การ ที่ จะ เป็น นักประดิษฐ์ ผู้ เรียน ต้อง มี คุณสมบัติ อย่างไร

          นักประดิษฐ์ คือบุคคลผู้สร้างสรรค์หรือค้นพบวิธีการ รูปแบบ เครื่องมือ หรือสิ่งอื่นใดที่เป็นประโยชน์ ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน และอาจเรียกได้ว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ สามารถนำไปต่อยอดเป็นนวัตกรรม ปัจจุบันการถือว่าความเป็นนักประดิษฐ์ในระดับสากล (หรือผู้ประดิษฐ์) จะต้องมีการรับรองโดยสิทธิบัตรสำหรับสิ่งประดิษฐ์สิ่งนั้น ยกตัวอย่างเช่น ล

• โทมัส เอดิสัน ผลงานที่เป็นที่รู้จักอย่างมากคือ การประดิษฐ์หลอดไฟ
• อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ ผู้ประดิษฐ์โทรศัพท์ขึ้นเป็นคนแรก
• อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิง นักวิทยาศาสตร์ผู้ค้นพบยาปฏิชีวนะชนิดแรกที่ชื่อ เพนนิซิลิน (Penicillin)

สิ่งประดิษฐ์ (อังกฤษ: invention) หรือ นวัตกรรมที่มนุษย์สร้างขึ้น ไม่ว่าจะกระด้วยความฉลาดหรือบังเอิญ แล้วผู้ที่ประดิษฐ์สิ่งของ เรามักจะเรียกว่านักประดิษฐ์ (inventor) สิ่งประดิษฐ์คือสิ่งของต่างๆที่เกิดจากความต้องการของมนุษย์เพื่อนใช้ในการแสวงหาประโยชน์ หรือ อำนวยความสะดวกสบายต่าง

ผมจะมาพูดถึง การออกแบบสิ่งประดิษฐ์หรืองานประดิษฐ์ ไว้แบบนี้ครับ

การออกแบบงานประดิษฐ์ เป็นการสร้างรูปลักษณ์ของชิ้นงาน โดยอาศัยความคิดสร้างสรรค์ความรู้ความเข้าใจ ในหลักการออกแบบและนำมาใช้ ทำให้การออกแบบชิ้นงานนั้นมีคุณค่าและน่าสนในยิ่ง
การออกแบบ หมายถึง การทำต้นแบบ หรือการทำโครงสร้างของชิ้นงานที่ต้องการประดิษฐ์ เพื่อให้ได้ผลงานสำเร็จตามที่มุ่งหวัง โดยการเลือกวัสดุ เลือกสี ที่นำมาใช้ให้เหมาะสมสวยงาม ที่มาของการออกแบบงานประดิษฐ์ คือ การศึกษาแบบของงานที่ตนสนใจจากหนังสือ นิตยสารแล้วทดลองปฏิบัติ หรือ การดัดแปลงแบบที่มีอยู่เดิม หรือแบบตัวอย่างโดยทำการศึกษาแบบ จนเกิดความเข้าใจ จึงปฏิบัติการสร้างแบบ โดยการนำเอาแนวความคิดหรือความคิดสร้างสรรค์ของตนเองไปผสมผสานทำให้ได้แบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนใคร

สิ่งที่ทาง FUR ทำ คือ การออกแบบด้วยตนเองคือการออกแบบที่เกิดจากแนวคิดของตนเองและทดลองปฏิบัติสร้างแบบจนได้แบบที่สวยงาม เหมาะสมตามความต้องการ

เนื่องจาก เราเข้าใจและเข้าถึงเนื้อหาของงานประดิษฐ์ตั้งแต่เริ่มต้น คือ ออกสำรวจพื้นที่หน้างาน มาปั้นแบบโครงสร้าง นำเสนอภาพ 3D ถอด Scale ขึ้นงานประดิษฐ์ตามแบบ Design

วันนี้ SME คงต้องทำเข้าใจกับการเพิ่มมูลค่าให้กับร้านค้า หรือ การสร้าง Branding เพื่อเกิดความจดจำ และ โดดเด่น

กจ าารกพ…ัฒ บนขปทอารเงผระคกยี ูเ้รอรนผู บียกสู้ ภานรราา้ใจพหงัดนย้เกปนกั าน็ตปรรรนเระ์สดักยี ้ันิษนปฐรรู้์ ะดษิ ฐ์

สำ� นักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน

การพัฒนาผู้เรียนใหเ้ ปน็ นักประดษิ ฐ์...จาก
บทเรียนการจดั การเรยี นรขู้ องครผู สู้ ร้างนกั ประดษิ ฐ์
ประกอบภาพยนตรส์ ัน้

100 หน้า
ISBN : 978-616-395-963-8
1 การจดั การเรียนรู้ 2. การพฒั นาคุณลกั ษณะและทักษะนกั ประดิษฐ์
บทเรยี นการจัดการเรียนรขู้ องครผู ู้สร้างนกั ประดษิ ฐ์
ประกอบภาพยนตรส์ น้ั

พมิ พค์ รั้งที่ 1 : จ�ำนวน 500 เล่ม
ผู้จัดพมิ พเ์ ผยแพร่ :
สำ� นักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน
319 วงั จนั ทรเ์ กษม ถนนราชด�ำเนินนอก

เขตดุสติ กทม. 10300
Website : http:// inno.obec.go.th
พมิ พท์ ่ี : หจก.เอน็ .เอ.รตั นเทรดดิง้ กรุงเทพมหานคร

คำ� นำ�

สารบญั

คำ� นำ�
บทน�ำ........................................................................................................................... 1
บทที่ 1 แนวทางการจดั การเรยี นรู้เพือ่ พัฒนาคณุ ลกั ษณะและ
3356
ทักษะของนักประดิษฐ.์ .........................................................................
1. นักประดษิ ฐ์ : นยิ าม ความหมาย..........................................................................
2. คณุ ลักษณะและทักษะของผู้เรียนเพื่อก้าวเขา้ สู่ความเป็นนกั ประดษิ ฐ.์ .................
3. การจัดการเรยี นรู้เพอ่ื พัฒนาคณุ ลกั ษณะและทกั ษะของนักประดิษฐ.์ ...................
4. การออกแบบการจดั การเรยี นรอู้ ย่างเป็นระบบ เพ่ือผู้เรียนมคี ณุ ลกั ษณะ
และทกั ษะของนักประดษิ ฐ์.................................................................................. 8
บทท่ี 2
ปบทระเกรยีอนบกภาารพจยดั นกตารรส์เรัน้ ีย..น..ร...้ขู..อ...ง..ค...ร...ผู ...ู้ส...ร..้า..ง..น...ัก...ป...ร...ะ.ด...ษิ...ฐ...์.................. 13

เรอ่ื งท่ี 1 การจดั การเรียนรขู้ องครสู วุ ารี พงศ์ธีระวรรณ และเรือ่ งเลา่
การสร้างสง่ิ ประดิษฐ์ของนกั เรียน เรอื่ ง นวัตกรรมกักเกบ็ นำ�้
เลยี นแบบสับปะรดสี โรงเรียนสุราษฎรพ์ ิทยา....................................... 14
เรอ่ื งที่ 2 การจดั การเรียนรู้ของครูดวงพร สาลีติดและเร่อื งเลา่ การสรา้ ง
สโรง่ิ งปเรรียะนดเษิ บฐญข์ จอมงนราักชเรทู ียศิ นราเรชื่อบงรุ ช.ี .ุด...อ..ปุ...ก..ร...ณ...์ต...ัด..ไ..ม..ห้...น...า..ม............................. 35

เรอื่ งที่ 3 การจัดการเรียนรขู้ องครูช�ำนาญพงษ์ เจรญิ ผล และเรอ่ื งเลา่
กดาดู รซสบั รไ้าขงมสันง่ิ ใปนรอะาดหษิ าฐร์ขโอรงงนเรกั ียเรนียวนังนเอ้รอื่ยง(ถพงุ นกมระยดงคาษว์ ิทไคยโาต).ซ..า..น.................. 53

เรื่องท่ี 4 การจดั การเรียนรขู้ องครปู ระภากร เชียงทอง และเรื่องเลา่
ปกาลรกู สพรืช้าองสตั ง่ิโปนรมะัตดิ โษิ รฐงข์เรอียงนนสักาเมรียเสนนเวริทื่อยงาEล-ยั B.u...g...ห...ุน่...ย..น...ต..์....................... 67

เร่อื งท่ี 5 การจดั การเรียนรขู้ องครูสมไชย กระตา่ ยทอง ครนู ริศรา ซุ่นทรพั ย์
ครสู ภุ กั ดิ์ ภริ มย์แก้ว ครสู ชุ าย วเิ ศษสนิ ธ์ุ และเร่ืองเล่าการสร้าง
ส่งิ ประดษิ ฐข์ องนักเรยี น เร่ืองหนุ่ ยนต์ JIGSAW SMART
EDUCATION โรงเรียนวัดเขาวงั (แสง ช่วงสวุ นชิ )............................... 83
บทท่ี 3
แสลระปุ ทบกั ทษเะรขยี อนงจผดั ู้เรกียานรสเรคู่ ียวนารมู้ เเพปน็ื่อนพกัฒั ปนราะดคษิ ุณฐล.์ ..ัก...ษ...ณ.....ะ..................... 93

1. บทบาทครใู นการจดั การเรียนรู้ เพื่อพฒั นาคณุ ลกั ษณะ
และทักษะของนักประดิษฐ.์ ............................................................................... 94
2. วธิ ีการจัดการเรยี นรเู้ พ่อื พัฒนาคุณลักษณะ และทกั ษะ
ของนักประดิษฐ.์ ................................................................................................. 9956
3. การส่งเสรมิ ให้ผ้เู รียนมีคุณลักษณะและทักษะของนกั ประดษิ ฐ.์ ...........................

บทน�ำ

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงเป็น
“พระบิดาแหง่ การประดษิ ฐไ์ ทย” ด้วยทรงสนพระราชหฤทัย ในเรอื่ งการ
ประดิษฐ์ บนพ้ืนฐานการใช้เทคโนโลยีแบบง่าย ๆ ใช้ภูมิปัญญา ใช้วัสดุ
ภายในประเทศ เน้นความงา่ ยต่อการใชง้ าน การซอ่ มบ�ำรงุ และราคาถูก
และเมอื่ วนั ที่ 21 พฤศจกิ ายน 2549 ซง่ึ คณะรฐั มนตรเี หน็ ชอบการทลู เกลา้ ฯ
ถวายพระราชสมญั ญา “พระบดิ าแหง่ การประดษิ ฐไ์ ทย”1 และกำ� หนดให้
วนั ท่ี 2 กมุ ภาพนั ธ์ ของทกุ ปี เปน็ วนั นกั ประดษิ ฐ์ เพอื่ เฉลมิ พระเกยี รติ และ
เผยแพรพ่ ระเกยี รตคิ ณุ ใหป้ ระชาชน เจรญิ รอยตามเบอื้ งยคุ ลบาท รวมทง้ั
ปลกู ฝงั เสรมิ สรา้ งใหเ้ ยาวชนไทยใหม้ ตี น้ แบบและแรงบนั ดาลใจของความ
เปน็ นกั ประดษิ ฐค์ ดิ คน้ พฒั นาและสง่ เสรมิ นกั ประดษิ ฐ์ ใหร้ ว่ มมอื รว่ มใจใน
การพฒั นาเศรษฐกจิ สงั คม ความเจรญิ และความมนั่ คง ของประเทศชาติ
การส่งเสริมให้ครูในโรงเรียนจัดการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเป็นนัก
ประดิษฐ์ ตามรอยพระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย จะต้องจัดการเรียนรู้
พฒั นาทง้ั คณุ ลกั ษณะ และทักษะของนักคดิ สร้างสรรค์ สง่ เสริมใหผ้ ้เู รียน
สนใจในเร่ืองการประดิษฐ์ การจดั โอกาสและประสบการณ์การเรียนรเู้ พ่ือ
ให้เกดิ การค้นพบ วิธกี าร รปู แบบ เครือ่ งมอื การน�ำเทคโนโลยีแบบงา่ ยๆ
มาใช้ การน�ำภูมิปัญญาท่ีมีอยู่มาประยุกต์ใช้ การใช้วัสดุภายในประเทศ
ส่ิงประดษิ ฐ์ทีค่ ดิ ค้นมาต้องใชง้ านง่าย ราคาถกู ใช้ประโยชน์ในการดำ� เนนิ
ชวี ติ ไดจ้ ริงในสังคมสว่ นรวม
ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐานให้ความส�ำคัญกับ
การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เป็นนักประดิษฐ์ โดยการสนับสนุน
สง่ เสริมใหโ้ รงเรียนจดั พัฒนาผ้เู รยี นให้สามารถผลติ คิดคน้ นวตั กรรม และ
ส่งผลงานเข้าประกวดสิ่งประดิษฐ์ท้ังในเวทีระดับประเทศ และระดับ

