องค์การบริหารส่วนตำบล มีหน้าที่สำคัญตามกฎหมายในการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ การให้บริการทางสังคม การดูแลรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ฯลฯ โดยมีจุดมุ่งหมาย เพื่อพัฒนาความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคม และการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องถิ่น การดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว จำเป็นต้องมีรายได้เพียงพอต่อการใช้จ่าย ซึ่งเป็นภาระค่อนข้างมากสำหรับ อบต. กฎหมายได้กำหนดให้ อบต. มีรายได้บางประเภทเป็นของตนเองเพื่อให้สามรถบริหารกิจการภายใต้ ขอบเขตอำนาจหน้าที่ที่กำหนดไว้ได้ เช่น รายได้จากภาษีอากร รายได้จากค่าธรรมเนียมต่าง ๆ รายได้จากเงินอุดหนุน เงินกู้ เป็นต้น โครงสร้างรายได้ขององค์การบริหารส่วนตำบล อบต. จะมีโครงสร้างรายได้ ดังนี้ 1. ภาษีอาการ ประกอบด้วย 1.1 ภาษีอากรที่ อบต. จัดเก็บเอง - ภาษีป้าย - ภาษีบำรุงท้องที่ - ภาษีโรงเรือนและที่ดิน - อากรฆ่าสัตว์ 1.2 ภาษีได้รับจัดสรรจากกระทรวงมหาดไทย - ภาษีสุราและสรรพสามิต - ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีธุรกิจเฉพาะ (ขณะนี้ยังไม่ได้รับขณะนี้รอการแก้ไข พ.ร.บ. จัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่ม) 1.3 ภาษีและค่าธรรมเนียมที่ได้รับจัดสรรจากจังหวัด - ภาษีและค่าธรรมเนียม 2. ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสุราและใบอนุญาตการเล่นการพนัน - อบต.ต้องออกข้อบังคับตำบลเพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มไม่เก ิน 10% ของค่าธรรมเนียม 3. ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิ น 4. รายได้จากทรัพยากรธรรมชาติ - อากรรังนกอีแอ่น ได้เฉพาะ 9 จังหวัดภาคใต้ คือประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎรธานี พัทลุง กระบี่ ตรัง พังงา สตูล และตราด - ค่าธรรมเนียมน้ำบาดาล - ค่าภาคหลวงและค่าธรรมเนียมป่าไม้ - อากรประทานบัตร ใบอนุญาต และอาชญาบัตรการประมง 5. รายได้จากภาคหลวงแร่และค่าภาคหลวงปิโตรเลียม - อบต. ได้รับการจัดสรรปีละ 4 งวด โดยมีหลักเกณฑ์การจัดสรรของแร่ 30% จากค่าภาคหลวง และปิโตรเลียม 20% จากค่าภาคหลวง 6. เงินอุดหนุนจากรัฐบาล 7. รายได้จากเงินทีเก็บตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ - ได้รับในอัตรา 5% ของเงินทีเก็บไดตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติในเขต อบต. ใด ให้ อบต. นั้นทุกแห่ง เท่ากันแบ่งการจัดสรรเป็น 4 งวด จัดสรรให้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับเงิน 8. เงินกู้ 9. รายได้ประเภทอื่น ๆ - ค่าปรับจราจรทางบก เมื่อมีการปรับให้ผู้ทำการเปรียบเทียบปรับนำค่าปรับส่งเป็นรายไ ด้ให้ อบต. ทั้งจำนวน โดยจ่ายเงินรางวัลให้ผู้แจ้งความนำจับ และเจ้าหน้าที่ผู้จับ คนละ 17.5% องเงินที่เปรียบเทียบปรับ ถ้าไม่มีผู้แจ้งความนำจับ ให้จ่ายเจ้าหน้าที่ผู้นำจับ 25% - รายได้จากทรัพย์สิน - รายได้จากสาธารณูปโภคและการพาณิชย์ - เงินหรือทรัพย์สินอื่นที่มีผู้อุทิศให้ - รายไดอื่นตามที่รัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐต้องให้ ฯลฯ การ จัดเก็บรายได้ของอบต. ไม่ว่าจะเป็นภาษีอากร ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ จะต้องมีกฎหมายให้อำนาจไว้ ปัจจุบันมีกฎหมายหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บรายได้ของ อบต. แต่รายได้ที่กฎหมายให้อำนาจท้องถิ่นจัดเก็บเองที่สำคัญ ๆ ได้แก่ ภาษีบำรุงท้องที่ ภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีป้าย และค่าธรรมเนียมค่าใบอนุญาตตาม พ.ร.บ. การสาธารสุข ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายภาษีที่ อบต. จัดเก็บเอง 1. ภาษีบำรุงท้องที่ ภาษี บำรุงท้องที่ หมายถึง ภาษีที่จัดเก็บจากการถือครอง และการทำประโยชน์ในที่ดินภาษีบำรุงท้องที่มีลักษณะเป็นภาษีทรัพ ย์สินประเภทหนึ่ง โดยเรียกเก็บจากเจ้าของที่ดิน - กฎหมายที่ให้อำนาจท้องถิ่นจัดเก็บภาษีประเภทนี้ คือ พ.ร.บ. ภาษีบำรุงท้องที่ 2508 - ภาษีบำรุงท้องที่เก็บใน อบต. ใด ก็ถือเป็นรายได้ของ อบต.นั้น - ผู้มีหน้าที่เสียภาษีบำรุงท้องที่ ได้แก่ เจ้าของที่ดิน ซึ่งหมายถึงบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลโดยอาจมีกรรมสิทธิ์ในที่ดิ น หรือครอบครองที่ดินที่ไม่เป็นกรรมสิทธิ์ของเอกชน ถ้าบุคคลหลายคนเป็นเจ้าของร่วมกัน ให้บุคคลเหล่านั้นมีหน้าที่รับผิดชอบร่วมกันในการเสียภาษี - ฐานภาษี ภาษีบำรุงท้องที่ ใช้ราคาประมาณกลางของที่ดิน เป็นฐานในกาปรระเมินภาษีโดยต้องเป็นราคาปานกลางที่ดินตามที่คณะ กรรมการตีราคาปานกลางที่ดินกำหนดขึ้นทุก ๆ 4 ปี ปัจจุบันใช้ราคาปานกลางของปี 2521 ถึง พ.ศ. 2524 - ที่ดินที่ไม่ต้องเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ม. 8) ได้แก่ที่ดินเป็นที่ตั้งพระราชวัง ที่ดินสาธารณะ ที่ดินส่วนราชการท้องถิ่น ที่ดินเพื่อการพยาบาล การศึกษา ที่ดินใช้ในศาสนกิจ สุสนที่มิได้รับประโยชน์ตอบแทน ที่การรถไฟ ประปา การไฟฟ้า ที่ดินที่ใช้ต่อเนื่องกับโรงเรือนที่ต้องเสียภาษีโรงเรือนและที ่ดิน ฯลฯ - อัตราภาษี กำหนดไว้ในบัญชีอัตราภาษีท้าย พ.ร.