สารบัญ Show ความหมายของสิ่งแวดล้อมศึกษา ความเป็นมาของสิ่งแวดล้อมศึกษา หลักการของสิ่งแวดล้อมศึกษา เป้าหมายและวัตถประสงค์ของสิ่งแวดล้อมศึกษา แนวทางในการจัดสิ่งแวดล้อมศึกษา การประยุกต์ใช้สิ่งแวดล้อมศึกษากับวิชาชีพอื่นๆ จริยธรรมสิ่งแวดล้อม ความตื่นตัวทางสิ่งแวดล้อม ความหมายของสิ่งแวดล้อมศึกษา “สิ่งแวดล้อมศึกษา” แปลมาจากคำว่า “Environmental Education” ซึ่งได้มีการให้ความหมายของสิ่งแวดล้อมศึกษาไว้ มากมาย แต่ความหมายหนึ่งที่เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางได้มาจากการประชุมที่เมืองทบิลิซี่ (Tbilisi) ประเทศสหภาพโซเวียต เมื่อปี พ.ศ. 2520 ซึ่งสรุปความหมายของคำว่า “สิ่งแวดล้อมศึกษา” ไว้ว่า “สิ่งแวดล้อมศึกษา” คือ กระบวนการที่มุ่งสร้างให้ประชากรโลกมีความสำนึกและห่วงใยใน ปัญหา สิ่งแวดล้อม รวมทั้งปัญหาที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ มีความรู้ เจตคติ ทักษะ ความตั้งใจจริง และความมุ่งมั่นที่จะหาทางแก้ไขปัญหาที่เผชิญอยู่และป้องกันปัญหาใหม่ ทั้งด้วยตนเอง และด้วยความร่วมมือกับผู้อื่น” จากคำนิยามข้างต้น ทำให้หลายคนมองว่า สิ่งแวดล้อมศึกษา เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ทั้ง“ศาสตร์” และ “ศิลป์” เพราะ
ความเป็นมาของสิ่งแวดล้อมศึกษา เส้นทางเวลาของสิ่งแวดล้อมศึกษามีความเป็นมาตั้งแต่ พ.ศ. 2515 และมีพัฒนาการต่อเนื่องตั้งแต่การนิยามความหมาย การรวบรวมทฤษฎี การ วิจัยและการนำมาประยุกต์ใช้ มาจนถึงปัจจุบัน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
หลักการของสิ่งแวดล้อมศึกษา หลักการสิ่งแวด ล้อมศึกษา คือ หลักการอันเป็นแนวทางของสิ่งแวดล้อมศึกษาที่ได้กำหนดไว้ในปฏิญญาสากล เบลเกรด มี ดังนี้
เป้าหมายและวัตถประสงค์ของสิ่งแวดล้อมศึกษา เป้าหมายและวัตถุ ประสงค์ของสิ่งแวดล้อมศึกษา คือ การพัฒนามนุษย์ให้เกิดการลงมือกระทำเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น ทั้งการปรับ ปรุงแก้ไขปัญหาที่มีอยู่เดิม และการป้องกันปัญหาใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยการกระทำที่เกิดขึ้นมาจาก ความสมัครใจไม่ใช่การบังคับ โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่มีต่อสิ่งแวดล้อมจำเป็นต้องอาศัยกระบวนการใน การพัฒนาจากการ “ไม่รู้” เป็น “รู้” จาก “รู้” เป็น “ รู้สึก” จาก “รู้สึก” เป็น “คิดจะทำ” และจาก “คิดจะทำ” ไปสู่ “การลงมือกระทำ” จนเกิดเป็น พฤติกรรม หลายครั้งกระบวนการทางด้านสิ่งแวดล้อม ศึกษาไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากการลงมือกระทำที่เกิดขึ้นเป็นเพียง กิจกรรม ไม่ใช่ พฤติกรรม จึงไม่ เกิดผลใดๆต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของมนุษย์ให้ใส่ใจสิ่งแวดล้อมนั้น ผู้ดำเนิน การเน้นวัตถุประสงค์ ทั้ง 5 ข้อของสิ่งแวดล้อมศึกษาเป็นสำคัญ ได้แก่ ความรู้ ความเข้าใจ ความตระหนัก เจตคติ ทักษะและการมีส่วนร่วม ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับพื้นฐานการทำงานของธรรมชาติ ระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม สาเหตุของปัญหาสิ่งแวดล้อม สาเหตุของปัญหาสิ่งแวดล้อม ผลกระทบที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ รวมทั้งแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหา ความตระหนัก ถึงปัญหาและผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงความรู้สึกรักและหวงแหน มีจิตสำนึก และเห็นถึงคุณค่าความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจตคติ และค่านิยม ที่ดีต่อสิ่ง แวดล้อม ความตั้งใจจริงมุ่งมั่นที่จะปกป้องรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้คงสภาพดี แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เป็นอยู่ และป้องกันปัญหาใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ทักษะ ที่ควรให้มีการพัฒนา ได้แก่ ทักษะ ในการสังเกต การชี้บ่งปัญหา การเก็บข้อมูล การตรวจสอบ การวางแผน การวิเคราะห์ การแก้ปัญหา รวมถึง ทักษะในการตัดสินใจซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับสถานการณ์ปัญหาความขัดแย้งด้านสิ่งแวดล้อมของ สังคมไทยในปัจจุบัน การมีส่วนร่วม ทั้งในระดับบุคคลและระดับสังคม จะช่วยให้มนุษย์มี ประสบการณ์ในการนำความรู้และทักษะที่ได้รับมาใช้ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและสามารถทำงานร่วมกับ ผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนวทางในการจัดสิ่งแวดล้อมศึกษา สิ่งแวดล้อมศึกษา คือ “เครื่อง มือ” ที่สำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยอาศัยกระบวนการทางการศึกษา ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้หลายคนเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายที่เราควรจะจัดสิ่งแวดล้อมศึกษาให้ น่าจะเป็นกลุ่มนักเรียนซึ่งอยู่ในระบบ โรงเรียนเท่านั้น แต่หากลองพิจารณาถึงเป้าหมายและหลักการของสิ่งแวดล้อมศึกษาแล้วจะพบว่า เป้าหมายที่แท้ จริงของสิ่งแวดล้อมศึกษา คือ การพัฒนาคุณภาพของ “ประชากรโลก” โดยใช้กระบวนการ สิ่งแวดล้อมศึกษา ซึ่งเป็นกระบวนการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่เริ่มตั้งแต่ระดับก่อนวัยเรียนต่อเนื่องไปทุกระดับ ทั้งใน และนอกระบบโรงเรียน ดังนั้นสิ่งแวดล้อมศึกษาที่ดีจึงไม่ควรจำกัดกลุ่มเป้าหมายอยู่เฉพาะกลุ่มนักเรียนในระบบ โรงเรียนเท่านั้น แต่ควรจะจัดให้กับประชาชนทุกคนตามความเหมาะสม ซึ่งต้องมีการกำหนดประเด็นหรือเนื้อหา สาระให้สอดคล้องและเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เพราะในแต่ละบุคคลจะมีความสามารถในการรับรู้และเรียนรู้ ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับทั้งอายุ ระดับความสนใจ ความพร้อมของบุคคล อาชีพ ประสบการณ์ สภาพแวดล้อม รวม ถึงการศึกษา ฯลฯ รวมทั้งเลือกใช้วิธีการหรือกระบวนการให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายตามปัจจัยที่แตกต่างกัน ข้างต้น การประยุกต์ใช้สิ่งแวดล้อมศึกษากับวิชาชีพอื่นๆ ในฐานะที่สิ่งแวดล้อม ศึกษามีคุณลักษณะเป็นสหวิทยาการ ดังนั้นจึงสามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้กับสาขาอาชีพต่างๆได้ ยกตัวอย่าง เช่น โรงเรียน โรงเรียนถือว่าเป็นสถานที่บ่มเพาะบุคคลในด้านต่างๆ รวมไปถึงด้านสิ่งแวด ล้อม และโรงเรียนเป็นจุดเริ่มต้นจุดแรกที่ได้มีการนำสิ่งแวดล้อมศึกษามาใช้ประโยชน์ด้วย และมีการบรรจุให้หลักสูตรด้านสิ่งแวดล้อมศึกษาสู่ระบบการศึกษาไทยตั้งแต่ พ.