1 ศูนยส์ ารสนเทศการวจิ ัย ส�ำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ, พระบดิ าแห่งการประดิษฐไ์ ทย, 2 ธันวาคม 2559,
สืบคน้ 20 ตุลาคม 2561 จาก www.tnrr.in.th

นานาชาติมาตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา ซึ่งมีครูในหลายโรงเรียนสามารถ
จดั การเรยี นรพู้ ฒั นาคณุ ลกั ษณะ และทกั ษะใหผ้ เู้ รยี นเปน็ นกั ประดษิ ฐแ์ ละ
สามารถผลิตผลงาน จนได้รับรางวัลจากการประกวดในระดับนานาชาติ
และความส�ำเร็จของการจัดการเรียนรู้ของครูเหล่านี้คือประสบการณ์ที่มี
คณุ คา่ ในการพฒั นาผเู้ รยี นจากความสำ� คญั ดงั กลา่ ว สำ� นกั พฒั นานวตั กรรม
การจดั การศกึ ษา หนว่ ยงานทรี่ บั ผดิ ชอบดา้ นวจิ ยั และพฒั นานวตั กรรมของ
ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน จึงได้ศึกษาบทเรียนความ
สำ� เรจ็ ของครแู ละนกั เรยี นทมี่ วี ธิ ปี ฏบิ ตั ทิ ด่ี ี (Best Practices) ครทู ส่ี ามารถ
พัฒนานักเรียนให้เป็นนักประดิษฐ์ รวมท้ังคุณลักษณะและทักษะของ
นักเรียนท่ีจะเป็นนักประดิษฐ์ ประกอบกับการศึกษาทฤษฏี หลักการ
การจัดการเรียนรู้ท่ีเก่ียวข้องเพื่อจัดท�ำเป็นแนวทางให้ครูทุกโรงเรียน
ได้ศึกษาบทเรียนการจัดการเรียนรู้ในการพัฒนาคุณลักษณะและทักษะ
การสรา้ งนกั ประดิษฐ์ เพ่อื ยกระดบั คณุ ภาพผเู้ รียนให้สามารถผลติ คดิ คน้
ประดิษฐ์นวัตกรรม เตรียมการรองรับความเป็นประทศไทย 4.0 ยุคของ
เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
บทเรียนความส�ำเร็จของครูผู้สร้างนักประดิษฐ์น้ี มีวัตถุประสงค์
เพอื่ เปน็ สอื่ สรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจ บทบาทการจดั การเรยี นรใู้ หก้ บั ครรู ะดบั
มธั ยมศกึ ษานำ� ไปประยกุ ตใ์ ชพ้ ฒั นาการจดั การเรยี นรเู้ พอ่ื สรา้ งคณุ ลกั ษณะ
และทกั ษะของผเู้ รยี นสคู่ วามเปน็ นกั ประดษิ ฐ์
2 • การพัฒนาผเู้ รียนใหเ้ ป็นนกั ประดิษฐ์

บทที่ 1

แนวทางการจดั การเรยี นรู้
เพอ่ื พัฒนาคุณลักษณะและทกั ษะของนักประดิษฐ์

การจดั การเรยี นรเู้ พอื่ พฒั นาผเู้ รยี นสคู่ วามเปน็ นกั ประดษิ ฐ์ มคี ำ� ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
ทคี่ วรเข้าใจความหมาย ดังนี้

1. นกั ประดิษฐ์ : นยิ าม ความหมาย

นักประดิษฐ์ (Inventor) หมายถึง ผู้ที่คิดท�ำ จัดทํา สร้างข้ึน แต่งข้ึน2
สร้างสรรค์ส่ิงของตา่ ง ๆ ทเ่ี กิดจากความตอ้ งการใชง้ านเพ่ืออ�ำนวยความสะดวกสบายตา่ ง ๆ
ในชวี ติ ประจำ� วนั และใชป้ ระโยชน์ของคนในสงั คม บคุ คลผสู้ ร้างสรรคห์ รือค้นพบ
วิธีการ รูปแบบ เครื่องมือ หรือส่ิงอื่นใดที่เป็นส่ิงใหม่เป็นประโยชน์ อาจเรียก
สงิ่ ใหมน่ นั้ วา่ เปน็ สง่ิ ประดษิ ฐ ์
ซ่ึงอาจสามารถน�ำไปต่อยอด
เชิงพาณิชย์เป็นนวัตกรรมได้
นักประดิษฐ์จึงมีคุณลักษณะ
ท่ีชอบคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ เพ่ือ
ตอบสนองความต้องการ
การใช้ประโยชน์อาจท�ำเป็น
อาชีพหรืองานอดิเรก

ภาพท่ี 1 ส่ิงประดิษฐน์ �ำไปต่อยอดเชิงพาณิชย์เป็นนวตั กรรม
ทีม่ า กองพัฒนาและจดั การความรู้องคก์ ร สำ� นักดจิ ิทัล และสารสนเทศ http://tistr.or.th/tisrblog

2 ราชบัณฑิตยสภา, พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน 2554, สืบค้น 20 พฤษภาคม 2561 จาก
http://www.royin.go.th/dictionary/index.php

การพฒั นาผเู้ รียนใหเ้ ปน็ นักประดษิ ฐ์ • 3

ววิ ฒั นาการความเจรญิ ของมนษุ ยเ์ กดิ จากความฉลาด ความสามารถในการ
ค้นพบ การคิดสร้างสรรคส์ ิง่ ประดิษฐ์ เพอื่ เออ้ื อำ� นวยความสะดวกในการด�ำรงชีวติ
จากอดีตถึงปัจจุบันมีการค้นพบและสร้างสิ่งประดิษฐ์ข้ึนมากมายเปลี่ยนวิถีชีวิต
ของคนในชุมชน และสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เช่น การประดิษฐ์อักษร
เพอ่ื ใช้ในการเขยี นสอื่ สารกนั ทว่ั ประเทศ การมีโทรศพั ท์ทำ� ให้เกิดการเปลีย่ นแปลง
ทางการติดตอ่ ส่อื สาร การประดษิ ฐห์ ลอดไฟฟ้า ท�ำให้ชีวิตสะดวกสบายในยามค่ำ� คืน
การสร้างถนนหนทางเพ่ือการคมนาคมที่สะดวกรวดเร็ว การใช้เคร่ืองจักรกล
ในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น การสรา้ งสง่ิ ต่างๆ เพอ่ื อ�ำนวยความสะดวกสบาย
ในการดำ� รงชวี ิต หรอื ทีเ่ ราเรยี กกันวา่ สง่ิ ประดษิ ฐ์ ไมจ่ �ำเปน็ ต้องใชเ้ ทคโนโลยขี ั้นสงู
หรือมรี าคาสงู การใชไ้ มค่ วรยงุ่ ยากซบั ซ้อน แตส่ ิ่งประดษิ ฐ์นนั้ เปน็ การสรา้ งสรรค์
ผลงานท่ีมีคุณค่า สามารถน�ำไปใช้ประโยชน์อ�ำนวยความสะดวกในการด�ำรงชีวิต
ใหค้ นในสงั คม หรือประเทศได้
ส่ิงประดิษฐ์ (Invention) เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้นมาทั้งท่ีเกิดจาก
ความต้ังใจ หรือความบังเอิญ โดยมีจุดประสงค์หลักท่ีเกิดจากความต้องการของ
มนษุ ย์เพอื่ ใช้ในการอำ� นวยความสะดวกสบายสำ� หรับผู้ท่สี ร้างส่ิงประดษิ ฐ์ขึ้นมาจะ
เรยี กผนู้ ้ันว่านกั ประดษิ ฐ์ (Inventor)

เขียงพบั ได้ โคมไฟท่มี าพร้อมเงาสวยๆ
ชว่ ยใหก้ ารห่นั ผัก และล้างผกั เปล่ียนห้องพ้นื หลงั เรียบ ๆ
สะดวกข้ึน ใหด้ ูนา่ สนใจข้ึนมาทันที

ภาพท่ี 2 ตวั อยา่ งสง่ิ ประดิษฐท์ ีอ่ ำ� นวยความสะดวกสบายในการด�ำรงชวี ติ

ท่ีมา : 20 ส่ิงประดิษฐใ์ นชีวติ ประจ�ำวนั สดุ เจ๋ง ช่วยชีวิตอนั แสนยากเย็นให้ง่ายขึน้ เป็นกอง!!
http://www.catdumb.com/20-invention-that-make you-life-easier-420/

4 • การพัฒนาผู้เรยี นใหเ้ ปน็ นักประดษิ ฐ์

2. คุณลักษณะและทกั ษะของผู้เรียนเพือ่ กา้ วเขา้ ส่คู วามเป็นนักประดษิ ฐ์

ผู้ประดิษฐ์ส่ิงของหรือนักประดิษฐ์ ท่ีคิดสร้างสรรค์จัดท�ำส่ิงต่าง ๆ ท่ีเกิด
จากความตอ้ งการใชง้ านเพอื่ อำ� นวยความสะดวกสบายตา่ ง ๆ ในชวี ติ ประจำ� วนั และ
ใช้ประโยชน์ของคนในสังคมนน้ั จะมีคณุ ลกั ษณะและทักษะที่คลา้ ย ๆ กนั สรุปได้
ดังนี้
2.1 สติปัญญาไม่ได้เป็นตัวก�ำหนดความคิดสร้างสรรค์เพราะทุกคนมี
ความคิดสรา้ งสรรคใ์ นแบบของตนเอง
2.2 ทุกคนสามารถเป็นนักประดิษฐ์ได้ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายหรือ
เช้อื ชาตใิ ด
2.3 นกั ประดิษฐ์ มคี ณุ ลักษณะ3 และทกั ษะ4 สรุปดังนี้

