การค มกำเน ด-สำน ก อนาม ยการเจร ญพ นธ ม.มห ดล

มหาวิทยาลัยมหิดลมีที่มาจากโรงเรียนแพทยากร (โรงพยาบาลศิริราชในปัจจุบัน) ซึ่งก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2432 ก่อนที่จะถูกรวมเข้ากับโรงเรียนข้าราชการพลเรือนฯ เพื่อสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมทั้งเปลี่ยนสถานะเป็น คณะแพทยศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และถูกเปลี่ยนชื่อเป็น คณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาล ต่อมาในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 ได้แยกคณะวิชาด้านแพทยศาสตร์สี่คณะ มาจัดตั้งเป็น มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ และในวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2512 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม "มหิดล" อันเป็นพระนามของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก

ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมหิดลจัดการเรียนการสอนใน 17 คณะ 6 วิทยาลัย 9 สถาบัน และ 3 วิทยาเขต และเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยจากการจัดอันดับของสำนักจัดอันดับหลายสำนัก และได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 9 มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติเมื่อ พ.ศ. 2552 และยังเป็นสมาชิกเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน (ASEAN University Network; AUN)

ประวัติ[แก้]

การค มกำเน ด-สำน ก อนาม ยการเจร ญพ นธ ม.มห ดล
สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างโรงศิริราชพยาบาลขึ้นบริเวณพระราชวังบวรสถานพิมุข หรือที่เรียกว่า วังหลัง ต่อมาใน พ.ศ. 2432 จึงมีพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้ง โรงเรียนแพทยากร โดยจัดการเรียนการสอนในระดับประกาศนียบัตร 3 ปี หลังจากนั้น เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินเปิดตึกของโรงเรียนแพทย์ จึงได้พระราชทานนามใหม่ว่า โรงเรียนราชแพทยาลัย

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาโรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นเป็น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้รวมโรงเรียนราชแพทยาลัยเข้าเป็นคณะหนึ่งของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อววันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2460 โดยใช้ชื่อว่า "คณะแพทยศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น "คณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาล" ซึ่งได้รับการพัฒนาวิชาการจากมูลนิธิร็อกเกอะเฟลเลอร์ จนสามารถจัดการศึกษาถึงขั้นประสาทปริญญาบัตร ซึ่งอนุมัติโดยสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล มีพระบรมราชโองการให้ตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ขึ้น โดยแยกคณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาล แผนกอิสระทันตแพทยศาสตร์ แผนกอิสระเภสัชศาสตร์ และแผนกอิสระสัตวแพทยศาสตร์ จัดตั้งเป็น มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ สังกัดกระทรวงการสาธารณสุข โดยได้จัดตั้งคณะต่าง ๆ หลายคณะ ต่อมาได้โอนคืนคณะที่ซ้ำซ้อนออกจากมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ คณะเภสัชศาสตร์ และคณะทันตแพทยศาสตร์ โอนไปสังกัดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลนครเชียงใหม่ โอนไปสังกัดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะสัตวแพทยศาสตร์ โอนไปสังกัดมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2512 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามมหาวิทยาลัยว่า มหาวิทยาลัยมหิดล อันเป็นพระนามของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก แทนชื่อมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์เดิม ในวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2550 มหาวิทยาลัยมหิดลได้เปลี่ยนรูปแบบการบริหารงานเป็นสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ และใน พ.ศ. 2551 มีแผนแม่บทพัฒนามหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ให้เป็นเมืองมหาวิทยาลัยสีเขียว โดยปรับนโยบายในการจัดสภาพแวดล้อมเพื่อยกระดับความสำคัญและเอื้อต่อการทำกิจกรรม นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังจัดทำแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืน ปี 2558–2562 โดยมี 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ การส่งเสริมให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร การส่งเสริมความเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ และการส่งเสริมให้เกิดพันธกิจสัมพันธ์กับชุมชน

สัญลักษณ์[แก้]

การค มกำเน ด-สำน ก อนาม ยการเจร ญพ นธ ม.มห ดล
ตราประจำมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์

  • ตราสัญลักษณ์
    • สมัยที่ยังเป็นมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ตราสัญลักษณ์เป็นตราวงกลม 2 ชั้น ภายในเป็นรูปงูพันคบเพลิง วงนอกด้านบนเขียนว่า "อตฺตานํ อุปมํ กเร" ด้านล่างเขียนว่า "มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์"
    • ต่อมาเมื่อมีการพระราชทานชื่อ "มหาวิทยาลัยมหิดล" ได้เปลี่ยนเป็นตราวงกลม 2 ชั้น วงกลมชั้นในมีพื้นหลังเป็นสีน้ำเงิน ตรงกลางเป็นตราประจำราชสกุลมหิดลสีเหลืองทอง ส่วนวงกลมชั้นนอกนั้นมีพื้นหลังสีขาวตัวอักษรสีเหลืองทองด้านบนเขียนว่า "อตฺตานํ อุปมํ กเร" ด้านล่างเขียนว่า "มหาวิทยาลัยมหิดล" คั่นด้วยดอกประจำยามสีเหลืองทอง ตรานี้ร่างและออกแบบโดยนายแพทย์นันทวัน พรหมผลิน และกอง สมิงชัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่หม่อมราชวงศ์มิตรารุณ เกษมศรี สถาปนิกพิเศษประจำสำนักพระราชวัง ในการปรับแก้ไขตรีและพระมหามงกุฎของตราให้เป็นแบบไทยและพระราชทานตราให้แก่มหาวิทยาลัยมหิดลเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2512
  • สีประจำมหาวิทยาลัย คือ สีน้ำเงิน โดยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีพระราชทานสีนี้ซึ่งเป็นสีแห่งความเป็นราชขัติยนุกูลแห่งบรมราชวงศ์ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2512
  • ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย คือ ต้นกันภัยมหิดล ซึ่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระราชทานให้เป็นต้นไม้สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542

