ขอ อนุโมทนา บุญ กับ ทุก ท่าน

Posted on 25/06/2018 by in ข่าวประชาสัมพันธ์ // 0 Comments

ขอ อนุโมทนา บุญ กับ ทุก ท่าน

กราบขอบพระคุณ ครอบครัว คุณแม่สมจิตร สร้อยสวัสดิ์,คุณพิชัย ทองดอนง้าว
บริจาคเงิน  100,000 บาท ให้ รพ.นาโพธิ์ เพื่อใช้ซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์

ขอให้บุญกุศลในครั้งนี้ จงดลบันดาลให้ท่านและครอบครัว จงเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย
อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ พิพัฒนมงคล สมบูรณ์พูนผล
ค้าขายเจริญรุ่งเรือง พรั่งพร้อมด้วยผองญาติและกัลยาณมิตร สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง
ตลอดไปเทอญ..ขอให้ทุกท่านที่ได้รับรู้ข่าวอันเป็นกุศลนี้ จงอนุโมทนาบุญโดยพร้อมเพรียงกันด้วยเทอญ… … สาธุ..สาธุ..สาธุ…

สงสัยหรือไม่เวลาคนอื่นไปทำบุญมา ถึงต้องเอ่ยคำว่า “อนุโมทนาบุญ”

หลายคนคงเคยสงสัย ว่า เวลาไปทำบุญมาแล้วอยากให้คนอื่นได้รับบุญด้วย ถึงต้องเอ่ยคำว่า “อนุโมทนา บุญ” กันไหมครับ   วันนี้มีคำตอบครับ 

——————————————————————————————————————————————————————————————-ผมเคยอ่านเจอบทความนึง (จำไม่ได้) ของหลวงพ่อท่านนึง แล้วคิดว่าเป็นเหตุเป็นผล ดี สำหรับการเอ่ยคำว่าอนุโมทนาบุญครับ

ตัวอย่างแรก ครับ

เวลาเราไปทำบุญกันมาครับ ไม่ว่าจะทอดผ้าป่า  ทอดกฐิน ใส่บาตร สร้างโบสถ์ สร้างศาลา  หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่เกี่ยวกับการไปทำบุญ

พอเสร็จแล้ว เรากลับบ้านมา เจอเพื่อสนิทมิตรสหาย หรือคนอื่นๆ  เราก็บอกว่าวันนี้ไปทำบุญที่นู้น ที่นี่นั่นมา ให้ร่วมอนุโมทนาบุญกัน  

เพื่อนเรา บางคนก็เอ่ย อนุโมทนาสาธุ  บางคนก็สาธุ  บางคนก็ไม่พูดอะไรเลย  จริงๆแล้วการกล่าวเอ่ย อนุโมทนาบุญ มีความหมายนะครับ

หากเราไม่ได้เอ่ย อนุโมทนาบุญ ก็เหมือนกับเราไม่ได้บุญนั้น ที่เพื่อนเราไปทำมาแล้วมาบอกบุญครับ  

เหตุผลคือ  เช่น นายแดง กับ นายดำ

นายแดงเป็นคนรวยมาก มีเงินเยอะ(อาจเพราะถูกหวยมา)  เลยนำเงิน 500 มาให้นายดำ  (ฉันมีเงินอยู่ 500 บาท  ฉันให้แก่โว้ยเพื่อน แล้วก็ยื่นเงิน 500 บาทให้กับนายดำ)  นายดำอาจกระทำดังนี้

–  ขอบคุณมากเพื่อน แล้วก็ยื่นมือไปรับเงินที่นายแดงส่งให้ (เงิน500 บาทนั้นก็เป็นของนายดำ) หรือ

– นายดำยืนเฉยๆ แล้วก็ไม่ได้เอาเงินนั้นมา หรืออาจจะบอกนายแดงว่า ไม่เอาเพื่อน ไม่เป็นไร

ก็เหมือนกับการเอ่ย อนุโมทนาบุญ กับ ไม่เอ่ยแหละครับ  ถ้าเราเอ่ย “อนุโมทนาบุญสาธุ”   บุญที่เพือนส่งให้นั้น ก็ถือว่าเป็นของเรา เพราะเราเอ่ยปากรับคำนั้นแล้ว  แต่หากเราไม่เอ่ย “อนุโมทนาบุญ สาธุ”  ก็เหมือนบอกปัดไม่รับบุญนั้นครับ 