ศ .2551 รวมถึงมีการจัดหลักสูตร เชิงบูรณาการและการจัดโครงการด้านสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนหลากหลายโครงการ เช่น ธนาคารขยะ การ ประหยัดพลังงานในโรงเรียน เป็นต้น หน่วยงานราชการ ได้มีการนำกระบวนการสิ่ง แวดล้อมศึกษามาใช้ในการสร้างจิตสำนึก ให้บุคลากรในหน่วยงานได้ตระหนักถึง การใช้ทรัพยากรในหน่วย งานอย่างรู้คุณค่าและรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น การประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้มีส่วนช่วยในการ ประหยัดงบประมาณให้กับหน่วยงาน และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชนทั่วไปอีกด้วย ธุรกิจ เอกชน บริษัท ห้างร้าน ใช้กระบวนการทางด้านสิ่งแวดล้อมศึกษาไปใช้ในด้านการจัดการความเรียบร้อย ความสะอาดในหน่วยงาน เช่น มีการจัดทำโครงการ 5 ส. รวมไปถึงใช้กระบวนการสิ่งแวดล้อมในแนวทางการ ลดต้นทุนการผลิต โดยการหมุนเวียนทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ รวมทั้งการประหยัดพลังงานในหน่วยงาน นอกจากจะได้ผลประโยชน์ในด้านลดต้นทุนแล้วยังได้ประโยชน์ในด้านภาพลักษณ์องค์กรที่ดีในด้านสิ่งแวดล้อม อีกด้วย นอกจากสาขาวิชาชีพข้างต้นแล้ว ในวงการวิชาชีพอื่นๆก็มีการนำกระบวนการทางสิ่งแวด ล้อมศึกษาไปประยุกต์ใช้เพื่อประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและตัวของหน่วยงานเอง เพราะประโยชน์ที่เกิดขึ้นจาก การนำสิ่งแวดล้อมศึกษาไปใช้เกิดขึ้นได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว จริยธรรมสิ่งแวดล้อม จริยธรรมสิ่งแวดล้อม (environmental ethics) เดิม มนุษย์ไม่เคยประสบปัญหาสิ่งแวดล้อมมากนัก แต่ในปัจจุบัน มนุษย์ประสบกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง อันเนื่องจากทรัพยากรธรรมชาติเหลือน้อยลง การใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในทางที่ผิด เช่น การทดลอง ระเบิดปรมาณู การทำลายป่าไม้ ฯลฯ ทำให้ระบบนิเวศเปลี่ยนแปลง และเสียสมดุล ส่งผลกระทบต่อชีวิตของ มนุษย์เอง ปัจจุบันสังคมไทยมีปัญหาสิ่งแวดล้อม จึงจำเป็นต้องนำจริยธรรมสิ่งแวดล้อมมาศึกษาให้ครบทุกด้าน โดยการบูรณาการกับทุกกิจกรรม เช่น การรู้จักประมาณในการบริโภคหรือทางสายกลางในการใช้สอย การ กตัญญูกตเวทีรู้คุณค่าของสิ่งแวดล้อม การเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เป็น ต้น หลักการของจริยธรรมทางสิ่งแวดล้อม ตามที่นักนิเวศวิทยา Miller ได้เสนอในโลกทรรศน์แนว “Sustainable-Earth Worldview “ นั้น เราอาจพบได้ในคำสอนของศาสนาที่สำคัญ ๆ ของโลก หลักการ นี้ไม่ใช่ของใหม่ หากแต่เป็นสัจธรรมนิรันดรซึ่งมีมานานแล้ว บางคนอาจจะบอกว่าเป็นอุดมคติมากเกินไป เป็น เรื่องที่ปฎิบัติได้ยาก ในความเป็นจจริง จริยธรรมต้องการจะตักเตือนใจเราว่าวิถีทางที่กำลังดำเนินอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ ผิด เป็นหนทางที่นำไปสู่การล่มสลายของสิ่งแวดล้อม และเป็นอันตรายต่อชีวิตของสิ่งมีชีวิตทั้งปวงในโลกธรรม ชาติ กลุ่มคนที่มีโลกทรรศน์ “Sustainable-Earth Worldview “ เชื่อว่า เราควรสร้างสรรค์ สังคมใหม่ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรัก เมตตาธรรม ความร่วมมือกัน ความยุติธรรม และความห่วงใยต่อเพื่อน มนุษย์และสรรพสัตว์ในโลกธรรมชาติ สังคมใหม่แบบนี้จะเป็นสังคมที่ยั่งยืน ผู้คนมีชีวิตอยู่อย่างมีคุณภาพ ส่วน สังคมอุตสาหกรรมนิยมที่เรากำลังพบเห็นอยู่ในขณะนี้นั้นเป็นสังคมที่เน้นความเห็นแก่ตัว การแข่งขัน ความก้าว ร้าว