ประกันภัย รถยนต์ ชั้น 1 กับ 2 ต่าง กัน อย่างไร

04 June 2565

ไม่ว่าจะตั้งสติก่อนสตาร์ทรถกี่ครั้ง อุบัติเหตุก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้น เพื่อเพิ่มความอุ่นใจให้กับการใช้รถใช้ถนน การทำประกันรถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่เจ้าของรถยนต์ควรพิจารณาอย่างรอบด้าน และแน่นอนว่า เมื่อพูดถึงการพิจารณาทำประกันภัยสำหรับรถยนต์ทีไร นอกจากจะต้องพิจารณาถึงเงื่อนไขต่าง ๆ แล้ว เจ้าของรถยนต์หลาย ๆ คนอาจเกิดคำถามเกี่ยวกับประเภทของประกันรถยนต์ ว่าควรเลือกอย่างไร หากใครกำลังอยู่ในช่วงพิจารณาว่าจะซื้อประกันชั้น 1 หรือประกันชั้น 2 ดี หรือกำลังสงสัยว่าประกันทั้งสองประเภทนี้แตกต่างกันอย่างไร ทำไมมีราคาค่าเบี้ยประกันที่ไม่เท่ากันทั้ง ๆ ที่ให้ความคุ้มครองไม่ต่างกันมาก หากใครกำลังสงสัยเช่นนี้อยู่ เตรียมเครื่องยนต์ให้พร้อม แล้วแวะมารู้จักกับประกันรถยนต์ในแต่ละประเภทกันได้เลย!

ประกันชั้น 1คืออะไร?

ก่อนที่จะไปดูว่าประกันชั้น 1 และ 2 มีความแตกต่างกันอย่างไร มาแวะพักทำความเข้าใจและรู้จักทุกรายละเอียดของประกันรถยนต์ชั้น 1 กันก่อน 

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คือ ประกันรถยนต์รูปแบบหนึ่งที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทุกอุบัติเหตุ ทั้งแบบมีและไม่มีคู่กรณี อีกทั้งยังให้ความคุ้มครองในเรื่องของเหตุสุดวิสัยอย่างภัยธรรมชาติ น้ำท่วม รถหาย และรถไฟไหม้อีกด้วย 

นอกจากนี้ ประกันชั้น 1 ยังช่วยคุ้มครอง และรับผิดชอบคู่กรณีด้วยเช่นกัน ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ประกันประเภทนี้ก็จะชดเชยค่าอุบัติเหตุ ค่าซ่อมรถยนต์ และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของคู่กรณีให้ ถือได้ว่าเป็นประกันรถยนต์อีกหนึ่งประเภทที่แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบที่มีต่อตัวเองและผู้ใช้รถและท้องถนนอย่างแท้จริง

และด้วยความคุ้มครองที่ครอบคลุมกับทุกอุบัติเหตุและความเสียหาย ประกันชั้น 1 จึงเหมาะสำหรับมือใหม่หัดขับที่ยังไม่เชี่ยวชาญการขับรถยนต์มากนัก ไปจนถึงรถยนต์คันใหม่ที่เพิ่งถอยมาได้หมาดๆ รวมไปถึงรถยนต์ทุกรุ่น และราคาที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 10 ปี 

ประกันชั้น 2คืออะไร?

หากรู้สึกว่ารถยนต์ ประสบการณ์การขับขี่ และงบประมาณของตัวเองยังไม่ลงล็อกกับประกันชั้น 1 บริษัทประกันภัยชั้นนำหลาย ๆ แห่งก็มาพร้อมกับตัวเลือกอย่างประกันชั้น 2 ให้เจ้าของรถยนต์ทุกคนได้พิจารณาร่วมด้วยเช่นกัน

โดยประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 นั้นจะเป็นประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองรองลงมาจากประกันรถยนต์ชั้น 1 กล่าวคือ ประกันประเภทนี้จะให้ความคุ้มครองทรัพย์สินและตัวของคู่กรณี อีกทั้งยังครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของทั้งผู้เอาประกัน และคู่กรณี นอกจากนี้ยังครอบคลุมไปถึงการประกันตัวของผู้เอาประกันด้วย