บ. ภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. 2508 - ระยะเวลาการชำระภาษี ตั้งแต่เดือนมกราคม ? เดือนเมษายน ของทุกปี - เงินเพิ่ม เจ้าของที่ดินไม่ยื่นแบบแสดงรายการที่ดิน (ภบท.5) ภายในกำหนดต้องเสียเงินเพิ่มร้อยละ 10 ของจำนวนเงินที่ต้องเสียภาษีบำรุงท้องที่ ถ้าย่น ภบท. 5 ไม่ถูกต้อง ต้องเสียเงินเพิ่มร้อยละ 10 ของจำนวนเงินที่ต้องเสียภาษีฯ และถ้าชี้เขตแจ้งจำนวนที่ดิน ทำให้จำนวนที่ดินที่ต้องเสียภาษีฯ ลดน้อยลง ต้องเสียเงินเพิ่มอีกหนึ่งเท่าของภาษีบำรุงท้องที่ที่ประเมินเพ ิ่มเติม สรุปการบริหารการจดเก็บภาษีบำรุงท้องที่ ก. การยื่นแบบแสดงรายการที่ดิน (ภ.บ.ท. 5) (เฉพาะปีแรกที่ตีราคาปานกลางฯ) 1. จัดทำประกาศ อบต. ประธานกรรมการบริหาร อบต. จัดทำประกาศ อบต. ให้เจ้าของที่ดินยื่นแบบแสดงรายการที่ดินเพื่อเสียภาษีบำรุงท้อ งที่ประจำปี พ.ศ. 2541 ? 2544 ต่อเจ้าพนักงานประเมิน (ภ.บ.ท. 2) ณ สำนักงาน อบต. ที่ที่ดินของผู้เสียภาษีบำรุงท้องที่ตั้งอยู่ หรือสถานที่อื่นที่ อบต. กำหนดโดยประกาศล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน (ม. 29) - ต้องดำเนินการภายในเดือนมกราคมของปีแรกของการตีราคาปานกลางของท ี่ดินตาม ม.16 (พ.ศ. 2541) (ครั้งต่อไป พ.ศ. 2545) - ภ.บ.ท. 5 ใช้ได้ทุกปีในรอบระยะ 4 ปี ของการตีราคาปานกลาง (พ.ศ. 2541 ? 2544) 2. แต่งตั้งเจ้าพนักงาน ประธานกรรมการบริหาร อบต.ออกคำสั่ง อบต. แต่งตั้งเจ้าพนักงานประเมินและเจ้าพนักงานสำรวจ (ภ.บ.ท.15) 3. ผวจ. ออกคำสั่งจังหวัด มอบหมายให้เจ้าพนักงานสำรวจทำการสำรวจและยื่นแบบแสดงรายการที่ด ิน (ภ.บ.ท.5) แทนเจ้าของที่ดิน (ภ.บ.ท.3ป (ม.24 วรรค 2) 4. เจ้าพนักงานสำรวจจัดทำประกาศ ให้เจ้าของที่ดินชี้เขต และแจ้งจำนวนเนื้อที่ดินแก่เจ้าพนักงานสำรวจ 5. เจ้าของที่ดินยื่นแบบแสดงรายการที่ดิน (ภ.บ.ท. 5) ต่อเจ้าพนักงานประเมินภายในเดือนมกราคมของปีแรกของการตีราคาปาน กลางของที่ดิน (พ.ศ. 2541) (ม.24 และ ม.30) 5.1 กรณีเปลี่ยนแปลงเจ้าของที่ดินและจำนวนเนื้อที่ดิน เจ้าของที่ดินต้องยื่นแบบแสดงรายการที่ดิน (ภ.บ.ท. 5) ต่อเจ้าพนักงานประเมินภายใน 30 วัน นับแต่วันที่เปลี่ยนแปลง (ภ.บ.ท. 8 ก) (ม.31) 5.2 กรณีเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินเป็นเหตุให้การลดหย่อนตาม ม.32 หรืออัตราภาษีบำรุงท้องที่เปลี่ยนไป เจ้าของที่ดินต้องยื่นแบบแสดงรายการที่ดิน (ภ.บ.ท. 5) ต่อเจ้าพนักงานประเมินภายใน 30 วัน นับแต่วันที่เปลี่ยนแปลง (ภ.บ.ท. 3 ก) (ม.31) 6. เจ้าพนักงานสำรวจดำเนินการสำรวจ เมื่อสำรวจรายการที่ดินเสร็จแล้วรวบรวมส่งเจ้าพนักงานประเมินเพ ื่อดำเนินการต่อไป (ภ.บ.