1) คณุ ลกั ษณะของนักประดษิ ฐ์ ได้แก่ 2) ทักษะของนกั ประดิษฐ์ ได้แก่ ทกั ษะ
(1) มแี รงบันดาลใจ ทางการคิด ทกั ษะการคน้ ควา้ วิจัย และ
(2) กลา้ คิดทำ�ส่งิ ใหม่ ทักษะการทำ�งานเป็นทมี ดงั นี้
(3) มคี วามเพียรพยายามที่จะทำ�งานให้
(1) มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์
บรรลุผลสำ�เร็จ (2) ทักษะการคดิ เช่อื มโยง
(4) เปดิ ใจกว้าง (3) ทกั ษะการแก้ปัญหา
(5) ยอมรบั ความผดิ พลาด (4) ทกั ษะการตัง้ คำ�ถามสามารถระบุ
(6) การมีปฏิสมั พนั ธ์ทางสังคมท่ีดี ปัญหาความตอ้ งการการคน้ พบ
(7) มีจิตสาธารณะ (5) ทกั ษะการสงั เกต
(6) การทดลองความคิดใหมๆ่
(7) ทักษะทางช่าง
(8) การทำ�งานเป็นทมี ความเป็นผนู้ ำ�
และสามารถทำ�งานร่วมกบั ผูอ้ ื่นได้

ตารางท่ี 1 แสดงคุณลกั ษณะและทักษะของนักประดิษฐ์

3 คุณลักษณะหมายถึงเครื่องหมายหรือส่ิงทช่ี ้ีให้เหน็ ความดีหรอื ลกั ษณะประจำ�
4 ทักษะหมายถึง ความช�ำนาญหรือความสามารถในการกระท�ำหรือการปฏิบัติอย่างใดอย่างหน่ึง ซ่ึงอาจเป็น
ทักษะด้านร่างกาย สตปิ ัญญา หรือสังคม ทีเ่ กดิ ขน้ึ จากการฝึกฝน หรือการกระท�ำบอ่ ย ๆ

การพฒั นาผเู้ รียนให้เป็นนักประดษิ ฐ์ • 5

3. การจดั การเรียนรเู้ พือ่ พัฒนาคุณลกั ษณะ และทักษะของผเู้ รยี นสู่
ความเป็นนักประดษิ ฐ์

ครูคือบุคคลส�ำคัญ ผู้ท่ีมีบทบาทในการท�ำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้
ท่ีต้องอาศัยท้ังศาสตร์และศิลป์5 ในการจัดการเรียนรู้ การเรียนรู้ที่สมบูรณ์ของ
ผเู้ รยี นแต่ละครงั้ ตามทฤษฏกี ารเรยี นรู้ของบลูม (Bloom’s Taxonomies:1956)6
จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดข้ึน 3 ประการ คือ (1) ด้านความรู้ มีความคิด
ความเข้าใจเกิดขึ้นในสมอง (Cognitive Domain) (2) ด้านจิตใจ ด้านอารมณ์
หรือความรู้สึก (Affective Domain) (3) การเคลื่อนไหวของร่างกาย เพื่อให้
เกิดทักษะ และความช�ำนาญ (Psychomotor Domain) ครูผู้ซ่ึงสามารถจัดการ
เรียนรู้พัฒนาความรู้ คุณลักษณะ และทักษะให้กับนักเรียนจนกระทั่งสามารถคิด
สร้างสิ่งประดิษฐ์จนได้รับรางวัลจากการประกวดผลงานส่ิงประดิษฐ์จากเวที
นานาชาติน้ัน สรุปไดด้ งั นี้
ปรัชญาการจัดการศึกษา : ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (Child Center) หรือการ

จัดการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นส�ำคัญ คือการจัดการเรียนรู้ท่ีผู้เรียน
เป็นผู้สร้างความรู้ แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้เน้นผู้เรียน
เปน็ สำ� คญั นจ้ี ะชว่ ยเพม่ิ บทบาทของผเู้ รยี น ภายในหอ้ งเรยี น และลดบทบาท
การบรรยายหนา้ หอ้ งเรยี นลง ซงึ่ ครจู ะปรบั บทบาทจากการบรรยายเปน็ หลกั
เปน็ ผูอ้ �ำนวยความสะดวก โดยจะตอ้ งเตรยี มสภาพ ห้องเรียนและวิธีการ
สอนท่เี ออ้ื ต่อการจดั การเรยี นรู้ที่เน้นผ้เู รียนเปน็ ศูนยก์ ลางนี้

5 ศาสตร์การสอน (Science of Teaching) หมายถึงความรู้เก่ียวกับการเรียนรู้และการสอนที่สังคม
โลกไดส้ ง่ั สมมาตั้งแตอ่ ดตี จวบจนปจั จุบัน
ศิลปะการสอน (Art of Teaching) หมายถึงความรู้และความสามารถในการน�ำจิตวิทยา วิธีการและ
เทคนิคต่าง ๆ ไปใช้ในการสอนเพ่ือช่วยให้การสอนมีความน่าสนใจ สนุก มีชีวิตชีวาและช่วยให้ผู้เรียน
สามารถเรียนรู้ได้งา่ ย สะดวก รวดเรว็ ราบรน่ื และมคี วามสขุ อา้ งองิ จาก ทิศนา แขมณี, ศาสตรก์ ารสอน
องค์ความรู้เพ่ือการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ, กรุงเทพฯ: ส�ำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์
มหาวทิ ยาลัย, 2547.
6 Bloom, B.S. et al., Taxonomy of Educational Objectives, Hanbook : Cognitive Domain,
New York: Devid Mckay Co, Inc,1956.

6 • การพฒั นาผเู้ รยี นใหเ้ ป็นนกั ประดิษฐ์

วสิ ัยทัศน์ต่อผูเ้ รียน : ลูกศษิ ย์ทกุ คนมคี วามคิดสรา้ งสรรคใ์ นแบบของตนเอง และ
ทุกคนสามารถเป็นนักประดิษฐ์ได้

วิสยั ทศั นต์ ่อการจัดการเรยี นรู้ : ให้ผเู้ รยี นเลือกประดิษฐส์ ่ิงตา่ ง ๆ ตามที่สนใจ
: เรมิ่ เรียนร้จู ากส่งิ ทงี่ ่าย ใกลต้ ัวแลว้ ขยายสกู่ ารพัฒนาในชมุ ชนท้องถิน่
: ผู้เรียนมีส่วนร่วม (Active learning) ในการจัดการเรียนรู้และลงมือ

ท�ำกิจกรรม (Learning by Doing)
: ในการจดั การเรยี นรเู้ พอื่ พฒั นาสคู่ วามเปน็ นกั ประดษิ ฐน์ น้ั จดุ เนน้ สำ� คญั

คือการพัฒนาคณุ ลักษณะและทกั ษะของนกั ประดษิ ฐ์ อยา่ งต่อเนือ่ ง
: ครูเป็นที่ปรึกษา (coach) ผู้อ�ำนวยให้เกิดการเรียนรู้ (Learning

Facilitator)
: ครเู ปน็ ทง้ั ผสู้ นบั สนนุ และผใู้ หก้ ำ� ลงั ใจไมใ่ หน้ กั เรยี นละทงิ้ ความพยายาม

ในกรณที ผี่ เู้ รยี นบางกลมุ่ อาจประสบผลสำ� เรจ็ คดิ สง่ิ ประดษิ ฐไ์ ด้ แตบ่ าง
กล่มุ อาจไม่สำ� เร็จ และรว่ มเรยี นรสู้ ร้างสิ่งใหม่ไปพรอ้ ม ๆ กับลูกศิษย์
ทฤษฏีการจดั การเรยี นรู้ : ทฤษฏีในกลุ่มของการสร้างสรรค์ความรู้ด้วยตนเอง
โดยการสร้างสรรค์ช้ินงาน (Constructionism) ความรู้จะเกิดขึ้นและ
สรา้ งขน้ึ โดยผเู้ รยี นเอง กระบวนการการเรยี นรจู้ ะมปี ระสทิ ธภิ าพมากทสี่ ดุ
หากกระบวนการน้ันมคี วามหมายกบั ผเู้ รยี น
วิธีการจัดการเรียนรู้ : การวางแผนการจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบมีทฤษฏี
การเรียนรรู้ องรบั
: เตรยี มการจดั การเรยี นรูอ้ ยา่ งเป็นขัน้ ตอน
: ใหผ้ เู้ รยี นเรยี นรจู้ ากการลงมอื ปฏบิ ตั ิ โดยทำ� โครงงาน (Project- based
Instruction) หรอื ในกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้
: ต้องใหผ้ ้เู รียนมีความรพู้ ้นื ฐานท่มี ากพอ
: ต้องพัฒนาท้งั คุณลักษณะและทกั ษะของนักประดิษฐ์ และต้องพฒั นา
อย่างต่อเน่ือง อาจเริ่มพัฒนาต้ังแต่ช้ัน ม. 1 ถึง ม.3 ต่อเน่ืองจนถึง

การพัฒนาผูเ้ รยี นใหเ้ ปน็ นักประดิษฐ์ • 7

มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 เช่นการพัฒนาทักษะการคดิ ดว้ ยเทคนิค หมวก 6 ใบ7
การฝกึ ให้นกั เรยี นทำ� งานร่วมกันแบบจิกซอร์ (jigsaw)8
: การประเมนิ เพอ่ื การพฒั นานกั เรยี นในดา้ นความรคู้ ณุ ลกั ษณะ และทกั ษะ
เปน็ ระยะ (formative assesment): การประเมินสรปุ ผล (summative
assessment) จากการรายงาน (report) และการแสดงผลงาน
(Show) การนำ� เสนอผลงาน (Presentation)
ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ : องค์ความรู้ใหม/่ คณุ ลักษณะและทกั ษะของนกั ประดิษฐ์ /
สิ่งประดษิ ฐ์

กระบวนทัศน์ใหม่ในการปฏิรูปการศึกษาสู่ประเทศไทย 4.0 มีเป้าหมาย
เพอื่ ผเู้ รียนหาความรู้ ได้ดว้ ยตนเอง เป็นผ้สู ร้างผลผลิต ส่งิ ประดษิ ฐ์ หรือนวตั กรรม
ดงั นนั้ ครจู งึ จำ� เปน็ ตอ้ งออกแบบกระบวนการจดั การเรยี นรอู้ ยา่ งเปน็ ระบบ โดยเนน้
ผู้เรยี นเปน็ ศูนยก์ ลาง เพ่อื ให้ผเู้ รยี นสามารถสรา้ งความรู้ด้วยตนเอง และสรา้ งสรรค์
ช้ินงานสิง่ ประดษิ ฐ์

4. การออกแบบการจัดการเรียนรู้อยา่ งเป็นระบบ เพื่อผูเ้ รยี น
มีคณุ ลกั ษณะและทกั ษะของนกั ประดิษฐ์

การออกแบบการจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ เพื่อพัฒนาคุณลักษณะ
และทักษะนักประดิษฐ์ ประกอบด้วย (1) ปัจจัย (inputs) (2). กระบวนการ
(processes) (3) การประเมินและอำ� นวยการ (control) (4) การปรับปรุงแก้ไข
(feedback) และ (5) ผลลพั ธ์ (outputs) ดังภาพท่ี 3 ตอ่ ไปนี้

7 เทคนคิ หมวก 6 ใบ เปน็ เทคนิคการคดิ ของ De Bono (1986) เปน็ ผคู้ ดิ ข้ึน ชว่ ยใหผ้ ูเ้ รยี นคดิ รอบ
ดา้ น ศกึ ษาวธิ กี ารฝกึ ทกั ษะการคดิ ดว้ ยหมวก 6 ใบเพมิ่ เตมิ ไดใ้ นบทท่ี 2 จากบทเรยี นการจดั การเรยี น
ร้ขู องครูสวุ ารี พงศธ์ รี ะวรรณ เร่อื งนวตั กรรมกกั เก็บน้ำ� เลยี นแบบสับปะรดสี

