ้าระวงั และการจดั การเบ้อื งตน้ เก่ียวกบั อาการผดิ ปกติ การ

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

18

ส่อื สารท่มี ีประสทิ ธิภาพกบั บุคลากรทมี สุขภาพเม่อื ต้องการความช่วยเหลอื รวมทงั้ ความสาคญั ของการมา ตดิ ตามการรกั ษาตามนัด การจดั ทาแผน่ พบั เพอ่ื ใหค้ วามรู้ การรบั ปรกึ ษาปัญหาสุขภาพตลอด 24 ชวั่ โมง ภายหลงั การจาหน่าย

  1. การดูแลแบบองค์รวมแนวพุทธ โดยเข้าร่วมกิจกรรมการให้การปรึกษาแนวพุทธ โครงการ “คลนิ ิก- ธรรมะรกั ษาใจ ” ทุกวนั พฤหสั เวลา 13.00-16.00 น.ให้คาปรกึ ษาแก่ผู้ป่วย ผูด้ ูแล และบุคลากรทงั้ รปู แบบการ ให้คาปรกึ ษารายบุคคล และกจิ กรรมกลุ่ม (self help group) โดยพระภิกษุอาสากลุ่ม “คลิ านธรรม”เป็นพระ วทิ ยากรซง่ึ ปัจจุบนั ได้มกี ารเผยแพร่กจิ กรรมดงั กล่าวไปส่หู อผูป้ ่ วยต่างๆ ภายในโรงพยาบาล และองค์กรภายนอก และ โครงการ “ธรรมะสญั จร : บณิ ฑบาตรทุกข์” ทกุ วนั พฤหสั เวลา 08.30-09.30 น. จดั ใหก้ ิจกรรมสวดมนต์ทาวตั ร เชา้ ตกั บาตร ถวายสงั ฆทานร่วมกบั หอผปู้ ่วยเพชรรตั น์ 14 B สาหรบั ผูป้ ่วยและญาตทิ ไ่ี ม่สามารถไปร่วมกิจกรรมได้ จะนิมนตพ์ ระคุณเจา้ มาบณิ ฑบาตร ภายในหอ้ งพกั ผู้ป่วยทุกรายทม่ี คี วามประสงคเ์ ขา้ ร่วมกจิ กรรม

จากการประเมินผลหลังด าเนินโครงการพบว่า จานวนผู้ป่ วยและญาติท่ีรับการให้การปรึกษา “คลนิ ิกธรรมะ รกั ษาใจ” จานวน 86 ราย เจ็บป่ วยด้วยโรคมะเร็งและไม่ใช่มะเรง็ โดยเฉพาะผู้ป่ วยระยะสุดท้ายท่ีญาตผิ ู้ป่วย มีความประสงค์ ทางหอผู้ป่ วย จะติดต่อประสานกับกลุ่มพระอาสา “คลิ านธรรม” มาร่วมกับทีมสุขภาพในการดูแล ผปู้ ่วยทก่ี าลงั จะถงึ แก่กรรม ผลการประเมนิ อตั ราความพงึ พอใจโดยรวม ปีงบประมาณ 2561-2563 อยู่ในระดบั มาก คดิ เป็น ร้อยละ 100, 99.79 และ 100 ตามลาดบั ( ปีงบประมาณ 2564 ไดง้ ดทากจิ กรรมเน่อื งจากสถานะการณ์ covid-19 และในปีงบประมาณ 2565 ได้เรมิ่ ทากิจกรรมในรูปแบบ VDO CALL แต่ยงั ไม่มีcase ท่ไี ด้รบั การปรกึ ษา นอกจากน้ี ในปีงบประมาณ 2561-2563 การประเมนิ ผลลัพธ์การทากิจกรรมโดยให้ใช้แบบประเมนิ Edmonton Symptom Assessment System (ESAS) โดยเปรยี บเทียบอาการก่อนและหลงั การเข้าร่วมกิจกรรมพบว่า ภายหลงั ไดร้ บั คาปรกึ ษา อาการแสดงทางดา้ นจติ ใจ ไดแ้ ก่ ความเครยี ด ความวติ กกงั วล ซมึ เศรา้ ลดลง รู้สกึ สบายใจมากข้นึ แต่อาการรบกวนด้านร่างกายนัน้ มีการเปล่ียนแปลงในผู้ป่ วยบางราย เช่น อาการคล่นื ไส้ อาเจียนลดลง รบั ประทานอาหารได้มากข้ึน พักผ่อนได้ดีข้ึน และเม่ือทดสอบโดยใช้สถิติ paired t-test พบว่า คะแนนประเมินอาการเฉล่ยี โดยรวมของผู้เข้าร่วมกิจกรรมภายหลงั ได้รบั คาปรกึ ษาลด ลง 0.97 (S.D=.7, p<.05), 1.10 (S.D=.0.94, p<.05) และ 1.12 ( S.D=.0.826, p<.00) ตามลาดับโดยเฉพ าะผู้ป่ วยมะเร็งรายให ม่ ท่ตี ้องการ การเตรยี มพร้อมด้านจติ ใจก่อนรบั ทราบขา่ วรา้ ยเกี่ยวกบั การวนิ ิจฉัยโรคและแผนการดูแลรกั ษา นอกจากน้สี าหรบั ผู้ป่วยระยะสุดทา้ ยถงึ แกก่ รรมอย่างสงบ ผดู้ ูแลไดร้ บั การเตรียมความพร้อมก่อนการสญู เสยี ลดความเศร้าโศก ปัจจุบนั โครงการคลินิกธรรมรกั ษาใจ ได้ขยายกจิ กรรมครอบคลุมหอผู้ป่วยต่างๆ ภายใน โรงพยาบาลทผ่ี ปู้ ่วยและญาตติ อ้ งการคาปรกึ ษา และไดม้ โี อกาสแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ ใหค้ าปรกึ ษาในการดาเนิน โครงการดังกล่าวแก่โรงพยาบาลต่างๆ เช่น โรงพยาบาลเลิศสิน โรงพยาบาลตากสิน ศูนย์การแพทย์ ปัญญานนั ทภกิ ขุ สถาบนั มะเรง็ แห่งชาติ และโรงพยาบาลบาราศนราดูร

สาหรบั โครงการ “ธรรมะสญั จร : บิณฑบาตทุกข”์ ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจโดยรวม ปีงบประมาณ 2561-2563 อยูใ่ นระดบั มาก คดิ เป็นรอ้ ยละ 95.89, 93.87 และ 94.02 ตามลาดบั (เป้าหมาย ≥ รอ้ ยละ 85)

การสร้างเสริมสขุ ภาพในส่วนของบคุ ลากร บคุ ลากรในหน่วยงานทุกคนจะไดร้ บั การตรวจสขุ ภาพประจาปี และแบง่ ออกเป็น 3 กล่มุ ดงั น้ี

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

19

ลกั ษณะบคุ ลากร ภาวะสขุ ภาพ การสรา้ งเสริมภาวะสุขภาพ

1. บุคลากรท่ีมีภาวะเจ็บป่ วย - ป่วยดว้ ยโรคไทรอยด์ - รกั ษาโดยแพทย์ผูเ้ ช่ยี วชาญเฉพาะทาง อย่างต่อเน่ือง ดว้ ยการรบั ประทานยา กลนื แร่ จานวน 1 ราย (คดิ เป็น 5.88 %) และพกั ผ่อนอย่างเพยี งพอ

2. บคุ ลากรกล่มุ เสย่ี ง - ไขมนั ในเลอื ดสงู อว้ นลงพงุ และ 1. รณรงค์การออกกาลังกาย การควบคุม

จานวน 3 ราย (คดิ เป็น 17.64 %) คา่ BMI เกนิ ปกติ 2 ราย อาหารทม่ี ไี ขมนั สงู โดยไม่ใชย้ าลดไขมนั

- ถกู เขม็ ทม่ิ ตาขณะปฏบิ ตั งิ าน 2. ร า ย ง า น ให้ ห น่ ว ย IC ท ร า บ แ ล ะ

ในตกึ ผปู้ ่วยนอก รบั ประทานยาต่อเน่ือง พร้อมกบั ติดตาม

ผลการตรวจเลอื ดเป็นระยะ

3. บุคลากรกลมุ่ ทม่ี สี ุขภาพดี - ผลการตรวจสุขภาพร่างกาย 1. ส่งเสรมิ การป้องกนั โรค กระตุ้นให้ฉีด

จ า น ว น 13 ร า ย (คิ ด เป็ น ปกติ วัคซีนป้ องกันไข้หวัดใหญ่ หัดเยอรมัน

76.47 %) คอตีบ ไวรัสตับอักเสบบี โดยมีการ

ตดิ ตามผลการตรวจเลอื ดทกุ ปี

2. การรณรงค์เร่อื งการฉีดวคั ซนี ป้องกนั

โรค COVID -19 เพ่อื ลดความรุนแรงของ

อาการป่วยและลดการเสยี ชวี ติ โดยไดร้ บั

วคั ซีนจานวน 17 คน นอกจากน้ียงั มกี าร

รณรงคเ์ ร่อื งการลา้ งมอื การสวมหน้ากาก

อนามัย ตามนโยบายของโรงพยาบาล

และการเวน้ ระยะห่างโดยทาอุปกรณ์กนั้

ขณะรบั ประทานอาหาร เพ่ือการป้องกัน

การแพร่กระจายเชอ้ื และส่งเสรมิ สุขอนามยั

ทด่ี ี

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

20

ค. กระบวนการพฒั นา 16.วตั ถปุ ระสงค์ ตวั ชี้วดั การพฒั นา HA I-4.1ค(1)

ประเดน็ คณุ ภาพ/ เป้าหมาย/ กิจกรรมพฒั นา ตวั ชี้วดั และผลลพั ธ์ ความท้าทาย วตั ถปุ ระสงค์ ท่ีสาํ คญั

1. ไม่เกดิ ภาวะ -ผปู้ ่วยกล่มุ เสย่ี งไดร้ บั - รายละเอยี ดอยใู่ น 1) อุบตั กิ ารณก์ ารเกดิ ภาวะ hypoglycemia ในผปู้ ่วย การประเมนิ และการเฝ้า ขอ้ ท่ี 20 ผลลพั ธก์ าร hypoglycemia ในผปู้ ่วย โรคเบาหวานทม่ี ภี าวะเสย่ี ง ระวงั การเกดิ ภาวะ ตดิ ตาม ตวั ชี้วดั ที่ 1 โรคเบาหวานทค่ี วามเสย่ี งสงู hypoglycemia = 2 ครงั้ (เป้าหมาย=0 ครงั้ )

2. พฒั นารูปแบบการ - พฒั นาศกั ยภาพ เสรมิ พลงั - รายละเอยี ดอยใู่ น 2) รอ้ ยละการกลบั เขา้ รกั ษาซ้า วางแผนการจาหน่าย อานาจผปู้ ่วยและครอบครวั ขอ้ ท่ี 20 ผลลพั ธก์ าร ภายใน ๒๘ วนั ในผปู้ ่วย stroke เพ่อื สง่ เสรมิ การดแู ล ใหม้ คี วามสามารถในการ ตดิ ตาม ตวั ชีว้ ดั ท่ี 2 = 0 % (เป้าหมาย  1.5%) ต่อเน่อื ง ดแู ลตนเอง

3. พฒั นาแนวทางการ - เพ่ือพัฒนาการวางแผน รายละเอยี ดอยูใ่ นขอ้ 3) อตั ราการวางแผนจาหน่าย วางแผนการจาหน่าย จ าหน่ าย จัดการแก้ ไข ท่ี 20 ผลลพั ธก์ าร ผปู้ ่วยสามารถกลบั บา้ นกอ่ น ปั ญ หาร่ วมกั นโดยที ม ตดิ ตามตวั ชีว้ ดั ท่ี 3 เวลา 12.00 น. = 53.22 % สหสาขาวชิ าชพี (เป้าหมาย ≥ 60%)