ที่นี้พอเข้าใจนะครับว่า ทำไมถึงต้องเอ่ย คำว่า “อนุโมทนาบุญ สาธุ”  แล้วนะครับ

ตัวอย่างที่สอง  (เวลาเราใส่บาตร ทำบุญอุทิศส่วนกุศล ให้ผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วให้ได้รับผลบุญนั้นด้วย เราจะรู้ได้อย่างไรว่าได้รับ หรือ ได้รับเมื่อไหร่ หรือมีโอกาสได้รับไหมครับ )  มาดูตัวอย่างนี้ครับ

ปกติดคนเรานั้น เวลามีชีวิตทำบุญ ทำกรรมมาไม่เหมือนกัน บางคนทำบุญเยอะ บางคนทำกรรมหนัก  เสียชีวิตไป คนทำบุญเยอะ (ความเชื่อ) ก็คือได้ขึ้นสวรรค์ คนทำกรรมมาก (ตายไปก็อาจจะตกนรก ) แล้วแต่ว่า กรรมหนัก กรรมเบา  โอกาสที่จะได้กลับมารับผลบุญก็ต่างเวลากัน บางคนก็กรรมหนักมาก ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ตีพ่อตีแม่ ก็อาจจะไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด เลยด้วยซ้ำ  

ประตูยมบาล จึงมีเวลาเปิด ปิด ที่โบราณบอกว่า วันนี้วันโกน หรือวันพระ จะมีวิญญาณมาขอส่วนบุญ 

ดังนั้น เวลาเราใส่บาตรทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้ใครก็แล้วแต่ หากคนที่ทำกรรมหนักเอาไว้ บุญที่ลูกหลานทำให้ ก็จะไปกองไว้หน้าประตู รอเวลามีคนมาอนุโมทนาบุญ  

ดังนั้น เวลาเราทำบุญให้เอ่ยว่า  บุญกุุศลที่ได้ทำนี้ ขออุทิศให้………… หากมีโอกาสครั้งใด ขอให้ได้อนุโมทนาบุญสาธุ ด้วยเทอญ

เมื่อดวงวิญญาณ ดวงนั้นมีโอกาส มีเวลา ได้ออกมารับส่วนบุญส่วนกุศล ก็จะมีโอกาสได้อนุโมทนาบุญ กับบุญที่ลูกหลานได้ทำบุญส่งมาให้

สาธุ

ขอ อนุโมทนา บุญ กับ ทุก ท่าน

"สาธุ"กับอนุโมทนา" ใช้คำไหนจะได้บุญ

2 คำนี้ เราคงใช้กันอย่างยาวนานแล้ว เมื่อเราได้เห็นใครทำบุญ เรามักจะกล่าว 2 คำนี้ แต่ 2 คำนี้ ไม่เหมือนกัน

คำว่า "สาธุ" แปลว่า "ดีแล้ว" ใช้แสดงความเห็นด้วยกับการทำบุญของคนๆนั้น เช่น เรา เห็นคนทำบุญตักบาตร เราก็กลาวว่า "สาธุ"

แต่เรากล่าว สาธุ เราจะไม่ได้บุญใดๆ เพราะสาธุ เป็นการบอกเฉยๆว่า ดีแล้ว

เช่น "คุณทำบุญนี้ดีแล้วหละ"

ส่วน คำว่า "อนุโมทนา" แปลว่า ขอให้เรามีส่วนร่วมในบุญของคุณด้วย

เป็นการ จงใจที่จะขอมีส่วนร่วมในบุญของคนที่ทำบุญ เช่น เมื่อเราเห็นคนทำบุญตักบาตร แล้วเราไปกล่าวกับเขาว่า ขออนุโมทนา ในบุญนี้ด้วย

เราจะได้บุญนั้นไปด้วย คือ เราจะได้บุญจากการตักบาตรไปด้วย ทั้งๆที่เราไม่ได้ตักบาตรด้วยตัวเราอง