8 การท�ำงานรว่ มกันแบบจกิ ซอร์ (jigsaw) เป็นการฝึกใหน้ ักเรียนท�ำงานเป็นกลุ่มบนความหลากหลาย
ของสมาชิก ศึกษาการฝึกทักษะการท�ำงานกลุ่มแบบจิกซอร์เพิ่มเติมได้ในบทที่ 2 จากบทเรียนการ
จดั การเรียนรู้ของครสู มไชย กระต่ายทอง เรื่องโครงงานระบบสมองฝงั ตัว

8 • การพัฒนาผู้เรยี นใหเ้ ป็นนักประดิษฐ์

3. การประเมิน

1. ปจจยั

4. ปรับปรุงแกไข
ภาพท่ี 3 องค์ประกอบระบบการจัดการเรียนรู้
การออกแบบกระบวนการจัดการเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะและ
ทักษะของนักประดิษฐ์นั้น ให้ความส�ำคัญกับการจัดการที่ต้องจัดให้เป็นระบบ
มีขั้นตอนการท�ำงานสมั พนั ธ์กัน โดยเน้นผู้เรยี นเป็นส�ำคญั การจดั การเรยี นรอู้ ยา่ งเป็น
ระบบท่ีมีความสมบูรณ์จะช่วยให้การจัดการเรียนรู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ประกอบดว้ ย 5 ด้าน จ�ำนวน 12 องคป์ ระกอบ ดังต่อไปน้ี
4.1 ดา้ นปจั จยั น�ำเข้า (inputs) มี 4 องค์ประกอบ ไดแ้ ก่
(1) ผู้เรียน ซ่ึงเป็นองค์ประกอบที่ส�ำคัญท่ีสุดครูจะต้องค�ำนึงถึง
ลกั ษณะของผเู้ รยี น ไดแ้ กค่ วามสามารถทางสตปิ ญั ญา อตั ราการเรยี น ลกั ษณะการเรยี น
ประสบการณ์เดมิ
(2) ครเู ปน็ ผู้มบี ทบาทส�ำคญั ตอ้ งเปลย่ี นวิสัยทัศน์ จากผบู้ อกความรู้
เป็นผู้อ�ำนวยการให้เกิดการเรียนรู้ (learning facilitator) ให้ผู้เรียนสร้างความรู้
ดว้ ยตนเอง เปน็ ผอู้ ำ� นวยความสะดวก เสรมิ แรง และสรา้ งแรงบนั ดาลใจ ผจู้ ดั กจิ กรรม
ผ้ปู ระเมิน และผ้สู นับสนนุ สง่ เสรมิ เปน็ ตน้
(3) การตง้ั จดุ ประสงค์ ในการจดั การเรยี นการสอน แตล่ ะครงั้ ครคู วร
ระลึกว่าผเู้ รยี น จะได้คดิ แก้ปัญหาอะไรบา้ ง ทักษะ และคุณลกั ษณะอะไร การเปดิ
โอกาสใหแ้ สดงความคดิ สรา้ งสรรคใ์ นการแกป้ ญั หานนั้ อยา่ งไร และการจะแกป้ ญั หา
หรือคิดสร้างสรรค์สิ่งใดได้จ�ำเป็นจะต้องอาศัยความรู้พื้นฐานเดิมทั้งในด้านข้อมูล
ความคิดรวบยอด และหลักการ อยา่ งเพียงพอ
(4) เนื้อหาสาระ หรือการจัดประสบการณ์ท่ีเป็นสื่อกลางน�ำผู้เรียน
ไปสจู่ ดุ หมายปลายทางท่คี าดหวังไว้

การพัฒนาผูเ้ รียนให้เปน็ นักประดษิ ฐ์ • 9

4.2 ดา้ น กระบวนการจัดการเรยี นรู้ (processes) มี 4 องค์ประกอบ
(1) การเตรียมความพร้อม ว่าจะจัดการเรียนรู้อย่างไร เพ่ือผู้เรียน

มคี วามรู้ ทักษะคณุ ลกั ษณะตามทเี่ ป้าหมายก�ำหนด
(2) การดำ� เนนิ การจดั การเรยี นรโู้ ดยผเู้ รยี นเปน็ ศนู ยก์ ลาง ใหผ้ เู้ รยี น
ใชก้ ระบวนการทางปญั ญา (กระบวนการคดิ ) กระบวนการทางสงั คม (กระบวนการ
กลุ่ม) และให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์และมีส่วนร่วม9 โดยมีรูปแบบการสอนแบบเน้น
โครงการ (Project-Based Instruction) หรอื การเรียนการสอนแบบเนน้ ผลงาน
(Productivity-Based Instruction) หรือบูรณาการรปู แบบการจดั การเรยี นการสอน
แบบต่างๆ โดยเน้นการน�ำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้ โดยครูมีบทบาทเป็นผู้อ�ำนวย
ความสะดวก (facilitator) จัดประสบการณ์เรียนรู้ใหผ้ ้เู รียน เรียนรจู้ ากการปฏบิ ัติ
ฝึกทักษะ บม่ เพาะคณุ ลกั ษณะทีด่ ี
(3) การสรา้ งเสรมิ ทกั ษะกระบวนการคดิ กระบวนการกล่มุ
(4) การจดั กจิ กรรมสนบั สนนุ สำ� หรบั นกั เรยี นเรยี นรเู้ รว็ หรอื เรยี นชา้
เรียนไม่ทัน
4.3 ด้าน การประเมนิ และอำ� นวยการ (Control) มี 2 องคป์ ระกอบคอื

(1) การประเมนิ ผลเพอื่ การพฒั นาผเู้ รยี น (Formative Assessment)
เพื่อดูว่าผู้เรียนได้ทักษะและความรู้ที่จ�ำเป็นเหล่านั้น ไปแล้วหรือยัง ผู้เรียนบรรลุ
ตามวัตถุประสงค์ท่ีได้ก�ำหนดไว้ในแต่ละข้ันตอนแล้วหรือยัง และประเมินภาพ
ความสำ� เรจ็ (Summative Assessment) เมอื่ สน้ิ สดุ กระบวนการจดั การเรยี นรู้
(2) อ�ำนวยการเรียนรู้ สง่ เสรมิ ใหก้ ำ� ลงั ใจ และชว่ ยเหลือผเู้ รยี นเป็น
ระยะ ระหว่างทางการเรยี นรู้
4.4 ดา้ น ผลลพั ธ์ ผลผลิต คอื ความรใู้ หม่ คุณลักษณะและทกั ษะของ
นกั ประดษิ ฐ์ และหรอื ส่งิ ประดิษฐ์
4.5 ด้าน ข้อมูลย้อนกลับ การปรับปรุงแก้ไข (Feedback) คือ
การวเิ คราะหข์ ้อมลู คิดวิธกี ารปรับปรุงแก้ไขผลลพั ธ์ ผลผลิต การจัดการเรยี นร้ตู ่อไป
เชน่ ทำ� ไมผเู้ รยี นไมส่ ามารถสรา้ งผลผลติ ได้ ผเู้ รยี นอาจจะยงั มพี นื้ ฐานความรเู้ ดมิ ไม่

9 พิมพันธ์ เตชะคปุ ต์, การเรียนการสอนท่ีเนน้ ผเู้ รยี นเป็นส�ำคญั : แนวคิด วิธีและเทคนคิ การสอน,
กรุงเทพฯ: สถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ(พว), 2544, 6-9,17.

10 • การพัฒนาผเู้ รยี นใหเ้ ปน็ นกั ประดิษฐ์

เพยี งพอ การจดั การเรยี นรไู้ มน่ า่ สนใจ สอ่ื การเรยี นไมด่ พี อ ผเู้ รยี นไมม่ คี วามสขุ หรอื
ส่ิงประดิษฐ์ทีส่ ร้างขน้ึ ต้องได้การปรับปรงุ อยา่ งไรถึงน�ำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ เป็นต้น
สรุปแนวทางการออกแบบการจัดการเรียนรู้เพ่ือผู้เรียนมีคุณลักษณะและ
ทักษะของนักประดิษฐ์และสามารถพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ได้ ต้องจัดการเรียนรู้อย่าง
เป็นระบบมี 12 องค์ประกอบ ดงั ภาพท่ี 4 ต่อไปน้ี

ภาพท่ี 4 การออกแบบการจัดการเรยี นรู้เพอ่ื ผู้เรียนมคี ณุ ลักษณะ
และทักษะของนกั ประดิษฐ์10

10 สงัด อุทรานันท์, เทคนิคการจัดการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ, กรุงเทพฯ: ครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์
มหาวทิ ยาลัย, 2532, ?.

การพัฒนาผ้เู รยี นใหเ้ ป็นนกั ประดิษฐ์ • 11

Learn From The Best,
Create The Inventors

บทที่ 2

บทเรยี นการจดั การเรียนรู้ของครผู ้สู รา้ งนกั ประดษิ ฐ์
ประกอบภาพยนตร์ส้ัน

จากหลกั การการจดั การเรยี นรู้
นำ� ไปสกู่ ารปฏิบตั ิจริง

บ ทเรียนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณลักษณะและทักษะของ

ผเู้ รยี นใหเ้ ปน็ นกั ประดษิ ฐต์ อ่ ไปนเี้ ปน็ บทเรยี นจากครทู ม่ี วี ธิ ปี ฏบิ ตั ิ
ท่ีดีในการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณลักษณะ และทักษะของผู้เรียน
จนกระทงั่ ผเู้ รยี นสามารถสรา้ งสง่ิ ประดษิ ฐ์ และไดร้ บั รางวลั จากการประกวด
ในเวทรี ะดับนานาชาติ

วิธกี ารจัดการเรียนรู้ทดี่ ี (Best Practices) ประกอบดว้ ย
P การจดั การเรยี นรูโ้ ดยเน้นให้ผู้เรยี นเปน็ ศูนยก์ ลาง ( Child Center) ให้
ผูเ้ รียนสรา้ งองค์ความร้ดู ว้ ยตนเอง (Constructionism)
P การจัดการเรียนรู้รูปแบบโครงงานเป็นฐาน (Project-Based
Instruction) แบบเน้น ผลงาน (Productivity-Based Instruction) แบบวิจัย
เป็นฐาน (Research-Based Instruction) และบูรณาการรูปแบบการจัดการ
เรยี นรแู้ บบต่าง ๆ โดยเน้นการนำ� ความรู้ ไปประยุกต์ใชไ้ ด้
P การจัดการเรียนรู้อย่างมีหลักการ เป็นระบบมีขั้นตอน โดยพัฒนา
ความรู้ คณุ ลักษณะ และทกั ษะผ่านรายวชิ าตามหลกั สูตร และเรยี นรู้ผา่ นกจิ กรรม
(Activity Based Learning) ภายในและภายนอกห้องเรียน

การพฒั นาผู้เรียนใหเ้ ปน็ นกั ประดิษฐ์ • 13

เรื่องที่ 1 การจัดการเรียนรู้ของครูสุวารี พงศ์ธีระวรรณ

และเรื่องเล่าการสร้างสิ่งประดิษฐ์ของนักเรียน เร่ือง นวัตกรรม
กกั เกบ็ นำ�้ เลยี นแบบสบั ปะรดสีโรงเรยี นสรุ าษฎรพ์ ทิ ยา สำ� นกั งาน
เขตพืน้ ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษา เขต 1

“จินตนาการ “ถา้ ไมห่ ยุดจนิ ตนาการ
เปล่ยี นโลกได…้ ” ยอ่ มเหน็ แสงสวา่ ง
อย่ปู ลายฟ้าเสมอ”

ภาพยนตรส์ ้นั การจดั การเรยี นรู้และการสรา้ งส่งิ ประดิษฐ์
เรือ่ ง นวตั กรรมกกั เกบ็ น�้ำเลยี นแบบสับปะรดสี