4. การดูแลแบบ เพ่อื ให้ผู้ป่ วย/ญาติ ได้รบั รายละเอยี ดอยู่ในขอ้ 4) อตั ราการจดั การความปวด ประคบั ประคองในผูป้ ่วย การตอบสนองความต้องการ ท่ี 20 ผลลพั ธก์ าร อย่างตอ่ เน่อื งในผปู้ ่วยมะเรง็ เรอ้ื รงั ระยะสดุ ทา้ ย การดูแลแบบองคร์ วม ตดิ ตามตวั ชีว้ ดั ท่ี \= 100 (เป้าหมาย  80%) 4,5,6, และ 7 5) อตั ราผปู้ ่วยทม่ี คี ะแนน PPS ≤ 50 % ไดร้ บั การพดู คุยเพ่อื วาง แผนการดูแลล่วงหน้า=100 %

(เป้าหมาย  80%)

  1. อตั ราความพงึ พอใจของญาตติ ่อ การดูแลผปู้ ่วยแบบประคบั ประคอง

\= 95.88% (เป้าหมาย  80%)

  1. อตั ราผปู้ ่วยระยะสดุ ทา้ ย ใน หอผปู้ ่วยได้รบั การดูแลแบบ ประคบั ประคองเสยี ชวี ติ อยา่ งสงบ โดยไมม่ กี ารช่วยฟ้ืนคนื ชพี โดย ไม่

จาเป็น=100%(เป้าหมาย  80%)

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

21

ประเดน็ คณุ ภาพ/ เป้าหมาย/ กิจกรรมพฒั นา ตวั ชีว้ ดั และผลลพั ธ์ ความท้าทาย วตั ถปุ ระสงค์ ที่สาํ คญั -กระตนุ้ ใหบ้ ุคลากร รายละเอยี ดอยใู่ นขอ้ 8)อตั ราการตดิ เชอ้ื CAUT I 5. การป้องกนั และ ปฏบิ ตั ติ ามนโยบายทาง ท่ี 20 ผลลพั ธก์ าร = 13.7ครงั้ : 1,000วนั ใส่ ควบคมุ การตดิ เชอ้ื คลนิ ิกเรอ่ื งการป้องกนั ตดิ ตามตวั ชี้วดั ที่ 8 (เป้าหมาย  5ครงั้ : 1,000 วนั ใส)่ CAUTI การตดิ เชอ้ื CAUTI

6. การเกดิ แผลกดทบั - เพ่อื ป้องกนั การเกดิ - รายละเอยี ดอยู่ใน 9) อตั ราการเกดิ แผลกดทบั ระดบั ขณะอยใู่ นโรงพยาบาล แผลกดทบั ขณะอย่ใู น ขอ้ ท่ี 20 ผลลพั ธก์ าร 1 - 4 = 0ครงั้ : 1,000 วนั นอน โรงพยาบาล ตดิ ตามตวั ชี้วดั ท่ี9 เสย่ี ง (เป้าหมาย  5 ครงั้ :1,000 7. การเกดิ อบุ ตั เิ หตุ พลดั ตกหกลม้ วนั นอนเสย่ี ง)

8. ความสมบรู ณ์ - เพอ่ื การป้องกนั - รายละเอยี ดอยใู่ น 10) จานวนอุบตั กิ ารณก์ ารพลดั ของการบนั ทกึ ทาง การพยาบาล อบุ ตั เิ หตุพลดั ตก หกลม้ ขอ้ ท่ี 20 ผลลพั ธก์ าร ตกหกลม้ / การตกเตยี ง = 0.33

ตดิ ตามตวั ชีว้ ดั ที่10 ครงั้ (เป้าหมาย = 0 ครงั้ )

-บนั ทกึ ทางการพยาบาล - รายละเอยี ดอยู่ใน 11) อตั ราความสมบรู ณ์ของการ

ถกู ตอ้ งครบถว้ นตาม ขอ้ ท่ี 20 ผลลพั ธก์ าร บนั ทกึ ทางการพยาบาล =

มาตรฐาน ตดิ ตามตวั ชีว้ ดั ท่ี11 77.43 % (เป้าหมาย  75%)

17. ความเสี่ยงที่สาํ คญั ของหน่วยงาน (1.8 ความทา้ ทายและความเสย่ี งทส่ี าคญั ) HA II-1.2ก (3)(4)

ลาํ ดบั ความเสี่ยง มาตรการในการป้องกนั / การจดั การ(กรณีเกิดเหต)ุ

ความเส่ียงเฉพาะทางคลินิ ก

(Specific clinical risk)

1 การรวั่ ซมึ ของยาเคมบี าบดั 1. ให้ความรู้บุคลากรเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่ วยท่ีได้รบั ยาเคมีบาบัด โดยมีการประสานกบั เภสัชกรเก่ียวกบั ข้อมูลการใช้ยา

2. เลือกหลอดเลือดดาท่ีมีขนาดใหญ่ ตรง และไม่อยู่ในตาแหน่งท่ีมี

การเคล่อื นไหวและใช้ Insyte ทม่ี ขี นาดเหมาะสมกบั ขนาดของหลอดเลอื ด

3. หลีกเล่ียงการให้ยาเคมีบาบัดทางหลอดเลือดดาเส้นเดียวกับ

ยาปฏชิ วี นะอ่นื ๆ

4. ใชว้ สั ดรุ องซบั เพ่อื ป้องกนั การรวั่ ซมึ ของยาเคมี

5. ใช้พลาสเตอร์ปิดบริเวณข้อต่อทุกข้อต่อของอุปกรณ์ขณะ

บรหิ ารยา

5. สง่ พยาบาลอบรมการดูแลผปู้ ่วยท่ไี ดร้ บั ยาเคมบี าบดั

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

22

ลาํ ดบั ความเสี่ยง มาตรการในการป้องกนั / การจดั การ(กรณีเกิดเหต)ุ

2 ภาวะภมู ไิ วเกนิ ในผปู้ ่วยมะเรง็ 1. เตรยี มความพรอ้ มก่อนใหย้ าเคมกี ลุ่ม high risk ไดแ้ ก่

ท่ี ไดร้ บั ยาเคมบี าบดั Paclitaxel, Docetaxel, Platinum compound, Etoposide

(hypersensitivity reactions: 1.1 เตรยี ม hypersensitivity kit HSRs) (อาการและอาการแสดงท่ี 1. 2 ประเมนิ ความเสย่ี ง ประวตั กิ ารแพย้ า การไดร้ บั ยาเคมคี รงั้ กอ่ น พบบอ่ ย ไดแ้ ก่ แน่นหนา้ อก หนา้ 1.3 ใหข้ อ้ มูลผปู้ ่วยและญาติ /คอ/อกแดง ผ่นื คนั ตามตวั ไอปวด 2. การเฝ้าระวงั เพอ่ื ป้องกนั HSRs 2.1 ใหย้ า Pre-medication ตามชนิดของยา หลงั และมไี ข)้ 2.2 ใช้ infusion pumpในการบรหิ ารยาทางหลอดเลอื ดดา

2.3 สงั เกตอาการอย่างใกลช้ ดิ

3. การจดั การอาการเมอ่ื ผปู้ ่วยมี HSRs

3.1 ประเมนิ อาการ และระดบั ความรนุ แรง

3.2 หยุดการให้ยาทันที ปลด extension tube จาก Insyte

ใช้ syringe10 ml. ดดู ยาและเลอื ดออกเทา่ ทจ่ี านวนปรากฏในเคร่อื ง

Infusion pump ให้ 0.9% NSS KVO ท่ีไม่มียาตกค้างอยู่ ใน

Extension tube (อาการจะดขี น้ึ ใน 2-5 นาท)ี

3.3 วัด vital signs และ O2 sat ทุก 2 นาที 2 ครัง้ , ทุ ก 5 นาที

2 ครงั้ และ 15 นาที 2 ครงั้ , 30 นาที 2 ครงั้ และรายงานแพทย์

3 ภาวะการตดิ เชอ้ื 1. ปฏบิ ตั ติ ามนโยบายทางคลนิ ิกเรอ่ื ง การป้องกนั การตดิ เชอ้ื

- การแพร่กระจายเช้ือด้ือยา ในโรงพยาบาลทพ่ี บบอ่ ย

MRSA, ESBL, CRAB, VRE 2. ปฏบิ ตั ติ ามวธิ ปี ฏบิ ตั งิ านเร่อื งวธิ กี ารป้องกนั การตดิ เชอ้ื ดอ้ื ยาและ

และ CRE แนวทางปฏบิ ตั เิ มอ่ื พบเชอ้ื ดอ้ื ยา MRSA/ ESBL/CRAB/VREหรอื

CREโดยการแยกผปู้ ่วยและแขวนป้าย

3. รณรงคเ์ ร่อื ง การลา้ งมอื

4. ตดิ ตามประเมนิ ผลลพั ธภ์ าวะการตดิ เชอ้ื และทากจิ กรรม

ทบทวนขอ้ มลู การตดิ เชอ้ื ในหน่วยงานอยา่ งสมา่ เสมอ

5. รว่ มกจิ กรรมเพ่อื นเยย่ี มเพ่อื น เพอ่ื กระตนุ้ การพฒั นาคุณภาพ

ในการป้องกนั และควบคมุ การตดิ เชอ้ื

4 เส่ียงต่อการติดเช้ือโคโรน่า 1. ปฏบิ ตั ติ ามแนวทางปฏบิ ตั ใิ นการเขา้ เยย่ี มผูป้ ่วยใหม่ สาหรบั ญาติ

ไวรสั 2019 (COVID-19) 1.1 งดเยย่ี มผปู้ ่วย และอนุญาตใหเ้ ฝ้าไขไ้ ด้ 1 คน ( ในรายท่ี

ตอ้ งการเปลย่ี นผูเ้ ฝ้า แนะนาใหต้ รวจ ATK กอ่ นทุกกรณี)

1.2 ผ่านการวดั ไขท้ จ่ี ดุ คดั กรองของโรงพยาบาลทุกครงั้

1.3 ทาความสะอาดมอื ก่อนและหลงั เขา้ เยย่ี มผปู้ ่วย ณ จุดบรกิ าร

ดา้ นหน้าทางเขา้ หอผูป้ ่วย

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

23

ลาํ ดบั ความเสี่ยง มาตรการในการป้องกนั / การจดั การ(กรณีเกิดเหตุ)

