1. การใช้กระบวนการแก้ปัญหามีประโยชน์อย่างไร 1. สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นระบบ 2. สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง 3. สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกอย่าง 4. สามารถสร้างเงื่อนไขในการแก้ปัญหาของตนเองได้ 2. กระบวนการแก้ปัญหาจะต้องเริ่มจากขั้นตอนใดเป็นขั้นตอนแรก 1. ดำเนินการแก้ไข 2. วางแผนการแก้ปัญหา 3. ตรวจสอบและปรับปรุง 4. วิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหา 3. ข้อใดคือรูปแบบของการระบุข้อมูลออก 1. การพิจารณาข้อมูลและเงื่อนไขที่กำหนดมาในปัญหา 2. การพิจารณาเป้าหมายหรือสิ่งที่ต้องการหาคำตอบ 3. การพิจารณาขั้นตอนวิธีการได้มาซึ่งคำตอบหรือข้อมูลออก 4. ไม่มีข้อใดถูก 4. ขั้นตอนต่อไปนี้ เป็นขั้นตอนที่ต้องดำเนินการอย่างระเอียดและต้องมีการวางแผนอย่างถูกวิธี 1. ดำเนินการแก้ปัญหา 2. เลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธี 3. ตรวจสอบและปรับปรุง 4. วิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหา 5. จงเรียงลำดับขั้นตอนการแก้ปัญหาให้ถูกต้อง 1. วิเคราะห์ --> ดำเนินการ --> ตรวจสอบ --> วางแผน 2. วิเคราะห์ --> วางแผน --> ดำเนินการ --> ตรวจสอบ 3. วางแผน --> วิเคราะห์ --> ตรวจสอบ --> ดำเนินการ 4. วางแผน --> วิเคราะห์ --> ตรวจสอบ --> ปรับปรุง 6. ข้อใดคือปัจจัยหลักที่ทำให้การวางแผน ในการแก้ปัญหาของแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกัน 1. โชคชะตา 2. ความรู้และประสบการณ์ 3. อาชีพ 4. ตำแหน่งงาน 7. อัลกอริทึม (Algorithm) หมายถึงอะไร 1. การจำลองความคิดเพื่อวางแผนขั้นตอนในการแก้ปัญหาทางคอมพิวเตอร์ 2. กระบวนการใช้ภาษาคอมพิวเตอร์เพื่อกำหนดโครงสร้างของข้อมูล 3. ลักษณะของปัญหา ความถนัดของผู้เขียนโปรแกรม 4. โครงสร้างแสดงขั้นตอนการทำงานที่เป็นไปตามลำดับก่อนหลัง 8. จากรูป คือ สัญลักษณ์ ที่มีความหมายว่าอย่างไร 1. การแสดงข้อมูล 2. การทำเอกสาร 3. การเตรียมการ 4. การปฏิบัติงาน9 – 10 จากข้อความต่อไปนี้ใช้ตอบคำถามข้อ 9 – 10 9. จากประโยคข้างต้น ข้อใดคือขั้นตอนการวิเคราะห์ปัญหา 1. นักเรียนทำการบ้านและนำสมุดมาโรงเรียน 2. นักเรียนจะไปทำการบ้านที่โรงเรียน 3. นักเรียนลืมเอาสมุดการบ้านมา 4. นักเรียนทำการบ้านเสร็จแล้ว 10. ข้อใดคือขั้นตอนของการวางแผน 1.นักเรียนทำการบ้านเสร็จแล้ว 2.นักเรียนลงมือทำการบ้านที่โรงเรียน 3.นักเรียนโดนครูทำโทษ 4.นักเรียนจะไปทำการบ้านที่โรงเรียนในการทำงาน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และปัญหาที่เกิดขึ้นในหลาย ๆ ครั้ง ก็เป็นปัญหาที่ทีมงานคาดไม่ถึงมาก่อน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าต้องใช้ไหวพริบ และเป็นการวัดกึ๋นของทีมได้เลยว่า มีการจัดการปัญหาได้ดีเพียงไร จริง ๆ แล้วเรื่องการแก้ไขปัญหาหลายคนอาจคิดว่า มันเป็นทักษะเฉพาะตัวหรือเปล่า ฝึกได้จริง ๆ เหรอ ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ค่ะ ขอเพียงตั้งใจ แล้วทำตาม 6 ข้อด้านล่างนี้ เชื่อว่าจะช่วยพัฒนาสกิลการแก้ปัญหาได้บ้างไม่มากก็น้อย 1. ดูจากผู้มีประสบการณ์ แน่นอนว่าไม่มีใครทำทุกอย่างเป็นตั้งแต่เกิด เมื่อเริ่มเข้าทำงานแรกยังเป็นหนุ่มสาวหน้าใหม่ไฟแรง มีโอกาสได้ทำงานใกล้ชิดกับหัวหน้าเก่ง ๆ ก็อย่าลืมรีบเร่งฉกฉวยโอกาสเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ ที่ผู้มีประสบการณ์ถ่ายทอดให้ เริ่มแรกถ้ายังไม่มีประสบการณ์ก็เรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์นี่แหล่ะดี อาจจะเป็นการเรียนรู้จากหน้างานเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นจริงก็ได้ หรือเกิดจากการสอบถามถึงเคสต่าง ๆ ที่ผู้มีประสบการณ์เคยเจอ เคยผ่านมาให้พี่ ๆ เล่าให้ฟัง เพื่อเตรียมตัวโดยไม่ต้องรอให้ปัญหาเกิดขึ้นก่อนแล้วค่อยไปถาม แล้วเราจำไปใช้ก็ได้เช่นกันค่ะ 2. ทำความเข้าใจกับเรื่องที่ทำให้ถ่องแท้ ฟังจากผู้มีประสบการณ์ก็คงช่วยได้จุดหนึ่ง แต่จะดีมาก ๆ ถ้าเรามีความเข้าใจพื้นฐานต่อเนื้องานที่เรากำลังทำอย่างถ่องแท้ เข้าใจในทุกมุม ความเข้าใจช่วยได้ในหลายส่วนหากมีปัญหาที่ไม่ได้คาดคิดเกิดขึ้น เราจะรู้ทันทีว่าต้องไปตามแก้ที่จุดไหน กับใคร และเราจะสามารถ catch up งานได้ทันว่า โปรเจกต์นี้ดำเนินการไปถึงจุดไหนแล้ว 3. ฝึกวิเคราะห์ปัญหา การรู้เหตุแห่งปัญหา และผลที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง และไม่หลอกตัวเองย่อมทำให้รู้หนทางแห่งการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง เมื่อทำงานมาได้ระยะหนึ่ง เริ่มรู้และเข้าใจ flow การทำงานทั้งหมด สิ่งที่สำคัญก็คือต้องฝึกคิดวิเคราะห์แยกแยะปัญหาให้เป็น เพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างแม่นยำ 4. ฟังอย่างแตกฉาน ที่สำคัญไม่แพ้การพูด ก็คือ “การฟัง” หลายคนเข้าใจผิด หลงลืมมองข้ามการฟังที่ดีไป ทำให้ตีความผิดในหลายเรื่องและนำมาซึ่งความไร้ประสิทธิภาพของการแก้ปัญหา เวลาฟัง จงฟังอย่างตั้งใจ และคิดตามไปด้วย อย่าได้ใจลอย คิดไปถึงเรื่องอื่น ๆ ที่สำคัญจับประเด็นให้ได้ ว่าผู้ส่งสารต้องการจะบอกอะไรกับเราบ้าง แล้วเราจะนำมาวางแผนการแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี 5. เล่าให้มีประเด็น สลับกันกับข้อด้านบน เวลาเป็นคนเล่า ก็ต้องเล่าอย่างมีประเด็นด้วย เล่าให้ผู้ฟังเข้าใจว่าเราต้องการจะสื่อสารอะไรกับเรื่องนี้ และจะขอความเห็นใน next step อย่างไรก็ว่ากันไป การจะเล่าก็ต้องเตรียมตัว เรียบเรียงประเด็นต่าง ๆ นหัวแล้วค่อยพรั่งพรูออกมา ในกรณีที่เกิดปัญหาขึ้นแล้วต้องเล่า ต้องพยายามเล่าให้ครบถ้วนใจความแต่กระชับมากที่สุด เพื่อจะได้เอาเวลาไปคิดวางแผนวิธีรับมือแก้ไขกับปัญหาได้ทัน 6. ทีมเวิร์ค สุดท้ายคือเรื่องราวของทีมเวิร์ค ในบางครั้ง ปัญหาที่เกิดขึ้นมาออาจไม่ใหญ่โตมากนัก ลำพังคนเพียงคนเดียวก็เอาอยู่ แต่อีกในหลายครั้งหลายคราที่ปัญหาเกิดมา ต้องการทีมงานมาช่วยกันแก้ไขปัญหา คน ๆ เดียวอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมดอย่างรวดเร็วทันการณ์ การทำงานการเป็นทีมเวิร์คจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ทุกคนต้องรู้หน้าที่ของตัวเองว่าบทบาทของเราจะช่วยแก้ปัญที่เกิดขึ้นได้ตรงไหน และพยายามผลักดันให้การแก้ปัญหาได้ลุล่วงไปถึงเป้าหมายได้ในที่สุด ประสบการณ์การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่สะสมกันมาเป็นสิ่งสำคัญ และควรจำไปใช้ตลอดชีวิตการทำงาน แต่ที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าประสบการณ์ก็คือการฝึกฝนนั่นเอง อย่าลืมพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาของตัวเองอยู่ตลอดเวลา และอย่าเหนื่อยหน่ายที่จะต้องทำมัน เพราะปัญหาเป็นของคู่กับชีวิต ตราบใดที่ยังไม่ลาจากโลนี้ไปก็ทำใจเถอะนะ สู้ ๆ สู้ตายค่ะ ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ หลัก 3 ประการสร้างพนักงานให้เป็นนักแก้ปัญหา ศิลปะในการแก้ปัญหาของคนทำงาน |