เห็นหลายๆคน มักจะใช้คำว่า สาธุ บ่อยมาก เวลาเห็นคนทำบุญ เช่น คนที่กล่าว สาธุ แทบจะไม่ได้บุญใดๆ หรือ ได้น้อยมาก เพราะไม่ได้มีเจตนา ที่จะขอมีส่วนร่วมในบุญนั้นให้เกิดกับตัวเอง

ดังนั้น หากเราอยากได้มีส่วนในบุญของคนอื่น ต้องกลาวว่า "ขออนุโมทนา"

โดย ต้องมีคำว่า "ขอ" ด้วย เป็นการแสดงเจตนาที่อยากจะได้บุญนั้น

การขออนุโมทนา คือ บุญ เพราะ อนุโมทนา เป็น 1 ใน บุญกิริยาวัตถุ 10 ในข้อ ปัตตานุโมทนามัยบุญ

แปลว่า บุญที่สำเร็จจากการขอมีส่วนร่วมในบุญคนอื่น

แต่อย่าใช้คำว่า "โมทนา" นะครับ เห็นหลายคนใช้ผิดกันมาก

คำว่า "โมทนา" ไม่มีอยู่ในพระพุทธศาสนา เป็นการเรียกกันเองแบบย่อๆ จากอนุโมทนา ถ้าเราทำบุญแล้วอุทิศบุญ ให้ บิดามารดา หรือ ญาติเราที่เสียไป แล้วบอกว่า ท่านว่า "หนูขออุทิศบุญให้กับคุณพ่อ ขอให้คุณพ่อ โมทนา ด้วยนะ "

ท่านอาจจะไม่อนุโมทนา และจะไม่ได้บุญจากเรา เพราะเราใช้คำผิด

เพราะในโลกวิญญาณ หรือโลกทิพย์ จะไม่รู้จักคำว่า โมทนา

ตัองใช้คำว่า อนุโมทนาและไม่ควรใช้ "อนุโมทนามิ" หรือ "โมทามิ" เพราะเป็นคำบาลีแบบดั้งเดิมที่เป็นภาษาบทสวด

และไม่ได้นำมาในการ กล่าวขอมีส่วนร่วมในบุญ

ให้ใช้ว่า "ขออนุโมทนา" แค่นี้ก็ได้บุญแล้ว

นอกจากเราจะพูดว่า "ขออนุโมทนา" แล้ว เราสามารถเขียน คำนี้ก็ได้

เช่น เมื่อเราเล่น facebook แล้ว เห็นคนมาโพสงานบุญที่เขาได้ทำไว้

เราก็เขียนตอบไปว่า "ขออนุโมทนาด้วย" เราก็จะได้บุญนั้นทันที

ถ้าเห็นเขาโพสเรื่องเขาได้ไปทำบุญสร้างพระพุทธรูป แล้วเราไม่ได้สร้าง แต่เราเขียนในโพสว่า "ขออนุโมทนา" เราจะได้บุญจากการสร้างพระไปในทันที หรือ เขียนว่า "ขออนุโมทนาบุญนี้ด้วยนะครับ"

"ขออนุโมทนาในบุญของคุณด้วยนะคะ" หรือ "ขออนุโมทนา" เฉยๆก็ได้

แม้ว่า เราจะกล่าว "ขออนุโมทนา" แต่เราจะไม่ได้บุญเท่ากับ คนที่ได้ทำบุญนั้นด้วยตัวเอง

เราจะได้บุญแค่ 10 -20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนคนที่ทำบุญนั้นด้วยตัวเอง จะได้บุญไป 100 เปอร์เซ็นต์ บุญจากการกล่าว "ขออนุโมทนา" สามารถหนุนนำให้เราเมื่อตายไป จะได้ไปเกิดในสุขคติภูมิได้ คือ เกิด เป็นมนุษย์ หรือ เทวดา หรือ บุญนั้นจะตามส่งให้เราได้ ลาภ ยศ สรรเสริญ เป็นอานิสงส์ตามมาเช่นเดียวกับ คนที่ทำบุญด้วยตัวเอง ขออนุโมทนาบุญที่ทุกท่านได้มาอ่านบทธรรมะนี้ด้วย 

ขอ อนุโมทนา บุญ กับ ทุก ท่าน
(อ้างอิงที่มา เขียนโดย อ.รักคำราม)