Show ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสถานการณ์ COVID-19 รวมไปถึงสภาวะสังคม และเศรษฐกิจในปัจจุบัน ส่งผลกระทบกับคนไทยไม่มากก็น้อย ไม่เพียงต้องสู้กับปัญหาด้านการงาน การเงิน และการดูแลสุขภาพร่างกาย แต่ยังรวมไปถึงสภาวะของจิตใจที่ยิ่งมีความเปราะบางในช่วงเวลาเช่นนี้ ซึ่งง่ายต่อการเกิดความเครียดสะสม และอาจพัฒนาไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้โดยไม่รู้ตัว ดังนั้นเราจึงอยากชวนทุกคนมาสังเกตตัวเองว่าป่วยเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่ และหากป่วยเป็นโรคนี้ก็ไม่ต้องกังวลใจเพราะในปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคนี้มากขึ้นและเป็นที่ยอมรับในสังคมไทย ทำให้มีตัวช่วยหรือมีคุณหมอเฉพาะทางที่คอยให้คำปรึกษา เพียงแค่เปิดใจเข้ารับการรักษาก็สามารถช่วยให้คุณหายจากโรคนี้ได้ รู้จักโรคซึมเศร้าโรคซึมเศร้า คือ โรคทางจิตเวชชนิดหนึ่งที่เกิดจากความผิดปกติของสมอง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความคิด อารมณ์ ความรู้สึก พฤติกรรม รวมถึงสุขภาพร่างกาย และคนส่วนใหญ่มักคิดว่าโรคซึมเศร้าหายเองได้ แต่ความจริงต้องอาศัยการบำบัดรักษาทางจิตเวชอย่างจริงจัง โดยแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ
สาเหตุของโรคโรคนี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยมีปัจจัยสำคัญ คือ กรรมพันธุ์ พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องสูง โดยเฉพาะกรณีผู้ที่มีอาการเป็นซ้ำหลาย ๆ ครั้ง นอกจากนี้ยังมี สารเคมีในสมอง ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากปกติอย่างชัดเจน เช่น ซีโรโทนิน (Serotonin) นอร์เอพิเนฟริน (Norepinephrine) ที่ลดต่ำลง หรือมีความผิดปกติของเซลล์รับสารเคมีเหล่านี้ และสิ่งที่ผู้คนในปัจจุบันกำลังประสบกันอยู่คือ ลักษณะนิสัย ซึ่งนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า เช่น การมองโลกในแง่ลบเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่กดดันหรือตึงเครียด อย่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้เราต้องอยู่บ้าน ไม่สามารถออกไปทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ หรือบางคนอาจจะต้องเผชิญกับความเครียดจากที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนงานที่เพิ่มมากขึ้นหรือต้องโยกย้ายงาน เป็นต้น การสังเกตอาการอาการของโรคซึมเศร้าสามารถสังเกตได้จากหลายอาการ ซึ่งต้องเกิดอาการเหล่านี้เกือบทั้งวัน และติดต่อกันอย่างน้อย 14 วัน โดยถ้าหากเกิดอาการเหล่านี้อย่างน้อย 5 อาการถือว่าเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้า
หากตรวจสอบอาการเบื้องต้นเหล่านี้แล้วยังไม่มั่นใจ เราะยังมีอีกวิธีที่สะดวกสำหรับยุคนี้คือ การทำแบบทดสอบภาวะซึมเศร้าออนไลน์ ซึ่งมีลิงก์แนะนำให้ด้านล่างนี้ ซึ่งระดับความรุนแรงของโรคสามารถทราบได้หลังจากให้จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญผู้เป็นวินิจฉัยอีกครั้ง
แนวทางการรักษาเมื่อป่วยเป็นโรคซึมเศร้า สิ่งแรกที่ต้องรีบทำโดยเร็ว คือ การเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธีโดยจิตแพทย์ ซึ่งแนวทางการรักษาจะมีตั้งแต่การพูดคุยให้คำปรึกษา การทำจิตบำบัด รวมถึงการใช้ยาในกลุ่มแก้ซึมเศร้าหากมีความจำเป็น โรคซึมเศร้าเป็นโรคที่รักษาได้ ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่จะอาการดีขึ้นจนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติ และยิ่งได้รับการรักษาเร็วเท่าไหร่ อาการก็จะดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว แต่หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้รักษาได้ยากยิ่งขึ้น วิธีการฟื้นฟูจิตใจร่วมกับการดูแลร่างกายสำหรับผู้ป่วยที่หายจากโรคซึมเศร้า คือ คนปกติที่ต้องกลับมาดูแลสุขภาพใจและกายให้แข็งแรงไปพร้อม ๆ กัน เพราะเมื่อทั้งสองอย่างมีความสมดุล ก็จะเกิดความสดใสมีชีวิตชีวา และห่างไกลจากโรคซึมเศร้าได้ ซึ่งมีวิธีง่าย ๆ ดังนี้
|