การแสวงหาวัตถุและความเจริญสูงสุด และการขูดรีดธรรมชาติสังคมแบบนี้มีแต่จะทำลายล้างสิ่งแวดล้อม และชีวิตจิตใจของมนุษย์ โลกทรรศน์แนว”Sustainable-Earth Worldview” ต้องการให้มี “การปฎิ วัติสังคม” ที่เน้นการเปลี่ยนแปลงทางจิตสำนึกนั่นเอง จริยธรรมทางสิ่งแวดล้อมใหม่ ชี้ให้เรา เห็นว่า มนุษย์เรามี ” ความต้องการ” 2 แบบ ความต้องการที่ไม่จำเป็น กับความต้องการที่แท้จริง ระบบอุตสาหกรรมนิยมมุ่งเน้นแต่เรื่องกระตุ้นความต้องการที่ไม่จำเป็นซึ่งใช้ทรัพยากรมาก สิ่งที่ถูกต้องคือ เรา สนองความต้องการแบบที่แท้จริงเท่านั้น ซึ่งหมายความว่า วิถีชีวิตแบบใหม่จะต้องมีลักษณะเรียบง่าย ปฎิเส ธบริโภคนิยม ไม่ลุ่มหลงในวัตถุ และใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย Miller กล่าวว่า การที่เราจะมองโลกทรรศน์แนว “Sustainable-Earth worldview” ได้นั้น เราต้องผ่านการยกระดับ “ความตื่นตัวทางสิ่งแวดล้อม” (environmental awareness) 4 ระดับ ด้วยกัน คือ ความตื่นตัวทางสิ่งแวดล้อม
การตื่นตัวทั้ง 3 ระดับ ยังคงมีลักษณะที่ให้ความสำคัญสูงสุดแก่มนุษย์ (human- centered) เราแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายเพื่อความสุขสมบูรณ์ของมนุษย์ วิธีการแบบนี้อยู่ตรง กันข้ามกับ life-centered โลกทรรศน์กระแสหลักยังคงเป็นโลกทรรศน์ที่เน้นการเจริญเติบโตทางเศรฐกิจ มนุษย์ยัง คงมีฐานะที่สำคัญกว่าธรรมชาติ และอยู่เหนือธรรมชาติ
จริยธรรมสิ่งแวดล้อม คืออะไรจริยธรรมสิ่งแวดล้อม (Environmental Ethic) เป็นหลักการปฏิบัติ เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมส าหรับมนุษย์ที่ยึดความดีงาม ความถูกต้องตามหลักคุณธรรม และความเมตตาที่พึงปฏิบัติต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะมีผลกระทบต่อชีวิตและต่อมนุษย์ ด้วยกัน การที่มนุษย์พึงปฏิบัติต่อสิ่งแวดล้อมจึงประกอบด้วยรากฐานความเชื่อมั่น ในเชิงคุณธรรมที่มีความแตกต่างใน ...
ด้านสิ่งแวดล้อม มีอะไรบ้าง1) สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ ได้แก่ อากาศ ดิน ลักษณะภูมิประเทศ ลักษณะ ภูมิอากาศ ทัศนียภาพต่าง ๆ ภูเขา ห้วย หนอง คลอง บึง ทะเลสาบ ทะเล มหาสมุทรและทรัพยากรธรรมชาติทุกชนิด 2) สิ่งแวดล้อมทางชีวภาพหรือชีวภูมิศาสตร์ ได้แก่ พืชพันธุ์ธรรมชาติต่าง ๆ สัตว์ป่า ป่าไม้ สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่อยู่รอบตัวเราและมวลมนุษย์
สิ่งแวดล้อมมีความหมายว่าอย่างไรสิ่งแวดล้อม คือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวมนุษย์ทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต รวมทั้งที่เป็นรูปธรรม (สามารถจับต้องและมองเห็นได้) และนามธรรม (ตัวอย่างเช่นวัฒนธรรมแบบแผน ประเพณี ความเชื่อ) มีอิทธิพลเกี่ยวโยงถึงกัน เป็นปัจจัยในการเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ผลกระทบจากปัจจัยหนึ่งจะมีส่วนเสริมสร้างหรือทำลายอีกส่วนหนึ่ง อย่างหลีก ...
ความสําคัญของสิ่งแวดล้อมมีอะไรบ้างความสำคัญของสิ่งแวดล้อมที่มีต่อสิ่งมีชีวิต
เช่น น้ำใช้เพื่อการบริโภคและเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ อากาศใช้เพื่อการหายใจของมนุษย์และสัตว์ ดินเป็นแหล่ง ที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตบนบก แสงแดดให้ความร้อนและช่วยในการสังเคราะห์แสงของพืช
|