Unexpected error ข นในโทรศ พท ม อถ อเข าไม ได

Error 6: อาจเกิดจาก ซอร์ฟแวร์ใดซอร์ฟแวร์หนึ่ง ไปปรับเปลี่ยนขนาด Packet เริ่มต้นของ Windows โดยการแทรกรายการ TcpWindowSize เข้า Registry ของคุณ โดยต้องมีการรีเซต Internet Protocol (TCP/IP) ดูวิธีได้ที่นี่

Error 9: ความผิดพลาดนี้เกิดจาก การขาดการเชื่อมต่อทางพอร์ท USB อย่างกระทันหัน หรืออุปกรณ์ถูกตัดการเชื่อมต่อระหว่าง Restore แก้ไขได้โดยการ การเปลี่ยนสาย USB, เปลี่ยน Port USB และรวมไปถึงอาจจะต้องเปลี่ยนเครื่อง

Error 13 และ 14: ข้อผิดพลาดนี้สามารถแก้ไขได้ตามขั้นใดขั้นตอนหนึ่งดังต่อไปนี้

  • ลองเปลี่ยน Port USB ที่ใช้ในการเชื่อมต่อ
  • หา Hub USB 2.0 มาเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ กับคอมพิวเตอร์
  • ลองเปลี่ยนสาย Data
  • ปิดโปรแกรมรักษาความปลอดภัยอื่นๆ
  • ดูวิธีแก้ไข Error 6

Error 18 หรือ -18: ข้อผิดพลาดนี้เกิดจาก Media Library ไม่สามารถแก้ไข หรืออัพเดตได้ แก้ไขโดยการ Update iTunes เป็นรุ่นล่าสุด ดาวน์โหลด iTunes รุ่นล่าสุดได้ที่นี่

Error 19 หรือ -19: จะแสดงข้อความ “iTunes could not sync to the iPhone ‘[ชื่อ iPhone]‘ because an unknown error occurred (-19)” แก้โดยให้ยกเลิก “Automatically sync when this iPhone is connected” จากแท็ป Summary ใน iTunes แล้วทำตามขั้นตอนนี้

  • Eject
  • Reconnect
  • Update หรือ Restore

Error 20, 21, 34 หรือ 37: เกิดจากการที่ซอร์ฟแวร์รักษาความปลอดภัยเข้ามาแทรกแทรง หรือรบกวนการ Restore แก้ไขได้โดยทำตามลิงค์นี้

Error 23, 28 หรือ 29: อาจเกิดจากปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์ของคุณ ทำตามลิงค์นี้เพื่อแก้ไข หรือเกิดจากซอร์ฟแวร์ไม่มีการอัพเดต เกิดจากการตั้งค่ารักษาความปลอดภัยไม่ถูกต้อง

Error 35: ดูวิธีการแก้ไข Error 13 หรือ 14

Error 40: ดูวิธีการแก้ไข Error 23, 28 หรือ 29

Error 48 หรือ -48: แก้ไขโดยการปิด iTunes และไปลบไฟล์ IPSW (หาได้ในโฟลเดอร์ของ iTunes) และลองทำการ Update อีกครั้งหนึ่ง

Error 50: ดูวิธีการแก้ไข Error 13 หรือ 14

Error 1000: เกิดจากการอัพเดตที่ผิดพลาด ซึ่งอาจเกิดจากในขณะอัพเดตถูกรบกวนโดยซอร์ฟแวร์ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่เชื่อมต่อ USB อยู่ หรือไฟล์ IPSW เกิดความเสียหาย

Error 1002, 1011, 1012 หรือ 1014: ดูวิธีการแก้ไข Error 23, 28 หรือ 29

Unexpected error ข นในโทรศ พท ม อถ อเข าไม ได

Error 1004 หรือ 1013: เกิดจากความผิดพลาดในการเชื่อมต่อไปยัง gs.apple.com ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้เพื่อแก้ไข

  • ตรวจสอบซอร์ฟแวร์รักษาความปลอดภัย
  • ตรวจสอบไฟล์ Host ว่ามีการอนุญาติให้เชื่อมต่อไปยัง gs.apple.com หรือเปล่า

โดยทั่วไปจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีการไปแก้ไขไฟล์ Host เพื่อ Downgrade แล้วไม่ได้แก้ไขกลับมาเหมือนเดิม เช่นวิธีในบทความนี้

Error 1015: เกิดจากการพยายามปรับลด Firmware ซึ่งมักจะแสดงเมื่อทำการ Downgrade หากทำตามวิธีอย่างถูกต้อง Error นี้ก็สามารถแก้ได้ด้วย Recovery Fix ดูวิธีการ Downgrade ได้ที่นี่

Error 1479: วิธีการแก้ดังนี้

  • ปิด iTunes
  • ถอดอุปกรณ์ พร้อมรีบูต
  • เชื่อมต่ออุปกรณ์
  • เปิด iTunes
  • ทดลอง Restore หรือ Update ใหม่

Error 1600, 1601, 1602, 1603 หรือ 1604: แก้ไขได้โดยการใช้ iREB ดูวิธีได้ที่นี่

Error 1611: ดูวิธีการแก้ไข Error 23, 28 หรือ 29

Error 1631: ใส่ SIM Card แล้วลองใหม่

Error 1638: ดูวิธีการแก้ไข Error 1004 หรือ 1013

Error 1639: ดูวิธีการแก้ไขได้ที่นี่

Error 2000-2009 (2001, 2002, 2005, 2006, 2009, และอื่น ๆ ): หากคุณพบปัญหาใน Mac นี้ให้ถอดอุปกรณ์เชื่อมต่ออื่นๆออก แล้ว Reset SMC (ดูวิธีที่นี่) และจากนั้นลอง Restore ใหม่ ถ้าคุณกำลังใช้คอมพิวเตอร์ที่ใช้ Windows ถอดอุปกรณ์เชื่อมต่ออื่นๆออก แล้ว Restart เครื่อง ถ้ายังไม่ได้ ดูวิธี Error 1604