5 5.1 โรคหลอดเลอื ดสมอง 1.4 สวมหนา้ กากอนามยั และเวน้ ระยะหา่ งทางสงั คม (social (stroke) distance) อยา่ งน้อย 1 เมตร 5.1.1 airway obstruction 2. บุคลากรทางการแพทย์ สวมหนา้ กากอนามยั face shield และอุปกรณ์ PPE ตามความเหมาะสม 5.1.2 aspirated pneumonia 3. ผปู้ ่วยและญาตติ อ้ งสวมหนา้ กากอนามยั ตลอดเวลา 4. รณรงคเ์ รอ่ื ง การลา้ งมอื และจดั เตรยี มเจลสาหรบั ลา้ งมอื ภายในหอ้ งพกั ผปู้ ่วยเพอ่ื สะดวกตอ่ การเขา้ ถงึ 5. Swab เพ่อื คดั กรอง COVID- 19 กอ่ นการทาหตั ถการหรอื การผ่าตดั ตามแนวทางปฏบิ ตั ิ 6. ในรายทa่ี dmit และรอผลswab บคุ ลากรใส่อปุ กรณ์ป้องกนั เมอ่ื ตอ้ งใหก้ ารพยาบาลผปู้ ่วย จดั ทาแนวทางในการเฝ้าระวงั การเกดิ ความเสย่ี งทางคลนิ กิ (clinical risk) กลมุ่ โรคทส่ี าคญั ร่วมกบั ทมี ผดู้ แู ล 1. ประเมนิ ประสทิ ธภิ าพการไอและการขจดั เสมหะ 2. รกั ษาทางเดินหายใจของผู้ป่ วยให้โล่ง เพ่ือให้ผู้ป่ วยได้รบั ออกซเิ จนเพยี งพอ 3. จดั ทา่ นอนตะแคงหนั หนา้ ไปดา้ นขา้ งเพ่อื ป้องกนั การสดู สาลกั เสมหะหรอื น้าลายลงปอด 4. ตรวจดูหน้าท่ีของปอดโดยดูการหายใจทัง้ อัตราเร็วและ ลกั ษณะการเคล่อื นไหวของทรวงอก ฟังเสยี งปอด 5. ประเมินและบันทึกสัญญาณชีพ และประเมินภาวะขาด ออกซเิ จน เช่น cyanosis ระดบั ความรสู้ กึ ตวั กระสบั กระส่าย 1. ประเมนิ การกลนื โดยใชแ้ บบประเมนิ การกลนื กอ่ นใหอ้ าหาร และน้าทุกชนิดทางปาก 2. ประเมนิ ผปู้ ่วยเพอ่ื ดูอาการแสดงของการสาลกั เช่น มไี ข้ หายใจลาบาก เสยี งครอก เสยี งวด๊ี (wheezing) ของการหายใจ ความ ดนั ออกซเิ จนในเลอื ดแดง (PaO2) 3. ขณะรบั ประทานอาหารผปู้ ่วยควรอยใู่ นท่านงั่ ตวั ตรง ลาตวั และศรี ษะอย่ใู นแนวกลางลาตวั กม้ หนา้ ลงคางชดิ อก 4. ลกั ษณะอาหารควรเป็นประเภทบด ปัน่ ขน้ 5. safety feeding technique 6. oral care

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

24

ลาํ ดบั ความเส่ียง มาตรการในการป้องกนั / การจดั การ(กรณีเกิดเหตุ)

5.2 กลุ่มโรคหวั ใจและหลอดเลอื ด 1. ลด physical activity นอนท่า Semi fowler’s position

5.2.1 CHF เพอ่ื ลดปรมิ าณเลอื ดไหลกลบั เขา้ สหู่ วั ใจ

2. ดูแลใหอ้ อกซเิ จน หรอื ใชเ้ ครอ่ื งช่วยหายใจตามระดบั ความรุนแรง

3. แกไ้ ขป้องกนั การเกดิ ภาวะกลา้ มเน้ือหวั ใจตาย

4. ดูแลใหย้ าควบคมุ ภาวะหวั ใจลม้ เหลว ไดแ้ ก่ ยาขบั ปัสสาวะ

ยาเพม่ิ การทางานของหวั ใจ (inotropic) ยาขยายหลอดเลอื ด

5. บนั ทกึ สญั ญาณชพี (vital signs)

6. จากดั เกลอื โซเดยี มไมเ่ กนิ 2 gm/dayหรอื 12meq/I (เกลอื แกง 6 gm)

7. บนั ทกึ ปรมิ าณสารน้าทร่ี ่างกายไดร้ บั และขบั ออก

8. จากดั น้าเหลอื รอ้ ยละ50-80 ของ maintenance ตามความเหมาะสม

1. ดูแลใหอ้ อกซเิ จน หรอื ใชเ้ คร่อื งช่วยหายใจตามความรุนแรงของผปู้ ่วย

5.2.2 hypotension 2. ดแู ลใหผ้ ปู้ ่วยไดร้ บั สารน้าทางหลอดเลอื ดดา Isotonic อยา่ งเพยี งพอ

(cardiogenic shock) 3. ดูแลใหผ้ ปู้ ่วยไดร้ บั ยาเพม่ิ การทางานของหวั ใจ (inotropic)

ตามแผนการรกั ษา

4. ประเมนิ central venous pressure (CVP)

5.2.3 pulmonary edema 1. ช่วยการหายใจและให้ intermittent positive pressure (Positive End Expiratory Pressure; PEEP 6-10 cmH2O) 5.2.4 arrhythmia 2. ใหย้ าขบั ปัสสาวะถา้ มภี าวะน้าเกนิ และยาขยายหลอดลมตาม (PVC,VT,VF) ในระยะ 12-24 แผนการรกั ษา ในรายทม่ี หี ลอดลมตบี ชม.แรก ของการเกดิ กลา้ มเน้อื 3. บนั ทกึ สญั ญาณชพี หวั ใจตายเฉยี บพลนั 4. rotating tourniquet ดว้ ย cuff BP หรอื blood letting ในบางราย เพ่อื เป็นการชว่ ยชวี ติ ในระยะเฉยี บพลนั 1. ดูแลใหน้ อนพกั บนเตยี ง 2. ใหผ้ ปู้ ่วยไดร้ บั ออกซเิ จนตามแผนการรกั ษา 3. EKG monitoring 4.วดั vital signs อยา่ งนอ้ ยทุก1ชม.และถข่ี น้ึ ตามอาการเปล่ยี นแปลง 5. เตรยี มความพรอ้ มเกยี่ วกบั อปุ กรณแ์ ละยาสาหรบั การแกไ้ ข ภาวะหวั ใจเตน้ ผดิ จงั หวะ ไดแ้ ก่ Lidocain, cordarone, defibrillator, temporary pacemaker 6. ดแู ลผปู้ ่วยใหไ้ ดร้ บั ยา antiarrhythmic, anticoagulant เพอ่ื ป้องกนั การเกดิ embolism และเฝ้าระวงั การเกดิ ภาวะเลอื ดออก 7. วางแผนจาหน่ายผปู้ ่วยทใ่ี ส่ pacemaker

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

ลาํ ดบั ความเสี่ยง 25 5.3 Septic shock มาตรการในการป้องกนั / การจดั การ(กรณีเกิดเหตุ) 1. ประเมนิ สภาพรา่ งกาย เช่น ผวิ หนังอณุ หภูมริ ่างกาย capillary refill ระดบั ความรสู้ กึ ตวั 2. ตรวจวดั สญั ญาณชพี เป็นระยะทกุ 1-2 ชวั่ โมง ประเมนิ อาการ ผดิ ปกติ จงั หวะการเตน้ และเสยี งหวั ใจ 3. Clear airway ช่วยแพทยใ์ นการใสท่ ่อชว่ ยหายใจ 4. Retained Foley’s catheter ประเมนิ ผลการใหส้ ารน้า ปรมิ าณปัสสาวะ (Record I/O) 5. ดูแลใหผ้ ปู้ ่วยพกั ผอ่ นมากๆ เพอ่ื ลดอตั ราการเผาผลาญ 6. จดั บรรยากาศในหอ้ งพกั ใหเ้ งยี บสงบมอี ากาศถ่ายเทดี 7. เชด็ ตวั ลดไข้ เมอ่ื มไี ขส้ งู เกนิ 38 องศาเซลเซยี ส

5.5 โรคเบาหวาน 1. ใหก้ ารดูแลผปู้ ่วยเบาหวานทม่ี ภี าวะเสย่ี งร่วมกบั ทมี สหสาขาวชิ าชีพ ตามแนวทางการดูแลผู้ป่ วยท่ีมภี าวะเส่ยี งต่อ - ภาวะน้าตาลในเลอื ดตา่ ภาวะ hypoglycemia ประเมนิ ผู้ป่ วยท่จี ดั ว่าเป็นผู้ป่ วยท่มี คี วาม ในผปู้ ่วยกลุ่มเสย่ี ง (high risk เสย่ี งสงู เพอ่ื เฝ้าระวงั ดงั น้ี hypoglycemia) 1.1 อายุมากกวา่ 60 ปี 1.2 เป็นเบาหวานนานมากกว่า 10 ปี 1.3 เป็นโรคตบั หรอื ไตเรอ้ื รงั 1.4 รบั ประทานอาหารไดน้ อ้ ย ถ้าพบอย่างน้อย 3 ใน 4 ขอ้ หรอื มภี าวะเจ็บป่ วยรุนแรงเฉียบพลนั เช่น sepsis,โรคหลอดเลอื ดสมอง และโรคหวั ใจ 2. วดั สญั ญาณชพี และตดิ ตามการเปลย่ี นแปลง การรบั รสู้ ติ 3. เจาะ CBG stat และก่อนอาหารทุกมอ้ื แตถ่ า้ ผปู้ ่วย NPO เจาะ CBG ทกุ 6 ชวั่ โมง 4. เจาะ FBS, Cr, electrolyte, AST, ALT และ ALP stat 5. มี standing order เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่ วย hypoglycemia และ hyperglycemia signs 6. ประเมินภาวะโภชนาการของผู้ป่ วยถ้าผู้ป่ วยยังรับประทาน ไดน้ อ้ ย อาเจยี น หยุดยาเบาหวานทกุ ชนิด 7. ปฏบิ ัติตามแนวทาง ADULT HYPOGLYCEMIA VJR TREATMENT PROTOCOL 8. ใหส้ ารน้าทดแทนทางหลอดเลอื ดดาตามแผนการ รกั ษา

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

26

ลาํ ดบั ความเส่ียง มาตรการในการป้องกนั / การจดั การ(กรณีเกิดเหตุ)

9. เฝ้ าระวังอาการผู้ป่ วยอย่างใกล้ชิด ถ้าพบว่า vital signs

ผดิ ปกติ เช่น BP< 90/60 mmHg, PR>120 ครงั้ /นาที เหง่อื แตก

ใจสนั่ ตวั เยน็ ซมึ ลง รายงานแพทยท์ นั ที

ความเส่ียงทางคลินิกทวั่ ไป

(General clinical risk)

6 ความผดิ พลาดในการใหย้ าและ 1. ลดขนั้ ตอนในการคดั ลอกโดยใชร้ ะบบ No card

ยาทม่ี คี วามเสย่ี งสงู (high alert 2. ปฏบิ ัติตามหลกั การป้องกันความเส่ยี งจากคาสงั่ การใช้ยาท่ีมีความ

drug : HAD) เสย่ี งสงู (High alert drugs) และมกี ารบนั ทกึ การเฝ้าระวงั ในเวชระเบยี น

โดยทาสญั ลกั ษณ์ “ HAD ” สแี ดง ใน Medication sheet

3. มกี ารตรวจสอบซา้ เกย่ี วกบั การรบั คาสงั่ การรกั ษา

4. มกี าร double check หรอื re-check อกี ครงั้ ก่อนส่งมอบยา

ให้ผปู้ ่วยพรอ้ มเซน็ ช่อื 2 คน และสาหรบั บคุ ลากรพยาบาลจบใหมจ่ ดั

แจกยาร่วมกบั บคุ ลากรพยาบาลทม่ี ปี ระสบการณม์ ากกวา่

5.ยาความเส่ียงสูงท่ีให้ทางหลอดเลอื ดดาจะต้องติดตามด้วย

เคร่อื งควบคมุ การใหส้ ารละลายเสมอ

7 การแพย้ าซา้ 1. ซกั ประวตั กิ ารใชย้ าการแพย้ า อาหาร และสารเคมตี า่ งๆ

และนาขอ้ มูลมาใชร้ ่วมกนั ในทมี สหสาขาวชิ าชพี

2. ดแู ลผปู้ ่วยตามนโยบายทางคลนิ ิกเร่อื งการป้องกนั การแพย้ าซา้ ดงั น้ี

2.1 แจง้ ขอ้ มลู การแพย้ าของผปู้ ่วย ใหท้ มี ผดู้ แู ลทราบ

2.2 ตดิ ป้ายแพย้ าทนั ทพี รอ้ มทงั้ ระบุช่อื ยา อาการแสดงทแ่ี พ้

หรอื ทส่ี งสยั ว่าแพล้ งหนา้ แฟ้มประวตั แิ ละแฟ้ม MAR ทงั้ ยาฉดี

และยารบั ประทาน

8 ความผดิ พลาดในการใหเ้ ลอื ด ปฏบิ ตั ิตามวธิ ปี ฏบิ ตั งิ านเรอ่ื งการใหเ้ ลอื ดและส่วนประกอบของเลอื ดดงั น้ี