ท. 16) ข. การประเมินและคำนวณภาษีบำรุงท้องที่ (เฉพาะปีแรกที่ตีราคาปานกลางฯ) ประธานกรรมการบริหาร อบต. ออกคำสั่ง อบต. แต่งตั้งเจ้าพนักงานประเมินและให้อำนาจหน้าที่ ดังนี้ 1. รับแบบแสดงรายการที่ดิน (ภ.บ.ท.5) จากเจ้าของที่ดิน หรือเจ้าพนักงานสำรวจ (ม.24?27,ม.31? 32) 2. ตรวจสอบความถูกต้องของ ภ.บ.ท.5 โดยเข้าไปในที่ดินหรือสถานที่เกี่ยวข้องแก่การจัดเก็บภีบำรุงท้ องที่ (ม.47(1)) หรือมีหนังสือเรียกผู้มีหน้าที่เสียภาษีบำรุงท้องที่ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ หรือส่งบัญชีเอกสารมาตรวจสอบได้ (ม47(2)) โดยตรวจความถูกต้องด้านจำนวนเนื้อที่ดิน ลักษณะการใช้ที่ดิน ที่ดินที่ไม่ต้องชำระภาษี จำนวนที่ดินที่ต้องชำระภาษี และการลงลายมือชื่อ 3. อำนาจแจ้งการประเมินย้อนหลัง ไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่ทราบว่าเจ้าของที่ดิน ยังมิได้ย่นแบบ ภ.บ.ท. 5 ตาม มาตรา 24 4. คำนวณจำนวนเนื้อที่ดินที่ต้องชำระภาษี จำนวนเนื้อที่ทั้งหมด ? หัก ที่ดินตาม ม.8(8) ? ม.8(8) คือที่ดินที่ใช้ต่อเนื่องกับ จำนวนที่ดินที่ยื่นชำระภาษี ? โรงเรือนที่ต้องเสียภาษีโรงเรือนฯ หัก ได้รับลดหย่อนตาม ม.22 ? จำนวนที่ดินที่ต้องชำระภาษี X 5. คำนวณภาษีบำรุงท้องที่ ราคาปานกลางของที่ดินไร่ละ ? อัตราภาษีบำรุงท้องที่ไร่ละ Y ภาษีบำรุงท้องที่จำนวน X,Y 6. ลงลายมือชื่อใน ภ.บ.ท. 5 แล้วมอบแบบ ภ.บ.ท.5 ส่วนของเจ้าของที่ดินให้ 7. จัดทำทะเบียนที่ดินเพื่อจัดเก็บภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท.6) 8. จัดทำประกาศ อบต. แจ้งการประเมิน เพื่อเสียภาษีบำรุงท้องที่ ประจำปี 2541 ? 2544 (ภ.บ.ท.10) (ม.33) ค. การรับชำระภาษีบำรุงท้องที่ 1. แต่งตั้งเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ ประธานกรรมการบริหาร อบต. แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ ?ผู้รับเงิน? และพนักงานเจ้าหน้าที่ ?ผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อในใบเสร็จรับเงิน? (ม.9(2), (ม.34) (นส. ด่วนที่สุด มท. 0311.3/ว172 ลว.25 มกราคม 2543) 2. ระยะเวลาชำระภาษี เจ้าของที่ดินผู้มีหน้าที่ต้องชำระภาษีต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ?ผู้รับเงิน? ภายในเดือนเมษายน ของทุกปี 3. พนักงานเจ้าหน้าที่ ?ผู้รับเงิน? ตรวจความถูกต้อง จากทะเบียนที่ดินเพื่อจัดเก็บภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท.6) ประกาศ อบต. แจ้งการประเมินเพื่อเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท.10) และจำนวนเงินที่รับชำระภาษี แล้ว - ลงลายมือชื่อในฐานะผู้รับเงินในใบเสร็จรับเงิน (ภ.