10 อันดับ รถ ppv ประหยัดน้ำมัน

  • Chevrolet Captiva 2.0 LTZ เชฟโรเลต 2016 แคปติวา รุ่น 2.0 Chevrolet Captiva สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ให้ความดันคอมมอนเรลที่ 1,800 บาร์ พร้อมเทอร์โบแปรผัน กำลังสูงสุดถึง 163 แรงม้า (PS) แรงบิด 360 นิวตัน-เมตร ทำงานเงียบ และประหยัดน้ำมันกว่า ให้คุณเพลิดเพลินกับการขับขี่ได้มากยิ่งกว่าที่เคย เครื่องเสียงพร้อมระบบ 3DSS (3D Sound Staging), MP3, CD, จอภาพ Touch Screen (7"), USB, ช่องต่อ Aux, Bluetooth, ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ (รองรับระบบ Apple CarPlay), อุปกรณ์อื่นๆ (ระบบ Chevrolet MyLink) ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบปรับเปลี่ยนเกียร์ DSC (Driver Shift Control)

    • ISUZU MU-X 3.0 VGS DVD Navi A/T 4X4 ด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ ISUZU Ddi 3.0 VGS Turbo 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมัน เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ แบบ REV TRONIC มั่นใจด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ ระบบอีซูซู อินไซต์อัจฉริยะ ภายในกว้างขวาง ช่วงล่างนุ่มนวลแข็งแกร่ง พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และสิ่งอำนวยความสะดวกเต็มคันทั้งปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ ระบบเชื่อมต่อความบันเทิง ระบบควบคุมการทรงตัว เนวิเกเตอร์ ฯลฯ นับว่าคุ้มกับค่าตัวที่จ่ายไปแน่ๆ

      • Mazda CX-5 2.2 XDL 4WD Diesel เน้นความสปอร์ตแบบอเนกประสงค์ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ทั้งตัวถังน้ำหนักเบาโครงสร้างแข็งแรง เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร เทอร์โบ 2 สเต็ป น้ำหนักเบาลดความฝืดกำลังสูงสุด 175 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร เยอะราวกับรถปิคอัพ! แรงและความประหยัด ระบบเกียร์สกายแอคทีฟ 6 จังหวะ เปลี่ยนได้รวดเร็ว ภายในออกแบบสไตล์สปอร์ต เบาะตอนหลังปรับได้อเนกประสงค์ เครื่องเสียงครบทุกความบันเทิงพร้อมลำโพงจาก BOSE

        • Subaru XV 2.0i-P รถอเนกประสงค์สำหรับผู้ชื่นชอบความท้าทายปรับโฉมหรูหรามากขึ้น สมรรถนะโดดเด่นเช่นเดิมจากเครื่องยนต์บ๊อกเซอร์ 2.0 ลิตร 150 แรงม้า แรงบิด 196 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมาตร กระจายกำลังทุกล้อเท่าๆ กัน เกาะถนนและปลอดภัย ช่างล่างแนวสปอร์ต ภายในนั่งสบายปรับเบาะหลังแบบอเนกประสงค์ ใต้ท้องสูงพร้อมลุยได้ทุกสภาพถนน และให้มาพร้อมชุดแต่งเพิ่มความหล่อ

          • Ford Everest 3.2L Titanium+ 4x4 AT รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง กว้างขวางหรูหราโครงสร้างแบบบอดี้ออนเฟรม ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ พร้อม Terrain Management System (TMS) เทคโนโลยีล้ำยุค เช่น ระบบสั่งงานด้วยเสียงซิงค์2, ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ, ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับรถขณะออกจากช่องจอด นับเป็น SUV คุ้มค่าอีกรุ่นหนึ่งที่น่าเป็นเจ้าของ

            • NISSAN X-Trail 2.5 V 4WD Sunroof รถอเนกประสงค์ระดับพรีเมียม โดดเด่นในเทคโนโลยีหน้าจอแสดงข้อมูลอัจฉริยะ 3 มิติ ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดระบบไฟฟ้าสั่งงานด้วยรีโมท เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุดที่ 171 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 233 นิวตันเมตร เกียร์ X-Tronic CVT และฟังต์ชั่น Manual Mode 7 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ นับว่าคุ้มสุดๆ ได้ทั้งเทคโนโลยีและรถพร้อมลุยในคันเดียว