และสว่ นประกอบของเลอื ด 1. ให้ข้อมูลผู้ป่ วยและญาติทราบความจาเป็นของการให้เลือดและ

ส่วนประกอบของเลอื ดและเซน็ ใบยนิ ยอมการทาหตั ถการ

2. ตรวจสอบแผนการรกั ษา และบนั ทกึ การขอเลอื ดใหถ้ ูกตอ้ ง

3. การเจาะเลอื ดตอ้ งสอบถามช่อื -สกลุ ตรวจสอบป้ายขอ้ มอื

ใหต้ รงกบั tube และใบขอเลอื ด

4. การขอรบั เลอื ดพมิ พใ์ บรบั เลอื ดกรณีขอเลอื ดครงั้ แรกไมม่ ปี ระวตั ิการ

ใชต้ อ้ งมกี ารสอบซ้าโดยเจาะเลอื ดใส่ capillary tube เพอ่ื ตรวจสอบซ้า

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

27

ลาํ ดบั ความเสี่ยง มาตรการในการป้องกนั / การจดั การ(กรณีเกิดเหตุ)

9 ความผดิ พลาดในการส่งตรวจ ปฏบิ ตั ติ ามคมู่ อื การส่งตรวจทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร ดงั น้ี

ทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร 1. พยาบาลตรวจสอบและรบั คาสงั่ แผนการรกั ษา

2. พมิ พใ์ บส่งตรวจจากคอมพวิ เตอร์

3. เตรยี มอปุ กรณ์ / ภาชนะบรรจุสง่ิ ส่งตรวจใหถ้ กู ตอ้ ง

4. ตดิ สตกิ เกอร์ ระบุ ช่อื -สกลุ ผปู้ ่วย HN/AN

5. ตรวจสอบชอ่ื ผปู้ ่วยใหถ้ กู ตอ้ งอกี ครงั้ ก่อนปฏบิ ตั ิ

10 การเลอ่ื นหลดุ ของท่อชว่ ย 1. ปฏบิ ตั ติ ามแนวทางการปฏบิ ตั เิ ร่อื ง “การป้องกนั การเล่อื นหลดุ

หายใจ ของทอ่ ชว่ ยหายใจทางปาก/จมกู ”

2. ประเมินการรบั รู้และระดบั ความรู้สึกตัวของผู้ป่ วย เพ่ือให้

ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ความจาเป็นในการใส่ท่อช่วยหายใจ และอนั ตราย

จากการดงึ ทอ่ ชว่ ยหายใจแกผ่ ปู้ ่วยและญาติ

3. พจิ ารณาการผูกยดึ (restrain) จากดั การเคล่อื นไหวตามความ

จาเป็น โดยอธบิ ายให้ญาติผปู้ ่วยเขา้ ใจถงึ ความจาเป็นในการผูก

ยดึ มดั ผปู้ ่วยและเซน็ ใบยนิ ยอม

4. ชว่ ยเหลอื ในการสอ่ื สารดว้ ยการเขยี น หรอื ใชค้ ู่มอื การสอ่ื สาร

กรณีเขยี นหนังสอื ไมไ่ ด้

5. ตดิ ตามประเมนิ และเฝ้าระวงั ผปู้ ่วยใกลช้ ดิ ตอบสนองความ

ตอ้ งการของผปู้ ่วยอย่างรวดเรว็ และกรณีเปลย่ี น position ตอ้ งมี

พยาบาลอยา่ งน้อย 2 คน

ความเสี่ยงทวั ่ ไป (General risk )

11 ระบตุ วั ผปู้ ่วยผดิ พลาด - ตดิ สตก๊ิ เกอรช์ อ่ื ผปู้ ่วยผดิ คน 1. ใชต้ วั บ่งชอ้ี ย่างน้อย 2 ตวั เพอ่ื ยนื ยนั ตวั บคุ คล และไม่ใชห้ มายเลขหอ้ ง

เป็นตวั บง่ ช้ี

2. ตรวจสอบซ้าก่อนนาสต๊ิกเกอร์ใส่ในเวชระเบียนผู้ป่ วยและ

ตรวจสอบซ้าขณะนาไปใช้

- ตดิ ใบ Lab ผดิ หอ้ ง 1. เมอ่ื พมิ พผ์ ล Lab ใชป้ ากกา highlight ขดี ทบั บรเิ วณชอ่ื -สกุล

และหมายเลขหอ้ งผปู้ ่วย เพ่อื เน้นใหเ้ หน็ ชดั

2. ตรวจสอบช่อื -สกุลผปู้ ่วยซา้ ทุกครงั้ กอ่ นตดิ ใบรายงานผล

12 อบุ ตั เิ หตุพลดั ตกจากทส่ี งู และ 1. ประเมนิ ความเสย่ี งตอ่ การพลดั ตกหกลม้ ในผปู้ ่วยรบั ใหม่ทกุ รายโดย

หกลม้ ตกเตยี ง ใชแ้ บบประเมนิ การเฝ้าระวงั ความเสย่ี งตอ่ การพลดั ตกหกลม้ / ตกเตยี ง

2. จดั แยกประเภทผูป้ ่วยตามการประเมนิ สภาพเพ่อื ใหก้ ารดูแล

ไดอ้ ยา่ งความเหมาะสม

3. แขวนป้ายเฝ้าระวงั ป้องกนั ผปู้ ่วยตกเตยี งพรอ้ มประเมนิ ผปู้ ่วย

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

28

ลาํ ดบั ความเส่ียง มาตรการในการป้องกนั / การจดั การ(กรณีเกิดเหตุ)

ทกุ เวรยกราวกนั้ เตยี งขน้ึ ทนั ทภี ายหลงั การรกั ษาพยาบาล

4. ผปู้ ่วยอ่อนเพลยี สบั สน หา้ มไม่ไปหอ้ งน้าโดยลาพงั พจิ ารณา ผูกยดึ

ผู้ป่ วยตามความเหมาะสม แพทย์บันทึกเป็ นคาสัง่ การรกั ษา

อธบิ ายใหผ้ ูป้ ่วยและญาติทราบถงึ ความจาเป็นในการผกู มดั ผปู้ ่วย

พรอ้ มเซน็ ใบยนิ ยอม

5. จดั วางเครอ่ื งใชต้ า่ งๆ ออดหรอื กรงิ่ วางอยใู่ กลม้ อื ผปู้ ่วย

เพอ่ื ขอความช่วยเหลอื ไดส้ ะดวก

13 อคั คภี ยั 1. มกี ารสารวจและเฝ้าระวงั อคั คภี ยั ในจดุ ทม่ี คี วามเสย่ี ง

2. ดแู ลและตรวจสอบความพรอ้ มใชข้ องอุปกรณ์ดบั เพลงิ

3. จดั ทาแผนผงั ทางหนไี ฟและแผนอคั คภี ยั ในหอผปู้ ่วย

4. ทบทวนแผนอคั คภี ยั อยา่ งน้อยเดอื นละ 1 ครงั้

5. งดสบู บหุ รภ่ี ายในหอผปู้ ่วยตามนโยบายการรณรงคไ์ ม่สบู บหุ ร่ี

ในสถานทร่ี าชการ

6. สารวจทางหนไี ฟ

14. ปัญหาดา้ นค่าใชจ้ า่ ย เช่น 1.ตรวจสอบคา่ หอ้ งและคา่ รกั ษาอยา่ งละเอยี ดทกุ ครงั้ กอ่ นการ

ผปู้ ่วยไม่ชาระค่ารกั ษาพยาบาล ชาระเงนิ หากพบปัญหาคา่ รกั ษาไมต่ รงให้ประสานงานกบั แผนก

ค่าหอ้ งไม่ตรงกบั จานวนวนั จดั เกบ็ รายไดแ้ ละแผนกคอมพวิ เตอร์

นอนจรงิ 2. ตดั ยอดเฉพาะค่าหอ้ ง ทกุ วนั องั คารและวนั ศกุ ร์

3. การแสดงใบเสรจ็ รบั เงนิ และเซน็ ตช์ ่อื ในสมดุ ชาระค่าใชจ้ ่ายทกุ ครงั้

4. กรณีมคี า่ ใชจ้ ่ายสว่ นเกนิ นอกเหนอื จากสทิ ธทิ์ เ่ี บกิ ได้ แจง้ และ

อธบิ ายใหผ้ ปู้ ่วยรบั ทราบทนั ที

18. การตอบสนองต่อ Vajira 2P Safety Goals HA II-1.2ก (5) มี ไมม่ ี

Goal เรื่อง √

Goal 1 การป้องกนั การผา่ ตดั ผดิ คน ผดิ ขา้ ง ผดิ ตาแหน่ง ผดิ หตั ถการ √ (SSC & Mark site) √ √ Goal 2 การตดิ เชอ้ื ทส่ี าคญั ในโรงพยาบาล 2.1 การป้องกนั ไมใ่ หผ้ ปู้ ่วยตดิ เชอ้ื ทต่ี าแหน่งผ่าตดั Surgical Site Infection Prevention 2.2 การป้องกนั ผปู้ ่วยตดิ เชอ้ื จากการใช้เคร่อื งช่วยหายใจ Ventilator Association Pneumonia (VAP) Prevention 2.3 การป้องกนั ผปู้ ่วยตดิ เชอ้ื ในระบบทางเดนิ ปัสสาวะจากการคาสาย สวน (CAUTI Prevention)

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

29

Goal เรื่อง มี ไมม่ ี √ Goal 3 2.4 การป้องกนั ผปู้ ่วยตดิ เชอ้ื ในกระแสโลหติ จากการใส่สายสวนหลอด Goal 4 เลอื ดดา(CLABSI Prevention) √ √ Goal 5 ป้องกนั บุคลากรไมใ่ หต้ ดิ เชอ้ื จากการปฏบิ ตั งิ าน (Personal safety from infection) √ Goal 6 √ Goal 7 การเกดิ Medication Error และ Adverse Drug Events √ Goal 8 4.1 การป้องกนั ผปู้ ่วยไดร้ บั อนั ตรายจากการใชย้ าทม่ี คี วามเสย่ี งสงู √ 4.2 การป้องกนั ผปู้ ่วยแพย้ าซา้ √ Goal 9 Goal 10 การป้องกนั การใหเ้ ลอื ดผดิ พลาด (Blood Safety) √ Goal 11 การป้องกนั การบง่ ชต้ี วั ผปู้ ่วยผดิ พลาด (Patient Identification) √ การป้องกนั การวนิ ิจฉัยผปู้ ่วยผดิ พลาด ล่าชา้ (Diagnosis Error) √ √ การรายงานผลทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร/ พยาธวิ ทิ ยาคลาดเคล่อื น 8.1 ป้องกนั การรายงานผลการตรวจทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารผดิ พลาด ล่าชา้ (Lab Error) √ 8.2 การป้องกนั การรายงานผลการตรวจทางพยาธวิ ทิ ยา คลาดเคลอ่ื น (Patho Report Error)

การป้องกนั การคดั แยกผปู้ ่วยฉุกเฉนิ ผดิ พลาด (Effective Emergency Triage) ป้องกนั ผปู้ ่วยวกิ ฤติ ไมใ่ หถ้ กู ดแู ลอยา่ งไมเ่ หมาะสม (Proper care for Critical patient) การส่อื สารทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพโดยเฉพาะในภาวะวกิ ฤติ (Effective Communication)