ทำเนียบอธิการบดี[แก้]

มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ลำดับ อธิการบดี วาระการดำรงตำแหน่ง หมายเหตุ 1 ศาสตราจารย์ นายแพทย์ อำมาตย์ตรี พระอัพภันตราพาธพิศาล (กำจร พลางกูร) 12 มีนาคม พ.ศ. 2485 – 16 เมษายน พ.ศ. 2488 2 ศาสตราจารย์อุปการคุณ นายแพทย์ หลวงเฉลิมคัมภีร์เวชช์ (เฉลิม พรหมมาส) 17 เมษายน พ.ศ. 2488 – 15 กันยายน พ.ศ. 2500 3 ศาสตราจารย์ นายแพทย์ หลวงพิณพากย์พิทยาเภท (พิณ เมืองแมน) 16 กันยายน พ.ศ. 2500 – 15 สิงหาคม พ.ศ. 2501 4 ศาสตราจารย์ นายแพทย์ สวัสดิ์ แดงสว่าง 16 สิงหาคม พ.ศ. 2501 – 2 มิถุนายน พ.ศ. 2507 5 ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ชัชวาล โอสถานนท์ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2507 – 8 ธันวาคม พ.ศ. 2512มหาวิทยาลัยมหิดลลำดับ อธิการบดี วาระการดำรงตำแหน่ง หมายเหตุ 5 ศาสตราจารย์ นายแพทย์ชัชชวาล โอสถานนท์ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2512 – 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 6 ศาสตราจารย์ นายแพทย์กษาน จาติกวนิช 9 ธันวาคม พ.ศ. 2514 – 8 ธันวาคม พ.ศ. 2522 7 ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ ดร.ณัฐ ภมรประวัติ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2522 – 8 ธันวาคม พ.ศ. 2534 8 ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ประดิษฐ์ เจริญไทยทวี 9 ธันวาคม พ.ศ. 2534 – 8 ธันวาคม พ.ศ. 2538 9 ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2538 – 8 ธันวาคม พ.ศ. 2542 10 ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ ดร.พรชัย มาตังคสมบัติ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2542 – 8 ธันวาคม พ.ศ. 2550 11 ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร 9 ธันวาคม พ.ศ. 2550 – 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554 12 ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน 26 มกราคม พ.ศ. 2555 – 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557 13 ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์อุดม คชินทร 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 – 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 14 ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 – ปัจจุบัน

พื้นที่มหาวิทยาลัย[แก้]

การค มกำเน ด-สำน ก อนาม ยการเจร ญพ นธ ม.มห ดล
ภูมิทัศน์ของมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ขวามือเป็นมหิดลสิทธาคาร

มหาวิทยาลัยมหิดลมีที่ตั้งในหลายพื้นที่ ได้แก่

พื้นที่ศาลายา

ตั้งอยู่ที่ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เป็นที่ตั้งหลักของมหาวิทยาลัย ประกอบไปด้วยคณะและวิทยาลัยส่วนใหญ่ และหน่วยงานอื่น ๆ ได้แก่ สำนักงานอธิการบดี บัณฑิตวิทยาลัย โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก โรงเรียนสาธิตนานาชาติ นอกจากนี้ ยังเป็นที่ตั้งของหอประชุมมหิดลสิทธาคารและอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ

พื้นที่บางกอกน้อย

ตั้งอยู่ที่แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เป็นที่ตั้งของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์ และคณะเทคนิคการแพทย์ นอกจากนี้ยังมีศูนย์กายภาพบำบัดของคณะกายภาพบำบัด ตั้งอยู่บริเวณเชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าในแขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด

พื้นที่พญาไท

ตั้งอยู่ที่แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร มี 3 บริเวณย่อย ได้แก่

  • บริเวณถนนพระรามที่ 6 เป็นที่ตั้งของคณะวิทยาศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี สถาบันวิทยาศาสตร์การวิเคราะห์และตรวจสารในการกีฬา
  • บริเวณถนนราชวิถี เป็นที่ตั้งของคณะสาธารณสุขศาสตร์ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน และคณะทันตแพทยศาสตร์
  • บริเวณถนนศรีอยุธยา เป็นที่ตั้งของคณะเภสัชศาสตร์

นอกจากนี้ยังมีวิทยาลัยการจัดการ ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท

พื้นที่ต่างจังหวัด

  • สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ตั้งอยู่ที่ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
  • วิทยาเขตกาญจนบุรี ตั้งอยู่ที่ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
  • วิทยาเขตนครสวรรค์ ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาทอง อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์
  • วิทยาเขตอำนาจเจริญ ตั้งอยู่ที่ตำบลโนนหนามแท่ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ

การศึกษา[แก้]