บ.ท.11) - ส่งมอบเรื่องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ?ผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อในใบเสร็จรับเงิน? 4. พนักงานเจ้าหน้าที่ ?ผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อในใบเสร็จรับเงิน? ตรวจความถูกต้อง เช่นเดียวกับข้อ 3 แล้ว - ลงลายมือชื่อในฐานะ ?ผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อในใบเสร็จรับเงิน? (ภ.บ.ท.11) - มอบใบเสร็จรับเงิน (ภ.บ.ท.11) (ฉบับที่ 1) ให้แก่ผู้เสียหาย - มอบใบเสร็จรับเงิน (ภ.บ.ท.11) (ฉบับที่ 2) ให้แก่เจ้าพนักงานบัญชี 5. เจ้าพนักงานประเมินจัดทำสรุป การจัดเก็บภาษีบำรุงท้องที่ในทะเบียนที่ดินเพื่อจัดเก็ฐภาษีบำร ุงท้องที่ (ภ.บ.ท.6) ตรวจความถูกต้องแล้วลงลายมือชื่อ โดยตรวจ - จำนวนเนื้อที่ดิน กรณี ม.24 และ ม.32 - ที่ดินไม่ต้องชำระภาษี (ม.8(8) และ ม.22) - จำนวนเนื้อที่ดินที่ต้องชำระภาษี - การลงลายมือชื่อ - ภาษีบำรุงท้องที่ค้างชำระ (ม.38) ง. การอุทธรณ์ 1. กรณีเจ้าของที่ดินเห็นว่าการประเมินภาษีบำรุงท้องที่ไม่ถูกต้อง มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ ผวจ. โดยยื่นแบบ ภ.บ.ท.12 แก่เจ้าพนักงานประเมินภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน (บ.49) 2. ผู้อุทธรณ์มีสิทธิอุทธรณ์คำวินิจฉัยของ ผวจ. ต่อศาลภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์ (ม.52) 3. เจ้าของที่ดินไม่เห็นพ้องด้วยกับราคาปานกลางของที่ดิน มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ ผวจ. ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ประกาศราคาปานกลางและอุทธรณ์คำวินิจฉัยต่อศาลได ้เช่นเดียวกัน (ม.20 และ ม.49 ? 52) 2. ภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษี โรงเรือนและที่ดิน หมายถึง ภาษีที่จัดเก็บจากโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ๆ กับที่ดินใช้ต่อเนื่องกับโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างนั้น หลักการสำคัญ ในการพิจารณาว่าทรัพย์สินใด อยู่ในข่ายต้องเสียภาษีโรงเรือนและที่ดิน พิจารณาได้ดังนี้
ขั้นตอนการชำระภาษี
แผนปฏิบัติงานการจัดเก็บภาษีป้ายประจำปี ก. ขั้นเตรียม 1. ตรวจสอบและคัดลอกรายชื่อผู้อยู่ในเกณฑ์เสียภาษีในปีงบประมาณ ก.ย. 2. สำรวจและจัดเตรียมแบบพิมพ์ต่าง ๆ ต.ค. 3. ประชาสัมพันธ์ขั้นตอนและขั้นตอนการเสียภาษี พ.ย. ? ก.พ. 4. จัดทำหนังสือแจ้งให้ผู้เสียภาษีทราบเพื่อยื่นแบบแสดงรายการภาษี ป้าย (ภ.ป.1) ธ.ค. ข. ขั้นดำเนินการจัดเก็บ 1. กรณีมีป้ายก่อนเดือนมีนาคม - รับแบบ ภ.