19. กิจกรรมทบทวนในงานประจาํ (เลือกเฉพาะหวั ข้อที่เก่ียวขอ้ ง) HA II-1.2ข (1)

กิจกรรมทบทวน/ เรื่องท่ีทบทวน การออกแบบหรือปรบั ปรงุ

1. การทบทวนขณะดูแลผปู้ ่วย

1.1 ความผดิ พลาดในการจาหน่ายผปู้ ่วย 1. บนั ทกึ การจาหน่ายผปู้ ่วยในระบบ e –phis ทุกครงั้ หลงั

ใหค้ าแนะนาเรอ่ื งยาและการมาตรวจตามนดั

2. ลงบนั ทกึ คา่ รกั ษาหลงั จาหน่ายลงในสมดุ และใหผ้ ปู้ ่วย

เซน็ รบั ทราบพรอ้ มกบั แสดงใบเสรจ็ รบั เงนิ ใหก้ บั พยาบาล

1.2 เกดิ phlebitis grade 4 1. ใหค้ าแนะนาผูป้ ่วยเร่อื งการปฏบิ ตั ติ วั

2. dressing ตาแหน่งทแ่ี ทงเขม็ ดว้ ย Povidone ointment

ทุกครงั้ และหลงั นาเขม็ ออกจากบรเิ วรผวิ หนังผปู้ ่วย

3. ประเมนิ อาการปวด บวม แดง รอ้ น ตาแหน่งท่แี ทงเขม็

ทุกเวร ถา้ มอี าการใหร้ บี รายงานแพทยท์ นั ที

4. เฝ้าระวงั ผปู้ ่วยหลงั ไดร้ บั ยาเคมบี าบดั ทอ่ี ยใู่ นภาวะ

neutropenia

5.ใหค้ าแนะนาผปู้ ่วยเร่อื งการดแู ลผวิ หนงั บรเิ วณทแ่ี ทง

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

30

กิจกรรมทบทวน/ เรอ่ื งที่ทบทวน การออกแบบหรือปรบั ปรงุ

1.3 เกดิ ภาวะน้าตาลในเลอื ดต่า ในผปู้ ่วยทม่ี ี เขม็ ปิดสาลไี วแ้ ละสามารถแกะออกได้ และหากมอี าการ ความเสย่ี งสงู ผดิ ปกติ เช่น ปวด บวม แดง หรอื เจบ็ บรเิ วณทใ่ี ห้สารน้า ใหร้ บี แจง้ พยาบาลทราบทนั ที 1.4 รายงานผลLab เคมคี ลนิ กิ พบ hemolysis 6.มกี ารลงบนั ทกึ ตาแหน่งเขม็ , วนั ทเ่ี ปิดเสน้ , ขนาดของ จานวน 6 ราย เขม็ รวมถงึ วนั ท่ี off และเปลย่ี นตาแหน่งในแบบเกบ็ ขอ้ มูล - ไม่ไดเ้ จาะLabตามแผนการรกั ษา และ สง่ สงิ่ phlebitis/ extravasation 7.เขยี น focus list และบนั ทกึ ทางการพยาบาลกรณีเกดิ phlebitis 8.ประเมนิ สภาพผปู้ ่วยแรกรบั กอ่ นเคล่อื นยา้ ยลงเตยี ง ทุกรายโดยเฉพาะบรเิ วณตาแหน่งเขม็

9.ใหน้ าเขม็ ออกกรณีไม่ใชง้ านแลว้

1. บนั ทกึ ขอ้ มูลผปู้ ่วยเบาหวานทกุ รายทม่ี ภี าวะ High risk hypoglycemia ลงในแบบบนั ทกึ พรอ้ มทงั้ ปฏบิ ตั ติ ามแนว ทางการดูแลผปู้ ่วยเบาหวานเสย่ี งสงู 2. แขวนป้ายเฝ้าระวงั High risk hypoglycemia และ อธบิ ายใหญ้ าตเิ ขา้ ใจ 3. มกี ารประเมนิ ความสามารถในการรบั ประทานอาหาร ของผปู้ ่วยในแบบบนั ทกึ พลงั งานอาหารทผ่ี ปู้ ่วยไดร้ บั เฉพาะราย 4.ศกึ ษาขอ้ มูล ระยะเวลาการออกฤทธิ์และระยะเวลาการฉีด Insulin กอ่ นมอ้ื อาหาร ของยา Insulin แตล่ ะชนดิ เพอ่ื วางแผนเฝ้าระวงั ภาวะ hypoglycemia 5. ปฏิบัติตามแนวทาง Adult hypoglycemia VJR Treatment Protocol กรณีทผ่ี ปู้ ่วยมอี าการ hypoglycemia 1.เปลย่ี นวธิ กี ารเจาะเลอื ดเดมิ จากการดงึ เลอื ดจาก NSS Lock เป็นการเจาะจาก Peripheral line ผปู้ ่วยโดยตรง 2.ทบทวนวธิ กี ารเจาะเลอื ดจากPeripheral line เชน่ ใช้ ขนาดเขม็ ทเ่ี หมาะสม ไมร่ ดั tunique นานเกนิ ไป รวมถงึ การ mix tube เลอื ด 3. กรณีเจาะเลอื ดไม่ไดเ้ กนิ 2 ครงั้ ขน้ึ ไปใหห้ ยดุ และ เปลย่ี นคน 1. รบั คาสงั่ การรกั ษาลง Kardex พรอ้ มทงั้ ตรวจสอบซา้

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

กิจกรรมทบทวน/ เร่ืองที่ทบทวน 31 ตรวจผดิ คน การออกแบบหรอื ปรบั ปรงุ - ทุกครงั้ มกี ารสง่ ต่อกนั ระหว่างเวร - เกบ็ รกั ษาสงิ่ ส่งตรวจไมถ่ ูกวธิ ี 2. เวรบ่ายตรวจสอบรายการLab กบั แผนการรกั ษา คดั ลอกลงสมดุ เพอ่ื เตรยี มพรอ้ มใหเ้ วรดกึ 1.5 ผปู้ ่วยไดร้ บั ยากลบั บา้ นไม่ครบถว้ น 3. เวรดกึ ตรวจสอบรายการ Lab อกี ครงั้ พมิ พใ์ บ Lab ตดิ สตก๊ิ เกอรท์ ห่ี ลอดเลอื ด 2. การทบทวนเวชระเบยี น/บนั ทกึ 4. ตรวจสอบชอ่ื – สกุลของผูป้ ่วยทุกครงั้ ใหต้ รงกบั หลอด - การทบทวนความสมบูรณข์ องการบนั ทกึ เลอื ดและในใบ lab ก่อนทาการเจาะเลอื ด ทางการพยาบาล 5. กรณีเกบ็ เสมหะหรอื ปัสสาวะเพอ่ื สง่ ตรวจ ใหป้ ิด สตก๊ิ เกอรช์ อ่ื ผปู้ ่วย และเขยี นชอ่ื เตยี งทภ่ี าชนะเกบ็ สง่ิ ส่ง ตรวจทกุ ครงั้ ตรวจสอบก่อนสง่ ทกุ ครงั้ 1. กรณีในเวลาราชการ หลงั จากทไ่ี ดร้ บั สง่ิ สง่ ตรวจ เชน่ น้าเจาะทอ้ ง น้าเจาะหลงั น้าเจาะปอด ใหร้ บี ทาการสง่ ไป ยงั หอ้ ง Lab ทนั ที โดยหา้ มส่งทางกระสวย 2. ในกรณีทไ่ี ม่สามารถส่งไดท้ นั ที ใหป้ ระสานงานกบั หอ้ ง เจาะเลอื ดชนั้ 3 เพอ่ื ทาการฝากสงิ่ ส่งตรวจไวใ้ นตูเ้ ยน็ สาหรบั แชส่ ง่ิ สง่ ตรวจ โดยตอ้ งทาการปิดสตกิ๊ เกอรช์ อ่ื ผปู้ ่วย ระบชุ ่อื หน่วยงานใหค้ รบถว้ น 1.กรณีแพทย์มีคาสัง่ จาหน่ายผู้ป่ วย ให้นารายการยา ปั จจุบันกับยาเดิมตามmed reconcile ของผู้ป่ วยมา ตรวจสอบใหต้ รงกนั หากแพทย์ต้องการหยุดยาตวั ใด ให้ เขยี น off ยาตวั นัน้ ลงใน doctor order sheet 2. ตรวจสอบยากลบั บา้ นทไ่ี ดร้ บั กบั รายการยาในหน้า บนั ทกึ รบั ยาในคอมพวิ เตอร์ และในคาสงั่ แพทย์ ใหต้ รงกนั ตรวจสอบชนดิ จานวนเมด็ ยา วธิ กี ารใชย้ า ใหถ้ ูกตอ้ งตรง กบั แผนการรกั ษา 3.อธบิ ายการใช้ยา พร้อมกบั ตรวจสอบชนิดยากลบั บ้าน ทไ่ี ดร้ บั ร่วมกบั ผปู้ ่วยและผดู้ ูแล 1. มอบหมายงานแบบระบบการดูแลเป็นรายบคุ คล (case method) ในเวรเชา้ โดยพยาบาลทาหน้าทด่ี แู ล ผปู้ ่วยทไ่ี ดร้ บั มอบหมายทกุ เร่อื งตลอดเวลา 2. ทบทวนเวชระเบยี นผปู้ ่วยรบั ใหม่ one day one chart ร่วมกบั การคน้ หาปัญหา และความตอ้ งการของผปู้ ่วย ขณะรบั -ส่งเวร

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

32

กิจกรรมทบทวน/ เรื่องที่ทบทวน การออกแบบหรือปรบั ปรงุ

3. ตรวจประเมนิ ความสมบูรณ์ของการบนั ทกึ เวชระเบยี น

ทกุ เดอื น 4 ฉบบั ตอ่ เดอื นโดยคณะกรรมการตรวจประเมนิ

ความสมบรู ณ์ของการบนั ทกึ เวชระเบยี น

4. นาขอ้ มูลทไ่ี ดจ้ ากการทบทวนเวชระเบยี น มานเิ ทศ

บุคลากรเป็นรายกล่มุ และรายบคุ คล

5. รวบรวบขอ้ วนิ ิจฉัยทางการพยาบาล เพอ่ื ใชเ้ ป็น

แนวทางในการเขยี นบนั ทกึ

3. การทบทวนอุบตั กิ ารณ์ 1.ใหค้ าแนะนาผปู้ ่วยเรอ่ื งการปฏบิ ตั ติ วั ขณะทไ่ี ดร้ บี ยาเคมี

ขอ้ ตอ่ ยาเคมบี าบดั เลอ่ื นหลดุ ทาใหย้ าเคมี บาบดั การป้องกนั ยาเคมบี าบดั หก เล่อื นหลุด