มหาวิทยาลัยมหิดลเปิดสอนในระบบหน่วยกิต ปัจจุบันมีการจัดการเรียนการสอนและการวิจัยทั้งสิ้น 629 สาขาวิชา ครอบคลุมทั้งสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ทั้งในหลักสูตรไทยและหลักสูตรนานาชาติ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่สามารถผลิตบัณฑิตในระดับปริญญาเอกได้มากที่สุดในประเทศ ในปี พ.ศ. 2548 มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นมหาวิทยาลัยรัฐที่มีปริมาณนักศึกษาต่างชาติมากที่สุด และใน พ.ศ. 2549 และได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณประเภทธุรกิจบริการดีเด่นกลุ่มการศึกษานานาชาติจากนายกรัฐมนตรี (Prime Minister’s Export Award 2006) เพื่อประกาศเกียรติคุณมหาวิทยาลัยมหิดลในฐานะที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างประเทศมากที่สุด (Most recognized service) ในพิธีประกาศเกียรติคุณและมอบรางวัล เมื่อวันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2549 ณ ทำเนียบรัฐบาล

ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมหิดล มีส่วนงานและกลุ่มภารกิจในสังกัด ประกอบด้วย 17 คณะ 10 สถาบัน 6 วิทยาลัย 3 วิทยาเขต และหน่วยงานต่างๆ นอกจากนี้ยังมีสถาบันสมทบอีกหลายสถาบัน ซึ่งนักศึกษาของบางสถาบันเข้าร่วมการเรียนการสอนกับมหาวิทยาลัยมหิดล ในขณะที่บางสถาบันมีหลักสูตรเป็นเอกเทศ

คณะ[แก้]

  • คณะทันตแพทยศาสตร์
  • คณะเทคนิคการแพทย์
  • คณะพยาบาลศาสตร์
  • คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
  • คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
  • คณะเภสัชศาสตร์
  • คณะวิทยาศาสตร์
  • คณะศิลปศาสตร์
  • คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
  • คณะวิศวกรรมศาสตร์
  • คณะกายภาพบำบัด
  • คณะเวชศาสตร์เขตร้อน
  • คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์
  • คณะสัตวแพทยศาสตร์
  • คณะสาธารณสุขศาสตร์
  • คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์
  • บัณฑิตวิทยาลัย
  • คณะวิชาต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยมหิดล
  • การค มกำเน ด-สำน ก อนาม ยการเจร ญพ นธ ม.มห ดล
    คณะวิทยาศาสตร์
  • การค มกำเน ด-สำน ก อนาม ยการเจร ญพ นธ ม.มห ดล
    คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
  • คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

วิทยาลัย[แก้]

  • วิทยาลัยการจัดการ
  • วิทยาลัยดุริยางคศิลป์
  • วิทยาลัยนานาชาติ
  • วิทยาลัยราชสุดา ยุบ 1 มิถุนายน 2566
  • วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา
  • วิทยาลัยศาสนศึกษา

สถาบัน[แก้]

  • สถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้
  • สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน
  • สถาบันวิจัยประชากรและสังคม
  • สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย
  • สถาบันวิทยาศาสตร์การวิเคราะห์และตรวจสารในการกีฬา
  • สถาบันโภชนาการ
  • สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล
  • สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว
  • โครงการจัดตั้งสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา
  • สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม

ศูนย์และกลุ่มภารกิจ[แก้]

  • ศูนย์สัตว์ทดลองแห่งชาติ
  • ศูนย์ความเป็นเลิศด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและพิษวิทยา
  • ศูนย์ความเป็นเลิศด้านคณิตศาสตร์
  • กลุ่มภารกิจสุขภาพโลกมหิดล
  • กลุ่มภารกิจการป้องกันและแก้ไขปัญหาแม่วัยรุ่น
  • ศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมทางเคมี
  • ศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีชีวภาพทางการแพทย์
  • กลุ่มภารกิจศูนย์ปฏิบัติการด้านชีววิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์

วิทยาเขต[แก้]

  • วิทยาเขตกาญจนบุรี
  • โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์
  • โครงการจัดตั้งวิทยาเขตอำนาจเจริญ

สถาบันสมทบ[แก้]

  • วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
  • วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
  • วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก
  • วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ
  • วิทยาลัยพยาบาลทหารอากาศ
  • สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์
  • * สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ
  • * สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ
    • สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน

สถาบันสมทบและสถาบันร่วมผลิตในอดีต

  • วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล (จัดตั้งเป็นคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช)
  • วิทยาลัยพยาบาลเกื้อการุณย์ (จัดตั้งเป็นคณะพยาบาลศาสตร์เกื้อการุณย์ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช)
  • สถาบันพระบรมราชชนก (จัดตั้งเป็นสถาบันอุดมศึกษา สังกัดกระทรวงสาธารณสุข)
  • โครงการร่วมผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
    • ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา (โอนไปสังกัดคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี)
    • ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช (โอนไปสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก)
    • ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ (โอนไปสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก)
    • ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลราชบุรี จังหวัดราชบุรี (โอนไปสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก)

การจัดระเบียบ[แก้]

โรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์[แก้]

การค มกำเน ด-สำน ก อนาม ยการเจร ญพ นธ ม.มห ดล
โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ และอาคารสถานีรถไฟธนบุรีเดิม