ความเป็นมา

โลกยุคปัจจุบันเป็นที่ยอมรับว่ามีการเปล่ียนแปลงของนวัตกรรมอย่าง
ชัดเจน เกิดเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในทุกวงการ ครอบคลุมวิถีการด�ำเนินชีวิตของ
ประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งเศรษฐกจิ การเมอื งและการศกึ ษา
ระบบการจัดการศึกษาให้ความส�ำคัญกับการพัฒนาบุคลากรให้ก้าวทัน
ความเปล่ียนแปลงดังกล่าว ทั้งด้านการจัดระบบบริหาร การพัฒนาบุคลากร
14 • การพฒั นาผ้เู รยี นให้เป็นนกั ประดษิ ฐ์

โดยค�ำนึงถึงคุณภาพผู้เรียน มุ่งเป้าหมายให้ผู้เรียนเป็นนวัตกร การเปลี่ยนแปลง
มีส่วนส�ำคัญและมุ่งมั่นพัฒนาให้สัมฤทธิผลคือ ผู้เรียนเป็นผู้สร้างสิ่งประดิษฐ์
ออกส่สู ังคมโลก
ดังน้ัน จากความส�ำคัญดังกล่าว ครูสุวารี พงษ์ธีระวรรณ จึงได้มีแนวคิด
ในการพัฒนาโครงงานวิทยาศาสตร์ และสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ ให้มีความ
เป็นสากลบนพื้นฐานของความเป็นไทย โดยใช้หลักส�ำคัญคือ การฝึกคิดประดิษฐ์
สร้างตามความสามารถ ตามความสนใจและสอดคล้องกับสภาพจริงในท้องถิ่น
บนฐานคิดตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อแก้ปัญหาท่ีเกิดขึ้น หรือ
พัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีข้ึน โดยใช้โจทย์จากสิ่งใกล้ตัว ใช้วิธีคิดเป็นข้ันตอนของ
นักวิทยาศาสตร์ มีโลกและนวัตกรรมใหม่ๆเป็นเคร่ืองชี้แนะ มีการขับเคล่ือน
ภายใต้ฐานคิดที่ค�ำนึงถึง ความพอเพียง มีเหตุมีผล มีภูมิคุ้มกัน มีความรู้ในการ
สร้างนวัตกรรม และท่ีส�ำคัญคือการมีคุณธรรมในการคิดสร้างนวัตกรรม ผ่าน
กิจกรรม“โครงงานวิทย์ฯ ชิดชาวบ้าน” เพื่อมุ่งเน้นเกิดความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแกป้ ญั หา จากปญั หาจรงิ ทอี่ ยใู่ กลช้ ดิ กบั นกั เรยี น พฒั นาความ
สามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ และความสามารถในการใช้
เทคโนโลยอี ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ครสู วุ ารี ครสู อนสาระวทิ ยาศาสตรจ์ งึ ไดจ้ ดั กจิ กรรม
ค่ายโครงงานวิทยาศาสตร์ ดว้ ยการพฒั นาเป็น 3 ค่ายคือ ค่ายแรก คา่ ยเพาะกลา้
ค่ายท่ีสอง ค่ายปลูกกล้า ค่ายที่ 3 ค่ายต่อกล้าให้เติบใหญ่ เพื่อพัฒนานักเรียน
อย่างตอ่ เนื่องจนมีการพัฒนานวตั กรรมท่มี ีคณุ ภาพสู่สังคม

วัตถปุ ระสงค์

1) เพอื่ ใหน้ กั เรียนสามารถสรา้ งนวตั กรรม ตามความสามารถ ตามความ
สนใจและสอดคลอ้ งกับสภาพจริงในท้องถิน่
2) เพ่ือให้นักเรียนสามารถน�ำความรู้ และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี งไปใชใ้ นการดำ� รงชวี ติ ดแู ลรกั ษาสง่ิ มชี วี ติ อนื่ เฝา้ ระวงั หรอื พฒั นาสงิ่ แวดลอ้ ม
3) เพื่อให้นักเรียนสามารถระบุปัญหาของโครงงาน ด�ำเนินการสร้าง
นวัตกรรม โดยใชเ้ ทคโนโลยีอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และนำ� เสนอข้อมลู ของโครงงาน
ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ

การพัฒนาผู้เรียนให้เป็นนกั ประดิษฐ์ • 15

ข้ันตอนการจัดการเรยี นรู้

เพ่ือให้การด�ำเนินงานเกิดประสิทธิผลอย่างมีประสิทธิภาพ ดังน้ันจึงต้อง
วางแผนเป็นขั้นตอนเพื่อให้นักเรียนได้พัฒนาตั้งแต่กระบวนการคิดข้ันต้นไปจนถึง
ความคดิ ขน้ั สงู ภายใตห้ ลกั คดิ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง โดยการเรมิ่ ตน้ เตรยี ม
ความพรอ้ มทส่ี �ำคัญของผู้เรียน ใน 5 ด้านสาํ คัญ คอื
1. จัดชุดกิจกรรมให้นักเรียนวางแผนศึกษาค้นคว้า เพ่ือทําความเข้าใจ
เนอ้ื หาแกนหลกั ทางวชิ าการ (mastering core content)
2. จัดชุดกิจกรรมให้นักเรียนได้ฝึกการคิดวิเคราะห์วิจารณ์ (thinking
critically) และการแกป้ ญั หาท่ีซบั ซ้อน (solving complex problems)
3. จัดชุดกิจกรรมให้นักเรียนได้ทํางานร่วมกันเป็นกลุ่ม (working
collaboratively)
4. จัดชุดกิจกรรมให้นักเรียนได้ฝึกการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
(communicating effectively) และการเป็นผู้ริเร่ิม (self-directed) และรับ
คาํ วิพากษ์วจิ ารณไ์ ดอ้ ย่างดี (incorporate feedback
โดยมกี รอบการดำ� เนนิ กจิ กรรมภายใตห้ ลกั การทสี่ ำ� คญั คอื การนำ� หลกั ปรชั ญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง แนวคิดทฤษฎีท่ีสามารถกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความคิด
สร้างสรรค์ น�ำทฤษฎี หมวก 6 ใบและแผนผังมโนทัศน์มาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อ
พฒั นาความสามารถในการคดิ จดั ทำ� แผนการจดั กจิ กรรมเพอื่ พฒั นากระบวนการคดิ
1) สร้างโมเดลการเรียนรู้ SRP. STEM Model โดยเริม่ จดุ ประกายความ
สนใจด้วยบริบทของท้องถ่ิน มีปราชญ์ชาวบ้านเป็นผู้ให้ข้อมูล เพ่ือน�ำมาก�ำหนด
ปญั หาทนี่ กั เรยี นสนใจ นำ� ประเดน็ ปญั หามาปรกึ ษาอาจารยท์ ป่ี รกึ ษา ใชช้ ดุ กจิ กรรม
ระดมความรู้เพอ่ื สรา้ งนวตั กรรม SRP.STEM Model
2) การจัดท�ำชุดกจิ กรรม SRP.STEM Model ทีม่ งุ่ เนน้ ให้โครงงานวิทย์ฯ
ชิดชาวบา้ น และไดน้ ำ� แนวคิดของทฤษฎีหมวก 6 ใบ ของเดอโบโน มาจัดกจิ กรรม
ท�ำให้การคิดเป็นข้ันตอนแบบบันไดเพ่ือให้คิดทีละข้ันด้วยความละเอียดรอบคอบ
และน�ำแผนผังมโนทัศน์มาใช้สร้างมิติด้านเจตคติทางสมอง คือจินตนาการ ความ
ยืดหยุ่น มาเปน็ กรอบด้วยกจิ กรรมชุดกิจกรรม SRP. Model ภายใต้หลักปรชั ญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง
16 • การพัฒนาผูเ้ รียนใหเ้ ป็นนักประดิษฐ์

กรอบการจัดกจิ กรรมเพ่อื สร้างนวตั กรรม

แนวทางของนวัตกร แนวทางของการท�ำกิจกรรม

เศรษฐกจิ SRP.
พอเพยี ง Model

ในการออกแบบกิจกรรมให้สอดคล้องกับกรอบแนวคิด ได้ออกแบบให้
แต่ละกิจกรรมมีการพัฒนาทักษะ การคิด ท้ังการคิดขั้นต้นและข้ันสูงจ�ำนวน 5
กิจกรรม คือ กิจกรรมวิเคราะห์ปัญหา กิจกรรมสรรหาหลักการ กิจกรรมผสาน
ความคิด กิจกรรมพนิ ิจรอบด้าน กจิ กรรมเชยี่ วชาญการคิด ดังนี้ คือ

การพัฒนาผเู้ รียนใหเ้ ปน็ นกั ประดิษฐ์ • 17

กจิ กรรมท่ี 1 วเิ คราะหป ญหา

กจิ กรรมนมี้ ุง เนน ใหนักเรยี นไดฝกกําหนดปญ หา สามารถรับรสู ถานการณ วเิ คราะหส ถานการณท ี่เกดิ ขึ้น

แมนลเีาํ หมะตกาุผวําิเลหกวคนเิิจรภกคดากจิาระปกยราหญรใระตรมหหมสกทส์านถจิจ่ีถ้ีมา1กาานงุ กรนเกนสรวกานมถเิราใคานณรหนรี้มณนทกาุ่งกั่ีพท์าะเเรนหบเี่รกณียน้เป์ หดินไใญัดน็ขหไดนึ้หน้โดฝดาักังก แยนเกรลใ้ันกาํชยีะหใิจแนกนนผกไำ�กดนรดหิจปรผ้ฝนกญมงัึกรดปทหกรปลาม่ี�ำญัา1นหสคห้ีจานู มะซาดวาเึ่งจปริเรเาค่ิมปถัญกจรรน สหบัาาแถกะราผูสาใหนสหนถปผานากังญมนกัาทากเรหใ่ีรราณชียารถมนณไ์รอดไับ ดงว้ โรหรเิดคูส้ บัายรถปราใาสูญชะนถหแ้ หกาผส านาถนกรแาผณานลงัระก์ณสารา ณแเหลท ตวีเ่ ุอจกยึงิดาขงึน้
จาแมนกลีเาํสหมะถตกาาุผวทวปําน1ิเลหิเลพี่คค.กนารภบราดาคารารเะป่ยูหะะณซหญใบหน็ง่ึตทหเุป์ส ปดกี่ าญถงัําน็จานหหาแนกนั้นาผกสทดในาถนร่ีตใผาณหกอนงั จิงททกแกพ่ีาใ่ี ชกรรบณม้รไ เขหมอไดน็นงหจ้ีโดดาแะงั ปยลเนรใญัะน้ัชมิ่ สใแหจนาผาากเนหกิจแผตใกลังหุระปน้รโสลมดกั านยเคเรห้จีใู ยีชะซตนเึ่งแอุรเไผ่มิปยดนจนา่ ร้ างผแบักมผังใรเีปนหหสู้ ผลนถตังาักาทผุ คเนลใี่รู ชยีกภตมนาัวอาไรดยงทณหรใี่ ตับ์าแ1ปส้รลูสญถว้ถาหจานานงึ กนกแาาำ�ลรรมะณณสาา์ แเหลตวุอจยึงา ง
จากสถจ าาน1ก.กสาถรระณาบน1ท ุปก.กี่ ญาํารรหหะณนบาทดปุ์ทตี่ใญัก่ีหอ ำ�งหหแากนทไ ดข่ีตใ้อหง้ แแลกะไ้ ขสาแเหลตะุ สโาดเยหใตชแุ ผโนดผยังใชปล้แาผคนู ผตังัวปทล่ี า1คู่ ตัวที่ 1