              • HONDA HR-V EL รถอเนกประสงค์เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ระบบเกียร์ CVT เทคโนโลยีเพื่อความสะดวกยังมีให้มาครบ เช่น โหมดประหยัด, ระบบเบรกมือไฟฟ้า, ไฟหน้า LED และเหนือกว่าด้วยหลังคาพาโนรามิครูฟที่หายากในรถระดับนี้ แม้ชุดเครื่องเสียงจะถูกปรับเปลี่ยนเป็นสเปคต่ำลงจากเหตุผลด้านราคาและต้นทุนให้อยุ่ในระดับที่เหมาะสม ในด้านอื่นๆ ก็นับความคุ้มค่าในเรื่องของฟังค์ชั่นใช้งาน ความคล่องตัวและด้วยยอดขายสะสมที่มีเรื่อยๆ จนแถบส่งมอบไม่ทัน

                • Toyota Fortuner "New Legend Of the Pride เหนือนิยามแห่งศักดิ์ศรี" SUV หรือ ในประเทศไทยเรียก PPV ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ พร้อมความมั่นใจในทุกการขับขี่" (The True SUV with Style & Confidence) ดีไซน์ด้วยการออกแบบที่หรูหรา ล้ำสมัย ทั้งภายในและภายนอก เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที เทคโนโลยี GD Efficient Boost ให้แรงบิดสูงสุดในรอบกว้าง Flat Torque พร้อมประหยัด เงียบพร้อมความประหยัด

                  • Mitsubishi Pajero Sport SUV หรือในประเทศเราเรียกว่า PPV มาพร้อมแนวคิดการออกแบบเพื่อให้เป็น "รถยนต์เอสยูวีแบบออฟโรดที่ทันสมัยและให้ความสะดวกสบาย" มีสมรรถนะที่โดดเด่นจากเครื่องยนต์ดีเซล MIVEC คลีนดีเซล 2.4 ลิตร 181 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ 8 สปีด พร้อมสปอร์ตโหมดและทำงานควบคู่กับระบบตัดกำลังไปยังเพลาขับโดยอัตโนมัติ เมื่อเหยียบเบรก (INC : Idle Neutral Control) และระบบ G-Sensor และระบบ Super Select 4WD-II เลือกรูปแบบการขับขี่ได้ 4 รูปแบบ ให้ความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะที่ครบครัน และความสะดวกสบายของห้องโดยสาร ราคา 1,469,000 บาทในรุ่นท็อปสุดและได้ฟังค์ชั่นแบบครบๆ

3 พฤษภาคม 2022 เวลา 18:58 น. | หมวดหมู่ MAGAZINE, Special Report | โดย QCXLOFT | อ่านไปแล้ว: 21773 ครั้ง

Headlightmag Best Fuel ECONOMY ! 10 อันดับ กระบะ Double Cab ยกสูง ที่ประหยัดน้ำมันมากที่สุด !

จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่สูงและมีความผันผวน ประกอบกับเงินบาทที่อ่อนค่า ส่งผลให้ต้นทุนน้ำมันดีเซลที่ขายปลีกในบ้านเราแพงขึ้นตามไปด้วย หน่วยงานรัฐฯ จึงมีการปรับการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลเป็นแบบจ่ายคนละครึ่งกับประชาชน เพดานราคาน้ำมันดีเซลจากเดิมที่เคยอยู่ที่ระดับ 30 บาท/ลิตร จะถูกปรับเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันไดจนถึง 35 บาท/ลิตร เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ที่มีการประกาศปรับราคาน้ำมันดีเซล B7, B10 และ B20 เพิ่มขึ้นลิตรละ 2.00 บาท ยังไม่รวมน้ำมันดีเซล Premium สูตรพิเศษที่บางค่าย ปรับเพิ่มขึ้นถึงลิตรละ 3.60 บาท เลยทีเดียว แน่นอนว่ารถที่ใช้เชื้อเพลิงดีเซลทั้งหมดจะได้รับผลกระทบโดยตรง และส่งกระทบต่อเนื่องไปยังส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ค่าสินค้า ค่าขนส่ง เช่นกัน

ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ก็หนีไม่พ้นที่จะได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ เนื่องจากรถกระบะในบ้านเราซึ่งมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของรถยนต์ในประเทศ ที่สำคัญคือเป็นเครื่องยนต์ดีเซลเกือบทั้งหมด นั่นอาจทำให้ผู้บริโภคบางรายอาจชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปก่อน หรือไม่เช่นนั้นก็อาจมีเงื่อนไขการติดสินใจเปลี่ยนไปจากเดิม นอกจากรูปลักษณ์การออกแบบ อุปกรณ์ Option ตลอดจนสมรรถนะการขับขี่แล้ว ปัจจัยด้านความประหยัดน้ำมัน ยังจะมีผลต่อการเลือกซื้อสำหรับผู้บริโภคมากขึ้นพอสมควร Headlightmag จึงถือโอกาสนี้ นำผลการจัดอันดับรถกระบะ 4 ประตู ยกสูง 10 รุ่น ที่มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดีที่สุด ประหยัดที่สุด เมื่อทดสอบตามมาตรฐานดั้งเดิมของเรา มารายงานให้ได้ทราบกัน