เนื่องจากมหาวิทยาลัยมหิดลเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เน้นการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ จึงมีโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์หลายแห่ง คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมีโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกและโรงพยาบาลที่มีจำนวนเตียงผู้ป่วยมากที่สุดในประเทศไทย, โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ซึ่งสร้างขึ้นบนพื้นที่ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยบริจาคให้ และสถาบันการแพทย์สยามินทราธิราช ศูนย์การแพทย์ทั้งสามแห่งตั้งอยู่บริเวณเดียวกันในแขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย นอกจากนี้ คณะยังมีศูนย์การแพทย์อีกหนึ่งแห่ง นั่นคือ ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพื้นที่ศาลายาโดยมีถนนบรมราชชนนีคั่นกลาง คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มีโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์สองแห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลรามาธิบดี ตั้งอยู่บนถนนพระรามที่ 6 ในเขตราชเทวี และสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ตั้งอยู่ในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ

นอกเหนือจากคณะแพทยศาสตร์แล้ว คณะเวชศาสตร์เขตร้อนก็มีโรงพยาบาลเป็นของตนเอง ตั้งอยู่ริมถนนราชวิถี ใกล้กับอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เช่นเดียวกันกับคณะทันตแพทยศาสตร์ ที่มีโรงพยาบาลตั้งอยู่ภายในคณะ คณะสัตวแพทยศาสตร์มีโรงพยาบาลสัตว์ประศุอาทรและโรงพยาบาลปศุสัตว์และสัตว์ป่าปศุปาลันในพื้นที่ศาลายา และวิทยาเขตนครสวรรค์ ก็มีศูนย์การแพทย์มหิดลเป็นของตนเองด้วยเช่นกัน

สื่อ[แก้]

มหาวิทยาลัยมหิดลมีสถานีโทรทัศน์ มหิดลแชนเนล ซึ่งนำเสนอเนื้อหาจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก นอกจากนี้ ยังมีช่องบนยูทูบสองช่องหลัก ชื่อว่า มหิดลแชนเนล และ วีมหิดล

โพรไฟล์วิชาการ[แก้]

หอสมุด[แก้]

ห้องสมุดมหาวิทยาลัยมหิดล มีฐานเดิมจาก "ห้องอ่านหนังสือ" ของโรงเรียนราชแพทยาลัย ต่อมาใน พ.ศ. 2468 ได้ก่อตั้งเป็น "ห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์" และใน พ.ศ. 2499 กฤษฎีกาการจัดวางระเบียบราชการของกรมมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ได้ยกฐานะห้องสมุดเป็น "แผนกห้องสมุด" สังกัดสำนักงานเลขานุการ กรมมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ซึ่งขณะนั้นทำหน้าที่เป็นห้องสมุดของทั้งมหาวิทยาลัยและคณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาลด้วย

ห้องสมุดยกฐานะเป็น "กองห้องสมุด" ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 4 สิงหาคม 2520 ต่อมากองห้องสมุดได้รับการสถาปนาเป็น "สำนักหอสมุด" ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 103 ตอนที่ 140 วันที่ 8 สิงหาคม 2529 โดยมีฐานะเทียบเท่าคณะ มหาวิทยาลัยได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยดำเนินงานระบบห้องสมุดอัตโนมัติ ทำให้มีทรัพยากรห้องสมุดในรูปแบบที่หลากหลาย ต่อมาในวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 สภามหาวิทยาลัยมหิดลได้เปลี่ยนชื่อสำนักหอสมุดเป็น "หอสมุดและคลังความรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล" โดยเป็นส่วนงานหนึ่งในระดับคณะ

พิพิธภัณฑ์[แก้]

ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยมหิดลมีพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุที่เปิดให้บริการหลายแห่ง ทั้งในพื้นที่ศาลายา พื้นที่บางกอกน้อย พื้นที่พญาไท และวิทยาเขตกาญจนบุรี

พื้นที่ศาลายา

  • ฝ่ายจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์ หอสมุดและคลังความรู้มหาวิทยาลัยมหิดล
  • หอพระราชประวัติสมเด็จพระบรมราชชนก
  • หอเกียรติยศแห่งมหาวิทยาลัยมหิดล
  • ห้องจดหมายเหตุแผนที่และผังแม่บท
  • เรือนไทยมหาวิทยาลัยมหิดล
  • พิพิธภัณฑ์มานุษยวิทยาวัฒนธรรม
  • พิพิธภัณฑ์คนหูหนวกไทย
  • ราชสุดาแกลลอรี
  • ห้องนิทรรศการถาวรประวัติและผลงานของสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน
  • หอพระราชประวัติศรีสวรินทิราราชภักดี และหอพระราชประวัติบรมราชบุพการีกิตติประกาศ
  • พิพิธสาระประชากรและสังคม พื้นที่บางกอกน้อย (ศิริราช)
  • พิพิธภัณฑ์พยาธิวิทยาเอลลิส
  • พิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ สงกรานต์ นิยมเสน
  • พิพิธภัณฑ์และห้องปฏิบัติการเรื่องราวก่อนประวัติศาสตร์ สุด แสงวิเชียร
  • พิพิธภัณฑ์ปรสิตวิทยา
  • พิพิธภัณฑ์กายวิภาคศาสตร์คองดอน
  • พิพิธภัณฑ์สัมผัส เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินีนาถ
  • ห้องสมเด็จพระบรมราชชนก
  • ห้องมหิดลอดุลเดช หอสมุดศิริราช
  • หอจดหมายเหตุศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
  • พิพิธภัณฑ์การพยาบาลไทย คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน พื้นที่พญาไท
  • พิพิธภัณฑ์สตางค์ มงคลสุข
  • หอเกียรติยศนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น
  • หอเกียรติยศอาจารย์ดีเด่น
  • พิพิธภัณฑ์ยุงและคลังตัวอย่างแมลงและสัตว์ขาข้อ
  • เส้นทางศึกษาชีววิทยาและธรณีศาสตร์
  • พิพิธภัณฑ์เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • พิพิธภัณฑ์หอย
  • หอจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์รามาธิบดี
  • สิรินธรทันตพิพิธ
  • พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้โรคเขตร้อน
  • พิพิธภัณฑ์พืชสมุนไพร วิทยาเขตกาญจนบุรี
  • พิพิธภัณฑ์พืชแห่งภาคตะวันตก