ป.1 และตรวจสอบความถูกต้อง ม.ค. ? มี.ค. - ประเมินค่าภาษีและมีหนังสือแจ้งผลการประเมิน (ภ.ป.3) ม.ค. ? มี.ค. 2. กรณีมีป้ายหลังเดือนมีนาคม - รับแบบ ภ.ป.1 และตรวจสอบความถูกต้อง (ภ.ป.3) ม.ค. ? มี.ค. - ประเมินค่าภาษีและมีหนังสือแจ้งผลการประเมิน ม.ค. ? มี.ค. 3. การชำระภาษี กรณีปกติ - รับชำระภาษี (ชำระในวันที่ยื่นแบบหรือชำระภาษีภายในกำหนดเวลา) ม.ค. ? มี.ค. กรณีพิเศษ (1) ชำระภาษีเกินเวลาที่กำหนด - รับชำระภาษีและเงินเพิ่ม (2) ผู้ประเมินไม่พอใจผลการประเมินภาษี 1. รับคำร้องอุทธรณ์ขอให้ประเมินภาษีใหม่ (ภ.ป.4) ก.พ. ? พ.ค. 2. ออกหมายเรียกให้มาชี้แจงหรือออกตรวจสถานที่ ก.พ. ? มิ.ย. 3. ชี้ขาดและแจ้งผลให้ผู้ร้องทราบ (แบบ ภ.ป.5) มี.ค. ? ก.ค. 4. รับชำระภาษีและเงินเพิ่ม มี.ค. ? ก.ย. 5. ปฏิบัติตามคำสั่งศาล (กรณีนำคดีไปสู่ศาล) หมายเหตุ กรณีมีป้ายหลังเดือนมีนาคม การยื่นแบบการประเมิน การชำระค่าภาษีและการอุทธรณ์ ให้ปฏิบัติระหว่าง เมษายน ? ธันวาคม ค. ขั้นประเมินผลและเร่งรัดการจัดเก็บ 1. ไม่ยื่นแบบ ภ.ป.1 ภายในกำหนดเวลา - มีหนังสือแจ้งเตือนผู้ยังไม่ยื่นแบบ เม.ย. (เมื่อใกล้จะสิ้นสุดเวลาที่ประกาศกำหนดเวลาให้ยื่นแบบ) - มีหนังสือแจ้งเตือนไม่ยื่นแบบภายในกำหนดเวลา - ครั้งที่ 1 เม.ย. - ครั้งที่ 2 พ.ค. - แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนฝ่ายปกครอง (อำเภอ) เม.ย. ? ก.ค. เพื่อดำเนินคดีแก่ผู้ไม่ยื่นแบบ - รับชำระภาษี และเงินเพิ่มตามมาตรา 25 เม.ย. ? ก.ย. 2. ยื่นแบบ ภ.ป.1 แล้วแต่ไม่ยอมชำระภาษีภายในกำหนดเวลา - มีหนังสือแจ้งเตือนผู้ที่ยังไม่ชำระภาษี - ครั้งที่ 1 พ.ค. - ครั้งที่ 2 มิ.ย. - ครั้งที่ 3 ก.ค. - รับชำระภาษี และเงินเพิ่มตามมาตรา 25 พ.ค. ? ก.ย. - ดำเนินกรบังคับจัดเก็บภาษี (ยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สิน) กรณีหลีกเลี่ยงไม่ชำระภาษี ต.ค. เป็นต้นไป 4. ค่าธรรมเนียมตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข ความหมายของค่าธรรมเนียม ค่าใบอนุญาต ค่าปรับ ตาม พ.ร.บ. การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 - ค่าธรรมเนียม เป็นรายได้ที่เรียกเก็บจากบริการที่ท้องถิ่นจัดให้ เช่น การเก็บขยะ มูลฝอย และสิ่งปฏิกูล ฯลฯ - ค่าใบอนุญาต เป็นรายได้ที่เรียกเก็บจากผู้ประกอบการ ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ต้องขออนุญาตประกอบการ - ค่าปรับ เป็นโทษทางอาญาและเป็นรายได้ที่เรียกเก็บจากผู้กระทำความผิดหรื อละเมิดข้อบังคับ หรือกฎหมาย ประเภทของกิจการที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมและใบอนุญาต
|