10 อันดับ รถ ppv ประหยัดน้ำมัน

หลายท่านอาจสงสัยว่า ทำไมจึงจัดอันดับเฉพาะ กระบะ 4 ประตูยกสูง ? อย่างที่เราทราบกันดีว่าครับว่ารถกระบะโดยเฉพาะในตลาดใหญ่อย่างบ้านเรานั้น มีการแตกรุ่นย่อยต่างๆ ออกมาเยอะแยะมากมาย ยิ่งกว่าร้านไก่ย่างเขาสวนกวาง แล้วรถทดสอบที่ค่ายรถยนต์จัดเตรียมไว้ให้สื่อมวลชน ก็ไม่ได้มีครบทุกรุ่นย่อย ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นตัวถัง Double Cab ยกสูง แต่ต่างกันที่พิกัดความแรงของเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และระบบขับเคลื่อน เราจึงนำรถกระบะกลุ่มนี้มาจัดอันดับให้ชมกันก่อน

ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่ได้ มาจากการทดสอบตามมาตรฐานดั้งเดิมของเว็บเรา คือ วิ่งที่ความเร็วเฉลี่ย 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง น้ำหนักผู้ขับขี่และผู้โดยสารรวมไม่เกิน 170 กิโลกรัม และเปิดเครื่องปรับอากาศ วิ่งบนเส้นทางเดียวกัน เติมน้ำมัน Caltex Techron Power D

มาดูกันว่า 10 อันดับ รถยนต์กระบะ Double Cab ยกสูงที่ประหยัดน้ำมันมากที่สุด มีรุ่นไหนบ้าง เริ่มจาก…

อันดับ 10 : Isuzu D-Max Double Cab V-Cross 3.0 M 6AT 4×4

เครื่องยนต์รหัส 4JJ3-TCX ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 3.0 ลิตร 2,999 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 95.4 x 104.9 มิลลิเมตร กำลังอัด 16.3 : 1 ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection ผ่านราง Common-Rail พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharger กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (PS) ที่ 3,600 รอบ/ต่อนาที  แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที (45.88 ก.ก.-ม.) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ (Part-time)

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เฉลี่ย 13.23 km/l

10 อันดับ รถ ppv ประหยัดน้ำมัน
10 อันดับ รถ ppv ประหยัดน้ำมัน

(Isuzu D-Max Double Cab V-Cross 3.0 M 6AT 4×4 MY 2022)


อันดับ 9 : Mazda BT-50 Double Cab 3.0 SP 6AT 4×4

เครื่องยนต์รหัส 4JJ3-TCX ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 3.0 ลิตร 2,999 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 95.4 x 104.9 มิลลิเมตร กำลังอัด 16.3 : 1 ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection ผ่านราง Common-Rail พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharger กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (PS) ที่ 3,600 รอบ/ต่อนาที  แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที (45.88 ก.ก.-ม.) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ (Part-time)

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เฉลี่ย 13.33 km/l

10 อันดับ รถ ppv ประหยัดน้ำมัน
10 อันดับ รถ ppv ประหยัดน้ำมัน


อันดับ 8 : Mitsubishi Triton Double Cab Plus 2.4 GLS 6MT 4×2

เครื่องยนต์รหัส 4N15 ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.4 ลิตร 2,442 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก 86.0 x 105.1 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.5 : 1 พ่วงระบบอัดอากาศ  VG Turbocharged พร้อมระบบแปรผันวาล์ว MIVEC กำลังสูงสุด 181 แรงม้า (PS) ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร (43.84 ก.ก.-ม.) ที่ 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เฉลี่ย 13.41 km/l

10 อันดับ รถ ppv ประหยัดน้ำมัน
10 อันดับ รถ ppv ประหยัดน้ำมัน

(Mitsubishi Triton Double Cab Plus 2.4 GT 6MT Minorchange)


อันดับ 7 : Toyota Hilux Revo Double Cab 2.8 Rocco 6AT 4×4

เครื่องยนต์รหัส 1GD-FTV ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 2.8 ลิตร 2,755 ซีซี กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก 92.0 x 103.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.6 : 1 พ่วงระบบอัดอากาศ VN Turbocharged กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (PS) ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ (Part-time 4WD)