งานวิจัย[แก้]

มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับการยอมรับว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่เน้นงานวิจัย โดยในปัจจุบันมีกลุ่มงานวิจัยใน 5 สาขาหลักด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มวิทยาศาสตร์การแพทย์และคลินิก กลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพและสาธารณสุข กลุ่มวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ การจัดการ และศิลปศาสตร์ และกลุ่มภาษาและวัฒนธรรม เมื่อพิจารณาจากจำนวนผลงานทางวิชาการระดับนานาชาตินั้น พบว่า มหาวิทยาลัยมหิดลมีจำนวนผลงานทางวิชาการที่ตีพิมพ์ในระดับนานาชาติบนฐานข้อมูลของ ISI databases เป็นอันดับ 1 ติดต่อกันตั้งแต่ พ.ศ. 2542–2549 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใน พ.ศ. 2548 คณะวิทยาศาสตร์มีจำนวนผลงานวิจัยเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับคณะวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งอื่นในประเทศ มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนมากที่สุดในประเทศ

การประเมินคุณภาพและการจัดอันดับ[แก้]

อันดับมหาวิทยาลัย (คัดเฉพาะอันดับนานาชาติไม่เกิน 500) อันดับในประเทศ (อันดับนานาชาติ)สถาบันที่จัด อันดับ CWTS (2017) 2 (458) Nature Index (2016) 2 (-) QS (Asia) (2018) 2 (58) QS (World) (2018) 2 (334) QS GER (2018) 2 (301-500) RUR (2017) 2 (408) RUR reputation (2017) 2 (246) RUR research (2016) 3 (457) RUR Academic (2017) 1(328) THE (Asia-Pacific) (2017) 1 (101-110) THE (Asia) (2017) 1 (97) THE (BRICS) (2017) 1 (76) UI Green (Overall) (2017) 1 (86) URAP (2017-2018) 1 (443)

ใน พ.ศ. 2549 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา จัดอันดับให้มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศไทย ทั้งในด้านการเรียนการสอน ซึ่งได้คะแนนร้อยละ 61.11 จากคะแนนเต็มร้อยละ 80 และด้านการวิจัย ซึ่งได้คะแนนเต็ม

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ประเมินคุณภาพผลงานวิจัยเชิงวิชาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสถาบันอุดมศึกษา ผลปรากฏว่าในการประเมินครั้งที่ 3 (พ.ศ. 2554) มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับการประเมินในระดับดีมากในสาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ ภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพ, สาขาวิชาฟิสิกส์ ภาควิชาฟิสิกส์, สาขาวิชาพรีคลินิก ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา พยาธิชีววิทยา และเภสัชวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, สาขาวิชาจุลชีววิทยาและอณูชีววิทยา สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล และสาขาวิชาเภสัชศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

นอกจากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดยหน่วยงานในประเทศไทยแล้ว ยังมีหน่วยงานจัดอันดับมหาวิทยาลัยจากต่างประเทศอีกหลายหน่วยงาน ซึ่งแต่ละหน่วยงานมีเกณฑ์การจัดอันดับและการให้คะแนนที่แตกต่างกัน SCImago Institutions Ranking, The Times Higher Education, Academic Performance, และ U.S. News & World Report จัดอันดับให้มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศไทยในด้านวิชาการ ส่วนในด้านอื่น ๆ อย่างด้านสิ่งแวดล้อม และด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหิดลก็ถูกจัดอันดับให้เป็นอันดับที่ 1 ของประเทศด้วยเช่นกัน

ชีวิตนักศึกษา[แก้]

นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยมหิดล จะเข้าศึกษาที่พื้นที่ศาลายาร่วมกันเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งปี จากนั้นจะแยกย้ายกันไปตามคณะในพื้นที่ต่าง ๆ บรรยากาศในการใช้ชีวิตของนักศึกษามีความหลากหลายมากเพราะนักศึกษามาจากต่างคณะกัน มีกิจกรรมมากมาย เช่น งานรักน้อง การเชียร์แสตนด์ งานอำลาศาลายา งานวันมหิดล เป็นต้น มีสถานที่ออกกำลังกายและลานกีฬาให้นักศึกษาได้เล่นตามความต้องการ การสัญจรหลักของนักศึกษาคือจักรยานหรือรถราง รวมถึงรถรับส่งจากพื้นที่ศาลายาไปยังพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร

การพักอาศัย[แก้]

ที่พักอาศัยสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จะเรียกว่า บ้านมหิดล โดยบริเวณที่พักมีการจัดเป็นสัดส่วน อยู่บริเวณทางด้านหลังศูนย์การเรียนรู้มหิดล บ้านมหิดลประกอบไปด้วยอาคารหอพัก 6 หลัง ได้แก่