บาบดั หก ฟุ้งกระจาย 2. พนั ดว้ ย Transpore บรเิ วณทเ่ี ป็นขอ้ ตอ่ ตา่ งๆเช่น

ระหว่างขวดยาเคมบี าบดั และset ใหส้ ารน้า ขอ้ ตอ่ บรเิ วณ

three way เพ่อื ลอ็ คไม่ใหข้ อ้ ตอ่ ตา่ งๆเลอ่ื นหลดุ ไดง้ ่าย

3. รองบรเิ วณมอื ขา้ งทใ่ี หย้ าเคมบี าบดั และบรเิ วณ Three

way ทใ่ี หย้ าดว้ ยแผน่ กนั ซมึ เพอ่ื เป็นตวั ซมึ ซบั ยากรณีมี

การรวั่ หลุดของยา และกนั การฟุ้งกระจาย

4. เตรยี มชุด spill kid ใหพ้ รอ้ มใช้ พรอ้ มทงั้ ทบทวนการใช้

อย่างสมา่ เสมอ

4. การทบทวนการใชท้ รพั ยากร 1. ลดการใชก้ ระดาษ โดยทาเอกสารเป็น E-BOOK

การประหยดั พลงั งาน 2. ใชแ้ บบประเมนิ เป็นgoogle from และQR code

3. การเปิด ปิดแอร์ คอมพวิ เตอร์ เป็นเวลาในเวรดกึ

5. การทบทวนคารอ้ งเรยี นของผปู้ ่วย/ผรู้ บั บรกิ าร 1.วางแผนการจาหน่ายผปู้ ่วยล่วงหนา้ รว่ มกบั แพทยเ์ จา้ ของไข้

ไม่พงึ พอใจเรอ่ื งการรบั ยากลบั บา้ นลา่ ชา้ 2. เตรยี มยากลบั บา้ น : แพทยเ์ ขยี นคาสงั่ การรกั ษาใน

DOS ลว่ งหน้า 1 วนั และส่งเบกิ ยาลว่ งหน้า

3. การชาระค่าใชจ้ ่าย กรณมี ปี ระกนั ชวี ติ ประสานกบั งาน

จดั เกบ็ รายไดก้ ่อนเทย่ี ง

4. ใหข้ อ้ มูลผปู้ ่วยและญาตเิ กี่ยวกบั ขนั้ ตอนการจาหน่าย

6. การประเมนิ ความรคู้ วามสามารถและทกั ษะ 1. ประเมนิ คดั กรองผปู้ ่วยก่อนรบั ใหมห่ รอื รบั ยา้ ยเขา้ พกั

การเฝ้าระวงั ผปู้ ่วยกอ่ นเขา้ สภู่ าวะวกิ ฤต ในหอผปู้ ่วยพเิ ศษ

2. นิเทศทางคลนิ กิ ในการเฝ้าระวงั ผปู้ ่วยกอ่ นเขา้ ส่ภู าวะ

วกิ ฤตโดยใช้ NEWS

3. มกี ารส่อื สารคา่ คะแนน NEWS ทกุ เวรบนกระดาน

(management board) และเมอ่ื ผปู้ ่วยมี คะแนน NEWS ≥ 5

หรือ มีคะแนนในบางหมวดเทา่ กบั 3 ให้รายงานแพทย์ และวดั

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

33

กิจกรรมทบทวน/ เร่ืองท่ีทบทวน การออกแบบหรอื ปรบั ปรงุ 7. การทบทวนการส่งตอ่ ผปู้ ่วย สญั ญาณชพี ทกุ 1 ช.ม ความไมพ่ รอ้ มในการเคลอ่ื นยา้ ยผปู้ ่วย 1. ประเมนิ ความพรอ้ มของผปู้ ่วยรว่ มกบั แพทยก์ อ่ นการ 8. การทบทวนการใชย้ า เคลอ่ื นยา้ ยผปู้ ่วย และประสานกบั หน่วยงานรบั ยา้ ย ผปู้ ่วยไดร้ บั ยาผดิ ชนดิ ผดิ ขนาด เพอ่ื ส่งตอ่ ขอ้ มลู 2. จดั เตรยี มยา เครอ่ื งมอื อุปกรณ์ทางการแพทยท์ ่ี 9. การทบทวนการใชเ้ ลอื ด เหมาะสมในการตดิ ตามอาการผปู้ ่วยขณะเคลอ่ื นยา้ ย เสย่ี งตอ่ ความผดิ พลาดในการใหเ้ ลอื ดและ 3. สรุปอาการอาการแสดง สญั ญาณชพี ผปู้ ่วย ประเดน็ ทต่ี อ้ ง ตดิ ตามดแู ลต่อเน่อื งในแบบสรปุ การยา้ ย (FM-NUR012-040) สว่ นประกอบของเลอื ด 4. กรณีผปู้ ่วยวกิ ฤต ใหเ้ คล่อื นยา้ ยผปู้ ่วยทงั้ เตยี ง 5.จดั เตรยี มอุปกรณ์และเครอ่ื งมอื สาหรบั การเคลอ่ื นยา้ ยผปู้ ่วยให้ เหมาะสม เช่น เครอ่ื งมอื ตดิ ตามการเตน้ ของหวั ใจ ความดนั โลหติ คา่ ความอมิ่ ตวั ของออกซเิ จนในเลอื ด defibrillator 5. ประเมนิ ผปู้ ่วยร่วมกบั หน่วยงานทร่ี บั ยา้ ย 1. ตรวจสอบคาสงั่ การรกั ษากบั รายการยาในใบบนั ทกึ การ ใหย้ าใหต้ รงกนั พรอ้ มทงั้ ลงช่อื กากบั ผู้ตรวจสอบหลงั รบั คาสงั่ การรกั ษา และเวรละ 1 ครงั้ 2. ตรวจเชค็ ยาเม่อื รบั ยาจากหอ้ งยาใหต้ รงกบั หน้าซองยา และคาสงั่ แพทยอ์ ยา่ งละเอยี ดทุกครงั้ หากพบว่าตวั ยากบั หนา้ ซองไม่ตรงกนั ใหร้ บี แจง้ หอ้ งยาเพ่อื ทาการแกไ้ ขทนั ที 3. งดการสนทนาหรอื ใชโ้ ทรศพั ทข์ ณะบรหิ ารยา 4. Double check ขณะจดั แจกยาตามหลกั 6 R ทาสญั ลกั ษณด์ ว้ ยปากกาหมกึ สแี ดงตรงขนาดยาทน่ี อ้ ย กวา่ หรอื มากกวา่ ขนาด 1 เมด็ หรอื ขนาดยาทใ่ี หข้ นาดพเิ ศษ 3. ไมอ่ นุญาตใหพ้ ยาบาลจบใหม่จดั แจกยาเพยี งลาพงั 4. ทกุ ครงั้ ทน่ี ายาไปใหผ้ ปู้ ่วยนาmed sheet เขา้ ไปดว้ ย ทกุ ครงั้ 6.ตรวจสอบใบบนั ทกึ การใหย้ าทกุ ครงั้ หลงั ทาการแจกยา ปฏบิ ตั ติ ามวธิ ปี ฏบิ ตั งิ านเร่อื งการให้เลอื ดและ ส่วนประกอบของเลอื ด (WI-NUR01-blood 01) ดงั น้ี 1. ให้ขอ้ มูลผปู้ ่วยและญาตทิ ราบความจาเป็นของการใหเ้ ลอื ด และสว่ นประกอบของเลอื ดและเซน็ ใบยนิ ยอมการทาหตั ถการ 2. ตรวจสอบแผนการรกั ษา และบนั ทกึ การขอเลอื ดใหถ้ กู ตอ้ ง

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

34

กิจกรรมทบทวน/ เรือ่ งท่ีทบทวน การออกแบบหรือปรบั ปรงุ

3. การเจาะเลอื ดตอ้ งสอบถามช่อื -สกุล ตรวจสอบป้ายขอ้ มอื

ใหต้ รงกบั tube และใบขอเลอื ด

4.การขอรบั เลือด พิมพ์ใบรับเลือด กรณีขอเลอื ดครงั้ แรก ไม่มี

ประวัติการใช้ต้องมีการสอบซ้าโดยเจาะเลือดใส่ capillary

tube เพอ่ื ตรวจสอบซ้า

10. การทบทวนการตดิ เชอ้ื ในรพ.

เสย่ี งตอ่ การตดิ เชอ้ื โคโรน่าไวรสั 2019 1. ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติในการเข้าเย่ยี มผู้ป่ วยใหม่

(COVID-19) สาหรบั ญาติ

1.1 อนุญาตใหเ้ ฝ้าไขไ้ ด้ 1 คน

1.2 ผา่ นการวดั ไขท้ จ่ี ดุ คดั กรองของโรงพยาบาลทกุ ครงั้

1.3 ทาความสะอาดมอื กอ่ นและหลงั เขา้ เยย่ี มผปู้ ่วย

ณ จดุ บรกิ ารดา้ นหนา้ ทางเขา้ หอผปู้ ่วย

1.4 สวมหนา้ กากอนามยั ตลอดเวลาทงั้ ผปู้ ่วยและญาติ

และเวน้ ระยะหา่ งทางสงั คม (social distance) อยา่ งนอ้ ย 1 เมตร

2. บุคลากรทางการแพทย์ สวมหนา้ กากอนามยั

face shield และอุปกรณ์ PPE ตามความเหมาะสม

3. รณรงคเ์ รอ่ื ง การลา้ งมอื และจดั เตรยี มเจลสาหรบั ลา้ ง

มอื ภายในหอ้ งพกั ผปู้ ่วยเพอ่ื สะดวกตอ่ การเขา้ ถงึ

4. Swab เพ่อื คดั กรอง COVID- 19 ก่อนการทาหตั ถการ

หรอื การผา่ ตดั ตามแนวทางปฏบิ ตั ิ

5. กรณีรอผลตรวจ RT-PCR ใหใ้ สช่ ดุ Isolate grown เมอ่ื

ตอ้ งเขา้ ไปทากจิ กรรมพยาบาลในหอ้ งผปู้ ่วย

6. กรณผี ลตรวจ RT-PCR Detected ประสานงานกบั

ศนู ยร์ บั จองเตยี งสาหรบั ผปู้ ่วยโควทิ เพอ่ื ยา้ ยผูป้ ่วยไปยงั

หอผปู้ ่วยแยกโรค หรอื ในกรณที แ่ี พทยม์ แี ผนการรกั ษาให้

ผปู้ ่วย Home Isolate ตดิ ตอ่ ประสานงานเลอ่ื นนดั ไปยงั

แผนกต่างๆ ใหก้ บั ผปู้ ่วยและดูแลใหผ้ ปู้ ่วยลง QR code

เพอ่ื การดแู ลอยา่ งต่อเน่อื งทบ่ี า้ น

11. การทบทวนตวั ชว้ี ดั 1. ประเมินความเส่ียงการพลัดตกหกล้ม โดยใช้แบบ

ตวั ช้วี ดั ท่ี 10 จานวนอุบัติการณ์การพลัด ประเมินและเฝ้าระวงั ความเส่ียงต่อการพลัดตกหกล้ม

ตกหกลม้ /การตกเตยี งทม่ี ผี ลกระทบระดบั E-I ผปู้ ่วยแรกรบั และรบั ยา้ ยทุกราย บนั ทกึ ใน flow sheet ใน

( ระดบั ผลกระทบ F) graphic sheet และ Nurse note และมกี ารประเมินซ้าใน

กรณีท่ีผู้ป่ วยได้รับยานอนหลับ ยากันชักหรือในกรณีท่ี

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

กิจกรรมทบทวน/ เร่อื งที่ทบทวน 35

12. คาแนะนา/ขอ้ สงั เกตจากผมู้ ปี ระสบการณ์/ การออกแบบหรอื ปรบั ปรงุ ผเู้ ชย่ี วชาญ เรอ่ื งทท่ี บทวน.............. ผปู้ ่วยมอี าการเปลย่ี นแปลง - วางมาตรการการดูแลผู้ป่ วยเพ่ิมโดยเน้นในเร่อื ง

ของ กรณีท่ี Fall score มากกว่า 4 คะแนนโดยเฉพาะ ในผูส้ ูงอายุ ขอความร่วมมอื กบั ญาติไม่อนุญาตให้ผู้ป่วย ลงจากเตียง หรือถ้าต้องการลงจากเตียงให้กดเรียก เจา้ หน้าทก่ี ่อนทกุ ครงั้