แต่สำหรับรถยนต์ของผู้เอาประกันที่มีความคุ้มครอง ประกันชั้น 2 จะคุ้มครองเฉพาะในกรณีสูญหายและไฟไหม้เท่านั้น ดังนั้น หากรถยนต์เสียหายจากอุบัติเหตุ แม้จะมีคู่กรณี บริษัทประกันก็จะไม่ให้ความคุ้มครอง

จากการคุ้มครองทั้งหมดนี้ ประกันชั้น 2 จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ในการขับขี่พอสมควร อีกทั้งยังมีพฤติกรรมขับรถยนต์ไม่ประมาทและเกิดอุบัติเหตุน้อย รวมถึงยังเหมาะสำหรับรถยนต์ที่มีอายุไม่เกิน 25 ปีอีกด้วย

รู้หรือไม่?
ประกันรถยนต์ชั้น 2 และ 2+ นั้นให้ความคุ้มครองแตกต่างกัน โดยประกันรถยนต์ชั้น 2+ นั้นจะคุ้มครองครอบคลุมไปถึงกรณีการเกิดอุบัติเหตุบนบก หรือ รถยนต์ชนกันด้วย ซึ่งหมายความว่า หากรถยนต์ชนกันและเราได้ทำประกันชั้น 2+ เอาไว้ บริษัทประกันก็จะจ่ายเงินให้นั่นเอง

ทำไมประกัน 2 ตัวนี้ราคาไม่เท่ากัน?

ประกันชั้น 1 และประกันชั้น 2 นั้นให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด จึงทำให้เบี้ยประกันที่ต้องจ่ายนั้นแตกต่างกันออกไป แต่อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากเรื่องของความคุ้มครองแล้ว เบี้ยประกันรถยนต์ทั้งในประเภทเดียวกัน หรือคนละประเภทยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ อีก เช่น

  • ค่าเสียหายส่วนแรก หากเลือกเป็นแบบจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเอง หรือ Deductibleค่าเบี้ยประกันรถยนต์ก็จะถูกลง
  • ประวัติการขับขี่ กรณีตลอดระยะเวลาความคุ้มครองของกรมธรรม์เดิมไม่เคยมีการแจ้งเคลม หรือมีประวัติการเคลมประกันรถยนต์ที่ฝ่าย “ถูก” ค่าเบี้ยประกันก็จะถูกลง
  • อายุของผู้ขับขี่ ระบุผู้ขับขี่เพื่อขอลดค่าเบี้ยประกันภัยลดลง 5 – 20% ขั้นอยู่กับอายุผู้ขับขี่ อายุผู้ขับขี่ยิ่งน้อย เบี้ยประกันรถยนต์ก็ลดน้อย
  • สถานที่ซ่อมรถยนต์ เช่น หากเลือกซ่อมอู่รถยนต์ก็อาจทำให้เบี้ยประกันราคาถูกกว่าซ่อมที่ศูนย์รถยนต์
  • วงเงินในการคุ้มครองกรณีอื่นเพิ่มเติม เช่น การกำหนดวงเงินการรักษาพยาบาลต่อครั้ง และวงเงินคุ้มครองทรัพย์สิน เป็นต้น 

ประกันชั้น 1 VS ประกันชั้น 2เจ้าของรถยนต์ควรซื้อตัวไหนดี?

ประกันภัย รถยนต์ ชั้น 1 กับ 2 ต่าง กัน อย่างไร

การพิจารณาเลือกซื้อประกันรถยนต์นั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เอาประกันเป็นหลัก โดยทั่วไปแล้ว การจะตัดสินใจเลือกประกันชั้น 1 หรือ 2 นั้นเริ่มต้นง่าย ๆ จากการพิจารณาอายุของรถยนต์เป็นลำดับแรก จากนั้นจึงค่อยดูถึงนิสัยและความเชี่ยวชาญในการขับขี่เพื่อหากรมธรรม์ที่คุ้มครองได้ครอบคลุมมากที่สุด และสุดท้ายจึงค่อยพิจารณางบประมาณของประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับตัวเอง

หากใครเพิ่งถอยรถยนต์มาใหม่ และรักรถมาก หรือเป็นมือใหม่หัดขับที่ยังไม่เชี่ยวชาญ การเลือกทำประกันชั้น 1 ก็อาจตอบโจทย์และให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากกว่า แต่สำหรับใครที่พอมีสกิลการขับรถยนต์ และต้องการประหยัดงบประมาณค่าเบี้ยประกันรถยนต์ ประกันรถยนต์ชั้น 2 หรือ 2+ ก็อาจลงตัวกับความต้องการมากกว่า

เลือกประกันรถยนต์ที่ถูกใจเลือกใช้บริการกับ “ศรีสวัสดิ์เงินสดทันใจ”

แต่สำหรับเจ้าของรถยนต์คนไหนที่ยังไม่รู้ว่าควรเลือกทำประกันรถยนต์แบบไหน หรือไม่รู้ว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ไหนให้ความคุ้มครองที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด “ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ” มาพร้อมกับประกันชั้น 1, 2 และทุกประเภทจากบริษัทประกันภัยชั้นนำของเมืองไทยให้ทุกคนได้เลือกสรรตามความต้องการ มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา เปรียบเทียบ และช่วยเลือกประกันรถยนต์ที่ดีที่สุดได้ พิเศษ! เมื่อทำประกันรถยนต์ที่ศรีสวัสดิ์ ไม่ต้องจ่ายเงินก้อน สามารถเลือกผ่อนชำระ 0% ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต สบาย ๆ ได้นาน 12 งวด หากสนใจ หรือ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 1652 หรือ “ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ” ได้ทุกสาขาใกล้บ้าน

ประกัน ชั้น 1 ต่าง กับ ชั้น 2+ ต่างกันอย่างไร

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมเหมือนกับประกันรถยนต์ชั้น 1 ทุกอย่าง ยกเว้น ความเสียหายต่อรถยนต์ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะคุ้มครองกรณี รถชนรถ เท่านั้น ส่วน ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองทุกกรณีไม่ว่าจะรถชนรถ หรือรถชนต้นไม้ เสาไฟฟ้า เกาะกลางถนน เป็นต้น

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คืออะไร

คุ้มครอง ครอบคลุม ครบครัน ความเสียหายต่อตัวรถยนต์ ทั้งรถชน รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม ภัยธรรมชาติ หรือรถยนต์เสียหายจากอุบัติเหตุ ภัยก่อการร้าย คุ้มครองผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และบุคคลภายนอก วางแผนรับมือล่วงหน้ากับสิ่งที่ไม่คาดคิด ให้การขนส่งของธุรกิจคุณไม่สะดุด เปรียบเทียบ ความคุ้มครอง

ประกันภัย ชั้น 2 และ 3 ต่างกันอย่างไร

ความคุ้มครอง ประกันชั้น 2 + vs ประกันชั้น 3+ เริ่มที่เรื่องสำคัญเลยนะครับ ประกันชั้น 2 พลัส และ ประกันชั้น 3 พลัส มีความคุ้มครองที่แตกต่างกันอยู่ครับ โดยความคุ้มครองที่ประกันชั้น 2+ มี แต่ประกันชั้น 3+ ไม่มี ดังนี้ครับ ความคุ้มครองกรณีรถหาย หรือถูกโจรกรรม ความคุ้มครองกรณีรถเกิดเพลิงไหม้ ความคุ้มครองจากภัยก่อการร้าย

ประกัน ชั้น 2 กับ ชั้น 2+ ต่างกันอย่างไร

ความครอบคลุมคุ้มครองที่ไม่เท่ากัน และราคาที่แตกต่างกันนั่นเอง ประกันชั้น 2 จะราคาถูกกว่าเล็กน้อย แต่ก็แลกมาด้วยความคุ้มครองที่น้อยกว่าเช่นกัน ซึ่งประกันชั้น 2 นั้นเค้าจะคุ้มครองแค่ ซ่อมเค้า ถ้าเกิดเราไปขับรถชนใครเข้า ไม่ว่าจะแผลเล็กหรือแผลใหญ่แค่ไหนก็ต้องควักเงินจ่ายซ่อมเองอยู่ดี นี่จึงเป็นเหตุผลที่คนไทยไม่ค่อยใช้ ...