หอพักหญิง

  • บ้านพุทธรักษา (หอ 1-2) เป็นอาคารแฝดสูง 4 ชั้น สองอาคารเชื่อมต่อกัน นักศึกษาพักได้ 4 คนต่อห้อง
  • บ้านอินทนิล (หอ 3-4) เป็นอาคารแฝดสูง 4 ชั้น สองอาคารเชื่อมต่อกัน นักศึกษาพักได้ 2 คนต่อห้อง
  • บ้านลีลาวดี (หอ 10) เป็นอาคารเดียวสูง 4 ชั้น เชื่อมต่อกัน นักศึกษาพักได้ 4 คนต่อห้อง
  • บ้านศรีตรัง (หอ 11) เป็นอาคารเดียวสูง 14 ชั้น เชื่อมต่อกัน นักศึกษาพักได้ 4 คนต่อห้อง หอพักชาย
  • บ้านชัยพฤกษ์ (หอ 6-7) เป็นอาคารแฝดสูง 4 ชั้น สองอาคารเชื่อมต่อกัน นักศึกษาพักได้ 2 คนต่อห้อง
  • บ้านกันภัยมหิดล (หอ 8-9) เป็นอาคารแฝดสูง 4 ชั้น สองอาคารเชื่อมต่อกัน นักศึกษาพักได้ 4 คนต่อห้อง

นอกจากบ้านมหิดลแล้ว ยังมีหอพักแห่งอื่นที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ศาลายา ได้แก่ หอพักพยาบาลรามาธิบดี หอพักสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน หอพักสถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล หอพักวิทยาลัยนานาชาติ หอพักน้ำทองสิกขาลัยของวิทยาลัยศาสนศึกษา อาคารชุดพักอาศัยหรือคอนโดมิเนียม 4 อาคาร และโรงแรมศาลายาพาวิลเลียน

สำหรับพื้นที่บางกอกน้อย มีหอพักสำหรับนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลและคณะพยาบาลศาสตร์ ได้แก่ หอมหิตลาธิเบศ หอหญิงเตี้ย หอหญิงสูง หอแปดไร่ และหอเจ้าพระยา พื้นที่พญาไทมีหอพักคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีและหอพักคณะเวชศาสตร์เขตร้อน และพื้นที่ต่างจังหวัด อันได้แก่ กาญจนบุรี นครสวรรค์ อำนาจเจริญ ต่างก็มีหอพักประจำวิทยาเขตด้วยกันทั้งสิ้น

พิธีพระราชทานปริญญาบัตร[แก้]

การค มกำเน ด-สำน ก อนาม ยการเจร ญพ นธ ม.มห ดล
มหิดลสิทธาคาร เป็นสถานที่จัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยมหิดลนับตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน

ในขณะที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลเสด็จนิวัตประเทศไทยเป็นครั้งที่ 2 พระองค์ได้เสด็จมาพระราชทานปริญญาบัตร ณ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2489 ซึ่งเป็นการพระราชทานปริญญาบัตรเป็นครั้งสุดท้ายในรัชสมัยของพระองค์ ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้จัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตรเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2493 โดยพระองค์เสด็จพระราชดำเนินเป็นประธาน ณ ปะรำพิธีหน้าตึกรังสีวิทยา โรงพยาบาลศิริราช เมื่อครั้งยังเป็นมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ โดยมีบัณฑิตจากคณะต่าง ๆ เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรต่อหน้าพระพักตร์ จำนวน 200 คน งานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรยังคงจัดขึ้นที่หอประชุมราชแพทยาลัยในโรงพยาบาลศิริราชเป็นประจำทุกปีจนถึง พ.ศ. 2520 ซึ่งเมื่อมีผู้สำเร็จการศึกษาเพิ่มมากขึ้น จึงได้เปลี่ยนมาจัดที่สวนอัมพรแทน

นับตั้งแต่ พ.ศ. 2557 เป็นต้นมา พิธีพระราชทานปริญญาบัตรจัดขึ้นที่หอประชุมมหิดลสิทธาคาร โดย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล

การเดินทาง[แก้]

ระบบขนส่งมวลชน[แก้]

การค มกำเน ด-สำน ก อนาม ยการเจร ญพ นธ ม.มห ดล
รถโดยสารประจำทางปรับอากาศสาย 515 ให้บริการระหว่างศาลายากับอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

การเดินทางมายังมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา มีระบบขนส่งมวลชนหลากหลายรูปแบบ รถโดยสารประจำทางที่ผ่านมหาวิทยาลัยทั้งฝั่งถนนบรมราชชนนี ถนนพุทธมณฑล สาย 4 และทางหลวงชนบท นฐ.4006 มีหลายสาย ทั้งรถประจำทางสายที่ให้บริการโดยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.), บริษัท สมาร์ทบัส จำกัด, บริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด และผู้ให้บริการเอกชนรายอื่น ๆ นอกจากรถประจำทางแล้ว ยังมีรถโดยสารที่ให้บริการโดยมหาวิทยาลัย ได้แก่ ชัตเทิลบัส ที่ให้บริการรับส่งระหว่างพื้นที่ศาลายา บางกอกน้อย และพญาไท และศาลายาลิงก์ ที่ให้บริการรับส่งระหว่างวิทยาลัยดุริยางคศิลป์กับสถานีบางหว้า มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ยังตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟศาลายาบนทางรถไฟสายใต้ มีขบวนรถโดยสารจอดทุกขบวน ในอนาคตมีโครงการรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดงอ่อน ซึ่งผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว

สำหรับพื้นที่พญาไท มีรถโดยสายประจำทางผ่านทางฝั่งถนนพระรามที่ 6 และถนนราชวิถี หลายสาย และมีรถไฟชานเมืองให้บริการที่ที่หยุดรถไฟโรงพยาบาลรามาธิบดี หลังคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี นอกจากนี้ โรงพยาบาลรามาธิบดียังมีรถโดยสารรับส่งระหว่างคณะกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส พญาไท และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

พื้นที่บางกอกน้อย มีรถโดยสารประจำทางให้บริการฝั่งถนนอรุณอมรินทร์ โดยถนนสายนี้มีสะพานข้ามแยกศิริราชที่เปิดให้บริการในเดือนกันยายน พ.ศ. 2564 นอกจากรถประจำทางแล้ว ยังมีรถสองแถวที่ให้บริการในหลายเส้นทาง และมีรถโดยสารของคณะ ได้แก่ ชัตเทิลบัสที่ให้บริการระหว่างคณะกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีไฟฉาย, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า และหอพักนักศึกษาแพทย์ ทางรางมีรถไฟชานเมืองให้บริการที่สถานีรถไฟธนบุรี ในอนาคตมีโครงการสถานีร่วมศิริราชบนเส้นทางรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดงอ่อน และรถไฟฟ้าสายสีส้ม ทางน้ำมีเรือด่วนเจ้าพระยา และเรือโดยสารสาธารณะ ไมน์ สมาร์ท เฟอร์รี่ ให้บริการที่ท่าพรานนกและท่ารถไฟ และมีเรือข้ามฟากให้บริการจากท่าวังหลังไปยังท่าพระจันทร์ (มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์), ท่ามหาราช และท่าช้าง

ระบบขนส่งภายในมหาวิทยาลัย[แก้]

การค มกำเน ด-สำน ก อนาม ยการเจร ญพ นธ ม.มห ดล
รถรางสาย 3 (สายสีแดง)

ภายในมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา มีรถรางวิ่งให้บริการทั้งหมด 4 สาย เรียงตามหมายเลข ได้แก่ สายสีเขียว, สายสีน้ำเงิน, สายสีแดง และสายสีเหลือง นอกจากนี้ ยังมีจักรยานสาธารณะซึ่งนักศึกษาและบุคลากรสามารถยืมใช้ฟรีได้ที่ จักก้าเซ็นเตอร์ หน้าหอพักนักศึกษา โดยต้องแลกบัตรนักศึกษาหรือบัตรประชาชน

บุคคลสำคัญ[แก้]

คณาจารย์และบุคลากรของมหาวิทยาลัยมหิดลนั้นได้รับแต่งตั้งเป็นนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นของไทยมากที่สุด โดยมีรายพระนาม และรายนามบุคคลสำคัญจากมหาวิทยาลัย เช่น

  • สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ผู้ทรงบุกเบิกการแพทย์แผนใหม่ในประเทศไทย ผู้ทรงเป็นที่มาแห่งนาม "มหาวิทยาลัยมหิดล"
  • ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์
  • ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.ประเวศ วะสี นักเรียนทุนมูลนิธิอานันทมหิดล ผู้ได้รับรางวัลแมกไซไซ ปี 2524 และนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น ปี 2526
  • ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.นพ.ณัฐ ภมรประวัติ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นแห่งชาติ
  • ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ประสพ รัตนากร ปรมาจารย์ด้านประสาทวิทยาศาสตร์ของประเทศไทย ประธานคณะที่ปรึกษามูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นผู้ริเริ่มการก่อตั้งโรงพยาบาลประสาททั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคของประเทศไทย หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

หมายเหตุ[แก้]

  1. ข้อมูลสิ้นสุดสภามหาวิทยาลัยมหิดล ครั้งที่ 512 (9/2559) วันที่ 21 กันยายน 2559

อ้างอิง[แก้]

