ทักษะ 4cs มีอะไรบ้าง สําคัญอย่างไร

ปัจจุบนทักษะ 3Rs ของ Sir William Curtis ได้รักการปรับเปลี่ยนมาเป็นทักษะ3ร. ซึ่งได้รับการปรับเปรียนมานานแล้ว คือ

  •  รู้อ่านรู้เขียน (literacy) คือ ไม่ใช่แค่อ่านออกเขียนได้ (reading & writing) แต่ต้อง “อ่านเข้าใจเขียนรู้เรื่อง” คือ เข้าใจความหมายของคำต่างๆ และสามารถสื่อสารคำต่างๆ เหล่านั้นออกมาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม หรือ “รู้ศัพท์รู้ภาษา”
  • รู้คณิต (numeracy) คือ ไม่ใช่แค่คิดเลขเป็น (arithmetic) แต่ต้องมีความสามารถตีความและเข้าใจความคิดต่างๆ ที่สื่อสารออกมาในรูปของคณิตศาสตร์ (mathematics) เช่น เลขคณิต, พีชคณิต, เรขาคณิต, ตรีโกณมิติ ฯลฯ และสามารถใช้มันให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตได้
  • รู้ ICT (information and communications technology literacy) คือ เข้าใจและสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อันเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งในโลกปัจจุบัน

4Cs ย่อมาจาก

- Critical Thinking การคิดวิเคราะห์
- Communication การสื่อสาร
- Collaboration ความร่วมมือ
- Creativity ความคิดสร้างสรรค์

ทักษะ 4Cs หรือ 4ก. ได้แก่

  • การคิดแบบมีวิจารณญาณ (Critical thinking) คือ มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีเหตุผล และต้องสามารถตัดสินคุณค่าของเรื่องต่างๆ ที่คิดนั้นด้วย
  • การสื่อสาร (Communication) คือ ต้องมีความสามารถใช้ศัพท์ใช้ภาษา, ใช้ ICT และใช้จิตวิทยาเพื่อสื่อสารกับผู้อื่นให้ประสบความสำเร็จได้
  • การทำงานร่วมกัน (Collaboration) คือ มีความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้, การร่วมมือกับคนหลายคนที่อาจมีพื้นฐานต่างกัน ทั้งแนวคิด, ความเชื่อ, หรือความรู้ เพื่อทำงานหรือทำกิจกรรมใดๆ ให้ประสบความสำเร็จได้
  • การสร้างสรรค์ (Creativity) คือ มีความสามารถในการจินตนาการเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อันจะนำไปสู่สิ่งใหม่หรือความคิดใหม่ๆ, วิธีการใหม่ๆ ที่เรียกว่า นวัตกรรม (Innovation)

1.Communication
- ทักษะในการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น รวมไปถึงทักษะด้าน Public Speaking

2.Collaboration
- ทักษะในการทำงานกับผู้อื่น ซึ่งเกี่ยวข้องกับเป็น Leadership คือทักษะในการเป็นผู้นำ รู้ว่าสถานการณ์ไหนต้องนำยังไงและ Teamwork ทักษะในการทำงานเป็นทีมกับผู้อื่น

3.Critical Thinking
- ทักษะในการคิดวิเคราะห์และทักษะในการแก้ปัญหา Problem Solving

4.Creativity
- ทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งจะเอามาใช้ในการทำงานและการคิดแก้ปัญหา

ที่มา www.camphub.in.th

เนื้อหาอื่นที่น่าสนใจ 

อ่านเพิ่มเติม Soft Skills คืออะไรและทำไมถึงสำคัญ?

เมื่อกระแสดิสรัปชั่นเกิดขึ้นในทุกด้าน โลกในวันข้างหน้าย่อมจะแตกต่างจากที่เป็นอยู่ในวันนี้ ซี่งถ้าอย่างนั้นแล้ว การเรียนรู้สร้างทักษะของเด็กๆ ที่เป็นอยู่ในตอนนี้จะใช้ได้กับโลกในอนาคตได้หรือไม่? คำถามนี้เป็นโจทย์ท้าทายนักการศึกษาในหลายประเทศทั่วโลก ทักษะการเรียนรู้อะไรบ้างที่สำคัญสำหรับเด็กในศตวรรษที่ 21?


จากที่การศึกษาแบบเดิมมุ่งสร้างเพียงทักษะ 3 Rs (Reading, Writing and Arithmetic) แต่สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงพออีกต่อไป  The Partnership for 21st Century Skills (PS21) ที่เป็นหน่วยงานรัฐในสหรัฐอเมริกาได้เพิ่มเติมหลักการ 4C เข้าไปในหลักสูตรว่าเป็นทักษะการเรียนรู้หรือ Learning Skill สำคัญที่ต้องปลูกฝังให้เด็กๆ เพื่อโอกาสประสบความสำเร็จในการเรียนและการทำงานในวันข้างหน้า หลักการ 4C มีดังนี้

 