- ติดป้ายเฝ้าระวงั พลดั ตกหกล้ม พรอ้ มทงั้ ขอ้ ความ แจง้ เตือน “หา้ มผูป้ ่วยลงจากเตยี ง” เนน้ ย้าผดู้ ูแลใหป้ ฏบิ ตั ิ ตามอยา่ งเครง่ ครดั

- พิจารณาวธิ ีการผูกยึดท่เี หมาะสมในกรณีจาเป็น โดยให้ข้อมูลผู้ป่ วย และญ าติร่วมกับแพทย์มีคาสัง่ การรกั ษา และขอความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร จากผดู้ ูแล

- ใหค้ วามรผู้ ดู้ ูแลเร่อื งการป้องกนั การเกิดอบุ ตั เิ หตุ พลดั ตกหกลม้ ในผสู้ งู อายใุ นผปู้ ่วยแรกรบั ทุกราย และเน้น ย้าใหเ้ หน็ ถงึ ความสาคญั เร่อื งการเฝ้าระวงั การเกดิ อบุ ตั เิ หตแุ ละความเสย่ี งทอ่ี าจจะเกดิ ขน้ึ กบั ผปู้ ่วย

- ผสู้ งู อายทุ ไ่ี ดร้ บั ยากลมุ่ ยานอนหลบั ยากนั ชกั ใหม้ ี การเฝ้าระวงั อยา่ งใกลช้ ดิ โดยเนน้ ยา้ ตอนรบั -สง่ เวร และ แจง้ ญาตริ บั ทราบทุกครงั้ พรอ้ มทงั้ บนั ทกึ ลงใน Focus list และเขยี นบนั ทกึ ลงในบนั ทกึ ทางการพยาบาล

-

ง .ผลลพั ธ์และความสาํ เรจ็ ของหน่วยงาน 20. ผลลพั ธ์การติดตามตวั ชีว้ ดั ท่ีสาํ คญั ไม่เกิน 6 – 10 (กราฟ การแปลผล และการใช้ประโยชน์)

HA I-4.1ก (1) ตวั ชี้วดั หลกั ให้ทาํ เป็นกราฟ ตวั ชี้วดั ทวั่ ไปใสใ่ นตารางได้ ตวั ชี้วดั ท่ี 1 จานวนอุบตั กิ ารณก์ ารเกดิ ภาวะ hypoglycemia ในผปู้ ่วยเบาหวานทม่ี ภี าวะเสย่ี ง เป้าหมาย ระดบั ผลกระทบ A-D, E-I = 0 ผลลพั ธ์ (กราฟ / Control chart/ ขอ้ มูล) ตารางที่ 1 แสดงจานวนอุบตั กิ ารณ์การเกิดภาวะ hypoglycemia ในผู้ป่วยเบาหวานท่มี ี

ภาวะเส่ยี งปีงบประมาณ 2562-2565 ( ต.ค-ม.ี ค65 )

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

36

ปี งบประมาณ

ตวั ชี้วดั 2565

2562 2563 2564 ต.ค. พย. ธค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค.

64 64 64 65 65 65

อบุ ตั กิ ารณก์ ารเกดิ ภาวะ hypoglycemia

ในผปู้ ่วยเบาหวานทม่ี ภี าวะเสย่ี ง 12 6 20 2 0 2 0 0 0

(เป้าหมาย 0 ครงั้ )

จานวนอุบั ิตการ ์ณการเ ิกด าวะhypoglycemia(ครั้ง) กรา แสดงอบุ ตั ิการณ์การเกิด าวะ hypoglycemia kpi ในผ้ปู ่ วยเบาหวานที่มีความเส่ียง ปี งบประมาณ 2562-2565( ต.ค-มี.ค65 ) mean sd 30 mean+sd mean+2sd - รบั ประทานอาหารไดน้ ้อย mean-2sd 25 - NPO

20 - ฉดี ยา insulin

20

15 12

10 6

5 22 0 000

0

2562 2563 2564 ต ค พ ย ธ ค ม ค ก พ มี ค

การแปลผลและการใช้ประโยชน์

จากกราฟตวั ช้วี ดั ท่ี 1 พบว่า จานวนอุบตั ิการณ์การเกิดภาวะ hypoglycemia ในปีงบประมาณ 2565มแี นวโน้มลดลง แตย่ งั พบการเกดิ อุบตั กิ ารณ์การเกิดภาวะ hypoglycemia ในไตรมาสท่ี 1 จานวน 4 ราย โดย มรี ะดบั ผลกระทบไมร่ ุนแรง จากการทบทวนและหาสาเหตุร่วมกนั พบว่า

1. จากแผนการรักษาของแพทย์เพ่ือรกั ษาภาวะhyperglycemia โดยการให้ยา RI+Glucose เพ่ือลดระดับ โพแทสเซยี ม ในเลอื ดร่วมกบั ผปู้ ่วยรบั ประทานอาหารไดน้ อ้ ย

2 .ผู้ป่ วยเป็นผู้สูงอายุมอี าการเหน่ือย แพทย์ให้ NPO เพ่ือ observe อาการ แต่ไม่ได้สงั่ ให้ IV fluid support

3 ผปู้ ่วยเบาหวาน ร่วมกบั มโี รคไตเรอ้ื รงั มภี าวะHyperglycemia แพทยส์ งั่ ยาฉดี insulin ผปู้ ่วย เกดิ Hypoglycemia

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

37

4. ผปู้ ่วยสงู อายุรบั ประทานอาหารไดน้ ้อย เฝ้าระวงั ระดบั น้าตาลในเลอื ดพบว่า มคี ่าเทา่ กบั 70 mg% แตไ่ ม่พบอาการผดิ ปกติ

หน่วยงานจงึ ไดท้ บทวนเพอ่ื หาแนวทางในการเฝ้าระวงั การเกดิ ภาวะHyperglycemia ดงั น้ี 1. ประเมนิ ผปู้ ่วยทจ่ี ดั ว่าเป็นผูป้ ่วยทม่ี คี วามเสย่ี งสงู เพอ่ื เฝ้าระวงั ดงั น้ี

1.1 อายมุ ากกวา่ 60 ปี 1.2 เป็นเบาหวานนานมากกว่า 10 ปี 1.3 เป็นโรคตบั หรอื ไตเรอ้ื รงั 1.4 รบั ประทานอาหารไดน้ อ้ ย ถา้ พบอย่างนอ้ ย 3 ใน 4 ขอ้ หรอื มภี าวะเจบ็ ป่วยรุนแรงเฉียบพลนั เชน่ sepsis,โรคหลอดเลอื ดสมอง และโรคหวั ใจ 2. แขวนป้ายเฝ้าระวงั High risk hypoglycemiaเพอ่ื เป็นการสอ่ื สารระหว่างทมี และผดู้ ูแล 3. มกี ารประเมนิ ความสามารถในการรบั ประทานอาหารของผปู้ ่วยในแบบบนั ทกึ พลงั งานอาหารทผ่ี ปู้ ่วยไดร้ บั เฉพาะราย ทุกราย 4. ปฏบิ ตั ติ ามแนวทาง Adult hypoglycemia VJR Treatment Protocol กรณีทผ่ี ปู้ ่วยมอี าการ hypoglycemia

ตวั ชี้วดั ท่ี 2 อตั ราการกลบั เขา้ รกั ษาซ้าภายใน 28 วนั (re-admission) ในผปู้ ่วย stroke

เป้าหมาย ≤รอ้ ยละ 1.5

ผลลพั ธ์ (กราฟ/control chart/ขอ้ มูล)

ตารางที่ 2 แสดงอตั ราการกลบั เขา้ รกั ษาซ้าภายใน 28 วนั (re-admission) ในผปู้ ่วย stroke

ปีงบประมาณ 2562-2565 (ต.ค-ม.ี ค65)

ปี งบประมาณ

ตวั ชีว้ ดั 2565 2562 2563 2564 ต.ค พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค.

64 64 64 65 65 65

อตั ราการกลบั เขา้ รกั ษาซ้าภายใน 28 0 0 1 0 0 0 0 0 0

วนั ในผปู้ ่วย stroke

(เป้าหมาย <1.5 %)

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

38

อตั ราการกลบั เข้ารกั า า้ ายใน28วนั re-admission ในผ้ปู ่ วยstroke ปี งบประมาณ2562-2565 ต.ค-มี.ค 65

อัตราการเ ้ขารับการรัก า ้า ายใน28วัน 1.6 ดี ในผู้ ่ปวยstroke ( ้รอยละ 1.4 KPI mean -จาก progressของ sd 1.2 โรค mean+sd mean+2sd 11 mean-2sd

0.8

0.6

0.4

0.2 Linear (KPI)

0 00 000000

การแปลผ25ล62และก2า5ร63ใช้ปร2ะ5โ6ย4ชน์ ต ค พ ย ธ ค ม ค ก พ มี ค

จากภาพตวั ชว้ี ดั ท่ี 2 พบวา่ อตั ราการกลบั มารกั ษาซ้าภายใน 28 วนั ในผปู้ ่วย stroke ปี 2562-2563

ไมพ่ บการ readmit เน่ืองจากผปู้ ่วยไดร้ บั การวางแผนจาหน่าย เพ่อื เพม่ิ ศกั ยภาพการดูแลตนเองสาหรบั ผปู้ ่วย

และผู้ดูแล มกี ารดูแลผู้ป่วยร่วมกนั ระหว่างทมี สหสาขาวชิ าชพี ทงั้ แพทย์ พยาบาลเภสชั กรนักกายภาพบาบัดนักโภชนาการ

และ นักสงั คมสงเคราะห์ และมีการพฒั นาบทบาทพยาบาลผู้จัดการรายกรณี (nurse case manager) ในการให้

ความรูเ้ ร่อื งโรคหลอดเลอื ดสมอง การรบั รู้อาการสาคญั ภาวะแทรกซ้อน ฝึกทกั ษะการจดั การดูแลตนเองเร่อื ง

การรบั ประทานยา อาหาร การออกกาลงั กาย การป้องกนั ภาวะแทรกซอ้ นติดตามต่อเน่ืองโดยประสานงานกบั งาน

การดแู ลตอ่ เน่อื ง (continuity of care : COC) ภาควชิ าเวชศาสตรเ์ ขตเมอื ง

ส่วนในปีงบประมาณ 2564 ไตรมาสท่ี3 (เดอื น พ.ค) พบผู้ป่วย stoke readmit จานวน 1 ราย = 0.08 ซ่ึง

จากการปรกึ ษาแพทย์ระบบประสาทวทิ ยาเกิดจาก progress ของโรคไม่ได้readmit จากการปฏิบตั ติ นไม่ถูกต้อง

ในปีงบประมาณ 2565 ยงั ไม่พบการ readmit เม่ือเปรียบเทียบกบั เกณฑ์ของสมาคม ประสาทวทิ ยาแห่ง

ประเทศไทย และโรงพยาบาลเครอื ข่าย 13 (SIZE M) ใชห้ ลกั เกณฑ์เดียวกนั คอื อตั ราการกลบั มารกั ษาซ้า

ภายใน 28 วนั < 1.5% ผลลพั ธข์ องหน่วยงานไมเ่ กนิ เกณฑท์ ่กี าหนด

ตวั ชี้วดั ที่ 3 อตั ราการวางแผนจาหน่ายผปู้ ่วยสามารถกลบั บา้ นกอ่ นเวลา 12.00 น. เป้าหมาย  รอ้ ยละ 60 ผลลพั ธ์ (กราฟ/control chart/ขอ้ มลู ) ตารางท่ี 3 แสดงอตั ราการวางแผนจาหน่ายผปู้ ่วยสามารถกลบั บา้ นกอ่ นเวลา 12.00 น.