  • ↑ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยแพทยสาตร
  • มหาวิทยาลัยมหิดล : แผนการใช้จ่ายงบประมาณ มหาวิทยาลัยมหิดล 24 กรกฎาคม 2564.
  • [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/E/287/T_0018.PDF ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งนายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล (นายปิยะสกล สกลสัตยาทร)]
  • ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล
  • [1][ลิงก์เสีย]
  • [2], เข้าถึงวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2559
  • ราชกิจจานุเบกษา. “ประกาศกระทรวงธรรมการ เรื่อง รวมโรงเรียนราชแพทยาลัยเข้ากับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.” ratchakitcha.soc.go.th. 15 เมษายน 2460. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2460/A/21.PDF (21 มีนาคม 2561 ที่เข้าถึง).
  • พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหิดล
  • ราชกิจจานุเบกษา, ว่าด้วยกอมิตีผู้จัดการโรงพยาบาล ตั้งคณะกรรมการพิจารณาการจัดตั้งโรงพยาบาล (ที่วังกรมพระราชวังบวรสถานพิมุขฝ่ายหลัง (วังหลัง), เล่ม ๔, ตอน ๕, ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๓๐, หน้า ๓๔
  • แจ้งความกระทรวงพระธรรมการ แผนกกรมพยาบาล เปิดโรงเรียนแพทยากร
  • ประกาศกระทรวงธรรมการ เรื่อง รวมโรงเรียนราชแพทยาลัยเข้ากับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • Becker, William H. Innovative Partners The Rockefeller Foundation and Thailand. New York, New York: The Rockefeller Foundation, 2013. William H. Becker. “Assets: Rockefellerfoundation.” Rockefellerfoundation. 2013. https://assets.rockefellerfoundation.org/app/uploads/20131001203515/Innovative-Partners.pdf เก็บถาวร 2016-12-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (21 March 2018 accessed).
  • ราชกิจจานุเบกษา. “พระราชบัญญัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พุทธศักราช ๒๔๗๗.” เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา. 21 เมษายน 2477. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2478/A/82.PDF (26 สิงหาคม 2561 ที่เข้าถึง).
  • หอประวัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (2009, November 7). พิธีพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกแห่งกรุงสยาม. Retrieved from เว็บไซต์หอประวัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย: http://www.memohall.chula.ac.th/article/พิธีพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกแห่งกรุงสยาม/
  • "พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ พุทธศักราช ๒๔๘๖" (PDF).
  • "พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. ๒๕๑๒" (PDF).
  • "พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. ๒๕๕๐" (PDF).
  • "การพัฒนาตามผังแม่บท ศาลายา 2551" (PDF). สืบค้นเมื่อ 17 Aug 2020.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  • ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง ตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. ๒๕๕๓, เล่ม ๑๒๗, ตอนพิเศษ ๙๘ ง, ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๓, หน้า ๘๘
  • "ที่มาแห่งตรามหาวิทยาลัยมหิดล". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-07-09. สืบค้นเมื่อ 2011-01-27.
  • "สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย : สีน้ำเงินแก่". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-09-26. สืบค้นเมื่อ 2007-05-17.
  • "ต้นกันภัยมหิดล". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-10-28. สืบค้นเมื่อ 2005-08-26.
  • http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2512/D/116/2.PDF
  • http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2514/D/141/1.PDF ราชกิจจานุเบกษา ศ.กษาน
  • http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2517/D/014/219.PDF
  • http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2519/D/005/1.PDF
  • http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2521/D/018/413.PDF
  • http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2523/D/001/5.PDF
  • http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2525/D/017/4.PDF
  • http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2527/D/015/1.PDF
  • http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2529/D/010/24.PDF
  • http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2531/D/017/587.PDF
  • http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2534/D/202/11738.PDF
  • http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2538/D/096/2.PDF
  • http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2542/D/097/1.PDF
  • "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-04-10. สืบค้นเมื่อ 2016-09-27.
  • http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2551/D/005/41.PDF
  • [3]
  • คำสั่งสภามหาวิทยาลัยมหิดล รักษาการ[ลิงก์เสีย]ราชกิจจานุเบกษา โปรดเกล้าฯ
  • ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล
  • "ที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมหิดล". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-18. สืบค้นเมื่อ 2016-11-22.
  • Mahidol University : จำนวนหลักสูตร
  • จำนวนผู้สำเร็จการศึกษา จำแนกตามประเภทสถาบันและระดับการศึกษา ปีการศึกษา 2546, สำนักส่งเสริมกิจการอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
  • รายงานประจำปี 2549 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
  • "PM Award ประเภทธุรกิจบริการกลุ่มการศึกษานานาชาติที่ได้รับความนิยมจากต่างประเทศมากที่สุด". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-03-21. สืบค้นเมื่อ 2007-02-15.
  • https://mahidol.ac.th/th/mahidol-organization/
  • ประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง การยุบเลิกส่วนงานของมหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. 2566
  • จัดตั้งส่วนงาน สถาบันวิทยาศาสตร์การวิเคราะห์และตรวจสารในการกีฬา
  • การรับวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ เข้าเป็นสถาบันสมทบของมหาวิทยาลัยมหิดล
  • การรับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ 3 แห่ง เป็นสถาบันสมทบของมหาวิทยาลัยมหิดล
  • ↑ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2553 เล่มที่ 127 ตอนที่ 69 ก ประกาศวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 บทเฉพาะกาลหน้าที่ 23
  • "พระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ. 2562" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2019-07-11. สืบค้นเมื่อ 2020-01-12.
  • Mahidol Channel
  • "เปิดตัวสถานีโทรทัศน์ Mahidol Channel". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-22. สืบค้นเมื่อ 2016-10-04.
  • Youtube มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ[ลิงก์เสีย]
  • "ประวัติหอสมุดและคลังความรู้มหาวิทยาลัยมหิดล". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-11-23. สืบค้นเมื่อ 2016-09-25.
  • [4] เก็บถาวร 2016-09-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, พิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุแห่งปัญญา.
  • "Mahidol University : Research". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-08-27. สืบค้นเมื่อ 2007-08-11.
  • Svasti MRJ, Asavisanu R. Update on Thai Publications in ISI Databases (1999-2005) เก็บถาวร 2008-06-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ScienceAsia 2006;32 (2) :101-106.
  • Svasti MRJ, Asavisanu R., Four Decades of Excellence in Research - Revealed by International Database Searches. เก็บถาวร 2011-05-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, ใน "48 ปี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (2501-2549)" หนังสือที่ระลึก 4 รอบ แห่งการสถาปนาคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 21 ตุลาคม 2549 หน้า 67-70.
  • "Mahidol University : Notable facts - Has highest budget of any university in Thailand". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-07-04. สืบค้นเมื่อ 2007-07-22.
  • "เปิด 50 อันดับมหาวิทยาลัยไทย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-05-18. สืบค้นเมื่อ 2021-08-20. สถาบันจัดอันดับแห่งประเทศไทย ฐานข้อมูลออนไลน์เพื่อประเมินศักยภาพของมหาวิทยาลัยไทย เก็บถาวร 2007-08-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21