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เฉลี่ย 13.48 km/l

10 อันดับ รถ ppv ประหยัดน้ำมัน
10 อันดับ รถ ppv ประหยัดน้ำมัน


อันดับ 6 : Isuzu D-Max Double Cab V-Cross 3.0 M 6MT 4×4

เครื่องยนต์รหัส 4JJ3-TCX ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 3.0 ลิตร 2,999 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 95.4 x 104.9 มิลลิเมตร กำลังอัด 16.3 : 1 ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection ผ่านราง Common-Rail พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharger กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (PS) ที่ 3,600 รอบ/ต่อนาที  แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที (45.88 ก.ก.-ม.) จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ (Part-time)

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เฉลี่ย 13.60 km/l

10 อันดับ รถ ppv ประหยัดน้ำมัน
10 อันดับ รถ ppv ประหยัดน้ำมัน

(ปัจจุบันมีการปรับอุปกรณ์ MY 2022 เกียร์ธรรมดา 6MT จะมีให้เลือกเฉพาะเกรด Z และ ZP เท่านั้น)


อันดับ 5 : Toyota Hilux Revo Double Cab 2.8 GR Sport (Hi-Floor) 6AT 4×4

เครื่องยนต์รหัส 1GD-FTV ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 2.8 ลิตร 2,755 ซีซี กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก 92.0 x 103.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.6 : 1 พ่วงระบบอัดอากาศ VN Turbocharged กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (PS) ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ (Part-time 4WD)

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เฉลี่ย 13.70 km/l

10 อันดับ รถ ppv ประหยัดน้ำมัน
10 อันดับ รถ ppv ประหยัดน้ำมัน


อันดับ 4 : Mazda BT-50 Double Cab 1.9 SP 6AT 4×2

เครื่องยนต์รหัส RZ4E-TC ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1.9 ลิตร 1,898 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 80.0 x 94.4 มิลลิเมตร กำลังอัด 16.5 : 1 ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection ผ่านราง Common-Rail พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharger กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) ที่ 3,600 รอบ/ต่อนาที  แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร (35.69 ก.ก.-ม.) ที่ 1,800 – 2,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เฉลี่ย 14.35 km/l

10 อันดับ รถ ppv ประหยัดน้ำมัน
10 อันดับ รถ ppv ประหยัดน้ำมัน


อันดับ 3 : Nissan Navara 2.3 Twin-Turbo VL 7AT 4×4

เครื่องยนต์รหัส YS23DDTT ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.3 ลิตร 2,298 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 85.0 x 101.3 มิลลิเมตร กำลังอัด 15.4 : 1 พ่วงระบบอัดอากาศ Twin-Turbocharged กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (PS) ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร (45.9 ก.ก.-ม.) ที่ 1,500 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ (Part-time 4WD)

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เฉลี่ย 14.44 km/l

10 อันดับ รถ ppv ประหยัดน้ำมัน
10 อันดับ รถ ppv ประหยัดน้ำมัน


อันดับ 2 : Nissan Navara 2.3 Twin-Turbo PRO-4X 7AT 4×4

เครื่องยนต์รหัส YS23DDTT ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.3 ลิตร 2,298 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 85.0 x 101.3 มิลลิเมตร กำลังอัด 15.4 : 1 พ่วงระบบอัดอากาศ Twin-Turbocharged กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (PS) ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร (45.9 ก.ก.-ม.) ที่ 1,500 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ (Part-time 4WD)

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เฉลี่ย 14.56 km/l

10 อันดับ รถ ppv ประหยัดน้ำมัน
10 อันดับ รถ ppv ประหยัดน้ำมัน


อันดับ 1 : Isuzu D-Max Double Cab Hi-Lander 1.9 M 6AT 4×2

เครื่องยนต์รหัส RZ4E-TC ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1.9 ลิตร 1,898 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 80.0 x 94.4 มิลลิเมตร กำลังอัด 16.5 : 1 ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection ผ่านราง Common-Rail พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharger กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) ที่ 3,600 รอบ/ต่อนาที  แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร (35.69 ก.ก.-ม.) ที่ 1,800 – 2,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เฉลี่ย 14.79 km/l

10 อันดับ รถ ppv ประหยัดน้ำมัน
10 อันดับ รถ ppv ประหยัดน้ำมัน

(Isuzu D-Max Double Cab 1.9 X-Series 6AT 4×2)


หมายเหตุ : ภาพประกอบของบางรุ่นอาจไม่ตรงกับชื่อรุ่นย่อยที่เคยทำมาทดสอบ เนื่องจาก ณ ปัจจุบัน รถกระบะบางรุ่นมีการปรับโฉม Minorchange หรือปรับอุปกรณ์ประจำปีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทว่าไม่มีความเปลี่ยนแปลงด้านเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง จึงสามารถอ้างอิงตัวเลขผลทดสอบชุดเดียวกันได้