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

39

ปีงบประมาณ 2563-2565 (เรม่ิ เกบ็ ขอ้ มูลเดอื น มกราคม พ.ศ. 2563)

ตวั ชีว้ ดั ปี งบประมาณ 2565 อตั ราการวางแผนจาหน่าย ผปู้ ่วยสามารถกลบั บา้ นก่อน 2563 2564 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เวลา 12.00 น. 64 64 65 65 65 65 (เป้าหมาย  60%) 83.98 65.19 54.29 44.8 48.9 53.33 54 64

อัตราการวางแผนจาห ่นายผู้ ่ปวยกลับบ้านก่อนเวลากรา แสดงอตั ราการวางแผนจาหน่ายผปู้ ่ วยสามารถกลบั บา้ นก่อน 12.00 12.00 ปี งบประมาณ2563-2565 (ต.ค-ม.ี ค 65)

(เ ้ปาหมาย≥60%) 200

180

160 140 KPI 120 mean

100 sd

80 83.98 รอญาติ mean+sd 60 mean+2sd 40 65.19 44.8 48.9 64 mean-2sd

54.29 53.33 54

20

0

การแปลผลและการใช้ป2ร5ะ63โยชน์2564 ต ค พ ย ธ ค ม ค ก พ มี ค

จากภาพตวั ช้ีวดั ท่ี 3 พบว่าอัตราการวางแผนจาหน่ายผู้ป่วยสามารถกลับบ้านก่อนเวลา 12.00 น.

ปีงบประมาณ 2563 (เรมิ่ เกบ็ ขอ้ มูลเดอื นมกราคม พ.ศ. 2563) ยงั มแี นวโน้มสงู กว่าเกณฑ์ (รอ้ ยละ 60) โดยเฉพาะ ปีงบประมาณ 2564 จากการทบทวนร่วมกันเพ่อื หาสาเหตุพบว่า แพทยไ์ ม่เขยี น HM ล่วงหน้า มกี ารเพิ่มยาHM

และรอแพทย์จากหน่วยมาจาหน่าย รวมถึงรอเสนอยาบญั ชี 3 ในปีงบประมาณ2565 ไตรมาสแรกพบว่า ผู้ป่ วยกลับบ้านก่อนเวลา12.00นมจี านวนลดลง สาเหตุส่วนใหญ่จากรอญาติมารบั แต่ในไตรมาสที่ 2 มแี นวโน้มเพิม่ ข้ึนโดยมกี ารพฒั นาการวางแผนการจาหน่ายโดยการประยกุ ต์ใช้ “การบรหิ ารประจาวนั ” (daily management) ทาให้เกิดการพูดคุยเร่อื งการวางแผนจาหน่ายผู้ป่ วยเป็นกิจวตั ร มีการปรบั ปรุงกระบวนการ

ดาเนินงานอย่างต่อเน่ือง มีการใช้ case management board (Vajira inpatient care) เป็ นส่ือในการบันทึก

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

40

แผนการดูแล และการใช้ตราปัม๊ การวางแผนจาหน่ายในใบ doctor order เพ่อื เป็นการกระตุน้ เตือนเพ่อื กาหนด วนั ท่คี าดวา่ จะจาหน่ายผูป้ ่วย แพทยม์ กี ารกาหนดวนั ทจ่ี าหน่ายพรอ้ มทงั้ การสงั่ ยากลบั บ้าน การนัดตดิ ตามการ รกั ษาล่วงหน้า พยาบาลมีการเตรยี มความพร้อมผู้ป่วยและญาติในการดูแลตนเองภายหลงั จาหน่าย ประสาน หน่วยงานท่เี ก่ียวขอ้ งร่วมวางแผนการจาหน่าย อาทิ เภสชั กร นักโภชนาการ นักกายภาพบาบัด งานการดูแล ต่อเน่อื ง เป็นตน้ ทาใหบ้ ุคลากรทราบว่าอะไรทต่ี อ้ งทา เกดิ การทางานทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการ ของผปู้ ่วย ทาใหส้ ามารถจาหน่ายผปู้ ่วยไดต้ ามเป้าหมายทก่ี าหนด

ตวั ชีว้ ดั ที่ 4 อตั ราการจดั การความปวดอยา่ งต่อเน่ืองในผูป้ ่วยมะเรง็

เป้าหมาย  รอ้ ยละ 80

ผลลพั ธ์ (กราฟ/control chart/ขอ้ มลู )

ตารางท่ี 4 แสดงอตั ราการจดั การความปวดอย่างตอ่ เน่อื งในผปู้ ่วยมะเรง็ ปีงบประมาณ 2562-2565 (ต.ค-ม.ี ค65)

ปี งบประมาณ

2565

ตวั ชี้วดั 2562 2563 2564 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค.

64 64 64 65 65 65

อตั ราการจดั การความปวดอย่าง

ต่อเน่อื งในผปู้ ่วยมะเรง็ 97.39 96.20 92.85 100 100 NA 100 100 NA

(เป้าหมาย 80%)

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

41

กรา แสดงอตั ราการจดั การความปวดอย่างต่อเน่อง ผปู้ ่ วยมะเรง็ ปี งบประมาณ 2562-2565 (ต.ค-มี.ค 65)

200

อัตราการจัดการความปวด 180 อ ่ยาง ่ตอเ ่นองในผู้ ่ปวยมะเร็ง( ้รอยละ) 160 kpi

140 mean

120 sd mean+sd 100 97.39 96.2 92.85 100 100 100 100 mean+2s mean-2sd 80

60

40

20 ไมม่ คี นไขม้ ะเรง็ ท่pี ain

0 00 Linear (kp

การแปลผลและก2า5ร6ใ2ช้ประ2โ5ย6ช3 น์ 2564 ต ค พ ย ธ ค ม ค ก พ มี ค

จากตารางแสดงขอ้ มูลพบว่า ปีงบประมาณ 2562 – 2564 อตั ราการจดั การความปวดอย่างต่อเน่ืองในผู้ป่ วย

มะเรง็ ในภาพรวมมแี นวโน้มดขี น้ึ และในปีงบประมาณ 2565 ในเดอื น ธนั วาคม และมนี าคม ไม่พบผูป้ ่วยมะเรง็ ท่มี ปี ัญหา

เร่อื ง pain จากการวเิ คราะห์ขอ้ มูลยงั พบปัญหา ขาดความต่อเน่ืองในการให้ข้อมูลผู้ป่ วยเกี่ยวกบั การออกฤทธิ์อาการ

ขา้ งเคยี งของยาแก้ปวดกลมุ่ opioid และ non-opioid การตดิ ตามประเมนิ ซ้าภายหลงั การใหย้ า และขาดความสมบูรณ์

ในการบนั ทกึ เวชระเบยี น ในปีงบประมาณ 2565 (ต.ค-ม.ี ค 65) พบผปู้ ่วยมปี ัญหาเร่อื ง pain ทงั้ หมด 5 รายซงึ่

ไดร้ บั การจดั การความปวดอย่างต่อเน่ือง 100% หน่วยงานได้นาผลลพั ธท์ ่ไี ด้มาทากจิ กรรมทบทวนโดยกระตุ้นให้

บุคลากรปฏบิ ตั ติ ามคู่มอื เร่อื งการบรหิ ารจดั การความปวด อย่างเครง่ ครดั ดงั น้ี

1. ประเมนิ pain ตงั้ แตแ่ รกรบั ทกุ case ทงั้ ผปู้ ่วยทวั่ ไป และมะเรง็

2. ประเมนิ อาการและบนั ทกึ pain score ใน graphic sheet อย่างตอ่ เน่ืองทกุ เวร

3. ติดตามและประเมินซ้าโดยเฉพาะการประเมนิ หลงั ได้รบั ยาฉีดแก้ปวด 15–30 นาที และหลงั ได้ยาแก้ปวด

ชนิดรบั ประทาน 30 นาที รวมทงั้ การประเมนิ side effects และ sedative score

4. บนั ทกึ ปัญหาทางการพยาบาลเร่อื งอาการเจบ็ ปวด การจดั การ และผลลพั ธก์ ารจดั การในแบบ

บนั ทกึ ทางการพยาบาล

ตวั ชี้วดั ท่ี 5 อตั ราผปู้ ่วยทม่ี คี ะแนน PPS ≤ 50 % ไดร้ บั การพดู คยุ เพ่อื วางแผนการดแู ลล่วงหนา้

เป้าหมาย  80% ผลลพั ธ์ (กราฟ/ control chart/ ขอ้ มูล) ตารางท่ี 5 แสดงอตั ราผปู้ ่วยทม่ี คี ะแนน PPS ≤ 50 % ไดร้ บั การพดู คุยเพ่อื วางแผนการดแู ลลว่ งหน้า ปีงบประมาณ 2565 (เรมิ่ เกบ็ ขอ้ มูลเดอื นพฤศจกิ ายน 2564)

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

42

ตวั ชีว้ ดั ปี งบประมาณ

2564 ต.ค. 2565 ก.พ. ม.ี ค. 64 พ.ย. ธ.ค. ม.ค. 65 65 64 64 65 100 100 อตั ราผปู้ ่วยทม่ี คี ะแนน PPS ≤ 50 % ไดร้ บั การ

พดู คยุ เพ่อื วางแผนการดแู ลลว่ งหนา้ NA 100 100 100 100

(เป้าหมาย  80%)

การแปลผลและการใช้ประโยชน์ -

ตวั ชีว้ ดั ท่ี 6 อตั ราความพงึ พอใจของญาตติ อ่ การดแู ลแบบประคบั ประคอง

เป้าหมาย  80% ผลลพั ธ์ (กราฟ/ control chart/ ขอ้ มูล) ตารางท่ี 6 แสดงอตั ราความพงึ พอใจของญาตติ ่อการดูแลแบบประคบั ประคอง ปีงบประมาณ 2562-2565

ปี งบประมาณ

ตวั ชี้วดั 2565

2562 2563 2564 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ ม.ี ค.

64 64 64 65 65 65

อตั ราความพงึ พอใจของญาตติ อ่ การ

ดแู ลแบบประคบั ประคอง 97.39 96.2 92.8 95.9 96.6 96.2 94.8 96.29 95.5

(เป้าหมาย  80%)

กรา แสดงอตั ราความพงพอใจของ าติต่อการดแู ล แบบประคบั ประคอง ปี งบประมาณ 2562-2565 (ต.ค-มี.ค 65)

250

อัตราความพึงพอใจของญาติต่อการดูแล 200 kpi แบบประคับประคอง ( ร้อยละ) mean 150 sd 97.39 96.2 92.85 95.9 96.6 96.2 94.8 96.29 95.5 mean+sd mean+2sd 100 mean-2sd

50 Linear (kpi)

0 มี ค

2562 2563 2564 ต ค พ ย ธ ค ม ค ก พ

คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล มหาวทิ ยาลยั นวมนิ ทราธริ าช

43

การแปลผลและการใช้ประโยชน์ จากตารางแสดงข้อมูลอัตราความพึงพอใจของญาติต่อการดูแลแบบประคบั ประคองพบว่า การ

ประเมนิ ทค่ี รอบคลุมการตอบสนองความตอ้ งการการดูแลอยา่ งใกลช้ ดิ สม่าเสมอและตอ่ เน่ือง โดยเฉพาะอย่าง ยงิ่ การให้ขอ้ มูลเกย่ี วกบั การดาเนินของโรค แผนการดูแลรกั ษาผู้ป่วย โดยญาติมสี ่วนร่วมในการตัดสนิ ใจ ทาให้ผล การประเมนิ ความพงึ พอใจอยู่ในระดบั ดมี าก

ตวั ชี้วดั ที่ 7 อตั ราผปู้ ่วยระยะสุดทา้ ยในหอผปู้ ่วยไดร้ บั การดูแลแบบประคบั ประคองเสยี ชวี ติ อยา่ งสงบ