2. ระบุแนวทางทจ่ี ะนาํ มาใชในการแกไข โดยใชแ ผนผงั ปลาคู ตวั ท่ี 2

2. ระ บแุ นวทา2งท. ่จีระะนบําแุ มนาวใชทใ านงกทา่จีรแะกนไ�ำขมาใโชดย้ในใชกแาผรนแผกังไ้ ปขลโาดคยู ใตชวั ้แทผี่ น2ผงั ปลาคู่ ตัวที่ 2

18 • การพัฒนาผูเ้ รียนให้เปน็ นกั ประดษิ ฐ์

15

กจิ กรรมท่ี 2 สรรหาหลักการ กจิ กรรมท่ี 2 สรรหาหลกั การ

เปนก จิ กรรมเทปม่ี ็นงุ กเนิจน กใรหรนมกัทเี่มรุ่ยงี เนนไ้นดกใสิจหกืบ้นรครักนมเแรทียน่ 2นวคสไดรดิ ร้สหืบทาคหฤ้นลษักแฎกนี าหวรคลิดักกทารฤทษาฎงีวหทิ ลยักาศกาสรตทรามงาใชใ นการแก
กอนลงมกอือนสลรงวามิทงเือปนสยนรวากา ัตศงิจนกกาวรสรตัรรตมกมรทรร์มม่ี มุงาเในชน ้ใในหนกกั าเรรยีแนกไป้ดสญั ืบหคนาแกนอ่ วนคิดลงทมฤือษสฎรี หา้ ลงกันกวาตัรทการงรวิทมยาศาสตรม าใชในการแกปญ หา

ที่มีอยูก รก เอมู้ิจนจอ่ื กแทาลรกําวกรนามสวรูแเทสัตมนืบี่กว่อื 3คครทนดิ รข�ำใผมนอกสมเกาดูลาารริมแนสสลทรคืบวาม่ี วคงใอีนา้นหวยมพขัตูก่คฒักอ้ อ่รดินมกรนาลูมิจกแกใแกาหลจิรรลใคว้รหก้วิดมมสรรท ิเูแ่รใรี่ หม่ิ3นม้พวทหคฒั ผล่ี ิดัก3นสกใาานานกรกคาผาหวรรสราคสือมาดิ ครคนรว้าิดาิเงครมนิ่มวรวู จาัตาหมกกลนครักวริดตั กมกาใรหรรมใ้ หเหดมมิ ร่ือความ

เมื่อทาํ การสืบคนขอ มลู แลว ใหพฒั นาการคดิ รเิ รม่ิ หลกั การ หรอื ความรู จากนวัตกรรมเดิม
ที่มอี ยูกอนแลว สูแนวคดิ ในการสรา งนวตั กรรมใหใ หม

การพัฒนาผ้เู รยี นให้เป็นนกั ประดษิ ฐ์ • 19

กิจกรรมท่ี 4 พนิ ิจรอบดา้ น
ปจกสรรรรมคเมจดุ่ือเมดแี น วพกนจิิจกกออัฒวขากุปุปจิจิคนอรรกกสสณิดาดรรรรรเใีมญปรรนแรรเน็มมวคคามลกณนิเเเววื่ะอาคมมจจวรลิิเเมรุดดุคค่ื่ืออตัสงีาแมเเมมรรกขระดดนอาารแีีแาอหนนงะะวรงนนส์ปหมหหนคววขขรัญาิดวปปุปคคออจัตใหญญดิดิุกดดนกาดใใอีีหหกรอนนแแ้อนราาาุปลลกกยพมออระะสาาสใฒัุปุปปรรลลรหรสสรัญกงงสสนม้คาขขรรรรจิหาแงาาทออรรเกานงงลปอี่คคสสนนรววานรรททอัรววตจปุปุนออีีุ่่ปัตัตมกจพกกวาากกสะรทฒัออตัจจรรรเรนนก่ีกจจรรรนม4ดิคพพระะมมาใรขเเใใฒฒััหทพกกจมหห้ึนกัมกกดุิิดดนนนิมมจษ่เจิจิแขขาาดาแแิจะเเลกกนนึ้้ึก่นลลปปรก้วเรรจจววนนรอาขรราา่ือรนนบอ้กกมมพพงคพววดดเเทททิดัฒัฒัตตัรรีัฒ่ีจาแวอ่่ือืีี่่กกนนะน44นลจิงงรรทาาะาททารรททำ�พพลรทมมจ่จ่ีี กัักณงักนิินะะขษษททษญ้อิจิจะะําาํะสารรกกกรณออาาปุารรบบกรคคมดดค่อิิดดอนิดาาววงนนิจิจหาาารรจณณดุ ญญดอาาณณย
มม

วเิ คราะหป ญ หาอุปสรรคทอี่ าจจะเกดิ ขน้ึ จากเร่อื งท่ีจะทาํ

ววิเิเคครราาะะวหหิเคจจ รุดดุ าเเะดดหนนจ์ ขขดุ ออเดงงสส่นิ่งิ่งขททอี่จ่ีจงสะะง่ิทททาํําจ่ี ะทำ�

คราะหจุดเดนของสิง่ ทจี่ ะทาํ ปปรระะโโยยชชนน ขขออดดีี จจดดุุ เเดดนน

ลลงงคคววาาปมมลรงเเะหหคโวนน็็ ยาขขชมออเนงงหกก็นลลขมุมุ อขงกอ ลด่มุ ี จุดเดน

งความเหน็ ของกลุม

เปน กิจกสสร่ิ่งงิรปปมรรทะะมี่ ดดุง ษิิษเเพปปฐฐฒั นนตต นกกาามมจิจิาทกกแแรนรนักรรษววมมคคะททดิดิกมม่ีี่ใใาหหงุุงรพพมมคกฒัฒัดิ ิจสแแนนกงัลลาารเะะททครเเรักักรรมายีียษษทะบบะะหี่ เเกก5รรข าายีียอ รรเงงมชคคกกรรลูิดดิ่ียะะจิิจทสสบบวกกีร่ังังบบชรรเเวคคกกรราบรราามมญราารรวททะะสสกมหหรรี่ี่ าไ55าาขขดรงงออจคนนเเมมชชาววดิ กูลลู ียี่่ยตััตทททกกววกุ่่รีรีรรชชววกรราาบบมมจิ ญญรรกออววรยยกกมมราา าาไไมงงดดรรเเปปมจจคคาานนาดิิดกกเขขชททนั้ัน้ ื่อกุกุตตมกกออโจจิิยนนกกงกรรรรนั

ประดิษฐตาม2แ0นว•คดิ กใาหรพมัฒ นแาลผะเู้ รเียรนียใบหเ้ เปร็นียนงกั รปะรบะดบษิ ฐก์ ารสรา งนวัตกรรมอยางเปน ข้ันตอน

17

กิจกรรมท่ี 5 เช่ียวชาญการคดิ
กร ะจิสงิ่บกปบรระรกดมษิาเปเฐรนปมต สกาน็ามรจิ เกแกา้ชนรงจิ รอ่ืวนมกคมทดิวรโมี่ใัตรหยุง พมมกงฒั ทกรแนรันมี่ลามะทงุ่ เอเกัพรปียษยฒับะ็น่าเกรนภงาียรเางาคปกรทพิดะิจ็นสบกักรังขบรษา่เคกน้ัรงะรามสตารกทะสง่ิอหรา่ี ป5าขนรงอรคนเมชะวดิูลี่ยัตดทสกวษิีร่รชงัวรฐเาบมคญร์ตอวรยกามาาามไงะดรเแปจคหานนดิ กข์ขทวั้นอ้ กุคตมกอิดิจนลู กใทรหรรี่ มมว่มบาแเรชลวื่อมมะโไเยรดงกียจ้ นั บาเกเปรนทียภกุงาพราง

ผลการจดั การเรียนรู้ ปรับปรุงนาํ ไปใช

1. นักเรียนสามารถระบปุ ญ หาของชุมชนทีน่ กั เรยี นมีความสนใจได

ผลการจดั การเรยี นรู้

อยางเหม2า.ะ1นส.ักม เรนียนกั นเํารหยี ลนักคสิดาขมองาปรรถัชญราะเศบรุปษฐญั กิจหพาอขเพอียงงมชามุใชชในนกทาร่ีนออักกเแรบียบนมเลีคือกวใาชวมัสสดุอนุปใกจรไณดได้ 
3.2น.กั เนรียกั นเสรายี มนารนถแำ� กหป ญลหกั าคทส่ีดิ นขใจอดงว ปยกราชัรทญําโาคเรศงงรานษวฐิทยกฯจิ ชพดิ อชาเวพบยาี นงมไดาอใยชาใ้งนมีปกราะสรทิ อธอภิ ากพแบบ

เลผอื ลสก มั ใฤชท4ว้ไธด.สั3ิข์พนอดั.ฒกั งเุอนงรนายีาุปนชันกกุดเเผกรรยิจียณแกพนรไ์รรสดแมลโาอ้ คะมรยนงาาํา่งเารงสนนถเวหอแิทผมยกลฯาง้ปาะชนัญิดสโชคมหารวงางบาทานนี่สไดดนอ วยใยาจเทงดมคีป้วนริคยะหสกมทิ าวธกรภิ ทา6พ�ำใบโขคอรงงEงdาwนarวdิทDยe์ฯBoชnิดo ชาว
บดเดา้ พาํงัน่ือนเนใ้ี ินชไใกนดากร้อผ4าลรย.เติ ่ารชียงนุดนมกกัโิจคีปเกรรรรงียรงะมานสนนเแ้ีททิผลี่ผธยะาิภนสแิ่งกพาปาพรรรปะแ่ ดรละิษเะฐมทินนาจ�ำงาวเกสิทผยนูทารอศงาคผสุณลตวงรุฒขาิอนแงลโนะคักนรเํารงไียปงนทาโดรนงสเไอรดบีย้อกนับสยนุรา่ าักงษเรมฎียรปี นพรซิทะ่ึงยสสาริทุปแลผธละภิ ไไดดา พ

1. การวิเคราะหค ุณภาพและประสิทธิภาพของชดุ เครอื่ งมือจากผเู ช่ียวชาญ 5 ทานมีคา ดัชนีความ
เช่ือม่ัน IOC เทากับ 1 ในทุกหัวขอของการประเมินซ่ึงอยูในระดับใชไดทุกขอ หลังจากนั้นนําไปทดสอบกับ

กระบวนการสำ� คญั สง่ ผลตอ่ การเป็นนกั ประดษิ ฐ์9น1ัก.เ6ร3ียน/ พ9ก4บ.รว8า5ะนบักซเวึ่งรถียนอื นวกพาาอึงพยรูใอในในรจะใกดนาับรดะรีดสับรทา้่ีดงีมสากง่ิ ป(99ร.ะ6%ด)ษิ แฐลท์ะปไ่ี รดะร้สิทบั ธริภาาพงขวอลั งเชครน่ือะงมเลือมศิ ีคราะEด1/บั E2โล=กคอื