Errors 3000-3999 (3002, 3004, 3013, 3014, 3018, 3164, 3194, และอื่นๆ): ดูวิธีการแก้ไข 1004 หรือ 1013

  • Error 3002: หากเกิดขึ้นบน iPod Touch 2G หรือ iPhone 3G ลองใช้วิธีทำตามขั้นตอนปกติผ่านทาง iTunes
  • Error 3004: หากเกิดขึ้นบน Mac และวิธีข้างต้นไม่ได้ผล ลองออกจาก iTunes และใช้คำสั่ง “dscacheutil -flushcache” ใน Command Line
  • Error 3194: จะแสดง “This device is not eligible for the requested build” ให้อัพเดต iTunes เป็นรุ่นล่าสุด หรือตรวจสอบ IPSW ว่าถูกต้องหรือเปล่า
  • Error 3200: เกิดจากปัญหาการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต หรือมีผู้ใช้เป็นจำนวนมาก ให้รอสักครู่ แล้วค่อยลองใหม่

Error 9006: ดูวิธีแก้ไข Error 6

Error 9807: ให้ตรวจสอบวันที่ของเครื่องที่ตั้งอยู่ หากยังไม่ได้ให้ลองเข้าลิงค์

evintl-ocsp.verisign.com evsecure-ocsp.verisign.com

อาจถูกบล็อคโดยซอร์ฟแวร์รักษาความปลอดภัยสามารถดูวิธีแก้ไขได้ที่นี่

Error 9808 หรือ -9808: ทำตามวิธีนี้ ถ้ายังไม่ได้ให้ทำตามวิธีนี้

Error 9844: อาจเกิดจากการตั้งค่า Firewall ไม่ถูกต้อง ให้ตรวจสอบที่ “Open the proper ports and allow access to Apple servers”

Error 20000-20008: ให้ลอง Restart เครื่องแล้วเชื่อมต่ออุปกรณ์ไปยัง Port ที่แตกต่างกัน หรือดูตาม Error 13 หรือ 14

Error 40265xxxx: จะเกิดขึ้นในขั้นตอนการ Restore From Backup หลังจากที่ติดตั้งระบบใหม่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทุกครั้งก่อนจะมีการ Restore แนะนำว่าให้ Backup ใหม่อีกครั้งนึงก่อนเพื่อแก้ไขปัญหานี้

เพื่อป้องกัน การได้รับ SMS หลอกลวงจากมิจฉาชีพในรูปแบบข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะชวนให้ลงทุน ชวนเล่นพนันออนไลน์ หรือข้อความสแปมหลอกให้กดลิงค์ต่อ

สามารถทำการบล็อก SMS เหล่านี้ได้เอง ง่ายๆ ในมือถือของท่าน ตามขั้นตอนต่อไปนี้

Unexpected error ข นในโทรศ พท ม อถ อเข าไม ได

  1. กดที่ไอค่อนรูปฟันเฟือง “การตั้งค่า (Setting)”
  2. เลื่อนหาเมนู “ข้อความ (Message)”
  3. เลื่อนหาเมนู “ไม่รู้จักและสแปม (Unknown & Spam)” แล้วกดเข้าไป
  4. ในหัวข้อ “ฟิลเตอร์ผู้ส่งที่ไม่รู้จัก (Filter Unknown Senders)” กดเลื่อนแถบให้ปุ่มเป็นสีเขียว เพื่อเปิดการใช้งาน
  5. สำหรับหัวข้อรอง “การฟิวเตอร์ SMS (SMS Filtering)” ด้านล่าง หากมีแอปเสริมเช่น Whoscall อยู่แล้ว สามารถกดเครื่องหมายถูก เพื่อเปิดการใช้งานได้เลย

หากต้องการดูวิธีบล็อก SMS สำหรับระบบปฏิบัติการ Android คลิก

นอกจากบล็อก SMS ได้ด้วยตัวเองแล้ว ท่านสามารถบล็อกเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่ต้องการ เช่นขายประกัน หรือ มิจฉาชีพ ได้ด้วยตัวเอง

ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ตามขั้นตอน ต่อไปนี้

วิธีบล็อกเบอร์โทรศัพท์ สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS

  1. กดที่ไอค่อนโทรศัพท์ (Phone) เพื่อเลือกเบอร์ที่ต้องการบล็อก จากรายการล่าสุด โดยกดไปที่เครื่องหมาย i ด้านหลังเบอร์
  2. กดที่เมนูสีแดง "ปิดกั้นสายผู้โทรนี้ (Block this Caller)" ด้านล่างสุด เพื่อบล็อกเบอร์นั้นๆ
  3. จะมีหน้าต่างป๊อบอัพ ให้ยืนยัน เลือกกด "ปิดกั้นรายชื่อ"
  4. เมนูจะเปลี่ยนเป็น "เลิกปิดกั้นสายผู้โทรนี้ (Unblock this Caller)"
  5. เมื่อกดบล็อกแล้ว เบอร์นั้นจะถูกบล็อกทันที ไม่สามารถโทรเข้าได้อีกต่อไป

วิธีบล็อกเบอร์โทรศัพท์ สำหรับระบบปฏิบัติการ Android

กดที่หน้าโทรออก (Phone) เพื่อเลือกเบอร์ที่ต้องการบล็อก จากรายการโทรเข้า-ออก โดยกดไปที่เครื่องหมาย i ด้านหลังเบอร์