ทักษะ 4cs มีอะไรบ้าง สําคัญอย่างไร

1) Critical Thinking การคิดเชิงวิพากษ์


ความสามารถที่จะวิเคราะห์และประเมินความถูกต้องข้อมูลที่ได้รับมา รวมถึงการตั้งคำถาม การหาคำตอบให้กับคำถามได้ พัฒนามาเป็นทักษะการแก้ปัญหา (Problem Solving) ในสถานการณ์ต่างๆ ได้ สำหรับเด็กๆ การคิดเชิงวิพากษ์ เริ่มต้นจากสังเกตและการตั้งคำถามต่อสิ่งต่างๆ รอบตัว เริ่มจากคำถามง่ายๆ ก่อน เช่น ทำไมนกบินได้ ทำไมท้องฟ้าเป็นสีฟ้า ฯลฯ แล้วค่อยๆ ซับซ้อนมากขึ้น รวมไปถึงการตั้งคำถามการกระทำที่ผู้ใหญ่ทำกับเขาด้วย พ่อแม่และผู้ใหญ่รอบตัวสามารถช่วยส่งเสริม Critical Thinking  ของเด็กๆ ได้ด้วยการเปิดใจตอบคำถามของเด็กๆ อย่างกระตือรือร้น และตั้งคำถามให้เด็กๆ ได้คิดหาคำตอบ เช่นเมื่ออ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟังจบ ก็ลองถามว่าทำไมตัวละครในนิทานถึงทำอย่างนี้ แล้วหนูคิดอย่างไร ถ้าเป็นหนูจะทำอย่างไร เป็นต้น การถามลักษณะนี้จะกระตุ้นให้เด็กๆ ฝึกฝนการคิดต่อยอดเรื่องอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน แล้วพ่อแม่ก็จะรู้จักเข้าใจตัวตนของลูกมากขึ้นด้วย


2) Creative ความคิดสร้างสรรค์


หนึ่งในทักษะตามธรรมชาติของเด็กๆ ซึ่งถ้าได้รับการสนับสนุนก็จะยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ ตรงกันข้ามถ้าถูกบั่นทอนก็จะหายไปตามกาลเวลา ผู้ใหญ่อาจเข้าใจว่าความคิดสร้างสรรค์จำเป็นเฉพาะอาชีพด้านศิลปะหรืองานสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ความจริงแล้ว ความคิดสร้างสรรค์สำคัญกับทุกสายอาชีพ เพราะเป็นทักษะที่ทำให้เราสามารถมองเห็นเข้าใจปัญหาในหลากหลายแง่มุมที่คนอื่นอาจมองไม่เห็น นำไปสู่การคิดหาแนวทางการแก้ปัญหาด้วยวิธีการใหม่ ที่จะได้ผลลัพธ์ที่ต่างออกไปจากการแก้ปัญหาด้วยวิธีเดิมๆ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับโลกที่กำลังเกิดการ disrupt ในทุกด้าน ดังเช่นคำกล่าวของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ที่ว่า "มีแต่คนบ้าเท่านั้น ที่จะทำสิ่งเดิมซ้ำ ๆ  แต่กลับหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง" (Insanity is doing the same thing over and over again and expecting different results) ความคิดสร้างสรรค์จึงเป็นตัวจุดประกายวิธีคิดที่แตกต่างจากการคิดแบบขนบเดิมและไม่จำเป็นต้องทำอย่างที่เคยทำ แต่ทำให้ดีกว่าที่เคยเป็นมา


3)  Collaboration ทักษะการทำงานร่วมกับคนอื่น


เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน ทักษะในกลุ่มนี้ที่ได้ยินบ่อยๆ คือการทำงานเป็นทีมเวิร์ค (Teamwork) และการประสานงาน (Cooperation) ซึ่งการจะให้เด็กเข้าใจแนวคิดเหล่านี้ควรทำผ่านการปฏิบัติ ให้เขารู้ด้วยตัวเองว่าการทำกิจกรรมต่างๆ และแบ่งปันสิ่งของกับเพื่อนๆ สนุกกว่าการทำกิจกรรมคนเดียว ให้เขาได้เรียนรู้ว่าทุกอย่างในโลกไม่ได้หมุนรอบตัวเขา ซึ่งเป็นความจริงที่เขาต้องเจอเมื่อเติบโตขึ้นว่าคนเราต้องทำงานร่วมกับผู้อื่นตลอดเวลา ซึ่งก็เป็นคนที่ไม่ได้ความคิดเหมือนเราในทุกเรื่องหรืออาจจะมีความคิดเห็นตรงข้ามกับเรา การฝึกทักษะ Collaboration จะทำให้เด็กๆ เข้าใจปัญหาในการทำงานร่วมกับผู้อื่น เรียนรู้หาทางออกและตัดสินใจหาวิธีการให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด


4) Communication การสื่อสาร


วัตถุประสงค์ของการสื่อสารในโลกการทำงาน คือการสื่อสารเพื่อแก้ไขปัญหา แสดงความรู้สึก และเชื่อมโยงผู้คนเข้าไว้ด้วยกัน และในยุคที่การวิธีการสื่อสารมีมากกว่าการใช้เสียงพูดคุย แต่รวมไปถึงการใช้ตัวหนังสือเป็นหลัก เช่น SMS, อีเมล, Social Media ฯลฯ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เด็กๆ ต้องฝึกฝนทักษะการสื่อสารเพื่อที่จะสามารถถ่ายทอดความคิดให้ผู้อื่นเข้าใจอย่างชัดเจนผ่านการสื่อรูปแบบต่างๆ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพควรจะกระชับ ไม่เยิ่นเย้อ ตรงประเด็น เข้าถึงผู้คน และรวมถึงการอ่านความรู้สึกผู้ฟังด้วย การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจะทำให้เด็กๆ สามารถสื่อสารความคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่หลงประเด็น ซึ่งพ่อแม่ช่วยลูกๆ ฝึกฝนทักษะการสื่อสารผ่านกิจกรรมง่ายๆ ที่บ้าน เช่น พูดคุยกับลูกบ่อยๆ สร้างบรรยากาศที่ดีให้เขาสบายใจที่จะคุยกับเรา อดทนฟังเขาพูดให้จบอย่าไปตัดบทก่อน การเล่านิทานก็ช่วยให้ลูกได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ การเล่นเกม Storytelling ให้เด็กเลือกรูปภาพมา 3-4 รูปแล้วนำภาพมาเล่าเรื่องเรียงร้อยเข้าด้วยกันก็เป็นการฝึกทักษะการสื่อสารความคิดได้เป็นอย่างดี และที่น่าสนใจคือการสื่อสารด้วยภาษากาย เช่นการสบตา (eye contact) แสดงความสนใจในบทสนทนา เป็นต้น


ทักษะ 4C ทุกข้อมีความสำคัญและการใช้ทุกข้อรวมกันจะได้ประโยชน์กว่าเพียงบางข้อ  Critical Thinking ช่วยให้เด็กตั้งคำถาม ค้นหาความจริง Creativity ทำให้เด็กคิดในแบบที่แตกต่าง  Collaboration ช่วยให้เด็กๆ ทำงานร่วมกันทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าการทำด้วยตัวเองคนเดียว และ Communication ให้เด็กสามารถสื่อสารบอกเล่าความคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4C จึงเป็นทักษะการเรียนรู้สำคัญที่จะติดอาวุธให้เด็กเตรียมพร้อมสำหรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแล้วตั้งแต่วันนี้


เพราะการศึกษาเป็นการสร้างพื้นฐานที่สำคัญของชีวิต หากประสบปัญหาติดขัดไม่พร้อมเรื่องการเงิน ให้สินเชื่อเพื่อการศึกษาเป็นทางออก สมัครผ่านแอป SCB EASY ไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน ดูเพิ่มเติม -ที่นี่-



อ้างอิง
https://www.leapfrog.com/en-us/learning-path/articles/21st-century-skills-preparing-children-for-tomorrow
https://www.aeseducation.com/blog/four-cs-21st-century-skills
https://lingokids.com/blog/posts/21st-century-skills-for-children#21st-Century_Skills_Critical_Thinking
Blockdit : คลินิกการลงทุน
https://skidos.com/blog/communication-skills-for-kids/

ทักษะ 4Cs มีองค์ประกอบอะไรบ้าง

ปลดล็อก 4C สกิลสำคัญของเด็กในศตวรรษที่ 21.
1) Critical Thinking การคิดเชิงวิพากษ์ ... .
2) Creative ความคิดสร้างสรรค์ ... .
3) Collaboration ทักษะการทำงานร่วมกับคนอื่น ... .
4) Communication การสื่อสาร.

4Cs ของทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 หมายถึงอะไร

4 C (Critical Thinking - การคิดวิเคราะห์, Communication- การสื่อสาร Collaboration-การร่วมมือ และ Creativity-ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงทักษะชีวิตและอาชีพ และทักษะด้านสารสนเทศสื่อและเทคโนโลยี และการบริหารจัดการด้านการศึกษาแบบใหม่

Soft Skill 4Cs มีอะไรบ้าง

ในบทความนี้เราจะพูดถึง Soft Skills ที่เรียกว่า “4C” (โฟร์ซี) ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่ง ประกอบด้วย.
1. Communication - การสื่อสาร ... .
2. Collaboration - การทำงานร่วมกัน ... .
3. Critical Thinking - การคิดเชิงวิพากษ์ ... .
4. Creativity - ความคิดสร้างสรรค์.

ความสามารถด้านภาษา (Literacy) ในทักษะ 3r4c คือข้อใด

รู้อ่านรู้เขียน (literacy) คือ ไม่ใช่แค่อ่านออกเขียนได้ (reading & writing) แต่ต้อง “อ่านเข้าใจเขียนรู้เรื่อง” คือ เข้าใจความหมายของคำต่างๆ และสามารถสื่อสารคำต่างๆ เหล่านั้นออกมาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม หรือ “รู้ศัพท์รู้ภาษา