ชนใ้นิ นักงดเราาียนนนกทเารน่ีไรม2อ่ืเรว.ไดีงยผตั ในลชก“กกชราานุดรรรกสดวมิจอําตักเกนนรการินพมรรกบอรากวยรมากัาทผงกี่เเลมกกักสีนิดบ็ัมัยขเสึ้ฤนกนําทก็บำ้�คับธัโญ์ิขนนดอทัก้�ำยงาเรนเงเียลสักลนถเยี ยีรเิตมียนิน่ือ(นPแแไห=ดบบล0นัง.ําบ0บเชร0สุสีดย0กน,บับั ิจทpปกปa่ีไดรiะrะรใรมชtรชโดtดคeุดสรsสกงtีิจ)ง”ี Bากแนรลrรวoะิมทเmมมย่ือีฯผeทลชําlกิดกiาaชารcราเปรวeียบรaนะาเนeทม่ีดินไเีกปปเจวใตชน็า การ
ศกึคตษขิ าองนนวกั เตั รยีกนรพรบมวาในหักมเรใ่ียนนขกอางรโรองเนรยี รุ นกั สุรษาษท์ ฎรรพัพิทยยาากมรคี นวาำ�้ มอพยงึ พา่ องใจมใปีนรระะดับสมทิ ากธทภิ ี่ราอ ยพละโด84ย.4เล2 ยี นแบบ

การพัฒนาผ้เู รยี นใหเ้ ปน็ นกั ประดษิ ฐ์ • 21

ความสามารถในการกักเก็บน้�ำของพืชตามธรรมชาติ ซ่ึงค�ำนึงถึงรูปทรงท่ีสามารถ
กักเก็บน้�ำและดักจับน้�ำของพืช จากการทบทวนเอกสารพบว่า สับปะรดสีพันธุ์
Aechmea aculeatosepala เป็นพืชท่ีสามารถเจริญเติบโตได้และพบในเขต
แห้งแลง้ เนือ่ งจากมโี ครงสรา้ งท่ีเหมาะสมในการกกั เกบ็ น้�ำและดักจบั นำ�้

สบั ปะรดสพี นั ธ์ุ Aechmea aculeatosepala พบวา่ สว่ นดกั จบั นำ�้ ทสี่ ำ� คญั
มหี ลายสว่ น ไดแ้ ก่ แผน่ ใบ ทมี่ ขี อบใบทงั้ สองขา้ งบางกวา่ บรเิ วณกลางใบทำ� ใหแ้ ผน่ ใบ
มลี กั ษณะเปน็ รปู ตวั ยเู หมอื นรางนำ�้ นำ�้ ไหลไปกกั เกบ็ ทแี่ อง่ ระหวา่ งกาบใบ (Rosette)
หนามเลก็ ๆ บรเิ วณรอบใบ บิดเป็นมุม 50 องศากบั ขอบใบ ช่วยดึงน�้ำทอ่ี ยหู่ ่างจาก
ขอบใบในระยะ 2 มิลลิเมตร ใหเ้ ข้ามาในใบได้ ผิวใบดา้ นหนา้ ใบและหลงั ใบชว่ ยให้
นำ้� ไหลลงไปรวมกนั ทรี่ างรบั น้�ำ เน่ืองจากแรงยึดติด (Adhesive force) ระหวา่ งน้ำ�
กบั ผวิ ใบมากกวา่ แรงเชือ่ มแน่น (Cohesive force) ของนำ้� นอกจากน้ี ส่วนกกั เก็บ
น�ำ้ ของสับปะรดสี Aechmea aculeatosepala เกิดจากใบเรียงเหลอ่ื มซ้อนกัน
กาบใบดา้ นลา่ งจะกวา้ งออก ขอบใบบาง มลี กั ษณะเปน็ แอง่ กกั เกบ็ นำ�้ ทรงกรวยตรง
กลางล�ำตน้ และระหว่างซอกใบทกุ ใบก็สามารถเก็บน้�ำได้ ซึง่ สามารถกักเกบ็ นำ้� ได้
มากกว่าภาชนะทรงกรวยท่มี ขี นาดเทา่ กันถงึ 17.28 เปอร์เซน็ ต์

จากขอ้ มูลสับปะรดสพี นั ธุ์ Aechmea aculeatosepala ไดน้ �ำมาเปน็ ต้น
แบบสร้างอุปกรณ์ในการกักเก็บน�้ำ โดยประดิษฐ์จากแผ่นอะลูมิเนียม เนื่องจาก
แผ่นอะลูมิเนียมมีความจุความร้อนน้อย ในช่วงเวลากลางคืนเมื่อไอน้�ำในอากาศ
มากระทบจึงกล่ันตัวเป็นหยดน�้ำได้ง่าย เม่ือน�ำชุดอุปกรณ์นี้ไปใช้จริง โดยติดต้ัง
บนต้นยางพาราซึง่ เป็นพชื เศรษฐกจิ ของประเทศไทย ตน้ ละ 3 ชดุ จำ� นวน 10 ต้น
ต่อสายน้�ำเกลือปักลงในดินห่างจากโคนต้น 1 เมตร พบว่า ความช้ืนในดินท่ีใช้
ชุดอุปกรณ์จะมีค่าสูงกว่าความช้ืนในดินที่ไม่ใช้ชุดอุปกรณ์ และไม่รดน�้ำ 17.65
เปอร์เซน็ ต์ และมีความชน้ื ในดนิ ใกล้เคียงกับการรดน�ำ้ ตามปกติ ซงึ่ น้อยกว่า รดน้ำ�
ปกติ 9.80 เปอรเ์ ซน็ ต์ นอกจากน้ี ตน้ ยางพาราที่ใช้ชดุ อปุ กรณส์ ามารถให้ผลผลิต
สูงกว่าไม่ได้ใช้ชุดอุปกรณ์ 57.50 เปอร์เซ็นต์ ด้วยราคาต้นทุนชุดละ 25 บาท
เมือ่ น�ำไปใช้กบั ตน้ ยางพาราเพียง 6 วัน กจ็ ะคุม้ ราคาทนุ
22 • การพฒั นาผู้เรียนใหเ้ ป็นนักประดิษฐ์

คุณลกั ษณะและทกั ษะทีพ่ บของนกั เรียนท่จี ะกา้ ว
เขา้ สู่ความเป็นนักประดิษฐ์

1) นักเรียนมีแรงบันดาลใจอยากเป็นนักประดิษฐ์
เหมือนรุ่นพี่ ท�ำโครงงานสิ่งประดิษฐ์ที่มีความเป็นสากล
บนพ้นื ฐานของความเป็นไทย
2) มีจิตสาธารณะต้องการช่วยสังคมโครงงานของ
นักเรียนสามารถนำ� ไปแก้ปัญหาของชุมชนได้
3) มีทักษะการตั้งค�ำถามสามารถระบุปัญหาความ
ต้องการการค้นพบ มีทักษะการสังเกต การคิดเชื่อมโยง
เลยี นแบบธรรมชาติ การค้นคว้าวจิ ัย การทำ� งานเป็นทมี นำ� ไป
สู่การสรา้ งสรรคส์ ิ่งประดษิ ฐ์

ปจั จยั ที่ทำ� ใหป้ ระสบความสำ� เร็จ
ความพรอ้ มของผ้เู รียน ในด้านวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และ
นักเรยี น เทคโนโลยี ด้านประสบการณ์ของผู้ประดิษฐ์ ท่ีได้เริ่มพัฒนา
ตนเองตง้ั แตอ่ ยู่ในระดบั ชน้ั ม.1
ความพรอ้ มดา้ นการสนบั สนนุ จากฝา่ ยบรหิ ารทใี่ หค้ วามสะดวก
ในการอนมุ ตั โิ ครงการโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ใหก้ ารดแู ล สรา้ งขวญั
ผูบ้ รหิ าร และกำ� ลงั ใจให้แก่ครูและนกั เรียน
การสนบั สนุนจากหนว่ ยงานภายนอก และภาคเอกชน ที่ให้การ
ดแู ลเรอื่ งเงนิ ทนุ ในการจดั ทำ� โครงงาน คอื สำ� นกั งานคณะกรรมการ
การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน (สพฐ.) สสวท. ภาคสังคมในจังหวัด
หภนาว่ยยนงอากน สุราษฎรธ์ านี และมแี หล่งเรียนรู้ แหลง่ ค้นควา้ ทมี่ ีความพร้อม
ใหน้ กั เรยี นไดค้ น้ หาความรู้ คอื สวนยางพารา สวนพฤกษศาสตร์
ของโรงเรยี น มหาวิทยาลยั

การพัฒนาผเู้ รยี นให้เป็นนกั ประดษิ ฐ์ • 23

ข้อคิด…

ในการประดษิ ฐช์ น้ิ งานดงั กลา่ ว นกั เรยี นกลมุ่ นมี้ รี ะบบการทำ� งานทช่ี ดั เจน
เป็นข้ันตอน คือ ศึกษาสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวใช้ทักษะการสังเกต สอบถาม มองหา
ปัญหาจากส่ิงทไี่ ดศ้ กึ ษา แลว้ รว่ มกันระดมความคดิ วา่ จะแก้ปญั หานัน้ ๆ ไดอ้ ย่างไร
หลังจากน้ันนักเรียนได้ท�ำการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล น�ำข้อมูลมาร่วมกันอภิปราย
รว่ มกนั วางแผนการดำ� เนนิ การ รา่ งออกแบบสดุ ทา้ ยของชน้ิ งานวา่ จะออกมาอยา่ งไร
จดั เตรยี มว่าจะใชอ้ ุปกรณ์อะไรบ้าง จะตอ้ งใชเ้ งินทุนเท่าไร แล้ววางแผนด�ำเนินการ
ปรึกษาครูท่ีปรึกษาทุกข้ันตอน ลงมือตรวจสอบคุณภาพของช้ินงาน ทดสอบและ
ทดลองใช้ปรับปรุงแก้ไขส่วนท่ีบกพร่อง ซ่ึงเป็นการท�ำงานภายใต้หลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง คอื มคี วามพอประมาณ ในการเลอื กใชว้ สั ดทุ มี่ รี าคาตน้ ทนุ ตำ�่ เพอ่ื
ใหเ้ หมาะแกช่ าวสวนยาง มเี หตผุ ลเชงิ วทิ ยาศาสตรใ์ นการเลยี นแบบสบั ปะรดสี และ
การเลอื กใช้อะลมู เิ นยี มในการสร้างชิ้นงาน มกี ารพจิ ารณาไตรต่ รองและใคร่ครวญ
ก่อนลงมอื จึงเป็นภูมิค้มุ กันทด่ี ี น�ำไปใช้จริง เมื่อเกดิ ผลดแี ลว้ จึงเผยแพร่ผลงาน
ในกระบวนการศกึ ษานน้ี กั เรยี นทำ� ตามขน้ั ตอนของ SRP. Model ทนี่ กั เรยี นไดเ้ รยี น
รมู้ าก่อนหน้าการลงมือปฏบิ ตั ิจรงิ
24 • การพฒั นาผูเ้ รียนใหเ้ ปน็ นักประดิษฐ์

เรื่องเล่าการสร้างส่ิงประดิษฐ์ของนักเรียน เรื่องนวัตกรรม
กักเก็บน้�ำเลียนแบบสับปะรดสี โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา
อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี รางวลั ชนะเลศิ ในการประกวด
นวัตกรรมอนุรักษ์น้�ำในระดับโลก 2016 “The Winner
Of Stockholm Junior Water Prize 2016” จากเจ้าชาย
Carl Philip ณ กรงุ สตอกโฮลม์ ประเทศสวเี ดน

จนิ ตนาการเปลยี่ นโลกได้ ถา้ เราไมห่ ยดุ คดิ ไมห่ ยดุ
จินตนาการ ย่อมได้เห็นแสงสว่างอยู่ปลายฟ้าเสมอ น่ีคือ
สญั ญาใจของเพอ่ื นรกั 3 คน น.ส.สรุ ยี พ์ ร ตรเี พชรประภา (ขวญั )
นางสาวกาญจนา คมกลา้ (ฝา้ ย) นางสาวธดิ ารตั น์ เพยี รจดั (ตนู )
ท้ัง 3 คน เขา้ ร่วมชมุ นุมโครงงานวิทยาศาสตร์ของโรงเรยี น
และเรม่ิ ทำ� โครงงานวทิ ยาศาสตรต์ งั้ แตช่ นั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1
น.ส.สุรีย์พร ตรเี พชรประภา และพัฒนาความคิดการสร้างสิ่งประดิษฐ์เรื่อยๆ มาจนจบ

ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 การคิดผลงานส่ิงประดิษฐ์ จะคิดโจทย์
ปญั หางา่ ยๆ ใกลๆ้ ตวั จากความตอ้ งการแกป้ ญั หาใหช้ มุ ชน
ผลงานชิ้นแรกเกิดจากการพัฒนาคุณภาพของเชือกกล้วย
ให้เหนียว และคิดพัฒนาต่อยอดเป็นการปรับปรุงคุณภาพ
ของเสื่อกระจูด จนกระท่ัง เป็นเส่ือกระจูดนอนสบาย
นางสาวกาญจนา คมกลา้ พร้อมรับผู้ป่วยนอนติดเตียงท่ีมีปัญหาแผลกดทับ ผลงาน
สิ่งประดิษฐ์เพื่อผู้ป่วย เพื่อช่วยสังคม ชุมชน เป็นสิ่ง
ทพ่ี วกเราภมู ิใจ และชุมชน สังคม ก็ภาคภมู ิใจในพวกเรา
ส�ำหรับส่ิงประดิษฐ์เรื่องนวัตกรรมกักเก็บน�้ำ
เลยี นแบบสบั ปะรดสี เกดิ ขน้ึ จาก การมาเขา้ คา่ ยทำ� โครงงาน
ช่วงปิดภาคเรียน ท�ำให้เราพบหัวข้อในการท�ำโครงงาน
นางสาวธิดารตั น์ เพยี รจัด พวกเราสังเกตเห็นว่าในช่วงปิดภาคเรียนท่ีไม่มีใครมารดน้�ำ

การพฒั นาผู้เรยี นให้เปน็ นักประดษิ ฐ์ • 25

ต้นไม้ แต่เจ้าต้นสับปะรดสีในสวนหย่อม
ไม่เหี่ยวเฉา แถมมีน�้ำขังอยู่กลางล�ำต้นด้วย
เราเริม่ สนใจ เอ๊ะ! ทำ� ไมจึงเปน็ เช่นนนั้

พวกเราเรม่ิ เชอื่ มโยงสอู่ าชพี เกษตรกร
ซึ่งเป็นอาชีพหลักของคนไทย โดยเฉพาะใน
จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี พวกเราจงึ ระดมความคดิ
สมองของพวกเรากำ� ลงั เชอื่ มตอ่ จกิ ซอรเ์ ลก็ ๆ
ใหเ้ ปน็ สเกลใหญ่ ตน้ สบั ปะรดสนี มี้ พี ฒั นาการ
อย่างไรจึงสามารถด�ำรงชีวิตอยู่ได้ท่ามกลางความแห้งแล้ง พวกเราเร่ิมสนใจ
และค้นหา เราเข้าไปในโลกกว้าง เข้าไปค้นหาทางอินเตอร์เน็ต เราคิดจะจับ
ละอองนำ้� เลก็ ๆ ในอากาศแลว้ รวบรวมใหเ้ ปน็ หยดนำ�้ กอ่ นไหลลงสทู่ กี่ กั เกบ็ บทเรยี น
ของสบั ปะรดสี เร่มิ เชอื่ มโยง เราประชมุ หารอื กนั
สบั ปะรดสี จะชว่ ยใหส้ วนยางพาราของบา้ นของเราชมุ่ ชนื้ ในฤดแู ลง้ ไดไ้ หม?
เราจะเอาจุดเด่นของเจ้าสับปะรดสีน้ีมาเช่ือมโยงกับสวนยางพาราของเรา
ไดอ้ ย่างไร?
วันนี้แต่ละคนต่างก็มีแต่ค�ำถาม เราสามคนจึงต้องรีบไปหาครูที่ปรึกษา
ครชู มเราว่า “พวกเธอชา่ งเกง่ จงั สามารถระบุปญั หาไดช้ ัดและทกุ ปัญหาก็รอค�ำตอบ
จริง ๆ” แต่ “ครูก็ไม่รู้ค�ำตอบเหมือนกัน และอยากรู้เหมือน ๆ กับเธอนี่แหละ
แล้วเราจะท�ำอยา่ งไรถงึ จะร้คู �ำตอบ”
ขวัญบอกว่า “เราต้องค้นคว้าเพิ่มเตมิ คะ่ ” ฝ้ายบอกวา่ “เราตอ้ งทดลอง
หาค�ำตอบค่ะ” ตูนบอกว่า “เราต้องวางแผนดี ๆ ค่ะ” แล้วเราทั้งสามคน
กเ็ รม่ิ วางแผนดำ� เนนิ การ โดยมตี น้ ยางพาราทร่ี อสง่ิ ประดษิ ฐข์ องเราไปชว่ ยเหลอื อยู่
เมื่อมีแต่ข้อสงสัยอย่างนี้ก็ต้องศึกษาค้นคว้าตามแบบท่ีครูเคยสอน
พวกเราเอาไว้ ส่งิ ทพี่ วกเราคิดไมใ่ ช่ความเพอ้ ฝนั ในที่สุด การคน้ หาของพวกเราก็ได้
ค้นพบนักประดิษฐ์ผู้ย่ิงใหญ่ของโลกผู้ได้รับสมัญญานามว่า “พระบิดาแห่ง
นักประดิษฐ์ไทย” คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซ่ึงทรง
ได้รับการทูลเกล้าถวายรางวัล Global leader Award จากองค์การทรัพย์สิน
ทางปัญญาโลกและทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของโลกที่ได้รับ
26 • การพัฒนาผูเ้ รียนให้เป็นนกั ประดิษฐ์

ขวัญบอกวา “เราตองคนควาเพ่ิมเติมคะ” ฝายบอกวา “เราตองทดลองหาคําตอบคะ” ตูนบอกวา “
เราตองวางแผนดี ๆ คะ” แลวเราทั้งสามคนก็เร่ิมวางแผนดําเนินการ มีตนยางพาราสวนของตูนที่รอสิ่งประดิษฐ
ของเราไปชวยเหลอื อยู

เม่ือมีแตขอสงสัยอยางนี้ก็ตองศึกษาคนควาตามแบบท่ีครูเคยสอนพวกเราเอาไว ส่ิงที่พวกเราคิดไมใช

ครบแารวิดงกาาวมขแัลทวพเอหพัสูGล่องงอโดlนเหลoฝกักรุ กbนลปูพลaทใวรนl่ีไ้าระดงทนุถดรรี่สlิษวับeัุชดเฐaาทชกกdไยูลท่นาาeเรยรกrลคา”ตลทนงาาคAหถว่ี ขือwวาัล9า่ขาaพนยยrอรdจรง้ีไะาพนับคบจงวลวาาหวกักลทอาเมอนรสนมาง้ีอมคคกคเกกด็วเไิดดสาา็จไคมรดอ่ืพททนครล้ท่ีดรพิดะัพ�ำูรสทบเจแยง่ีดนับาสพมูสักอินสับปียพนทนสรูหาระนัขวจงะดภขปะอิษรอูญมทงฐงาิพญผพพำ�ชลูยาวใวอดโิ่งกหลดใก�ำเหก้เุลรเรกแญายรัสลทิดเขาดะ้ังใอกทชทสนงาาร้ังโซกงรมลส่ึงเกคาคปทาผนรนวรมูไเดงพบดรคไริ่ัมกรดแะันบกรจนมสับรเับหระ่นมกาจัญ่ิมหาการแญกมษงทลชัาตรอูลัดนะระเกิยกากพจมพลโลอ่ดวาารหาัน่ถะงยพอวลชตใารงวชัดคัวยะง้
รัชกาเลปท็น่ี 9หจยับดหนมอ้ำ� กไไดด้ทซรึง่งมเปีพร็นะหรานชึ่งดใํานรัสโใคนรกางรกดาักรจพับหรมะอรกาโชดยดใ�ำชวรัสิ ดุรูพรุน เชน ตาขายไนลอน เส่ือลําแพน

จะทาํ ใหเกดิ การควบแนน และกลนั่ ตวั เปน หยดนาํ้ ได ซ่งึ เปนหนง่ึ ในโครงการพระราชดําริ

2

ใภภในนาาหหพพลทลทวว่ี ่ีง2ง2ร-ร-3ัช3ชั กกา“า“ลกลกทาทาี่รร9่ี ดด9ณกัักณจจพบัับพรหหะรมมตะออําตกหกำโ�นหโดดักนยยภใักชใพู ภชว ิงูพสัว้ คดัสงิ ฯคุรดพูจ์ฯุร.รูพจนุเชร.”นุียเชง”ใียหงมให ม่

การจะเป็นนักประดิษฐ์นักเรียนต้องมีคุณสมบัติอย่างไร

1) คุณลักษณะของนักประดิษฐ์ได้แก่ (1) มีแรงบันดาลใจ (2) กล้าคิดท าสิ่งใหม่ (3) มีความเพียรพยายามที่จะท างานให้ บรรลุผลส าเร็จ (4) เปิดใจกว้าง (5) ยอมรับความผิดพลาด (6) การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่ดี (7) มีจิตสาธารณะ 2) ทักษะของนักประดิษฐ์ได้แก่ทักษะ ทำงกำรคิด ทักษะกำรค้นคว้ำวิจัย และ ทักษะกำรท ำงำนเป็นทีม ดังนี้ (1) มี ...

ทักษะที่จำเป็นในการสร้างงานประดิษฐ์มีอะไรบ้าง

1.การวิเคราะห์ เป็นการศึกษารายระเอียดของงานประดิษฐ์ว่ามีลักษณะอย่างไร มีรายระเอียดปลีกย่อยอะไรบ้าง 2.การวางแผนการทำงาน เป็นการวางแผนที่ทำงานประดิษฐ์ โดยกำหนดแนวทาวการทำวานไว้ล่วงหน้า 3.การปฏิบัติงานตามลำดับขั้นตอน เป็นการลงมือประดิษฐ์ชิ้นงานตามแผนการทำงานและขั้นตอนของการประดิษฐ์เรียงตามตวามสำคัญ

งานประดิษฐ์แบ่งเป็นกี่ประเภทอะไรบ้างพร้อมยกตัวอย่าง

ประเภทของเล่น - วัสดุที่ใช้ เช่น กระดาษ ใบลาน ผ้า เชือก พลาสติก กระป๋อง - อุปกรณ์ที่ใช้ เช่น กรรไกร เข็ม ด้าย กาว มีด ตะปู ค้อน แปรงทาสี.
ประเภทของใช้ - วัสดุที่ใช้ เช่น กระดาษ ไม้ โลหะ ดิน ผ้า ... .
ประเภทของตกแต่ง - วัสดุที่ใช้ เช่น เปลือกหอย ผ้า กระจก กระดาษ ดินเผา ... .
ประเภทเครื่องใช้ในงานพิธี.

นักประดิษฐ์มีอะไรบ้าง

10 สุดยอดนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลของโลกกับผลงานเด่นและวาทะเด็ด.
นิโคลา เทสลา (Nikola Tesla) ... .
ทอมัส เอดิสัน (Thomas Edison) ... .
อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ (Alexander Graham Bell) ... .
สองพี่น้องตระกูลไรต์ (Wright Brothers) ... .
อาร์คิมิดีส (Archimedes) ... .
เจมส์ วัตต์ (James Watt).